วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เจ้าพ่อเพลงโรแมนติก ตอนที่ 5 (ศิลปินที่ชื่อ น.)

นราธิป กาญจนวัฒน์ (พี่แดง) นักร้อง นักดนตรี นักแต่งเพลง และเป็นหัวหน้าวงชาตรี เป็นผู้นำวงดนตรีแนวโฟล์คซองและสตริงคอมโบ้ ยุคแรกๆ ของเมืองไทย  เกิด2กันยายน2497 การศึกษาจบมัธยมศึกษาปีที่3ที่อัมสัมชัญศรีราชา อาชีวะ-การถ่ายภาพและภาพยนตร์สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพ  เพลงที่ชอบสากลบรรเลง นักดนตรีที่ชอบBeatles,BeeGees อาหารที่ชอบข้าวขาหมู หน้าที่ในวง หัวหน้าวง,ร้องนำ,ลีดกีต้าร์   ปัจจุบันเจ้าของกิจการร้านอาหาร งานอดิเรก ทำอาหาร

นราธิปคือคนที่ 2 จากขวามือ สวมหมวก
ชาตรี เป็นวงดนตรีโฟล์คซองที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2512 โดยนักศึกษาปี2 แผนกช่างภาพ วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ 3 คน คือ นราธิป กาญจนวัฒน์ ประเทือง อุดมกิจนุภาพ คฑาวุธ สท้านไตรภพ ทั้งสามคนเล่นกีตาร์โปร่ง ต่อมาได้ชักชวนอนุสรณ์ คำเกษม เพื่อนร่วมห้องอีกคนหนึ่งมาเล่นกลอง ชื่อวงชาตรี มาจากชื่อหนังสือพระเครื่อง ของประชุม กาญจนวัฒน์ (บิดาของนราธิป) วงชาตรีเริ่มรวมวงและแสดงครั้งแรก ในงานเลี้ยงต้อนรับน้องใหม่ของแผนกช่างภาพ ต่อมาได้แสดงในหอประชุมใหญ่ วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ และเข้าแข่งขันการประกวดวงโฟล์คซอง ทางวงรวบรวมเงินกันซื้อกลองเก่ามาหนึ่งชุด ทุกวันทุกคนในวงต้องช่วยกันขนกลองจากบ้านของอนุสรณ์ ที่มีนบุรี ขึ้นรถเมล์ไปวิทยาลัยเพื่อฝึกซ้อมในช่วงเย็น วงชาตรีเริ่มบันทึกเสียงครั้งแรกทางรายการวิทยุ "120 นาที มัลติเพล็กซ์" โดยการชักชวนของครูไพจิตร ศุภวารี หนึ่งในกรรมการตัดสินโฟล์คซอง ซึ่งเห็นความสามารถ และได้บันทึกแผ่นเสียงชุดแรก จากไปลอนดอน พ.ศ. 2518 ชุดที่สอง แฟนฉัน พ.ศ. 2519 และได้ทำดนตรีประกอบภาพยนตร์ สวัสดีคุณครู กำกับโดยพันคำ นำแสดงโดยจารุณี สุขสวัสดิ์ จากนั้นจึงทำผลงานชุดที่สาม นำเพลงลูกทุ่งของชาตรี ศรีชลมาขับร้องใหม่ พ.ศ. 2520 ผลงานชุดที่สี่ ฝนตกแดดออก ประกอบภาพยนตร์ ฝนตกแดดออก กำกับโดยชาลี อินทรวิจิตร นำแสดงโดยสรพงศ์ ชาตรี ลลนา สุลาวัลย์ จากนั้นได้ทำเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง รักแล้วรอหน่อย ของพันคำ นำแสดงโดยสรพงศ์ และจารุณี และเรื่องจ๊ะเอ๋เบบี้ นำแสดงโดยสมบัติ เมทะนี และลลนา สุลาวัลย์ วงชาตรีเพิ่มตำแหน่งนักดนตรีคีย์บอร์ด โดยได้ประยูร เมธีธรรมนาถซึ่งทำระบบเสียงให้กับวงมาเล่นให้ พ.ศ. 2522 ทำเพลงประกอบละครเรื่อง นางสาวทองสร้อย ทางช่อง 9 และออกผลงานชุดใหม่ รัก 10 แบบ และ ชีวิตใหม่ ผลงานชุดชีวิตใหม่ เกิดขึ้นจากทางวงได้เข้าไปเยี่ยมชมสำนักสงฆ์ถ้ำกระบอก และได้แต่งเพลงชื่อ หลงผิด เนื้อหาเกี่ยวกับผู้ติดยาเสพติด รายได้มอบให้กับสำนักสงฆ์ถ้ำกระบอก พ.ศ. 2523 ออกผลงานชุด รักครั้งแรก และ สัญญาใจ เป็นที่ระลึกในโอกาสที่ ประเทือง สมาชิกวงแต่งงาน จากนั้นออกผลงานชุด ชะตารัก พ.ศ. 2525 เปิดการแสดงสดครั้งใหญ่ที่โรงแรมดุสิตธานี และออกผลงานบันทึกการแสดงสด ชาตรีอินคอนเสิร์ต ตามด้วยชุด รักไม่เป็น ได้รับรางวัลตุ๊กตาทองมหาชน จากเพลงภาษาเงิน พ.ศ. 2526 ผลงานชุดใหม่ รักที่เธอลืม มีเพลง วันรอคอย และ ใต้ร่มเย็น ประพันธ์โดยพลเอกหาญ ลีลานนท์ แม่ทัพภาคที่ 4 เนื้อหาให้คนไทยมีความสามัคคีและรักชาติ อัลบั้มชุดนี้ได้รางวัลแผ่นเสียงทองคำขาว จากยอดขายมากกว่าสองแสนตลับ ผลงานชุดถัดมาชื่อ แอบรัก บันทึกเสียงที่ห้องบันทึกเสียงชาตรี ซึ่งตั้งชื่อเป็นเกียรติให้กับวง ตามด้วยชุด ชาตรีทศวรรษ ผลงานชุดที่ 15 ชุดสุดท้ายของวง วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 ชื่อชุด อธิษฐานรัก ถือฤกษ์วางจำหน่ายในวันแห่งความรัก และคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของพวกเขาได้จัดขึ้นที่รายการโลกดนตรีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2528

ผลงานอัลบั้ม จากไปลอนดอน (2518) แฟนฉัน (2519) หลงรัก (ลูกทุ่ง ชาตรี ศรีชล) (2519) ฝนตกแดดออก (2520) รัก 10 แบบ (2522) ชีวิตใหม่ (2522) รักครั้งแรก (2523) สัญญาใจ (2523) ชะตารัก (2524) ชาตรีอินคอนเสิร์ต (2525) รักไม่เป็น (2525) รักที่เธอลืม (2526) แอบรัก (2527) ชาตรีทศวรรษ (2527) อธิษฐานรัก (2528)

บางส่วนจากบทสัมภาษณ์ ในงาน 33 ปี ชาตรี เดอะ เมมโมรี่ คอนเสิร์ต 11 ก.พ.51

".. สิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเสมอ เราได้มาเจอกันแล้วครบวง ไม่มีใครคาดคิดได้ว่า เวลาตรงนี้จะมาถึง เราต้องฉวยทำเสียก่อน เป็นโอกาสที่ดีของพวกเรา และแฟนที่จะพบกันอีกครั้ง เราจะมาร่วมระลึกถึงความหลังเก่าๆ ที่น่าประทับใจ ซึ่งน่าจะมีความทรงจำใหม่ๆ เป็นบันทึกประวัติศาสตร์อีกหน้าที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้.."นราธิป กาญจนวัฒน์ “ชาตรี”

".. มีแฟนเพลงเรียกร้องมานานแล้ว แต่เรายึดความสามัคคีเป็นหลัก หากเพื่อนกลับมาไม่ครบ เราก็ไม่เล่น เราไม่ได้กลับมา เพราะหลักการตลาด เพราะหากยึดหลักนั้นต้องเล่นคอนเสิร์ตหลังกระแสหนังแฟนฉันเมื่อ 1-2 ปีก่อนแล้ว มันเป็นโอกาสพิเศษที่เราได้ฉลองให้ตัวเอง ที่ตั้งวงผ่านมาแล้ว 33 ปี และเป็นของขวัญกับแฟนเพลง.."ประยูร เมธีธรรมนาถ “ชาตรี”

".. สมัยนั้น นักร้อง และวงดนตรีในดวงใจของผม คือ วงชาตรี และวงแกรนเอ็กซ์ ผมชอบแบบกริ๊ดสุด ๆ วงชาตรี ผมเป็นแฟนพันธุ์แท้ของทั้งพี่นราธิป และพี่คฑาวุธ นักร้องนำ.."อ๋อย กฤษณะ ไชยรัตน์

".. วงดนตรี ชาตรี เป็นวงดนตรีอีกวงหนึ่งของประวัติศาสตร์รายการ "โลกดนตรี" ชาตรีเป็นวงแรกที่เปิดการแสดงกลางแจ้งสนามหญ้าหน้าสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 และมีผู้ชมมากที่สุด.."บุญชาย ศิริโภคทรัพย์ เจ้าของรายการโลกดนตรี บ. 72 โปรโมชั่น

".. วงชาตรี นับเป็นวงดนตรีในยุคแรกๆที่เล่นเพลงไทย และมีเพลงฮิตของตัวเองมากมาย และเป็นสไตล์เพลงที่ฟังได้จนถึงปัจจุบัน.."วิชัย ปุญญะยันต์ วงพิงค์แพนเตอร์

".. วงชาตรีเป็นวงที่มีผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และเป็นผลงานที่มีอิทธิพลต่อเด็กวัยรุ่นสมัยนั้นมาก.." ศรายุทธ สุปัญญโญ วงแกรนด์เอ๊กซ์

".. ดนตรีและเสียงเพลงที่สร้างขึ้นบนความตั้งใจให้ผู้คนได้ "จำง่าย" กลายเป็นความทรงจำของผู้คนที่ "ลืมยาก".."วันชัย สุนทรถาวร วงสิชล

