วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555

โปสการ์ดถ่ายทอดอารมณ์ คำคมของชีวิต 2




“สิ่งที่แสดงออกมาบนกระจกสำคัญยิ่งกว่าสิ่งที่ผมควรจะเป็น ผมสงสัยว่าคุณตามฟังเรื่องที่พูดทั้งหมดนี้อยู่ไหม กระจกไม่ได้แสดงแก่ผมว่าผมควรจะเป็นอะไร นั่นเป็นความงามของกระจกบานนั้น กระจกบานนั้นเปิดเผยสิ่งที่ผมเป็นออกมาอย่างแม่นยำ ผมอาจจะหลบหลีกมัน ผมอาจจะผละหนีจากมัน ซึ่งทั่วไปแล้วเราจะทำอย่างนั้น แต่หากผมบอกตัวผมเองว่าไม่มีใครเลยที่จะช่วยผมได้ จากนั้นผมมองในกระจกบานนั้นและกระจกนั้นแสดง “สิ่งที่เป็นอยู่จริง” (what is) ไม่ใช่ “สิ่งที่ควรจะเป็น” (what should be) และบางทีผมอาจจะไม่ชอบ “สิ่งที่เป็นอยู่จริง” และนักจิตวิทยาและคนอื่นบอกเราว่า แสดงตัวคุณออกมาอย่างที่คุณเป็นอยู่ในทันที แล้วผมก็หวนกลับมาพึ่งพิงอีก ดังนั้น ผมรู้ตัวตลอดเวลาว่าผู้คนกำลังล้างสมองผมให้ตามแบบอย่างของเขาและผมปฏิเสธ แล้วผมเริ่มมีพลังมหาศาลอย่างเป็นธรรมชาติ ผมคิดว่าอันนี้ชัดเจน ไช่ไหม ผมเห็น “สิ่งที่เป็นจริง” ไม่ใช่ “สิ่งควรจะเป็น” ซึ่งคืออนาคตกาล ผมเห็นปัจจุบันขณะ (the present) อย่างแม่นยำ ปัจจุบันขณะ “ที่เป็นอยู่จริง” บนบานกระจกแห่งความสัมพันธ์ สิ่งที่ผมมองเห็นคือตัวผม ผมไม่ต่างไปจากสิ่งที่แสดงออกในนั้น” ......................ท่าน กฤษณมูรติ


“มนุษย์เกิดมาเพื่อหายใจ กิน นอน และสืบเผ่าพันธุ์ ก็มีสาระเท่านี้แหละครับ ไม่ได้ต่างจากสัตว์ พืช หรือตัวอะมีบา ส่วนทีเหลือคือสิ่งปรุงแต่ง แต่ทว่าเมื่อมองดูชีวิตจากมุมมองของจักรวาล โอกาสที่จะเกิดสิ่งทรงภูมิปัญญาเช่นมนุษย์บนโลกนี้ เป็นเรื่องที่เป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่ง การเกิดเป็นมนุษย์เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นใจอย่างหนึ่ง เพราะมีแต่เราเท่านั้นที่เกิดมาในรูปแบบชีวิตอย่างนี้ และมีแต่เราแต่ละคนที่เป็นตัวตนของเราแบบนี้ โอกาสที่เกิดมาเป็นคนที่มีสมองรู้จักคิด จินตนาการ เป็นประสบการณ์ที่น่าอัศจรรย์ และน่าตื่นเต้นกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่ทำได้น้อยกว่าเรา ดังนั้นเราน่าจะใช้ชีวิตสั้น ๆ ที่เป็นหนึ่งเดียวนี้อย่างมีคุณค่าที่สุด ใช้อย่างมีความหมายและมีความสุข เพราะเมื่อเราตายไป ก็จะไม่มีโอกาสเช่นนี้อีกแล้ว เวลา 60-70 ปี บนโลกนี้มันสั้นนิดเดียวครับ” ........................วินทร์ เลียววาริณ


“หลายคนอาจจะรู้สึกว่า หาพรสวรรค์ของตนเองไม่เจอ ไม่รู้ว่ารักอะไร ชอบอะไร ทำอะไรได้ดี ดิฉันเองค้นพบตัวเองจากงานอาสาสมัครที่ได้ทำ โดยการเล่าประสบการณ์ ความคิด ให้คนอื่นได้มีกำลังใจ ได้เห็นทางออกของชีวิตตนเอง เป็นงานที่ไม่ได้รับเงิน แต่ช่วยให้เราค้นพบตัวเอง เข้าใจตนเอง และในขณะเดียวกันก็มีความสุขที่ทำให้ผู้อื่นได้ค้นพบตนเองเช่นกัน เราจำเป็นที่จะค้นให้เจอสิ่งที่เรารัก ที่เราอยากจะทำอย่างแท้จริง จุดเริ่มต้นก็คือค้นหาสิ่งที่เรารักในสิ่งที่เรากำลังทำ ทำให้ดีอย่างเต็มที่ ใช้มันเป็นจุดเริ่มต้นในการค้นพบพลังสร้างสรรค์ของตนเองในระดับที่ลึกมากขึ้น ความสุขจะต้องเริ่มต้นจากที่นี่ ตรงนี้ เดี๋ยวนี้ ในสิ่งที่เรากำลังทำ กำลังเป็น ทุกอย่างมีแง่มุมด้านดีอยู่ตรงหน้าเราเสมอ เพราะเราปิดใจตัวเองและมองไม่เห็นมัน อย่างน้อยที่สุดคือได้เรียนรู้ ได้ฝึกฝนตัวเอง เพิ่มความชำนาญและความอดทน สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตอยู่ตรงหน้าเรา ขอเพียงเราเปิดใจที่จะรับรู้มัน” ...............................ฐิตินาถ ณ พัทลุง


“บางทีความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษย์พึงมี คือ การค้นพบความจริงใหม่ๆ และกำจัดอคติเดิมๆ ไปเสีย สิ่งที่ดีที่สุดที่อารยธรรมได้ให้ไว้ คือ การที่มนุษย์รู้จักคิดและมีความอดกลั้นได้อย่างแท้จริง สำหรับผู้ที่คิดได้ เปลี่ยนทัศนคติ ทำจิตใจให้โปร่งใส ถือว่าท่านทำดีแล้ว แต่สำหรับผู้ที่ยังคิดไม่ได้ อย่างน้อย หันกลับมาไตร่ตรองอคติที่ตนมีบ้างก็นับว่าดีที่สุดแล้ว”...........................Luthur Burbank

ยิ่งผมทำงานหนักเท่าไหร่ โชคก็วิ่งเข้ามาหาผมมากขึ้นเท่านั้น...................James Thurber

คนตื้นๆ เชื่อในเรื่องโชค คนฉลาดและเข้มแข็ง เชื่อเรื่องเหตุและผล กริยา และปฏิกิริยา...................Ralph Waldo Emerson

ความขยันเป็นมารดาของความโชคดี ........................Benjamin Flanklin

โชคเกิดขึ้นเมื่อ การเตรียมพร้อม มาพบกับโอกาส........................(Anonymous)



“การอธิษฐาน ขาดไม่ได้สำหรับการให้ได้ซึ่งสิ่งที่ต้องการ การอธิษฐาน มีกันทุกชาติ ทุกศาสนา แม้กระทั่งในระบบที่ไม่มีศาสนา เขาก็เรียกสิ่งนี้ว่าพลังแห่งจิตใต้สำนึก ในบางครั้ง ด้วยความคิดเล็กๆ ของการเป็นมนุษย์อาจจะทำให้มองไม่เห็นทาง เมื่อนั้นคุณอาจรู้สึกหมดหนทาง...จงอธิษฐาน เพื่อให้เบื้องบนที่เห็นทางได้มากกว่าเรา เห็นภาพรวมที่เราอธิษฐาน ช่วยเปิดทางที่เรามองไม่เห็น เพื่อก้าวสู่เป้าหมายต่อไป ด้วยตัวของเราเอง................... บัณฑิต อึ้งรังสี

ผมเห็นรูปปั้นเดวิด ก่อนที่จะเริ่มต้นแกะสลักมัน ผมเพียงเอาสิ่งที่ไม่ใช่เดวิดออกไปแค่นั้นเอง ..................ไมเคิล แองเจโล่

ความสงบสุขในจิตใจคือคุณธรรมขั้นสูงสุดของมนุษย์ มันคือสภาวะที่ปกติและเป็นกลาง จงถามตัวเองว่า ”คุณต้องการที่จะได้ชื่อว่าทำถูกต้องหรือคุณต้องการที่จะมีความสุข”

สุขภาพ ความสุข และผลการทำงานที่ดีจะเริ่มปรากฏ เมื่อคุณควบคุมความคิด การกระทำ และสถานการณ์รอบตัวได้จริง

..........................Brian Tracy

Tip :

สมองของมนุษย์มีน้ำเป็นส่วนประกอบประมาณ 75% และใช้ออกซิเจนที่ร่างกายหายใจมากถึงราว 20% ของออกซิเจนทั้งหมด

ชอบมีคนเปรียบเทียบการคิดกับหลอดไฟ แต่ถ้าเราเอาสมองมาปั่นไฟกันจริงๆ สมองของเราจะให้พลังงานเท่ากับหลอดไฟขนาด 10 วัตต์เท่านั้นเอง

หัวใจจะฉีดเลือดขึ้นไปเลี้ยงสมองเพื่อการคิดนาทีละ 750 มิลลิลิตร

น้ำหนักสมองของคนโดยเฉลี่ยคือ 1,300-1,400 กรัม



วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555

Karaoke on The Blog Season 1 ร้องเพลงบนบล็อก


ปลายปีอย่างนี้ หลายคนกำลังมองหาสถานที่ไปพักผ่อนต้อนรับลมหนาวและเคาน์ดาวน์ข้ามปี บางคนก็ได้มีการตระเตรียมสถานที่ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางเอาไว้แล้ว แต่สำหรับบางคนที่ยังไม่ได้เตรียมการไว้หรือยังไม่มีจุดหมายปลายทางที่แน่ชัด ก็คงจะจองสถานที่ไม่ทันเสียแล้ว คงต้องพักผ่อนอยู่ในกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร ฉลองปีใหม่ในเมืองกรุงกันไปอีกปีนึง ซึ่งก็มีหลายสถานที่จัดงานเคาน์ดาวน์เป็นประจำอยู่แล้ว กรุงเทพฯ คงถนนโล่งขึ้นเยอะในช่วงปีใหม่นี้ 

ช่วงสิ้นปีอย่างนี้คงมีการจัดอันดับหรือสรุปเหตุการณ์ในด้านต่างๆ ที่เกิดขึ้นในรอบปี เพื่อประมวลความทรงจำ จากหลายๆ สื่อ หลายๆ สถาบัน ตามธรรมเนียมปฏิบัติ

พักเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ ความตึงเครียดของสังคมรอบข้าง แล้วมาร้องเพลงกันเถิด เพลงในความทรงจำ ความประทับใจ ในแบบฉบับ Karaoke on The Blog  ซึ่งผู้เขียนรวมรวมบทเพลงสากลที่มีความไพเราะ ที่อยู่ในความทรงจำ ประทับใจ ของผู้เขียนและใครอีกหลายๆ คน ใครจะลองนึกประมวลภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรอบปีไปด้วยก็ได้ประกอบเพลงคาราโอเกะทั้งหมดนี้


 







 

 








 
 
 


วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555

10 สุดยอดปรากฏการณ์ทางการตลาดแห่งปี 2012

อันดับ 10. อภิมหาช็อปปิ้งมอลล์แห่งใหม่ ย่านศรีนครินทร์ ด้วยแนวคิดรักษ์โลกสุดอินเทรนด์ ธัญญะ ช็อปปิ้ง พาร์ค Thanya Shopping Park แหล่งช้อป ชิลล์ สไตล์ Green+Eco+Healthy ภายใต้ คอนเซ็ปต์ Modern Eco!

