เอเจนซีส์ - ปฏิบัติการล่าตัวอับเดลฮามิด
อาบาอูด (Abdelhamid Abaaoud) ผู้วางแผนโจมตีปารีสได้สิ้นสุดแล้ว
จากการยืนยันของโฆษกรัฐบาลฝรั่งเศส และรัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศส เบอร์นาร์ด
คาเซอเนิฟ (Bernard Cazeneuve )โดยพบว่ายอดตัวเลขผู้ถูกจับกุมตัว
7 คน และมีรายงานยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตเป็นคนร้าย 2
คน
ซึ่งรวมไปถึงมือระเบิดหญิงฆ่าตัวตายที่จุดระเบิดจากเสื้อกั๊กพันระเบิดในเวลา 07.30
น.ในวันนี้ (18 พ.ย.) โดยคาเซอเนิฟระบุว่า
หน่วยข่าวกรองฝรั่งเศสทำให้สำนักงานตำรวจแดนน้ำหอมเชื่อว่า “อาบาอูด”
อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์แห่งนี้
จากข้อมูลสอดแนมและดักฟังที่พบว่าหญิงมือระเบิดฆ่าตัวตายมีความเชื่อมโยงกับชายผู้วางแผนโจมตีปารีส เดอะการ์เดียน และเดลีเทเลกราฟ
สื่ออังกฤษรายงานความคืบหน้าล่าสุดถึงปฎิบัติการหน่วยคอมมานโดฝรั่งเศสล้อมจับคนร้ายย่านแซงต์-เดอนีส
แหล่งคนรายได้น้อยในเช้าวันนี้ (18) ซึ่งได้มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากเจ้าหน้าที่รัฐว่า
“ปฏิบัติการได้สิ้นสุดแล้ว” โดยพบว่าปฏิบัติการได้จบสิ้นในเวลาก่อน
11.40 น.ตามเวลาท้องถิ่น ทั้งนี้ Stéphane Le Foll โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศสที่ได้แถลงว่า
“ปฏิบัติการล้อมจับของตำรวจฝรั่งเศสได้ยุติ” หลังจากใช้เวลายาวนานถึง 6 ชม.
ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ในช่วงเช้ามืดในเวลา 04.20 น.
ที่เริ่มจากการปะทะด้วยอาวุธปืนไรเฟิลอัตโนมัติระหว่างกลุ่มคนร้ายภายในตึกอพาร์ตเมนต์และเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยคอมมานโด
และตามมาด้วยระเบิดที่มีรายงานว่าเกิดขึ้นอย่างน้อย 7 ครั้ง สื่ออังกฤษทั้งสองแห่งรายงานเพิ่มเติมว่า
แหล่งข่าวตำรวจปารีส และสำนักงานอัยการฝรั่งเศสได้ชี้ว่า
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยจำนวน 7 คนได้จากตึกอพาร์ตเมนต์
และในขณะนี้คนทั้งหมดอยู่ในการคุมตัวของเจ้าหน้าที่
ซึ่งก่อนหน้านี้อัยการกรุงปารีส François Molins ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า
ทางเจ้าหน้าที่จับกุมชาย 3 คนจากอพาร์ตเมนต์ได้ และในขณะมีปฏิบัติการในพื้นที่
นักข่าวที่อยู่ในบริเวณนั้นรายงานว่า เสียงปะทะดังมาก ซึ่งดูเหมือนคล้ายกับสนามรบ
และมีเฮลิคอปเตอร์บินวนไปมา พร้อมไฟส่องสว่างลงมาเบื้องล่าง นอกจากนี้มีรายงานเบื้องต้นว่า
ตำรวจฝรั่งเศส 5 นายได้รับบาดเจ็บในระหว่างปฏิบัติการ นอกจากนี้ สื่ออังกฤษยังรายงานเพิ่มเติมต่อว่า
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ปารีสยืนยันว่า ในปฏิบัติการครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิต 2
ราย โดยหนึ่งในนั้นเป็นผู้ต้องสงสัยซึ่งคาดว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุโจมตีปารีสเสียชีวิตหลังโดยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยสไนเปอร์
แต่ต่อมาภายหลังมีรายงานแก้ไขว่าแท้จริง เสียชีวิตจากระเบิดแบบขว้าง ด้านสำนักงานอัยการปารีสยืนยันว่า
ผู้เสียชีวิตอีกรายคือมือระเบิดฆ่าตัวตายหญิงที่เสียชีวิตลงหลังจากเธอได้จุดระเบิดที่เสื้อกั๊กซึ่งเธอได้สวมอยู่
