วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555

10 สุดยอดปรากฏการณ์ทางการตลาดแห่งปี 2012

อันดับ 10. อภิมหาช็อปปิ้งมอลล์แห่งใหม่ ย่านศรีนครินทร์ ด้วยแนวคิดรักษ์โลกสุดอินเทรนด์ ธัญญะ ช็อปปิ้ง พาร์ค Thanya Shopping Park แหล่งช้อป ชิลล์ สไตล์ Green+Eco+Healthy ภายใต้ คอนเซ็ปต์ Modern Eco!

ธัญญะ ช็อปปิ้ง พาร์ค เป็นโครงการห้างฯแบบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพลังงาน แบ่งออกเป็น 5 อาคาร โดย 3 อาคารจะเป็นแบบ Open Air เปิดรับลม ไร้เครื่องปรับอากาศ โดยมีการจัดการด้านระบบลมและความเย็น วางรูปแบบอาคารตามทิศทางลม เพื่อให้ลมและอากาศไหลเวียน อากาศกำลังพอดี และสามารถเดินตากแอร์กับอีก 2 อาคารที่เหลือ ซึ่งทั้ง 5 ตึก มีทางเชื่อมถึงกัน Ozone Square ลานกิจกรรมหลักของ ธัญญะ ช็อปปิ้ง พาร์ค เป็นสถานที่จัดงานเทศกาล พร้อมมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินต่างๆ และ Rooftop Garden สวนบนดาดฟ้า ซึ่งจะเป็นทั้งพื้นที่จัดกิจกรรม ลานกีฬา และสวนสมุนไพร โดยให้นักเรียน นักศึกษา หรือชุมชนที่สนใจ เข้ามามีส่วนดูแลเพาะปลูก โดย Thanya Shopping Park จะจัดเตรียมระบบต่างๆ ไว้ให้ กระทั่งถึงเวลาเก็บผลผลิต ก็สามารถนำออกจำหน่ายใน Green Thanya Market ตลาดสดสุดสะอาด พร้อมนานาของอร่อยของช็อปปิ้งมอลล์แห่งนี้ Eco กันทุกเม็ด! Thanya Shopping Park มีเพียง 3 ชั้น นอกจากจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ธัญญะ ช็อปปิ้ง พาร์ค ยังเป็นมิตรกับนักธุรกิจตัวเล็กๆ ให้มีโอกาสมาเปิดและแชร์ไอเดีย เราจึงเห็นร้านแปลกตาและน่าเข้ามากมาย ที่น่าสนใจก็คือ ร้านเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ร้านดาว คอฟฟี่ กาแฟลาวชื่อดังสาขาแรกในไทย ร้าน All of Us และยังครบถ้วนด้วยสินค้าและบริการที่หลากหลาย อาทิ แฟชั่น ร้านอาหาร ต้นไม้ สัตว์เลี้ยง สินค้าเพื่อสุขภาพ ธนาคาร สถาบันทางการเงิน คลีนิกทันตกรรม สปา เสริมความงาม ของตกแต่งบ้าน อุปกรณ์ไอที อุปกรณ์กีฬา โรงเรียนกวดวิชาและเสริมทักษะ คาร์แคร์ และ CP Food Market ซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าห้างฯ เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง

โดยรวมของ ธัญญะ ช็อปปิ้ง พาร์ค มีพื้นที่สีเขียว มากถึง 50% ภายใต้พื้นที่กว่า 70,000 ตารางเมตร ร่มรื่นด้วยสวนแนวตั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก กระจายอยู่ตามอาคารต่างๆ รวมถึงสวนแนวราบ และต้นไม้ขนาดใหญ่ และถือเป็น Eco Shopping Park แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย โครงการที่มุ่งเน้นให้ทุกคนห่วงใยสิ่งแวดล้อม พร้อมตอบสนองไลฟ์สไตล์ในการช็อปปิ้งแบบ modern eco

กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่ กับโครงการไลฟ์สไตล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียและได้รับการรับรองจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยว่าเป็นหนึ่งในอเมซิ่ง ไทยแลนด์ (Amazing Thailand) แห่งใหม่ล่าสุด“เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ (ASIATIQUE, The Riverfront)” สัมผัสกับสีสันแห่งประวัติศาสตร์ เสน่ห์ย่านการค้าที่พร้อมเปิดตัวกว่า 1,500 ร้าน ความอร่อยที่มีระดับจากหลากหลายร้านอาหารชื่อดังกว่า 40 ร้าน โชว์พิเศษต่างๆ ที่พร้อมสร้างความประทับใจ จาก 4 ย่าน ได้แก่ ย่านริมน้ำ, ย่านโรงงาน, ย่านกลางเมือง และย่านเจริญกรุง ปิดท้ายด้วยทัศนียภาพแบบพาโนรามาพร้อมทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ยาวที่สุดในเมืองไทยกว่า 300 เมตร สู่แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ตั้งอยู่ที่ ตรงข้ามกับซอยเจริญกรุง 93 หรืออยู่ในอาณาบริเวณช่วงซอยเจริญกรุง 72-76 จุดนัดพบแห่งใหม่ เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.facebook.com/asiatique.thailand

อันดับ 9. คนแห่ชมงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2012 ยอดจองทะลุ 85,904 คัน  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนยังคงเดินทางมาชมงาน มอเตอร์เอ็กซ์โป 2012 ที่เมืองทองธานีกันอย่างคับคั่ง โดยงานจัดขึ้นตั้งแต่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม ตลอด 12 วันที่ผ่านมา มียอดผู้สนใจจองรถยนต์ในงาน รวมแล้ว 85,904 คัน ทุบสถิติยอดจองในงานมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ในรอบ 29 ปี ที่เคยจัดมา