ธัญญะ ช็อปปิ้ง พาร์ค เป็นโครงการห้างฯแบบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพลังงาน แบ่งออกเป็น 5 อาคาร โดย 3 อาคารจะเป็นแบบ Open Air เปิดรับลม ไร้เครื่องปรับอากาศ โดยมีการจัดการด้านระบบลมและความเย็น วางรูปแบบอาคารตามทิศทางลม เพื่อให้ลมและอากาศไหลเวียน อากาศกำลังพอดี และสามารถเดินตากแอร์กับอีก 2 อาคารที่เหลือ ซึ่งทั้ง 5 ตึก มีทางเชื่อมถึงกัน Ozone Square ลานกิจกรรมหลักของ ธัญญะ ช็อปปิ้ง พาร์ค เป็นสถานที่จัดงานเทศกาล พร้อมมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินต่างๆ และ Rooftop Garden สวนบนดาดฟ้า ซึ่งจะเป็นทั้งพื้นที่จัดกิจกรรม ลานกีฬา และสวนสมุนไพร โดยให้นักเรียน นักศึกษา หรือชุมชนที่สนใจ เข้ามามีส่วนดูแลเพาะปลูก โดย Thanya Shopping Park จะจัดเตรียมระบบต่างๆ ไว้ให้ กระทั่งถึงเวลาเก็บผลผลิต ก็สามารถนำออกจำหน่ายใน Green Thanya Market ตลาดสดสุดสะอาด พร้อมนานาของอร่อยของช็อปปิ้งมอลล์แห่งนี้ Eco กันทุกเม็ด! Thanya Shopping Park มีเพียง 3 ชั้น นอกจากจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ธัญญะ ช็อปปิ้ง พาร์ค ยังเป็นมิตรกับนักธุรกิจตัวเล็กๆ ให้มีโอกาสมาเปิดและแชร์ไอเดีย เราจึงเห็นร้านแปลกตาและน่าเข้ามากมาย ที่น่าสนใจก็คือ ร้านเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ร้านดาว คอฟฟี่ กาแฟลาวชื่อดังสาขาแรกในไทย ร้าน All of Us และยังครบถ้วนด้วยสินค้าและบริการที่หลากหลาย อาทิ แฟชั่น ร้านอาหาร ต้นไม้ สัตว์เลี้ยง สินค้าเพื่อสุขภาพ ธนาคาร สถาบันทางการเงิน คลีนิกทันตกรรม สปา เสริมความงาม ของตกแต่งบ้าน อุปกรณ์ไอที อุปกรณ์กีฬา โรงเรียนกวดวิชาและเสริมทักษะ คาร์แคร์ และ CP Food Market ซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าห้างฯ เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง

โดยรวมของ ธัญญะ ช็อปปิ้ง พาร์ค มีพื้นที่สีเขียว มากถึง 50% ภายใต้พื้นที่กว่า 70,000 ตารางเมตร ร่มรื่นด้วยสวนแนวตั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก กระจายอยู่ตามอาคารต่างๆ รวมถึงสวนแนวราบ และต้นไม้ขนาดใหญ่ และถือเป็น Eco Shopping Park แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย โครงการที่มุ่งเน้นให้ทุกคนห่วงใยสิ่งแวดล้อม พร้อมตอบสนองไลฟ์สไตล์ในการช็อปปิ้งแบบ modern eco

กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่ กับโครงการไลฟ์สไตล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียและได้รับการรับรองจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยว่าเป็นหนึ่งในอเมซิ่ง ไทยแลนด์ (Amazing Thailand) แห่งใหม่ล่าสุด“เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ (ASIATIQUE, The Riverfront)” สัมผัสกับสีสันแห่งประวัติศาสตร์ เสน่ห์ย่านการค้าที่พร้อมเปิดตัวกว่า 1,500 ร้าน ความอร่อยที่มีระดับจากหลากหลายร้านอาหารชื่อดังกว่า 40 ร้าน โชว์พิเศษต่างๆ ที่พร้อมสร้างความประทับใจ จาก 4 ย่าน ได้แก่ ย่านริมน้ำ, ย่านโรงงาน, ย่านกลางเมือง และย่านเจริญกรุง ปิดท้ายด้วยทัศนียภาพแบบพาโนรามาพร้อมทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ยาวที่สุดในเมืองไทยกว่า 300 เมตร สู่แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ตั้งอยู่ที่ ตรงข้ามกับซอยเจริญกรุง 93 หรืออยู่ในอาณาบริเวณช่วงซอยเจริญกรุง 72-76 จุดนัดพบแห่งใหม่ เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.facebook.com/asiatique.thailand

อันดับ 9. คนแห่ชมงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2012 ยอดจองทะลุ 85,904 คัน  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนยังคงเดินทางมาชมงาน มอเตอร์เอ็กซ์โป 2012 ที่เมืองทองธานีกันอย่างคับคั่ง โดยงานจัดขึ้นตั้งแต่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม ตลอด 12 วันที่ผ่านมา มียอดผู้สนใจจองรถยนต์ในงาน รวมแล้ว 85,904 คัน ทุบสถิติยอดจองในงานมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ในรอบ 29 ปี ที่เคยจัดมา



ด้านนายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ผู้จัดงาน Motor Expo เปิดเผยว่า การจัดงานครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเกินเป้าหมาย เพราะยอดจองรถสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้่งไว้กว่า 5 หมื่นคัน ทำให้ยอดเงินสะพัดในงาน 9 หมื่นล้านบาท สูงที่สุดเป็นประวัติศาสตร์นับตั้งแต่จัดงานมา 29 ปี นอกจากนี้ยังมีผู้เข้าชมงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.6 อีกด้วย เมื่อเทียบกับปีก่อน

ทั้งนี้ เป็นยอดจองรถคันแรก ร้อยละ 40, รถอีโคคาร์ ร้อยละ 20 และรถกระบะ ร้อยละ 10 ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายลดภาษีรถคันแรกของรัฐบาล และปัญหาน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ประชาชนต้องมาซื้อรถในปีนี้



อันดับ 8. เปิดตัวรถยนต์ใหม่ๆ เพียบ (จริงๆ ในปีนี้มีเปิดตัวหลายยี่ห้อ อาทิ Suzuki Swift , Mitsubishi Mirage, Nissan Sylphy แต่ขอนำมาลงเป็นตัวอย่างแต่เพียงยี่ห้อรุ่นเดียวคือ Honda Brio เพราะเนื้อที่จำกัด)

Honda Brio รถอีโคคาร์คันแรกจากค่ายฮอนด้า มาพร้อมกับราคาน่าดึงดูดใจให้คนรักรถได้เข้ามาจับจองกันเป็นเจ้าของ ในงาน motor show 2012 หรือ งานมหกรรมรถยนต์บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 33 สำหรับรถอีโคคาร์ราคาประหยัดรุ่นนี้ ทางบริษัทฮอนด้าต้องการแสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นของตัวรถ ด้วยรูปทรงกะทัดรัด ดีไซน์ด้านหน้าเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมคู่ สะดุดตาด้วยไฟหน้าทรงกลมขนาดใหญ่กับกระจังโครเมียม ด้านข้างให้ความรู้สึกของการทะยานยามโลดแล่นไปข้างหน้า ขณะที่ด้านหลังเน้นความเพรียวลม และดีไซน์ที่ทันสมัย โดยลำตัวของรถค่อนข้างสั้น ซึ่งจะช่วยให้ขับขี่คล่องตัว และสามารถจอดรถได้สะดวก นอกจากนี้ ฮอนด้า ยังเลือกที่จะลดความสูงและขยายความกว้างให้กับ Honda brio รวมทั้งตัดทุกสิ่งที่สิ้นเปลืองเนื้อที่ออกไป ทำให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารไม่เล็กอย่างที่คิด ที่นั่งด้านหน้าเป็นทรงสปอร์ต มีหมอนรองศีรษะช่วยลดแรงกระแทกอีกชั้นหนึ่ง และด้วยความเป็นแฮทช์แบ็ก 5 ประตู จึงสะดวกในการเก็บของและเคลื่อนย้ายสัมภาระหลังรถอีกด้วย

สำหรับ Honda brio มีให้เลือก 2 รุ่น คือ S กับ V ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ i-VTEC 4 สูบ ความจุ 1.2 ลิตร ที่ให้พลัง 90 แรงม้า สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพิลง E20 และประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึง 20 กิโลเมตรต่อลิตร อีกทั้งปล่อยไอเสียสะอาดตามมาตรฐานยูโร - 4 ประสิทธิภาพของตัวถังยังผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากการทดสอบการชน ทั้งด้านหน้าและด้านข้าง

นอกจากรูปลักษณ์ภายนอก และสมรรถนะของเครื่องยนต์แล้ว Honda brio ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยทั้งแบบเชิงป้องกันและเชิงรับ อาทิ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) พร้อมเข็มขัดนิรภัยชนิดปรับความดึงอัตโนมัติ และถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ใน Honda brio ทุกรุ่น ซึ่งนับว่าเป็นการยกมาตรฐานด้านความปลอดภัยของรถยนต์กลุ่มอีโคคาร์

ส่วน ออพชั่นอื่น ๆ ที่น่าประทับใจของ Honda brio ทุกรุ่น อาทิ พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS ช่วยให้การขับขี่รู้สึกเบามือที่ความเร็วต่ำ และรู้สึกมั่นคงที่ความเร็วสูง, ที่นั่งหลังพับเก็บได้, พวงมาลัยปรับระดับได้, ไฟสัญญาณประหยัดเชื้อเพลิง ECO สีเขียว (ที่จะสว่างเมื่อการขับขี่อยู่ในโหมดประหยัดเชื้อเพลิง ช่วยให้รู้ว่าการขับขี่ขณะนั้นเป็นอย่างไร), ระบบปรับอากาศ, สัญญาณเตือน (สำหรับเบรกมือ กุญแจ ไฟหน้าและเข็มขัดนิรภัย) ระบบล็อกป้องกันเด็ก, กุญแจ WAVE ระบบ Immoblizer, เข็มขัดนิรภัยและไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED, เครื่องเสียงแบบ 2 DIN ออกแบบมาให้แลดูกลมกลืนกับแผงหน้าปัด ประกอบด้วยช่องต่อ USB และ AUX ฯลฯ สีสันของ Honda brio มีเลือก 5 เฉด ได้แก่ เขียวเฟรชไลม์ เมทัลลิก, ขาวทาฟเฟต้า, ฟ้าเซรูเลียน(เมทัลลิก), เงินอลาบาสเตอร์(เมทัลลิก) และดำคริสตัล เพิร์ล โดยมีราคาจำหน่าย ดังนี้

รุ่น S (เกียร์ธรรมดา) ราคา 399,900 บาท

รุ่น V (เกียร์ธรรมดา) ราคา 469,500 บาท

รุ่น V (เกียร์อัตโนมัติ CVT) ราคา 508,500 บาท

ทั้งนี้ ทางฮอนด้าตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่า Honda brio จะสามารถสร้างยอดขายภายในระยะเวลา 1 ปี หลังการเปิดตัวไปในงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่แล้วได้ทั้งหมด 40,000 คัน โดยมี หมาก ปริญ สุภารัตน์ และ ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์นันด์ สองนักแสดงรุ่นใหม่สุดฮอต มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ช่วยดันยอด Honda brio อีกแรงหนึ่ง


อันดับที่ 7. ทำเอาวงการสั่นสะเทือน เมื่อเซเลบริตี้ระดับโลกตัวจริงอย่าง ปารีส วิตนีย์ ฮิลตัน นางแบบ นักแสดง และนักร้องชาวอเมริกันบินลัดฟ้ามาถึงเมืองไทย เพื่อร่วมงานปาร์ตี้เปิดตัวปรากฏการณ์ทางดนตรีระดับโลกบนเวทีกลางทะเลครั้งแรก ในเมืองไทย “ซีดัคทีฟ เอเลเมนท์”

เดินทางมาไทยเป็นครั้งแรกใช่ไหม?

“นี่เป็นการเดินทางมาประเทศไทยครั้งแรกอย่างเป็นทางการของฉันค่ะ รู้สึกประทับใจกับประเทศไทยมาก”

อะไรคือสิ่งที่อยากทำที่สุด สำหรับการมาครั้งนี้?

“ฉันตั้งตารอคอยที่จะได้เห็นหาดทรายและแสงแดด ที่ชายหาดของทะเลไทย และหวังว่าจะมีโอกาสได้ไปเที่ยวภูเก็ต รวมไปถึงอยากร่วมสนุกกับทุก ๆ คนในเทศกาลดนตรี ซีดัคทีฟ เอเลเมนท์ ด้วยค่ะ”

มาครั้งนี้ประทับใจอะไรบ้าง?

“ตั้งแต่มาถึงฉันรู้สึกประทับใจกับรอยยิ้ม และการให้การต้อนรับอย่างดีเยี่ยมของเจ้าบ้าน ต้องขอขอบคุณทุกคนจริง ๆ”

ถ้ามีเวลาอยู่เมืองไทยนานกว่านี้ อยากจะทำอะไรบ้าง?

“อยากมีเวลามากกว่านี้ค่ะ จะได้ไปเที่ยวชมวัดและปราสาท ราชวัง และไปชอปปิงด้วย เพราะได้ยินว่าดีไซเนอร์ไทยมีฝีมือและมีชื่อเสียงมาก รวมไปถึงอยากมีโอกาสได้ไปทะเลไทยด้วย เพราะรู้มาว่าที่ภูเก็ตมีรีสอร์ทสวย ๆ เยอะมาก ฉันอดใจไม่ไหวจริง ๆ ค่ะ”

(จะไม่ให้ชื่นชมดีไซเนอร์ไทยได้ไง เพราะชุดที่ใส่แว่ว ๆ ว่าเป็นคอลเลกชั่นใหม่ ๆ ยี่ห้อ ’ขวัญข้าว“KWANKAO ที่ไม่ใช่ใครอื่นไกลแต่เป็นฝีมือคนบันเทิงอย่าง สาวแพง-ขวัญข้าว นี่เอง)

ได้ลองอาหารไทยบ้างหรือยัง?

“ฉันชอบอาหารไทยค่ะ วันนี้มีโอกาสทานผัดไทยและข้าวผัดแล้ว อร่อยมากค่ะ”

คนส่วนใหญ่จะมองว่า “ปารีส ฮิลตัน” เป็นเซเลบริตี้ที่มีชื่อเสียงของฮอลลีวูด ตัวจริงของคุณจริง ๆ เป็นอย่างไร?

“ตอนนี้ฉันกำลังโฟกัสกับธุรกิจของฉันมากกว่าค่ะ ฉันมองตัวเองว่าตัวเองเป็นนักธุรกิจสาวมากกว่ามองว่าตัวเองเป็นเซเลบริตี้หรือคนดังนะ”

สุดท้ายอยากฝากอะไรถึงแฟน ๆ ชาวไทยหรือคนที่ติดตามผลงานบ้าง?

