วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2559

รำลึกความทรงจำยุค 80's ตอนที่ 7

#‎รำลึกความทรงจำยุค‬ 80's
หมวดรายการโทรทัศน์ในความทรงจำ ในยุคนั้น ไม่มีใครไม่รู้จักรายการตลกรายการนี้ มันเต็มไปด้วยมุก และการสร้างสรรค์แปลกใหม่มาก เพชฌฆาตความเครียด รายการโทรทัศน์ทางช่อง 9 ในช่วงปี พ.ศ. 2528-2529 เป็นรายการตลก ที่มาฉายประมาณหลังข่าว โดยกลุ่ม ซูโม่สำอาง เช่น ซูโม่ตู้ (จรัสพงษ์ สุรัสวดี) , ซูโม่เจี๊ยบ (วัชระ ปานเอี่ยม) , ซูโม่ตุ๋ย (อรุณ ภาวิไล) , ซูโม่เอ๋ (เกรียงไกร อมาตยกุล) , ซูโม่เป๊ปซี่ (ธีรวัฒน์ ทองจิตติ) , ซูโม่อิฐ (อิทธิสุนทร วิชัยลักษณ์) , ซูโม่โค้ก (ส...มชาย เปรมประภาพงศ์) , ซูโม่สุ่น(ตรี บุญทิวากร) , ซูโม่กิ๊ก (เกียรติ กิจเจริญ) , ซูโม่ตา (ปัญญา นิรันดร์กุล), ซูโม่โญ (ภิญโญ รู้ธรรม) , ดู๋ (สัญญา คุณากร)ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อรายการเป็น สูตรสำเร็จความเครียด โดยใช้กลุ่มนักแสดงชุดเดิม และเพิ่ม ซูโม่โย (ญาณี ตราโมท) เข้ามา ทีมงานส่วนใหญ่เป็นศิษย์เก่าจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในรายการจะมีมุกต่อเนื่อง โดยเป็นมุกที่เล่นซ้ำกันโดยเปลี่ยนรายละเอียดเช่น "ภาษาไทยคำละวัน" ของ ปัญญา นิรันดร์กุล (ล้อเลียนรายการ "ภาษาไทยวันละคำ" ของ อ. กาญจนา นาคสกุล) "มุกเรียกแท็กซี่" ของซูโม่เป๊ปซี่ หรือ "มุกรอรถเมล์" "มุกสองเกลอ" ของซูโม่เอ๋-ซูโม่อิฐ และมุกอื่นๆ อีกมากมาย ผู้ที่ตั้งชื่อรายการเพชฌฆาตความเครียดนี้คือ ซูโม่ตู้ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มซูโม่สำอาง เพื่อให้สื่อถึงการฆ่าความเครียดด้วยการดูรายการนี้ รายการนี้เป็นต้นแบบแรกๆของวงการโทรทัศน์ไทยยุคใหม่ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์เข้ามาเป็นจุดเด่นของรายการ มากกว่าความขึงขังน่าเชื่อถือแบบยุคต้นๆของการผลิตรายการทีวี และทำให้ช่อง 9 ที่เรตติ้งรายการต่ำ คือขายโฆษณายาก (เหมือนช่อง 11) กลับฟื้นและอยู่ตัวมาจนถึงทุกวันนี้



ภาษาไทยวันละคำ (พ.ศ. 2527) รายการสอนภาษาไทย ในเชิงอธิบายความหมายของถ้อยคำสำนวนต่าง ๆ ดำเนินรายการโดย ศ.กิตติคุณ ดร.กาญจนา นาคสกุล หัวหน้าภาควิชาภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในขณะนั้น ซึ่งได้รับความสนใจ และเป็นที่กล่าวขวัญถึงอย่างมาก จากผู้ชมทุกเพศทุกวัย ไม่เฉพาะเด็กและเยาวชน ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของรายการ (รายการนี้ถูกล้อเลียน โดยรายการเพชฌฆาตความเครียด ภายใต้ช่วงว่า "ภาษาไทยคำละวัน" ของ ปัญญา นิรันดร์กุล)



กระจกหกด้าน เป็นรายการโทรทัศน์ประเภทสารคดีสั้น ออกอากาศทุกเย็นวันจันทร์-วันอังคาร เวลา 16.00-16.15 น. ย้ายเวลาออกอากาศไปเป็นพฤหัสบดี - ศุกร์ เวลา 11.15 - 11.30 น. เป็นต้นไป เริ่ม พฤหัสบดี ที่ 2 ตุลาคม 2557 ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ปัจจุบัน ย้ายเวลาออกอากาศไปเป็นพุธ - พฤหัสบดี เวลา 15.45 - 16.00 น. เริ่มออกอากาศครั้งแรก เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2526 นับเป็นรายการสารคดีที่มีระดับ...ความนิยมสูงสุด ชื่อรายการ กระจกหกด้าน มาจากคำสอนของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ที่ว่า คนเราทุกวันนี้ ดีแต่ส่องกระจกด้านหน้าแต่เพียงด้านเดียว ให้เอากระจกหกด้านมาส่องเสียบ้าง แล้วจะเห็นเอง สารคดีสั้นทุกชุดของรายการ นางสุชาดี มณีวงศ์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทผู้ผลิตรายการ รับหน้าที่บรรยาย และคัดสรรข้อมูลที่นำมาผลิต นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546 ยังมีการเปิดเว็บไซต์ www.krajokhokdan.com ที่รวบรวมสารคดีที่ออกอากาศไปแล้ว โดยแบ่งเป็น 6 หมวดหมู่ ได้แก่ ศิลปวัฒนธรรม ชีวิตและสิ่งแวดล้อม อาหารและโภชนาการ สุขภาพและวิทยาศาสตร์ บุคคลและสังคม รวมถึงปกิณกะสาระคติ นับตั้งแต่การออกอากาศเป็นครั้งแรกมาจนถึงปัจจุบันนี้ เพลงประกอบไตเติลของรายการ ใช้เพลง Dancing Flames ของวง Mannheim Steamroller โดยภายหลังยังคงใช้เพลง Dancing Flames มาใส่ทำนองในแนวอินเดียแต่ยังคงทำนองเดิมไว้ แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงภาพกราฟิก ขึ้นอยู่กับการปรับเปลี่ยนรูปแบบรายการ



มาตามนัด เป็นเกมโชว์ ผลิตโดย ห้างหุ้นส่วนจำกัดรัชฟิล์มทีวี ออกอากาศตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2527 ถึง 14 สิงหาคม พ.ศ. 2538 ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ซึ่งเปลี่ยนชื่อมาแล้วสามครั้ง โดยจะคงคำว่า "มาตามนัด" ไว้เสมอคือ มาตามนัด (2527-2535, 2537-2538) ก้าว-ห้า-มาตามนัด (2535 - 2536) และ มาตามนัด ฮาวมัช (2536-2537) โดยมีการเล่นเกมที่ได้รับความนิยมคือ ใบ้คำ วาดภาพ และเปิดป้าย[ต้องก...ารอ้างอิง] เพื่อหาผู้ชนะประจำสัปดาห์ ("เดอะวินเนอร์") และชิงของรางวัลสูงสุดเป็นรถยนต์ ต่อมา ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555 รายการกลับมาออกอากาศอีกครั้ง ในชื่อใหม่ว่า มาตามนัด รีเทิร์นส์ ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี โดยมีบริษัท ฟันแอนด์ฟอร์จูน จำกัด เป็นผู้ผลิตรายการ ออกอากาศทุกวันพุธ เวลา 18:00-19:00 น. แต่ได้สิ้นสุดออกอากาศเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556 รายการ มาตามนัด ได้นำตัวอย่างรูปแบบเกมโชว์ชื่อ "Pyramid" จากสหรัฐอเมริกามาดัดแปลง และมีการตั้งคำถามให้เข้ากับบรรยากาศและรสนิยมของคนไทย เพื่อการนำเสนอในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ หรือ หลังข่าวภาคค่ำ[ต้องการอ้างอิง] ซึ่งเป็นช่วงที่สถานีโทรทัศน์ทุกช่องเสนอละครหรือภาพยนตร์ แต่เนื่องจากละครของรัชฟิล์มทีวีไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จึงนำรายการเกมโชว์มาเสนอในช่วงเวลาดังกล่าวจนได้ผล[ต้องการอ้างอิง] โดยนัดแรกเริ่มออกอากาศวันที่ 5-7 มิถุนายน พ.ศ. 2527 โดยมีอภิชาติ หาลำเจียก กับอัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ เป็นพิธีกร เดิมทีรายการวางตัวพิธีกรไว้เป็นอภิชาติ กับพรพรรณ เกษมมัสสุ แต่เนื่องจากถ่ายทำเทปแรกไปแล้ว พรพรรณไม่สามารถทำหน้าที่ให้ดีได้ จึงเปลี่ยนพิธีกรหญิงเป็นอัจฉราพรรณในที่สุด เกมการแข่งขันในยุคแรก กำหนดให้มีผู้แข่งขันสัปดาห์ละ 5 ท่าน ซึ่งมาจากความมีชื่อเสียงทางด้านการแสดง และทางบ้านที่ส่งจดหมายสมัครเข้าร่วมรายการ โดยเริ่มเกมการตอบปัญหาในวันแรก ด้วยคำถาม 15 ข้อ พิธีกรจะอ่านคำถาม ถ้าตอบถูกจะได้คะแนนหรือแย่งคะแนนจากผู้เข้าแข่งขันที่เลือกคำถาม ตอบผิดติดลบหรือโดนแย่งคะแนน วันที่สองเป็นการ "ใบ้คำ" โดยเหลือผู้เล่นเพียง 4 คน แบ่งเป็นทีมละ 2 คน โดยกำหนดให้เป็นผู้ใบ้คำและผู้ทาย ทีมใดทายคำได้คะแนนมากที่สุดจะผ่านเข้ารอบในวันสุดท้าย ซึ่งเป็นการแข่งรถจำลอง เพื่อหาผู้ชนะเพียงคนเดียวหรือ "The Winner" เข้ารอบแจ็กพอต โดยถ้าหากเปิดแผ่นป้ายต่อรูปรถเก๋งให้เต็มคันจะได้รับของรางวัลสูงสุดเป็นรถเก๋ง และผู้เข้าแข่งขันที่ร่วมรายการทุกคน จะได้รับของรางวัลปลอบใจ ซึ่งจะมีเกมรอบสะสมรางวัล (โบนัส) ในแต่ละวัน มาตามนัดเป็นรายการแรกของวงการโทรทัศน์ไทย ที่ใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยดำเนินรายการ ผสานกับการดำเนินรายการของคู่พิธีกร ที่อาศัยไหวพริบปฏิภาณและเป็นกันเองมาก จึงได้รับความสนใจและความนิยมเพิ่มมากขึ้น[ต้องการอ้างอิง] โดยการแข่งขันเกมในแต่ละครั้ง จะมีการถ่ายทำในวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ ที่สตูดิโอรัชฟิล์ม ก่อนการออกอากาศประมาณ 2 สัปดาห์ โดยบุญชาย ศิริโภคทรัพย์ ผู้บริหาร 72 โปรโมชั่น เจ้าของรายการโลกดนตรี ก็เคยเป็นผู้กำกับรายการมาตามนัดในยุคแรก



#‎รำลึกความทรงจำยุค‬ 80's
หมวดวงการเพลง เรื่องที่ 1.ค่ายเพลงในความทรงจำ ปี 2529 มีค่ายเพลงเกิดใหม่อยู่ค่ายนึง ที่แตกหน่อมาจากค่ายครีเอเทีย อาร์ทติสท์ และบางส่วนมาจากเจเอสแอล กลายเป็นคีตา คีตา เรคคอร์ดส เป็นชื่อของอดีตค่ายเพลงค่ายหนึ่งในประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2529 และอัลบั้มชุดแรกของค่ายออกวางแผงเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2530 คืออัลบั้ม ดนตรีออกเดิน ของ หนุ่มเสก โดย สมพงษ์ วรรณภิญโญ (สมพงษ์ วิศิษฐ์วานิชย์) ลาวัลย์ ชูพินิจ และ จำนรรค์ อัษฎามงคล จาก เจเอสแอล เ...ป็นผู้ก่อตั้ง มี วรชัย ธรรมสังคีติ จากบริษัท เมโทรแผ่นเสียงและเทป ร่วมเป็นหุ้นส่วน บริหารงานโดย สมพงษ์ และ ประภาส ชลศรานนท์ โดยตอนนั้นใช้ชื่อว่า บริษัท คีตา แผ่นเสียงและเทป จำกัด และในวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2532 คีตาประกาศแยกตัวจากเจเอสแอล จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น คีตา เรคคอร์ดส คีตา เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ และ คีตามิวสิค ตามลำดับ (ในสมัยนั้นประเทศไทยจะมีค่ายเพลงใหญ่ อยู่ 4 ค่าย คือ แกรมมี่ คีตา อาร์เอส และ นิธิทัศน์ โปรโมชั่น) และในวันที่ 1-2-3 เมษายน พ.ศ. 2537 คีตา เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้จัดการแสดงรถบิ๊กฟุตขึ้นมาเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่สนามกีฬากองทัพบก และมีการแสดงคอนเสิร์ตโดยศิลปินร็อกในสังกัด คือ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง และ บิลลี่ โอแกน ปัจจุบัน คีตามิวสิค ได้ปิดกิจการลงไปแล้วโดยได้ขายลิขสิทธิ์เพลงของคีตาให้กับ บริษัท ไรท์บียอนด์ จำกัด ประภาส ชลศรานนท์ ไปก่อตั้ง มูเซอร์ เรคคอร์ดส และบริหารบริษัท เวิร์คพอยท์ ส่วน สมพงษ์ วรรณภิญโญ ไปก่อตั้งบริษัท ทีวี ธันเดอร์ และศิลปินเบอร์แรก ๆที่ ผู้เขียนชื่นชอบก็คือ หนุ่มเสก ไปย้อนรำลึกเพลงของพี่หนุ่มเสกกัน





รำลึกความทรงจำยุค 80's ตอนที่ 6

#‎รำลึกความทรงจำยุค‬ 80's
หมวดเหตุการณ์ที่สำคัญ และหมวดวงการเพลง เรื่องที่ 3,4 ศิลปินที่เป็นตำนานระดับโลก กับเพลงในความทรงจำ อู้หู เรียกว่า มันคือมหกรรมแห่งมวลมนุษยชาติด้านวงการเพลงเลยดีกว่า จุดเริ่มมาจาก ในปี 1984 เมื่อบ็อบ เกลดอฟ เปิดโทรทัศน์ช่องบีบีซี และเห็นการรายงานข่าวที่แสดงสภาพผ่ายผอมเหลือแต่กระดูกของเด็กน้อยและประชากรชาวเอธิโอเปีย ภาพนั้นสะท้านใจนักร้องนำ The Boomtown Rats ถึงขั้นส่งสารไปถึงเพื่อนซี้ มิดจ์ ยัวร์ หัวหอกคนสำคัญของวงนิวเวฟจอมโรแมนติก Ultravox ว่า เขาอย...ากทำอะไรสักอย่างเพื่อบรรเทาความอดอยากปากแห้งของเพื่อนร่วมโลก จะร่วมด้วยไหม แน่นอนว่าคำตอบคือ “แหงอยู่แล้ว”  โปรเจ็กต์รวมศิลปินยักษ์ใหญ่ทั่วสหราชอาณาจักรจำนวน 47 ชีวิตจึงเกิดขึ้น เราได้เห็นศิลปินระดับโลกของยุคนั้นอย่าง U2, Spandau Ballet, Duran Duran, จอร์จ ไมเคิล จาก Wham!, พอล แม็กคาร์ตนีย์ จาก The Beatles ฯลฯ มุ่งหน้ามาที่ซาร์ม เวสต์ สตูดิโอในวันที่ 24 พฤศจิกายน เพื่อบันทึกเสียงเพลงพิเศษ ‘Do They Know It’s Christmas?’ ในฐานะกลุ่มศิลปิน Band Aid เพลงนี้วางจำหน่ายทันทีในวันต่อมา พร้อมทำสถิติเป็นซิงเกิ้ลที่ขายดีที่สุดของสหราชอาณาจักรไปอีก 13 ปีให้หลัง และหารายได้เข้ากองทุนได้มากกว่า 8 ล้านปอนด์  มีการนำเพลง ‘Do They Know It’s Christmas?’ มาทำขายใหม่เพื่อการกุศลอีก 2 ครั้ง คือปี 1989 ในนาม Band Aid II (ไคลี มิโน้ก, Bananarama, Wet Wet Wet, ลิซ่า สแตนฟิลด์ ฯลฯ) และในปี 2004 ในนาม Band Aid 20 (คริส มาร์ติน จาก Coldplay, ไดโด้, ร็อบบี้ วิลเลียมส์, โบโน่ จาก U2 ฯลฯ) ซึ่งเป็นการฉลองครบรอบ 20 ปีของ ‘Do They Know It’s Christmas?’



