วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

โลก 360 องศา - (เหตุรถพุ่งชนฝูงชนกลางงานเลี้ยงวันชาติฝรั่งเศส ที่แท้เป็นก่อการร้าย,เทเรซ่า เมย์ก้าวขึ้นเป็นนายกหญิงอังกฤษ,โศกนาฏกรรมรถไฟชนกันที่อิตาลี,ศาลอนุฯกรุงเฮกตัดสินให้จีนไม่มีกรรมสิทธิ์เหนือเกาะสแปรตลีย์)


เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุรถบรรทุกพุ่งชนกลางงานวันชาติฝรั่งเศสที่เมืองนีซ (Nice) เพิ่มเป็นอย่างน้อย 80 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก โดยล่าสุดตำรวจพบเอกสารที่ระบุชื่อชายชาวฝรั่งเศสเชื้อสายตูนิเซีย วัย 31 ปี อยู่ภายในรถคันก่อเหตุ ขณะที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสออกมายืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าข่าย ก่อการร้ายและจะขยายเวลาบังคับใช้ภาวะฉุกเฉินต่อไปอีก 3 เดือน คนขับรถบรรทุกรายนี้ถูกยิงเสียชีวิต หลังนำรถขับตะลุยฝ่าฝูงชนที่มาร่วมฉลองวันชาติบนเส้นทางเลียบชายหาด โพรเมอนาด เดซ็องเกลส์ (Promenade des Anglais) เป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร จนทำให้ผู้คนหลายร้อยต้องวิ่งหนีตายอลหม่าน ส่วนผู้เคราะห์ร้ายที่หนีไม่ทันก็ต้องกลายเป็นศพเกลื่อนถนน  ชายคนหนึ่งขับรถบรรทุกพุ่งเข้าใส่ฝูงชน แต่เขาถูกตำรวจสังหารแล้วปิแอร์-อ็องรี บร็องเดต์ โฆษกกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสแถลง  ตำรวจพบเอกสารระบุชื่อชายชาวฝรั่งเศสเชื้อสายตูนิเซีย อายุ 31 ปี อยู่ภายในรถบรรทุกคันก่อเหตุ รวมถึง ปืนและ อาวุธที่ร้ายแรงยิ่งกว่านั้นอีกจำนวนหนึ่ง เหตุนองเลือดครั้งนี้เกิดขึ้นในวันบาสตีย์ (Bastille Day) ซึ่งเป็นวันที่ชาวฝรั่งเศสจะร่วมกันเฉลิมฉลองความเป็นสาธารณรัฐ ตลอดจนคำขวัญ เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพที่พวกเขาเชิดชู  เหตุโจมตีที่เมืองนีซเกิดขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่ฝรั่งเศสได้จัดพิธีสวนสนามกองทัพอย่างยิ่งใหญ่บนถนนฌองส์-เอลิเซ ในกรุงปารีส สื่อมวลชนแพร่ภาพด้านหน้ารถบรรทุกที่ถูกกระสุนปืนตำรวจยิงใส่จนพรุน และรถอยู่ในสภาพยางแตก เสียหายอย่างหนัก  โรเบิร์ต ฮัลโลเวย์ ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีซึ่งเห็นเหตุการณ์ขณะที่รถบรรทุกตีนผีพุ่งเข้าใส่ฝูงชนด้วยความเร็วสูง เล่าสถานการณ์ในเวลานั้นว่าเป็น ความโกลาหลสุดขีด  เราเห็นผู้คนมากมายถูกรถชน มีเศษสิ่งของกระจัดกระจาย และผมเองก็ต้องพยายามป้องกันใบหน้าจากเศษวัสดุเหล่านั้น แบร์นาร์ด คาเซเนิร์ฟ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศส แถลงยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดไม่ต่ำกว่า 80 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกหลายคน ในจำนวนนี้มีอยู่ 18 คนที่อาการอยู่ในขั้นวิกฤต  ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ได้แถลงประณาม การก่อการร้ายที่เหี้ยมโหดที่สุด แม้จะยังไม่มีกลุ่มใดออกมาแสดงความรับผิดชอบก็ตาม  ทั้งนี้ หากได้รับการยืนยันว่าเป็นการก่อการร้าย โศกนาฏกรรมที่เมืองนีซจะถือเป็นการโจมตีฝรั่งเศสครั้งที่ 3 ที่เกิดขึ้นในระยะเวลาไม่ถึง 18 เดือน และพนักงานสอบสวนคดีก่อการร้ายจะต้องเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้  เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่าคนขับรถบรรทุกรายนี้กระทำการคนเดียว หรือมีผู้ร่วมสมคบคิดที่อาจจะหลบหนีไปแล้ว โฆษกกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสแถลง   ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส ได้ออกมาให้กำลังใจและแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับชาวเมืองนีซ พร้อมระบุด้วยว่า เหตุนองเลือดที่เกิดขึ้นเป็น การก่อการร้ายอย่างชัดเจน และรัฐบาลจะขยายเวลาบังคับใช้ ภาวะฉุกเฉินที่ประกาศหลังเกิดเหตุวินาศกรรมปารีสเมื่อปีที่แล้ว ต่อไปอีก 3 เดือน ปฏิเสธไม่ได้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีลักษณะของการก่อการร้าย และเป็นการใช้ความรุนแรงอย่างสุดโต่งอีกครั้งหนึ่ง ออลลองด์ แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติเมื่อเวลา 04.00 น. (09.00 น.วันนี้ตามเวลาในไทย) หลังเหตุโจมตีผ่านไปราว 5-6 ชั่วโมง  ก่อนหน้านี้ 8 เดือน นักรบของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ก็ได้ก่อเหตุโจมตีพร้อมกันหลายจุดที่กรุงปารีส จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 130 คน และยังบั่นทอนภาพลักษณ์ของปารีสในฐานะเมืองซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศภาวะฉุกเฉินตั้งแต่เกิดเหตุวินาศกรรมปารีสเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ปีที่แล้ว และก่อนหน้านั้นก็มีผู้เสียชีวิตไปอีก 17 รายจากเหตุกราดยิงสำนักงานนิตยสารเสียดสี ชาร์ลี เอ็บโดและซุปเปอร์มาร์เก็ตยิวเมื่อช่วงต้นปี  กลุ่มติดอาวุธไอเอสได้ประกาศย้ำหลายครั้งว่าฝรั่งเศสคือ เป้าหมายหลักของพวกเขา เนื่องจากแค้นใจที่รัฐบาลปารีสใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อต้านนักรบไอเอสทั้งในอิรักและซีเรีย นักรบญิฮyดจากฝรั่งเศสหลายร้อยคนได้เดินทางไปต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับไอเอสในตะวันออกกลาง  หาดทรายกรวดและน้ำทะเลสีฟ้าใสสะอาดทำให้เมืองนีซกลายเป็นเมืองตากอากาศชื่อดังของฝรั่งเศสที่บรรดามหาเศรษฐี และนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบสายลมและแสงแดด นิยมเดินทางมาพักผ่อน หลังเกิดเหตุนองเลือดขึ้น ถนนโพรเมดนาด เดซ็องเกลส์ ถูกกันพื้นที่ไม่ให้ประชาชนเข้า โดยมีเพียงตำรวจและรถพยาบาลที่เข้าไปได้ ขณะที่ทางการจังหวัด อาลป์ส-มารีตีมส์ ขอร้องให้ประชาชนอยู่ในแต่อาคารบ้านเรือน
รอยเตอร์ - เทเรซา เมย์ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษอย่างเป็นทางการในวันพุธ (13 ก.ค.) หลังเข้าเฝ้าฯ ควีนเอลิซาเบธ ให้คำมั่นจะทุ่มเทความพยายามเพื่ออนาคตใหม่ที่ห้าวหาญในโลกใบนี้ ขณะที่เธอเริ่มภารกิจสำคัญในการนำพาประเทศออกจากสหภาพยุโรป ในนั้นคือการตั้งตำแหน่งรัฐมนตรีใหม่ เพื่อดำเนินการเจรจา เบร็กซิตโดยเฉพาะเมย์ วัย 59 ปี เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการหลังเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จากนั้นก็ขับรถมุ่งตรงสู่บ้านหลังใหม่ บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง ที่ว่างลงไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ ตามหลังการลาออกของนายเดวิด คาเมรอน  เราจะลุกขึ้นสู้ความท้าทาย ในขณะที่เราออกจากสหภาพยุโรป เราจะหล่อหลอมบทบาททางบวกใหม่ที่ห้าวหาญสำหรับตัวเราเองในโลกใบนี้ และเราจะสร้างอังกฤษให้เป็นประเทศที่ไม่ได้ทำเพื่อผู้มีสิทธิพิเศษจำนวนเล็กน้อย แต่เพื่อพวกเราทุกคนเธอกล่าว   นายคาเมรอน ลาออกจากตำหน่งหลังจากชาวอังกฤษปฏิเสธคำเตือนของเขาและโหวตแยกตัวจากอียูในการลงประชามติเมื่อเดือนที่แล้ว กัดเซาะความพยายามหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวของยุโรปและก่อความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทั่วกลุ่ม 28 ชาติสมาชิก  เมย์ ต้องพยายามจำกัดความเสียหายทางการค้าและการลงทุนของอังกกฤษ ในขณะที่ต้องเจรจาด้านความสัมพันธ์ของประเทศกับพันธมิตร 27 ชาติอียู นอกจากนี้เธอยังต้องพยายามประสานรอยร้าวภายในพรรคคอมเซอร์เวทีฟและความแตกแยกต่างๆนานาภายในประเทศที่พบเห็นจากศึกประชามติ  นายกรัฐมนตรีรายใหม่ยอมรับว่าชาวอังกฤษคงต้องเผชิญปัญหาต่างๆ นานา แต่บอกว่า รัฐบาลที่ดิฉันเป็นผู้นำ จะขับเคลื่อนไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์แก่อกิสิทธิชนบางส่วน แต่เพื่อพวกคุณทุกคน เราจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อให้พวกคุณได้ควบคุมชีวิตตัวเอง  สหรัฐฯ แสดงความยินดีกับเมย์ และแสดงความมั่นใจในความสามารถของเธอในการกุมบังเหียนอังกฤษผ่านพ้นการเจรจาออกจากสหภาพยุโรป จากคำพูดต่อสาธารณะที่เราได้ยินจากนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เธอมีความตั้งใจไล่ตามเส้นทางที่สอดคล้องกับข้อเสนอแนะของประธานาธิบดีโอบามาจอช เออร์เนสต์ โฆษกทำเนียบขาวระบุ ภาพถ่ายอย่างเป็นทางการพบเป็นภาพเมย์ ถอนสายบัวถวายความเคารพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 13 ของอังกฤษ และเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศ ต่อจากนางมาร์กาเร็ต แธตเชอร์  เหล่าผู้นำอียู ต้องการก้าวไปข้างหน้าตามหลังผลโหวตเบร็กซิตอันน่าช็อก ด้วยการเร่งรัดให้ เมย์ เริ่มกระบวนการถอนตัวอย่างเป็นทางการเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อช่วยคลายความไม่แน่นอน  อย่างไรก็ตาม เธอบอกว่าจะไม่ดำเนินการแยกตัวจากอียูก่อนสิ้นปี โดยขอเวลาอังกฤษร่างยุทธศาสตร์เจรจาถอนตัวก่อน ทั้งนี้แม้เธออยู่ฝ่ายสนับสนุนอยู่ในอียูต่อ แต่ เมย์ ย้ำว่าผลโหวต "แยกตัวก็คือแยกตัว" และจะไม่มีความพยายามจัดลงประชามติใหม่อีก  ประชามติอันสุดช็อกเป็นผลสะท้อนบางส่วนของความไม่พอใจต่อกฎของอียูเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวเสรีที่เป็นต้นตอของวิกฤตผู้อพยพ ประเด็นที่เป็นจุดอ่อนทางการเมืองของ เมย์ ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทยมาตลอด 6 ปีหลัง  ทว่าเหล่าผู้นำอียูยืนยันชัดเจว่าการเคลื่อนไหวเสรีจะเป็นหลักการพื้นฐานในการเข้าถึงตลาดเดี่ยวเสรีของทางกลุ่ม จุดยืนที่จะก่อความซับซ้อนแก่เมย์ ในภารกิจเจรจาเงื่อนไขทางการค้าใหม่ นายเดวิด คาเมรอน กล่าวกับรัฐสภาในการปรากฏตัวของเขาครั้งสุดท้ายก่อนลาออกจากตำแหน่ง ระบุว่า คำแนะนำถึงผู้สานต่อตำแหน่งของผม ผู้ที่เป็นนักเจรจาชั้นยอด คือเราควรพยายามใกล้ชิดกับสหภาพยุโรป เนื่องจากเราจะได้ประโยชน์ด้านการค้า ความร่วมมือและความมั่นคงระหว่างปรากฏตัวที่ถนนดาวนิ่งพร้อมกับนางซาแมนธา ภรรยาและลูกๆในเวลาต่อมา นายคาเมรอน กล่าวว่า มันไม่ใช่เส้นทางที่ง่ายดาย และแน่นอนว่าเราไม่อาจตัดสินใจได้ถูกต้องทั้งหมด แต่ผมเชื่อว่าในวันนี้ ประเทศของเรามีความเข้มแข็งกว่าเดิมมาก  ผู้นำใหม่ของอังกฤษได้รับคาดหมายว่าจะเริ่มตั้งคณะรัฐมนตรี ในความเคลื่อนไหวสร้างสมดุลทางการเมืองอันซับซ้อน ซึ่งเธอจะพยายามสร้างความพึงพอใจแก่ฝ่ายต่อต้านภายในพรรคของเธอเอง  เบื้องต้นเธอบอกว่ามีแผนตั้งกระทรวงใหม่สำหรับเป็นผู้นำกระบวนการแยกตัวจากอียู ซึ่งรัฐมนตรีจะเป็นคนที่มาจากฝ่ายรณรงค์ถอนตัว และในเวลาต่อมา เมย์ แถลงว่าผู้ที่จะเข้ามานั่งเก้าอี้รัฐมนตรี เบร็กซิตก็คือนายเดวิด เดวิส อดีตรัฐมนตรียุโรป ซึ่งจะมีหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะเจรจาแยกตัวจากอียู  สมเด็จพระราชินี ทรงเห็นชอบการแต่งตั้ง ส.ส.เดวิด ดวิส เป็นรัฐมนตรีเพื่อการถอนตัวจากสหภาพยุโรปทำเนียบนายกรัฐมนตรีระบุในถ้อยแถลง
    