“ขอบคุณทุกคนที่นี่ สำหรับความรักและการสนับสนุนนะคะ ขอบคุณสำหรับรอยยิ้มที่อบอุ่นที่มีค่ามากกว่าคำพูดใด ๆ ด้วยค่ะ และหวังว่าฉันจะได้มีโอกาสเจอทุก ๆ คนอีกนะคะ”

การได้คุยกับสาว ปารีส ฮิลตัน ครั้งนี้ ทำให้เรารู้ว่าเธอไม่ได้เป็นแค่ไฮโซสาวที่ใคร ๆ รู้จัก แต่เธอเป็นหญิงสาวที่เฟรนด์ลี่เป็นกันเองมากคนหนึ่ง รวมถึงรู้เรื่องราวเกี่ยวกับประเทศไทยเยอะทีเดียว อย่างนี้มีหวังเข้าไปอยู่ในใจแฟนคลับมากขึ้นแน่นอนแล้วสิเนี่ย!.

อันดับที่ 6.เจ้าแม่พรีเซ็นเตอร์ อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ ค่าตัวงาน Event 6 หลักปลายๆ

นอกเหนือจากงานละครที่ "อั้ม-พัชราภา" ครองบัลลังก์นางเอกเซ็กซี่เบอร์หนึ่งของช่อง ที่มีผลงานละครมาเหยียบ 40 เรื่อง งานอดิเรกที่เป็นการรับงานโชว์ตัวตามงานอีเว้นท์ต่างๆ แล้ว งานที่รับทรัพย์เป็นกอบเป็นกําที่ทําให้กลายเป็นเศรษฐินีก็คืองานพรีเซนแตอร์โฆษณา ที่ "อั้ม-พัชราภา" ได้รับฉายาว่า "พรีเซนเตอร์ตัวแม่" โดยเฉพาะสินค้าทางด้านความงาม และการเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาของสาวอั้ม ก็ทําให้สินค้าติดตลาดได้ตามคาด อย่าง "ซันซิล" ที่ต้องการจะเปลี่ยนภาพลักษณ์สินค้าจากที่เคยดูคร่ำครึมาเป็นดูมีชีวิตชีวา สาวอั้มก็ทําให้สินค้าตัวนี้สามารถยึดบัลลังก์ผู้นําในตลาดแชมพูและครีมนวดในสมรภูมิที่แข่งขันกันอย่างรุนแรงไว้ได้

เช่นเดียวกับ "มิสทิน" ที่สาวอั้มครองใจสินค้าตัวนี้จนได้เป็นพรีเซนเตอร์ของมิสทินมายาวนานถึง 7 ปีแล้ว เพราะที่ผ่านมาไม่ว่ามิสทินจะเพิ่มจํานวนพรีเซนเตอร์อีกกี่คน หรือคัดใครออกไป แต่สาวอั้มคนนี้ก็ยังยืนหยัดอยู่กับมิสทินได้ยาวนานกว่าใคร  แค่ปีเดียว สาวอั้มก็รับเละจากโฆษณามิสทินถึง 2 ชิ้น เพราะหลังจากที่เป็นพรีเซนเตอร์แป้งพัฟมิสทินมาแล้วชิ้นหนึ่ง ก็ยังเพิ่มอีกชิ้นเป็นโลชั่นบํารุงผิวมิสทิน ที่สนนราคาค่าตัวชิ้นละ 5 ล้านบาท ทําให้สาวอั้มฟันจากมิสทินไปเหนาะๆ อย่างน้อย 10 ล้าน
ย้อนไปก่อนหน้านี้ ว่ากันว่าเฉพาะปี 2548 สาวอั้มมีเงินสดในบัญชีเงินฝากธนาคารไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ขณะที่ ปี 2549 รายได้ของเธอพุ่งขึ้นตามความฮอต ซึ่งไม่น่าจะต่ำกว่า 50 ล้านบาท และก็เป็นไปได้ที่ปี 2550 เธอจะยังรักษาระดับรายได้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท หรืออาจจะมากกว่านั้น  ทรัพย์สมบัติเท่าที่เปิดเผยได้ของสาวอั้ม มีบ้านหลังงามราคา 70 ล้านบาท รถเบนซ์ 2 คัน รถเล็กซัส 1 คัน และรถยนต์สําหรับพ่อ-แม่ แถมสาวอั้มยังเคยสร้างสถิติค่าโชว์ตัวสูงสุด 12 ล้านบาทที่ประเทศอเมริกา ในการเดินทางไปโชว์ตัวเป็นเวลา 2 สัปดาห์  ขณะที่ปีนี้ สาวอั้มแค่โชว์อาบน้ำนม และลงทุนสวมชุดเซ็กซี่ สีขาวอวดเนินอก แค่งานนี้งานเดียวก็รับเงินแสนไปเหนาะๆ แถมด้วยการสร้างสถิติใหม่รับงานเดินแบบในงานแฟชั่นโชว์วันเดียว จ๊อบเดียว ด้วยค่าตัวสูงสูดถึง 6 แสนบาท  นอกจากนี้ ปี 2552 สาวอั้มยังรับทรัพย์จากการเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ 12 Plus ร่วมกับหนุ่มๆ วง Super Junior เป็นพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์หมากฝรั่งไม่มีน้ำตาล "ไทรเด้นท์ รีแคลเด้นท์"  ปัจจุบันก็ขยับชั้นขึ้นมาเป็นเถ้าแก่เนี้ยเอง โดยทําธุรกิจน้ำหอมของตัวเองในชื่อ "Sexy Me By Patchrapa" สาวอั้มจึงกลายเป็นดาราที่มีรายได้รวมต่อปีมากเป็นอันดับ 1 ของวงการบันเทิง ล่าสุด ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ รถยนต์ Toyota Altis ร่วมกับนักแสดงรุ่นน้องต่างช่อง โฬม พัชฏะ รับทรัพย์หลักล้าน ตอกย้ำความเป็นเจ้าแม่โฆษณาและงานอีเว้นต์ และกลับมาทวงบัลลังก์นางเอกเบอร์ 1ช่อง 7 ได้สำเร็จ


อันดับที่ 5.งานแกรมมี่ วันเดอร์แลนด์ มหกรรมบันเทิงยกค่ายครั้งยิ่งใหญ่
แถลงข่าวไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับโปรเจกต์ยักษ์แห่งปี ที่รวมสุดยอดความบันเทิงครบวงจร โชว์ศักยภาพความเป็นหนึ่ง กับงาน ''GRAMMY WONDERLAND'' ที่สุดของมหกรรมบันเทิงเมืองไทย จัดหนัก ยกกันมาทั้งค่าย ขนขบวนพาเหรดศิลปิน ดีเจ และนักแสดงชื่อดังมาสร้างความบันเทิง งานนี้แห่กันมาแถลงข่าวแบบมันหยด หมดตึก นำโดยผู้บริหาร อาทิ คุณไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม, คุณบุษบา ดาวเรือง, คุณสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา, คุณกริช ทอมมัส, คุณธนา เธียรอัจฉริยะ, คุณฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม, คุณระฟ้า ดำรงชัยธรรม, คุณถกลเกียรติ วีรวรรณ, คุณเกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน, คุณยุทธนา บุญอ้อม พร้อมด้วยศิลปินกว่า 60 ชีวิต อาทิ ''เบิร์ด'' ธงไชย แมคอินไตย์, คริสติน่า อากีล่าร์, ใหม่ เจริญปุระ, มาช่า, หนึ่ง ณรงค์วิทย์, กอล์ฟ พิชญะ, นัท มีเรีย, อ๊อฟ ปองศักดิ์, เต๋อ ฉันทวิชช์, เปาวลี พรพิมล, ไผ่ พงศธร, Zeal, Potato, เตชินท์ ดีเจจาก เอ-ไทม์ มีเดีย อาทิ อ้อม สุนิสา+เชาเชาว์+อ๋อง+ดาด้า+นุ้ย+ต้นหอม, ศิลปินเดอะสตาร์ อาทิ รุจ+เซน+นท+แกรนด์ ฯลฯ โดยทั้งหมดยืนยันลงชื่อชวนกันมามัน กับ 4 วันแบบเต็มๆ แน่นอน ในวันพฤหัสบดีที่ 4 - วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคมนี้ ที่ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2-3

งานนี้ พี่เล็ก บุษบา ดาวเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงที่มาของการจัดงานครั้งนี้ว่า “สำหรับงานแกรมมี่วันเดอร์แลนด์ครั้งนี้ เกิดจากการพูดคุยกันของ พวกเราพี่ๆ น้องๆ ในแกรมมี่ กับคุณไพบูลย์ โดยเห็นตรงกันว่า เราก็อยู่ในวงการนี้มาสามสิบปีแล้ว มันมีเรื่องราว มีความสุข ความประทับใจ จากงานที่เราทำออกไป ทำให้คนดูคนฟังมีความสุข เราเองคนทำงานก็มีความสุข ที่ได้ทำงานเหล่านี้ออกไป จากตอนแรกๆ เราทำเพลง ต่อมาก็ขยายออกไปเป็นอย่างอื่นอีก ทั้งรายการทีวี วิทยุ ละคร หนัง หนังสือ เว็บไซต์ กระทั่งแอพพลิเคชั่นต่างๆ มันยาวนานมาหลายรุ่น เราก็เลยมาดูว่าตลอดสามสิบปีนี่ เราอยากเอาสิ่งที่เราทำมา มาจัดขึ้นเป็นงานๆ หนึ่ง รวมเรื่องราวของคนทุกรุ่น ตั้งแต่ยุคแรกก่อตั้งมาจนวันนี้เลย อยากให้คุณพ่อ คุณแม่พาลูกพาหลานไปดูกันได้ ไปรับความสุขความบันเทิงร่วมกัน ไปดูศิลปินที่ฮิตๆ ตอนสมัยคุณพ่อคุณแม่จีบกัน พอมาถึงวันนี้ลูกๆ ก็ยังได้เย้วๆ กับศิลปินอีกรุ่นหนึ่ง มันน่าจะเป็นภาพที่ดูผูกพันธ์กันดี ก็เลยออกมาเป็นงาน “แกรมมี่ วันเดอร์แลนด์” มันหยด หมดตึกมหกรรมบันเทิงยกค่ายครั้งยิ่งใหญ่อย่างที่เห็นกันนี้ค่ะ” พบ กับเบื้องหลังความสำเร็จอันหลากหลายตลอด 30 ปี ของแกรมมี่ 4 วันแบบเต็มๆ ในงาน ''GRAMMY WONDERLAND'' ในวันพฤหัสบดีที่ 4 - วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคมนี้ ที่ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2-3 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองบัตรได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา หรือคลิกดูรายละเอียดได้ที่ www.thaiticketmajor.com, www.grammywonderland.com และwww.atimemedia.com หรือโทร. 0-2262-3456 บัตรราคา 300 บาท สำหรับผู้ใหญ่ และ บัตรราคา 100 บาท สำหรับเด็กที่มีส่วนสูงต่ำกว่า 120 ซม. พร้อมโปรโมชั่น สุดพิเศษในการซื้อบัตร 5 ใบในราคาเดียวกันแถม 1 ใบ ภายในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ เริ่มจำหน่ายบัตร ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป


อันดับที่ 4. งานเปิดตัว i-phone5 สรุปราคาเครื่องในประเทศทั้งสีขาวและดำ
ราคา iPhone 5 เครื่องศูนย์ของ AIS, DTAC, TRUEMOVE H (ราคาเท่ากัน)

• 16 GB : 24,550 บาท

• 32 GB : 28,250 บาท

• 64 GB : 31,950 บาท

ราคา Appple Store (มีข้อเสียคือต้องรอ 1 สัปดาห์ แต่ได้ราคาถูกที่สุด) >วิธีการสั่งซื้อ<

• 16 GB : 22,900 บาท

• 32 GB : 26,500 บาท

• 64 GB : 29,900 บาท

ราคาเครื่องหิ้ว @ มาบุญครองอัพเดทล่าสุด (เครื่องศูนย์เริ่มมีวางขายแล้ว)

• 16 GB : 25,300 บาท

• 32 GB : 28,000 บาท

• 64 GB : 32,300 บาท

ราคาเครื่องนอก Unlock ล่าสุด (ดูราคาทุกประเทศที่วางจำหน่าย)

สเปค iPhone 5 (ไอโฟน 5)

- จอแสดงผลกว้าง 4 นิ้ว แบบ Retina Display Capacitive Touchscreen ความละเอียด 1136x960 พิกเซล (326 ppi)
- ระบบประมวลผลแบบ Dual-Core Processor ความเร็ว 1.0 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพ (GPU) PowerVR SGX 543MP3
- ระบบปฏิบัติการ iOS 6
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 1GB
- กล้องดิจิตอลด้านหน้า ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิตอลด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ Full HD 1080p
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16GB, 32GB และ 64GB
- รองรับเครือข่าย 2G, 3G และ 4G
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth 4.0, GPS (A-GPS)
- มีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ Black & Slate และ สีขาว White & Silver



