5 ธ.ค. 2556 พระราชดำรัส 'ครั้งสุดท้าย' แต่ 'อยู่ชั่วกาล'
คนไทยยังไม่เคยลืม "พระราชดำรัสครั้งสุดท้าย" ของพระองค์ท่าน ที่เกิดขึ้นเมื่อวันนี้ของ 4 ปีที่แล้ว อันเป็นพระราชดำรัสในวันที่ 5 ธันวาคม 2556
ราวกับฝันไป เมื่อเวลานี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว
หากแต่คนไทยยังไม่เคยลืม "พระราชดำรัสครั้งสุดท้าย" ของพระองค์ท่าน ที่เกิดขึ้นเมื่อวันนี้ของ 4 ปีที่แล้ว อันเป็นพระราชดำรัสในวันที่ 5 ธันวาคม 2556 และจะเป็นพระราชดำรัสที่อยู่ในใจของคนไทยชั่วกาลนาน...
โดยในวันนั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จออกมหาสมาคม เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ท้องพระโรง ศาลาราชประชาสมาคม วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
หากแต่คนไทยยังไม่เคยลืม "พระราชดำรัสครั้งสุดท้าย" ของพระองค์ท่าน ที่เกิดขึ้นเมื่อวันนี้ของ 4 ปีที่แล้ว อันเป็นพระราชดำรัสในวันที่ 5 ธันวาคม 2556 และจะเป็นพระราชดำรัสที่อยู่ในใจของคนไทยชั่วกาลนาน...
โดยในวันนั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จออกมหาสมาคม เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ท้องพระโรง ศาลาราชประชาสมาคม วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
จากนั้นทรงพระราชทานพระราชดำรัสแก่พสกนิกรชาวไทย ซึ่งถือเป็นพระราชดำรัสครั้งสุดท้ายของพระองค์ท่าน มีความดังนี้
“ขอขอบพระทัย และ ขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง ที่มีไมตรีจิตพรั่งพร้อมกันมาให้พรวันเกิด รวมทั้งให้คำมั่นสัญญาโดยประการต่างๆ ข้าพเจ้าขอแสดงสนองพรและไมตรีจิตนั้นด้วยใจจริงเช่นกัน บ้านเมืองของเราเป็นสุขสืบมาช้านาน เพราะเรามีความปึกแผ่นในชาติ และต่างบำเพ็ญกรณียกิจตามหน้าที่ให้สอดคล้องเกื้อกูลกัน เพื่อประโยชน์ของชาติ คนไทยทุกคนจึงควรจะตระหนักในข้อนี้ให้มาก และตั้งใจประพฤติตัวปฏิบัติงานให้สมฐานะและหน้าที่ เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวม คือ ความมั่นคงปลอดภัยของชาติบ้านเมืองไทย ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครองรักษาท่านทุกคนให้มีแต่ความสุข ความเจริญตลอดไป”
อย่างไรก็ดี ที่สุดแล้ว หลังจากนั้น วันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2557 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช โดยทรงมีพระอาการไข้ คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาจนพระอาการทั่วไปดีขึ้นตามลำดับ
ตลอดระยะเวลาที่ทรงประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช จนถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2559 พระอาการประชวรได้ดีขึ้นและทรุดลงเป็นครั้งคราว โดยพระราชกรณียกิจครั้งสุดท้ายของพระองค์คือการพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ผู้พิพากษาประจำศาลต่างๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2558
และการปรากฏพระองค์ครั้งสุดท้าย คือ การเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรสภาพภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบสวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2559
จากนั้นพระอาการประชวรได้ทรุดลงตามลำดับ จนเสด็จสวรรคตเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 15:52 น. สิริพระชนมายุ 88 ปี 313 วัน
น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ พระองค์สถิตอยู่ในดวงใจของคนไทยตราบนิรันดร์
ขอบคุณคลิปจากสมาชิกยูทูป CiNNtv3
เครดิตข้อมูลและภาพจาก bangkokbiznews.com
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพพระพุทธเจ้า บล็อกหยิกแกมหยอก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น