รอยเตอร์/เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุรถไฟโดยสาร 2 ขบวนพุ่งประสานงา บริเวณทางภาคใต้ของอิตาลีในวันอังคาร(12ก.ค.) เพิ่มเป็นอย่างน้อย 20 ศพ และบาดเจ็บอีกหลายสิบคน ขณะที่กระทรวงคมนาคมส่งคณะสืบสวนเข้าตรวจสอบโศกนาฏกรรมครั้งนี้แล้ว  แรงกระแทกส่งผลให้ตู้โดยสารหลายโบกี้ยับยู่ยี่และเศษซากกระเด็นเข้าไปยังพุ่มไม้ข้างทาง ที่ขนาบข้างรางรถไฟในแถบชนบทระหว่างเมืองคอราโตและอันดรีอา  "เคราะห์ร้ายที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 20 ศพ" จูเซปเป คอร์ราโด รองห้วหน้าเขตท้องถิ่นกล่าว พร้อมร้องขอผู้ประสงค์บริจาคเลือดให้ไปตามโรงพยาบาลท้องถิ่นต่างๆ ขณะที่สื่อมวลชนอิตาลีรายงานว่ามีผู้โดยสาร 34 คนถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล และในนั้น 18 รายอาการสาหัส  ตัวเลขนี้สอดคล้องกับข้อมูลของ วิโต มอนตานาโร ผู้อำนวยการทั่วไปขององค์การสาธารณสุขบารี ที่ระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 20 คนและบาดเจ็บ 35 ราย  อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นตอนเวลา 11.30น.(ตรงกับเมืองไทย 16.30น.) ขณะที่หน่วยดับเพลิงต้องทำงานท่ามกลางอากาศร้อน งัดแงะไปตามซากหักพังและตู้โดยสารที่ยับยู่ยี่ในความพยายามค้นหาเหยื่อคนอื่นๆ "ปฏิบัติการกู้ภัยยุ่งยากซับซ้อนเพราะมันเกิดขึ้นกลางพื้นที่ชนบท" ลูคา คารี โฆษกหน่วยดับเพลิงกล่าว ยังไม่พบเงื่อนงำว่าอะไรเป็นต้นตอที่ทำให้รถไฟ 2 ขบวนแล่นเข้าหากันบนรางเดียวกัน และกระทรวงคมนาคมเผยว่าได้ส่งเจ้าหน้าที่สืบสวน 2 คนไปยังแคว้นปูลยา เพื่อตรวจสอบอุบัติเหตุครั้งนี้แล้ว  "เราจะไม่หยุดจนกว่าเราจะสามารถอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน" มันเตโอ เรนซี นายกรัฐมนตรีอิตาลีกล่าวกับผู้สื่อข่าว โดยผู้นำรายนี้ได้ตัดลดโปรแกรมเยือนเมืองมิลาน ทางภาคใต้ของอิตาลี เพื่อกลับมายังกรุงโรม และมีกำหนดลงพื้นที่แคว้นปูลยาในวันเดียวกันนี้  รถไฟแต่ละขบวนบรรทุกตู้โดยสาร 4 โบกี้ ขณะที่ภาพถ่ายของหน่วยดับเพลิงพบเห็นตู้โดยสาร 3 โบกี้ถูกกระแทกแยกเป็นส่วนๆ บ่งชี้ว่ารถไฟอย่างน้อย 1 ขบวนกำลังแล่นด้วยความเร็วสูง "มันดูราวกับเครื่องบินตกเลย" มัสซิโม มัซซิลลี นายกเทศมนตรีเมืองคอราโตกล่าว เส้นทางรถไฟสายนี้บริหารงานโดย เฟอร์โรแทรมเวียเรีย บริษัทการรถไฟระดับแคว้น อย่างไรก็ตามไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีผู้โดยสารอยู่บนรถไฟทั้งสองขบวนมากน้อยแค่ไหนในตอนที่มันชนประสานงากัน  ภาพข่าวทางสถานีโทรทัศน์พบเห็นหน่วยฉุกเฉินกำลังเร่งมือช่วยผู้โดยสารออกจากโบกี้รถไฟที่พังยับและกระเด็นตกรางเดี่ยวแถวๆเมืองอันดรีอา ใกล้ๆกับบารี  อุบัติเหตุทางรถไฟครั้งใหญ่หนสุดท้ายของอิตาลี เกิดขึ้นเมื่อปี 2009 โดยรถไฟบรรทุกสินค้าเกิดตกรางในวิอาเรจจิโอ แถบตอนกลางของประเทศ ก่อนเกิดไฟลุกไหม้และทำให้ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ติดกับรางเสียชีวิตมากกว่า 30 ศพ