เรียกว่า มันคือมหกรรมแห่งมวลมนุษยชาติด้านวงการเพลงเลยดีกว่า จุดเริ่มมาจากไอเดีย Band Aid ของศิลปินนักร้องฝั่ง UK ร่วมกันจัดคอนเสิร์ตหาเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ชาวแอฟริกา ฝั่ง USA จะยอมน้อยหน้าเหรอ จัดใหญ่ จัดเต็ม หน่ะสิครับ คราวนี้ รวมเอาศิลปินตัวพ่อตัวแม่ในยุคนั้นของอเมริกา ในชื่อ USA for Africa

USA for Africa (United Support of Artists for Africa)... เป็นโครงการร่วมมือกันของศิลปินนักร้องฝั่งอเมริกาจำนวน 45 ร่วมกับขับร้องเพลง We are the World และตัดเป็นซิงเกิลการกุศลในปี ค.ศ. 1985 เพื่อหาเงินสมทบกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบทุพภิกขภัย ในแอฟริกา ที่ประสบปัญหาความแห้งแล้งผิดปกติในปี 1984-1985 และประสบภาวะขาดแคลนอาหารใน 6 ประเทศ ประกอบด้วยเอธิโอเปีย ชาด มาลี ไนเจอร์ ซูดาน และโมซัมบิก คำร้องร่วมกันประพันธ์โดย ไมเคิล แจ็คสัน และลีโอเนล ริชี่ ทำนองเรียบเรียงและโปรดิวซ์โดยควินซี่ โจนส์ แนวความคิดของโครงการนี้จะว่าไปก็เลียนแบบมาจากการบันทึกเสียงเพลง "Do They Know It's Christmas?" เพื่อระดมทุนในลักษณะเดียวกับโดยศิลปินนักร้องจากฝั่งอังกฤษ ที่นำโดยบ็อบ เกลดอฟ เมื่อปลายปี 1984 โดยเริ่มจากแนวคิดเริ่มแรกของแฮรี เบลาฟอนเต ได้ติดต่อกับเคนนี คราเคน ผู้จัดการส่วนตัวของไลโอเนล ริชชีและเคนนี โรเจอร์ส เพื่อหาลู่ทางจัดคอนเสิร์ตเพื่อหารายได้ช่วยเหลือแอฟริกา แต่คราเคนคิดว่าหากบันทึกเสียงเป็นซิงเกิลวางจำหน่ายน่าจะได้ผลดีกว่า และประสานงานกับไมเคิล แจ็กสัน ไลโอเนล ริชชี ควินซี โจนส์ และติดต่อนักร้องอื่นๆ มาร่วมร้อง การบันทึกเสียงเกิดขึ้นระหว่าง และหลังงานอเมริกัน มิวสิก อวอร์ดส์ ที่ A&M Studios ฮอลลีวูด แคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 1985 โดยควินซี โจนส์ เป็นผู้ศึกษาสไตล์การร้องของศิลปินแต่ละคน และจับคู่นักร้อง เช่น บิลลี โจเอลกับทีนา เทอร์เนอร์, วิลลี เนลสันกับดิออน วอร์วิค และไมเคิล แจ็กสันกับพรินซ์ (พรินซ์ไม่มาปรากฏตัวเพื่อบันทึกเสียงตามนัด โจนส์จึงให้ไดอานา รอสส์ ร้องคู่กับแจ็กสันแทน ส่วนพรินซ์ได้บันทึกเสียงเพลงอื่นในอัลบั้มแทน) ซิงเกิลเพลงนี้ขึ้นถึงอันดับหนึงของสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 17 เมษายน ค.ศ. 1985 และขึ้นถึงอันดับหนึ่งในหลายสิบประเทศทั่วโลก เพลงนี้มันยิ่งใหญ่มากในยุคนั้น จัดเป็นเพลงร้องหมู่ที่ดีที่สุดแห่งศตวรรษก็ว่าได้



ของไทยก็มี อย่าให้น้อยหน้าเขา เราก็มีโครงการที่รวมศิลปิน ทำประโยชน์เพื่อสังคมเหมือนกัน คือ ชีวิตสัมพันธ์ เป็นเพลงที่แต่งโดย ยืนยง โอภากุล (แอ๊ด คาราบาว) ร่วมกับ อัสนี โชติกุล ขับร้องบันทึกเสียงโดยเหล่าศิลปินเพลงเพื่อชีวิตชาวไทยรวม 8 คน โดยเป็นซิงเกิลการกุศลในปี พ.ศ. 2530 ซึ่งมีเนื้อหาอุทิศแก่มวลมนุษยชาติกับสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับโครงการอิสานเขียวของกองทัพบก อันเนื่องมาจากปัญหาความแห้งแล้งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย เพื่อเป็นกำลังใจในการต่อสู้หรือเสนอแนวทางต่อปัญหาเหล่านั้นได้ 



#‎รำลึกความทรงจำยุค‬ 80's
หมวดวงการเพลง,ภาพยนตร์ ost.ภ.เรื่อง Rocky ภาค 4 มีเพลงดังอยู่เพลงหนึ่งที่ดังมากในปี 1985 นั่นคือ Eye of The Tiger ขับร้องโดยวง Survivor คือถ้าพูดถึง ภ.ชุด Rocky ก็ต้องนึกถึงเพลงนี้มาก่อนเลย




#‎รำลึกความทรงจำยุค 80's
หมวดวงการภาพยนตร์ ถ้าพูดถึงปี 1985 ภาพยนตร์ที่ดังที่สุดและทำรายได้สูงสุดก็ต้องเป็น Back to The Future เป็นภาพยนตร์ในปี ค.ศ. 1985 แนวผจญภัยวิทยาศาสตร์ ของผู้กำกับ โรเบิร์ต เซเม็กคิส ร่วมเขียนบทโดยบ็อบ เกล และอำนวยการสร้างโดยสตีเฟน สปีลเบิร์ก นำแสดงโดย ไมเคิล เจ. ฟ็อกซ์ รับบทวัยรุ่นที่ชื่อ มาร์ตี้ แม็กฟลาย , คริสโตเฟอร์ ลอยด์ ในบทบาทนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องที่ชื่อ ด็อกเตอร์ เอ็มเม็ต แอล. บราวน์ , คริสพิน โกลเวอร์, ลีอา ธอมป์สัน และโทมัส เอฟ. วิลสัน โดย...มีเรื่องราวเกี่ยวกับมาร์ตี้ แม็กฟลาย วัยรุ่นที่บังเอิญย้อนเวลากลับจากปี 1985 ไปในปี 1955 เขาได้พบกับพ่อแม่ของเขาเมื่อครั้งยังเรียนอยู่ในระดับไฮสคูล และบังเอิญทำให้แม่ของเขาหลงชื่นชอบตัวมาร์ตี้ เขาต้องแก้ไขความผิดพลาดที่จะทำลายประวัติศาสตร์ที่เป็นต้นเหตุโดยทำให้พ่อแม่ของเขากลับมารักกัน ขณะเดียวกันเขาก็ต้องหาวิธีกลับไปในปี 1985 ให้ได้  เซเม็กคิสและเกล ร่วมกันเขียนบทหลังจากที่เกลคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขากับพ่อของเขาเองได้เข้าเรียนด้วยกัน หลาย ๆ สตูดิโอภาพยนตร์ปฏิเสธบทภาพยนตร์นี้ จนกระทั่งภาพยนตร์ของเซเม็กคิสเรื่อง Romancing the Stone ประสบความสำเร็จทางด้านรายได้ จึงทำให้เกิดโครงการนี้โดยยูนิเวอร์ซัลพิกเจอร์ส โดยมีสปีลเบิร์ก เป็นผู้อำนวยการสร้าง เดิมทีอีริก สตอลต์ซ จะมารับบทเป็นมาร์ตี้ แม็กฟลาย แต่ในระหว่างการถ่ายทำเขาและผู้สร้างภาพยนตร์ตัดสินใจที่จะทำการคัดตัวนักแสดงใหม่ นั่นหมายถึงการถ่ายทำใหม่เช่นกัน และขั้นตอนหลังการถ่ายทำที่ต้องดำเนินให้เสร็จในวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 1985 ซึ่งเป็นวันกำหนดฉาย เมื่อออกฉาย ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปีนั้น ด้วยรายได้รวม 380 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลกและได้รับเสียงวิจารณ์ที่ดี ได้รับรางวัลออสการ์ 1 สาขา คือ สาขาลำดับเสียงยอดเยี่ยม, รางวัลฮูโกสาขาการถ่ายทอดทางด้านดราม่ายอดเยี่ยม และรางวัลแซทเทิร์น ในสาขาภาพยนตร์แต่งแนววิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยม และยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ในสาขาอื่นๆ, รางวัลบาฟต้า และรางวัลลูกโลกทองคำ ทั้งนี้โรนัลด์ เรแกน ยังเคยพูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยในการแถลงนโยบายประจำปี 1986 และในปี 2007 หอสมุดรัฐสภาอเมริกัน ได้คัดเลือกภาพยนตร์เรื่องนี้ในหอทะเบียนภาพยนตร์แห่งชาติ นอกจากนี้ยังมีการออกฉายภาคต่อใน เจาะเวลาหาอดีต ภาค 2 และ เจาะเวลาหาอดีต ภาค 3 ต่อเนื่องกันในปี 1989 และ 1990 ตามลำดับ และผลพวงที่ตามมาอีก ก็คือมีซีรีส์แอนิเมชันทางโทรทัศน์และยานในสวนสนุกที่จำลองจากฉากในหนังมาเป็นของจริง





#‎รำลึกความทรงจำยุค‬ 80's
หมวดวงการภาพยนตร์ ปี 2528 มีหนังไทยอยู่เรื่องนึงดังมาก เป็นต้นแบบของหนังวัยรุ่น นั่นคือ ซึมน้อยหน่อยกะล่อนมากหน่อย เป็นภาพยนตร์ไทยลำดับแรกของ ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ มี จรัญ และ วิสูตร พูลวรลักษณ์ เป็นผู้อำนวยการสร้าง กำกับโดย ธนิตย์ จิตนุกูล, อดิเรก วัฏลีลา โดยเริ่มแรกจะใช้ชื่อว่า ซอย15 แต่สุดท้ายได้เปลี่ยนชื่อเป็น ซึมน้อยหน่อยกะล่อนมากหน่อย ออกฉายในปลายปี พ.ศ. 2528 ที่โรงภาพยนตร์เพชรรามา และโรงภาพยนตร์ในเครือเอเพ็กซ์ นำแสดงโดย บิลลี่ โอแกน หรือ จิตต์... จิตนุกูล, เพ็ญ พิสุทธิ์, สุรศักดิ์ วงษ์ไทย, ธัชชัย ปาละกูล, ศุภกร อุดมชัย, วชิรพจน์ บุรพรัตน์, กนกวรรณ บุรานนท์, ท้วม ทรนง, จุรี โอศิริ โดยนักแสดงตัวเอกของเรื่องล้วนเป็นดาราหน้าใหม่ทั้งสิ้น และ ผู้จัดและผู้กำกับมือใหม่เช่นกัน เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับ รางวัลตุ๊กตาทอง ภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุดประจำปี 2528 จากสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทย ทำรายได้ 5 ล้านบาท ต่อมาในปี พ.ศ. 2540 จึงได้ถูกสร้างเป็นละครอีกครั้งทางช่อง 3 โดยค่ายบรอดคาซท์ นำแสดงโดย นิธิ สมุทรโคจร, ปิยธิดา วรมุสิก, อรรถพร ธีมากร, ชาติชาย งามสรรพ์, บริบูรณ์ จันทร์เรือง, ตี๋อ้วน, ธิติมา สังขพิทักษ์, มนตรี เจนอักษร, อรัญญา ประทุมทอง, วรเชษฐ์ นิ่มสุวรรณ, กัลยา เลิศเกษมทรัพย์ และไพโรจน์ ใจสิงห์ และภาพยนตร์เรื่องนี้มี ost. ที่ดังมาก ติดหูคนไทยมาจนถึงทุกวันนี้ นั่นคือ เพลง ตัดใจไม่ลง ร้องโดย คุณเพ็ญ พิสุทธิ์ นักแสดงนำของเรื่อง ว่าแล้วก็อยากไปฟังอีกรอบ




#‎รำลึกความทรงจำยุค‬ 80's
หมวดวงการเพลง เรื่องที่ 1.ค่ายเพลงในความทรงจำ ในปี 2528 มีค่ายเพลงสุดชิค สุดคูล ถือกำเนิดขึ้นมา กลายเป็นตำนานแห่งความทรงจำอีกค่ายนึง นั่นคือ ครีเอเทีย อาร์ติสต์ เป็นบริษัทค่ายเพลงในอดีตของไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อช่วงพ.ศ. 2528 โดยเกิดจากแนวความคิดของ ชนินทร์ โปสาภิวัฒน์ ออร์กาไนเซอร์ชื่อดังที่คิดว่าต้องการให้ค่ายเพลงนี้เป็นที่รวบรวมเหล่าคนเบื้องหลังและคนเบื้องหน้าที่มีความสามารถเข้ามาไว้ด้วยกัน  ครีเอเทีย อาร์ติสต์ มี ปั่น หรือชื่อจริง ไพบูลย์เกียรติ เขีย...วแก้ว เป็นศิลปินเบอร์แรก หลังจากนั้นก็มีศิลปินตามมาอีกเช่น รวิวรรณ จินดา, เฉลียง, วงกะท้อน ซึ่งค่ายนี้ได้รวบรวม ครีเอทีฟ นักแต่งเพลง และ นักดนตรี ฝีมือดีไว้มากมาย เช่น จิระ มะลิกุล, ประภาส ชลศรานนท์, ธเนศ สุขวัฒน์, พนเทพ สุวรรณะบุณย์, อิทธิ พลางกูร เป็นต้น ครีเอเทีย อาร์ติสต์ เกิดปัญหาขึ้นเมื่อชนินทร์ เจ้าของบริษัทเกิดอาการทางประสาทขึ้นเนื่องจากใช้สมองในการคิดมากเกินไป จึงถูกส่งตัวไปรักษา ทำให้ภายในค่ายก้าวต่อไปไม่ได้ หลังจากนั้นไม่นานค่ายครีเอเทีย อาร์ติสต์ ก็ปิดตัวลง ลองไปฟังเพลงที่ทำให้เราหวนระลึกไปถึงเพลงในยุคนั้น ที่เป็นผลงานของค่ายนี้กัน