".. ชาตรีเป็นขวัญใจมาตั้งแต่เด็กๆครับ.."อ๊อด คีรีบูน ---

".. ผมเป็นแฟนเพลงชาตรีมาตั้งแต่อนุบาลครับ เพลงแรกในชีวิตที่ผมร้องคือ แฟนฉัน ตอนนั้น 3 ขวบครับ หลังจากนั้นพอเริ่มที่จะโต พอที่จะเล่นกีตาร์ได้ ผมก็หัดเล่นกีตาร์ด้วยเพลงของชาตรี พอโตขึ้นมาอีก พอเริ่มอยากจะตั้งวงดนตรี ก็บอกเพื่อนๆ ว่า มาตั้งวงดนตรีกันแล้วก็มาเล่นเพลงของวง ชาตรี ดีกว่า แต่ละเสต็ปในชีวิตที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับดนตรีจะมีชาตรีมาเป็นจุดเริ่มอยู่เสมอ.."ป๊อด โมเดิร์นด็อก

".. ผมเป็นแฟนของวงชาตรีมาตลอด ตอนที่วงชาตรีดังผมเองเพิ่งจะเล่นดนตรีมาด้วยซ้ำ และก็เป็นแฟนของ นราธิป กาญจนวัฒน์มาตลอด.." พี่แอ๊ด หน.วงคาราบาว


หนุ่มเสก หรือ เสกสรร ชัยเจริญ เป็นนักแสดง นักธุรกิจชาวไทย และนักร้องคนแรกของค่ายเพลงคีตา เสกสรร เข้าสู่วงการบันเทิง ด้วยงานถ่ายแบบ และงานแสดงภาพยนตร์ ต่อมาจึงเข้าสู่วงการเพลง ซึ่งได้มาจากการไปร่วมรายการของบริษัท เจเอสแอล โดยทางบริษัทได้ฟังเสียงร้องก็ชอบใจจึงเรียกเสกสรรเข้าไปพบ เมื่อทางเจเอสแอลก่อตั้งบริษัท "คีตา" ขึ้นมาพอดี เสกสรรจึงได้เป็นนักร้องคนแรกของค่าย และได้ตั้งชื่อในวงการให้ว่า หนุ่มเสก เนื่องจากเสกสรรมีชื่อเล่นว่าหนุ่ม โดยอัลบั้มชุดแรกวางแผงในปี พ.ศ. 2530 ในชื่อว่า ดนตรีออกเดิน มีเพลงเด่นคือ รักเป็นดั่งต้นไม้ และออกอัลบั้มกับคีตาอีก 3 ชุด ก่อนย้ายเข้าสังกัดแกรมมี่ โดยออกอัลบั้มอีกประมาณ 4 ชุด ก่อนออกจากวงการ เพื่อไปทำธุรกิจร้านอาหารและสถานบันเทิง แต่ดำเนินงานได้ระยะหนึ่งต้องเลิกกิจการ หนุ่มเสกมีผลงานแสดงภาพยนตร์และละครหลายเรื่อง โดยมีผลงานที่สร้างชื่อคือ ละครเรื่อง สุดแต่ใจจะไขว่คว้า ทางช่อง 3 ปัจจุบัน เสกสรรทำงานอยู่ที่โรงละครคิง พาวเวอร์ กับงานเชิดหุ่นละครเล็ก และยังเป็นผู้อำนวยการแสดงโรงละครอักษรา[1] โดยตนเคยประกาศไว้ว่าจะเลิกเข้าวงการบันเทิงอย่างถาวร


ผลงานอัลบั้ม ดนตรีออกเดิน (2530) สิ่งดีดี (2531) ใจ บาง บาง (2532) บ้าน 4 ทะเล (2533) ใจสะเทือน (2536) บันทึกแห่งความรัก (2538) เพลงนำละคร สุดแต่ใจจะไขว่คว้า (2532)

อำพล ลำพูน (หนุ่ย) ชื่อจริงคือ อำพล ลำกูล เป็นคนอำเภอแกลง จังหวัดระยอง เกิดวันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2506 ปีเถาะ กรุ๊ปเลือดบี เป็นบุตรชายคนเล็ก มีพี่สาวสองคน สมรสกับมาช่า วัฒนพานิช และต่อมาหย่ากันเมื่อปลายปี พ.ศ. 2540 มีลูกชาย 1 คน ชื่อ กาย นวพล ลำพูน หนุ่ย” จบชั้นมัธยมตอนต้น ก็ได้เข้าเรียนต่อที่วิทยาลัยอาชีวศิลป์ ศึกษาในสาขาวิชาศิลปะ เขามีความสนใจ ด้านดนตรีตั้ง แต่เด็ก เคยตั้งวงดนตรีโฟล์กซองกับเพื่อน ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น มัธยมปีที่ 1 หลังจาก เรียนจบที่วิทยาลัยอาชีวศิลป์ศึกษาหนุ่ย และเพื่อนจึง ร่วม กันตั้ง วงดนตรีชื่อ “ วงไมโคร”  การศึกษาเริ่มจากอนุบาล : โรงเรียนรุ่งนภาพิทยา จ.ระยอง,ประถมศึกษา : โรงเรียนวัดสารนารถธรรมาราม จ.ระยอง , มัธยมศึกษา : โรงเรียนแกลง "วิทยสถาวร" จ.ระยอง , ปวช. : โรงเรียนอาชีวศิลปศึกษา กรุงเทพมหานคร