อันดับที่ 3. เปิดตัวน้ำอัดลมประเภทน้ำดำ ยี่ห้อใหม่ “est” cola

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่เราได้ยินข่าวลือทีผ่านมาว่า ทางเสริมสุขจะผลิตสินค้าตัวใหม่เป็นแบรนด์ของตัวเอง โดยยกเลิกการต่อสัญญากับแบรนด์เก่า จึงทำให้ตลาดเครื่องดื่มในบ้านเราฮือฮากันมาอยู่พักใหญ่ ว่าทางเสริมสุขจะผลิตอะไรออกมาสู้ตลาด และในวันนี้ก็เฉลยแล้ว ทางเสริมสุขก็พร้อมก้าวกระโดดผลักดันแบรนด์ใหม่ภายใต้สโลแกน “สุดขั้วในแบบคุณ” กับชื่อแบรนด์ใหม่ว่า “est” (เอส) ที่หวังเจาะตลาดวัยรุ่นไทยสายพันธุ์ซ่า และพร้อมผลักดันออกสู่ตลาดโลก ซึ่งในวันนี้ทางเสริมสุขได้จัดงานสุดขั้วเปิดตัวเอสอย่างเป็นทางการไปกันที่โรงแรม The Okura Prestige Bangkok เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา ใกล้ถึงวันที่ 1 พ.ย.55 เข้ามาเท่าไหร่ คู่แข่งศึกน้ำดำในไทย แต่ละค่ายต่างงัด “กลยุทธ์” กันมาเตะตัดขา ปาดหน้าเค้กคู่แข่งไม่ต่างจากสมรภูมิชาเขียว ที่ตัดหน้ากันแถลงข่าวเปิดตัวกลยุทธ์การตลาดระหว่างโค้ก (โคคา โคล่า) กับเป๊ปซี่แค่วันเดียว การตัดหน้ากันออกแคมเปญทางการตลาดของโค้ก ซีเดย์ วันโค้ก สุขซ่าสดชื่อทั่วไป “คาราวานแจกโค้ก 1 ล้านขวดทั่วประเทศ” วันเดียวกันที่เป๊ปซี่กำลังนั่งแถลงกลยุทธ์การตลาดที่รอยัล พารากอน ฮอลล์

การออกทีเซอร์ของ เอส “est” (กับคำพูดว่า..เอสทั่วประเทศเร็วๆนี้) น้ำดำยี่ห้อใหม่ของเสริมสุข ที่ก่อนหน้านี้ทายกันว่าเสริมสุขจะทำน้ำดำหรือไม่ หรือจะใช้แบรนด์ มาย โคล่า (My Cola) ธุรกิจน้ำดำที่อยู่ในพอร์ตของบริษัท เฟรเซอร์แอนด์นีฟ (เอฟแอนด์เอ็น) อีกธุรกิจที่เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี แห่งทีซีซีกรุ๊ป ไปฮุบมาได้จากเมืองลอดช่องมายังไม่สะเด็ดน้ำ หลังจากฮุบเสริมสุขมาก่อนหน้านี้ พอฟันธงว่าเสริมสุขจะทำน้ำดำ ก็ทายกันต่อว่าจะใช้ชื่ออะไร มีข่าวออกมาว่าจะใช้ชื่อ est แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก ความนิ่งคือคำตอบ ทว่าสุดท้ายเสริมสุขก็ใช้ชื่อนี้จริงๆด้วย นอกจากการทีเซอร์ในยูทูป เสริมสุขยังยอมจ่ายค่าโฆษณาช่วงไพร์มไทมส์ นาทีละ 3-5 แสนบาท (ขึ้นอยู่กับช่องในฟรีทีวี) เพื่อป่าวประกาศว่าจะมี “ตาอยู่”เข้ามาชิงชัยในตลาดน้ำดำ ไหนจะบิ๊กโคล่า สิงห์น้ำดำภูธร ที่รุกกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งแบบอินเตอร์ๆ กับแคมเปญ “บิ๊กโคล่า ท้าดวลจุดโทษกับโจ ฮาร์ต” สุดยอดผู้รักษาประตูอันดับต้นๆของโลก ด้วยงบการตลาดกว่า 160 ล้านบาทปูพรมทั้งในไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย

อันดับที่ 2 กลุ่มเสี่ยเจริญ ณ ไทยเบฟ และเบอร์ลี่ยุคเกอร์ ซื้อดะ ทุกอย่างที่ขวางหน้า ซื้อถือและฮุบกิจการแบบเบ็ดเสร็จ งูกินหาง กินกลาง ตลอดตัว จับตาศึก 3 ยักษ์ใหญ่ชิงตลาดเบียร์เอเชีย′ไทยเบฟฯ-ไฮเนเก้น-คิริน′เปิดฉากแย่งหุ้นเอฟแอนด์เอ็น เปิดแผนเสี่ยเจริญไล่ฮุบดะ ตั้งแต่เสริมสุขถึงที่เวิ้งนาครเขษม คาดซื้ออีกธุรกิจอาหาร หวังต่อยอดธุรกิจ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ระบุว่า บริษัท เฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ (เอฟแอนด์เอ็น) ได้ว่าจ้างโกลด์แมน แซคส์ เป็นผู้ศึกษาข้อเสนอของบริษัทไฮเนเก้น ผู้ผลิตเบียร์ระดับโลกจากเนเธอร์แลนด์ ที่ขอซื้อหุ้นที่เอฟแอนด์เอ็นถืออยู่ใน บริษัทเอเชีย แปซิฟิก บริวเวอรรี (เอพีบี) ผู้ผลิตไทเกอร์เบียร์ ในราคา 6,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ทั้งนี้ หากเอฟแอนด์เอ็นยอมรับการเสนอขอซื้อหุ้นครั้งนี้ จะส่งผลให้ไฮเนเก้นสามารถเสนอขอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดเพื่อเป็นเจ้าของเอพีบีไปโดยสมบูรณ์ได้ทันที และทำให้ราคาหุ้นเอพีบี ในตลาดหุ้นสิงคโปร์วันเดียวกันถีบตัวสูงขึ้นไปถึง 18%  นายโกะ ฮันเผิง นักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ดีเอ็มจีแอนด์พาร์ทเนอร์ ยอมรับว่าคาดการณ์กรณีนี้ลำบาก แต่ถ้าหากเอฟแอนด์เอ็นไม่ยอมรับข้อเสนอ ไฮเนเก้นก็ยังมีทางออก ด้วยการไล่ซื้อหุ้นเพื่อครอบงำกิจการ (Hostile Takeover) หรือหันไปเสนอซื้อหุ้นเอฟเเอนด์เอ็น เพื่อให้กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่แทนบริษัทไทย เบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ในเวลานี้  รอยเตอร์ระบุว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าไทยเบฟ และผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ในเอฟแอนด์เอ็น คือ คิรินเบียร์ ซึ่งถือหุ้นอยู่ 14.7% ไม่น่าจะยอมขายหุ้นเอพีบีให้ไฮเนเก้น เพราะจะทำให้ไฮเนเก้นครองความเป็นใหญ่ในตลาดเบียร์เอเชีย

แหล่งข่าวจากวงการเครื่องดื่ม กล่าวว่า ต้องจับตามองว่า ไทยเบฟฯจะเพิ่มราคาซื้อแข่งกับไฮเนเก้นหรือไม่ และกลุ่มคิริน โฮลดิ้ง จะแข่งขันด้วยหรือไม่ ซึ่งจะทำให้เกิดการแข่งขันซื้อหุ้นเอพีบีและเอฟแอนด์เอ็น เพื่อรักษาตลาดเบียร์ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นตลาดเบียร์ที่มีศักยภาพเติบโตเร็ว เฉพาะในเมืองไทย ตลาดนี้มีมูลค่าสูงถึง 130,000 ล้านบาท หรือถึง 2,000 ล้านลิตร แหล่งข่าวกล่าวว่า นอกจากนี้ สิ่งที่น่าจับตา คือ การเข้าซื้อธุรกิจเพิ่มเติมของกลุ่มนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของไทยเบฟฯ ในกลุ่มอาหารเพื่อต่อยอดธุรกิจของกลุุ่ม จากปัจจุบันมีธุรกิจทั้งโรงแรม เครื่องดื่มทั้งแอลกอฮอล์และนอนแอลกอฮอล์ การเงิน และพาณิชย์ ทั้งที่ล่าสุดปีนี้ กลุ่มนายเจริญเพิ่งเข้าซื้อหุ้นบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) และเพิ่งชนะประมูลซื้อที่ดินเวิ้งนาครเขษม ของราชสกุลบริพัตร เนื้อที่ 14 ไร่ มูลค่า 4.5 พันล้านบาท แหล่งข่าวกล่าวว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มนายเจริญได้ดึงตัวนายบุญคลี ปลั่งศิริ อดีตประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เข้ามาเป็นที่ปรึกษาให้กับกลุ่มบริษัทเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งทางบุญคลีถือเป็นหนึ่งในบุคคลหลักในการเข้ามาเป็นที่ปรึกษาในการมองหาซื้อธุรกิจที่เห็นว่ามีศักยภาพ ซึ่งนายบุญคลีถือว่ามีความเชี่ยวชาญเรื่องธุรกิจอันดับต้นๆ ของเมืองไทย

“เจริญ สิริวัฒนภักดี” เจ้าพ่อน้ำเมาแห่งเมืองไทย

- ส่งมือดีเจรจาซื้อ Raimon บริษัทอสังหาในตลาดหลักทรัพย์
- พร้อมทาบมืออาชีพเข้ามาบริหารหากเจรจาซื้อสำเร็จตามเงื่อนไข!
- วงการชี้เป็นการ Backdoor เข้าตลาดหุ้นที่สมเหตุสมผล เพราะ “เสี่ยเจริญ” มีธุรกิจอสังหาฯ นอกตลาดฯ ที่พร้อมจะเติบโตเหนือบริษัทชั้นนำด้านอสังหาฯ ในตลาดหุ้นไทยได้
- เชื่อการเข้าตลาดหุ้นฯ ครั้งนี้จะไม่มีแรงต้าน...แต่จะทำให้เซียนหุ้นทั้งขาใหญ่และแมงเม่าได้โลดเล่นกันอีกแล้ว
เป็นที่ฮือฮาในแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เมืองไทยอีกครั้ง เมื่อกระแสข่าวของราชาเทกโอเวอร์และเศรษฐีชื่อดังจากวงการน้ำเมาของเมืองไทย “เจริญ สิริวัฒนภักดี” กำลังเจรจาซื้อหุ้นของไรมอนด์แลนด์ ไม่ว่าบิ๊กดีลในรอบ 5 เดือนของปีนี้จะสำเร็จหรือไม่ เจ้าสัวเจริญกลายเป็นบุคคลที่ถูกจับตามองอีกครั้ง หลังจากที่ผ่านมาชื่อของเสี่ยเจริญถูกฟันธงว่า เขาคือกลุ่มทุนที่อยู่เบื้องหลังของบริษัท เอสเอส เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด ในฐานะผู้ทำคำเสนอซื้อหุ้นบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) หรือ SSC รวมทั้งดีลการเทกโอเวอร์หลายบริษัทก่อนหน้านี้ไม่ว่า บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ บริษัทอาหารสยาม บริษัทประกันภัยอาคเนย์ รวมทั้ง บริษัท โออิชิ ของตัน ภาสกรนที ผู้บุกเบิกตลาดชาเขียวในเมืองไทย ที่สุดท้ายแล้วจบลงด้วยการที่เสี่ยเจริญเข้าครอบครองเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธุรกิจดังกล่าว

“ธุรกิจที่กลุ่มทุนของเสี่ยเจริญเข้าไปเทกโอเวอร์บริษัทในตลาดหลักทรัพย์หลายแห่งทั้งในกลุ่มคอนซูเมอร์ กลุ่มประกันภัย และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในรอบหลายปีที่ผ่านมา ล้วนเป็นความพยายามอย่างหนักและต่อเนื่อง มีเป้าหมายเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจระยะยาว หลังจากความพยายามนำเอาธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจแอลกอฮอล์ เบียร์ เหล้า เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ของเมืองไทยเมื่อหลายปีก่อนไม่สำเร็จจนต้องไปเข้าในตลาดต่างประเทศ” แหล่งข่าวจากวงการตลาดทุนให้มุมมอง


อันดับที่ 1 นักร้องหน้าจืด,ท่าเต้นสุดพิสดาร PSY ,Gangnam Style โมเดลการตลาดสุดยอดคลาสสิก ตีตลาดระดับโลกสำเร็จ (คงไม่มีใครปฏิเสธว่า เป็นปีของเขาคนนี้ และก็แจ้งเกิดในระดับโลกเสียด้วย)

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2555 ไซ (PSY) (ชื่อจริง พัคแจซัง) นักร้องสุดฮ็อตระดับโลก เจ้าของเพลง 'GANGNAM STYLE' ด้วยยอดวิวอันดับที่ 1 ใน YouTube มากกว่า 840 ล้านครั้ง ได้ลัดฟ้าสู่เมืองไทยเพื่อร่วมงาน 'GANGNAM STYLE THAILAND EXTRA LIVE' ซึ่งตรงกับเทศกาลวันลอยกระทง งานประเพณีไทยระดับโลก ท่ามกลางการต้อนรับจากแฟนๆชาวไทยอย่างร้อนแรง ในช่วงบ่าย ไซ ได้เดินทางมายังห้างสยามพารากอน เพื่อลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมกันนี้เขายังได้เข้าร่วมงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต 'GANGNAM STYLE THAILAND EXTRA LIVE' ก่อนที่ในช่วงค่ำ ไซ ได้เดินทางไปเปิดฉากคอนเสิร์ต 'GANGNAM STYLE THAILAND EXTRA LIVE' ณ สนามกีฬา SCG Stadium เมืองทองธานี พร้อมอวดท่าเต้นขี่ม้าในเพลง 'GANGNAM STYLE' รวมถึงเพลงฮิตต่างๆ ให้แฟนๆชาวไทยได้แดนซ์กันแบบสดๆเลยทีเดียว