 
รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - ศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศในกรุงเฮกวันนี้ (12 ก.ค.) ประกาศคำตัดสินคดีว่าจีนไม่สามารถอ้างสิทธิตามประวัติศาสตร์ว่าเป็นเจ้าของทรัพยากรต่างๆ ภายในน่านน้ำแทบทั้งหมดของทะเลจีนใต้ นอกจากนั้นปักกิ่งยังได้ละเมิดสิทธิอธิปไตยของฟิลิปปินส์จากความประพฤติการปฏิบัติต่างๆ ในบริเวณดังกล่าว ทางด้านปักกิ่งได้ออกคำแถลงตอบโต้ในทันทีว่าไม่ยอมรับผลการตัดสินและไม่ยอมรับว่าศาลแห่งนี้มีอำนาจวินิจฉัย ขณะที่มะนิลาเรียกร้องให้ทุกๆ ฝ่ายยับยั้งชั่งใจและมีสติรอบคอบ  จีนซึ่งคว่ำบาตรไม่ให้ความร่วมมือใดๆ กับการพิจารณาไต่สวนคดีนี้ใน ศาลอนุญาโตตุลาการถาวรซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเฮก, เนเธอร์แลนด์ ได้ประกาศอีกครั้งว่าไม่สนใจกับคำตัดสินนี้ รวมทั้งบอกด้วยว่ากองทัพของตนจะพิทักษ์ปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ทางทะเลของตนอย่างแข็งขัน เพียงไม่น่านหลังจากมีการเผยแพร่คำตัดสิน สำนักข่าวซินหวาของทางการจีน ประกาศว่าเครื่องบินพลเรือนของจีนลำหนึ่งประสบความสำเร็จในการทดสอบความถูกต้องได้มาตรฐานของสนามบินแห่งใหม่ 2 แห่งในหมู่เกาะสแปรตลีย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของน่านน้ำพิพาทในทะเลจีนใต้นี้ นอกจากนั้น กระทรวงกลาโหมจีนก็ประกาศว่า เรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถีลำหนึ่งได้ถูกนำเข้าประจำการอย่างเป็นทางการแล้ว ณ ฐานทัพเรือบนเกาะไห่หนาน (ไหหลำ) ซึ่งรับผิดชอบดูแลอาณาเขตทะเลจีนใต้  ทางด้าน เอียน สตอรีย์ แห่งสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ไอเซียส ยูซอฟ อิสฮัค อินสติติวท์ ของสิงคโปร์ ให้ความเห็นว่า ผลการตัดสินคราวนี้ถือเป็นการกระหน่ำตีในทางกฎหมายที่สร้างความเสียหายยับเยินให้แก่ข้ออ้างความชอบธรรมของจีนในกรรมสิทธิ์ต่างๆ ในทะเลจีนใต้ เขาคาดหมายว่าจีนจะต้องตอบโต้ด้วยความโกรธเกรี้ยว โดยที่แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องมีการแสดงความเกรี้ยวกราดทางวาจา แต่ก็เป็นไปได้ว่าอาจมีการปฏิบัติการในทะเลอย่างแข็งกร้าวมากขึ้นอีกด้วย จีนนั้นอ้างกรรมสิทธิเหนือน่านน้ำแทบทั้งหมดของทะเลจีนใต้ โดยที่ชาติเพื่อนบ้านอย่างฟิลิปปินส์, เวียดนาม, มาเลเซีย, บรูไน, รวมทั้งไต้หวัน ก็อ้างสิทธิอยู่บางส่วนเช่นเดียวกัน  ในการพิจารณาคำฟ้องรวม 15 ประเด็นของฝ่ายฟิลิปปินส์ คณะผู้พิพากษาของศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศแห่งนี้วินิจฉัยว่า การที่จีนอ้างสิทธิต่างๆ ตามประวัติศาสตร์เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของทรัพยากรต่างๆ ภายในอาณาบริเวณที่เรียกกันว่า แนวแผนที่เส้นประ 9 เส้น ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ราว 90% ของทะเลจีนใต้นั้น เป็นเรื่องที่ไม่มีพื้นฐานทางกฎหมายใดๆ รองรับเลย  คำตัดสินบอกอีกว่า จีนได้แทรกแซงขัดขวางสิทธิในการทำประมงตามประเพณีที่เคยเป็นมาของฟิลิปปินส์ ในเขตแนวปะการังสคาร์โบโร โชล หนึ่งในแนวปะการังและโขดหินหลายร้อยแห่งซึ่งตั้งกระจัดกระจายอยู่ในทะเลแห่งนี้ รวมทั้งยังล่วงละเมิดสิทธิอธิปไตยของฟิลิปปินส์ ด้วยการเข้าไปสำรวจขุดค้นหาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในบริเวณใกล้ๆ รีด แบงก์ ซึ่งก็เป็นแผ่นดินที่โผล่พ้นพื้นน้ำอีกแห่งหนึ่งในทะเลจีนใต้  ไม่เพียงเท่านั้น คำตัดสินยังวินิจฉัยว่าไม่มีแนวปะการังหรือแผ่นดินว่างเปล่าแห่งใดเลยในหมู่เกาะสแปรตลีย์ซึ่งจีนควบคุมอยู่ สามารถนิยามได้ว่าเป็น เกาะซึ่งจะทำให้ได้พื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะ 200 ไมล์ทะเลจากชายฝั่ง ตามที่ฝ่ายจีนกล่าวอ้าง  คำตัดสินระบุด้วยว่า จีนยังได้สร้างความเสียหายอย่างถาวรให้แก่ระบบนิเวศของแนวปะการังในหมู่เกาะสแปรตลีย์ จากการถมทะเลสร้างเกาะเทียมขึ้นมาหลายแห่ง  ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ปฏิเสธไม่ยอมรับคำตัดสินคราวนี้ โดยบอกว่าประชาชนของตนมีประวัติศาสตร์มากกว่า 2,000 ปีอยู่ในทะเลจีนใต้ และเกาะต่างๆ ของตนก็มีสิทธิที่จะอ้างเขตเศรษฐกิจจำเพาะ อีกทั้งแดนมังกรได้ประกาศต่อโลกให้ทราบถึงแผนที่เส้นประของตนมาตั้งแต่ปี 1948 แล้ว  อธิปไตยทางดินแดนและสิทธิตลอดจนผลประโยชน์ทางทะเลต่างๆ ของจีนในทะเลจีนใต้ ไม่ว่าในสถานการณ์เช่นใดก็จะไม่ได้รับผลกระทบกระเทือนจากคำตัดสินเหล่านี้ จีนนั้นคัดค้านและจะไม่มีวันยอมรับการกล่าวอ้างหรือการกระทำใดๆ บนพื้นฐานของคำตัดสินเหล่านี้อย่างไรก็ตาม กระทรวงยังคงกล่าวย้ำด้วยว่า จีนเคารพและยึดมั่นปฏิบัติตามในเรื่องเสรีภาพในการเดินเรือและในการบินผ่านทะเลจีนใต้ อีกทั้งจีนยังคงพร้อมที่จะแก้ไขคลี่คลายข้อพิพาทต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างสันติ โดยผ่านการหารือกับรัฐต่างๆ ที่เกี่ยวข้องโดยตรง  รัฐมนตรีต่างประเทศ หวัง อี้ ของจีน ก็ได้ออกมากล่าวว่า คดีนี้เป็นละครตลกมาตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งจบ และนำเอาข้อพิพาทเข้าไปอยู่ในดินแดนอันตรายซึ่งความตึงเครียดและการเผชิญหน้ากำลังเลวร้ายลงเรื่อยๆ  แต่ หวัง ซึ่งแสดงความคิดเห็นคราวนี้โดยสื่อของรัฐนำออกมาเผยแพร่ ก็มีน้ำเสียงในทางรอมชอมมากขึ้นเช่นกัน โดยกล่าวว่าตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะต้องนำสิ่งต่างๆ กลับคืนเข้าสู่เส้นทางเดินอันถูกต้อง พร้อมกับชี้ว่ารัฐบาลใหม่ของฟิลิปปินส์ดูมีความจริงใจในการใช้จังหวะก้าวซึ่งสาธิตให้เห็นว่ามีความปรารถนาที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างกัน สำหรับฟิลิปปินส์ได้จัดการแถลงข่าวภายหลังทราบผลการตัดสินของศาลในกรุงเฮก โดยที่รัฐมนตรีต่างประเทศ เปอร์เฟคโต ยาซาย อ่านคำแถลงที่เตรียมไว้ซึ่งระบุว่า พวกผู้เชี่ยวชาญของเรากำลังศึกษาคำตัดสินนี้ด้วยความรอบคอบและละเอียดถี่ถ้วนอย่างที่ผลการวินิจฉัยอันสำคัญของอนุญาโตตุลาการนี้สมควรที่จะได้รับ   เราเรียกร้องให้ทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องใช้ความยับยั้งชั่งใจและความมีสติ ฟิลิปปินส์นั้นขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่าให้ความเคารพคำตัดสินอันเป็นหลักหมายสำคัญคราวนี้ โดยถือเป็นคุณูปาการอย่างสำคัญให้แก่ความพยายามที่ยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขคลี่คลายข้อพิพาทต่างๆ ในทะเลจีนใต้ 

เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - คณะผู้พิพากษา 5 คนของศาลอนุญาโตตุลาการถาวร ในกรุงเฮก, เนเธอร์แลนด์ เมื่อวันอังคาร (12 ก.ค.) ประกาศคำตัดสินในคดีซึ่งฟิลิปปินส์ฟ้องร้องจีนเกี่ยวกับข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญต่างมองกันว่าเป็นการวินิจฉัยที่สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงในทางกฎหมายต่อเหตุผลข้ออ้างกรรมสิทธิ์ของปักกิ่ง ขณะที่เป็นผลดีต่อมะนิลา ต่อไปนี้คือประเด็นหลักๆ ในคำฟ้องของฟิลิปปินส์ และจุดสำคัญๆ ในคำตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการถาวร
    
ประเด็นหลักๆ ในคำฟ้องของฟิลิปปินส์
    
คำฟ้องที่รัฐบาลยื่นต่อศาลอนุญาโตตุลาการถาวร ในกรุงเฮก, เนเธอร์แลนด์ ตั้งแต่เมื่อปี 2013 นั้นมี 15 ประเด็นด้วยกัน แต่อาจสรุปเป็นประเด็นหลักๆ ได้ 5 ประเด็น ดังนี้
    
       1. จีนไม่มีสิทธิตามกฎหมายที่จะเรียกร้องบังคับใช้สิ่งที่ปักกิ่งเรียกว่า สิทธิตามประวัติศาสตร์เหนือน่านน้ำต่างๆ ซึ่งอยู่เกินเลยข้อจำกัดที่นิยามเอาไว้ในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (UNCLOS) อันเป็นสนธิสัญญาซึ่งทั้งฟิลิปปินส์และจีนต่างก็เป็นภาคีอยู่
    
       2. แผนที่ เส้นประ 9 เส้น” (nine dash line) ของจีน ไม่มีพื้นฐานใดๆ รองรับเลยในกฎหมายระหว่างประเทศ
    
       3. แผ่นดินลักษณะต่างๆ ในทะเล ซึ่งเป็นพื้นฐานที่จีนใช้ในการยืนยันการอ้างกรรมสิทธิ์ของตนในทะเลจีนใต้นั้น ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้เป็น เกาะ” (island) ตามที่จีนกล่าวอ้าง ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีศักยภาพทางกฎหมายที่จะก่อให้เกิดสิทธิ์ตามที่กล่าวอ้าง นอกจากนั้น การที่จีนทำการสร้างเกาะเทียมขึ้นมาจำนวนมากในช่วงหลังๆ นี้ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ดังกล่าวนี้ได้
    
       ทั้งนี้ ตาม UNCLOS หากเป็นแผ่นดินที่โผล่ขึ้นมาเมื่อน้ำลง เช่น แนวปะการัง (reef) ไม่ถือว่าก่อให้เกิดสิทธิใดๆ แก่ชาติที่ครอบครอง แต่ถ้าเป็นก้อนหิน (Rock) จะสามารถอ้างน่านน้ำอาณาเขตห่างจากชายฝั่ง 12 ไมล์ทะเล และถ้าเป็นเกาะ (Island) จะสามารถอ้างเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEF) เป็นระยะห่างจากชายฝั่ง 200 ไมล์ทะเล
    
       4. จีนละเมิด UNCLOS จากการขัดขวางไม่ให้ฟิลิปปินส์ใช้สิทธิอันถูกต้องชอบธรรมของตนในการทำประมงและในการสำรวจขุดค้นทรัพยากร
    
       5. จีนสร้างความเสียหายให้แก่สภาพแวดล้อมอย่างชนิดไม่สามารถแก้ไขกลับคืนได้ ด้วยการทำลายแนวปะการัง, ใช้วิธีการทำประมงที่สร้างอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม และจับสัตว์น้ำที่ใกล้สูญพันธุ์ในทะเลจีนใต้ จุดสำคัญในคำตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการถาวร
    
แผนที่ เส้นประ 9 เส้นของจีนนั้นใช้ไม่ได้
    
        -คณะผู้พิพากษาทั้ง 5 พบว่า ชาวประมงจีนก็เช่นเดียวกับชาวประมงอื่นๆ ในอดีต โดยได้เคยใช้สอยหาประโยชน์จากเกาะต่างๆ ในทะเลจีนใต้ ทว่า ไม่มีหลักฐานใดๆ เลยว่าในอดีตจีนได้เคยประกาศใช้สิทธิควบคุมแต่เพียงผู้เดียวเหนือน่านน้ำเหล่านั้นหรือทรัพยากรต่างๆ ที่อยู่ในเขตน่านน้ำเหล่านั้น
        “คณะผู้พิพากษาสรุปว่าจีนไม่มีพื้นฐานทางกฎหมายใดๆ เลยที่จะอ้างสิทธิตามประวัติศาสตร์ต่อทรัพยากรต่างๆ ภายในพื้นที่ทะเล ซึ่งตกอยู่ภายใน เส้นประ 9 เส้น
        โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเลปี 1982 ย่อมเป็นสิ่งที่ลบล้างแผนที่ เส้นประ 9 เส้นซึ่งจีนได้ใช้เป็นพื้นฐานในการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่ราวๆ 85% ของทะเลจีนใต้มาเป็นเวลา 69 ปีแล้ว
    
