วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ประณามผู้อยู่เบื้องเหตุการณ์ร้าย วางระเบิดหลายจุด หลายจังหวัดภาคใต้

ร่วมกันประณาม ผู้ไม่ประสงค์ดีต่อบ้านเมือง วางระเบิดหลายจุด ทั่ว จว.ภาคใต้ เกิดเหตุวุ่นวายช่วงวันหยุดยาว ตอนนี้ไปเที่ยวไหน หรือไปยังที่สาธารณะช่วยกันสอดส่อง ดูแลกันด้วย ขอให้มีสติ อย่าแตกตื่น ตกใจ พณ.นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ในผู้สื่อข่าวเช้านี้ว่า ทำไมจึงเหตุการณ์แบบนี้ ทั้งๆ ที่เมืองไทยเพิ่งผ่านเหตุการณ์ลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญมา เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว นักธุรกิจ ต่างชาติเชื่อมั่นต่อประเทศไทยว่ากำลังจะมีการเลือกตั้ง แสดงว่ามีผู้ไม่หวังดี ที่เสียผลประโยชน์ที่ประเทศไทยกำลังจะไปได้ ท่านนายกโยนคำถามกลับมายังผู้สื่อข่าวและประชาชนว่า ใครหล่ะ? ไม่หวังดี ใครหล่ะ? เสียประโยชน์ ไปคิดดู

ที่ภูเก็ต  เมื่อเวลา 08.30 น. เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณสวนสาธารณะโลมา หน้าหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ในเบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น ขณะที่ห่างกันเพียงแค่ 10 นาที เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณป้อมยามตำรวจ หาดป่าตอง จุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ นายสมบูรณ์ คล้ายแก้ว คนขับรถ จยย.รับจ้าง ถูกสะเก็ดระเบิดที่แขน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีกระแสข่าวลือเกิดขึ้นอย่างหนักว่ามีระเบิดตามจุดต่างๆ ในพื้นที่ป่าตองอีกหลายจุด เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องวิ่งตรวจสอบ  ขณะที่ พล.ต.ต ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนหากพบเห็นสิ่งแปลกปลอม หรือวัตถุต้องสงสัยอาจเป็นกระเป๋า หรือกล่องอะไรก็ตามขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยเร่งด่วน จากสถานการณ์ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ขอความร่วมมือทุกคนช่วยกันสอดส้องเฝ้าระวัง และเป็นหูเป็นตาด้วย ส่วน นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การดูแลรักษาความปลอดภัยของประชาชน และนักท่องเที่ยวเป็นเรื่องหลักที่จังหวัดภูเก็ตให้ความสำคัญ โดยประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ภาคประชาชน ประชาสังคม เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวของโลก หน่วยงานภาครัฐมีแผนดูแลรักษาความปลอดภัย และแผนเผชิญเหตุ พร้อมกันนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาให้หน่วยงานภาครัฐ หากพบสิ่งผิดปกติต้องสงสัยสามารถแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทันที

สุราษฎร์ธานี - เกิดระเบิด 2 ลูกกลางเมืองสุราษฎร์ธานี ใกล้จุดสำคัญ ทั้งสถานีตำรวจ จวนผู้ว่าฯ เบื้องต้น เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 5 ราย
      
เมื่อเวลา 08.20 น.วันนี้ (12 ส.ค.) เกิดเหตุระเบิด 2 จุด ในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี โดยจุดแรกเกิดขึ้นที่บริเวณด้านข้างสถานีตำรวจน้ำ ห่างจากจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประมาณ 20 เมตร ถนนริมเขื่อนแม่น้ำตาปี เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี โดยเหตุระเบิดเกิดขึ้นหลังจากที่ผู้ว่าฯ กล่าวเปิดงานวันแม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยระเบิดจุดแรกได้เกิดขึ้นที่ริมฟุตปาตบริเวณหน้าสถานีตำรวจน้ำสุราษฎร์ธานี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัสอีก 3 ราย ผู้เสียชีวิตชื่อนางจงกลณี พุ่มกระจ่าง พนักงานกวาดขยะของเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี และมีผู้บาดเจ็บ 3 ราย ได้แก่
       1.นางจันทน์รัตน์ เจริญจิตร
       2.นายณรงค์ชัย สุขแก้ว
       3.นายธีรวิทย์ บัวน้อย
      