ด้านนายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ผู้จัดงาน Motor Expo เปิดเผยว่า การจัดงานครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเกินเป้าหมาย เพราะยอดจองรถสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้่งไว้กว่า 5 หมื่นคัน ทำให้ยอดเงินสะพัดในงาน 9 หมื่นล้านบาท สูงที่สุดเป็นประวัติศาสตร์นับตั้งแต่จัดงานมา 29 ปี นอกจากนี้ยังมีผู้เข้าชมงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.6 อีกด้วย เมื่อเทียบกับปีก่อน

ทั้งนี้ เป็นยอดจองรถคันแรก ร้อยละ 40, รถอีโคคาร์ ร้อยละ 20 และรถกระบะ ร้อยละ 10 ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายลดภาษีรถคันแรกของรัฐบาล และปัญหาน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ประชาชนต้องมาซื้อรถในปีนี้



อันดับ 8. เปิดตัวรถยนต์ใหม่ๆ เพียบ (จริงๆ ในปีนี้มีเปิดตัวหลายยี่ห้อ อาทิ Suzuki Swift , Mitsubishi Mirage, Nissan Sylphy แต่ขอนำมาลงเป็นตัวอย่างแต่เพียงยี่ห้อรุ่นเดียวคือ Honda Brio เพราะเนื้อที่จำกัด)

Honda Brio รถอีโคคาร์คันแรกจากค่ายฮอนด้า มาพร้อมกับราคาน่าดึงดูดใจให้คนรักรถได้เข้ามาจับจองกันเป็นเจ้าของ ในงาน motor show 2012 หรือ งานมหกรรมรถยนต์บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 33 สำหรับรถอีโคคาร์ราคาประหยัดรุ่นนี้ ทางบริษัทฮอนด้าต้องการแสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นของตัวรถ ด้วยรูปทรงกะทัดรัด ดีไซน์ด้านหน้าเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมคู่ สะดุดตาด้วยไฟหน้าทรงกลมขนาดใหญ่กับกระจังโครเมียม ด้านข้างให้ความรู้สึกของการทะยานยามโลดแล่นไปข้างหน้า ขณะที่ด้านหลังเน้นความเพรียวลม และดีไซน์ที่ทันสมัย โดยลำตัวของรถค่อนข้างสั้น ซึ่งจะช่วยให้ขับขี่คล่องตัว และสามารถจอดรถได้สะดวก นอกจากนี้ ฮอนด้า ยังเลือกที่จะลดความสูงและขยายความกว้างให้กับ Honda brio รวมทั้งตัดทุกสิ่งที่สิ้นเปลืองเนื้อที่ออกไป ทำให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารไม่เล็กอย่างที่คิด ที่นั่งด้านหน้าเป็นทรงสปอร์ต มีหมอนรองศีรษะช่วยลดแรงกระแทกอีกชั้นหนึ่ง และด้วยความเป็นแฮทช์แบ็ก 5 ประตู จึงสะดวกในการเก็บของและเคลื่อนย้ายสัมภาระหลังรถอีกด้วย

สำหรับ Honda brio มีให้เลือก 2 รุ่น คือ S กับ V ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ i-VTEC 4 สูบ ความจุ 1.2 ลิตร ที่ให้พลัง 90 แรงม้า สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพิลง E20 และประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึง 20 กิโลเมตรต่อลิตร อีกทั้งปล่อยไอเสียสะอาดตามมาตรฐานยูโร - 4 ประสิทธิภาพของตัวถังยังผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากการทดสอบการชน ทั้งด้านหน้าและด้านข้าง

นอกจากรูปลักษณ์ภายนอก และสมรรถนะของเครื่องยนต์แล้ว Honda brio ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยทั้งแบบเชิงป้องกันและเชิงรับ อาทิ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) พร้อมเข็มขัดนิรภัยชนิดปรับความดึงอัตโนมัติ และถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ใน Honda brio ทุกรุ่น ซึ่งนับว่าเป็นการยกมาตรฐานด้านความปลอดภัยของรถยนต์กลุ่มอีโคคาร์

ส่วน ออพชั่นอื่น ๆ ที่น่าประทับใจของ Honda brio ทุกรุ่น อาทิ พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS ช่วยให้การขับขี่รู้สึกเบามือที่ความเร็วต่ำ และรู้สึกมั่นคงที่ความเร็วสูง, ที่นั่งหลังพับเก็บได้, พวงมาลัยปรับระดับได้, ไฟสัญญาณประหยัดเชื้อเพลิง ECO สีเขียว (ที่จะสว่างเมื่อการขับขี่อยู่ในโหมดประหยัดเชื้อเพลิง ช่วยให้รู้ว่าการขับขี่ขณะนั้นเป็นอย่างไร), ระบบปรับอากาศ, สัญญาณเตือน (สำหรับเบรกมือ กุญแจ ไฟหน้าและเข็มขัดนิรภัย) ระบบล็อกป้องกันเด็ก, กุญแจ WAVE ระบบ Immoblizer, เข็มขัดนิรภัยและไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED, เครื่องเสียงแบบ 2 DIN ออกแบบมาให้แลดูกลมกลืนกับแผงหน้าปัด ประกอบด้วยช่องต่อ USB และ AUX ฯลฯ สีสันของ Honda brio มีเลือก 5 เฉด ได้แก่ เขียวเฟรชไลม์ เมทัลลิก, ขาวทาฟเฟต้า, ฟ้าเซรูเลียน(เมทัลลิก), เงินอลาบาสเตอร์(เมทัลลิก) และดำคริสตัล เพิร์ล โดยมีราคาจำหน่าย ดังนี้