 

รำลึกความทรงจำยุค 80's ตอนที่ 5

#‎รำลึกความทรงจำยุค‬ 80's
หมวดนวัตกรรมหรือสิ่งประดิษฐ์แห่งยุคสมัย ในโพสต์นี้ของนำมาลงซัก 4-5 อย่างดูก่อน สิ่งเหล่านี้บางอย่างไม่ได้ถือกำเนิดในยุค 80's ก็มี แต่มาฮิตหรือเป็นที่แพร่หลายในยุค 80's ก็มี สิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ได้แก่
1.เทปคาสเซ็ท หรือที่เรียกว่าตลับเทป มันเป็นแถบบันทึกเสียงที่เป็นแถบแม่เหล็ก เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ บริษํท Phillips เป็นผู้คิดค้นขึ้นได้ในปี 1962 หมายถึงวัสดุที่แบนยาวเคลือบด้วยสารแม่เหล็กใช้บันทึกสัญญาณเสียง เป็นวัสดุที่นิยมใช้ในการบันทึกเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆ บันทึก เสียงได้ทั้งสองแถบและสามารถลบเสียงเดิมออกแล้วบันทึกเสียงใหม่ได้ ต่างจากแผ่นเสียงที่เมื่อบันทึกเสียงลงไปแล้วจะคงอยู่ตลอด ไปจนกว่าแผ่นเสียงจะสึกหรอหรือแตกหัก เทปบันทึกเสียง มี 3 ลักษณะ ได้แก่ 1.เทปม้วน (tape open reel-to reel) 2.เทปตลับแบบคาสเซท (tape cassette) 3.เทปตลับแบบ cartridge เทปคาสเซ็ทโดยทั่วไปบันทึกเสียงได้เฉลี่ย 30-45 นาที


2.วีดีโอเทป VHS (Video Home System) หรือแถบบันทึกภาพและเสียง ด้วยแถบแม่เหล็กในระบบอนาล็อก ถูกคิดค้นและพัฒนาโดยบริษัท JVC ในปี 1976 และต่อมาสหรัฐนำมาพัฒนาต่อในปี 1977 เจ้าม้วนวีดีโอโดยทั่วไปมีความยาว/บันทึกภาพและเสียงเฉลี่ยได้ 187 นาที ส่วน PAL กับ NTSC มันคืออะไร มันคือความละเอียดของสีภาพ ความละเอียดของภาพ ซึ่งจะต่างกันอยู่ โดยส่วนใหญ่ วีดีโอเทปที่แพร่หลายอยู่ในประเทศไทยจะเป็นระบบ PAL เป็นส่วนใหญ่


3-4. นาฬิกา G-Shock ของ Casio ค่ายญี่ปุ่น และนาฬิกา Swatch ของ Swatch Group ค่ายสวิตเซอร์แลนด์ ถือกำเนิดปีเดียวกันคือ 1983 -นาฬิกา จีช็อค เป็นยี่ห้อของนาฬิกาที่ผลิตโดยคาสิโอ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในเรื่องของความทนทานต่อการกระเทือน (เช่น การชนอย่างรุนแรง และ การสั่นสะเทือนอย่างหนัก) ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากแรงสั่นสะเทือนจากแรงโน้มถ่วงของโลก นาฬิการุ่นนี้ถูกออกแบบเพื่อการกีฬา การทหาร และกิจกรรมผจญภัย และเกือบทั้งหมดของทุกรุ่นของ G-Shock จะมีฟังก์ชันของ นาฬิกาจับเวลา นับเวลาถอยหลัง ไฟส่องสว่าง และ กันน้ำได้ นาฬิกา จี-ช็อค รุ่นแรกถือกำเนิดขึ้นในปี 1983 ซึ่งเป็นรุ่น Casio DW-5000C ถูกออกแบบโดย Kikuo Ibe [1] ซึ่งเป็นวิศวกรของ Casio ภายในแนวคิดที่ชื่อว่า “Triple 10 “ คิอ แบตเตอรี่ที่สามารถรองรับการใช้งานได้นานถึง 10ปี กันน้ำที่มีระดับแรงกดได้ 10 บาร์ และสามารถทนต่อแรงกระแทกจากการตกจากที่สูงได้ถึง 10 เมตร

-นาฬิกา สวอตซ์ ถูกคิดค้นและพัฒนาโดย Nicholas G. Hayek โดยรุ่นที่สร้างความฮือฮาให้กับผู้คนทั่วโลก ก็คือ สวอตซ์ ตัวเรือนที่ทำจากวัสดุ พลาสติก ทั้งเรือน ด้วยการออกแบบรูปลักษณ์ ดีไซน์ที่มีสีสันฉูดฉาด มีหลายสีให้เลือก และดูบางและเบา ตัวเรือนไม่ใหญ่เทอะทะ แต่ยังคงทน แข็งแรง และการใช้งานทนทาน ทำให้ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย และสนนราคาถูกลงมามาก ทำให้ผู้มีรายได้น้อยก็สามารถหาซื้อใส่ได้โดยง่าย กลายเป็นนาฬิกาสวิต ที่ผู้คนสามารถซื้อหาจับต้องได้ ซึ่งเป็นการตีโจทย์การตลาดที่สามารถตีตลาดเอเซียจนสำเร็จ ซึ่งนาฬิกายุโรปขึ้นชื่อเรื่องราคา สวอตซ์เป็นแบรนด์แรกๆ ที่สามารถตีตลาดเอเซียได้จากการพัฒนานาฬิกาที่มีการดีไซน์เก๋ ราคาถูก


5.Game Boy คิดค้นและพัฒนาโดย บ.นินเทนโด ของญี่ปุ่น เกมบอยรุ่นแรกสุดวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 1989 ที่ประเทศญี่ปุ่น ใช้โปรเซสเซอร์แบบ Zilog Z80 และจอภาพ LCD ขาวดำ เล่นเกมจากตลับเกม ค.ศ. 1996 นินเทนโดได้วางขายเกมบอยพ็อกเก็ต (Game Boy Pocket) ที่ออกแบบให้มีขนาดเล็กลงและประหยัดพลังงานมากขึ้น หลังจากนั้น นินเทนโดก็ได้เริ่มวางขายเกมบอยคัลเลอร์ (Game Boy Color) ซึ่งก็ไม่ทำให้คนทั้งโลกผิดหวัง ด้วยหน้าจอสีที่แสดงสีได้มากถึง 65,000 สี และมีขนาดเล็กพกพาได้สะดวก

#‎รำลึกความทรงจำยุค‬ 80's
หมวดวงการเพลง เพลงประกอบภาพยนตร์ หรือ ost. ในปี 1984 มีเพลงประกอบภาพยนตร์ฮิตๆ อยู่หลายเพลง ดังทั้งหนัง ดังทั้งเพลง มีเรื่องอะไร เพลงอะไรบ้าง ไปดูกัน เริ่มจาก Ghostbusters บริษัทกำจัดผี,Street of Fire,Footloose,Break Dance etc.
ไปย้อนทบทวนฟังเพลงเหล่านี้กัน ว่าคุณยังจำได้หรือเคยได้ยินกันบ้างมั๊ย



#‎รำลึกความทรงจำยุค‬ 80's
หมวดวงการเพลง เพลงประกอบภาพยนตร์ไทย ที่โด่งดังในปี 2526,2527 ก็คือเพลงวันวานยังหวานอยู่ จาก ภ.ชื่อเดียวกันปี 2526 และเพลงดนตรีในดวงใจ,ยุโรป จาก ภ.วัยระเริง ปี 2527 ภาพยนตร์เรื่องวัยระเริง น่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกๆ ของไทยหรือเปล่าที่มีเพลงประกอบภาพยนตร์ที่คิด Theme มาให้เข้ากับเรื่อง และเป็นเพลงที่แต่งมาเพื่อให้เข้ากับภาพยนตร์ ไม่ใช่หยิบยืมจากเพลงที่มีอยู่แล้วมายัดใส่หนัง อันนี้เป็นความคิดของผู้เขียนเอง ถ้าถูกผิดขออภัยมาที่นี้ด้วย ไปฟังเพลงวันวานยังหวานอยู่ก่อน



#รำลึกความทรงจำยุค 80's
หมวดวงการเพลง เพลงประกอบภาพยนตร์ไทย ที่โด่งดังในปี 2526,2527 ก็คือเพลงวันวานยังหวานอยู่ จาก ภ.ชื่อเดียวกันปี 2526 และเพลงดนตรีในดวงใจ,ยุโรป จาก ภ.วัยระเริง ปี 2527 ภาพยนตร์เรื่องวัยระเริง น่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกๆ ของไทยหรือเปล่าที่มีเพลงประกอบภาพยนตร์ที่คิด Theme มาให้เข้ากับเรื่อง และเป็นเพลงที่แต่งมาเพื่อให้เข้ากับภาพยนตร์ ไม่ใช่หยิบยืมจากเพลงที่มีอยู่แล้วมายัดใส่หนัง อันนี้เป็นความคิดของผู้เขียนเอง ถ้าถูกผิดขออภัยมาที่นี้ด้วย

#‎รำลึกความทรงจำยุค‬ 80's
หมวดวงการเพลง เรื่องที่ 3 ศิลปินที่เป็นตำนานระดับโลก ในปี 1983 มีศิลปินจากอังกฤษอยู่ 1 วงนามว่า YES เป็นวงแนวโพรเกรสซีฟร็อก ปล่อยซิงเกิ้ลแรกมาก็โด่งดัง ติดท็อปชาร์ทอันดับ 1 ของอังกฤษ และยังไปติดท็อป 100 ในบิลบอร์ดชาร์ท เคยสูงสุดอันดับ 8 และไปติดชาร์ททั่วยุโรป เรียกว่าดังจริง พอได้ยินอินโทร ก็จำได้เลย เพลงนี้ ไปฟังกัน



ในปี 1984 มีศิลปินตัวแม่ถือกำเนิด ขึ้นมาในยุทธภพ เธอคนนี้สร้างจุดขายที่แตกต่างด้วยรูปลักษณ์ การแต่งตัว บุคลิก แต่เรื่องคุณภาพการร้องไม่เป็นรองตัวแม่คนอื่นๆ แต่อย่างใด ไปลองฟังเพลงแจ้งเกิดของเธอกัน เพลงนี้



ในยุค 80's คงไม่มีใครไม่รู้จักดูโอ้คู่นี้ Wham เป็นคู่ดูโอจากอังกฤษ ก่อตั้งวงในปี 1981 โดยจอร์จ ไมเคิล และแอนดรูว์ ริดจ์ลีย์ ในสหรัฐอเมริกาจะมีชื่อเรียกว่า แวม! ยูเค เนื่องจากซ้ำกับชื่อวงอื่น แวม! มีผลงานอัลบั้มแรกชุด Fantastic แต่วงมาโด่งดังจริงหลังออกซิงเกิ้ลที่โด่งดังไปทั่วไป "Wake Me up Before You Go Go" ในปี 1984 จากนั้นจอร์จ ไมเคิล ก็เริ่มปูหนทางสู่การเป็นศิลปินเดี่ยว โดยออกเพลง "Careless Whi...sper" ซึ่งในสหรัฐอเมริกาใช้ชื่อว่า "จอร์จ ไมเคิล ออฟแวม!" ต่อมาในปี 1985 จอร์จ ไมเคิลประกาศแยกวง โดยมีการแสดงคอนเสิร์ตร่ำลาที่สนามกีฬาเวมบลีย์ มีผู้คนกว่า 72,000 คน หลังแตกวงไปจอร์จ ไมเคิล ประสบความสำเร็จอย่างสูงกับการเป็นศิลปินเดี่ยว ส่วนแอนดรูว์ ริดจ์ลีย์ มีผลงานอัลบั้มชุด Son of Albert ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไร มีเพลงดังระดับเล็กน้อยชื่อ "Shake" 


 
คนนี้คือศิลปินชายที่ดังที่สุดในยุค 80's กับผลงานเพลงเพราะๆ จำนวนมาก นั่นคือ Lionel Richie เป็นนักร้องชาวอเมริกัน , นักแต่งเพลง , นักดนตรี , โปรดิวเซอร์ , นักแสดง เริ่มต้นในปี ค.ศ. 1968 , เขาเป็นนักร้องนำภายในวง คอมโมดอร์ส และเซ็นสัญญากับค่ายเพลง โมทาวน์เรเคิดส์ ภายหลังที่ไลโอเนลออกจากวงคอมโมดอร์ส ก็ทำผลงานอัลบั้มเดี่ยวในปี ค.ศ. 1982 ในชื่ออัลบั้ม Lionel Richie โดยอัลบั้มนี้สามารถขายได้มากกว่า 100 ล้านแผ่นทั่วโลก และทำให้เขากลายเป็นศิลปินที่มียอดขายอัลบั้มที่ดีในทุกช่วงเวลา เพลงดังที่แจ้งเกิดเขาเลยก็คือเพลงนี้



ศิลปินคนนี้เรียกได้ว่า คืออัจฉริยะ พรสวรรค์ล้วนๆ ตาบอดแต่เล่นเปียโน คีย์บอร์ดอย่างเทพ แถมเสียงดี เพลงดังของเขาไม่มีใครไม่รู้จัก ร้องตามได้ทั้งเพลง นั่นคือ สตีวี วันเดอร์ (Stevie Wonder มีชื่อตามเกิด Stevland Hardaway Judkins ภายหลังเปลี่ยนเป็น Stevland Hardaway Morris) เกิดเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 1950 เป็นนักร้องชาวอเมริกัน นักประพันธ์เพลง และโปรดิวเซอร์ดนตรี สตีวี วันเดอร์มีเพลงติด...ท็อปเท็น มากกว่า 30 เพลงในอเมริกา ได้รับรางวัลแกรมมี่ 22 ครั้ง ยังได้รับรางวัลออสการ์สาขาเพลงยอดเยี่ยม สตีวี วันเดอร์ตาบอดมาตั้งแต่เด็ก เขาเซ็นสัญญากับโมทาวน์ตั้งแต่อายุ 11 ปี และเริ่มแสดงและบันทึกเสียงกับค่ายเพลง โดยมีเพลงอันดับ 1 เพลงแรก Fingertips (Pt. 2) ตั้งแต่อายุ 13 ปี และมีเพลงอันดับ 1 ในอเมริการวม 9 เพลง มียอดขายอัลบั้มมากกว่า 100 ล้านชุด นอกจากนั้นเขายังเป็นนักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ให้กับศิลปินดังหลายๆ คน ตัวเขาสามารถเล่นดนตรีได้หลายชนิดเช่น กลอง ,เบสกีตาร์,ออร์แกน,ฮาร์โมนิกา,เปียโน,เครื่องสังเคราะห์เสียง และอื่นๆ โดยเฉพาะเสียงฮาร์โมนิกาของเขาที่เป็นเอกลักษณ์