นอกจากนี้ สื่ออังกฤษยังรายงานว่า
มีรายงานการสูญเสียเจ้าหน้าที่สุนัขตำรวจฝรั่งเศส “ดีเซล”
อายุ 7 ปี ถูกสังหารในที่เกิดเหตุ
โดยมีรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ส่งดีเซลเข้าไปยังอพาร์ตเมนต์ก่อนที่จะมีการบุกโจมตี เดลีเทเลกราฟรายงานต่อว่า
สืบเนื่องมาจากการรายงานของสถานีโทรทัศน์ฝรั่งเศส BFMTV ที่ได้ทำรายงานว่า
ปฏิบัติการจู่โจมย่านแซงต์-เดอนีส เกิดขึ้นสืบเนื่องมาจาก “หน่วยงานข่าวกรองฝรั่งเศส
สืบทราบความเชื่อมโยงของมือระเบิดหญิงฆ่าตัวตาย กับอับเดลฮามิด อาบาอูด (Abdelhamid
Abaaoud) ผู้วางแผนโจมตีปารีส” โดย MSNBC
สื่อสหรัฐฯ รายงานเพิ่มเติมว่า
มีรายงานทำให้หน่วยงานข่าวกรองฝรั่งเศสเชื่อว่า “หญิงผู้นี้มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับอาบาอูด”
ล่าสุดรัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศส เบอร์นาร์ด คาเซอเนิฟ
ที่ได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุได้แถลงการณ์ว่า สำนักงานข่าวกรองฝรั่งเศสเป็นผู้ให้ข้อมูลกับสำนักงานตำรวจฝรั่งเศส
โดยทำให้ทางตำรวจเชื่อว่า “อาบาอูดนั้นหลบอยู่ในอพาร์ตเมนต์แห่งนี้” ในขณะที่อัยการกรุงปารีส Moulins
ได้อธิบายเพิ่มเติมต่อว่า “ข้อมูลจากการสอดแนมและการดักฟังทางโทรศัพท์
รวมไปถึงการให้ข้อมูลของพยานต่างๆ ทำให้พวกเราเชื่อว่า อับเดลฮามิด อาบาอูด
ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีปารีสนั้นหลบซ่อนตัวอยู่ในอพาร์ตเมนต์แห่งนี้จริง” โดยเดอะการ์เดียนรายงานเพิ่มเติมว่า
มีรายงานที่ยังไม่ได้รับการยืนยันระบุก่อนหน้านี้ว่า
จากแหล่งข่าวที่ไม่ได้เปิดเผยให้ข้อมูลกล่าวว่า ทางตำรวจได้เฝ้าจับตาหญิงผู้ต้องสงสัยมือระเบิดฆ่าตัวตายรายนี้มาหลายวันแล้ว
หลังจากสงสัยว่าเธออาจเป็นผู้ให้ที่หลบภัยแก่อาบาอูด คนร้ายที่ถูกล่าตัวในเวลานี้ อัยการกรุงปารีสยังกล่าวต่อว่า “และส่งผลทำให้เกิดปฏิบัติการล้อมจับขึ้นในชั่วข้ามคืน
ที่ตามมาด้วยการยิงปะทะ และมีคนร้าย 3 คนแรกถูกจับกุมได้ที่ตึกอพาร์ตเมนต์แห่งนี้
และตามมาด้วยระเบิดที่เกิดจากมือระเบิดฆ่าตัวตายหญิงต้นเรื่องที่จุดระเบิดจากเสื้อกั๊กที่มีระเบิดพันอยู่
และหลังจากนั้นมีคนร้ายอีกคนเสียชีวิตด้วยระเบิดแบบขว้าง” และในขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดถึงชะตากรรมของอาบาอูด
โดยในเบื้องต้นยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า
อาบาอูดจอมวางแผนก่อวินาศกรรมปารีสผู้นี้เสียชีวิต หรืออยู่ในกลุ่มผู้ที่ถูกจับกุม อัยการปรุงปารีสกล่าวต่อว่า “ในขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยถึงรายละเอียดของผู้ถูกจับกุมทั้งหมดได้
เพราะอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งจะมีการเปิดเผยต่อมาในภายหลัง
ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้จากการทำงานอย่างหนักของหน่วยนิติวิทยาศาสตร์ทั้งในและนอกที่เกิดเหตุ”
เดลีเทเลกราฟรายงาน โดยเดอะการ์เดียนได้รายงานสรุปความคืบหน้าของเหตุการณ์บุกจู่โจมย่านแซงต์-เดอนีสว่า
1 อพาร์ตเมนต์ที่เกิดเหตุปะทะตั้งอยู่บนถนน
Rue du Corbillon ห่างจากสนามกีฬา Stade de France ไปราว 2 กม.
