กลายเป็นข่าวสะท้านสะเทือนทั้งวงการทีวีดิจิตอลกันเลย
เมื่อคุณพันธุ์ทิพา ศกุนต์ไชย์ (หรือชื่อในวงการ “เจ๊ติ๋ม” )
เจ้าแม่สื่อทางด้านบันเทิง ที่เป็น 1ในผู้เล่นใหม่ในวงการทีวีดิจิตอล
ออกมาประกาศว่าจะคืนไลเซ่นของช่องทีวีดิจิตอล จำนวน 2 ช่องที่ตนถือสิทธิ์ไปประมูลมาได้
โดยก่อนหน้านี้เคยประกาศว่าจะไม่จ่ายค่าสัมปทานงวดที่ 2 ที่เพิ่งถึงครบกำหนดจ่าย
(เดตไลน์) ในวันที่ 25 พ.ค.2558 ที่ผ่านมานี้
โดยเธอประกาศกร้าวว่า “ใครจะจ่ายก็จ่ายไป แต่ช่องไทยทีวี กับโลก้า
จะไม่ยอมจ่ายค่าสัมปทานให้กับ กสทช.” เนื่องจากเธออ้างว่า
กสทช.ซึ่งในที่นี้ถือเป็นเจ้าของสัมปทานนั้น ไม่ได้ปฏิบัติตามแผนให้เป็นไปตามข้อตกลงหรือกติกา
ที่เคยอ้างไว้เดิม ก่อนหน้าที่เธอจะมาประมูล ทุกอย่างผิดแผน ผิดคาด
โดยเธอใช้คำแรงว่า เธอไม่คาดคิดว่า ธุรกิจนี้จะทำให้เธอประเมินผิด
โดยผลของการก้าวเท้าผิดในครั้งนี้
ทำให้เธอขาดทุนจากผลประกอบการไปแล้วในปีที่ผ่านมาถึง 300 ล้านบาท
เธอจึงไม่ยินยอมที่จะจ่ายค่าสัมปทานตลอดจนค่าเช่าสถานีอีกต่อไป
แม้นว่าก่อนหน้านี้มีพันธมิตรร่วมอุดมการณ์เดียวกับเธออีกหลายช่องหลายสถานี
พร้อมที่จะร่วมมือกับเจ๊ติ๋มด้วยการบอยคอตต์ไม่ไปจ่ายค่าสัมปทานหรือขอผ่อนปรนยืดระยะเวลาในการจ่ายเงินออกไป
โดยให้เหตุผลเรื่องการเยียวยาผู้ประกอบการ ที่แผนงานต่างๆ
กสทช.ไม่สามารถปฏิบัติให้เป็นไปตามแผนที่เคยอ้างไว้แม้แต่ข้อเดียว
แต่เมื่ออัยการได้ทำจดหมายชี้แจงประเด็นเรื่องมาตรการเยียวยาด้วยการขอผ่อนปรนและยืดระยะเวลาการส่งค่าสัมปทานงวดที่
2 ของผู้ประกอบการโดยรวมออกไป
ซึ่งอัยการสูงสุดมีคำชี้แจงในประเด็นนี้ว่า กสทช.ไม่สามารถที่จะทำได้ หากว่า
กสทช.ยินยอมออกมาตรการเยียวยาด้วยการผ่อนปรนหรือยืดระยะเวลาการส่งค่าสัมปทานออกไป
จะเข้าข่ายเลือกปฏิบัติ และอาจโดยฟ้องในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
เพราะก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน ช่อง 7สีHD ได้เดินชิลล์ๆ หอบเงินจำนวนเกือบ 700 ล้านบาท
ไปจ่ายให้กับ กสทช.เรียบร้อยเป็นเจ้าแรก ซึ่งกลายเป็นแรงกดดันให้ทั้ง กสทช.อัยการสูงสุด
และผู้ประกอบการรายอื่นๆ จำต้องปฏิบัติตามในกติกาเดียวกัน
และเมื่ออัยการสูงสุดออกมาชี้แจงประเด็นเรื่องนี้จนเคลียร์แล้ว ทำให้ กสทช.ประกาศใหม่ว่า
ไม่สามารถเลื่อนหรือผ่อนปรน ยืดระยะเวลาการจ่ายค่าสัมปทานงวดที่ 2 ได้ นี่จึงเป็นที่มา หรือฟางเส้นสุดท้ายหรือไม่ที่ทำให้ เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล
ประกาศถอนตัว หรือทิ้งไพ่ใบสุดท้ายว่า ขอถอนไลเซ่นคืน แต่เกมนี้ไม่ง่ายในเมื่อ
กสทช.ออกมาขู่แล้วว่า หากเบี้ยวจ่าย ทางเจ๊ติ๋ม อาจโดนยึดแบ็งคการันตี
และมีสิทธิ์โดนฟ้องกลับด้วย งานนี้ยังไงก็ต้องให้กำลังใจ เจ๊ติ๋มด้วย เพราะดูเหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นใจและดูเหมือนไม่ยุติธรรมกับเธอเสียเลย ขอให้สู้ๆ ต่อไป กลับไปทำช่องทีวีดาวเทียม ทีวีพูลเหมือนเดิมก็ดีเหมือนกัน ผู้เขียนเองก็เคยเป็นแฟนรายการของช่องนี้มาก่อน ตอนมาทำทีวีดิจิตอลยังคิดตอนนั้นว่า เจ๊จะถนัดเหรอ ตอนนี้รู้แล้วว่า บุคลากรของเจ๊ติ๋มนี่ เหมาะกับการทำช่องทีวีพูลนั่นแหละเหมาะที่สุดแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้องกับ กสทช. และ เจ๊ติ๋ม
-หลังจากที่ บอร์ด
กสทช. เห็นชอบในหลักการ เลื่อนจ่ายเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอลงวดที่สองไปอีก 1 ปี
เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ล่าสุดมีหนังสือสำคัญด่วนที่สุดที่ อส 0005/6086 จากสำนักงานอัยการสูงสุด ส่งตรงถึง กสทช. ระบุว่า กสทช.