เบื้องต้น คาดว่าคนร้ายฝังระเบิดใต้ต้นไม้ตรงจุดเกิดเหตุ หน้าป้ายสถานีตำรวจน้ำ โชคดีระเบิดทำงานหลังกิจกรรมตักบาตรวันแม่
  หลังจากนั้นประมาณ 20 นาที ได้เกิดระเบิดขึ้นอีกลูกหนึ่งที่บริเวณข้างตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย ใกล้สถานีตำรวจเมืองสุราษฎร์ธานี ห่างจากจุดเดิมประมาณ 100 เมตร โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต แต่ได้สร้างความแตกตื่นให้แก่ประชาชนจำนวนมากที่มาร่วมทำบุญตักบาตรในวันแม่แห่งชาติ ที่ต่างทยอยออกจากพื้นที่กันอย่างวุ่นวาย

ตรัง - ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ยืนยันระเบิดตลาดเซ็นเตอร์พอยท์ ไม่ใช่ก่อการร้าย เพราะมีหลักฐานระบุค่อนข้างชัด วอนสื่อออนไลน์อย่าขยายความสับสน ขณะที่ญาติเหยื่อที่เสียชีวิตวอนขอเยียวยา
      
วันนี้ (12 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.คุณวุฒิ หมอแก้ว รองแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่แท้จริงได้ แต่ต้องให้เวลาแก่เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ที่จะต้องงานร่วมกันหาหลักฐานให้แน่ชัดก่อน แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบอย่างแน่นอน
 ด้าน พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่อยากจะสรุปอะไร แต่ชิ้นส่วนที่เจอมีพอสมควร ทั้งโทรศัพท์ ทิชชู และอื่นๆ ซึ่งเบื้องต้นระบุได้ว่า ระเบิดมีการประกอบก่อนนำมาวาง แต่เชื่อว่าไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบ เพราะจากการตรวจสอบมีวิธีการ และเงื่อนเวลา รวมถึงความแรงของระเบิดมีไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อนเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แน่ชัดแล้วจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะ  ส่วนกระแสข่าวลือที่เกิดขึ้นขณะนี้ ทั้งการโพสต์ และแชร์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ร่วมถึงสื่อออนไลน์ต่างๆ นั้นเป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก เพราะอาจทำให้เข้าใจผิดได้ว่าเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ จ.ตรัง แต่เท่าที่ตรวจสอบสามารถระบุได้ว่า เหตุการณ์นี้อาจจะมีความขัดแย้งบางส่วน ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นส่วนใดบ้าง แต่เชื่อได้ว่าไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ความมั่นคงแต่อย่างใด  ส่วน นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า พรุ่งนี้จะมีการเชิญตัวแทนพ่อค้าแม่ค้ามาพูดคุยหารือถึงแนวทางการบริหารจัดการตลาดเซ็นเตอร์พอยท์ ส่วนจะต้องปิดตลาดแห่งนี้เป็นการชั่วคราวหรือไม่นั้น ต้องมีการประเมินสถานการณ์ก่อน  เวลา 20.30 น. นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจแก่ญาติและผู้บาดเจ็บที่ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตรัง จำนวน 4 คน และได้เสียชีวิต 1 คน คือ จ่าเอกพิเชิด วิริยานุภาพพงษ์ โดยขณะที่ผู้ว่าฯ กำลังเยี่ยมผู้บาดเจ็บอยู่นั้น ปรากฏว่า มีญาติของผู้ที่ได้รับผลกระทบมาสอบถามถึงการเยียวยาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งผู้ว่าฯ ก็กล่าวว่า เบื้องต้นจะต้องให้ทางตำรวจทำงานหาผู้ที่ก่อเหตุในครั้งนี้ให้ได้ก่อน หากสุดท้ายยังไม่สามารถหาผู้กระทำความผิดก็ค่อยมาพิจารณากันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน จ.ตรัง ไม่เหมือนกับจังหวัดชายแดนใต้ ฉะนั้น ทางราชการไม่มีระเบียบการเยียวยาในส่วนนี้ แต่ก็จะมีหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานอื่นๆ จะร่วมพิจารณาเรื่องเยียวยาร่วมกันอีกครั้ง  ด้าน นายสุจิน ทองคำแท้ ญาติของ จ.อ.พิเชิด ผู้ที่เสียชีวิตในครั้งนี้ กล่าวว่า อยากให้ทางการหาแนวทางช่วยเหลือครอบครัวผู้ที่เสียชีวิตโดยด่วน เพราะได้รับผลกระทบโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เนื่องจากคนหาเช้ากินค่ำ แต่กลับต้องมาเสียชีวิตลงอย่างน่าเสียใจ ทั้งๆ ที่ยังมีลูกอีก 2 คนที่กำลังเรียน จึงอยากจะขอความเห็นใจด้วย