รุ่น S (เกียร์ธรรมดา) ราคา 399,900 บาท

รุ่น V (เกียร์ธรรมดา) ราคา 469,500 บาท

รุ่น V (เกียร์อัตโนมัติ CVT) ราคา 508,500 บาท

ทั้งนี้ ทางฮอนด้าตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่า Honda brio จะสามารถสร้างยอดขายภายในระยะเวลา 1 ปี หลังการเปิดตัวไปในงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่แล้วได้ทั้งหมด 40,000 คัน โดยมี หมาก ปริญ สุภารัตน์ และ ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์นันด์ สองนักแสดงรุ่นใหม่สุดฮอต มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ช่วยดันยอด Honda brio อีกแรงหนึ่ง


อันดับที่ 7. ทำเอาวงการสั่นสะเทือน เมื่อเซเลบริตี้ระดับโลกตัวจริงอย่าง ปารีส วิตนีย์ ฮิลตัน นางแบบ นักแสดง และนักร้องชาวอเมริกันบินลัดฟ้ามาถึงเมืองไทย เพื่อร่วมงานปาร์ตี้เปิดตัวปรากฏการณ์ทางดนตรีระดับโลกบนเวทีกลางทะเลครั้งแรก ในเมืองไทย “ซีดัคทีฟ เอเลเมนท์”

เดินทางมาไทยเป็นครั้งแรกใช่ไหม?

“นี่เป็นการเดินทางมาประเทศไทยครั้งแรกอย่างเป็นทางการของฉันค่ะ รู้สึกประทับใจกับประเทศไทยมาก”

อะไรคือสิ่งที่อยากทำที่สุด สำหรับการมาครั้งนี้?

“ฉันตั้งตารอคอยที่จะได้เห็นหาดทรายและแสงแดด ที่ชายหาดของทะเลไทย และหวังว่าจะมีโอกาสได้ไปเที่ยวภูเก็ต รวมไปถึงอยากร่วมสนุกกับทุก ๆ คนในเทศกาลดนตรี ซีดัคทีฟ เอเลเมนท์ ด้วยค่ะ”

มาครั้งนี้ประทับใจอะไรบ้าง?

“ตั้งแต่มาถึงฉันรู้สึกประทับใจกับรอยยิ้ม และการให้การต้อนรับอย่างดีเยี่ยมของเจ้าบ้าน ต้องขอขอบคุณทุกคนจริง ๆ”

ถ้ามีเวลาอยู่เมืองไทยนานกว่านี้ อยากจะทำอะไรบ้าง?

“อยากมีเวลามากกว่านี้ค่ะ จะได้ไปเที่ยวชมวัดและปราสาท ราชวัง และไปชอปปิงด้วย เพราะได้ยินว่าดีไซเนอร์ไทยมีฝีมือและมีชื่อเสียงมาก รวมไปถึงอยากมีโอกาสได้ไปทะเลไทยด้วย เพราะรู้มาว่าที่ภูเก็ตมีรีสอร์ทสวย ๆ เยอะมาก ฉันอดใจไม่ไหวจริง ๆ ค่ะ”

(จะไม่ให้ชื่นชมดีไซเนอร์ไทยได้ไง เพราะชุดที่ใส่แว่ว ๆ ว่าเป็นคอลเลกชั่นใหม่ ๆ ยี่ห้อ ’ขวัญข้าว“KWANKAO ที่ไม่ใช่ใครอื่นไกลแต่เป็นฝีมือคนบันเทิงอย่าง สาวแพง-ขวัญข้าว นี่เอง)

ได้ลองอาหารไทยบ้างหรือยัง?

“ฉันชอบอาหารไทยค่ะ วันนี้มีโอกาสทานผัดไทยและข้าวผัดแล้ว อร่อยมากค่ะ”

คนส่วนใหญ่จะมองว่า “ปารีส ฮิลตัน” เป็นเซเลบริตี้ที่มีชื่อเสียงของฮอลลีวูด ตัวจริงของคุณจริง ๆ เป็นอย่างไร?

“ตอนนี้ฉันกำลังโฟกัสกับธุรกิจของฉันมากกว่าค่ะ ฉันมองตัวเองว่าตัวเองเป็นนักธุรกิจสาวมากกว่ามองว่าตัวเองเป็นเซเลบริตี้หรือคนดังนะ”

สุดท้ายอยากฝากอะไรถึงแฟน ๆ ชาวไทยหรือคนที่ติดตามผลงานบ้าง?

“ขอบคุณทุกคนที่นี่ สำหรับความรักและการสนับสนุนนะคะ ขอบคุณสำหรับรอยยิ้มที่อบอุ่นที่มีค่ามากกว่าคำพูดใด ๆ ด้วยค่ะ และหวังว่าฉันจะได้มีโอกาสเจอทุก ๆ คนอีกนะคะ”

การได้คุยกับสาว ปารีส ฮิลตัน ครั้งนี้ ทำให้เรารู้ว่าเธอไม่ได้เป็นแค่ไฮโซสาวที่ใคร ๆ รู้จัก แต่เธอเป็นหญิงสาวที่เฟรนด์ลี่เป็นกันเองมากคนหนึ่ง รวมถึงรู้เรื่องราวเกี่ยวกับประเทศไทยเยอะทีเดียว อย่างนี้มีหวังเข้าไปอยู่ในใจแฟนคลับมากขึ้นแน่นอนแล้วสิเนี่ย!.