อำพล ลำพูนเข้าวงการโดยเป็นนักแสดงในสังกัดของ ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น โดยการชักชวนของผู้กำกับชื่อดัง เปี๊ยก โปสเตอร์ ภาพยนตร์เรื่อง วัยระเริง เมื่อปี พ.ศ. 2527 คู่กับวรรษมน วัฒวโรดม ต่อมาในปีเดียวกันอำพล ลำพูน ก็ได้รับบทน้ำพุ ในภาพยนตร์เรื่อง น้ำพุ คู่กับนางเอกคนเดิม และได้แสดงร่วมกับเรวัต พุทธินันทน์และภัทราวดี มีชูธน กำกับโดย ยุทธนา มุกดาสนิทและภาพยนตร์เรื่องนี้อำพลได้รางวัลตุ๊กตาทอง สาขาดารานำชายยอดเยี่ยม และรางวัลสุพรรณหงส์จากการประกวด ภาพยนตร์เอเชีย-แปซิฟิคจาก ภาพยนตร์เรื่องน้ำพุ ในปี 2527 ภาพยนตร์เรื่องที่สาม ข้างหลังภาพ จากบทประพันธ์ของศรีบูรพา กำกับโดยเปี๊ยก โปสเตอร์ นางเอก คือ นาถตยา แดงบุหงา นอกจากนี้อำพล ลำพูนยังแสดงภาพยนตร์เรื่อง ต้องปล้น , พันธุ์หมาบ้า , ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม , คู่ชื่นวัยหวาน , สองพี่น้อง , หัวใจเดียวกัน , แรงเงา , ไฟริษยา , ดีแตก , รู้แล้วหน่าว่ารัก ฯลฯ โดยส่วนใหญ่จะเล่นคู่กับพระเอกรุ่นเดียวกัน คือ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง นอกจากนี้ยังเล่นกับจินตหรา สุขพัฒน์หลายเรื่องด้วย  นอกเหนือจากผลงานในฐานะนักร้องนำวงไมโครแล้ว ผลงานอัลบั้มส่วนตัวของพี่หนุ่ยที่ออกในนามอัลบั้มเดี่ยว ได้แก่  วัตถุไวไฟ พ.ศ. 2535 ม้าเหล็ก พ.ศ. 2536 อำพลเมืองดี พ.ศ. 2538


นภ พรชำนิ เกิดเมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2515 เป็นนักร้องคู่บุญของบอย โกสิยพงษ์แห่งเบเกอรี่มิวสิค เข้ารับการศึกษาในระดับประถมและมัธยมต้นที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ระดับมัธยมปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พญาไท ศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และศึกษาต่อต่างประเทศในสาขา Business Administration ที่ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ เริ่มเป็นศิลปินนักร้องรับเชิญ ในปี พ.ศ. 2537 ในอัลบั้ม "RHYTHM & BOYd" ของ บอย โกสิยพงษ์ "ZMYX ZIGMA" ของสมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์ "โมเดิร์นด็อก" ของโมเดิร์นด็อก ต่อมาในปี 2538 ได้ร่วมเขียนเพลง และเป็นนักร้องรับเชิญ ในอัลบั้ม "Zequence" ของ สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์ และในปีต่อมา เป็นนักร้องรับเชิญ ให้บอย โกสิยพงษ์ในอัลบั้ม "EP ONE" และ "SIMPLIFY" และมีผลงานเป็นนักร้องนำอัลบั้มของวงดนตรีพีโอพี และยังมีผลงานอัลบั้มเดี่ยว A man of smiles ทางด้านเบื้องหลัง ในปี 2540 ได้ร่วมเขียนเพลง ร่วมร้องเพลง กับ อัลบั้ม "AGAIN" ของ คริสติน และ ร่วมดูแล การผลิตใน อัลบั้ม "Request" ของ รัดเกล้า รับตำแหน่ง พับลิก ไดเร็คเตอร์ ของ บริษัทเบเกอรี่ มิวสิค นอกจากนั้น นภ ยังก่อตั้ง Dobe Music Production ทางด้านชีวิตส่วนตัว นภ เข้าพิธีวิวาห์กับพิธีกรสาว เพลิน ประทุมมาศ เมื่อวันที่ 10 ประวัติการทำงานดนตรีและผลงานร่วมกับศิลปินในค่าย