เซอร์ เจมส์ พอล แม็กคาร์ตนีย์ (Sir James Paul McCartney) เกิดเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ค.ศ. 1942 เป็นนักร้องเพลงร็อกชาวอังกฤษ มือกีตาร์เบส นักประพันธ์เพลง โปรดิวเซอร์เพลง ผู้สร้างภาพยนตร์ นักลงทุน นักกิจกรรมต่อสู้ด้านสิทธิสัตว์ นักมังสวิรัติ เขามีชื่อเสียงอย่างมากในการเป็นสมาชิกวงเดอะบีทเทิลส์ ร่วมกับ จอห์น เลนนอน ,จอร์จ แฮร์ริสัน และ ริงโก สตาร์ เขาเกิดในครอบครัวชนชั้นแรงงานที่เมื...องลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ บิดาเป็นนักทรัมเป็ตและเปียโนในวงแจ๊สซึ่งสนับสนุนการเล่นดนตรีมาแต่เล็ก โดยเล่นทูบา เป็นเครื่องดนตรีชิ้นแรกต่อมาเปลี่ยนเป็นทรัมเป็ต ต่อมาในยุคความนิยมดนตรีสกิฟเฟิล (Skiffle) พอลจึงหันมาเล่นกีตาร์ จนในยุคที่ร็อกแอนด์โรลโด่งดัง เพื่อนของเขา จอห์น เลนนอนจึงชวนมาตั้งวงที่ชื่อ "แควร์รี่ เมน" (Quarry Men) ต่อมาเปลี่ยนเป็นชื่อ เดอะบีทเทิลส์ จนโด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งเขาและจอห์นก็ร่วมแต่งเพลงฮิตมากมายหลายเพลง เช่น Lady Madonna, Here Today, Wanderlust , Yesterday จนในปี 1970 วงเดอะบีทเทิลส์ก็แตกวงไป พอแยกมาทำอัลบั้มร่วมกับภรรยา ลินดา แม็กคาร์ตนีย์ ในชื่อ "วิงส์" (Wings) พอลได้รับการจดบันทึกในกินเนสบุ๊กว่า เป็นนักดนตรีและนักแต่งเพลงที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์ดนตรีป๊อป เขาได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำ 60 ครั้ง ขายได้กว่า 100 ล้านซิงเกิล และเพลง Yesterday ที่เขาร่วมแต่งกับจอห์นก็เป็นเพลงที่ถูกนำมาคัฟเวอร์มากที่สุดในโลก ถูกแพร่ภาพและเสียงในอเมริกากว่าเจ็ดล้านครั้ง ผู้เขียนชอบเพลงนี้ของพอลมาก ได้ยินเพลงนี้ทีไร ก็จะร้องตามตลอด



#‎รำลึกความทรงจำยุค‬ 80's
หมวดวงการเพลง เรื่องที่ 5 อัลบั้มเพลงในความทรงจำ ในปี 2527 มีอยู่ 2 อัลบั้มเพลงไทยที่ดังที่สุดในยุคนั้นแล้ว ขายได้หลายล้านตลับ ร้องตามได้ทั้งอัลบั้มนั่นคือ อัลบั้ม เมดอินไทยแลนด์ของวงคาราบาว กับ อัลบั้มรวมดาว รวมศิลปินฝั่งอาร์เอส เป็นอมตะเพลงไทยลูกกรุง นำเอาศิลปินวัยรุ่นในยุคนั้นมาร้องเป็นเพลงคู่ ขอไปเริ่มที่ อัลบั้มเมดอินไทยแลนด์ กันก่อน




#‎รำลึกความทรงจำยุค‬ 80's
หมวดวงการเพลง เรื่องที่ 3.ศิลปินระดับโลกที่เป็นตำนานและเรื่องที่ 4. เพลงในความทรงจำ เรียงคู่กันไปเลย ในช่วงปี 1983,1984 มีศิลปินและเพลงที่แจ้งเกิดคู่กัน ทั้งตัวเพลงและศิลปินอย่างแยกไม่ออก เลยจับ 2 หมวดมาอยู่ในเรื่องเดียวกันไปเลย โดยขอเริ่มกันที่ศิลปินคนนี้ เป็นศิลปินคนโปรดของผู้เขียนเองด้วย นั่นคือ Phil Collins ฟิล คอลลินส์ เริ่มเข้าสู่วงการเพลงครั้งแรก เมื่อเข้าไปออดิชั่นสมัครเป็นมือกลองให้กับวงเจเนซิส (Genesis) โดย ฟิล คอลลินส์มีส่วนร่วมในวงอย่าง...เต็มที่ ทั้งการแต่งเพลงและการตีกลองที่ยอดเยี่ยม ทำให้เจเนซิส ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ดังขึ้นไปอีก ทั้งในอเมริกา และอังกฤษ แต่แล้วในปีค.ศ. 1974 ปีเตอร์ แกเบรียล (Peter Gabriel)นักร้องนำได้ลาออกจากวง ทางวงจึงหานักร้องใหม่ ได้ทำการออดิชั่น 400คน ไม่เข้าตาสมาชิกในวงเลยแม้แต่น้อย ฟิล คอลลินส์จึงขอลองทดสอบดู ปรากฏว่าสมาชิกในวงถึงกับตะลึง ฟิล คอลลินส์จึงได้เป็นนักร้องนำแทนปีเตอร์ แกเบรียล และเป็นมือกลองควบคู่ไปด้วย ซึ่งก็ยังคงทำหน้าที่ได้ดีอยู่เช่นเดิม แม้ว่าจะต้องตีกลองไปด้วยร้องไปด้วยก็ตาม  อัลบั้ม A Trick Of The Tail ที่เป็นอัลบั้มแรกของวงที่ฟิล คอลลินส์ รับหน้าที่ร้องนำ ต่อมาอัลบั้ม Duke ก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน ในช่วงนี้ฟิล คอลลินส์อัลบั้มเดี่ยวของตนเองในปี 1981 เมื่ออายุย่างเข้า30ปี เป็นอัลบั้มแรกคือ Face Value อัลบั้มชุดนี้มีเพลงฮิตอย่าง In The Air Tonight และอีกมาก ในยุค80 นั้น ฟิล คอลลินส์มีเพลงฮิตหลายเพลงเช่น Sussudio,One More Night,Do You Remember,Groovy Kind Of Love,In The Air Tonight,Another Day In Paradise และเพลงอื่นๆที่ไปร่วมงานกับคนอื่นๆอย่าง Philip Bailey นักร้องนำวง Earth Wind & Fire ในเพลง "Easy Lover" แล้วก็ได้ไปตีกลองในงาน Band Aid ในเพลง Do You Know There A Christmas? ที่มีเซอร์ บ๊อบ เกลด๊อฟ และศิลปินยุค 80 ในยุคนั้นอย่าง ดูแรน ดูแรน,Spandau Ballet,ยูทู,คัลเจอร์ คลับ เป็นคนร้อง ซึ่งฟิลเองก็มีส่วนร่วมมาก แต่ในยุค 80 นั้นฟิล คอลลินส์ ก็ยังคงทำงานให้กับ เจเนซิสอยู่เสมอๆ ควบคู่ไปกับงานเดี่ยว ร่วมงานกับ เจเนซิสเป็นอัลบั้มสุดท้ายในปี 1992 อัลบั้ม We Can't Dance เพลงฮิตแกเยอะมาก ขอเลือกเพลงนี้ก็แล้วกัน ชอบสุดแล้ว ชื่อเพลง Take a look me now เป็น ost.ภ.เรื่อง Against All Odds ไปฟังกัน



คนนี้ คงไม่ต้องพูดถึงชื่อเสียง และความโด่งดัง เธอคือตัวแม่แห่งยุค 80's มาจนถึงยุคปัจจุบัน เมื่อปีกลายก็ได้มาเล่นคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ที่เมืองไทยด้วย นั่นคือ มาดอนน่า ประวัติของเธอคงเริ่มด้วย ในปี 1977 เธอย้ายจากบ้านเกิดที่เบย์...ซิตี้ รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา ด้วยเงินติดตัวเพียง 35 ดอลลาร์ เธอบอกให้แท็กซี่พาเธอไปที่ ที่เป็นใจกลางของทุกสิ่ง จนเธอได้มาทำงานในร้านดังกิ้นโดนัทใน นิวยอร์ก ด้วยความหวังที่ว่า สักวันนึงเธอจะต้องดังให้ได้ เธอตะเกียกตะกายมาเรื่อยๆ
จนกระทั่งปี 1979 เธอได้งานเป็นนักแสดงในคณะ ละครเสียดสีสังคม ในช่วงนั้นเธอได้รู้จักกับแดน กิลรอย (Dan Gilroy) ต่อจากนั้นไม่นานนัก ทั้งสองตัดสินใจคบกัน ในฐานะคนรัก และได้ฟอร์มวงดนตรีขึ้นมา ชื่อว่า เดอะ เบรกฟาสต์ คลับ (The Breakfast Club) เริ่มแรกมาดอนน่าเล่น กลองและในเวลาต่อมาเธอก็ได้เป็นนักร้องนำ จนกระทั่งเธอกับแฟนเก่า สตีเฟ่น เบรย์ (Stephen Bray) ตั้งวงดนตรีขึ้นมาใหม่โดยใช้ชื่อว่าเอ็มมี่ (Emmy) แต่ด้วยความที่อยาก ออกอัลบั้ม มาดอนน่าและเบรย์จึงได้ลาออกจากวง และได้ทำเทปเดโมส่งไปให้มาร์ค คามินส์ (Mark Kamins) โปรดิวเซอร์ และดีเจ จนได้เซ็นสัญญากับไซร์ เรคคอร์ด (Sire Records) เป็นนักร้องเดี่ยว โดยมีซิงเกิลแรกคือ Everybody ที่ขึ้นไปได้ถึงอันดับ 3 ใน Billboard Dance Chart แล้วซิงเกิล Burning Up ก็ตามมาตอกย้ำความฮอท จนเธอได้ออกอัลบั้มเดี่ยวอัลบั้มแรกที่ใช้ชื่อของตัวเองเป็นชื่ออัลบั้ม เพลง Holiday เป็นเพลงแรกของเธอ ที่เข้าชาร์ท Billboard Hot100 จากนั้นมาเธอก็มีเพลงดังมาเรื่อยๆอย่าง Borderline และ Lucky Star ร่วมปูทางในเส้นทางสายดนตรีให้เธอได้อย่างสวยงาม อัลบั้มที่สอง Like A Virgin เธอได้เปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นสาวเซ็กซี่ตามสไตล์มาริลีน มอนโร อัลบั้มนี้มีเพลงสร้างชื่ออย่างเช่น Like A Virgin, Material Girl, Dress You Up และ Angel และที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้คือโชว์ Like A Virgin สุดหวือหวาในงานประกาศรางวัลเอ็มทีวี วิดีโอ มิวสิก อวอร์ดส ปี 1984 (MTV Video Music Awards 1984) เธอใส่ชุดเจ้าสาวเดินควงตุ๊กตาเจ้าบ่าวตัวเท่าคนจริงเดินลงมาจากเค้กก้อนยักษ์ แล้ว กลิ้งไปมาด้วยลีลาเย้ายวนเธอได้กลายเป็นนักร้องซุปเปอร์สตาร์ที่ทั่วโลกรู้จักด้วยลุคอันจัดจ้านของเธอ มาดอนน่าสร้างสถิติอีกครั้งด้วยการพาเพลง Like A Virgin ขึ้นอันดับ 1 ยาวนานถึง 6 สัปดาห์ จนทำให้เธอได้กลายเป็นนักร้องซุปเปอร์สตาร์ที่ทั่วโลกรู้จักด้วยลุคอันจัดจ้านของเธอ เท่านั้นยังไม่พอ เธอยังไปร้อง เพลง Crazy For You ประกอบภาพยนตร์วิชั่น เควส (Vision Quest) ไปฟังเพลงแจ้งเกิดของเธอกัน


คนนี้ดังเพลงเดียวแล้วก็เงียบหายไปกับกาลเวลา พอล ยัง (Paul Young) เกิดเมื่อวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 1956 เป็นนักร้องเพลงป็อปชาวอังกฤษ มีผลงานเพลงโด่งดัง อย่างเพลง "Wherever I Lay My Hat (That's My Home)" ที่ขึ้นอันดับ 1 บนยูเคซิงเกิ้ลส์ชาร์ต นาน 3 อาทิตย์ในช่วงฤดูร้อนปี 1983 และเพลงที่โด่งดังไปทั่วโลกในปี 1985 อย่างเพลง "Everytime You Go Away" ที่ติดอันดับ 1 บนบิลบอร์ดฮอต 100 ไพเราะแค่ไหนไปฟังกัน

วงนี้เป็นศิลปินที่ชอบอีกวงหนึ่ง มีเพลงฮิตมากวงหนึ่งเหมือนกันในยุคนั้น แต่มีอยู่เพลงนึง ผู้เขียนชอบมาก โด่งดังมากในปี 1985 ฟังทีไร ก็รู้สึกว่าเพลงนี้ไม่เคยล้าสมัยไปตามเวลาเลยจริงๆ ไปฟังกัน







รำลึกความทรงจำยุค 80's ตอนที่ 4

#รำลึกความทรงจำยุค 80's
หมวดวงการเพลง เรื่องที่ 1.ค่ายเพลงในความทรงจำ ในปี 2526 เป็นปีถือกำเนิดของค่ายเพลงดังในตำนาน 2 ค่ายใหญ่ของไทย 1.ไนท์สปอตโปรดักชั่น (ถ้าเทียบก็เหมือนค่ายเลิฟอีสสมัยนี้) 2.แกรมมี่เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ หรือ GMM grammy ในปัจจุบัน

1.ไนท์สปอต ถือเป็นค่ายอินดี้ ค่ายแรกๆ ของเมืองไทย สมัยนั้นไม่มีใครไม่รู้จัก ไนท์สปอต โปรดักชั่น เป็นชื่อบริษัทผลิตรายการวิทยุของไทย และค่ายเพลงไทยที่มีผลงานเพลงในช่วงทศวรรษ 1980s

ไนท์สปอต บริหารงานโดย อิทธิวัฒน์ เพียรเลิศ วาสนา... วีระชาติพลี และ ขวัญชัย กิตติศรีไสว โดยเริ่มจัดรายการเพลงสากลทางวิทยุกระจายเสียงในชื่อ Nite Spot Show และ Radio Active จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2526 ได้เริ่มทำธุรกิจด้านผลงานเพลง โดยรับเป็นดีลเลอร์ขายเทปเพลงของศิลปินต่างประเทศในสังกัด WEA RECORDS และในปี พ.ศ. 2527 ได้ผลิตผลงานเพลงไทยสากล โดยศิลปินคนแรกในสังกัด คือ ปานศักดิ์ รังสิพราหมณกุล กับชุด ไปทะเล โดยเป็นผลงานชุดแรกของศิลปินไทยที่บันทึกเสียงข้ามทวีป และบุกเบิกด้วยการทำมิวสิกวิดีโออย่างพิถีพิถันเป็นเพลงแรกของไทย จากนั้นจึงรับผลิตผลงานเพลงของศิลปินอีกหลายคน ซึ่งเป็นที่ยอมรับในด้านคุณภาพ เพราะผลงานเพลงโดยส่วนใหญ่ของค่ายได้ทำการบันทึกเสียงที่ประเทศในแถบยุโรป และอเมริกา แต่ดำเนินงานได้เพียงไม่นานปีก็ต้องยุติลงในราวปี พ.ศ. 2532 เหลือเพียงการดำเนินธุรกิจท่องเที่ยวในนาม ไนท์สปอต ฮอลิเดย์ จนถึงปัจจุบัน

