ข่าว MGR Online /28 ก.ค.เมื่อเวลา 11.30 น.
ศูนย์วิทยุพระราม 199 ได้รับแจ้งเหตุจากสถานีดับเพลิงบางขุนนนท์
กรณีเหตุเพลิงไหม้ภายในห้างสรรพสินค้าเมเจอร์ ปิ่นเกล้า ถนนบรมราชชนนี
แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด โดยมีการระดมเจ้าหน้าที่ไปยังที่เกิดเหตุเพื่อควบคุมเพลิง
ซึ่งควันพวยพุ่งเต็มท้องฟ้า ช่วงเวลา 12.05 น. มีรายงานว่า
ชุดปฏิบัติการภายในตัวอาคาร ระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิงแต่ยังคุมเพลิงไม่ได้
ขณะที่หลังคาชั้นที่ 3 มีการทรุดตัวลงมา ล่าสุด
ยังคงมีกลุ่มควันสีดำจำนวนมาก พบว่าจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณชั้นโรงหนังที่ 7 ขณะที่ฝ้าบริเวณโรงที่ 6 และ 8 เริ่มทรุดตัว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังเร่งควบคุมเพลิง ศูนย์วิทยุพระราม 199 รายงานเพิ่มเติมว่า เหตุเพลิงไหม้ภายในห้างสรรพสินค้าเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์
สาขาปิ่นเกล้า พบผู้บาดเจ็บแล้ว 1 ราย อยู่ระหว่างช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล ล่าสุด
สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่ยังคงมีควันไฟในบางจุด ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า มีผลกระทบต่อโครงสร้างอาคารชั้น 4 โดยรอตรวจสอบอีกครั้งหลังเพลิงสงบ
ทั้งนี้ ไม่มีผู้บาดเจ็บ และขอเวลาตรวจสอบอีกครั้งว่าสาเหตุเกิดจากอะไร พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น.
กล่าวว่า ขณะนี้ ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ 3 ประเด็น คือ 1.
เจตนา 2. ประมาท 3. อุบัติเหตุ
ซึ่งต้องรอตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่เบื้องต้นเพลิงอยู่ที่โรงภาพยนตร์ โรงที่ 7
ทั้งนี้ ไม่มีผู้บาดเจ็บ และไม่มีผู้เสียชีวิต
โดยขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ล่าสุดวิศวกรรมสถานได้เข้ามาตรวจสอบพบว่า
โครงสร้างชั้น 4 ยุบตัวลงมาทับชั้น 3 (ฝั่งอาคารเก่า)
อาจต้องรื้อ และคาดว่าต้องใช้เวลารื้อถอน 2-3 เดือน
และต้องใช้เวลา 1-2 ปีในการออกแบบก่อสร้างอาคารหลังใหม่แทน
จึงจะอนุญาตให้ใช้งานได้
ส่วนโรงหนังระบบมัลติเพล็กซ์แห่งแรกของเมืองไทยที่แท้จริง
ก็คือ โรงหนัง อีจีวี ฟิวเจอร์ปาร์คบางแค (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อ
เปลี่ยนเจ้าของใหม่เป็น แกรนด์อีจีวี ซีคอนบางแค แล้ว) ทำไมผู้เขียนจึงทราบ ก็เพราะผู้เขียนเคยไปดู
ไปใช้บริการแถวนั้นบ่อยๆ ตั้งแต่สมัยก่อสร้างห้างใหม่ๆ
หนังเรื่องแรกที่ดูที่อีจึวีบางแคก็คือ Judgement Night หรือชื่อไทย 4 ล่า 4 หนี หลังชนฝา
ไปดูประวัติของโรงหนังอีจีวีบางแคคร่าวๆ ดังนี
อีจีวี
(EGV - Entertain Golden Village) เป็นเครือธุรกิจโรงภาพยนตร์แห่งหนึ่งของประเทศไทย ดำเนินการโดยบริษัท อีจีวี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
(มหาชน) ซึ่งเริ่มจากการลงทุนจากต่างชาติและคนไทย โดยนายวิชัย พูลวรลักษณ์
และพี่น้องในตระกูลพูลวรลักษณ์ ร่วมกับ กลุ่มโกลเด้นฮาร์เวสต์จากฮ่องกง และ
วิลเลจโรดโชว์จากออสเตรเลีย ซึ่งใช้ชื่อทางการค้าในครั้งแรกว่า Entertain
Golden Village International (EGV) เปิดทำการสาขาแรกที่ห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ค
บางแค เมื่อปี พ.ศ. 2537 โดยใช้ชื่อว่า EGV บางแค 10 มีทั้งหมด 10 โรง (โดยเฉพาะโรงที่ 3
เป็นโรงสองชั้นและมีระบบเสียง THX) โดยใช้การโปรโมตครั้งแรกว่า โรงภาพยนตร์ดีที่สุดในโลก และนับได้ว่า อีจีวี
เป็นโรงภาพยนตร์แห่งแรกในประเทศไทยที่เป็นระบบมัลติเพล็กซ์
ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงระบบโรงภาพยนตร์ในประเทศไทยจากระบบโรงเดี่ยว หรือ Stand
Alone มาเป็นโรงขนาดเล็กมีหลายโรงและเสริมด้วยระบบเสียงที่เป็นดิจิตอล ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าฟิวเจอร์ปาร์คบางแค (ปัจจุบันมีการปิดห้าง