ปี 2537 เป็นนักร้องรับเชิญในอัลบั้ม "Rhythm & Boyd" , "ZMYX ZIGMA" , "Moderndog" โดยร่วมร้องเพลง ในอัลบั้มดังกล่าว อาทิ ฤดูที่แตกต่าง, คนที่เดินผ่าน , ดอกไม้ เริ่มต้นทำงานเขียนเพลง ให้กับ เบเกอรี่มิวสิค เป็นงานอดิเรก ทำงานประจำในตำแหน่ง "System Analyst" ให้กับ "Andersen Consulting Co,Ltd" ปี 2538 ร่วมผลิตผลงานอัลบั้ม "Zequence" กับ "สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์" โดยรับหน้าที่เป็นนักร้องรับเชิญ และเขียนเพลงในอัลบั้ม อาทิ รู้สึกแปลก, คนดี ปี 2539 เดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ ที่ สหรัฐอเมริกา รับหน้าที่เป็น นักร้องรับเชิญให้กับอัลบั้ม "EP ONE" , "Simplify" ของ "บอย โกสิยพงษ์" มีเพลงที่เป็นที่รู้จัก อาทิ อยากจะขอ , ตัดสินใจ , ในคืนที่เราเจอะเจอกันครั้งแรก ปี 2540 ร่วมแสดงในคอนเสิร์ตครั้งสำคัญ "LIFE" ของ "บอย โกสิยพงษ์" ร่วมผลิตผลงานอัลบั้ม "AGAIN" ของ "คริสติน" โดยรับหน้าที่เขียนเพลง , ร้องเพลง และร่วมดูแลการผลิต (Co-producer) ให้กับอัลบั้มด้วย เริ่มต้นทำงานประจำกับ เบเกอรี่มิวสิค โดยรับตำแหน่ง "Publicity Director" มีส่วนร่วมในงานอัลบั้ม "Request" ของ "รัดเกล้า อามระดิษ" โดยร่วมร้องเพลง "หมื่นพันแสนล้าน"

ผลงานอัลบั้มส่วนตัว ปี 2521 ออกผลงานอัลบั้มชุดแรก " Era " งานป๊อบสวยๆ ที่ปรุงแต่งอย่างพอดิบพอดีด้วยดนตรีร็อก ซึ่ง นภ พรชำนิ ทำหน้าที่ร้องนำและดนตรีเยี่ยมๆ จากสองนักดนตรีประจำสตูดิโอที่ เบเกอรี่ มิวสิค โต้งและก้อในนาม "P.O.P"(Period Of Party ) แล้วในอัลบัมนี้ ได้มีเพลงที่ได้รับความนิยมหลายเพลง เช่น รักของเธอมีจริงหรือเปล่า ไม่มี คนดี เป็นต้น

ปี 2543 ออกผลงานอลบัมชุดที่ 2 ในนาม P.O.P ชื่อ อัลบัม "P.O.P"ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับวง แล้วในอัลบัมนี้ ได้มีเพลงที่ได้รับความนิยมหลายเพลง เช่น เวลา วงกลม ขอบคุณ เป็นต้น

ปี 2544 ออกผลงานอัลบั้ม THE BEGINNING (FROM 1994-2001) ซึ่งเป็นการรวบร่วมนำเอาผลงานต่างๆของ นภ พรชำนิ ที่เคยได้ร้องมา มารวบร่วมและร้องใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นอัลบัมแรกของ นภ อย่างเต็มตัว และต่อจากนั้นอีกไม่นานก็ได้มีคอนเสิร์ต "THE STORY OF MY LOVE"

ปี 2547 ได้มีคอนเสิร์ต แต่เป็นคอนเสิร์ตที่ไม่ค่อยมีใครอยากให้มีนัก เพราะเป็นคอนเสิร์ตอำลาของวง "P.O.P" และในคอนเสิร์ตก็ถือว่าคุ้มมาก นักร้องทุกคนทั้ง นภ และแขกรับเชิญ ต่างเต็มที่กับคอนเสิร์ตและสนุกไปกับคอนเสิร์ตนั้น และเพลงสุดท้ายท่เล่นในวันนั้นก็คือ ไม่มี ซึ่งถือได้ว่าเป็นเพลงที่ P.O.P ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ไหนเพลงสุดท้ายก็ต้องใช้เพลงนี้จบคอนเสิร์ตทุกครั้ง แต่ทุกครั้งก่อนคอนเสิร์ตนี้ เล่นแล้วไม่มีน้ำตาเลย แต่ในวันนั้นร้องเพลงไปไปพร้อมกับน้ำตา