เริ่มจากได้รับเชิญไปออกรายการทีวีโชว์หลายรายการในอเมริกา ไปร่วมโชว์ในรายการแจกผลรางวัล AMA (American Music Award 2012), ได้พบปะกับเลขาธิการองค์การสหประชาชาติซึ่งเป็นชาวเกาหลีด้วยกัน ไปสาธิตการเต้นนี้ให้กับ บริทนี่ย์ สเปียร์ ,จัสติน บีเบอร์ รวมถึงถูกนำไปเป็นท่าเต้นล้อเลียน รวมถึง เต้น cover ในหลายวาระโอกาส ในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึง ปธน.สหรัฐ และผู้ท้าชิง ก็เคยได้นำไปเป็นท่าล้อเลียนหาเสียงตอนช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาแล้ว อีกทั้งยังสร้างสถิติใหม่ ด้วยการเป็นนักร้องเอเซียคนแรกที่พาเพลงของตนขึ้นไปติดอันดับในชาร์ต Billboard Chart ของสหรัฐอเมริกา ได้สำเร็จ สูงสุดเป็นอันดับ 2 ในชาร์ต Hot 100 Song เมื่อไม่นานมานี้ จากนั้นอันดับก็ค่อยๆร่วงลง ตามลำดับ


การพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส หรือการตลาดที่สามารถค้นหาจุดขายใหม่ จุดแข็งที่ไม่ใช่หน้าตา แต่เป็นลีลา ตัว psy หากเปรียบเป็น product ก็ต้องบอกได้ว่า product ตัวนี้ไม่ได้มีดีที่รูปลักษณ์ แต่มีดีที่แพ็กเก็จจิ้ง คุณสมบัติของสินค้า และอรรถประโยชน์ใช้สอยคุ้มค่า น่าใช้มากกว่า บวกกับการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ (positioning) เป็นศิลปินเอ็นเตอร์เทนเน่อร์ระดับตัวพ่อของโลกไปแล้วนั่นเอง

วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ไต้ฝุ่น "บุปผา" ถล่มฟิลิปปินส์อย่างไม่ตั้งตัว เสียหายหนัก



ASTVผู้จัดการออนไลน์ - คงไม่มีฉายาใดที่จะเหมาะเท่ากับ อำมหิตสำหรับพายุชื่อไพเราะ เพราะไต้ฝุ่นบุปผา (Bopha) ได้กลายเป็นฆาตกรใจเหี้ยมโหด คร่าชีวิตผู้คนเป็นผักปลาในสัปดาห์นี้ จนถึงเช้าวันศุกร์ 7 ธ.ค. ฟิลิปปินส์นับจำนวนเหยื่อได้ 418 ศพ ยังมีคนสูญหายอีกจำนวนมากมาย อีกหลายแสนคนตกอยู่ในสภาพบ้านแตกสาแหรกขาด ไร้ที่อาศัย

เฮ้ย! มันก็แค่พายุหลงฤดูละฟะ.. ขึ้นฝั่งมันก็หมดแรงไปเองหลายคนอาจจะคิดเช่นนี้ เมื่อได้ทราบข่าวว่าพายุลูกใหม่เริ่มปั่นความเร็วอยู่ในทะเลแปซิฟิกทางตะวันออกของหมู่เกาะฟิลิปปินส์ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่ทั่วภูมิภาคกำลังย่างเข้าสู่หน้าหนาว

ไต้ฝุ่นในเดือน ธ.ค.? เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดให้เห็นบ่อยนัก นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศโลก ได้ทำพายุเริ่ม หลงฤดูซึ่งในปีนี้พายุโซนร้อนปลาข่า หรือ ปาข่า” (Pakhar) ตามชื่อในภาษาลาวพัดเข้าทะเลจีนใต้เป็นลูกแรกตั้งแต่เดือน มี.ค.

สำหรับนักพยากรณ์อากาศ แม้จะมีข้อมูลอยู่ในมือมากมายแต่ก็ไม่สามารถจะสรุปอะไรได้ง่ายๆ การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลกในช่วงกว่า 10 ปีมานี้ ทำให้สภาพการณ์หลายอย่างเปลี่ยนไป การพยากรณ์ลมฟ้าอากาศทำได้ยากยิ่งกว่าเดิม

ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เบนีกโน อากีโน ซึ่งติดตามข้อมูลจากดาวเทียมได้ออกเตือนประชาชนผ่านโทรทัศน์ และข่ายวิทยุทั่วประเทศในวันที่ 3 ธ.ค.ว่า ศักยภาพการทำลายล้างของพายุลูกใหม่นี้ “No joke” คือ .. ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ

เพียงไม่กี่วันหลังก่อตัวเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ บุปผาปั่นตัวเองขึ้นเป็น ซูเปอร์ไต้ฝุ่นระดับ 5 ขณะอยู่ในทะเลแปซิฟิก และอ่อนลงเป็นระดับ 4 ก่อนขึ้นฝั่งที่เกาะมินดาเนา ทางตอนใต้สุดของหมู่เกาะฟิลิปปินส์ บุปผาได้โชว์นัยน์ตาแห่งพายุ (Eye of the Storm) อันดุดันให้เห็นอยู่ 2 วันเต็มๆ ก่อนสาวสวยชื่อเขมรจะเริ่มทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า

ในวันศุกร์นี้ บุปผาจังก้าอยู่กลางทะเลจีนใต้ หันรีหันขวาง หมุนคว้างแบบยากที่จะเดาใจได้ ไม่ต่างกับสาวรุ่นเต้นร็อก

แผนภูมิพยากรณ์ที่สำนักพยากรณ์อากาศชั้นนำของโลกหลายแห่งออกมาในวันนี้ แสดงให้เห็นการวินิจฉัยข้อมูลที่ต่างกันมาก และแสดงความขัดแย้งเกี่ยวกับทิศทางการเคลื่อนที่ของไต้ฝุ่นลูกใหม่ ซึ่งบ้างก็ชี้ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ บ้างก็ลากเส้นไปทางตะวันทิศตกเฉียงใต้ ซึ่งตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอย ฟันธงนำหน้าก่อนใครๆ ตั้งแต่วันอังคาร โดยชี้ว่าเมื่อเข้าถึงกลาง "ทะเลตะวันออก" ไต้ฝุ่นบุปผาจะเคลื่อนไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเล็กน้อย จากนั้นจะหันหัวลงต่ำ เคลื่อนเป็นแนวซิกแซ็ก ก่อนจะฉีกวงหมุนกลับไปทางทิศตะวันตก ซึ่งเรื่องนี้จะต้องพิสูจน์

วันศุกร์นี้สำนักฯ แห่งฮานอยยังยืนยันในทิศทางดังกล่าว ในขณะที่ศูนย์ร่วมเตือนภัยไต้ฝุ่น JTWC (Joint Typhoon Warning Center) ซึ่งเป็นหน่วยงานของกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่มีประสบการณ์มากมายไล่จับพายุในย่านแปซิฟิก ชี้ไปอีกทางหนึ่ง

ในวันศุกร์นี้ อีกหลายสำนักก็ยังคงมีความเห็นขัดแย้งกันเกี่ยวกับการเคลื่อนตัวของบุปผาร้อยเล่ห์ขณะพายุยังหมุนติ้วอยู่กลางทะเลใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ไปจนถึงวันอาทิตย์ 9 ธ.ค.นี้ ก่อนจะค่อยๆ มลายไปในต้นสัปดาห์หน้า




เอเจนซีส์ ไต้ฝุ่นบุปผา ซึ่งมีความเร็วลมที่ศูนย์กลางถึง 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดถล่มตอนใต้ของฟิลิปปินส์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา(4) ทำให้เกิดฝนตกหนักและกระแสลมแรงจนต้นไม้ใหญ่หักโค่น ขณะที่ประชาชนกว่า 40,000 คนต้องละทิ้งบ้านเรือนไปอาศัยตามศูนย์พักพิงชั่วคราว  ประชากร 10 ล้านคนบนเกาะมินดาเนาได้สัมผัสกับอิทธิพลของไต้ฝุ่นบุปผาซึ่งพัดเข้าสู่ชายฝั่งตะวันออกตั้งแต่เช้ามืด ความรุนแรงของพายุได้ขุดรากถอนโคนต้นไม้ใหญ่ และพัดหลังคาบ้านเรือนจนเปิดเปิงไปหลายหลัง ขณะที่หลายเมืองต้องตกอยู่ในความมืดมิดเมื่อมีการตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อป้องกันความเสี่ยง ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งและเขตน้ำท่วมถึงต่างเก็บข้าวของไปอาศัยตามศูนย์พักพิง เนื่องจากเริ่มเกิดน้ำท่วมในบางพื้นที่แล้ว  เบนิโต รามอส หัวหน้าหน่วยงานป้องกันพลเรือนฟิลิปปินส์ ระบุว่า ล่าสุดพบผู้หัวใจวายเสียชีวิต 1 ราย สูญหาย 1 คน และอีก 3 คนได้รับบาดเจ็บเพราะถูกต้นไม้ล้มทับ  จากสถานการณ์ล่าสุด ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตถือว่ายังน้อยมาก ก็ต้องขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และขอบคุณเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นทุกคนด้วยรามอส เผยอิทธิพลของไต้ฝุ่นบุปผาทำให้ทางการต้องสั่งระงับเที่ยวบินราว 80 เที่ยว ขณะที่ผู้โดยสารเรือข้ามฟากอีกหลายพันคนยังตกค้างอยู่ตามท่าเรือ สำนักงานป้องกันพลเรือนแถลง  ลิซา มาโซ เจ้าหน้าที่ป้องกันพลเรือนประจำภูมิภาค เปิดเผยว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะมินดาเนายังถูกตัดไฟ เพื่อหลีกเลี่ยงเพลิงไหม้และเหตุคนถูกไฟฟ้าช็อต  เราตัดไฟตั้งแต่ก่อนเช้ามืด หลังมีรายงานกระแสลมแรง, คลื่นสูง และอาจมีคลื่นพายุซัดฝั่งในบางพื้นที่ด้วยเธอเผย

รัฐบาลฟิลิปปินส์ยังได้สั่งปิดโรงเรียนบนเกาะมินดาเนา และหลายพื้นที่ทางตอนกลางของประเทศในวันนี้(4)  ประธานาธิบดี เบนิโญ อากิโน ออกแถลงการณ์ให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเตรียมอพยพ วานนี้(3) โดยเตือนว่า อำนาจทำลายล้างของไต้ฝุ่นบุปผาไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เราคาดว่ามันจะเป็นไต้ฝุ่นรุนแรงที่สุดที่พัดเข้าสู่ฟิลิปปินส์ในปี 2012  หมู่เกาะฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับพายุไต้ฝุ่นราว 20 ลูกต่อปี ซึ่งบางลูกก็มีความรุนแรงมาก โดยไต้ฝุ่นบุปผาถือเป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 16 สำหรับปีนี้


วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ทีมประสิทธิภาพแห่งปี 2012


 
ในสาขาบุคคลแห่งปี 2012 สำหรับปีนี้ บล็อกเราขอมอบตำแหน่งนี้ให้กับ ปธน.สหรัฐอเมริกา คนปัจจุบัน และเพิ่งจะได้รับเลือกตั้งเป็น ปธน.สหรัฐ สมัยที่ 2 มาหมาดๆ นั่นก็คือ นายบารัค ฮุสเซ็น โอบาม่า บุคคลซึ่งมีบทบาทเป็นอย่างมากทั้งในแง่ของผู้กุมชะตาเศรษฐกิจโลก ทั้งภายในสหรัฐอเมริกา และบทบาทของความเป็นผู้นำประเทศหัวหอกทุนนิยมโลก ความเป็นมหาอำนาจทั้งทางเศรษฐกิจและทางการทหาร ในแง่บทบาททางทหารหรือบทบาทตำรวจโลก ก็ได้มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับปัญหาข้อพิพาทในตะวันออกกลาง ทั้งในอิรัก ที่ยังไม่สงบ การเป็นปฏิปักษ์กับอิหร่าน เกาหลีเหนือ การที่ต้องเผชิญปัญหากับอัฟกานิสถาน อเมริกาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังไม่ทางลับก็ทางอ้อมของเหตุการณ์การลุกฮือขึ้นโค่นล้มผู้นำประเทศของภาคประชาชน ของประเทศมุสลิมในกระแสอาหรับสปริง ในหลายๆ ประเทศ ทั้งในอิยิปต์ ลิเบีย ซีเรีย การมีบทบาทเป็นอย่างยิ่งในข้อพิพาทในทะเลจีนใต้กับประเทศจีน ทั้งในหมู่เกาะสแปรตลี่  หมู่เกาะเตียวหยูหรือ เซนกากุ  บทบาทในการปิดล้อมจีนด้วยการฟื้นและเสริมสัมพันธไมตรีกับชาติในอาเซี่ยน และภูมิภาคแถบนี้ใหม่ ทั้งในพม่า เวียดนาม กัมพูชา ไทย อินโดนีเซีย รวมถึงการเปิดเจรจาหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์เขตการค้าหรือที่เรียกว่า TPP ที่อเมริกาดอดมาทำการเจรจาลับๆ กับหลายประเทศรวมทั้งไทย ผลประโยชน์ด้านพลังงานและทรัพยากรอันมีค่ามหาศาลในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกนี้กำลังเป็นแม่เหล็กดึงดูดมหาอำนาจโลกอย่างสหรัฐ จำเป็นต้องเข้ามาแย่งชิงและคานอำนาจกับจีน ซึ่งเป็นขาใหญ่เจ้าถิ่นอยู่ก่อน ซึ่งนับวันจะทวีความแรง และบีบรัดในหลายๆ ด้าน อย่างกระพริบตามิได้
ทีมประสิทธิภาพแห่งปี ในปีนี้ผู้เขียนรู้สึกว่าเป็นปีที่ดีอีกปีหนึ่ง ที่เราได้เห็นบทบาทขององค์กรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรแสวงหากำไร หรือไม่แสวงหากำไร แต่ต่างทำหน้าที่หรือบทบาทของตนได้อย่างเข้มข้นมีคุณภาพอย่างเต็มกำลัง ซึ่งมีรายชื่อของทีมประสิทธิภาพแห่งปี ดังต่อไปนี้

