วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

โลก 360 องศา - ด่วน! เกิดเหตุก่อการร้าย ระเบิดพลีชีพ,จับตัวประกัน,กราดยิงหลายจุดพร้อมกันในกรุงปารีส คนตายนับร้อย คนรัายตาย8คน



เอเอฟพี/รอยเตอร์ - พบผู้เสียชีวิตแล้วนับร้อยศพ (CNN รายงานเบื้องต้น 153 คน ตัวเลขยังไม่นิ่ง เนื่องจากเป็นช่วงเวลาดึก และคาดการณ์ว่าเป็นระเบิดพลีชีพผูกติดมากับสายรัดคาดลำตัวที่อยู่ในเสื้อสวมทับ) หลังหน่วยคอมมานโดยฝรั่งเศสบุกจู่โจมสถานที่จัดคอนเสิร์ต หลังคนร้ายเปิดฉากยิงและจับตัวประกันในวันศุกร์(13.พ.ย.) ขณะที่ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ ประกาศภาวะฉุกเฉินและสั่งปิดชายแดน ส่วนมหาวิทยาลัยและโรงเรียนทุกแห่งในเมืองหลวงต้องหยุดการเรียนการสอนตามหลังถูกโจมตีหลายจุด กระตุ้นให้ทั่วโลกรุดออกมาประณามการก่อการร้ายอันเลวทรามครั้งนี้  เบื้องต้นตำรวจบอกว่าผู้คนถูกสังหารหลายสิบศพบริเวณห้องคอนเสิร์ตบาตาคลอง ย่านใจกลางกรุงปารีส ซึ่งอยู่ห่างจากสำนักงานหนังสือพิมพ์ชาร์ลี เอ็บโด ที่เคยถูกพวกญิฮัดโจมตีในเดือนมกราคม แค่ราวๆ 200 เมตร และมีผู้คนถูกจับเป็นตัวประกันหลายสิบคน ดังนั้นหน่วยคอมมานโดจึงตัดสินใจจู่โจมเข้าไปยังสถานการณ์ดังกล่าวท่ามกลางเสียงระเบิดดังขึ้นหลายระลอก (มีผู้สังเกตการณ์บอกว่า 6-7 จุดพร้อมๆกัน)  ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่าได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวระหว่างการจู่โจม และแหล่งข่าวตำรวจเปิดเผยว่าพบผู้เสียชีวิตมากถึง 100 ศพและมีผู้ต้องสงสัยนักรบญิฮัด 3 คนถูกหน่วยคอมมานโดสังหาร
  
นอกจากที่คอนเสิร์ตบาตาคลองแล้ว ยังมีรายงานเหตุโจมตีอีกหลายจุด ในนั้นรวมถึงด้านนอกสนามสตาด เดอ ฟรองซ์ ทางเหนือของเมืองหลวง ขณะที่เกมฟุตบอลนัดกระชับมิตรระหว่างฝรั่งเศสและเยอรมนีกำลังฟาดแข้งกันอยู่ โดยการแข่งขันนัดนี้มีประธานาบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ เข้าร่วมรับชมด้วย และบาร์แห่งหนึ่งในเขต 11 ของปารีส ที่พยานได้ยินเสียงปืนดังรัวและเสียงระเบิด ทำให้ตำรวจต้องกันประชาชนออกจากบาร์และร้านอาหารทั้งหมดที่อยู่ในเขต 10 และ 11 โดยตามจุดต่างๆเหล่านี้มีรายงานผู้เสียชีวิตอีกหลายคน ขณะที่แหล่งข่าวใกลชิดทีมสืบสวนบอกว่ารวมทุกแห่งแล้ว มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 120 คน  นายออลลองด์รุดกลับไปยังกระทรวงมหาดไทยเพื่อจัดการกับสถานการณ์ จากนั้นก็เรียกประชุมฉุกเฉินคณะรัฐมนตรีและได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วฝรั่งเศส สั่งปิดชายแดนรวมถึงยกเลิกการเดินทางร่วมประชุมจี 20 ในตุรกี ตามหลังเหตุโจมตีหลายจุดทั่วปารีส ซึ่งมีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน "จะมีการประกาศภาวะฉุกเฉิน" ออลลองด์กล่าว "จากนั้นมาตรการที่ 2 จะเป็นการปิดชายแดนทั่วประเทศ"
  