ปี 2547 ออกผลงานอัมบั้ม MILLION WAYS TO DOBE นภ พรชำนิ กลับมาอีกครั้งกับ อัลบั้มเต็มของ Dobe Music Production พร้อมซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุด "รัก" และ "ตื่นเถิดชาวไทย" "รัก" คือเพลงที่มีความไพเราะและเนื้อหาที่กินใจ ถ่ายทอดโดย ปุ๊-อัญชลี จงคดีกิจ ด้วยการแต่งเนื้อร้องโดย บอย โกสิยพงษ์ เป็นเพลงที่ทำให้ผู้ฟังเคลิ้มนึกย้อนไปถึงความรักในรูปแบบต่างๆ รักบุพการี รักคนรัก รักถิ่นแผ่นดินไทย รักเพื่อนร่วมโลก และรักชีวิต ปลุกกระแสความเป็นไทย กับเพลง "ตื่นเถิดชาวไทย" ที่ระดมพลเหล่าบุคคลในวงการบันเทิง ทั้ง หอย-เกียรติศักดิ์ เปิ้ล-สาระแน เป้-วิศวะ อาร์ม-วิบูลย์ ก้อง-ปิยะ คมสันต์ นันทจิต และ B5 ร่วมถ่ายทอด ให้คนไทย ตื่นจากสิ่งครอบงำทั้งหลาย ทั้งจากสื่อ ค่านิยมและความเชื่อที่ผิดๆ นอกจากนั้นยังบรรจุไปด้วย เพลง ดังอย่าง Miss You Mister และ ฝรั่งใจ ที่ได้ เพิ่มสีสันใหม่ด้วยเสียงร้องของ โจนัส และยังมีนักร้องรับเชิญอีกมากมาย คือ ป๊อดและModerndog ยุ๊ย-จาริยา บุรินทร์-Groove Riders P.O.P Suburbian และ BK-ONE รวมทั้งยังมีโบนัสแทรคแถมมาอีกด้วย ในการรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ของเหล่าศิลปินที่มีชื่อเสียงและความสามารถ ในชุดนี้ นอกจากจะเพื่อสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมแล้ว ยังเป็นการทำบุญเพื่อการกุศล เพราะรายได้ส่วนหนึ่ง จะมอบให้กับมูลนิธิพลตรีหลวงวิจิตวาทการ เพื่อมอบให้กับวิทยาลัยนาฎศิลป์ไทยต่อไป และ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า อัลบั้มชุดนี้ จะสามารถเป็นการทำคุณประโยชน์ เพื่อสังคมไทยในฐานะคนไทยกลุ่มหนึ่ง และในที่สุด ดนตรีต่างมุมมอง ของ Dobe Music Production กับอัลบั้มที่ชื่อ Million ways to Dobe ก็ได้รับเลือกเป็น Channel [v] Thailand Bird's Eye View ประจำเดือน พฤศจิกายน 2547มีนาคม พ.ศ. 2549


หนึ่ง ณรงค์วิทย์ คนที่นั่งตรงกลาง
ณรงค์วิทย์ เตชะธนะวัฒน์ ( หนึ่ง) โปรดิวเซอร์ และนักแต่งเพลงชื่อดังแห่งยุค การศึกษา ปริญญาตรี นิเทศศาสตร์ บัณฑิต ม.กรุงเทพ ปัจจุบัน ตำแหน่ง producer /นักแต่งเพลง   ผู้ควบคุมงานผลิตอัลบั้ม sleepless society และเพลงประกอบละครหลักของทางช่อง 3 บริษัท GMM Grammy จำกัด (มหาชน)

ผลงานเพลงที่เขาเป็นผู้ประพันธ์ให้กับศิลปินในค่าย ได้แก่   อย่าเล่นตัว/เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ/แก้ปัญหาตัวเองไม่ได้-ไอซ์ศรัญยู,แฟนคนอื่น-วงมะลิ,คนเดียวกัน-กอล์ฟไมค์,ร้องไห้ง่ายๆกับเรื่องเดิมๆ-ปาล์มมี่,ทางสายเก่าเพลงรักเก่า-โก้Mr.Saxman,สำนึก-อู๋ ธรรณธรณ์,รอยแผลที่มองไม่เห็น-โดม,คนที่ไม่เข้าตา ป็อบCalories Blah Blah,Music Lover/ไม่อยากให้เธอไว้ใจ-มาช่า,ไม่เหงาไม่ใช่ฉัน-เบิร์ดธงไชย, เสียงของหัวใจ-แอน ธิติมา , เหนื่อยเกินไปหรือเปล่า-กบ เสาวนิตย์,เหตุผลคือรักเธอ-มอส,ห้องเดิม-คริสติน่า อากีล่าร์,ช่วงชีวิตหนึ่ง-พอล ภัทรพล ,เพื่อนรัก -เอิน กัลยกร ,จบไปได้แล้ว -ZAZA ,rain -บัวชมพู ฟอร์ด,ได้ยินไหมพระจันทร์-แอน-ศิรศักดิ์ ,เพิ่งรู้ว่ารักเธอ -พอล ภัทรพล ,ผิดคนแล้ว-Dragon5 ,น้อยใจ –แอนธิติมา ,มีดเล่มเดิม -กบ เสาวนิตย์ ,อยากรู้ -ธาริณี ทิวารี ,หวงนาย -แอนนา ,sunshine day-บัวชมพูฟอร์ด ,ขอโทษ -เอิน กัลยกร ,ยิ่งเจ็บยิ่งรัก -แคทรียา อิงลิช ,แค่คนที่รักเธอ -แอน ธิติมา,เก็บ-มอส,ดอกไม้ในใจเธอ-บัวชมพูฟอร์ด

ผลงานช่วงอยู่ค่ายอื่น ได้แก่  ยังไม่ชิน -รวิวรรณ จินดา ,หยุดตรงนี้ที่เธอ - ฟอร์ด สบชัย ,ยิ่งรักเธอ -โดม ปกรณ์ ลัม , แอบมีเธอ -ลิฟท์กะออย