1.ในสาขาทีมกีฬา นั้น เรายกให้กับทีมกีฬาดังนี้  ทีมฟุตบอลทีมชาติสเปน , ทีมวอลเล่ย์บอลหญิงทีมชาติไทย , ทีมสมาคมแบดมินตันไทย , ทีมสมาคมฟุตซอลทีมชาติไทย ,ทีมสโมสรฟุตบอล SCG เมืองทองยูไนเต็ด




ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ถ้าจะกล่าวถึงความสำเร็จของทีมวอลเล่ย์บอลสาวไทยแล้วจะไม่พูดถึงโค้ชอ๊อด เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ก็คงจะไม่ได้ เพราะเป็นของคู่กัน และถือเป็นความสำเร็จร่วมกัน เป็นผู้ที่มีส่วนในความสำเร็จของวอลเล่ย์บอลหญิงชุดนี้มาตั้งแต่เริ่ม ถ้าจะนับย้อนไปถึงความสำเร็จที่ใกล้ที่สุดก็คือปี พ.ศ. 2552 ทีมวอลเลย์บอลหญิงคว้าแชมป์ชิงแชมป์เอเชีย (AVC) ครั้งที่ 15 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยการโค่นจีน ซึ่งอยู่ในอันดับ 4 ของโลก ในขณะนั้นได้สำเร็จ ปี พ.ศ. 2554 ทีมหญิงไทย ทำอันดับได้ดีที่สุดคืออันดับ 6 เวิลด์กรังปรีด์ ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และคว้าอันดับ 4 ในรายการชิงแชมป์เอเชีย ซึ่งไม่เพียงพอที่ทำให้ไทยได้เข้าไปเล่นในกีฬาโอลิมปิก ลอนดอนเกมส์ที่ผ่านมา แต่ก็ถือว่าเป็นครั้งที่ใกล้เคียงที่สุดแล้ว

 2.ในสาขาสื่อสารมวลชน  เรายกให้กับทีม สำนักข่าวอิศรา , สถานีโทรทัศน์ TPBS หรือทีวีไทย , สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 (อันนี้เครดิตยกให้ผู้สื่อข่าวที่ชื่อสมจิตต์มีส่วนอย่างมาก) , สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV , สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม Money Channel , สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม Spring News , นสพ.ไทยโพสต์  ,นสพ.โพสต์ทูเดย์

สำนักข่าวอิศรา จัดเป็นสื่อสาธารณะของภาคประชาชนที่ทรงอิทธิพลและเป็นกระบอกเสียงในการตรวจสอบ และค้นหาความจริงให้กับประชาชนและสังคมไทยได้ดีที่สุด ในภาวะที่สื่อกระแสหลักถูกครอบงำจากนายทุน นักธุรกิจสื่อจอมปลอม ที่มักนำเสนอข่าวความจริงแต่เพียงด้านเดียวหรือบางด้านที่อยากจะนำเสนอเท่านั้น ทำให้สังคมไทยอยู่ในภาวะมืดบอดทางปัญญาอยู่ในขณะนี้ เพราะสื่อกระแสหลักทำตัวเป็นพีอาร์คอยนำเสนอข่าวเฉพาะที่เป็นด้านบวกแก่รัฐเท่านั้นให้กับสังคม หรือบางทีก็ต้องการยัดเยียดข้อมูลข้อเท็จจริงบางด้านบางอย่างที่ต้องการนำเสนอให้แก่ประชาชน จะมีสื่อสักกี่สำนักที่จะยืนหยัดหาความจริงมานำเสนอแก่ประชาชนให้ครบทุกด้าน และมีบทวิเคราะห์ที่ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติโดยส่วนรวม สำนักข่าวอิศราจึงเป็นทั้งเวทีและที่ชุมนุมของคนคุณภาพในแวดวงสื่อสารมวลชนที่มาทำงานให้กับประเทศชาติ และตีแผ่ความจริงออกสู่สาธารณะ โดยบางครั้งก็อาจไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆ เลย แต่ทำด้วยจิตวิญญาณความเป็นสื่อ และจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพอย่างแท้จริง น่าปรบมือให้สำหรับผลงานของพวกเขาในรอบปีนี้ อันได้แก่ กรณีคุณสรยุทธ์ บ.ไร่ส้มกับผลประโยชน์ในอสมท.(ช่อง 9) ,เรื่องจำนำข้าว ,การทำจีทูจี,บ.นอมินี สยามอินติก้า,เสี่ยเปี๋ยง (ตัวละครกลุ่มเดิม) ,การฮั้วจัดประมูลคลื่นความถี่ 3 จีของกสทช. เป็นต้น

3.ในสาขาหน่วยงานภาครัฐหรือหน่วยงานสาธารณะบริการประชาชน  เรายกให้กับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กรมสรรพากร , ส.ว.สาย 40 หรือสมาชิกวุฒิสภาสายกู้ชาติที่เข้าใจกัน ,สภาทนายความ,ภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นของชาติ(ภตช) กลุ่มของคุณมงคลกิตต์ ,องค์กรต่อต้านการคอร์รัปชั่น(ประเทศไทย) กลุ่มของนักธุรกิจโดยแกนนำคือ ดร.ประมนต์ สุธีวงศ์, เว็บไซต์เครือข่ายข้อมูลการเมืองไทย www.tpd.in.th โดยกลุ่มของ ศ.ดร.จรัส สุวรรณมาลา,กลุ่มกรีน นำโดยคุณสุริยะใส กตะศิลา ,หน่วยงานดูแลเก็บกู้ทำลายล้างวัตถุระเบิด(EOD) ของกองทัพบก

สำหรับ ส.ว.สายกู้ชาติ หรือที่เรียกว่า กลุ่ม 40 ส.ว. นั้นทำงานเกินเงินเดือนเสียยิ่งกว่า ส.ส.,รัฐมนตรี ทั้งสภา เพราะว่าอุดมการณ์ในการเข้ามาทำงานรับใช้ประเทศชาติอยู่เหนือสิ่งอื่นใดรวมถึงผลประโยชน์ แม้จะมีที่มาจากการสรรหาแต่งตั้งมาก็เถอะ แต่ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์การทำงานมากกว่า อาทิ นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา แกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวระหว่างการประชุมวุฒิสภาว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องกรณีโครงการรับจำนำข้าวไม่ได้หมายความว่าเป็น การตีตราความชอบธรรม เพราะแม้แต่คนในรัฐบาลอย่างนายวีระพงษ์ รามางกูร ประธานที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของนายกฯ ระบุว่านี่คือการนำไปสู่การทุจริตมโหฬาร เช่นเดียวกับ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรมว.คลัง บอกว่าเป็นโครงการประชานิยมที่จะเดินตามรอยกรีซ ฉะนั้นการที่รัฐบาลไม่เปิดเผยตัวเลข ยิ่งทำให้เกิดความสับสนและไม่ไว้วางใจรัฐบาล  นายประสารกล่าวว่า ยิ่งล่าสุดเพิ่งมีข้อมูลจากนายวิชัย ศรีประเสริฐ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออก ชี้ว่าความจริงไม่มีข้าวส่งออกเลย ประเทศอินโดนีเซีย 3 แสนตันเป็นสัญญาของรัฐบาลชุดที่แล้ว ประเทศจีนก็เป็นฝืมือของเอกชน ประเทศฟิลิปปินส์ไม่มี ซึ่งหมายความว่าตัวเลขการส่งออกเป็นการโกหก  "นายกฯและรมว.พาณิชย์ พูดไม่ตรงกันไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่รัฐบาลต้องเปิดแอลซี เพื่อเป็นหลักสำคัญว่าธนาคารจะจ่ายเงิน แต่แอลซีอยู่ตรงไหนไม่รู้ เพราะฉะนั้นเป็นมหากาพย์ที่ยิ่งใหญ่ที่จะนำไปสู่ความหายนะ ถ้าไม่มีการทบทวน หรือแก้ไขให้ถูกต้องจะนำไปสู่สภาพความสั่นคลอนของรัฐบาลแน่นอน" นายประสารกล่าว

4.ในสาขาหน่วยงานภาคเอกชนหรือหน่วยงานธุรกิจให้บริการประชาชน  เรายกให้กับทีมผลิตละครเวทีของคณะเมืองไทยรัชดาลัยเธียเตอร์ เอ็กแซ็กท์และซีนาริโอ้ ,ทีมผลิตละครเวทีของคณะละครดรีมบ็อกซ์ ,ทีมจัด/ผลิตเทศกาลทางดนตรีมันใหญ่มากของป๋าเต็ด ยุทธนา บุญอ้อม ,ทีมจัด/ผลิตคอนเสิร์ตต่างประเทศของบริษัทบีอีซีเทโร ,คณะทำงานเตรียมงานของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ จัดแสดง“โขนชุดจองถนน” ,กลุ่มเชฟทีมชาตไทยในนาม "ไทยแลนด์ คัลลินารี อคาเดมี่" ที่ไปได้รองแชมป์รายการ "Gourmet Team Challenge(Practical)" ในงาน FHC China International Culinary Arts Compettion ครั้งที่ 14 ที่เมืองเซี่ยงไฮ้

 
กว่าจะเป็นโขนศิลปาชีพฯ ชุดจองถนน ทีมผู้สร้างต้องเตรียมงานด้วยความปราณีต และเก็บรายละเอียดทุกส่วนให้สมบูรณ์ที่สุด โดยเฉพาะตอนนี้พิเศษที่ฉากรบแสดงความยิ่งใหญ่ของทัพพระรามและทศกัณฐ์ การตรวจพลที่ไม่เคยได้ชมในชุดที่ผ่านๆ มา ซึ่งขณะนี้การทำงานเดินหน้าไปมาก จนใกล้แล้วเสร็จพลับพลาจำลองความสูงกว่า 10 ม. ยาว 22 ม. งดงามด้วยจิตรกรรมและงานแกะสลักไม้อย่างวิจิตร สร้างจากแรงบันดาลใจที่ได้จากพระที่นั่งจักรวรรดิไพชยนต์ ในพระราชวังหลวงสมัยอยุธยา เพื่อใช้เป็นที่ประทับของพระราม ยามนำพลออกรบและเคลื่อนทัพประชิดกรุงลงกา เกือบ 4 เดือนที่ช่างศิลป์นับ 100 คน ร่วมกันเขียนลวดลายแต่งฉากและสิ่งของประกอบการแสดงที่สร้างใหม่ยกชุด ออกแบบเลียนฝีมือช่างศิลป์สมัยอยุธยาและต้นรัตนโกสินทร์ แล้วเสร็จไปกว่าร้อยละ 80 เพื่อให้โขนเฉลิมพระเกียรติ ชุดจองถนน ที่จะแสดงในเดือนพฤศจิกายนนี้ เป็นไปตามแนวทางอนุรักษ์โขน และงานช่างโบราณ  อนุชา ทีรคานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการผลิตโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เผยว่า "แบบฉากและอุปกรณ์ประกอบ เน้นความงามในการชมทั้งระยะใกล้และระยะไกล ที่เร่งกันทำงานตลอดเกือบจะ 24 ชม.ตั้งแต่กำหนดว่าเราจะแสดงชุดจองถนน" โขนชุดจองถนน หมายถึงทำถนนข้ามมหาสมุทรไปยังกรุงลงกา ในชุดนี้จึงก็จะเห็นทัพพระรามรบเต็มรูปแบบครั้งแรกกับทศกัณฑ์ และองค์ประกอบฉากสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ราชรถที่ครั้งนี้สร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด 3 คัน แสดงแบบอย่างจากสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมอย่างงานช่างโบราณ แต่ว่าเป็นผลงาน ที่มาจากฝีมือของช่างศิลป์รุ่นใหม่  ขั้นตอนการร่างแบบบนโฟมเนื้อแข็ง และทำแม่พิมพ์หล่อขึ้นรูปเรซิ่นเป็นส่วนประกอบราชรถ อาศัยการผสมผสานเทคนิคและวัสดุสมัยใหม่เพื่อลดระยะเวลาทำงาน แต่ยังยึดรูป แบบลวดลายและสีสันเดิม ซึ่งเครื่องประกอบฉากเป็นตามธรรมเนียมการแสดงโขนหลวง รวมทั้งศึกษาจากบทพระราชนิพนธ์ในล้นเกล้ารัชกาลที่ 1 และรัชกาลที่ 2 ขณะเดียวกันช่างศิลป์ที่ชำนาญงานไม้ ยังสลักทำลายหัวนาค ลายกนก และเกริน ก่อนนำไปลงรักปิดทองเป็นเครื่องประกอบราชรถที่ทำจากไม้สักทองทั้งหมด การได้มีส่วนสร้างสรรค์ราชรถจริง นอกจากนำความภูมิใจมาสู่นักเรียนช่าง และบุคคลากรศูนย์ศิลปาชีพฯ ยังถือเป็นประสบการณ์ทำงานอันมีค่าสำหรับช่างศิลป์รุ่นใหม่  ริค่า สถิรสกุลพงศ์ ช่างจิตรกรรมประยุกต์ ศูนย์ศิลปาชีพพิเศษเกาะเกิด กล่าวว่า " การมาทำงานโดยนำความรู้ที่ได้รับการฝึกฝนจากศูนย์ศิลปชีพมาใช้ ทำให้เกิดงานตามแบบโบราณจริงๆ ที่บางอย่างก็เพิ่งมารู้จัก" ขณะที่ สุดสาคร ชายเสม ผู้ออกแบบและควบคุมการจัดสร้างฉาก "การทำงานศิลปกรรมขนาดใหญ่ ที่ต้องมีความละเอียดปราณีตแบบโบราณ ในขณะที่ช่างหลวงไม่มากถือว่ายาก แต่จากงานนี้มีการสร้างคนใหม่ๆ อาจจะมาจากฝีมือช่างคนละสกุล แต่ก็จะทำด้วยความปราณีตและทำให้เกิดนายช่างใหม่ๆ ที่มีฝีมือขึ้นมาทดแทน"  โขนชุดจองถนน นับเป็นการแสดงโขนศิลปาชีพฯ ชุดที่ 3 ที่คณะผู้จัดฯ ทำงานต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการสร้างบุคคลกรแขนงต่างๆ เช่น คัดตัวแสดงใหม่ๆ จากทั่วประเทศ ปีนี้เปิดแสดงระหว่างวันที่ 2-30 พฤศจิกายน 2555 ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ที่ผ่านมานอกจากงานเบื้องหน้าจะมอบความประทับใจให้กับผู้ชมแล้ว เบื้องหลังยังเน้นการรักษาคุณค่าความงามเชิงช่าง และฝึกฝนฝีมือคนรุ่นใหม่ สานต่อลมหายใจงานศิลปกรรมไทยด้วย