ดีเจสังกัดค่ายนี้ ได้แก่ วาสนา วีระชาติพลี ,ดารณี มณีดิษ, มาลี บุญยศรีสวัสดิ์, ณรงค์ ลัมพกานนท์, "คุณนัท" (อุดม โพธิ์ทอง), นิมิตร ลักษมีพงศ์ ฯลฯ

รายชื่อศิลปินในค่ายไนท์สปอต อาทิเช่น ปานศักดิ์ รังสิพราหมณกุล,นุภาพ สวันตรัจฉ์,มัม ลาโคนิคส์,ธเนศ วรากูลนุเคราะห์,ฮัคกี้ ไอเคิลมานน์,มาลีวัลย์ เจมิน่า,เบิร์ทกะฮาร์ท,อัสนี-วสันต์,ณัฐ ยนตรรักษ์,อินฟินิตี้,ธงชัย ประสงค์สันติ,ญาณี จงวิสุทธิ์
เพลงเปิดตัวค่ายไนท์สปอต คือเพลง ไปทะเล ของปานศักดิ์



หมวดวงการเพลง เรื่องที่ 1.ค่ายเพลงในความทรงจำ ปี 2526 ถือกำเนิดบริษัทเพลงที่ยิ่งใหญ่ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GMM Grammy) (ชื่อเดิม แกรมมี่ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ (Grammy Entertainment)) เป็นบริษัทแม่ของกิจการบันเทิง ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจดนตรี, สื่อ, ภาพยนตร์, ดิจิตอล, สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม, สถานีวิทยุ, สื่อสิ่งพิมพ์, และ อีเวนต์เมเนจเม้นท์ แบบครบวงจร ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ก่อตั้งโดย ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม และเรวัต พุทธินันทน์ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ....ศ. 2526 และเป็นค่ายเพลงที่ดีที่สุดอันดับ 1 ของประเทศไทย และอันดับ 3 ของเอเชีย จากการจัดอันดับของนิตยสารชื่อดังของอังกฤษนอกจากนี้ยังเป็นบริษัทที่มีคนอยากเข้าทำงานมากที่สุดเป็นอันดับที่ 8 ของประเทศไทยอีกด้วย
จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ทำธุรกิจทางด้านดนตรี สื่อ ภาพยนตร์ ดิจิตอล สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม สถานีวิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ และ อีเวนต์เมเนจเม้นท์ เป็นต้น โดยระยะแรกดำเนินธุรกิจหลักสร้างสรรค์ผลงาน เพลงไทยสากล โดยออกอัลบั้มชุดแรก "นิยายรักจากก้อนเมฆ" โดย แพทย์หญิงพันทิวา สินรัชตานันท์ และผลิตรายการทีวี 3 รายการ ได้แก่ ยิ้มใส่ไข่, มันกว่าแห้ว และ เสียงติดดาว จากนั้นจึงเริ่มขยายกิจการ ไปสู่ธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์และรายการวิทยุ บริษัทได้ขยายการดำเนินธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจบันเทิงอื่นๆ เช่น วิทยุ, ภาพยนตร์, การจัดคอนเสิร์ต, การศึกษา, สื่อสิ่งพิมพ์ รวมทั้งธุรกิจร้านค้าปลีกเพื่อจัดจำหน่ายสินค้าต่างๆ ของบริษัทในเครือ เช่นเทปและซีดีเพลงการขยายธุรกิจดังกล่าวส่งให้บริษัทดำเนินธุรกิจอย่างครบวงจร และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมบันเทิงไทยในปี พ.ศ. 2544 ข้อมูลเมื่อ เมษายน พ.ศ. 2559 จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพลง 35,339 เพลง

ศิลปินในยุคแรกของแกรมมี่ อาทิ พญ.พันทิวา สินรัชตานันท์,พี่เต๋อเรวัติ พุทธินันท์,นันทิดา แก้วบัวสาย,ฐิติมา สุตสุนทร,วงบาราคูดัส,ธงไชย แม็คอินไตย์,อัสนี-วสันต์,วงไมโคร,สุรสีห์ อิทธิกุล,ทูน หิรัญทรัพย์,ตั้ม สมประสงค์,นรินทร ณ บางช้าง,นกแล,วง xyz,ใหม่,นูโว,บิลลี่ โอแกน,วงกัมปะนี ฯลฯ
เราไปฟังเพลงระลึกชาติของแกรมมี่ในยุคแรกๆ กันดีกว่า




#‎รำลึกความทรงจำยุค‬ 80's
หมวดวงการเพลง เรื่องที่ 2 วงดนตรีที่เป็นตำนานหรือในความทรงจำ ในปี 2526 มันมีเพลงที่ดังมากอยู่ 1 เพลง จากวงดนตรีสตริงวงหนึ่ง ที่ชื่อวงฟังดูแปลก และไม่มีใครรู้จัก แต่เพลงเดียวทำให้เขาโด่งดังขึ้นมาได้ ทั้งๆ ที่ออกผลงานมาตั้งแต่ปี 2524 นั่นคือวงอินทนิล กับเพลงสวรรค์เป็นใจ เพลงนี้ติดอยู่ในความทรงจำของผู้เขียนจนถึงทุกวันนี้ คิดถึงจึงเอามาฝาก



#‎รำลึกความทรงจำยุค‬ 80's
หมวดเหตุการณ์หรือสถานที่แห่งความทรงจำ จำไม่ได้ว่าดิสโก้เธคเข้ามาในบ้านเราครั้งแรกในปีใด และเป็นสถานที่ใด อาจเป็นเธคในโรงแรมดุสิตธานี (บับเบิ้ล) หรือเปล่า ผู้เขียนไม่ทราบจริงๆ แต่ที่แน่ๆ ดิสโก้เธคคือสถานที่ท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวราตรียอดฮิตในยุค 80's และเธคที่ฮิตที่สุดหรือมีชื่อเสียงที่สุด คงไม่พ้น เดอะพาเลซ ดังอยู่ในช่วงปี 2524-2533 หรือก็คือในยุค 80's ทั้ง 10 ปีนั้นนั่นแหละ จนมาปิดตัวลงในปี 2535 (เหตุผลที่ปิดตัวลง อันเนื่องมาจาก ทางเจ้าของคือตระ...กูลวัชรพล ที่เป็นเจ้าของเดียวกับ นสพ.ไทยรัฐ ได้มีนโยบายที่ต้องการทำประโยชน์คืนสู่สังคม ดังนั้นธุรกิจแหล่งท่องเที่ยวราตรี มีการขายเหล้า เบียร์ มอมเมาเยาวชน ไม่สอดคล้องกับนโยบายหรือปณิธานในการทำธุรกิจ จึงตัดสินใจปิดธุรกิจเดอะพาเลซลง เหลือเพียงตำนานให้คนยุคนั้นได้จดจำ) ผู้เขียนเป็น 1 ในนักท่องราตรีสมัยนั้น และก็เป็น 1 ในสถานที่ท่องราตรีที่ชื่นชอบด้วย มาร่วมรำลึกถึง ดิสโก้เธค ชื่อดังแห่งนี้ กับ 2 บทเพลงที่คุณก็น่าจะจดจำได้




#‎รำลึกความทรงจำยุค‬ 80's
หมวดวงการเพลง เรื่องที่ 1.ค่ายเพลงในความทรงจำ ถ้าพูดถึงค่ายใหญ่อย่างแกรมมี่ ไนต์สปอตแล้ว จะไม่พูดถึงอาร์เอส ก็คงจะไม่ได้ โดยเฉพาะยุคแรก หรือยุคก่อตั้ง เต็มไปด้วยศิลปินคุณภาพ ที่ลืมไม่ได้เลย พ.ศ. 2519 เกรียงไกร เชษฐโชติศักดิ์ และ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์เริ่มธุรกิจอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก โดยทำธุรกิจตู้เพลงและอัดเพลงจากแผ่นเสียงลงเทป ภายใต้ตรา “ ดอกกุหลาบ ” ก่อนจะจัดตั้งเป็นบริษัทอย่างเต็มตัวด้วยเงินลงทุน 50,000 บาทในนาม “Rose Sound” ซึ่งถือได้ว่าเป็นปฐ...มบทของอาณาจักร “ อาร์เอส ” อันยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน พ.ศ. 2525 ผันตัวเองมาทำธุรกิจเพลงวัยรุ่น ในชื่อ บริษัท อาร์.เอส.ซาวด์ จำกัด มี วงอินทนิล เป็นศิลปินในสังกัดวงแรก และตามมาด้วย คีรีบูน, ฟรุตตี้, ซิกเซนต์, บรั่นดี, ปุยฝ้าย และ เรนโบว์ เป็นต้น พ.ศ. 2535 เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท อาร์.เอส. โปรโมชั่น 1992 จำกัด รวมทั้งได้ย้ายสำนักงานจากถนนอุรุพงษ์มาเป็นอาคารเชษฐโชติศักดิ์ ในซอยลาดพร้าว 15 และใช้เงินลงทุน 300 ล้านบาท โดยมีห้องบันทึกเสียง ระดับมาตรฐานเพื่อรองรับงานของบริษัทฯ ถึง 3 ห้อง โดยบริษัทได้ประกาศจุดยืนจากบริษัทเพลงมาเป็นบริษัทบันเทิงครบวงจร นอกจากผลงานอัลบั้มเพลงซึ่งเป็นธุรกิจหลักแล้ว บริษัทฯ ยังได้รุกเข้าสู่ธุรกิจบันเทิงในสายงานอื่นๆ อย่างครบวงจรไม่ว่าจะเป็นรายการวิทยุ, รายการโทรทัศน์, ละครโทรทัศน์ รวมทั้งภาพยนตร์และถือกำเนิด “ อาร์.เอส.สตาร์คลับ ” ศิลปินในยุคแรกๆ ของค่ายนี้ ก็ได้แก่ วงอินทนิล,คีรีบูน,ฟรุ้ตตี้,ซิกส์เซ้นส์,ปาร์คแอนด์แจกัน,กี้อริสมันต์,อิทธิ พลางกูร,ทัช ณ ตะกั่วทุง,เป้ ไฮร็อค,พิศุทธิ์ ทรัพย์วิจิตร,หินเหล็กไฟ,แหม่ม พัชริดา,ไฮแจ็ค ฯลฯ มาร่วมรำลึกความหลังถึงเพลงของอาร์เอสกันบ้าง มีเพลงใดบ้าง ขอเชิญฟัง



#‎รำลึกความทรงจำยุค‬ 80's
หมวดเครื่องแต่งกาย,แฟชั่นในความทรงจำ ใครเกิดทันในยุค 80's ต้องเคยได้ยินคำว่า เด็กบู (บูมาจากคำว่าบูติก Boutique ที่แปลว่าร้านเล็กๆ ที่ขายเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับทันสมัย หรือแปลว่าดอกไม้ที่อยู่ตรงรังดุมหรือปกเสื้อ) เด็กบูคือสัญลักษณ์ของยุคสมัย มันมาจากศูนย์รวมแฟชั่นที่ชื่อว่า "ราชดำริอาเขต" หรือตัวที่ตั้งเดิมที่อยู่บนบิ๊กซีราชดำริในปัจจุบัน เมื่อก่อน คือศูนย์การค้าราชดำริอาเขต ที่มีห้างไทยไดมารูตั้งอยู่ และมีโซนที่เป็นพลาซ่า ประมาณ 3-4 ชั้น เต็...มไปด้วยร้านรวงเกี่ยวกับเสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์เนมระดับประเทศตั้งอยู่ อาทิ ร้าน Domon,Pacchino,Lay-Out, Diesel,Tampopo,Great Dane,Soda Guy, Grey Hound,Police, Kai Boutique,La'foret,Punch แบรนด์พวกนี้จะมีช็อปอยู่ที่สยามเซ็นเตอร์ด้วย และที่เซ็นทรัลลาดพร้าวจะมี 2 แบรนด์ดังแข่งกันคือ Slot Machine ตอนหลังมีแบรนด์ Ray อีก เสื้อผ้าลินิน จีบงุ้ม รองเท้าหัวแหลม เป็นที่นิยมมาก สมัยนั้นใครไม่มีเสื้อผ้าลินิน ถือว่าเชย แต่พอเอารูปมาดูย้อนหลังในปัจจุบัน กูว่าคนยุคนั้น นั่นแหละ เช๊ย เชย เอารูปคนสมัยนั้นแต่งตัวมาให้ดูกัน เพื่อระลึกความหลังกัน


วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2559

รำลึกความทรงจำยุค 80's ตอนที่ 3

#‎รำลึกความทรงจำยุค‬ 80's
หมวดวงการเพลง เพลงประกอบภาพยนตร์ หรือ original sound track (ost.) มักเป็นเพลงดัง หรือเพลงติดหู ในปี 1983 มีเพลงประกอบภาพยนตร์ดังๆ เกิดขึ้นมากมาย ได้แก่ Flash Dance,An Officer and a Gentleman,Tootsie etc. ลองไปย้อนความหลังกับเพลง sound track เหล่านี้กัน 




#‎รำลึกความทรงจำยุค‬ 80's
หมวดวงการภาพยนตร์ ในช่วงยุค 80's มีมหากาพย์ภาพยนตร์ไซไฟอยู่เรื่องนึง ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก นั่นคือ Star Wars ไตรภาคคลาสสิก คือ episode 4,5,6 ได้แก่ตอน The New Hope,The Empire Strike Back และ Return of the Jedi ออกฉายในสหรัฐปี 1977,1980 และ 1983 ตามลำดับ แต่เข้ามาฉายในบ้านเราแบบพิลึกตรงที่ มันไม่เรียงภาค คือปี 2523 The Empire Strike Back, ปี 2524 The New Hope ,ปี พ.ศ.2526 Return of the Jedi คือถ้าดูในโรงคงงงแน่ๆ แต่ผู้เขียนจำได้ว่าได้ดูภาพยนตร์เรื่อง...นี้ที่โรงเรียน เขาเอามาฉายในรูปของ vdo ตอนนั้น รู้จัก vdo เป็นครั้งแรกก็จากการดูภาพยนตร์เรื่องนี้ น่าจะราวๆ ปี พ.ศ.2526 จัดเป็นภาพยนตร์ไซไฟที่ทำเงินมากที่สุดในโลกในยุค 80's เพิ่งมาถูกทำลายลงในยุค 2000 เป็นต้นมา โครงเรื่องและบทเขียนโดย จอร์จ ลูคัสเอง และกำกับโดย จอร์จ ลูคัสเอง ตั้งแต่ยุคไตรภาคคลาสสิก 4-6 และไตรภาคต้นเรื่อง 1-3 และเพิ่งมาขายลิขสิทธิ์และสิทธิ์ทุกอย่างที่เกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ให้แก่ดิสนีย์ ในปี 2012 จนเป็นที่มาของการสร้าง ep.7 โดยดิสนีย์มอบหมายให้ JJ Abrams รับหน้าที่เขียนบทและกำกับ โดยยังใช้โครงเรื่องของจอร์จ ลูคัส แต่นำมาดัดแปลงเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการสิ้นสุดของสตูดิโอยักษ์ใหญ่อย่างลูคัสฟิล์มไปด้วย และเปลี่ยนบริษัทผู้สร้างจัดจำหน่ายอย่าง Twenty Century Fox มาเป็น Walt Disneys Studio and Motion Picture แทน ทุนสร้างของ ep.4 ในไตรภาคชุดคลาสสิก หรือตอนแรกที่ออกฉาย ใช้ทุนสร้างเพียง 11 ล้านเหรียญ แต่กวาดรายได้ในบ็อกออฟฟิซไปอย่างถล่มทลาย มืดฟ้ามัวดินไปถึง 775 ล้านเหรียญ จึงไม่แปลกใจว่า เหตุใดจอร์จ ลูคัสยอมขายและดิสนีย์ยอมซื้อ ด้วยผลประโยชน์ของเม็ดเงินมหาศาล ของแฟรน์ไชส์ภาพยนตร์ชุดนี้ ที่ยังคงขายได้มาถึงยุคปัจจุบัน



