วันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

บันทึกการเดินทางของชีวิต (7) และอิสรภาพ ชุดที่ 7 ไฟฉาย และแว่นตากันแดด (Flashlight & Sunglasses)





ไฟฉาย (ในที่นี้ผู้เขียนหมายรวมเอาพวกตะเกียงเจ้าพายุ หรือไม้คบเพลิงเข้าไว้ด้วย) นัยยะแรกของมันก็คือ เครื่องมือในการส่องสว่าง เพื่อไว้คลำทาง หรือทำให้มองเห็นสิ่งต่างๆ ในเวลาค่ำมืด หรือในสถานที่ที่ไม่มีแสงไฟ เช่น ในป่าเขา ถนนมืดเปลี่ยว โกดังเก็บของ อาคารสถานที่ใดๆ ก็ตามที่ไม่มีแสงไฟ หรืออยู่ในเวลากลางคืน  ถ้าเป็นสมัยนี้ ทุกคนอาจจะบอกว่า ไม่เห็นต้องมีไฟฉายเลย เราสามารถใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟน ที่มีฟีเจอร์ หรือหน้าจอ ฉายแสงเป็นไฟฉายแทนได้ แต่ขอให้ละไว้ในฐานที่เข้าใจก่อนว่า นี่เรากำลังพูดถึงบริบทของบางสังคม หรือผู้คนสมัยก่อน ที่ยังไม่มีสมาร์ทโฟนใช้ และยังไม่เจริญ เขาใช้ไฟฉาย,ตะเกียงเจ้าพายุ หรือใช้ไม้ฟืนจุดไฟ เพื่อเดินส่องนำทาง เวลาเดินทางกลางคืน หรือเดินป่ากัน แต่ในกรณีนี้ ผู้เขียนมักใช้ไฟฉายส่องหาสิ่งของ เวลากลางคืน ซึ่งอาจจะอยู่ในมุมอับ ที่แสงไฟสาดส่องเข้าไปไม่ถึง เพื่อดูให้เห็นถนัดตาขึ้น

อีกนัยยะนึง พูดในเชิงพฤติกรรมศาสตร์ของมนุษย์ก็คือ เครื่องมือที่ส่องจากมุมสว่างไปสู่มุมมืดของมนุษย์ เพื่อให้มองเห็นชัดขึ้น เหมือนมีคำเปรียบเปรยพูดถึงคนที่ทำงานอยู่ในโลกคนกลางคืนว่า แสงไฟสาดฉายชีวิตคนทำงานกลางคืนว่า รายได้สูงความเสี่ยงก็สูงตาม เขาหาเลี้ยงชีพกันอย่างไร มีความเสี่ยงอย่างไรบ้าง อาชีพอะไรบ้าง และรายได้เป็นอย่างไร เป็นต้น

ไฟฉาย ยังมีอีกมิติหนึ่ง หมายถึงแสงไฟสปอตไลท์ (แสงไฟมีกำลังสูงกว่าไฟฉายหลายเท่า) ที่ฉายไปยังคนเบื้องหน้าที่ทำงานในแวดวงบันเทิง เช่น นักแสดง พิธีกร ตลก นักร้อง ฯลฯ ว่าไม่ต่างจากคนที่อยู่ในมุมสว่าง หรือเป็นบุคคลสาธารณะ ที่จะทำอะไร ก็จะอยู่ในสายตาของสื่อมวลชน หรือประชาชนคอยจับจ้อง จึงต้องวางตัวให้เหมาะสม มิเช่นนั้นก็จะถูกนำมาวิพากษ์วิจารณ์หรือด่าทอในแง่ลบได้

อุปกรณ์เกี่ยวกับการฉายไฟ นี่สามารถแตกแขนงไปเป็นหลากหลายรูปแบบได้อีกมาก นับตั้งแต่ ไฟฉายแบบโบราณ ไฟฉายแบบ LED, ไฟสปอตไลท์ ,เครื่องฉายแสงสำหรับเป็นอุปกรณ์เสริมการฉายภาพยนตร์หรือโปรเจ็คเตอร์ ตลอดไปจนถึงแว่นตาที่สามารถมองเห็นในเวลากลางคืน, แว่นตา 3D สนนราคาก็มีตั้งแต่ ของจีนแดงราคาอันละ 20 บาท ไปจนถึงหลักล้าน ขึ้นกับชนิด,ประเภท วัสดุที่ใช้ กระบวนการผลิต ลักษณะการใช้งาน แหล่งผลิตที่ไหน แบรนด์อะไร ฯลฯ