 

 

วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สดุดี มหาราชา



กราบบังคม นบน้อม พระภูมินทร์

ข้าฯ แผ่นดิน ขอเดินตาม ถ้อยโอวาท

ทั้งรอยทาง ที่ทรงนำ เช่น...ทำนา

ปวงประชา รู้เห็นค่า ว่าเป็นจริง

จะมีสิ่ง ล้ำค่า ใดในโลก

ล้านทุกข์โศก ขอแลกพระทัย ให้ของขวัญ

ทรงปรีด์เปรม เกษมสันต์ พระพักตร์ผ่อง

พสกนิกร เปล่งคำร้อง ซ้องสดุดีว่า

ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ..................



ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า ผู้จัดทำเว็บบล็อก หยิกแกมหยอก





วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

คาสเซ็ทท์รีวิว - อัลบั้ม 6-2-12

Cassette Review


อัลบั้ม 6-2-12

ข้อมูลโดยสังเขป  เป็นอัลบั้มพิเศษ ฉลองครบรอบ 15 ปี บริษัทแกรมมี่ รวบรวมศิลปินตัวท็อปสุดของค่าย จำนวน 6 ศิลปิน (คริสติน่า,เจ,มอส,ทาทา,นัท,ยูเอชที) เพื่อทำอัลบั้มพิเศษ โดยจะร้องกันคนละ 2 ซิงเกิ้ล ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า 6-2-12 คือ 6 ศิลปิน 2 ซิงเกิ้ล รวมเป็น 12 บทเพลง

เพลงหน้า A

เพลง /ศิลปิน /คำร้อง-ทำนอง-เรียบเรียง แนวเพลง-สไตล์ /โปรดิวเซอร์

แล้วมารักกันต่อ /คริสติน่า อากีล่าร์ /อรรณพ จันสุตะ-ชุมพล สุปัญโญ /เทคโนแด๊นซ์ /โสฬส ปุณกะบุตร

รักกันเลย /มอส ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ /นันทนา บุญหลง-ธนา ลวสุต /แด๊นซ์ /ธนา ลวสุต

คนแบบฉัน /ทาทายัง /นิติพงษ์ ห่อนาค-อภิไชย เย็นพูนสุข /สโลว์ /โสฬส ปุณกะบุตร

อย่าทำ อย่าทำ /นัท มีเรีย เบเนเด็ตตี้ /ดี้ นิติพงษ์-พงษ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา /ฮิพฮ็อพแด๊นซ์ /โสฬส ปุณกะบุตร

พันธุ์เพ้อเจ้อ /UHT /ประชา พงศ์สุพัฒน์-อนุวัฒน์ สืบสุวรรณ /ฮิพฮ็อพแด๊นซ์ /โสฬส ปุณกะบุตร

ชีวิต ความรัก น้ำใจ /เจ เจตริน วรรธนะสิน /จักราวุธ แสวงผล-โสฬส ปุณกะบุตร /เทคโนแด๊นซ์ /โสฬส ปุณกะบุตร

เพลงหน้า B

เพลง /ศิลปิน คำร้อง-ทำนอง-เรียบเรียง แนวเพลง-สไตล์ /โปรดิวเซอร์

เตรียมไว้เลย /ทาทายัง /ดี้ นิติพงษ์-ธนา ลวสุต /ร็อคแด๊นซ์ /ธนา ลวสุต

ไม่เคยลืม /เจ เจตริน วรรธนะสิน /จักราวุธ -พงษ์พรหม สนิทวงศ์ /เทคโนแด๊นซ์-แร็พ /ธนา ลวสุต

จากเพื่อนคนหนึ่ง /นัท มีเรีย เบเนเด็ตตี้ /สีฟ้า-ธนา ลวสุต /อาร์แอนด์บี /ธนา ลวสุต

ฉันจะรอดู /คริสติน่า อากีล่าร์ /นวฉัตร-ธนา ลวสุต /ร็อคแด๊นซ์ /ธนา ลวสุต

สาหัส /มอส ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ /ประชา-โสฬส ปุณกะบุตร /ร็อคแด๊นซ์ /โสฬส ปุณกะบุตร

ทุกนาที...ให้เธอ /UHT /ดี้ นิติพงษ์-อภิไชย เย็นพูนสุข /อาร์แอนด์บี /ธนา ลวสุต


อัลบั้มนี้ มีโปรดิวเซอร์ 2 ท่านคือ โสฬส ปุณกะบุตร และ ธนา ลวสุต

เอ็กเซคคลูทีฟ โปรดิวเซอร์ เป็น พี่เต๋อ เรวัติ พุทธินันท์

โปรดักชั่น โค-ออดิเนเตอร์ เป็น พี่ดี้ นิติพงษ์

โค-โปรดิวเซอร์ เป็น จักราวุธ แสวงผล

มิกซ์ดาวน์ เป็น โสฬส ปุณกะบุตร, ปณต สมานไพสิฐ ,ธนา ลวสุต

ควบคุมการร้อง โดย พี่เต๋อ(เรวัติ),พี่โอม(ชาตรี),พี่ติ๊ด(โสฬส),พี่อ้อม,พี่ปอนด์(ธนา),แว่น(จักราวุธ)

ดรีมทีมมากๆสำหรับผู้อยู่เบื้องหลังอัลบั้มชุดนี้ จัดเป็นสุดยอดอัลบั้มแห่งปี 2539
(วางแผงเมื่อ  ต้นปี ม.ค.2539) เพลงเปิดตัว  แล้วมารักกันต่อ,ชีวิต ความรัก น้ำใจ,คนแบบฉัน,อย่าทำ อย่าทำ,รักกันเลย,ทุกนาที...ให้เธอ   ,เพลง แล้วมารักกันต่อ/ติ๊นา  ครั้งแรกที่ได้ฟังก็ชอบเลย บีทของดนตรีบวกกับภาพ MV ที่ดูล้ำทันสมัย เป็นความแปลกใหม่ในยุคนั้น อารมณ์ประมาณตอนได้ฟังเพลงจริงไม่กลัว ชุด 2 ของติ๊นา เพลงนี้น่าจะเป็นตัวแทนของอัลบั้มชุดนี้ ตอบโจทย์คอนเซ็ปต์อัลบั้มได้เป็นอย่างดี คืออัลบั้มเพลงแด๊นซ์ ท่วงทำนองทันสมัย จังหวะดนตรีสุดล้ำ ปราดเปรียว หลากหลายอารมณ์เพลง ชอบการออกแบบปกอัลบั้มที่เป็นรูปแผนภูมิคลื่นเสียง มีการใช้สัญลักษณ์สีฟ้ากับสีแดง สีแดงเป็นตัวแทนของคลื่นเพลงเร็ว จังหวะสนุก และสีฟ้าเป็นตัวแทนของคลื่นเพลงช้า สโลว์ ในขณะที่สีเขียวในอักษรตัวเลข 6-2-12 เป็นตัวแทนของความทันสมัย ปราดเปรียวและตัดด้วยเส้นของสีแดงนั่นก็คือความสนุก กระฉับกระเฉง ซึ่งเป็นธีมของอัลบั้มนี้  ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ อัลบั้มชุดนี้แจ้งเกิดนัท มีเรียจริงๆ เพลงของนัทดังทั้ง 2 เพลง ในขณะที่คนอื่นดังกันคนละเพลงเดียว นัทในเพลงจากเพื่อนคนหนึ่ง ทั้งสวยและเซ็กซี่มาก แม้ว่าการร้องเพลงยังติดสำเนียง ช ฟ ค แต่ผลงานเพลงในช่วงหลังๆ ของเธอนั้นดีขึ้นมากแล้ว เป็นที่ฮือฮากันมากสำหรับเสียงลือเสียงเล่าอ้าง กับข่าวลือที่ว่าจะมีการรียูเนี่ยนคอนเสิร์ตศิลปินกลุ่มที่เคยได้รับความนิยม และเป็นไอด้อลเพลงแด๊นซ์ของค่าย Gmm Grammy ในช่วงปลายของยุค 90’s ที่เคยโด่งดังจากอัลบั้มพิเศษของค่ายเพลงแกรมมี่ ในตอนนั้นจำได้ว่าอัลบั้มได้รับการตอบรับค่อนข้างดีมาก ขายได้เป็นหลักล้านตลับในยุคนั้น และมีการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ที่สนามกีฬากองทัพบก ซึ่งมีคนดูเรือนแสน กลายเป็นคอนเสิร์ตในตำนานของประเทศ คอนเสิร์ตนึงทีเดียว และไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านเนิ่นนานไปอย่างไร ปรากฏว่าศิลปินทั้ง 6 ในอัลบั้มนี้ ยังคงโลดแล่นอยู่ทั้งในวงการบันเทิง วงการเพลงต่อมาจนถึงยุคปัจจุบัน และเมื่อมองย้อนกลับไปหรือกลับไปเปิดเพลงจากอัลบั้มนี้ฟังกี่หน ก็ยังคงความไพเราะของบทเพลง ร้องตามได้เกือบทุกเพลง ดนตรีมีความทันสมัยมาก หากมาเทียบกับสมัยนี้ก็ไม่ถือว่าเชยหรือล้าสมัย ทำให้เมื่อมีข่าวลือถึงการที่แกรมมี่อาจมีการรวมการเฉพาะกิจ จับเอา 6 ศิลปินมารียูเนี่ยนคอนเสิร์ตมีกระแสการตอบรับที่ค่อนข้างดี แม้ว่านักดนตรี นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ในอัลบั้มชุดนี้ได้ลาออกจากแกรมมี่ไปเป็นส่วนใหญ่แล้วก็ตาม แต่หากมีการรียูเนี่ยนได้จริงตามข่าวลือ ก็จะเป็นการปลุกกระแสเพลงแด๊นซ์ในบ้านเราให้กลับมาคึกคักได้อีก หลังจากในปีที่ผ่านมาหลายคอนเสิร์ตของบรรดาตัวพ่อตัวแม่เพลงแด๊นซ์ในบ้านเรา เมื่อกลับมารียูเนี่ยนก็ปรากฏว่าขายดิบขายดี บัตรหมดอย่างรวดเร็วทุกคอนเสิร์ต บางคอนเสิร์ตก็ต้องเพิ่มรอบเพื่อรองรับกับบรรดาแฟนคลับทั้งเก่าใหม่ ที่ให้ความสนใจอย่างมาก