เรื่องย่อ Star Wars Episode IV: A New Hope

จักรวรรดิเอ็มไพร์ ภายใต้อำนาจของจักรพรรดิพัลพาทีน ได้สร้างดาวมรณะ ซึ่งเป็นสถานีอวกาศที่มีอานุภาพสามารถทำลายดาวทั้งดวงได้ แต่แบบแปลนของดาวมรณะกลับถูกกองกำลังฝ่ายกบฎขโมยไป ส่งมอบให้กับ เจ้าหญิงเลอา ออร์กาน่า วุฒิสมาชิกแห่งอัลเดอราน ซึ่งกองทัพฝ่ายจักรวรรดินำโดย ดาร์ธเวเดอร์ ได้ตามมาจับตัวเจ้าหญิงเลอาไว้ ด้วยความรีบเร่งองค์หญิงได้ซ่อนแปลนดาวมรณะไว้ในหุ่นชื่อ R2D2 และส่งหุ่นไปที่ดาวแทดูอินเพื่อขอความช่วยเหลือจาก โอบีวันเคโนบี อดีตเจได ซึ่งเมื่อ R2D2 เดินทางมาถึงแททูอินมันถูกจับไปขาย แต่โชคดีที่ ลุค สกายวอล์กเกอร์ มาซื้อมันไว้และพบข้อความลับดังกล่าว พาให้เขาได้ไปรู้จักกับเบน หรือ โอบีวันเคโนบี ทั้งสองได้ติดต่อเช่ายานกับชายชื่อ ฮันโซโลที่มีคู่ซี้เป็นวุคกี้ขนรุงรังนามว่า ชิวแบคก้า เพื่อเดินทางเอาแปลนไปส่งที่ดาวอัลเดอราน แต่ระหว่างนั้นดาวกลับถูกทำลายไปแล้ว ยานของฮันถูกแรงดึงดูดเข้าไปในดาวมรณะ พวกเขาเข้าไปช่วยองค์หญิงเลอา แต่ระหว่างนั้นโอบีวัน กับ ดาร์ธเวเดอร์ปะทะกัน จนโอบีวันถูกทำลายร่างหายวับไป ลุคคิดจะแก้แค้นแต่ถูกทัดทานไว้ พวกเขาหนีจากยานสำเร็จ และไปยังฐานลับกบฎที่ตั้งอยู่บนดาวยาวิน 4 จากนั้นจึงได้เปิดแปลนและค้นพบจุดอ่อนของดาวมรณะ ลุค เข้าร่วมกับกองทัพขับยานรบออกไปเพื่อทำลายดาวมรณะซึ่งสุดท้ายมันก็ถูกทำลายลง แต่เวเดอร์กลับหนีไปได้

เรื่องย่อ Star Wars Episode V: The Empire Strikes Back

กองทัพจักรวรรดิเริ่มโต้กลับด้วยการส่งอกงกำลังไปบุกถล่มดาวน้ำแข็งซึ่งเป็นฐานทัพลับใหม่ของพวกกบฎจนทำให้กองกำลังแตกพ่าย ลุค สกาย วอล์คเกอร์ได้รับคำแนะนำจากโอบีวันให้ไปฝึกวิชากับอ.โยดา บนดาว Dagobah ส่วนฮันโซโล หนีการตามล่าของ ยาน Star Destroyer ทำให้ยานมิลเลเนียม ฟอลคอน ได้รับความเสียหายเลยเดินทางไปหาเพื่อนเก่าที่ Cloud City แต่สุดท้ายกลับโดนดาร์ธเวเดอร์จับกุมตัวไว้และเอาฮันไปแช่แข็ง ในคาร์บอนไนต์ ส่งให้กับแจบบ้าที่อยู่แททูอิน ซึ่งฮันเป็นหนี้แจบบ้าอยู่ หลังจากได้ฝึกวิชาพอสมควรกับโยดา ลุค สกายวอล์คเกอร์ขอพักฝึกเพื่อมาช่วยเพื่อนจนได้ปะทะกับดาร์ธ เวเดอร์และถูกเวเดอร์ตัดแขนข้างขวา ก่อนที่เวเดอร์จะสารภาพความจริงว่าเขาคือพ่อของลุค ด้วยประโยคคลาสสิคว่า "I am your father" ลุคพลัดตกจาก Cloud City แต่เลเอา ได้หันยานมิลเลเนียมฟอลคอนมาด้วยไว้ทัน กลุ่มยานกบฎหลบหนีออกจาก Cloud City มาได้ทัน และเตรียมไปช่วยเหลือฮันโซโลที่โดนแช่แข็งจับตัวไป

เรื่องย่อ Star Wars Episode VI: Return of the Jedi

ลุค ได้เดินทางไปแททูอินเพื่อช่วยเหลือฮันโซโลจากแจบบา และสามารถทำลายรังของแจบบาลงได้ จากนั้นลุคได้แยกไปฝึกกับโยดาให้สำเร็จ แต่อ.โยดาบอกว่าเขาสำเร็จวิชาแล้ว และบอกความจริงว่ายังมีสกายวอล์คเกอร์เหลืออีกคนที่เป็นน้องสาวเขา ...ฮันไปรวมกับกองกำลังกบฎเพื่อวางแผนถล่มดาวมรณะดวงที่สอง แต่ปัญหาคือดาวมรณะมีเกราะป้องกันที่เกิดจากเครื่องกำเนิดพลังงานบนดวงจันทร์เอนดอร์ พวกฮันและลุคอาสาไปทำลายมัน แต่ก็พบว่าดวงจันทร์มีกองกำลังฝ่ายจักรวรรดิรออยู่ ซึ่งโชคดีที่พวกเขาได้รับการช่วยเหลือจากพวก อีว็อคหรือพวกหมีแคระ ชนเผ่าพื้นเมืองนำไปสู่การทำลายเครื่องกำเนิดพลังงาน ส่วนลุคแยกตัวไปเผชิญหน้ากับ ดาร์ธ เวเดอร์ เพื่อเกลี้ยกล่อมให้พ่อกลับมาสู่ด้านสว่าง เขาดวลไลท์เซเบอร์จนชนะ และตัดแขนขวาของเวเดอร์จนขาด ฝ่ายจักรพรรดิพัลพาทีนได้พยายามเกลี้ยกล่อมให้ลุคเข้ามาอยู่ในด้านมืดแต่ก็ไม่สามารถทำได้ จึงใช้พลังสายฟ้าทำลายลุค แต่ดาร์ธเวเดอร์ทนเห็นลูกชายโดนกระทำไม่ได้ เลยเข้าไปทำลายจักรพรรดิพัลพาทีนทุ่มเขาลงไปในช่องอวกาศ เวเดอร์กลับมาเป็นอนาคินและขอให้ลุคช่วยถอดหน้ากากเขาออก ทำให้เขาได้มองหน้าลูกชายด้วยดวงตาของตัวเองเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะตาย ฝ่ายกบฎสามารถทำลายล้างจักรวรรดิลงได้สำเร็จและนำสันติสุขกลับคืนมาสู่กาแล็คซี่อีกครั้ง

หมวดวงการเพลง เรื่องที่ 4 เพลงในความทรงจำ เพลง Beat It เป็นผลงานเขียนเพลงของไมเคิล แจ็คสันเอง และโปรดิวซ์โดย ควินซี่ โจนส์ นักร้องนักดนตรีรุ่นพี่ที่มีฝืมือ และ MJ ให้ความเคารพนับถือ หลังจากที่ประสบความสำเร็จบนชาร์ตเพลงในชุด ทริลเลอร์ ต่อจากเพลง "The Girl Is Mine" และ "Billie Jean" "บีตอิต" ก็ออกขายเมื่อ 14 กมภาพันธ์ ค.ศ. 1983 เป็นซิงเกิ้ลที่ 3 ของอัลบั้มชุดนี้ เพลงประสบความสำเร็จทั้งแง่ยอดขายและเสียงวิจารณ์ กลายเป็นหนึ่งในซิงเกิ้ลขายดีที่สุดตลอดกาล ทั้ง "Billie Jean" และ "Beat It" ติดอันดับท็อป 5 ในเวลาเดียวกัน เพลงนี้มียอดขายยืนยันในระดับแผ่นเสียงทองคำขาวในปี 1989 รางวัลที่ได้รับ รวมถึง 2 รางวัลแกรมมี่ 2 รางวัลอเมริกันมิวสิกอวอร์ดส และยังมีชื่ออยู่ใน Music Video Producers Hall of Fame



หมวดเหตุการณ์สำคัญ จำได้ว่าศูนย์การค้าในระดับไฮเอ็นด์แห่งแรกๆ ของไทย ถ้าไม่นับสยามเซ็นเตอร์ ก็น่าจะเป็นศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว จัดว่าโมเดิร์นที่สุดในสมัยนั้นแล้ว กลุ่มเซ็นทรัล โดยการนำของสัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ ดำเนินการจัดตั้ง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2523 ด้วยแนวคิดที่จะก่อตั้งศูนย์การค้าแบบครบวงจรในแห่งเดียวกัน โดยเข้าประมูลที่ดินรกร้างรูปสามเหลี่ยม บริเวณแยกลาดพร้าวมาจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และในปี พ.ศ. 2526 เซ็นทรัลพ...ลาซา ลาดพร้าว ก็เปิดให้บริการ ภายใต้แนวคิดในการจำหน่ายสินค้าแห่งเดียวเบ็ดเสร็จ (One-Stop-Shopping) ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน ประเทศไทยเกิดภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ เป็นผลให้กลุ่มเซ็นทรัลต้องหยุดขยายงานไปกว่า 10 ปี แต่ก็สามารถพลิกฟื้นให้มีจำนวนผู้มาใช้บริการ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากกว่า 40 ล้านคนต่อปี ทั้งนี้ ยังเป็นศูนย์การค้าแห่งแรกในประเทศไทย ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานไอเอสโอ 9001-2000 เมื่อปี พ.ศ. 2544 ต่อมา รฟท.จัดการประมูลที่ดินสามเหลี่ยมบริเวณแยกลาดพร้าว พร้อมทั้งอาคารศูนย์การค้าบนที่ดินดังกล่าว ขึ้นในปี พ.ศ. 2552 เนื่องจากใกล้ถึงเวลาสิ้นสุดสัญญาเช่าที่ดินกับ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนาแล้ว ซึ่งผลการประมูลปรากฏว่า รฟท.ประกาศต่อสัญญากับ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา ต่อไปอีก 20 ปี โดยใช้งบลงทุนมากกว่า 5,000 ล้านบาท หลังจากนั้นก็ดำเนินโครงการปรับปรุงกลุ่มอาคารครั้งใหญ่ ด้วยมูลค่าทั้งหมด 3,000 ล้านบาท และปิดให้บริการเป็นระยะเวลา 6 เดือน ระหว่างเดือนเมษายน-ตุลาคม พ.ศ. 2553 แต่เนื่องจากศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ประกาศปิดตัวเอง โดยให้เหตุผลว่า ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ เนื่องจากมีการชุมนุมทางการเมืองบริเวณแยกราชประสงค์ และต่อมาเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ปีเดียวกัน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์เกิดเพลิงไหม้ จนตัวอาคารพังถล่มลงมา หลังจากที่กำลังทหารเข้าสลายการชุมนุมทางการเมืองดังกล่าว  ดังนั้น เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อร้านค้าและลูกค้า ตลอดจนรายได้และกระแสเงินสดของ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนาเอง จึงเลื่อนกำหนดการปิดปรับปรุงศูนย์การค้าที่ลาดพร้าว ออกไปเป็นระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์-28 สิงหาคม พ.ศ. 2554 ทั้งนี้ ในส่วนของอาคารสำนักงาน บริษัทฯ เริ่มดำเนินการไปก่อน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2553 จนแล้วเสร็จเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีเดียวกัน และอาคารส่วนโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ใช้เวลาประมาณ 6 เดือนด้วยกัน แต่หลังจากเปิดให้บริการใหม่ได้ไม่นาน อุทกภัยในประเทศไทย พ.ศ. 2554 ขยายขอบเขตมาถึงบริเวณแยกลาดพร้าวในราวเดือนพฤศจิกายน ศูนย์การค้าจึงต้องเลื่อนเวลาปิดให้บริการเป็น 21:00 น.ซึ่งเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 1-3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 จากนั้นต้องปิดให้บริการ ระหว่างวันที่ 4-17 พฤศจิกายน หลังจากนั้น คือตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน กลับมาเปิดให้บริการโดยปรับเวลาปิดให้บริการเป็น 21:00 น.จนถึงปัจจุบัน

วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ประณามผู้อยู่เบื้องเหตุการณ์ร้าย วางระเบิดหลายจุด หลายจังหวัดภาคใต้

ร่วมกันประณาม ผู้ไม่ประสงค์ดีต่อบ้านเมือง วางระเบิดหลายจุด ทั่ว จว.ภาคใต้ เกิดเหตุวุ่นวายช่วงวันหยุดยาว ตอนนี้ไปเที่ยวไหน หรือไปยังที่สาธารณะช่วยกันสอดส่อง ดูแลกันด้วย ขอให้มีสติ อย่าแตกตื่น ตกใจ พณ.นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ในผู้สื่อข่าวเช้านี้ว่า ทำไมจึงเหตุการณ์แบบนี้ ทั้งๆ ที่เมืองไทยเพิ่งผ่านเหตุการณ์ลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญมา เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว นักธุรกิจ ต่างชาติเชื่อมั่นต่อประเทศไทยว่ากำลังจะมีการเลือกตั้ง แสดงว่ามีผู้ไม่หวังดี ที่เสียผลประโยชน์ที่ประเทศไทยกำลังจะไปได้ ท่านนายกโยนคำถามกลับมายังผู้สื่อข่าวและประชาชนว่า ใครหล่ะ? ไม่หวังดี ใครหล่ะ? เสียประโยชน์ ไปคิดดู