ประวัติการทำงาน

เริ่มต้นการเป็นนักแต่งเพลงตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ปี 3 ที่ ม.กรุงเทพ ตอนนั้นก็เหมือนเป็นวัยรุ่นทั่วๆไปที่สนใจการฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจ ชอบซื้อเทปแล้วดูว่าใครแต่งเพลงอะไร และใฝ่ฝันมาตลอดว่าสักวันหนึ่งน่าจะมีชื่อในปกเทปอย่างนักแต่งเพลงรุ่นพี่ๆกับเขาบ้าง จึงได้ลองเรียนรู้และศึกษาว่าการแต่งเพลง มันน่าจะเป็นอย่างไรด้วยตัวเอง จากการเป็นนักฟังที่ช่างสังเกต จนวันหนึ่งได้มีโอกาสรู้จักกับคุณจิรพรรณ อังศวนนท์ โปรดิวเซอร์ที่บริษัท Butterfly ซึ่งกำลังทำงานให้ศิลปิน Autobahn ชุดแรกอยู่ เลยขอทดลองเขียนเพลงทั้งๆที่ตัวเองไม่เคยมีพื้นฐานด้านนี้มาก่อนเลยปรากฏว่าหลังจากส่งเนื้อเพลงแรกไป ผลเป็นที่น่าพอใจ มีการให้กลับไปแก้ไขหลายครั้งอยู่เหมือนกัน จนกระทั่งสำเร็จในที่สุด เป็นเพลงแรกในชีวิตตอนนั้นรู้สึกดีใจและตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก เมื่อเพลงตัวเองได้อยู่บนตลับเทปจริง ได้ยินเพลงเราจากวิทยุ ทีวีแทบจะบรรยายเป็นคำพูดไม่ได้เลย หลังจากนั้นก็แต่งเพลงเป็นฟรีแลนซ์มาเรื่อยๆ เพราะยังเรียนไม่จบล้มลุกคลุกคลานมาตลอด ช่วงแรกผลงานยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าไหร่ ยังเป็นนักแต่งเพลงที่ไม่มีสังกัด ลำบากมากกว่าจะมาถึงวันนี้ ยากกว่าที่คิดไว้สุดๆ จนกระทั่งปี 2538 ได้รับการชักชวนจากนักแต่งเพลง รุ่นพี่ที่ RS Promotion จึงเริ่มต้นการเป็นนักแต่งเพลงอาชีพนับแต่นั้นเป็นต้นมา

คุณณรงค์วิทย์ เคยได้รับรางวัลพระพิฆเนศทองพระราชทาน สาขาเพลงยอดนิยม จากเพลง ยิ่งรักเธอ ของ โดม ปกรณ์ ลัม ในปี 2540

ผลงานส่วนตัว อัลบั้ม D.I.Y by Narongvit , Sleepless Society 1-3, เพลงประกอบละครช่อง 3 (ในช่วง2-3ปีนี้)
เพลงประกอบละครดังๆ ที่หนึ่ง ณรงค์วิทย์ แต่ง ได้แก่ ไม่มีใครรักฉันได้เหมือนเธอ(ละคร365วันฯ) ให้รักเดินทางมาเจอกัน ,เธอคือดวงใจฉัน ,ความรักเปลี่ยนแปลงฉัน (ละครชุด4หัวใจแห่งขุนเขา) ,ให้ฉันดูแลเธอได้ไหม (ผู้ใหญ่ลีกับนางมา) ขอโทษจริงๆ (สามหนุ่มเนื้อทอง) ลมหายใจเพื่อใครคนหนึ่ง (ทาสรัก) เส้นขนานที่รักกัน (เลื่อมพรายลายรัก) เป็นต้น


รณเดช วงศาโรจน์ (แหนม) เกิดวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2523 เป็นนักร้องชาวไทย จบการศึกษาปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหิดล (ศาลายา)ปริญญาโท คณะเศรษฐศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แหนม รณเดช เป็นลูกชายคนโตของคุณพ่อจิรศักดิ์ วงศาโรจน์ คนในวงการโฆษณา และผู้ช่วยผู้กำกับ กับคุณแม่ดารารัตน์ วงศาโรจน์ มีน้องสาว 1 คน คือ น้องขิง อุเรศอร วงศาโรจน์ โดยหลังจาก แหนม รณเดช จบการศึกษาจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เขาก็ตัดสินใจศึกษาต่อที่คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยมหิดล หลักสูตรนานาชาติ และจบปริญญาโทคณะเศรษฐศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


งานอดิเรก : อดิเรก : เล่นดนตรี , วิ่ง , เล่นเทนนิส , บาสเก็ตบอล , เล่นอินเทอเน็ต , ถ่ายรูป , ฟังเพลง