2 การปะทะด้วยปืนไรเฟิลอัตโนมัติ และระเบิดเกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 04.30 น.
3 มีเสียงระเบิดเกิดขึ้นให้ได้ยินอย่างน้อย 7 ครั้งในช่วงระหว่างปฎิบัติการ
4 ถนนบริเวณโดยรอบถูกปิด โดยมีเจ้าหน้าที่คุมกำลังด้านนอกอย่างแน่นหนา
5 ชาวบ้านในพื้นที่ถูกกกสั่งให้อยู่แต่ภายในที่พัก
6 ขนส่งสาธารณะมายังย่านแซ็ง-เดอนีถูกตัดขาด
7 และมีรายงานว่าตำรวจได้นำผู้อาศัยในอพาร์ตเมนต์ ซึ่งรวมทั้งเด็ก ให้ออกไปอยู่ในที่ปลอดภัย โดยมีรถฉุกเฉินจอดรอพร้อม
2 การปะทะด้วยปืนไรเฟิลอัตโนมัติ และระเบิดเกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 04.30 น.
3 มีเสียงระเบิดเกิดขึ้นให้ได้ยินอย่างน้อย 7 ครั้งในช่วงระหว่างปฎิบัติการ
4 ถนนบริเวณโดยรอบถูกปิด โดยมีเจ้าหน้าที่คุมกำลังด้านนอกอย่างแน่นหนา
5 ชาวบ้านในพื้นที่ถูกกกสั่งให้อยู่แต่ภายในที่พัก
6 ขนส่งสาธารณะมายังย่านแซ็ง-เดอนีถูกตัดขาด
7 และมีรายงานว่าตำรวจได้นำผู้อาศัยในอพาร์ตเมนต์ ซึ่งรวมทั้งเด็ก ให้ออกไปอยู่ในที่ปลอดภัย โดยมีรถฉุกเฉินจอดรอพร้อม
เอเอฟพี/รอยเตอร์/วอชิงตันโพสต์
- อัยการฝรั่งเศสเผยกลุ่มคนที่ถูกจับกุมและสังหารในปฏิบัติการจู่โจมอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในกรุงปารีสวันพุธ
(18 พ.ย.)
เป็นหน่วยก่อการร้ายที่มีความสามารถในการลงมือโจมตีรอบใหม่
ท่ามกลางข่าวลือว่าหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ถูกปลิดชีพนั้นคือ นายอับเดลฮามิด
อาบาอูด ผู้วางแผนวินาศกรรมเมืองหลวงเมื่อวันศุกร์ (13 พ.ย.)
แต่ยังไม่มีคำยืนยันข่าวนี้
ฟรังซัวส์ โมลินส์ อัยการกรุงปารีสเปิดเผยว่า “ทีมก่อการร้ายชุดใหม่ถูกลบล้างและผู้ถูกระบุตัวทั้งหมดยอมวางอาวุธ
โครงสร้างองค์กรและความตั้งใจของพวกเขาถูกทำลาย” นอกจากนี้
อัยการรายนี้เผยด้วยว่าตำรวจพบโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งซึ่งเป็นของหนึ่งในมือปืนและมือระเบิดฆ่าตัวตายที่ลงมือโจมตีครั้งเลวร้ายต่อกรุงปารีสเมื่อซันศุกร์
(13 พ.ย.) เข่นฆ่าผู้คนไป 129 ศพและมีผู้บาดเจ็บมากกว่า
350 คน จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือพบว่าหนึ่งในมือปืนได้ส่งข้อความบอกว่า “เราพร้อมแล้ว ลงมือกันได้เลย” โดยข้อความนี้ถูกส่งตอนเวลา
21.42 น.(ตรงกับเมืองไทย 03.42 น.)
