วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555

โปสการ์ดถ่ายทอดอารมณ์ คำคมของชีวิต 2




“สิ่งที่แสดงออกมาบนกระจกสำคัญยิ่งกว่าสิ่งที่ผมควรจะเป็น ผมสงสัยว่าคุณตามฟังเรื่องที่พูดทั้งหมดนี้อยู่ไหม กระจกไม่ได้แสดงแก่ผมว่าผมควรจะเป็นอะไร นั่นเป็นความงามของกระจกบานนั้น กระจกบานนั้นเปิดเผยสิ่งที่ผมเป็นออกมาอย่างแม่นยำ ผมอาจจะหลบหลีกมัน ผมอาจจะผละหนีจากมัน ซึ่งทั่วไปแล้วเราจะทำอย่างนั้น แต่หากผมบอกตัวผมเองว่าไม่มีใครเลยที่จะช่วยผมได้ จากนั้นผมมองในกระจกบานนั้นและกระจกนั้นแสดง “สิ่งที่เป็นอยู่จริง” (what is) ไม่ใช่ “สิ่งที่ควรจะเป็น” (what should be) และบางทีผมอาจจะไม่ชอบ “สิ่งที่เป็นอยู่จริง” และนักจิตวิทยาและคนอื่นบอกเราว่า แสดงตัวคุณออกมาอย่างที่คุณเป็นอยู่ในทันที แล้วผมก็หวนกลับมาพึ่งพิงอีก ดังนั้น ผมรู้ตัวตลอดเวลาว่าผู้คนกำลังล้างสมองผมให้ตามแบบอย่างของเขาและผมปฏิเสธ แล้วผมเริ่มมีพลังมหาศาลอย่างเป็นธรรมชาติ ผมคิดว่าอันนี้ชัดเจน ไช่ไหม ผมเห็น “สิ่งที่เป็นจริง” ไม่ใช่ “สิ่งควรจะเป็น” ซึ่งคืออนาคตกาล ผมเห็นปัจจุบันขณะ (the present) อย่างแม่นยำ ปัจจุบันขณะ “ที่เป็นอยู่จริง” บนบานกระจกแห่งความสัมพันธ์ สิ่งที่ผมมองเห็นคือตัวผม ผมไม่ต่างไปจากสิ่งที่แสดงออกในนั้น” ......................ท่าน กฤษณมูรติ


“มนุษย์เกิดมาเพื่อหายใจ กิน นอน และสืบเผ่าพันธุ์ ก็มีสาระเท่านี้แหละครับ ไม่ได้ต่างจากสัตว์ พืช หรือตัวอะมีบา ส่วนทีเหลือคือสิ่งปรุงแต่ง แต่ทว่าเมื่อมองดูชีวิตจากมุมมองของจักรวาล โอกาสที่จะเกิดสิ่งทรงภูมิปัญญาเช่นมนุษย์บนโลกนี้ เป็นเรื่องที่เป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่ง การเกิดเป็นมนุษย์เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นใจอย่างหนึ่ง เพราะมีแต่เราเท่านั้นที่เกิดมาในรูปแบบชีวิตอย่างนี้ และมีแต่เราแต่ละคนที่เป็นตัวตนของเราแบบนี้ โอกาสที่เกิดมาเป็นคนที่มีสมองรู้จักคิด จินตนาการ เป็นประสบการณ์ที่น่าอัศจรรย์ และน่าตื่นเต้นกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่ทำได้น้อยกว่าเรา ดังนั้นเราน่าจะใช้ชีวิตสั้น ๆ ที่เป็นหนึ่งเดียวนี้อย่างมีคุณค่าที่สุด ใช้อย่างมีความหมายและมีความสุข เพราะเมื่อเราตายไป ก็จะไม่มีโอกาสเช่นนี้อีกแล้ว เวลา 60-70 ปี บนโลกนี้มันสั้นนิดเดียวครับ” ........................วินทร์ เลียววาริณ