ไม่มีสิทธิ์ที่จะเลื่อนการจ่ายค่าใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ในระบบดิจิทัลงวดที่สองออกไป
ตามที่ผู้ประกอบการโทรทัศน์ดิจิทัลเรียกร้องมา
ใจความสำคัญหนึ่งระบุว่า
ตามหลักเกณฑ์การประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิทัล
ข้อ 10 มีการกำหนดเงื่อนไขการจ่ายค่างวดเอาไว้ตายตัว
มิได้เปิดช่องให้ กสทช. สามารถปรับเงื่อนไขได้ในภายหลัง และประกอบกับประกาศ
คสช. ฉบับที่ 80 ที่บังคับให้ค่าใบอนุญาต
ต้องส่งเข้าเป็นรายได้แผ่นดิน จึงทำให้ไม่มีมูลเหตุอันใดที่จะสามารถเลื่อนการจ่ายค่าใบอนุญาตออกไปได้ ทั้งนี้ อัยการสูงสุดชี้ว่า
การเลื่อนการจ่ายค่าใบอนุญาตในรอบสองนี้
อาจจะเป็นการทำเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ที่ได้เปรียบและ/หรือเสียเปรียบในการแข่งขันและการประกอบธุรกิจ
อีกทั้งการจ่ายค่าใบอนุญาต ก็เป็นไปตามเงื่อนไขที่ปรากฎอยู่ใน พรบ.กสทช.
หาใช่นิติกรรมที่จะให้มาตราที่ 205 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งมาบังคับใช้ได้
ดังนั้นเมื่อประกอบกันทั้งสองเหตุผลแล้ว อัยการสูงสุดจึงชี้ว่า กสทช.
ไม่มีสิทธิ์ที่จะเลื่อนการจ่ายค่าใบอนุญาตออกไป อย่างไรเสีย อัยการสูงสุดได้ชี้ว่า
หาก กสทช. ต้องการที่จะเลื่อนการจ่ายค่าใบอนุญาตออกไปจริง จะต้องมีการแก้ประกาศ
กสทช. ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้สามารถเลื่อนการจ่ายเงินออกไปได้
หรือไม่ก็ต้องออกประกาศผ่อนผันเป็นลายลักษณ์อักษร
และอ้างอิงไปยังประกาศฉบับดังกล่าวก่อนที่จะให้เลื่อนออกไปครับ ที่มา - ผู้จัดการออนไลน์
-กสทช. เตือน“ไทยทีวี-โลก้า”
เร่งจ่ายหนี้ทีวีดิจิตอล งวด2 รวม 288.47 ล้านบาท
คิดเบี้ยว เจอโทษหนัก ด้าน
‘ติ๋ม ทีวีพูล’
เล็งฟ้องกลับ หลังจากครบกำหนดชำระเงิน ค่าประมูลทีวีดิจิตอลงวด 2 (25 พ.ค.58)
มีผู้ประกอบการมาจ่ายเงิน 22 ช่อง รวมเป็นเงิน 8,404.42 ล้านบาท
มีเพียงบริษัท ไทยทีวี เจ้าของช่องไทยทีวี และช่องโลก้า (LOCA) ที่ยังไม่นำเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอลงวดที่ 2 จำนวน 288.47 ล้านบาทมาจ่าย วันที่ 26 พ.ค.58 พ.อ.นที ศุกลรัตน์
รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
(กสทช.) และประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เผยว่า
การที่ไทยทีวีไม่จ่ายเงินประมูลทีวีดิจิตอลงวดที่ 2 จะต้อง คิดดอกเบี้ยค่าปรับในอัตรา
7.5% ต่อปี รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบมาตรการต่างๆ ทั้งนี้ ตามขั้นตอน กสทช.