ตรัง - เพลิงไหม้ห้างดังบริเวณหน้าสถานีรถไฟกลางเมืองตรัง เบื้องต้น ประเมินมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท และยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ท่ามกลางกระแสข่าวลือต่างๆ หลังเพิ่งเกิดเหตุลอบวางระเบิด
       
เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (12 ส.ค.) พ.ต.อ.นุกูล ไกรทอง รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอกณรงค์ สวัสดิกานนท์ ผกก.สภ.เมืองตรัง พ.ต.ท.ภูมิ บาลทิพย์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองตรัง พร้อมด้วยกำลังตำรวจ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้เข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้บริเวณห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางเมืองตรัง ขนาด 3 ชั้น ชื่อว่าลีมาร์ท ซุปเปอร์ ค้าส่งซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าสถานีรถไฟตรัง บนถนนสถานี ตำบลทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง  โดยเพลิงได้ลุกไหม้อย่างหนัก และมีกลุ่มควันสีดำลอยสู่ท้องฟ้าเป็นจำนวนมาก จึงต้องมีการระดมรถดับเพลิงจากทั่วทั้งจังหวัดตรังกว่า 20 คัน เข้าทำการฉีดน้ำเพื่อระงับเพลิงที่กำลังลุกไหม้ ท่ามกลางความตื่นตระหนกของผู้คน เนื่องจากส่วนใหญ่ยังนอนหลับพักผ่อนอยู่ และที่เกิดเหตุก็ตั้งกลางชุมชนใหญ่ มีอาคารร้านค้า และบ้านเรือนอยู่รายรอบเป็นจำนวนมาก  ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.ภ.จว.ตรัง ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจากโรงพักใกล้เคียงประมาณ 50 นาย มาช่วยอำนวยความสะดวก พร้อมประสานกำลังทหารจาก ร.15 พัน 4 ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ จังหวัดตรัง มาร่วมดูแลความเรียบร้อยด้วย  โดยจากการสอบถาม นายงวด เฮ้งฉ้วน อายุ  65 ปี ซึ่งเป็นยามรักษาความปลอดภัยที่ห้างดังกล่าวมานานกว่า 5 ปี กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. เช้าตรู่ของวันนี้ ขณะที่ตนกำลังเผลอหลับไปก็ได้กลิ่นควันไฟลอยมาจากด้านบนของอาคาร ทำให้ตนสะดุ้งตื่น  จากนั้นได้ยินเสียงระเบิด และสิ่งของดังตามมาอีกหลายครั้ง รวมทั้งเห็นเปลวไฟพุ่งออกมา จนตนต้องวิ่งหนีออกมาอยู่ที่ปลอดภัย เนื่องจากข้างในห้างไม่มีผู้ใดพักอาศัยอยู่แม้แต่คนเดียว โดยทุกวันหลังจากพนักงานกลับบ้านหมดแล้ว ผู้ดูแลห้างจะปิดประตูเหล็ก และใส่กุญแจอย่างแน่นหนา ทำให้ไม่มีใครสามารถเข้าไปได้ จึงเกิดเพลิงโหมไหม้อย่างรวดเร็ว  นางจันทิพย์ รังสิปราการ รองปลัดเทศนครตรัง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ เทศบาลนครตรัง ได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ และรถดับเพลิงมากจากทั่วทั้งจังหวัดตรัง แต่การควบคุมเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากติดต่อเจ้าของห้างไม่ได้ และไม่มีกุญแจไขเข้าไปเข้าใน ส่วนการจะตัดสินใจทุบกระจกก็ลำบาก เพราะเกรงจะเกิดปัญหาในภายหลัง แต่ก็ได้พยายามให้เจ้าหน้าที่สกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ล่าสุด หลังเกิดเหตุมาประมาณ 3 ชม. เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงไว้ให้อยู่ในพื้นที่จำกัดได้ แต่ยังคงมีการลุกไหม้บ้างเป็นระยะ สำหรับห้างลีมาร์ทนั้น เดิมมีชื่อว่า ห้างไดมอนด์ สร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังมากในยุคสมัยนั้น เพราะมีลักษณะเป็นห้างสรรพสินค้าแบบครบวงจร ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนผู้บริหาร และใช้ชื่อใหม่ โดยชั้นล่างสุดด้านหน้าเป็นร้านค้าทั่วไป ส่วนด้านหลังเป็นซูเปอร์มาร์เกต ส่วนชั้น 2 เป็นร้านค้าจำหน่ายเสื้อผ้า ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ และชั้น 3 เป็นโกดังเก็บสินค้า เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ประเมินมูลค่าความเสียหายของห้างแห่งนี้กว่า 100 ล้านบาท  และยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้  อย่างไรก็ตาม จากเหตุเพลิงไหม้ห้างชื่อดังในครั้งนี้เป็นวิพากษ์วิจารณ์ของชาวตรังอย่างมาก  เนื่องจากมีจุดเกิดห่างจากเหตุลอบวางระเบิดที่บริเวณตลาดเซ็นเตอร์พอยท์ เพียงแค่ 1 กิโลเมตร และมีเวลาห่างกันประมาณ 10 ชั่วโมง  จนกังวลว่าจะเป็นการก่อการร้าย หรือการสร้างสถานการณ์ที่ไม่ใช่มาจากความขัดแย้งในพื้นที่