อันดับที่ 6.เจ้าแม่พรีเซ็นเตอร์ อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ ค่าตัวงาน Event 6 หลักปลายๆ

นอกเหนือจากงานละครที่ "อั้ม-พัชราภา" ครองบัลลังก์นางเอกเซ็กซี่เบอร์หนึ่งของช่อง ที่มีผลงานละครมาเหยียบ 40 เรื่อง งานอดิเรกที่เป็นการรับงานโชว์ตัวตามงานอีเว้นท์ต่างๆ แล้ว งานที่รับทรัพย์เป็นกอบเป็นกําที่ทําให้กลายเป็นเศรษฐินีก็คืองานพรีเซนแตอร์โฆษณา ที่ "อั้ม-พัชราภา" ได้รับฉายาว่า "พรีเซนเตอร์ตัวแม่" โดยเฉพาะสินค้าทางด้านความงาม และการเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาของสาวอั้ม ก็ทําให้สินค้าติดตลาดได้ตามคาด อย่าง "ซันซิล" ที่ต้องการจะเปลี่ยนภาพลักษณ์สินค้าจากที่เคยดูคร่ำครึมาเป็นดูมีชีวิตชีวา สาวอั้มก็ทําให้สินค้าตัวนี้สามารถยึดบัลลังก์ผู้นําในตลาดแชมพูและครีมนวดในสมรภูมิที่แข่งขันกันอย่างรุนแรงไว้ได้

เช่นเดียวกับ "มิสทิน" ที่สาวอั้มครองใจสินค้าตัวนี้จนได้เป็นพรีเซนเตอร์ของมิสทินมายาวนานถึง 7 ปีแล้ว เพราะที่ผ่านมาไม่ว่ามิสทินจะเพิ่มจํานวนพรีเซนเตอร์อีกกี่คน หรือคัดใครออกไป แต่สาวอั้มคนนี้ก็ยังยืนหยัดอยู่กับมิสทินได้ยาวนานกว่าใคร  แค่ปีเดียว สาวอั้มก็รับเละจากโฆษณามิสทินถึง 2 ชิ้น เพราะหลังจากที่เป็นพรีเซนเตอร์แป้งพัฟมิสทินมาแล้วชิ้นหนึ่ง ก็ยังเพิ่มอีกชิ้นเป็นโลชั่นบํารุงผิวมิสทิน ที่สนนราคาค่าตัวชิ้นละ 5 ล้านบาท ทําให้สาวอั้มฟันจากมิสทินไปเหนาะๆ อย่างน้อย 10 ล้าน
ย้อนไปก่อนหน้านี้ ว่ากันว่าเฉพาะปี 2548 สาวอั้มมีเงินสดในบัญชีเงินฝากธนาคารไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ขณะที่ ปี 2549 รายได้ของเธอพุ่งขึ้นตามความฮอต ซึ่งไม่น่าจะต่ำกว่า 50 ล้านบาท และก็เป็นไปได้ที่ปี 2550 เธอจะยังรักษาระดับรายได้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท หรืออาจจะมากกว่านั้น  ทรัพย์สมบัติเท่าที่เปิดเผยได้ของสาวอั้ม มีบ้านหลังงามราคา 70 ล้านบาท รถเบนซ์ 2 คัน รถเล็กซัส 1 คัน และรถยนต์สําหรับพ่อ-แม่ แถมสาวอั้มยังเคยสร้างสถิติค่าโชว์ตัวสูงสุด 12 ล้านบาทที่ประเทศอเมริกา ในการเดินทางไปโชว์ตัวเป็นเวลา 2 สัปดาห์  ขณะที่ปีนี้ สาวอั้มแค่โชว์อาบน้ำนม และลงทุนสวมชุดเซ็กซี่ สีขาวอวดเนินอก แค่งานนี้งานเดียวก็รับเงินแสนไปเหนาะๆ แถมด้วยการสร้างสถิติใหม่รับงานเดินแบบในงานแฟชั่นโชว์วันเดียว จ๊อบเดียว ด้วยค่าตัวสูงสูดถึง 6 แสนบาท  นอกจากนี้ ปี 2552 สาวอั้มยังรับทรัพย์จากการเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ 12 Plus ร่วมกับหนุ่มๆ วง Super Junior เป็นพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์หมากฝรั่งไม่มีน้ำตาล "ไทรเด้นท์ รีแคลเด้นท์"  ปัจจุบันก็ขยับชั้นขึ้นมาเป็นเถ้าแก่เนี้ยเอง โดยทําธุรกิจน้ำหอมของตัวเองในชื่อ "Sexy Me By Patchrapa" สาวอั้มจึงกลายเป็นดาราที่มีรายได้รวมต่อปีมากเป็นอันดับ 1 ของวงการบันเทิง ล่าสุด ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ รถยนต์ Toyota Altis ร่วมกับนักแสดงรุ่นน้องต่างช่อง โฬม พัชฏะ รับทรัพย์หลักล้าน ตอกย้ำความเป็นเจ้าแม่โฆษณาและงานอีเว้นต์ และกลับมาทวงบัลลังก์นางเอกเบอร์ 1ช่อง 7 ได้สำเร็จ