หรือไม่นานก่อนลงมือโจมตี โมลินส์เผย
พร้อมระบุว่าตำรวจกำลังดำเนินการสืบสวนว่าใครเป็นผู้ส่งข้อความนี้และจะได้ติดตามล่าตัวกันต่อไป
ในส่วนของปฏิบัติการจู่โจมในวันพุธ (18 พ.ย.) โมลินส์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า
คณะสืบสวนฝรั่งเศสยังไม่สามารถระบุตัวตนของบุคคลที่ถูกปลิดชีพ
และบอกได้แต่เพียงว่านายอับเดลฮามิด อาบาอูด ผู้ต้องสงสัยบงการโจมตีปารีส
ไม่ได้อยู่ในบรรดาของพวกที่ถูกจับกุม
ปฏิบัติการจู่โจมมีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลในวันจันทร์ (16 พ.ย.) ว่านายอาบาอูด ยังอยู่ในฝรั่งเศส หลังก่อนหน้านี้เชื่อกันมาตลอดว่าเขาน่าจะอยู่ในซีเรีย “ผมไม่สามารถให้จำนวนที่แน่ชัดและระบุตัวตนของผู้เสียชีวิต แต่มีอย่างน้อยๆ 2 คน” อัยการโมลินส์กล่าว “ผมบอกได้ว่านายอาบาอูด และซาลาห์ อับเดลซาลาม ไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้ถูกจับกุม” ทั้งนี้นายอับเดลซาลาม คือผู้ต้องสงสัยเป็นหนึ่งในผู้ลงมือโจมตีที่ใช้รถยนต์หลบหนีไปยังเบลเยียมในเช้าวันเสาร์ (14 พ.ย.) “ศพปริศนาพร้อมรูกระสุนถูกพบในซากอาคาร ณ ตอนนี้สภาพของศพไม่สามารถระบุตัวตนได้” เขากล่าว “มีผู้หญิงคนหนึ่งใช้เสื้อเกราะพลีชีพจุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตาย” โมลินส์บอกว่า ตำรวจสาดกระสุนกว่า 5,000 นัดระหว่างปฏิบัติการจู่โจมอาคาร 3 ชั้นในตอนเช้าวันพุธ (18 พ.ย.) จนอาคารเสียงต่อการพังถล่มลงมาและเป็นผลให้การสืบสวนเป็นไปอย่างล่าช้า พร้อมเผยทีมสืบสวนยังไม่ทราบตัวตนของชาย 3 คนที่ถูกควบคุมตัวได้ ณ อพาร์ตเมนต์ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ย่านแซงต์-เดอนีส ขณะที่โดยรวมแล้วมีชาย 7 คนและผู้หญิง 1 คนถูกรวบตัวที่อพาร์ตเมนต์ดังกล่าวและละแวกใกล้เคียง คำชี้แจงที่ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับชะตากรรมของนายอาบาอูด มีออกมาท่ามกลางรายงานข่าวของวอชิงตันโพสต์ ที่อ้างเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองยุโรประดับอาวุโส 2 ว่าผู้ต้องสงสัยมือบงการเหตุวินาศกรรมกรุงเมืองหลวง เสียชีวิตระหว่างการจู่โจมของเจ้าหน้าที่แดนน้ำหอม ณ อพาร์ตเมนต์ทางเหนือของเมืองหลวง ที่นำไปมาซึ่งการจับกุมผู้ต้องสงสัยได้หลายคน ตำรวจและทหารมากกว่า 100 นายจู่โจมเข้าไปในอาคารอพาร์ตเมนต์และใช้เวลานานกว่า 7 ชั่วโมง หลังจากเสร็จสิ้นปฏิบัติการก็พบผู้เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งทางวอชิงตันโพสต์บอกว่าหนึ่งในนั้นคือนายอาบาอูด ผู้ต้องสงสัยสั่งการเหตุโจมตีนองเลือดกรุงปารีส พวกหัวรุนแรงชาวเบลเยียม วอชิงตันโพสต์อ้างเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองยุโรประดับอาวุโสระบุว่า คำยืนยันเกี่ยวกับการตายของนายอาบาอูด มีขึ้นหลังจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ได้สอดส่องอย่างละเอียดตามเศษกระจกและพื้นอาคารที่ได้รับความเสียหายจากระเบิด เพื่อหาดีเอ็นเอและหลักฐานอื่นๆ ที่พอจะเป็นไปได้ สื่อของสหรัฐฯ แห่งนี้รายงานโดยอ้างคำแถลงของอัยการโมลินส์ ระบุว่า นายอาบาอูดต่อสู้ขัดขืนอยู่ตรงบริเวณชั้น 3 ของตัวอาคาร แต่ไม่สามารถระบุตัวตนของบุคคลที่ถูกปลิดชีพผู้ต้องสงสัย 2 คนที่เสียชีวิต ณ ที่เกิดเหตุได้ เพียงแต่ยืนยันว่านายนายอาบาอูดไม่ได้อยู่ในบรรดาของพวกที่ถูกจับกุม