เจ้าหน้าที่เผยว่าโรงเรียนและมหาวิยาลัยต่างๆในภูมิภาคปารีสจะหยุดการเรียนการสอนในวันเสาร์(14พ.ย.) อย่างไรก็ตามเที่ยวบินต่างๆและการเดินรถไฟจะยังคงให้บริการตามปกติ เหตุโจมตีอย่างพร้อมเพรียงด้วยปืนและระเบิดนี้มีขึ้นขณะที่ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งพันธมิตรนานาชาตินำโดยสหรัฐฯ กำลังปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อนักรบรัฐอิสลามในซีเรียและอิรัก และอยู่ในการเฝ้าระวังก่อการร้ายขั้นสูงสุดก่อนหน้าการประชุมภูมิอากาศโลกที่จะเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้ การนองเลือดคราวนี้เรียกเสียงประณามจากนานาชาติอย่างดุเดือด โดยนายบันคีมูน เลาขาธิการสหประชาชาติ เรียกมันว่าเป็นการโจมตีก่อการร้ายอันเลวทราม ส่วนประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ ให้คำมั่นสนับสนุนฝรังเศส แต่ยอมรับว่ายังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นและสถานการณ์ยังคงผันผวน

ด้านนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษบอกว่ารู้สึกช็อคกับเหตุโจมตีในกรุงปารีสและให้คำมั่นเช่นกันว่าจะให้ความช่วยเหลือเพื่อนบ้านยุโรปแห่งนี้ ส่วนประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวแสดงความเสียใจและแสดงการสนับสนุนนายออลลองด์และประชาชนชาวฝรั่งเศส
  
ส่วนนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี บอกว่ารู้สึกช็อคอย่างมากและขอเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเหยื่อผู้เสียชีวิต "ฉันรู้สึกช็อคมากต่อข่าวและภาพข่าวของเหตุการณ์ในปารีส ณ เวลานี้ ฉันขอเป็นหนึ่งเดียวกับเหยื่อของเหตุโจมตีก่อการร้ายนี้ เช่นเดียวกับครอบครัวของพวกเขาและประชาชนชาวฝรั่งเศส" เธอกล่าวในถ้อยแถลง
        