จะส่งหนังสือแจ้งไปให้ไทยทีวีจ่ายอัตราดอกเบี้ยค่าปรับ 7.5% ต่อปี เมื่อครบ 1
ปีแล้ว ไม่ยอมจ่ายค่าปรับ จะมีมาตรการ ทั้งเตือน ปรับ และพักใช้ใบอนุญาต ด้าน นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย (ติ๋ม ทีวีพูล)
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยทีวี ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ แต่มีรายงานว่า
บริษัทมีแผนจะยื่นฟ้อง กสทช. แต่ยังรอความชัดเจนจากนาง ‘พันธุ์ทิพา’
ก่อน ที่มา - มติชนออนไลน์
เรื่องน่าเศร้าของเกมทีวีดิจิตอลนั้นมีปัญหาระหองระแหง
หรือมีเค้าลางแห่งความหายนะมาตั้งแต่ยังไม่ทำคลอดออกมาแล้ว
โดยในช่วงแรกมีนักวิชาการจำนวนมากได้เคยออกมาท้วงติง
กสทช.และท้วงติงรัฐบาลซึ่งเป็นผู้กำกับองค์กรอิสระหน่วงงานนี้แล้วว่า หากประเทศไทยยังไม่มีความพร้อมในโครงสร้างพื้นฐานหรือเรื่องการบริหารจัดการที่ดีพอก็ไม่ควรที่จะเร่งรีบเปิดประมูลไลเซ่นทีวีดิจิตอล
แล้วท่านก็ไม่ฟัง ลุกลี้ลุกลนที่จะเร่งทำให้ได้
โดยในตอนที่ประมูลได้ไลเซ่นกันไปแล้วในประเภทธุรกิจ 24 ช่องนั้น โครงข่ายของสถานีรับสัญญาณหรือ MUX ยังไม่ได้สร้างเลย
หรือเริ่มสร้างสถานีโครงข่ายแล้ว แต่ก็ยังไม่มีเจ้าไหนเสร็จครบสมบูรณ์เลย มีเพียง MUX-2
ของกองทัพบก กับ MUX-4 ของไทยพีบีเอส เท่านั้นที่มีความพร้อม
สามารถสร้างสถานีรับสัญญาณได้แล้วเสร็จครอบคลุมครบทุกพื้นที่ได้ภายใน 1 ปี ส่วน MUX-1 ของกรมประชาสัมพันธ์ยังไม่คืบหน้ามากนัก
และ MUX-3 ของอสมท.เสร็จช้าไม่ทันภายใน 1 ปี นี่เป็นปัญหาเพียงเรื่องเดียว ยังมีปัญหาเรื่องการแจกคูปองล่าช้า
ปัญหาการไม่ประชาสัมพันธ์ให้เข้าใจเรื่องการเปลี่ยนผ่านสู่ทีวีดิจิตอลในพื้นที่ท้องถิ่นต่างจังหวัด
ปัญหาการติดตั้งและรับชมจากกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลที่ไม่มีประสิทธิภาพพลอยทำให้คนจำนวนมากทิ้งใบคูปองไม่ไปแลก
และยอมที่จะรับชมผ่านแพล็ตฟอร์มของทีวีดาวเทียมต่อไป ปัญหาของช่อง 3 อนาล็อคที่ลากเอา กสทช.ง่วนอยู่กับการโต้เถียงแก้เกมอยู่นานเป็นเวลา 2-3
เดือน จนเสียสมาธิที่จะไปจัดการปัญหาอื่นๆ พลอยให้งานด้านอื่นๆ
ล่าช้าไม่เป็นไปตามกำหนดเวลา ปัญหาการวัดเรตติ้งและอัตราค่าโฆษณาไม่เข้าช่องทีวีดิจิตอล
รายได้ไม่เป็นไปตามเป้าที่วางเอาไว้ อันเป็นผลจากความล่าช้าของโครงข่าย MUX
และการแจกคูปองแลกกล่องรับสัญญาณล่าช้า
และผลจากการอ่อนประชาสัมพันธ์อย่างมากๆ ของกสทช. ทั้งหลายเหล่านี้คือตัวบ่อนทำลายที่ทำให้
1 ปีที่ผ่านไปของระยะเวลาเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ทีวีดิจิตอลนั้น