อัลบั้มชุดนี้ได้แจ้งเกิดนักร้องใหม่(ในขณะนั้น)คือนัท มีเรีย เบเนเด็ตตี้ ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้ออกอัลบั้มเป็นศิลปินเดี่ยว แต่ก็ทำให้แฟนคลับเซอร์ไพร้ซ์ในเสียงร้อง และลีลาการร้องการเต้นของเธอ ที่เรียกได้ว่าไม่แพ้นักร้องรุ่นพี่ในค่ายเลยทีเดียว ผู้เขียนชอบเพลงช้าทุกเพลงในอัลบั้มนี้ ทั้งไพเราะและมีเนื้อหา ความหมายดีหมด ไม่ว่าจะเป็น คนแบบฉัน-ทาทายัง,จากเพื่อนคนหนึ่ง-นัท มีเรีย,ทุกนาที...ให้เธอ-UHT ส่วนเพลงเร็วในอัลบั้มนี้ ชอบเพลงที่เป็นของฝั่งพีติ๊ด (โสฬส ปุณกะบุตร) โปรดิวเซอร์ทุกเพลง ดนตรีทันสมัย และมีรายละเอียด กิมมิค ลูกเล่น รวมถึงทำนอง เรียบเรียงเสียงประสานดีกว่าของทางพี่ธนา ลวสุตโปรดิวซ์ อาจเพราะพี่ติ๊ด(โสฬส) นั้นมือเก๋ากว่าในวงการเพลง และถือว่าทำงานกับพี่เต๋อมาอย่างยาวนานมากกว่า วิทยายุทธ์นั้นล้ำเลิศที่สุดคนนึงของวงการ งานที่พี่เขาโปรดิวซ์แทบทุกศิลปินนั้นสบายใจ หายห่วงได้ว่าคุณภาพมว๊าก...........จริงๆ




วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ประณามรัฐตำรวจทำเกินกว่าเหตุ สลายการชุมนุมด้วยแก๊สน้ำตา โดยไม่ทำตามขั้นตอน 1-2-3 จากเบาไปหาหนัก




'เสธ.อ้าย'ประกาศยุติการชุมนุมแล้ว อ้างจำนวนไม่เข้าเป้า และเป็นห่วงความปลอดภัย 'ประสงค์'นัดถกกำหนดท่าที

เมื่อเวลาประมาณ 17.00น.ของวันที่ 24 พ.ย.2555 พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือเสธ.อ้าย ประธานองค์การพิทักษ์สยาม อพส. ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ยังไม่พอใจกับจำนวนผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมเนื่องจากยังไม่เข้าเป้าเนื่องจากถูกสกัด จึงต้องดูสถานการณ์ต่อในวันที่ 25 พ.ย.อีกครั้ง หากไม่เข้าเป้าจริงๆก็จะยุติการชุมนุมทันที

ต่อมาเวลา 17.15น. พล.อ.บุญเลิศได้ขึ้นเวทีปราศรัยว่าเสียใจที่รัฐบาลทำแบบนี้ ทั้งที่ที่องค์การพิทักษ์สยามยืนยันแล้วว่าจะชุมนุมสงบ ไม่ยืดเยื้อ ไม่ยึดสภา หากตนไม่มีเกียรติยศ คงพามวลชนบุกเข้าสภาไปนานแล้ว โดยที่ผ่านมามีการระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจำนวนมาก แต่ทางตำรวจไม่ควรทำร้ายประชาชนมือเปล่า รวมถึงจับมวลชนไปอีกหลายคนด้วย ซึ่งตนไม่อยากให้คนรักชาติมาเสียชีวิตจากการกระทำของตำรวจแบบนี้ นอกจากนี้ ยังมีการสกัดกั้นทำให้มวลชนไม่สามารถเข้ามาร่วมชุมนุมได้ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ตนขอกราบเท้ามวลชนที่เข้ามาร่วมชุมนุม แต่เพื่อเป็นการรักษาชีวิตของทุกคน ตนขอประกาศยุติการชุมนุม บัดนี้เป็นต้นไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทำให้มวลชนได้ลุกขึ้นยืนปรบมือพร้อมส่งเสียงเชียร์ ซึ่งเป็นขณะเดียวกันกับที่มีสายฝนตกลงมาในพื้นที่ลงมาอย่างหนักด้วย หลังจากพล.อ.บุญเลิศประกาศยุติการชุมนุม แต่ประชาชนที่มาชุมนุมยังไม่ยอมเดินทางกลับ ทำให้พล.อ.บุญเลิศ จึงกล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงอีกครั้งเมื่อเวลา 17. 40 น. ว่า "อยากจะกล่าวว่าเสียใจ และพล.อ.บุญเลิศ มันได้ตายไปแล้ว"

โฆษกอพส.แจงยุติชุมนุม

พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี โฆษก อพส. ให้สัมภาษณ์ทางเนชั่นทีวีถึงการยุติชุมนุมว่า เนื่องจาก เสธ.อ้ายไม่ต้องการให้ประชาชนบาดเจ็บล้มตายจึงประกาศยุติชุมนุม เพราะเกรงว่าเจ้าหน้าที่จะมีแผนโหด จากการข่าวของเราพบว่าตำรวจเริ่มใช้ความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเรียกกำลังเสริมเข้ามา มีการตัดน้ำตัดไฟ เราจึงต้องรักษาชีวิตประชาชน ซึ่งรัฐบาลไม่ได้ทำตามหลักการของรัฐธรรมนูญ ส่วนที่บอกว่ามีแผนเด็ดนั้นพล.อ.ท.วัชระกล่าวว่า ก็เป็นคลิปที่นำมาเปิดเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้อย่างแท้จริง ส่วนจะนัดชุมนุมอีกเมื่อไหร่นั้น ขณะนี้ยังไม่มี แต่ในส่วนของแกนนำจะมีการคุยกันในคืนนี้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าประชาชนคงเข้าใจสถานการณ์ เพราะมีการเตรียมใช้ความรุนแรงมาสลายชุมนุม ด้านน.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ แนวร่วมองค์การพิทักษ์สยาม กล่าวว่า วันที่ 25 พ.ย. ตนจะหารือภายในกลุ่มตัวเอง ว่าจะเคลื่อนไหวต่อไปอย่างไร แต่การหารือครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับแกนนำองค์กรพิทักษ์สยาม แน่นอน

'เสธ.อ้าย'ลั่นยอมตายหากเอา'รบ.'ลงไม่ได้

ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 13.58 น.ผู้ชุมนุมที่นั่งฟังการปราศรัยขององค์กรพิทักษ์สยามอยู่ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ได้มีเสียงดังคล้ายระเบิดอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง ให้ทำให้ผู้ที่นั่งฟังปราศรัยแตกตื่นลุกขึ้นยืนเเละรอฟังแกนนำบนเวที ด้านสื่อมวลชนที่มาทำข่าวที่เวทีได้เก็บอุปกรณ์สื่อสารเพื่อเตรียมรายงานสถานการณ์ทันที ต่อมาเวลา 14.00 น. พล.อ.บุญเลิศ เเก้วประสิทธิ์ และแกนนำหลายคนขึ้นเวที เเละพล.อ.บุญเลิศ กล่าวบนเวทีหลังเสียงดีงคล้ายระเบิดว่า"ประกาศยอมตาย หากเอารัฐบาลลงไมได้" จากนั้นเวลา 14.04 น. พล.อ.บุญเลิศได้ลงจากเวทีพร้อมกับการ์ดเพื่อเดินไปยังเเยกมิสกวันเพื่อเจรจากับตำรวจที่ยิงเเก๊สน้ำตามาด้านนี้ เวลา 14.06 น. สมณะโพธิรักษ์ เจ้าสำนักสันติอโศกได้ถูกแก๊สน้ำตาทางกองทัพธรรมจึงนำตัวมาปฐมพยาบาลที่ด้านหลังเวที

เปิดคลิปทักษิณ-เเกนนำนปช.พาดพิงสถาบัน

พล.อ.บุญเลิศ ขึ้นเวทีอีกครั้งเเละนำคลิปเเกนนำนปช .รวมถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมระบุว่าบุคคลข้างต้นพาดพิงสถาบัน พล.อ.บุญเลิศ กล่าวหลังการเปิดคลิปว่า"คงเห็นเเล้วว่ารัฐบาลทักษิณเลวร้ายเพียงใด จะเอาไว้หรือไม่ ขอสัญญว่าผมก็ไม่เอาเหมือนทุกคน"

'สุริยะใส'ประณามรบ.ก่อความรุนแรง

'สุริยะใส'ประณามรัฐบาลก่อความรุนแรง เปลือยตัวตน 'ยิ่งลักษณ์'แนะ ตร.เปิดพื้นที่ มัฆวานฯ-แยกมิสกวัน เพราะมวลชนล้นลานพระรูปฯ

24 พ.ย.55 นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า ตนขอประณามการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม เป็นความรุนแรงที่จงใจสลายการชุมนุมทั้งที่ผู้ชุมนุมไม่ได้ก่อความรุนแรงแค่ขอให้เปิดทางเพื่อไปสมทบกันที่ลานพระรูปทรงม้าเท่านั้น เป็นความรุนแรงที่เตรียมการมาล่วงหน้าเพื่อหยุดยั้งการชุมนุมอย่างชัดเจน ทั้งนี้ โดยหลักการเจ้าหน้าที่ต้องเปิดเส้นทางบริเวณสี่แยกมิสกวันกับสะพานมัฆวานฯ เพื่อให้ผู้ชุมนุมใช้พื้นที่ถนนราชดำเนินนอกเป็นพื้นที่รองรับมวลชน เพราะบริเวณลานพระรูปฯ พื้นที่รองรับไม่เพียงพอแล้ว ซึ่งถ้าตำรวจเปิดทางก็จะไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ แต่ถ้าตำรวจยังตรึงพื้นที่บริเวณดังกล่าวจะทำให้เกิดความวุ่นวายต่อเนื่องและมีแนวโน้มความรุนแรงมากขึ้น

"ตำรวจและรัฐบาลต้องยอมรับความจริงว่าวิธีดังกล่าวสกัดมวลชนไม่ได้ เพราะยิ่งมีคนทยอยมาสมทบมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีการสกัดกั้นทุกวิถีทางก็ตาม และขอเตือนรัฐบาลว่าอย่าฉวยโอกาสลักไก่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อสลายการชุมนุม เพราะจะยิ่งทำให้สถานการณ์รุนแรงจนกลายเป็นการจราจลกลางเมืองในที่สุด ความรุนแรงที่เริ่มต้นโดยเจ้าหน้าที่ครั้งนี้ได้เปลือยตัวตน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชัดเจนว่าอำมหิตกว่าที่หลายๆ คนคิด แม้ ผบ.ตร.จะเป็นผู้คุมสถานการณ์แต่ถ้าเห็นว่าบานปลายเอาไม่อยู่ นายกฯต้องสั่งระงับเหตุ และหาวิธีลดอุณหภูมิของสถานการณ์ไม่ใช่ยั่วยุแบบนี้" นายสุริยะใส กล่าว

การเคลื่อนไหวในช่วงก่อนวันชุมนุม

วิชามารทุกรูปแบบถูกนำมาใช้ทุกทิศทุกทาง สำหรับรัฐบาลนี้ ในการสกัดการชุมนุมของภาคประชาชน ด้วยการส่งตำรวจมะเขือเทศ จำนวนกว่า 5,000 คน คุมพื้นที่บริเวณรอบลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งจะใช้เป็นจุดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 24 พ.ย.2555 นี้

รัฐบาลส่งตำรวจมะเขือเทศ ตั้งด่านสกัดการเข้ามาชุมนุมจากทั่วทุกสารทิศ บางถนนรายงานว่า เจอด่านตำรวจกว่า 30 จุด ทำเอาการจราจรเป็นอัมพาตทั่วประเทศ

ส่งผู้ว่าราชการจังหวัด,นายอำเภอ,กำนัน,ผู้ใหญ่บ้าน ไปคุกคาม ข่มขู่ลูกบ้าน ห้ามไม่ให้มาชุมนุม หากฝ่าฝืนจะถูกกลั่นแกล้งรังแก ในหลายรูปแบบ

กดดันขนส่ง รถ บขส. รถทัวร์ทั่วประเทศ ไม่ให้ขนคนเข้ามาชุมนุม โดยการใช้มาตรการควบคุมใบอนุญาตขับรถเข้าเขตชั้นใน หรือไม่ต่อใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะ

ล่าสุด เมื่อตอนช่วง 02.00 น. มีผู้ไม่ประสงค์ดี นำงู (ไม่ทราบว่ามีพิษหรือเปล่า) มาปล่อยกลางวงสถานที่ชุมนุม ทำให้ผู้ชุมนุมแตกตื่น แต่ก็ช่วยจับไปปล่อย ในขณะที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึง ความปลอดภัยว่า ตำรวจตั้งด่านไว้มากมายทำไมปล่อยให้คนนำงูมาปล่อยได้

ด่วน รัฐตำรวจใช้เครื่องยิงแก๊สน้ำตาสลายผู้ชุมนุมบริเวณทางเข้าชุมนุมบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ไม่ให้ผู้ชุมนุมและรถปราศรัยเคลื่อนที่ของแกนนำชุมนุมผ่านเข้าไปทางนั้น ซึ่งใกล้กับเขตบริเวณที่ชุมนุมได้ แต่ตำรวจให้ผู้ชุมเลี่ยงไปเข้าชุมนุมอีกทางด้านนางเลิ้งแทน ตอนนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วหลายคน

ตำรวจเตรียมแผนสลายการชุมนุมให้ได้ภายในบ่ายนี้ (24 พ.ย.) ในขณะที่ผู้ชุมนุมก็รอการตัดสินใจจาก เสธ.อ้าย ว่าจะทำอย่างไรต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และก็เป็นที่ทราบกันแล้วว่า เสธ.อ้าย แกนนำองค์การพิทักษ์สยาม ก็ได้ประกาศยุติการชุมนุม เพื่อรักษาชีวิตผู้ชุมนุมเอาไว้