“หลายคนอาจจะรู้สึกว่า หาพรสวรรค์ของตนเองไม่เจอ ไม่รู้ว่ารักอะไร ชอบอะไร ทำอะไรได้ดี ดิฉันเองค้นพบตัวเองจากงานอาสาสมัครที่ได้ทำ โดยการเล่าประสบการณ์ ความคิด ให้คนอื่นได้มีกำลังใจ ได้เห็นทางออกของชีวิตตนเอง เป็นงานที่ไม่ได้รับเงิน แต่ช่วยให้เราค้นพบตัวเอง เข้าใจตนเอง และในขณะเดียวกันก็มีความสุขที่ทำให้ผู้อื่นได้ค้นพบตนเองเช่นกัน เราจำเป็นที่จะค้นให้เจอสิ่งที่เรารัก ที่เราอยากจะทำอย่างแท้จริง จุดเริ่มต้นก็คือค้นหาสิ่งที่เรารักในสิ่งที่เรากำลังทำ ทำให้ดีอย่างเต็มที่ ใช้มันเป็นจุดเริ่มต้นในการค้นพบพลังสร้างสรรค์ของตนเองในระดับที่ลึกมากขึ้น ความสุขจะต้องเริ่มต้นจากที่นี่ ตรงนี้ เดี๋ยวนี้ ในสิ่งที่เรากำลังทำ กำลังเป็น ทุกอย่างมีแง่มุมด้านดีอยู่ตรงหน้าเราเสมอ เพราะเราปิดใจตัวเองและมองไม่เห็นมัน อย่างน้อยที่สุดคือได้เรียนรู้ ได้ฝึกฝนตัวเอง เพิ่มความชำนาญและความอดทน สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตอยู่ตรงหน้าเรา ขอเพียงเราเปิดใจที่จะรับรู้มัน” ...............................ฐิตินาถ ณ พัทลุง


“บางทีความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษย์พึงมี คือ การค้นพบความจริงใหม่ๆ และกำจัดอคติเดิมๆ ไปเสีย สิ่งที่ดีที่สุดที่อารยธรรมได้ให้ไว้ คือ การที่มนุษย์รู้จักคิดและมีความอดกลั้นได้อย่างแท้จริง สำหรับผู้ที่คิดได้ เปลี่ยนทัศนคติ ทำจิตใจให้โปร่งใส ถือว่าท่านทำดีแล้ว แต่สำหรับผู้ที่ยังคิดไม่ได้ อย่างน้อย หันกลับมาไตร่ตรองอคติที่ตนมีบ้างก็นับว่าดีที่สุดแล้ว”...........................Luthur Burbank

ยิ่งผมทำงานหนักเท่าไหร่ โชคก็วิ่งเข้ามาหาผมมากขึ้นเท่านั้น...................James Thurber

คนตื้นๆ เชื่อในเรื่องโชค คนฉลาดและเข้มแข็ง เชื่อเรื่องเหตุและผล กริยา และปฏิกิริยา...................Ralph Waldo Emerson

ความขยันเป็นมารดาของความโชคดี ........................Benjamin Flanklin

โชคเกิดขึ้นเมื่อ การเตรียมพร้อม มาพบกับโอกาส........................(Anonymous)



“การอธิษฐาน ขาดไม่ได้สำหรับการให้ได้ซึ่งสิ่งที่ต้องการ การอธิษฐาน มีกันทุกชาติ ทุกศาสนา แม้กระทั่งในระบบที่ไม่มีศาสนา เขาก็เรียกสิ่งนี้ว่าพลังแห่งจิตใต้สำนึก ในบางครั้ง ด้วยความคิดเล็กๆ ของการเป็นมนุษย์อาจจะทำให้มองไม่เห็นทาง เมื่อนั้นคุณอาจรู้สึกหมดหนทาง...จงอธิษฐาน เพื่อให้เบื้องบนที่เห็นทางได้มากกว่าเรา เห็นภาพรวมที่เราอธิษฐาน ช่วยเปิดทางที่เรามองไม่เห็น เพื่อก้าวสู่เป้าหมายต่อไป ด้วยตัวของเราเอง................... บัณฑิต อึ้งรังสี

ผมเห็นรูปปั้นเดวิด ก่อนที่จะเริ่มต้นแกะสลักมัน ผมเพียงเอาสิ่งที่ไม่ใช่เดวิดออกไปแค่นั้นเอง ..................ไมเคิล แองเจโล่

ความสงบสุขในจิตใจคือคุณธรรมขั้นสูงสุดของมนุษย์ มันคือสภาวะที่ปกติและเป็นกลาง จงถามตัวเองว่า ”คุณต้องการที่จะได้ชื่อว่าทำถูกต้องหรือคุณต้องการที่จะมีความสุข”

สุขภาพ ความสุข และผลการทำงานที่ดีจะเริ่มปรากฏ เมื่อคุณควบคุมความคิด การกระทำ และสถานการณ์รอบตัวได้จริง

..........................Brian Tracy

Tip :

สมองของมนุษย์มีน้ำเป็นส่วนประกอบประมาณ 75% และใช้ออกซิเจนที่ร่างกายหายใจมากถึงราว 20% ของออกซิเจนทั้งหมด

ชอบมีคนเปรียบเทียบการคิดกับหลอดไฟ แต่ถ้าเราเอาสมองมาปั่นไฟกันจริงๆ สมองของเราจะให้พลังงานเท่ากับหลอดไฟขนาด 10 วัตต์เท่านั้นเอง

หัวใจจะฉีดเลือดขึ้นไปเลี้ยงสมองเพื่อการคิดนาทีละ 750 มิลลิลิตร

น้ำหนักสมองของคนโดยเฉลี่ยคือ 1,300-1,400 กรัม



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น