อันดับที่ 5.งานแกรมมี่ วันเดอร์แลนด์ มหกรรมบันเทิงยกค่ายครั้งยิ่งใหญ่
แถลงข่าวไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับโปรเจกต์ยักษ์แห่งปี ที่รวมสุดยอดความบันเทิงครบวงจร โชว์ศักยภาพความเป็นหนึ่ง กับงาน ''GRAMMY WONDERLAND'' ที่สุดของมหกรรมบันเทิงเมืองไทย จัดหนัก ยกกันมาทั้งค่าย ขนขบวนพาเหรดศิลปิน ดีเจ และนักแสดงชื่อดังมาสร้างความบันเทิง งานนี้แห่กันมาแถลงข่าวแบบมันหยด หมดตึก นำโดยผู้บริหาร อาทิ คุณไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม, คุณบุษบา ดาวเรือง, คุณสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา, คุณกริช ทอมมัส, คุณธนา เธียรอัจฉริยะ, คุณฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม, คุณระฟ้า ดำรงชัยธรรม, คุณถกลเกียรติ วีรวรรณ, คุณเกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน, คุณยุทธนา บุญอ้อม พร้อมด้วยศิลปินกว่า 60 ชีวิต อาทิ ''เบิร์ด'' ธงไชย แมคอินไตย์, คริสติน่า อากีล่าร์, ใหม่ เจริญปุระ, มาช่า, หนึ่ง ณรงค์วิทย์, กอล์ฟ พิชญะ, นัท มีเรีย, อ๊อฟ ปองศักดิ์, เต๋อ ฉันทวิชช์, เปาวลี พรพิมล, ไผ่ พงศธร, Zeal, Potato, เตชินท์ ดีเจจาก เอ-ไทม์ มีเดีย อาทิ อ้อม สุนิสา+เชาเชาว์+อ๋อง+ดาด้า+นุ้ย+ต้นหอม, ศิลปินเดอะสตาร์ อาทิ รุจ+เซน+นท+แกรนด์ ฯลฯ โดยทั้งหมดยืนยันลงชื่อชวนกันมามัน กับ 4 วันแบบเต็มๆ แน่นอน ในวันพฤหัสบดีที่ 4 - วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคมนี้ ที่ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2-3

งานนี้ พี่เล็ก บุษบา ดาวเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงที่มาของการจัดงานครั้งนี้ว่า “สำหรับงานแกรมมี่วันเดอร์แลนด์ครั้งนี้ เกิดจากการพูดคุยกันของ พวกเราพี่ๆ น้องๆ ในแกรมมี่ กับคุณไพบูลย์ โดยเห็นตรงกันว่า เราก็อยู่ในวงการนี้มาสามสิบปีแล้ว มันมีเรื่องราว มีความสุข ความประทับใจ จากงานที่เราทำออกไป ทำให้คนดูคนฟังมีความสุข เราเองคนทำงานก็มีความสุข ที่ได้ทำงานเหล่านี้ออกไป จากตอนแรกๆ เราทำเพลง ต่อมาก็ขยายออกไปเป็นอย่างอื่นอีก ทั้งรายการทีวี วิทยุ ละคร หนัง หนังสือ เว็บไซต์ กระทั่งแอพพลิเคชั่นต่างๆ มันยาวนานมาหลายรุ่น เราก็เลยมาดูว่าตลอดสามสิบปีนี่ เราอยากเอาสิ่งที่เราทำมา มาจัดขึ้นเป็นงานๆ หนึ่ง รวมเรื่องราวของคนทุกรุ่น ตั้งแต่ยุคแรกก่อตั้งมาจนวันนี้เลย อยากให้คุณพ่อ คุณแม่พาลูกพาหลานไปดูกันได้ ไปรับความสุขความบันเทิงร่วมกัน ไปดูศิลปินที่ฮิตๆ ตอนสมัยคุณพ่อคุณแม่จีบกัน พอมาถึงวันนี้ลูกๆ ก็ยังได้เย้วๆ กับศิลปินอีกรุ่นหนึ่ง มันน่าจะเป็นภาพที่ดูผูกพันธ์กันดี ก็เลยออกมาเป็นงาน “แกรมมี่ วันเดอร์แลนด์” มันหยด หมดตึกมหกรรมบันเทิงยกค่ายครั้งยิ่งใหญ่อย่างที่เห็นกันนี้ค่ะ” พบ กับเบื้องหลังความสำเร็จอันหลากหลายตลอด 30 ปี ของแกรมมี่ 4 วันแบบเต็มๆ ในงาน ''GRAMMY WONDERLAND'' ในวันพฤหัสบดีที่ 4 - วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคมนี้ ที่ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2-3 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองบัตรได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา หรือคลิกดูรายละเอียดได้ที่ www.thaiticketmajor.com, www.grammywonderland.com และwww.atimemedia.com หรือโทร. 0-2262-3456 บัตรราคา 300 บาท สำหรับผู้ใหญ่ และ บัตรราคา 100 บาท สำหรับเด็กที่มีส่วนสูงต่ำกว่า 120 ซม. พร้อมโปรโมชั่น สุดพิเศษในการซื้อบัตร 5 ใบในราคาเดียวกันแถม 1 ใบ ภายในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ เริ่มจำหน่ายบัตร ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป


อันดับที่ 4. งานเปิดตัว i-phone5 สรุปราคาเครื่องในประเทศทั้งสีขาวและดำ
ราคา iPhone 5 เครื่องศูนย์ของ AIS, DTAC, TRUEMOVE H (ราคาเท่ากัน)

• 16 GB : 24,550 บาท

• 32 GB : 28,250 บาท

• 64 GB : 31,950 บาท

ราคา Appple Store (มีข้อเสียคือต้องรอ 1 สัปดาห์ แต่ได้ราคาถูกที่สุด) >วิธีการสั่งซื้อ<

• 16 GB : 22,900 บาท

• 32 GB : 26,500 บาท

• 64 GB : 29,900 บาท

ราคาเครื่องหิ้ว @ มาบุญครองอัพเดทล่าสุด (เครื่องศูนย์เริ่มมีวางขายแล้ว)

• 16 GB : 25,300 บาท

• 32 GB : 28,000 บาท

• 64 GB : 32,300 บาท

ราคาเครื่องนอก Unlock ล่าสุด (ดูราคาทุกประเทศที่วางจำหน่าย)

สเปค iPhone 5 (ไอโฟน 5)