แทบจะไม่มีความคืบหน้าใดๆ ที่ก่อให้เกิดความตื่นตัวหรือกระตุ้นต่อมของผู้คนต่อการเปลี่ยนแปลงในวงการทีวีนี้เลย
หนำซ้ำผู้ประกอบการต่างๆ ที่วาดภาพสวยหรูถึงธุรกิจทีวีดิจิตอลเอาไว้ว่าจะทำให้เม็ดเงินรายได้
หรือเม็ดเงินโฆษณาโตเท่านั้น เท่านี้ เรตติ้งเท่านั้นเท่านี้ พลอยเหี่ยวเฉาไปหมด
เพราะต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ เอาไว้ ซึ่งไม่คุ้มกับรายได้ที่เข้ามา ทำให้ผู้เล่นรายใหม่เกือบทั้งหมดประสบผลขาดทุนจากการดำเนินงานในปีแรกอย่างถ้วนหน้า
มีเพียงผู้เล่นเพียง 2-3 เจ้าเท่านั้นที่มีผลประกอบการเป็นกำไร
ซึ่งก็คือช่องที่มีเรตติ้งเป็นผู้นำอยู่ในระบบนั่นเอง
ในขณะนี้ความอหังการ
คุยโวของผู้เล่นหน้าใหม่ของทีวีดิจิตอลนั้น ไม่มีใครกล้าคาดเดาอนาคตของวงการทีวีบ้านเราได้อีกแล้ว
ในเมื่อกฏเกณฑ์กติกามันพลิกผันเปลี่ยนแปลง ไม่เป็นไปตามที่คาดคิดเอาไว้
ใครจะกล้าสุ่มเสี่ยงลงทุนไปแบบไม่สามารถคำนวณผลตอบแทนได้อย่างแน่นอน
คงไม่มีนักลงทุนคนใดทีจะกล้าสุ่มเสี่ยง
เพราะต้องใช้เงินจำนวนมากในธุรกิจนี้ในช่วงแรกให้อยู่รอดได้
เพราะไม่ใช่องค์กรการกุศลไม่แสวงหากำไร ยังไม่นับถึงการต้องสร้างจุดขาย
หากลยุทธ์มาฟาดฟันกับช่องคู่แข่งเพื่อช่วงชิงเรตติ้ง จึงนับว่าเกมนี้แสนสาหัสจริงๆ
อย่างที่เจ๊ติ๋มยอมถอดใจโบกมือลาไปก่อนในปีแรก แม้นว่าอายุสัมปทานจะยาวถึง 15 ปี นับแต่นี้ช่องที่เหลือจะฟันฝ่าอุปสรรค และเอาตัวรอดในอุตสาหกรรมหรือเกมนี้ได้อย่างไร
เป็นเรื่องที่น่าติดตามและศึกษาต่อไป
|
ดิฉัน เข้าใจหัวอกเจ๊ติ๋มค่ะ เพราะดิฉันเคยโดนพวกมันแกล้งตอนเปิดทีวีดาวเทียม ดิฉันก็สู้กับมันจนหมดเนื้อหมดตัว |
|
ทำทีวีไม่อยากหรอก ถามผมสิ ลงทุนไม่ต้องเยอะ ไม่ต้องหวังเรตติ้ง นับจำนวนวิวก็พอ |
|
เดี๊ยน ยังภูมิใจว่าเรตติ้งช่องดิฉัน ชนะรายการ คสช.ทุกคืนวันศุกร์ นะคะ |
|
พี่บอยครับ ตอนนี้สถานการณ์ของช่องเราเป็นยังไงครับจะสู้เขาได้มั๊ย เราก็มีละครไงที่เป็นตัวช่วยเรตติ้ง ละครดีดูที่ช่องวันเท่านั้น ครับ ดูที่ช่องอื่นไม่ได้แน่นอน ต้องดูที่่ช่องเราเท่านั้น อืมม์ พี่บอยครับ ผมไม่กล้าพูดต่อเลย....... |
|
ยุทธ ช่วงนี้ช่องเราได้อีแย้มช่วยเอาไว้ได้เยอะเลยนะ ต่อจากนี้ต้องหวังพึ่งยุทธ มาช่วยออกหน้าจอให้ครบๆ ทั้ง 4 ช่องหน่อยสิจะได้ช่วยเรตติ้ง
เอาอย่างนั้นเหรอนายท่าน กลัวคนดูจะเบื่อผมหน่ะสิ ไม่หรอกยุทธ ก็เหมือนตอนที่คนเห่อช่วงๆ กับหลินฮุ่ยแหละ เขาอยากดูทั้งวัน เอาโก๊ะตี๋มาออกคู่กันเลยนะ
หมายเหตุ เจ๊ติ๋มจะแถลงข่าว และเปิดใจเรื่องนี้ในเวลา 17.00 น.วันที่ 26 พ.ค.2558 ที่สตูดิโอของช่อง ไทยทีวี โปรดติดตาม
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น