ปฏิบัติการจู่โจมมีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลในวันจันทร์ (16 พ.ย.) ว่านายอาบาอูด ยังอยู่ในฝรั่งเศส หลังก่อนหน้านี้เชื่อกันมาตลอดว่าเขาน่าจะอยู่ในซีเรีย “ผมไม่สามารถให้จำนวนที่แน่ชัดและระบุตัวตนของผู้เสียชีวิต แต่มีอย่างน้อยๆ 2 คน” อัยการโมลินส์กล่าว “ผมบอกได้ว่านายอาบาอูด และซาลาห์ อับเดลซาลาม ไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้ถูกจับกุม” ทั้งนี้นายอับเดลซาลาม คือผู้ต้องสงสัยเป็นหนึ่งในผู้ลงมือโจมตีที่ใช้รถยนต์หลบหนีไปยังเบลเยียมในเช้าวันเสาร์ (14 พ.ย.) “ศพปริศนาพร้อมรูกระสุนถูกพบในซากอาคาร ณ ตอนนี้สภาพของศพไม่สามารถระบุตัวตนได้” เขากล่าว “มีผู้หญิงคนหนึ่งใช้เสื้อเกราะพลีชีพจุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตาย” โมลินส์บอกว่า ตำรวจสาดกระสุนกว่า 5,000 นัดระหว่างปฏิบัติการจู่โจมอาคาร 3 ชั้นในตอนเช้าวันพุธ (18 พ.ย.) จนอาคารเสียงต่อการพังถล่มลงมาและเป็นผลให้การสืบสวนเป็นไปอย่างล่าช้า พร้อมเผยทีมสืบสวนยังไม่ทราบตัวตนของชาย 3 คนที่ถูกควบคุมตัวได้ ณ อพาร์ตเมนต์ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ย่านแซงต์-เดอนีส ขณะที่โดยรวมแล้วมีชาย 7 คนและผู้หญิง 1 คนถูกรวบตัวที่อพาร์ตเมนต์ดังกล่าวและละแวกใกล้เคียง คำชี้แจงที่ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับชะตากรรมของนายอาบาอูด มีออกมาท่ามกลางรายงานข่าวของวอชิงตันโพสต์ ที่อ้างเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองยุโรประดับอาวุโส 2 ว่าผู้ต้องสงสัยมือบงการเหตุวินาศกรรมกรุงเมืองหลวง เสียชีวิตระหว่างการจู่โจมของเจ้าหน้าที่แดนน้ำหอม ณ อพาร์ตเมนต์ทางเหนือของเมืองหลวง ที่นำไปมาซึ่งการจับกุมผู้ต้องสงสัยได้หลายคน ตำรวจและทหารมากกว่า 100 นายจู่โจมเข้าไปในอาคารอพาร์ตเมนต์และใช้เวลานานกว่า 7 ชั่วโมง หลังจากเสร็จสิ้นปฏิบัติการก็พบผู้เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งทางวอชิงตันโพสต์บอกว่าหนึ่งในนั้นคือนายอาบาอูด ผู้ต้องสงสัยสั่งการเหตุโจมตีนองเลือดกรุงปารีส พวกหัวรุนแรงชาวเบลเยียม วอชิงตันโพสต์อ้างเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองยุโรประดับอาวุโสระบุว่า คำยืนยันเกี่ยวกับการตายของนายอาบาอูด มีขึ้นหลังจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ได้สอดส่องอย่างละเอียดตามเศษกระจกและพื้นอาคารที่ได้รับความเสียหายจากระเบิด เพื่อหาดีเอ็นเอและหลักฐานอื่นๆ ที่พอจะเป็นไปได้ สื่อของสหรัฐฯ แห่งนี้รายงานโดยอ้างคำแถลงของอัยการโมลินส์ ระบุว่า นายอาบาอูดต่อสู้ขัดขืนอยู่ตรงบริเวณชั้น 3 ของตัวอาคาร แต่ไม่สามารถระบุตัวตนของบุคคลที่ถูกปลิดชีพผู้ต้องสงสัย 2 คนที่เสียชีวิต ณ ที่เกิดเหตุได้ เพียงแต่ยืนยันว่านายนายอาบาอูดไม่ได้อยู่ในบรรดาของพวกที่ถูกจับกุม
เอเอฟพี/เอเจนซี -
ตำรวจเดนมาร์กต้องสั่งอพยพผู้คนออกจาก 1
ใน 2 ของอาคารผู้โดยสารของสนามบินคาสทรุพนานกว่า
2 ชั่วโมงในวันพุธ (18 พ.ย.)