- จอแสดงผลกว้าง 4 นิ้ว แบบ Retina Display Capacitive Touchscreen ความละเอียด 1136x960 พิกเซล (326 ppi)
- ระบบประมวลผลแบบ Dual-Core Processor ความเร็ว 1.0 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพ (GPU) PowerVR SGX 543MP3
- ระบบปฏิบัติการ iOS 6
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 1GB
- กล้องดิจิตอลด้านหน้า ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิตอลด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ Full HD 1080p
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16GB, 32GB และ 64GB
- รองรับเครือข่าย 2G, 3G และ 4G
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth 4.0, GPS (A-GPS)
- มีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ Black & Slate และ สีขาว White & Silver



อันดับที่ 3. เปิดตัวน้ำอัดลมประเภทน้ำดำ ยี่ห้อใหม่ “est” cola

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่เราได้ยินข่าวลือทีผ่านมาว่า ทางเสริมสุขจะผลิตสินค้าตัวใหม่เป็นแบรนด์ของตัวเอง โดยยกเลิกการต่อสัญญากับแบรนด์เก่า จึงทำให้ตลาดเครื่องดื่มในบ้านเราฮือฮากันมาอยู่พักใหญ่ ว่าทางเสริมสุขจะผลิตอะไรออกมาสู้ตลาด และในวันนี้ก็เฉลยแล้ว ทางเสริมสุขก็พร้อมก้าวกระโดดผลักดันแบรนด์ใหม่ภายใต้สโลแกน “สุดขั้วในแบบคุณ” กับชื่อแบรนด์ใหม่ว่า “est” (เอส) ที่หวังเจาะตลาดวัยรุ่นไทยสายพันธุ์ซ่า และพร้อมผลักดันออกสู่ตลาดโลก ซึ่งในวันนี้ทางเสริมสุขได้จัดงานสุดขั้วเปิดตัวเอสอย่างเป็นทางการไปกันที่โรงแรม The Okura Prestige Bangkok เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา ใกล้ถึงวันที่ 1 พ.ย.55 เข้ามาเท่าไหร่ คู่แข่งศึกน้ำดำในไทย แต่ละค่ายต่างงัด “กลยุทธ์” กันมาเตะตัดขา ปาดหน้าเค้กคู่แข่งไม่ต่างจากสมรภูมิชาเขียว ที่ตัดหน้ากันแถลงข่าวเปิดตัวกลยุทธ์การตลาดระหว่างโค้ก (โคคา โคล่า) กับเป๊ปซี่แค่วันเดียว การตัดหน้ากันออกแคมเปญทางการตลาดของโค้ก ซีเดย์ วันโค้ก สุขซ่าสดชื่อทั่วไป “คาราวานแจกโค้ก 1 ล้านขวดทั่วประเทศ” วันเดียวกันที่เป๊ปซี่กำลังนั่งแถลงกลยุทธ์การตลาดที่รอยัล พารากอน ฮอลล์

การออกทีเซอร์ของ เอส “est” (กับคำพูดว่า..เอสทั่วประเทศเร็วๆนี้) น้ำดำยี่ห้อใหม่ของเสริมสุข ที่ก่อนหน้านี้ทายกันว่าเสริมสุขจะทำน้ำดำหรือไม่ หรือจะใช้แบรนด์ มาย โคล่า (My Cola) ธุรกิจน้ำดำที่อยู่ในพอร์ตของบริษัท เฟรเซอร์แอนด์นีฟ (เอฟแอนด์เอ็น) อีกธุรกิจที่เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี แห่งทีซีซีกรุ๊ป ไปฮุบมาได้จากเมืองลอดช่องมายังไม่สะเด็ดน้ำ หลังจากฮุบเสริมสุขมาก่อนหน้านี้ พอฟันธงว่าเสริมสุขจะทำน้ำดำ ก็ทายกันต่อว่าจะใช้ชื่ออะไร มีข่าวออกมาว่าจะใช้ชื่อ est แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก ความนิ่งคือคำตอบ ทว่าสุดท้ายเสริมสุขก็ใช้ชื่อนี้จริงๆด้วย นอกจากการทีเซอร์ในยูทูป เสริมสุขยังยอมจ่ายค่าโฆษณาช่วงไพร์มไทมส์ นาทีละ 3-5 แสนบาท (ขึ้นอยู่กับช่องในฟรีทีวี) เพื่อป่าวประกาศว่าจะมี “ตาอยู่”เข้ามาชิงชัยในตลาดน้ำดำ ไหนจะบิ๊กโคล่า สิงห์น้ำดำภูธร ที่รุกกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งแบบอินเตอร์ๆ กับแคมเปญ “บิ๊กโคล่า ท้าดวลจุดโทษกับโจ ฮาร์ต” สุดยอดผู้รักษาประตูอันดับต้นๆของโลก ด้วยงบการตลาดกว่า 160 ล้านบาทปูพรมทั้งในไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย

อันดับที่ 2 กลุ่มเสี่ยเจริญ ณ ไทยเบฟ และเบอร์ลี่ยุคเกอร์ ซื้อดะ ทุกอย่างที่ขวางหน้า ซื้อถือและฮุบกิจการแบบเบ็ดเสร็จ งูกินหาง กินกลาง ตลอดตัว จับตาศึก 3 ยักษ์ใหญ่ชิงตลาดเบียร์เอเชีย′ไทยเบฟฯ-ไฮเนเก้น-คิริน′เปิดฉากแย่งหุ้นเอฟแอนด์เอ็น เปิดแผนเสี่ยเจริญไล่ฮุบดะ ตั้งแต่เสริมสุขถึงที่เวิ้งนาครเขษม คาดซื้ออีกธุรกิจอาหาร หวังต่อยอดธุรกิจ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ระบุว่า บริษัท เฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ (เอฟแอนด์เอ็น) ได้ว่าจ้างโกลด์แมน แซคส์ เป็นผู้ศึกษาข้อเสนอของบริษัทไฮเนเก้น ผู้ผลิตเบียร์ระดับโลกจากเนเธอร์แลนด์ ที่ขอซื้อหุ้นที่เอฟแอนด์เอ็นถืออยู่ใน บริษัทเอเชีย แปซิฟิก บริวเวอรรี (เอพีบี) ผู้ผลิตไทเกอร์เบียร์ ในราคา 6,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ทั้งนี้ หากเอฟแอนด์เอ็นยอมรับการเสนอขอซื้อหุ้นครั้งนี้ จะส่งผลให้ไฮเนเก้นสามารถเสนอขอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดเพื่อเป็นเจ้าของเอพีบีไปโดยสมบูรณ์ได้ทันที และทำให้ราคาหุ้นเอพีบี ในตลาดหุ้นสิงคโปร์วันเดียวกันถีบตัวสูงขึ้นไปถึง 18%  นายโกะ ฮันเผิง นักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ดีเอ็มจีแอนด์พาร์ทเนอร์ ยอมรับว่าคาดการณ์กรณีนี้ลำบาก แต่ถ้าหากเอฟแอนด์เอ็นไม่ยอมรับข้อเสนอ ไฮเนเก้นก็ยังมีทางออก ด้วยการไล่ซื้อหุ้นเพื่อครอบงำกิจการ (Hostile Takeover) หรือหันไปเสนอซื้อหุ้นเอฟเเอนด์เอ็น เพื่อให้กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่แทนบริษัทไทย เบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ในเวลานี้  รอยเตอร์ระบุว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าไทยเบฟ และผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ในเอฟแอนด์เอ็น คือ คิรินเบียร์ ซึ่งถือหุ้นอยู่ 14.7% ไม่น่าจะยอมขายหุ้นเอพีบีให้ไฮเนเก้น เพราะจะทำให้ไฮเนเก้นครองความเป็นใหญ่ในตลาดเบียร์เอเชีย

แหล่งข่าวจากวงการเครื่องดื่ม กล่าวว่า ต้องจับตามองว่า ไทยเบฟฯจะเพิ่มราคาซื้อแข่งกับไฮเนเก้นหรือไม่ และกลุ่มคิริน โฮลดิ้ง จะแข่งขันด้วยหรือไม่ ซึ่งจะทำให้เกิดการแข่งขันซื้อหุ้นเอพีบีและเอฟแอนด์เอ็น เพื่อรักษาตลาดเบียร์ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นตลาดเบียร์ที่มีศักยภาพเติบโตเร็ว เฉพาะในเมืองไทย ตลาดนี้มีมูลค่าสูงถึง 130,000 ล้านบาท หรือถึง 2,000 ล้านลิตร แหล่งข่าวกล่าวว่า นอกจากนี้ สิ่งที่น่าจับตา คือ การเข้าซื้อธุรกิจเพิ่มเติมของกลุ่มนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของไทยเบฟฯ ในกลุ่มอาหารเพื่อต่อยอดธุรกิจของกลุุ่ม จากปัจจุบันมีธุรกิจทั้งโรงแรม เครื่องดื่มทั้งแอลกอฮอล์และนอนแอลกอฮอล์ การเงิน และพาณิชย์ ทั้งที่ล่าสุดปีนี้ กลุ่มนายเจริญเพิ่งเข้าซื้อหุ้นบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) และเพิ่งชนะประมูลซื้อที่ดินเวิ้งนาครเขษม ของราชสกุลบริพัตร เนื้อที่ 14 ไร่ มูลค่า 4.5 พันล้านบาท แหล่งข่าวกล่าวว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มนายเจริญได้ดึงตัวนายบุญคลี ปลั่งศิริ อดีตประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เข้ามาเป็นที่ปรึกษาให้กับกลุ่มบริษัทเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งทางบุญคลีถือเป็นหนึ่งในบุคคลหลักในการเข้ามาเป็นที่ปรึกษาในการมองหาซื้อธุรกิจที่เห็นว่ามีศักยภาพ ซึ่งนายบุญคลีถือว่ามีความเชี่ยวชาญเรื่องธุรกิจอันดับต้นๆ ของเมืองไทย

“เจริญ สิริวัฒนภักดี” เจ้าพ่อน้ำเมาแห่งเมืองไทย

- ส่งมือดีเจรจาซื้อ Raimon บริษัทอสังหาในตลาดหลักทรัพย์
- พร้อมทาบมืออาชีพเข้ามาบริหารหากเจรจาซื้อสำเร็จตามเงื่อนไข!
- วงการชี้เป็นการ Backdoor เข้าตลาดหุ้นที่สมเหตุสมผล เพราะ “เสี่ยเจริญ” มีธุรกิจอสังหาฯ นอกตลาดฯ ที่พร้อมจะเติบโตเหนือบริษัทชั้นนำด้านอสังหาฯ ในตลาดหุ้นไทยได้
- เชื่อการเข้าตลาดหุ้นฯ ครั้งนี้จะไม่มีแรงต้าน...แต่จะทำให้เซียนหุ้นทั้งขาใหญ่และแมงเม่าได้โลดเล่นกันอีกแล้ว
เป็นที่ฮือฮาในแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เมืองไทยอีกครั้ง เมื่อกระแสข่าวของราชาเทกโอเวอร์และเศรษฐีชื่อดังจากวงการน้ำเมาของเมืองไทย “เจริญ สิริวัฒนภักดี” กำลังเจรจาซื้อหุ้นของไรมอนด์แลนด์ ไม่ว่าบิ๊กดีลในรอบ 5 เดือนของปีนี้จะสำเร็จหรือไม่ เจ้าสัวเจริญกลายเป็นบุคคลที่ถูกจับตามองอีกครั้ง หลังจากที่ผ่านมาชื่อของเสี่ยเจริญถูกฟันธงว่า เขาคือกลุ่มทุนที่อยู่เบื้องหลังของบริษัท เอสเอส เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด ในฐานะผู้ทำคำเสนอซื้อหุ้นบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) หรือ SSC รวมทั้งดีลการเทกโอเวอร์หลายบริษัทก่อนหน้านี้ไม่ว่า บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ บริษัทอาหารสยาม บริษัทประกันภัยอาคเนย์ รวมทั้ง บริษัท โออิชิ ของตัน ภาสกรนที ผู้บุกเบิกตลาดชาเขียวในเมืองไทย ที่สุดท้ายแล้วจบลงด้วยการที่เสี่ยเจริญเข้าครอบครองเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธุรกิจดังกล่าว