เกาะทั้งหลายที่ถมทะเลสร้างขึ้นมาไม่มีสิทธิอ้างเขตเศรษฐกิจจำเพาะ
    
        -บรรดาเกาะเทียมทั้งหลายที่จีนกำลังเร่งรีบสร้างขึ้นในระยะไม่กี่ปีหลังมานี้ ไม่มีศักยภาพที่จะให้ประชากรอยู่อาศัยเลี้ยงชีพได้ ดังนั้นภายใต้สนธิสัญญาระหว่างประเทศฉบับต่างๆ จึงไม่สามารถอ้างสิทธิมีเขต เศรษฐกิจจำเพาะ” 200 ไมล์ทะเล แบบเกาะที่มีประชากรพำนักอาศัยได้
        “คณะผู้พิพากษาชี้ว่า การปรากฏตัวในปัจจุบันของพวกบุคลากรของทางการในแผ่นดินจำนวนมากเหล่านี้ ต้องขึ้นต่อและพึ่งพาการสนับสนุนจากภายนอก และไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของแผ่นดินนั้นๆ ... (และ) ... (แผ่นดิน) ในหมู่เกาะสแปรตลีย์ ไม่มีแห่งใดเลยซึ่งมีศักยภาพที่จะก่อให้เกิด (การอ้างสิทธิ) เขตทะเลเพิ่มเติมได้
        “คณะผู้พิพากษาพบว่า โดยที่ยังไม่ต้องกำหนดเกี่ยวกับเรื่องเขตแดน คณะผู้พิพากษาก็สามารถประกาศได้แล้วว่าพื้นที่ทะเลหลายๆ แห่งเหล่านั้นอยู่ภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของฟิลิปปินส์ เนื่องจากพื้นที่เหล่านี้ไม่ได้ถูกเหลื่อมซ้อนโดยการอ้างสิทธิใดๆ ที่มีความเป็นไปได้ของฝ่ายจีนเลย 
จีนประพฤติปฏิบัติตนอย่างผิดกฎหมาย
    
        เนื่องจากพื้นที่ต่างๆ ที่เป็นประเด็นปัญหานั้นอยู่ภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของฟิลิปปินส์ การที่จีนทำการก่อสร้างเกาะเทียมของตน และการที่จีนแทรกแซงขัดขวางกิจกรรมในการทำประมงและการขุดค้นทรัพยากรแร่ธาตุของฟิลิปปินส์ จึงเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
        “จีนได้ละเมิดสิทธิอธิปไตยของฟิลิปปินส์ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของฟิลิปปินส์ คณะผู้พิพากษายังเห็นต่อไปอีกว่า พวกเรือบังคับใช้กฎหมายของฝ่ายจีนได้กระทำการผิดกฎหมาย จากการก่อให้เกิดความเสี่ยงอันร้ายแรงที่จะเกิดการชนกัน เมื่อเรือเหล่านี้เข้าขัดขวางในทางกายภาพต่อเรือของฝ่ายฟิลิปปินส์
    
จีนสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม
    
       การที่จีนดำเนินการถมทะเลสร้างเกาะเทียมอย่างขนานใหญ่ ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อสภาพแวดล้อมของแนวปะการัง และละเมิดพันธกรณีของจีนที่จะต้องสงวนรักษาและปกป้องคุ้มครองระบบนิเวศอันเปราะบาง
        จีนยังสะเพร่าเลินเล่อ จากความล้มเหลวที่ไม่ได้หยุดยั้งไม่ให้ชาวประมงของตน ทำการจับเต่าทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์, เก็บปะการัง และจับหอยมือเสือจนอาจก่อให้เกิดอันตราย
    
การสร้างเกาะเทียมควรต้องยุติลงในระหว่างอยู่ในกระบวนการตัดสินข้อพิพาท
    
        คณะผู้พิพากษาบอกว่า ตนไม่มีอำนาจในการตัดสินกรณีการประจันหน้ากันทางทหารที่บริเวณแนวปะการัง เซกันด์ โธมัส โชล ระหว่างเรือของกองทัพฟิลิปปินส์ กับเรือของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของจีน
        อย่างไรก็ตาม การที่จีนทำการถมทะเลและก่อสร้างเกาะเทียมต่างๆ อย่างใหญ่โตในช่วงหลังๆ มานี้ เป็นการกระทำที่ไม่สอดคล้องกับพันธกรณีซึ่งรัฐหนึ่งๆ พึงต้องปฏิบัติในระหว่างกระบวนการแก้ไขข้อพิพาท ในเมื่อจีน ... ได้ทำลายหลักฐานเกี่ยวกับสภาวการณ์ตามธรรมชาติของแผ่นดินลักษณะต่างๆ ในทะเลจีนใต้ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการพิพาทโต้แย้งของคู่กรณี”  (เครดิตอ้างอิง : คัดลอกจากข่าวแปล คอลัมน์ข่าวต่างประเทศ, MGR online)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น