เอเอฟพี/รอยเตอร์ - เกิดเหตุคนร้ายโจมตีไล่เลี่ยกันหลายจุดทั่วกรุงปารีสในวันศุกร์(13พ.ย.) โดยจุดเกิดเหตุมีทั้งห้องแสดงคอนเสิร์ตและใกล้กับสนามฟุตบอลที่กำลังจัดแมตช์กระชับมิตรระหว่างฝรั่งเศสและเยอรมนี เบื้องต้นตัวเลขผู้เสียชีวิตยังสับสนแต่คาดหลายสิบคน และมีรายงานประชาชนอย่างน้อย 60 คนถูกจับเป็นตัวประกันในห้องแสดงคอนเสิร์ตด้วย เหตุโจมตีอย่างพร้อมเพรียงด้วยปืนและระเบิดนี้มีขึ้นขณะที่ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งพันธมิตรนานาชาตินำโดยสหรัฐฯ กำลังปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อนักรบรัฐอิสลามในซีเรียและอิรัก และอยู่ในการเฝ้าระวังก่อการร้ายขั้นสูงสุดก่อนหน้าการประชุมภูมิอากาศโลกที่จะเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้ เอเอฟพีรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดกับทีมสืบสวนบอกว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 ราย ในเหตุโจมตีด้วยปืนทั่วเมืองหลวง เช่นเดียวกับเหตุระเบิดหลายครั้งบริเวณหน้าสนามกีฬาแห่งชาติ ซึ่งกำลังมีเกมกระชับมิตรระหว่างฝรั่งเศสและเยอรมนี ส่วนรอยเตอร์อ้างรายงานของสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น BFM ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 ศพ เบื้องต้นตำรวจเผยกับเอเอฟพีว่ามีผู้คนถูกสังหารอย่างน้อย 15 ศพบริเวณห้องคอนเสิร์ตบาตาคลอง ย่านใจกลางกรุงปารีส ซึ่งอยู่ห่างจากสำนักงานหนังสือพิมพ์ชาร์ลี เอ็บโด ที่เคยถูกพวกญิฮัดโจมตีในเดือนมกราคม แค่ราวๆ 200 เมตร นอกจากนี้แล้วยังมีการจับตัวประกัน ณ สถานที่ดังกล่าว ด้วยบรรณาธิการของบีบีซีทวีตว่ามีผู้คนราวๆ 60 คนถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ภายใน มีผู้เสียชีวิตอีก 3 คนเสียชีวิตในเหตุระเบิดอย่างน้อย 2 ครั้งบริเวณด้านนอกสนามสตาด เดอ ฟรองซ์ ทางเหนือของเมืองหลวง ขณะที่เกมฟุตบอลนัดกระชับมิตรระหว่างฝรั่งเศสและเยอรมนีกำลังฟาดแข้งกันอยู่ โดยการแข่งขันนัดนี้มีประธานาบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ เข้าร่วมรับชมด้วย  เกมการแข่งขันดำเนินต่อไปจนจบ แต่ความตื่นตระหนกกระพือขึ้นในหมู่ผู้ชม หลังข่าวลือเกี่ยวกับเหตุโจมตีแพร่สะพัด ด้านตำรวจยืนยันว่ามีเหตุยิงกันและระเบิดที่สนามจริง แต่ไม่ระบุจำนวนผ้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ  รอยเตอร์อ้างรายงานผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่ามีรายงานเกี่ยวกับเหตุยิงกันอย่างน้อย 4 จุดในกลางกรุงปารีส ในนั้นรวมถึงเหตุจับตัวประกัน ณ สถานที่แสดงคอนเสิร์ตร็อค ส่วนสถานีโทรทัศน์ TF1 อาจมีผู้เสียชีวิตอาจมากถึง 35 คนใกล้สนามฟุตบอล ในนั้นรวมถึงผู้ต้องสงสัยมือระเบิด 2 ราย ในเหตุโจมตีในย่านแซงต์ เดนิส ทางเหนือของกลางกรุงปารีส
เฮลิคอปเตอร์บินบนเหนือสนามแข่งขัน ขณะที่นายออลลองด์รุดกลับไปยังกระทรวงมหาดไทยเพื่อจัดการกับสถานการณ์ ส่วนทางทำเนียบประธานาธิบดีบอกว่าเขาได้เรียกประชุมฉุกเฉินคณะรัฐมนตรีตอนเวลา 23.00จีเอ็มที(ตรงกับเมืองไทย 06.00น.) เพื่อรับมือกับวิกฤตคราวนี้
  
ในย่านใจกลางกรุงปารีส เสียงปืนปะทุขึ้นด้านนอกร้านอาหารกัมพูชาแห่งหนึ่ง ในเขตที่ 10 และห้องแสดงคอนเสิร์ตบาตาคลอง โดยเจ้าหน้าที่อพยพผู้สัญจรผ่านไปมาขณะที่หน่วยคอมมอนโดถูกส่งเข้าประจำการ ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนบอกกับสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆรายงานว่ามีตัวประกันราว 60 คนถูกจับกุมอยู่ภายในสถานแสดงคอนเสิร์ตยอดนิยม  ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีคราวนี้ ซึ่งเกิดขึ้นไม่กี่วันตามหลังเหตุเล่นงานย่านมุสลิมชีอะห์ในกรุงเบรุตของเลบานอน และเหตุเครื่องบินโดยสารของสายการบินรัสเซียตกในแถบคาบสมุทรไซนาย ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์พวกนักรบรัฐอิสลาม(ไอเอส) อ้างว่าอยู่เบื้องหลัง  ก่อนหน้านี้ในวันศุกร์(13พ.ย) สหรัฐฯและอังกฤษบอกว่าพวกเขาได้โจมตีเมืองรัคกาของซีเรีย และโดยมีเป้าหมายสังหาร ญิฮัดจอ์หนหรือรู้ในชื่อ โมฮาเหม็ด เอ็มวาซี “Mohamed Emwazi” หนึ่งในนักฆ่าตัวประกันชาวต่างชาติที่โด่งดังของกลุ่มก่อการร้าย IS แต่ไม่ชัดเจนว่าเขาเสียชีวิตไปแล้วหรือไม่
(เครดิตอ้างอิง คัดลอกข่าวสารจากหน้าข่าวต่างประเทศ ผู้จัดการออนไลน์)
       

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น