หลังพบกระเป๋าต้องสงสัย อย่างไรก็ตาม
หลังตรวจค้นโดยละเอียดไม่พบวัตถุระเบิดแต่อย่างใด
“มีการอพยพที่อาคารผู้โดยสาร 3 หลังพบกระเป๋าต้องสงสัยตอนราวๆ เที่ยงวัน แต่ไม่มีคำขู่โดยตรง” สตีน แฮนเซน โฆษกตำรวจบอกกับเอเอฟพี “สุนัขดมกลิ่นถูกส่งเข้ามายังจุดเกิดเหตุ
รถไฟทุกขบวนที่มุ่งหน้ามายังสนามบินถูกระงับ” ทว่า
เวลาต่อมาตำรวจเดนมาร์กได้ยกเลิกประกาศแจ้งเตือนด้านความมั่นคง
ด้วยยืนยันว่าหลังการตรวจค้นโดยละเอียดไม่พบสัญญาณของวัตถุระเบิด ณ
อาคารผู้โดยสารแต่อย่างใด ไม่นานหลังจากพบกระเป๋าต้องสงสัย รถมินิบัสตำรวจ 2
คนที่เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ในชุดกันกระสุนก็รุดมายังจุดเกิดเหตุ
ขณะที่สื่อมวลชนท้องถิ่นแห่งหนึ่งรายงานว่าด้วยมีตำรวจตะโกนว่า “ทุกคนออกไปเดี๋ยวนี้” ก็ยิ่งก่อความตื่นตระหนกเพิมเติม
อย่างไรก็ตาม ในอีก 2 ชั่วโมงต่อมา
ตำรวจยอมรับบางทีพวกเขาอาจจะรีบร้อนดำเนินการเร็วเกินไป
โดยระบุในทวิตเตอร์ว่าปฏิบัติการคราวนี้เป็นการตอบสนองต่อกรณีที่บังเอิญได้ยินคนพูดกันเกี่ยวกับระเบิด
ขณะที่หนังสือพิมพ์แห่งหนึ่งรายงานว่าเป็นไปได้ที่คำขู่นี้เป็นแค่การพูดเล่นกันระหว่างผู้โดยสาร
2 คน แต่ตำรวจคิดว่ามันเป็นเรื่องจริง ระหว่างการตรวจสอบ
นอกจากมีการระงับขบวนรถไฟใต้ดินที่มุ่งหน้ามายังสนามบินแล้ว
ยังมีการปิดอาคารผู้โดยสารหลังดังกล่าวอย่างสมบูรณ์
และเที่ยวบินขาออกถูกย้ายไปยังอาคารผู้โดยสารอื่น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมง
หลังจากตำรวจเดนมาร์กยกระดับเฝ้าระวังของประเทศขึ้น 1 ขั้นสู่ระดับสูงสุดลำดับ
2 อ้างถึงความเสี่ยงภัยก่อการร้ายระดับสูงตามหลังเหตุโจมตีนองเลือดในกรุงปารีสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน
เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ฟรานซ์ 2 เที่ยวบินจากสหรัฐฯ
ต้องเบี่ยงเส้นทางการลงจอดหลังถูกขู่วางระเบิด
ก่อนต่อมาเอฟบีไอจะพบว่ามันเป็นแค่การขู่หลอกๆ เท่านั้น ส่วนเมื่อคืนวันอังคาร (17
พ.ย.) ฟุตบอลนัดกระชับมิตรระหว่างเยอรมนีและฮอลแลนด์
ก็จำเป็นต้องยกเลิก หลังตำรวจได้รับคำเตือนว่าอาจถูกลอบวางระเบิด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น