สิ่งที่ชอบ : Guitar ,Camera, Car, motorcycle , DVD concert

ศิลปินที่ชอบ : Eric Clapton, Stevie Ray Vaughn, นูโว ,พี่เบิร์ด, พี่ป้อม อัสนี

นักกีฬาขวัญใจ : Roger federer , ภราดร , ต๋อง ศิษย์ฉ่อย

อาหารโปรด : Steak, เชอรี่ , สตอเบอรี่ , ปลาแซลมอน , ไข่เจียวหมูสับ , ไวไวหมูสับ

แนวเพลง : Rock, Blues , R&B , Pop , Jazz

ผลงานอัลบั้ม คือ ไม่ขายหน้า , Be With You ,เพลงประกอบละคร ให้ฉันดูแลเธอ(ประกอบละคร ผู้ใหญ่ลีกับนางมา),เส้นขนานที่รักกัน(ประกอบละคร เลื่อมพรายลายรัก),ไม่รักไม่เป็นไร(ประกอบละคร ดวงใจอัคนี),เจ้าสาวของผม (ประกอบละคร เจ้าสาวผมไม่ใช่ผี )


นิติพงษ์ ห่อนาค (ดี้) นักแต่งเพลงชาวไทยที่มีชื่อเสียง เป็นอดีตรองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจดนตรี ของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ทางด้านการศึกษา นิติพงษ์ ห่อนาค สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษา จากโรงเรียนพิบูลวิทยาลัย จังหวัดลพบุรี จากนั้นเมื่อปี พ.ศ. 2521 เข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นิติพงษ์ ห่อนาค มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะนักดนตรีวงเฉลียง และนักแต่งเพลงในสังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ซึ่งผลงานทางด้านการเขียนเพลงของนิติพงษ์นั้น เริ่มต้นเขียนเพลงครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2523 คือเพลง "เข้าใจ" ของวงเฉลียง ปัจจุบันมีผลงานเพลงประมาณกว่า 350 เพลง โดยเขียนเพลงให้แก่ศิลปินระดับชั้นนำของประเทศ ได้แก่ เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ อัสนี-วสันต์ ไมโคร บิลลี่ โอแกน คริสติน่า อากีล่าร์ ใหม่ เจริญปุระ มาช่า วัฒนพานิช กอล์ฟ-ไมค์ โรส ศิรินทิพย์ เป็นต้น  นอกจากนี้แล้วยังเคยลงรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ในวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2551 ได้เบอร์ 29 แม้ไม่ได้รับการเลือกตั้ง แต่ได้คะแนนเสียงมาเป็นลำดับสองของกรุงเทพมหานคร ด้วยคะแนนเสียงกว่า 221,067 คะแนน เมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2554 นิติพงษ์ประกาศลาออกจาก บมจ.จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ซึ่งทำงานมายาวนานกว่า 27 ปี โดยให้เหตุผลว่า ต้องการทำงานแบบเป็นอิสระ ประกอบกับการงานที่ตนสามารถทำให้กับบริษัทมีน้อยลง จึงเกิดความรู้สึกเกรงใจที่จะดำรงตำแหน่งต่อไป และมีข่าวลือว่า อาจจะไปเข้าสังกัดอาร์เอสแทน ปัจจุบัน นิติพงษ์ก่อตั้ง บริษัท สหภาพดนตรี จำกัด ร่วมกับ อัสนี โชติกุล, ชาตรี คงสุวรรณ, จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี และ วุฒินันท์ ภิรมย์ภักดี โดยเป็นศูนย์กลางของบุคลากรที่มีวิชาชีพทางด้านดนตรี เพื่อสร้างผลงานเพลงอันหลากหลาย และส่งเสริมศักยภาพทางด้านดนตรีของเยาวชน]

ผลงานเพลงที่สร้างชื่อเสียง อย่าไปเสียน้ำตา,ไม่อยากจะเชื่อเลย ,ไม่มีใครขอร้อง (คริสติน่า อากีล่าร์) หมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ,ขอบใจจริงๆ,ก้อนหินกับนาฬิกา,เหนื่อยไหม (ธงไชย แมคอินไตย์) เรามีเรา,อาจจะเป็นคนนี้ (ฐิติมา สุตสุนทร) อยากจะบอกใครสักคน,รักปอนปอน,ใจโทรมๆ,บอกมาคำเดียว (ไมโคร) ก็เคยสัญญา,ได้อย่างเสียอย่าง,เธอปันใจ,รักเธอเสมอ (อัสนี-วสันต์) ไม่เป็นไรเลย,ลืมไปไม่รักกัน (นูโว) เพราะเขาคนเดียว,แพ้ใจ (ใหม่ เจริญปุระ) คิดถึงฉันไหมเวลาที่เธอ (แท๊กซี่) เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม,ฝังไว้ในผืนดิน,ลาออก (บิลลี่ โอแกน) ปราสาททราย (สุรสีห์ อิทธิกุล) แผลในใจ (อำพล ลำพูน) แค่เสียใจไม่พอ,ครึ่งหนึ่งของชีวิต (เสาวลักษณ์ ลีละบุตร) ยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บ (อินคา) จากคนอื่นคนไกล (มาช่า วัฒนพานิช) กองไว้,คาใจ (เจตริน วรรธนะสิน) กลับคำเสีย (กัมปะนี) ทิ้งรักลงแม่น้ำ (Y not 7) ก้อนหินก้อนนั้น (โรส ศิรินทิพย์) เติมความผูกพัน (ปองกูล สืบซึ้ง แคลอรี่ บลา บลา) รักแท้ยังไง (น้ำชา) ฯลฯ






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น