และถูกเทคโอเวอร์ไปโดยกลุ่มซีคอนแทน) มีระบบการขายตั๋ว จองตั๋วและเลือกที่นั่งด้วยคอมพิวเตอร์ จากนั้นในต้นปี พ.ศ. 2540
อีจีวีก็ได้เปิดสาขาในต่างจังหวัดเป็นครั้งแรกที่เป็นโรงภาพยนตร์มัลติเพล็กซ์
จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2547 เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แทนของบริษัท
อีจีวี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และเริ่มดำเนินการถอนทุน เพื่อถอนหุ้น EGV
ออกจากตลาดหลักทรัพย์อย่างเป็นทางการ กลายไปเป็นส่วนหนึ่งในเครือโรงหนังของเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์แทน
แต่ยังคงใช้แบรนด์อีจีวี อยู่เช่นเดิม
โดยมีการแบ่งเซ็กเม้นท์ของกลุ่มโรงหนังเป็นหลายกลุ่มแบรนด์ อาทิ
อีจีวี,เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์,พาราก้อนซีนีเพล็กซ์ ,เอสพลานาด เป็นต้น
Judgement Night 4 ล่า 4 หนี หลังชนฝา ภ.แนวแอ็กชัน ระทึกขวัญ (หนังปี 1993) เข้ามาฉายในไทยปี 2537 ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องที่เท่าไหร่ของโรงอีจีวีบางแค แต่น่าจะอยู่ในกลุ่มหนังเรื่องแรกๆ เป็นแน่ เพราะผู้เขียนจำได้ว่าดูหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของโรงหนังที่นี่ ซึ่งเปิดโรงหนังเมื่อปี 2537 เรื่องย่อ 4 เพื่อนซี้อันประกอบไปด้วย แฟรงค์ ไวแอตต์ (Emilio Estevez), จอห์น (Stephen Dorff) น้องชายเลือดร้อนของแฟรงค์ กับไมค์ ปีเตอร์สัน (Cuba Gooding Jr.) และ เรย์ คอชแรน (Jeremy Piven) กำลังจะเดินทางไปดูแข่งกีฬานัดสำคัญด้วยรถอาร์วีของเรย์ ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยความสนุกปนห่าม สนุกปนซ่าตามประสาวัยรุ่น หนุ่มๆ กลุ่มนี้เดินทางมาพักกะสนุกกันเต็มที่ แต่ดันเกิดปัญหาขึ้นมา เพราะเรย์ไม่ชินทางเลย หลงทาง หรือเลี้ยวรถผิด ไปโผล่แถบชุมชนแออัดแห่งหนึ่งเข้า จริงๆ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเลย ถ้าพี่แกดันไม่ไปรู้ ไปเห็นการฆาตกรรมเข้ากับตา ทีนี้ไอ้ฆาตกรที่ชื่อ ฟาลลอน (Denis Leary) กับพรรคพวกอีก 3 คน ก็รู้ว่ามีคนเห็น เลยออกโรงตามล่า 4 เพื่อนซี้ของเรา กะฆ่าให้ตายให้หมด เพื่อปิดปากไม่ให้มีพยานเห็นเหตุการณ์การฆาตกรรมของตนเอง งานนี้ก็เลยเกิดเหตการณ์การตามล่า ตามฆ่ากัน เหมือนชื่อเรื่องนั่นแหละ 4 ล่า 4 หนี หลังชนฝา เรื่องราวเกิดขึ้นในคืนเดียว ซึ่งถือเป็นคืนฝันร้ายที่จะตัดสินชะตาชีวิตของพวกเขา หรือ Judgement Night หนังฟอร์มเล็ก แต่บทสนุก ชวนตื่นเต้น ระทึกไปตลอดทั้งเรื่อง เป็นการชิงไหวชิงพริบกันของผู้ล่า กับผู้ถูกล่า จริงๆ ตอนนั้นจำไม่ได้ว่า ผู้เขียนไปดูเรื่องนี้ได้อย่างไร เพราะทั้งหน้าหนัง และนักแสดงก็ไม่ชวนให้น่าดูอะไรเลย แต่จำได้ลางๆ ว่า น่าจะไปดูฆ่าเวลา รู้สึกตอนนั้นอยากดูหนังเรื่อง .....แต่ยังไม่เข้าโปรแกรม ไปถึงหน้าโรงแล้ว ก็เลยชวนเพื่อนๆ ดูเรื่องนี้แทน และตอนนั้นอยากลองเข้าไปดูหนังในโรงแบบใหม่ (สมัยนั้นถือว่าทันสมัยมากสำหรับ อีจีวีบางแค) ภายนอกมีลานซึ่งทำเป็นเลาจน์ สำหรับคนนั่งรอชมภาพยนตร์ มีเคาน์เตอร์ขายป็อปคอร์นกับเครื่องดื่ม และมีจอ led ขนาดใหญ่ฉายตัวอย่างหนัง ให้ดูบริเวณลานโล่งตรงนั้น มันเป็นสิ่งแปลกใหม่มากในสมัยนั้น เรียกว่า ตอนนั้น ผู้เขียนกับเพื่อนในก๊วน ดูหนังที่โรงนี้ ทุกสัปดาห์ วันนึงหลายเรื่อง เคยทำสถิติดูต่อกัน 4 เรื่องติดกัน เรียกว่าทั้งวัน จากเที่ยงถึงค่ำ (ห้างปิด)ก็เคยมาแล้ว ทุกวันนี้ยังต้องไปตามหาหนังเรื่องนี้มาดูซ้ำอีกรอบ เพราะยังประทับใจกับความมันส์ของหนังเรื่องนี้ ที่ย้อนกลับมาดูใหม่ก็ยังสนุกเหมือนเดิม ปัจจุบันนักแสดงในหนังเรื่องนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นบิ๊กเนมทั้งนั้น ไปมีผลงานชื่อดังอีกมากมาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น