ที่ภูเก็ต  เมื่อเวลา 08.30 น. เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณสวนสาธารณะโลมา หน้าหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ในเบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น ขณะที่ห่างกันเพียงแค่ 10 นาที เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณป้อมยามตำรวจ หาดป่าตอง จุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ นายสมบูรณ์ คล้ายแก้ว คนขับรถ จยย.รับจ้าง ถูกสะเก็ดระเบิดที่แขน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีกระแสข่าวลือเกิดขึ้นอย่างหนักว่ามีระเบิดตามจุดต่างๆ ในพื้นที่ป่าตองอีกหลายจุด เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องวิ่งตรวจสอบ  ขณะที่ พล.ต.ต ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนหากพบเห็นสิ่งแปลกปลอม หรือวัตถุต้องสงสัยอาจเป็นกระเป๋า หรือกล่องอะไรก็ตามขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยเร่งด่วน จากสถานการณ์ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ขอความร่วมมือทุกคนช่วยกันสอดส้องเฝ้าระวัง และเป็นหูเป็นตาด้วย ส่วน นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การดูแลรักษาความปลอดภัยของประชาชน และนักท่องเที่ยวเป็นเรื่องหลักที่จังหวัดภูเก็ตให้ความสำคัญ โดยประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ภาคประชาชน ประชาสังคม เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวของโลก หน่วยงานภาครัฐมีแผนดูแลรักษาความปลอดภัย และแผนเผชิญเหตุ พร้อมกันนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาให้หน่วยงานภาครัฐ หากพบสิ่งผิดปกติต้องสงสัยสามารถแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทันที

สุราษฎร์ธานี - เกิดระเบิด 2 ลูกกลางเมืองสุราษฎร์ธานี ใกล้จุดสำคัญ ทั้งสถานีตำรวจ จวนผู้ว่าฯ เบื้องต้น เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 5 ราย
      
เมื่อเวลา 08.20 น.วันนี้ (12 ส.ค.) เกิดเหตุระเบิด 2 จุด ในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี โดยจุดแรกเกิดขึ้นที่บริเวณด้านข้างสถานีตำรวจน้ำ ห่างจากจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประมาณ 20 เมตร ถนนริมเขื่อนแม่น้ำตาปี เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี โดยเหตุระเบิดเกิดขึ้นหลังจากที่ผู้ว่าฯ กล่าวเปิดงานวันแม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยระเบิดจุดแรกได้เกิดขึ้นที่ริมฟุตปาตบริเวณหน้าสถานีตำรวจน้ำสุราษฎร์ธานี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัสอีก 3 ราย ผู้เสียชีวิตชื่อนางจงกลณี พุ่มกระจ่าง พนักงานกวาดขยะของเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี และมีผู้บาดเจ็บ 3 ราย ได้แก่
       1.นางจันทน์รัตน์ เจริญจิตร
       2.นายณรงค์ชัย สุขแก้ว
       3.นายธีรวิทย์ บัวน้อย
      
เบื้องต้น คาดว่าคนร้ายฝังระเบิดใต้ต้นไม้ตรงจุดเกิดเหตุ หน้าป้ายสถานีตำรวจน้ำ โชคดีระเบิดทำงานหลังกิจกรรมตักบาตรวันแม่
  หลังจากนั้นประมาณ 20 นาที ได้เกิดระเบิดขึ้นอีกลูกหนึ่งที่บริเวณข้างตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย ใกล้สถานีตำรวจเมืองสุราษฎร์ธานี ห่างจากจุดเดิมประมาณ 100 เมตร โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต แต่ได้สร้างความแตกตื่นให้แก่ประชาชนจำนวนมากที่มาร่วมทำบุญตักบาตรในวันแม่แห่งชาติ ที่ต่างทยอยออกจากพื้นที่กันอย่างวุ่นวาย

ตรัง - ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ยืนยันระเบิดตลาดเซ็นเตอร์พอยท์ ไม่ใช่ก่อการร้าย เพราะมีหลักฐานระบุค่อนข้างชัด วอนสื่อออนไลน์อย่าขยายความสับสน ขณะที่ญาติเหยื่อที่เสียชีวิตวอนขอเยียวยา
      
วันนี้ (12 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.คุณวุฒิ หมอแก้ว รองแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่แท้จริงได้ แต่ต้องให้เวลาแก่เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ที่จะต้องงานร่วมกันหาหลักฐานให้แน่ชัดก่อน แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบอย่างแน่นอน
 ด้าน พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่อยากจะสรุปอะไร แต่ชิ้นส่วนที่เจอมีพอสมควร ทั้งโทรศัพท์ ทิชชู และอื่นๆ ซึ่งเบื้องต้นระบุได้ว่า ระเบิดมีการประกอบก่อนนำมาวาง แต่เชื่อว่าไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบ เพราะจากการตรวจสอบมีวิธีการ และเงื่อนเวลา รวมถึงความแรงของระเบิดมีไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อนเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แน่ชัดแล้วจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะ  ส่วนกระแสข่าวลือที่เกิดขึ้นขณะนี้ ทั้งการโพสต์ และแชร์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ร่วมถึงสื่อออนไลน์ต่างๆ นั้นเป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก เพราะอาจทำให้เข้าใจผิดได้ว่าเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ จ.ตรัง แต่เท่าที่ตรวจสอบสามารถระบุได้ว่า เหตุการณ์นี้อาจจะมีความขัดแย้งบางส่วน ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นส่วนใดบ้าง แต่เชื่อได้ว่าไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ความมั่นคงแต่อย่างใด  ส่วน นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า พรุ่งนี้จะมีการเชิญตัวแทนพ่อค้าแม่ค้ามาพูดคุยหารือถึงแนวทางการบริหารจัดการตลาดเซ็นเตอร์พอยท์ ส่วนจะต้องปิดตลาดแห่งนี้เป็นการชั่วคราวหรือไม่นั้น ต้องมีการประเมินสถานการณ์ก่อน  เวลา 20.30 น. นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจแก่ญาติและผู้บาดเจ็บที่ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตรัง จำนวน 4 คน และได้เสียชีวิต 1 คน คือ จ่าเอกพิเชิด วิริยานุภาพพงษ์ โดยขณะที่ผู้ว่าฯ กำลังเยี่ยมผู้บาดเจ็บอยู่นั้น ปรากฏว่า มีญาติของผู้ที่ได้รับผลกระทบมาสอบถามถึงการเยียวยาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งผู้ว่าฯ ก็กล่าวว่า เบื้องต้นจะต้องให้ทางตำรวจทำงานหาผู้ที่ก่อเหตุในครั้งนี้ให้ได้ก่อน หากสุดท้ายยังไม่สามารถหาผู้กระทำความผิดก็ค่อยมาพิจารณากันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน จ.ตรัง ไม่เหมือนกับจังหวัดชายแดนใต้ ฉะนั้น ทางราชการไม่มีระเบียบการเยียวยาในส่วนนี้ แต่ก็จะมีหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานอื่นๆ จะร่วมพิจารณาเรื่องเยียวยาร่วมกันอีกครั้ง  ด้าน นายสุจิน ทองคำแท้ ญาติของ จ.อ.พิเชิด ผู้ที่เสียชีวิตในครั้งนี้ กล่าวว่า อยากให้ทางการหาแนวทางช่วยเหลือครอบครัวผู้ที่เสียชีวิตโดยด่วน เพราะได้รับผลกระทบโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เนื่องจากคนหาเช้ากินค่ำ แต่กลับต้องมาเสียชีวิตลงอย่างน่าเสียใจ ทั้งๆ ที่ยังมีลูกอีก 2 คนที่กำลังเรียน จึงอยากจะขอความเห็นใจด้วย

ตรัง - เพลิงไหม้ห้างดังบริเวณหน้าสถานีรถไฟกลางเมืองตรัง เบื้องต้น ประเมินมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท และยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ท่ามกลางกระแสข่าวลือต่างๆ หลังเพิ่งเกิดเหตุลอบวางระเบิด
       
เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (12 ส.ค.) พ.ต.อ.นุกูล ไกรทอง รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอกณรงค์ สวัสดิกานนท์ ผกก.สภ.เมืองตรัง พ.ต.ท.ภูมิ บาลทิพย์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองตรัง พร้อมด้วยกำลังตำรวจ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้เข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้บริเวณห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางเมืองตรัง ขนาด 3 ชั้น ชื่อว่าลีมาร์ท ซุปเปอร์ ค้าส่งซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าสถานีรถไฟตรัง บนถนนสถานี ตำบลทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง  โดยเพลิงได้ลุกไหม้อย่างหนัก และมีกลุ่มควันสีดำลอยสู่ท้องฟ้าเป็นจำนวนมาก จึงต้องมีการระดมรถดับเพลิงจากทั่วทั้งจังหวัดตรังกว่า 20 คัน เข้าทำการฉีดน้ำเพื่อระงับเพลิงที่กำลังลุกไหม้ ท่ามกลางความตื่นตระหนกของผู้คน เนื่องจากส่วนใหญ่ยังนอนหลับพักผ่อนอยู่ และที่เกิดเหตุก็ตั้งกลางชุมชนใหญ่ มีอาคารร้านค้า และบ้านเรือนอยู่รายรอบเป็นจำนวนมาก  ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.ภ.จว.ตรัง ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจากโรงพักใกล้เคียงประมาณ 50 นาย มาช่วยอำนวยความสะดวก พร้อมประสานกำลังทหารจาก ร.15 พัน 4 ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ จังหวัดตรัง มาร่วมดูแลความเรียบร้อยด้วย  โดยจากการสอบถาม นายงวด เฮ้งฉ้วน อายุ  65 ปี ซึ่งเป็นยามรักษาความปลอดภัยที่ห้างดังกล่าวมานานกว่า 5 ปี กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. เช้าตรู่ของวันนี้ ขณะที่ตนกำลังเผลอหลับไปก็ได้กลิ่นควันไฟลอยมาจากด้านบนของอาคาร ทำให้ตนสะดุ้งตื่น  จากนั้นได้ยินเสียงระเบิด และสิ่งของดังตามมาอีกหลายครั้ง รวมทั้งเห็นเปลวไฟพุ่งออกมา จนตนต้องวิ่งหนีออกมาอยู่ที่ปลอดภัย เนื่องจากข้างในห้างไม่มีผู้ใดพักอาศัยอยู่แม้แต่คนเดียว โดยทุกวันหลังจากพนักงานกลับบ้านหมดแล้ว ผู้ดูแลห้างจะปิดประตูเหล็ก และใส่กุญแจอย่างแน่นหนา ทำให้ไม่มีใครสามารถเข้าไปได้ จึงเกิดเพลิงโหมไหม้อย่างรวดเร็ว  นางจันทิพย์ รังสิปราการ รองปลัดเทศนครตรัง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ เทศบาลนครตรัง ได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ และรถดับเพลิงมากจากทั่วทั้งจังหวัดตรัง แต่การควบคุมเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากติดต่อเจ้าของห้างไม่ได้ และไม่มีกุญแจไขเข้าไปเข้าใน ส่วนการจะตัดสินใจทุบกระจกก็ลำบาก เพราะเกรงจะเกิดปัญหาในภายหลัง แต่ก็ได้พยายามให้เจ้าหน้าที่สกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ล่าสุด หลังเกิดเหตุมาประมาณ 3 ชม. เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงไว้ให้อยู่ในพื้นที่จำกัดได้ แต่ยังคงมีการลุกไหม้บ้างเป็นระยะ สำหรับห้างลีมาร์ทนั้น เดิมมีชื่อว่า ห้างไดมอนด์ สร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังมากในยุคสมัยนั้น เพราะมีลักษณะเป็นห้างสรรพสินค้าแบบครบวงจร ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนผู้บริหาร และใช้ชื่อใหม่ โดยชั้นล่างสุดด้านหน้าเป็นร้านค้าทั่วไป ส่วนด้านหลังเป็นซูเปอร์มาร์เกต ส่วนชั้น 2 เป็นร้านค้าจำหน่ายเสื้อผ้า ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ และชั้น 3 เป็นโกดังเก็บสินค้า เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ประเมินมูลค่าความเสียหายของห้างแห่งนี้กว่า 100 ล้านบาท  และยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้  อย่างไรก็ตาม จากเหตุเพลิงไหม้ห้างชื่อดังในครั้งนี้เป็นวิพากษ์วิจารณ์ของชาวตรังอย่างมาก  เนื่องจากมีจุดเกิดห่างจากเหตุลอบวางระเบิดที่บริเวณตลาดเซ็นเตอร์พอยท์ เพียงแค่ 1 กิโลเมตร และมีเวลาห่างกันประมาณ 10 ชั่วโมง  จนกังวลว่าจะเป็นการก่อการร้าย หรือการสร้างสถานการณ์ที่ไม่ใช่มาจากความขัดแย้งในพื้นที่

กระบี่ - ระทึก! ไฟไหม้วอดร้านขายสินค้าที่ระลึกย่านหาดอ่าวนาง สาวล่าโปเกมอนผ่านมาเจอก่อนรีบแจ้งตำรวจประสานรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ มูลค่าเสียหายประมาณ 10 กว่าล้านบาท โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เมื่อเวลา 03.15 น.วันนี้ (12 ส.ค.) พ.ต.ท.อธิวัฒน์ ไชยศรีสุทธิ์ รอง ผกก.(ป.) สภ.อ่าวนาง นายพันคำ กิตติธรกุล นายก อบต.อ่าวนาง นายสุริยัน ณรงค์กูล นายอำเภอเมืองกระบี่ นายศิริชัย ศรีเหนี่ยง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่ ปภ.เมืองกระบี่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.อ่าวนาง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองกระบี่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย อบต.อ่าวนาง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยกระบี่พิทักษ์ประชา เข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้พื้นที่ ม.2 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่  พบที่เกิดเหตุเป็นย่านการค้าหน้าหาดอ่าวนาง ตรงข้ามประติมากรรมปลาใบ เลขที่ 245/1 หมู่ที่ 2 ต.อ่าวนาง อ.เมือง เป็นห้องแถวชั้นเดียวติดกัน 5 ห้อง เปิดเป็นร้านขายสินค้าของที่ระลึก ทำจากผ้า ไฟกำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็วเนื่องจากวัสดุชิ้นส่วนเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่จึงได้ฉีดน้ำสกัดเพลิงเพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังอาคารใกล้เคียง ใช้เวลาร่วม 3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ สินค้าถูกไฟไหม้ทั้งหมดเสียหายทั้ง 5 ห้อง มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท น.ส.ปิยชาติ แสงแดง อายุ 25 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ช่วงที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ช่วงนั้นตนออกมาเดินเล่นตามจับตัวโปเกมอนอยู่บริเวณริมทางเท้าหน้าหาดอ่าวนาง ขณะนั้นได้สังเกตเห็นกลุ่มควันเกิดขึ้นบริเวณร้านขายสินค้าที่ระลึก ก่อนจะลุกไหม้อย่างรวดเร็ว หลังจากตั้งสติได้ก็รีบวิ่งไปตามเพื่อนชาวต่างชาติที่พักผ่อนอยู่ตึกใกล้จุดเกิดเหตุ ก่อนที่ตนจะขับรถไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ่าวนาง และช่วยประสานรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ  เบื้องต้น ยังไม่ทราบสาเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ต้องรอผลจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจที่เกิดเหตุอีกครั้ง โชคดีขณะเกิดเหตุไม่มีใครอาศัยอยู่ภายในจึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ยังมีที่พังงา และยังมีจุดที่ต้องสงสัยว่ามีระเบิด และเจ้าหน้าที่กำลังเข้าไปเก็บกู้อยู่อีกหลายจุด ติดตามข่าวได้จากสื่อแทบทุกแขนงในบ้านเรา

(เครดิตอ้างอิง : MGR online)

12 สิงหา มหาราชินี






 แม่นี้ มีบุญคุณ อันใหญ่หลวง       ที่เฝ้าหวง ห่วงลูก แต่หลัง เมื่อยังนอนเปล

 แม่......เราเฝ้าโอละเห่                  กล่อมลูกน้อย นอนเปล ไม่ห่างหันเห ไปจนไกล


.....แต่เล็กจนโต โอ้แม่ถนอม         แม่ผ่ายผอม ย่อมเกิดจากรัก ลูกปักดวงใจ

เติบ.....โต โอ้เล็กจนใหญ่             นี่แหละหนาอะไร มิใช่ใดหนา เพราะค่าน้ำนม


.....ควร คิดพินิจให้ดี                     ค่าน้ำนมแม่นี้ จะมีอะไรเหมาะสม

โอ้ว่าแม่จ๋า ลูกคิดถึงค่าน้ำนม      เลือดในอกผสม กลั่นเป็นน้ำนม ให้ลูกดื่มกิน


....ค่าน้ำนมควร ชวนให้ลูกฝัง      แต่เมื่อหลัง เปรียบดังผืนฟ้า หนักกว่าแผ่นดิน

บวช...เรียน พากเพียรจนสิ้น        หยดหนึ่งน้ำนมกิน ทดแทนไม่สิ้น พระคุณแม่เอย....