“ธุรกิจที่กลุ่มทุนของเสี่ยเจริญเข้าไปเทกโอเวอร์บริษัทในตลาดหลักทรัพย์หลายแห่งทั้งในกลุ่มคอนซูเมอร์ กลุ่มประกันภัย และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในรอบหลายปีที่ผ่านมา ล้วนเป็นความพยายามอย่างหนักและต่อเนื่อง มีเป้าหมายเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจระยะยาว หลังจากความพยายามนำเอาธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจแอลกอฮอล์ เบียร์ เหล้า เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ของเมืองไทยเมื่อหลายปีก่อนไม่สำเร็จจนต้องไปเข้าในตลาดต่างประเทศ” แหล่งข่าวจากวงการตลาดทุนให้มุมมอง


อันดับที่ 1 นักร้องหน้าจืด,ท่าเต้นสุดพิสดาร PSY ,Gangnam Style โมเดลการตลาดสุดยอดคลาสสิก ตีตลาดระดับโลกสำเร็จ (คงไม่มีใครปฏิเสธว่า เป็นปีของเขาคนนี้ และก็แจ้งเกิดในระดับโลกเสียด้วย)

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2555 ไซ (PSY) (ชื่อจริง พัคแจซัง) นักร้องสุดฮ็อตระดับโลก เจ้าของเพลง 'GANGNAM STYLE' ด้วยยอดวิวอันดับที่ 1 ใน YouTube มากกว่า 840 ล้านครั้ง ได้ลัดฟ้าสู่เมืองไทยเพื่อร่วมงาน 'GANGNAM STYLE THAILAND EXTRA LIVE' ซึ่งตรงกับเทศกาลวันลอยกระทง งานประเพณีไทยระดับโลก ท่ามกลางการต้อนรับจากแฟนๆชาวไทยอย่างร้อนแรง ในช่วงบ่าย ไซ ได้เดินทางมายังห้างสยามพารากอน เพื่อลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมกันนี้เขายังได้เข้าร่วมงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต 'GANGNAM STYLE THAILAND EXTRA LIVE' ก่อนที่ในช่วงค่ำ ไซ ได้เดินทางไปเปิดฉากคอนเสิร์ต 'GANGNAM STYLE THAILAND EXTRA LIVE' ณ สนามกีฬา SCG Stadium เมืองทองธานี พร้อมอวดท่าเต้นขี่ม้าในเพลง 'GANGNAM STYLE' รวมถึงเพลงฮิตต่างๆ ให้แฟนๆชาวไทยได้แดนซ์กันแบบสดๆเลยทีเดียว

เริ่มจากได้รับเชิญไปออกรายการทีวีโชว์หลายรายการในอเมริกา ไปร่วมโชว์ในรายการแจกผลรางวัล AMA (American Music Award 2012), ได้พบปะกับเลขาธิการองค์การสหประชาชาติซึ่งเป็นชาวเกาหลีด้วยกัน ไปสาธิตการเต้นนี้ให้กับ บริทนี่ย์ สเปียร์ ,จัสติน บีเบอร์ รวมถึงถูกนำไปเป็นท่าเต้นล้อเลียน รวมถึง เต้น cover ในหลายวาระโอกาส ในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึง ปธน.สหรัฐ และผู้ท้าชิง ก็เคยได้นำไปเป็นท่าล้อเลียนหาเสียงตอนช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาแล้ว อีกทั้งยังสร้างสถิติใหม่ ด้วยการเป็นนักร้องเอเซียคนแรกที่พาเพลงของตนขึ้นไปติดอันดับในชาร์ต Billboard Chart ของสหรัฐอเมริกา ได้สำเร็จ สูงสุดเป็นอันดับ 2 ในชาร์ต Hot 100 Song เมื่อไม่นานมานี้ จากนั้นอันดับก็ค่อยๆร่วงลง ตามลำดับ


การพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส หรือการตลาดที่สามารถค้นหาจุดขายใหม่ จุดแข็งที่ไม่ใช่หน้าตา แต่เป็นลีลา ตัว psy หากเปรียบเป็น product ก็ต้องบอกได้ว่า product ตัวนี้ไม่ได้มีดีที่รูปลักษณ์ แต่มีดีที่แพ็กเก็จจิ้ง คุณสมบัติของสินค้า และอรรถประโยชน์ใช้สอยคุ้มค่า น่าใช้มากกว่า บวกกับการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ (positioning) เป็นศิลปินเอ็นเตอร์เทนเน่อร์ระดับตัวพ่อของโลกไปแล้วนั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น