ส่วนแว่นกันแดด เป็นอุปกรณ์ที่อยู่ขั้วตรงกันข้ามกับไฟฉายเลย คือมันใช้ในการปกป้องแสงแดดธรรมชาติ หรือแสงสังเคราะห์ แสงไฟส่องสว่างทุกรูปแบบ แต่โดยมากแล้วคนส่วนใหญ่ใส่แว่นกันแดด เพื่อป้องกันแสงแดดธรรมชาติ ที่จะส่องเข้าดวงตา และมักใช้ในโอกาสต่างๆ อาทิ ขับรถ,ไปท่องเที่ยวตามชายหาด เกาะแก่ง หรือในสนามกีฬาขนาดใหญ่ที่มีแสงแดดจ้า ลานกิจกรรมต่างๆ เป็นต้น แว่นตาก็มีหลายหลายรูปแบบ และความเข้มของเลนส์แว่น ตั้งแต่ดำสนิท ไปจนถึงทืบเพียงเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของผู้ใช้ จะเลือกซื้อ บางคนใส่เพราะเป็นเพียงเครื่องประดับในลักษณะกึ่งแฟชั่น ให้เข้ากับเสื้อผ้า กางเกง รองเท้าหรือกระเป๋า หรือให้เข้ากับยานยนต์ที่ตนเองใช้ และขึ้นอยู่กับช่วงเวลา และสถานที่ด้วย สนนราคา ก็มีตั้งแต่แพงลิบลิ่วยันราคาถูก ขึ้นกับวัสดุที่ใช้ กระบวนการผลิต และแบรนด์สินค้าอะไร มีใครเป็นพรีเซ็นเตอร์ ฯลฯ

ในความหมายอีกนัยยะนึง ของแว่นตากันแดด มันเป็นอุปกรณ์อำพรางปกปิดใบหน้าด้วย เราจะมักพบเห็นมิจฉาชีพ หรือคนที่ก่อคดีอาชญากรรม มักสวมหมวกหรือแว่นตาดำ หรือไม่ก็หมวกกันน็อก เพื่อปกปิดอำพรางใบหน้าไว้ ไม่ให้สามารถมองเห็นใบหน้าได้ชัดเจน หรือเราอาจพบเห็นทั้งในโลกภาพยนตร์และโลกมนุษย์ที่แท้จริง ว่าคนใส่แว่นตาดำ เพื่อปกปิด อำพรางความผิด อำพรางใบหน้าได้ทั้งสีหน้าและอารมณ์ ซึ่งเรามักจะเห็นคนที่ไปงานศพ แล้วสวมแว่นตาดำ ไม่ใช่เพราะเขาต้องการเอาไว้ป้องกันแดด เพราะในงานศพส่วนใหญ่จะเป็นเวลากลางคืนแล้ว หรือเย็นค่ำแล้ว นั่นก็เพราะเขาต้องการอำพรางสีหน้าและอารมณ์ เช่น อาจมีสีหน้าเศร้าโศก มีคราบน้ำตาอยู่ การใส่แว่นตาดำก็เป็นการอำพรางได้ดีทีเดียว โดยไม่ทำให้คนอื่นมองเห็นอารมณ์สีหน้าของเราได้