มาร่วมเทิดทูนพระคุณแม่  ในวันแม่แห่งชาติ    12 สิงหามหาราชินี  เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระชนม์มายุ 84 พรรษา




ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ  ข้าพระพุทธเจ้า เว็บบล็อก หยิกแกมหยอก 

วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559

รำลึกความทรงจำยุค 80's ตอนที่ 2

หมวดเหตุการณ์สำคัญๆ เข้าสู่ปีพ.ศ. 2525 หรือ ปี ค.ศ.1982 เหตุการณ์สำคัญในบ้านเราที่คนไทยไม่มีใครลืมก็คือ งานพระราชพิธีสมโภชน์ฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบรอบ 200 ปี จัดอย่างยิ่งใหญ่อลังการ เท่าที่ในชีวิตของผู้เขียนเคยเห็น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตต์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ทุกพระองค์ ในการเสด็จในกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของคนไทยทุกหมู่เหล่า และถ่ายทอดพระราชพิธีไปทั่วโลก เป็นที่กล่าวขวัญถึงมาจนถึงทุกวันนี้

หมวดของเล่น ของสะสม
ของเล่นในยุค 80's เด็กๆ ในสมัยนั้น ไม่มีเกมโกม่อนให้เล่นกัน คนยุคนั้น เขาเล่นอะไรกัน มีเยอะมาก จะทยอยเอามาลง ให้ได้ฟื้นความทรงจำกัน 3 อย่างก่อน อันแรก เรียกว่า สไลด์ดิ้งบอล (sliding ball) อันที่ 2 เรียกว่าจานร่อน (frisbee) และอันที่ 3 เรียกว่า ลูกข่าง (top,japan mook) เป็นสิ่งที่เด็กที่โตมาในยุค 80's ต้องเคยเห็นหรือเคยสัมผัสมาแล้วทุกคน ใครไม่เคยเล่น นี่เช๊ยเชย ปัจจุบันของเล่นเหล่านี้ยังหาซื้อได้ในเว็บออนไลน์อยู่เลย เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบไป มันสีสรรแปลกตาขึ้น และกลายเป็นของเล่นที่เด็กยุคนี้ไม่สนใจไปแล้ว อาจมีเล่นบ้างตามเทศกาล และเป็นบางท้องถิ่น อย่างพวกจานร่อน ยังคงมีให้เห็นบ้างตามชายหาด บางแห่ง






หมวดวงการเพลง เรื่องที่ 2 วงดนตรีที่เป็นตำนานในยุคนั้น มาเริ่มจากวงนี้กันก่อนเลย ในปีนั้น มีวงที่เพิ่งถือกำเนิดและดังเปรี้ยงปร้างตั้งแต่อัลบั้มแรกเลย นักร้องมีคาแร็กเตอร์เสียงที่สะดุดหู ชวนฟัง เพลงไพเราะทั้งอัลบั้ม นั่นคือ วงโอเวชั่น มีนักร้องนำคือ คุณพัชรา แวงวรรณ (ปัจจุบันได้เสียชีวิตไปแล้ว) ในยุคแรกนักร้องนำจะเป็นคุณเอ๋ พัชรา แวงวรรณ และพอไปสู่ยุค 2 ถึงจะเปลี่ยนนักร้องนำเป็นคุณก้อย พรพิมล ธรรมสาร แต่ในปี 2525 อัลบั้มแรกของวงโอเวชั่น เพลงเปิดตัว รักและคิดถึง ก็โด่งดังเป็นพลุแตก ผู้เขียนยังจำได้ ยังมีเทปคาสเซ็ทท์ของอัลบั้มนี้อยู่ด้วย ตอนนั้นฟังจนร้องได้ทั้งอัลบั้มนั่นแหละ ปัจจุบันม้วนเทปนี้หายไปแล้ว ยังเสียดายอยู่จนทุกวันนี้

วงนี้เป็นหนึ่งในวงที่ผู้เขียนชื่นชอบที่สุดวงหนึ่ง ก่อตั้งวงมาตั้งแต่ปี 2523 และออกมาหลายอัลบั้มตั้งแต่อัลบั้มแรก รักไม่รู้ดับ,บางปะกง,ขวัญใจนักเรียน จนมาถึงอัลบั้มที่ 4 อยู่หอ (ปี 2525) นี่แหละที่สร้างชื่อให้วงดิอินโนเซ็นส์โด่งดัง มันดังทั้งอัลบั้ม มีเพลงดังตั้งแต่ อยู่หอ,รอยรักรอยเล็บ,ยังรักเธอยู่,มนต์ไทรโยค,เจ็บ ฯลฯ อยากพาไปหวนคิดถึงความหลังกับเพลงที่ต้องร้องเวลานั่งฉิ่งฉับทัวร์ไปเที่ยวยังต่างจังหวัด ท้ายรถจะเป็นพวกแก๊งค์ฉิ่งฉับทัวร์ และเพลงประจำชาติของฉิ่งฉับทัวร์พวกจะต้องมีเพลงนี้ ไปลองฟังดู



วงนี้ลืมไม่ได้เลย เพราะเพลงของพี่เขาสร้างตำนานไว้หลายบทมาก และตัวนักร้องนำเป็นทีนไอด้อลของยุคนั้นด้วย โด่งดังจนมีภาพยนตร์สร้างตามชื่อเพลงของวงพี่เขา ร้องกันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง อัลบั้มแรกชื่อ ผมอยากดัง กลับไม่ดัง ตอนนั้นยังอยู่ original sound คนยังไม่รู้จัก พอมาอัลบั้มชุดที่ 2 ใจสยิว เพลงฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง แจ้งเกิดเลย เพลงนี้ เป็นตำนานของวัยรุ่นยุคนั้นเลย ใครร้องไม่ได้นี่ แสดงว่าไม่ได้อยู่เมืองไทยในช่วงเวลานั้นแน่ๆ



ถ้ายุคนี้มีนักร้องดูโอ้แนวประสานเสียงที่โด่งดังคือ นิวจิ๋ว ยุคนั้นก็ต้องมี ดอกไม้ป่า นักร้องดูโอ้ประสานเสียง สุดเซ็กส์ซี่ในยุคนั้น เอกลักษณ์เพลงของพวกเธอคือทำนองเพลงจีนสากลที่โด่งดัง จับมาใส่เนื้อร้องเป็นไทย ประพันธ์คำร้องโดยคุณมนตรี ผลพันธิน ดังหรือไม่ดังไม่รู้ แต่ร้องตามได้ทุกเพลง แปลกมั๊ย นักร้องดูโอ้ ทั้งสองคนก็คือ คุณโชติมา ช่วงวิทย์ (ตุ้ม) และคุณปัทมา มนต์รังสี (อ้อม) อยากให้ไปลองฟังเพื่อย้อนอดีตกัน



หมวดวงการเพลง เรื่องที่ 3 ศิลปินที่เป็นตำนานระดับโลก ถ้าปีนั้น 1982 ก็ต้องไม่ลืมศิลปินคนนี้ King of Pop : Michael Jackson ตอนสมัยยังเป็นสมาชิกในวง Jackson Five ว่ามีพรสวรรค์และมีเสน่ห์ ฉายแววความสามารถทางการร้องสูง แต่ก็ไม่คิดว่าพอโตขึ้น กลายมาเป็นศิลปินเดี่ยว เฮียแกจะกลายเป็นเทพได้ถึงขนาดนี้ จนแกเสียชีวิตไป ก็ยังไม่มีใครมาทาบรัศมีความเป็น King of Pop ของแก หรือโค่นบัลลังก์แกได้เลย และเพลงที่เป็นเพลงสร้างชื่อ สร้างความจดจำ และรวมไปถึงรวมเอาความสามารถทุกอย่างจนทำให้แกเป็นที่ยอมรับ และขนานนามให้เป็น King of Pop เพลงๆ นั้นก็คือ .....ไปร่วมรำลึกกัน



หมวดวงการภาพยนตร์ ในปี 1982 คงไม่มีภาพยนตร์เรื่องใดจะดังหรือสร้างความประทับใจ สร้างการจดจำได้ดีเท่าภาพยนตร์เรื่อง E.T : The Extra Terrestrial อีกแล้ว เจ้าตัวมนุษย์ต่างดาวสัตว์ประหลาด ที่น่ารักน่าชังตัวนี้ เป็นครั้งแรกที่คนทั่วโลกรู้สึกรักมนุษย์ต่างดาว หนังไซไฟที่สร้างความรักความอบอุ่นให้กับคนดูได้ จำได้ว่ายืนโรงฉายในไทยยาวนานพอสมควร เป็นหนังเรื่องแรกที่ทำให้ผู้เขียนรู้จักกับ สตีเว่น สปีลเบิร์ก ว่าเป็นผู้กำกับที่เก่งมาก เขียนบทโดย เมลิสซ่า มาทิลสัน แจ้งเกิด ดรูว์ แบรี่มัวร์ ตัวหนังประสบความสำเร็จทั้งเงินทั้งกล่อง ได้รางวัลภ.ยอดเยี่ยมจากเวทีลูกโลกทองคำด้วย ด้วยทุนสร้างเพียง 10.5 ล้านเหรียญ แต่กวาดรายได้ในบ็อกออฟฟิซไปอย่างชนิดมืดฟ้ามัวดิน เพียง 792.9 ล้านเหรียญ ทุกวันนี้ก็ยังติดอันดับหนังดีที่สุดตลอดกาล ความทรงจำนี้เป็นอย่างไรบ้าง 



หมวดของเล่น ของสะสม
รู้มั๊ยคนสมัยนั้น มีเกมเล่นเหมือนกัน แต่ไม่ใช่พวกเกมส์คอมพิวเตอร์หรือเกมส์ออนไลน์ แต่เป็นเกมส์พวก manual เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่คลาสสิกจริงๆ ทุกวันนี้ก็ยังนำมาเล่นกันอยู่ เอามาให้ดูซัก 5 อย่าง ดังนี้

1.รูบิก คิวบ์ หรือเจ้าแกนสี่เหลี่ยมลูกบาศก์พลาสติก ที่หมุนได้รอบด้าน จริงๆ สิ่งประดิษฐ์ตัวนี้มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1974 คนประดิษฐ์ชื่อ นายเออร์โน่ รูบิค เดิมเรียกเจ้าสิ่งนี้ว่า magic cube ภายหลังเปลี่ยนมาใช้ชื่อ rubik's cube เพื่อเป็นการให้...เกียรติผู้คิดค้น มันมาฮิตมาในยุค 80's ทุกวันนี้ยังมีการแข่งขันประชันความเร็วในการหมุนรูบิก กันอยู่

2.เกมเศรษฐี (เกมกระดาน) หรือ Monopoly เขาบอกว่าไอ้เจ้าเกมกระดานแบบนี้มันมีมาตั้งแต่ปี 1903 มีการเล่นกันในสหรัฐ แต่มีการพัฒนามาเรื่อยๆ จนเป็นเวอร์ชั่นที่เราเห็นและนิยมกัน ก็ปี 1935 ผู้คิดค้นเวอร์ชั่นที่เป็นเกมเศรษฐีแบบที่เห็นกัน คือพี่น้อง แฮสโบร-ปาร์คเกอร์ ที่แวดดิงตัน เวอร์ชั่นที่ว่าจะมีกระดานกระดาษพับได้ มีลูกเต๋าไว้ทอดเดิน มีบ้านจำลอง มีธนบัตรจำลอง เป็นเกมธุรกิจยุคแรกที่คลาสสิกที่สุด และมันมาฮิตในบ้านเรามากๆ ในยุค 80's

3.ตัวต่อโดมิโน่ ไม่แน่ใจว่าใครเป็นผู้คิดค้นคนแรก เพราะบ้างก็ว่าจีนเป็นคนคิด บ้างก็ว่าอียิปต์โบราณ หรือชาวอาราเบียน แต่เริ่มเห็นแพร่หลายในอิตาลี ช่วงยุคต้นปี ค.ศ.17 มักนิยมเล่นกันในบ้านและผับ แต่อย่างไรเสีย มันก็มาฮิตในบ้านเราช่วงยุค 80's ด้วยเช่นกัน 


4.ตัวต่อเลโก้ (Lego) จริงๆ ก็ถือกำเนิดมานานแล้ว ถือกำเนิดในปี 1949 โดยนายโอเล เคิร์ก คริสเทนเซ่น ชาวเดนมาร์ก จริงๆ น่าจะเป็นของเล่นของคนรวย เนื่องจากสนนราคาเจ้าตัวต่อยี่ห้อนี้ค่อนข้างแพง มีขายตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ จนมายุคหลังที่พอจะมีของเล่นปลอมจากเมืองจีนเข้ามา แต่เสน่ห์ของมันคงอยู่ที่ สามารถพลิกแพลงต่อเป็นรูปร่างต่างๆ ได้มากมาย ตามจินตนาการของคนเล่นนั่นเอง

5.กระดาษตัวต่อจิ๊กซอว์ (Jigsaw Puzzle) ปี ค.ศ.1767 นายจอห์น สปิลบูรี (John Spilbury) เป็นทั้งครูและนักทำแผนที่ ได้ประดิษฐ์แผ่นแผนที่ประเทศอังกฤษ ด้วยการทำแผนที่แต่ละเมืองบนกระดาน แต่ละแผ่นและนำมาต่อกันเป็นประเทศอังกฤษ เพื่อใช้ในการสอนนักเรียน ซึ่งต่อมาในปี ค.ศ.1820 แผนที่ดังกล่าวกลายเป็นอุปกรณ์การสอนหนังสือ ในโรงเรียน ระดับประถมศึกษา ต่อมาในปี ค.ศ. 1880 ของเล่นทำด้วยไม้ที่เรียกว่า “จิ๊กซอว์ พัสเซิล” (jigsaw puzzle) เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ปีต่อมาของเล่นชนิดเดียวกัน แต่ทำด้วยกระดาษแข็ง ก็ถูกผลิตออกมาเป็นครั้งแรก และก็นิยมเล่นกันทั่วโลก จนมาถึงยุคปัจจุบัน
จริงๆ ยังมีของเล่นในยุค 80's อีกมาก อย่างเช่น หมากรุกไทย หมากฮอท หมากรุกจีน (เลี๊ยบตุ่ย) แต่สิ่งเหล่านี้มีมานานก่อนยุค 80's มากๆ และในยุค 80's ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร จึงละไว้ในฐานที่เข้าใจ