กระบี่ - ระทึก! ไฟไหม้วอดร้านขายสินค้าที่ระลึกย่านหาดอ่าวนาง สาวล่าโปเกมอนผ่านมาเจอก่อนรีบแจ้งตำรวจประสานรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ มูลค่าเสียหายประมาณ 10 กว่าล้านบาท โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เมื่อเวลา 03.15 น.วันนี้ (12 ส.ค.) พ.ต.ท.อธิวัฒน์ ไชยศรีสุทธิ์ รอง ผกก.(ป.) สภ.อ่าวนาง นายพันคำ กิตติธรกุล นายก อบต.อ่าวนาง นายสุริยัน ณรงค์กูล นายอำเภอเมืองกระบี่ นายศิริชัย ศรีเหนี่ยง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่ ปภ.เมืองกระบี่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.อ่าวนาง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองกระบี่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย อบต.อ่าวนาง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยกระบี่พิทักษ์ประชา เข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้พื้นที่ ม.2 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่  พบที่เกิดเหตุเป็นย่านการค้าหน้าหาดอ่าวนาง ตรงข้ามประติมากรรมปลาใบ เลขที่ 245/1 หมู่ที่ 2 ต.อ่าวนาง อ.เมือง เป็นห้องแถวชั้นเดียวติดกัน 5 ห้อง เปิดเป็นร้านขายสินค้าของที่ระลึก ทำจากผ้า ไฟกำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็วเนื่องจากวัสดุชิ้นส่วนเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่จึงได้ฉีดน้ำสกัดเพลิงเพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังอาคารใกล้เคียง ใช้เวลาร่วม 3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ สินค้าถูกไฟไหม้ทั้งหมดเสียหายทั้ง 5 ห้อง มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท น.ส.ปิยชาติ แสงแดง อายุ 25 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ช่วงที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ช่วงนั้นตนออกมาเดินเล่นตามจับตัวโปเกมอนอยู่บริเวณริมทางเท้าหน้าหาดอ่าวนาง ขณะนั้นได้สังเกตเห็นกลุ่มควันเกิดขึ้นบริเวณร้านขายสินค้าที่ระลึก ก่อนจะลุกไหม้อย่างรวดเร็ว หลังจากตั้งสติได้ก็รีบวิ่งไปตามเพื่อนชาวต่างชาติที่พักผ่อนอยู่ตึกใกล้จุดเกิดเหตุ ก่อนที่ตนจะขับรถไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ่าวนาง และช่วยประสานรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ  เบื้องต้น ยังไม่ทราบสาเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ต้องรอผลจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจที่เกิดเหตุอีกครั้ง โชคดีขณะเกิดเหตุไม่มีใครอาศัยอยู่ภายในจึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ยังมีที่พังงา และยังมีจุดที่ต้องสงสัยว่ามีระเบิด และเจ้าหน้าที่กำลังเข้าไปเก็บกู้อยู่อีกหลายจุด ติดตามข่าวได้จากสื่อแทบทุกแขนงในบ้านเรา

(เครดิตอ้างอิง : MGR online)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น