ถ้าไฟฉายเป็นอุปกรณ์ของคนที่อยู่ในที่แจ้ง เพื่อส่องไปยังมุมมืดหรือโลกมืดแล้วหล่ะก็  เจ้าแว่นกันแดด(หรือแว่นตาเลนส์สีดำ) ก็เป็นอุปกรณ์ของคนที่อยู่ในมุมมืดหรือโลกมืด แต่ต้องการเดินออกไปปะปนกับคนในโลกแจ้งหรือที่สว่างนั่นเอง ฟังแล้วงงๆมั๊ย  อธิบายง่ายๆ ก็คือคนที่ใส่แว่นตากันแดดหรือแว่นตาเลนส์สีดำ โดยส่วนใหญ่มักเป็นคนที่มีอะไรปกปิดอำพราง ซ่อนอยู่ หรือมีพฤติกรรมที่ปกปิดซ่อนเร้นอะไรบางอย่างไว้ หาไม่แล้ว คนปกติธรรมดาโดยทั่วไป ใยจะต้องใส่แว่นตาดำเอาไว้ เดินไปในที่สาธารณะ หรือไปในที่ที่ไม่มีแสงแดดส่องหน้าหรือแยงตา เหตุใดยังจะต้องใส่แว่นตาดำ อำพรางใบหน้าเอาไว้เพื่ออะไร หากคนเราเป็นบุคคลที่ไม่ใช่คนดัง เซเลป หรือซุปตาร์ ที่ไหน ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเกรงกลัวว่าจะมีคนจดจำใบหน้าของเราได้ สามารถเดินดินกินข้าวแกงข้างทางริมฟุตปาธที่ไหนก็ได้ ยกเว้นเป็นฆาตกร อาชญากร กระทำความผิดเท่านั้นแหละ ที่ไปไหนเหมือนมีชนักติดหลัง เดินไปไหนก็เสียวสันหลังวาบ กลัวว่าจะมีคนจำเราได้ หรือเข้ามาจับกุม ทำร้ายเอา (เนื่องจากมีโจทก์เยอะ)

เปรียบเปรยเฉกเช่น สัตว์ป่ามันอยู่ในมุมมืด เพราะสัตว์บางชนิด ดวงตามันจะเห็นชัดในเวลากลางคืนมากกว่า แต่ในเวลากลางวันที่มนุษย์เห็นชัด มันกลับมืดบอด ตรงกันข้ามกัน มันไม่เคยรู้ว่าเภทภัยของมัน นอกเหนือจากสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าสัตว์ด้วยกันแล้ว มันไม่เคยคิดว่ามนุษย์ที่มันนึกเอาเองว่าเป็นสัตว์ประเสริฐกว่ามันหลายเท่า จะเป็นภัยร้ายทำอันตรายมันได้ เปรียบเหมือนมันอยู่ในมุมสว่างแต่มนุษย์อยู่ในมุมมืด มนุษย์มีเครื่องมือเครื่องไม้ที่จะล่า ทำร้ายหรือสังหารมันอย่างไรก็ได้ โดยที่มันไม่มีอุปกรณ์จะต่อสู้กับมนุษย์ได้หรอก มันมีเพียงร่างกายของมันเท่านั้น และยิ่งถ้ามันอยุ่อย่างโดดเดี่ยวตามลำพัง มันก็ไม่ต่างจากสาวน้อยที่กลายเป็นเหยื่อข่มขืน ของ 7 ทรชนในละครเรื่องล่า ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น สัตว์ตัวนั้นย่อมกลายเป็นเหยื่อในมุมมืดที่ให้มนุษย์ที่มีจิตใจเยี่ยงสัตว์ป่าเดรัจฉานทำร้ายหรือเอาชีวิตซึ่งมนุษย์ตัวนั้นอยู่ในมุมสว่างกว่ามัน สัตว์ป่ามันไม่ได้มีเครื่องมือช่วยอย่างไฟฉาย หรือกล้อง แว่น เลนส์ขยายม่านตาที่จะมองเห็นภัยได้ เหมือนมนุษย์ มันจึงตกเป็นเหยื่อของมนุษย์จิตใจเดรัจฉานที่สวมแว่นตาดำอำพรางพฤติกรรมเอาไว้

บางครั้งถ้าเราช่วยได้ เราสามารถช่วยกันเปิดโปงมนุษย์ที่สวมแว่นตาดำอำพรางพฤติกรรมอันเป็นภัยร้ายต่อสังคมกันเถิด อย่าให้บุคคลประเภทนี้ลอยนวลในสังคมได้อีกต่อไป เพราะถ้ารอดไปได้ ก็จะมีเหยื่อในโลกมืดถูกทำร้ายอีกไม่รู้อีกกี่ชีวิต อย่างไม่รู้จบ





บทความที่เกี่ยวข้อง

-ประเภทของไฟฉายที่คุณควรรู้

http://lamptanlighting.blogspot.com/2015/01/blog-post_5.html


-สีเลนส์แว่นตากันแดด..มีดีกว่าที่คิด

-ทำไมต้องใส่แว่นตากันแดด ?

-ตำรวจจีนเริ่มใช้แว่นตากันแดดตรวจจับใบหน้าผู้ต้องสงสัย
http://www.bbc.com/thai/international-42986249


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น