มาเข้าสู่โหมดของการเชิดชูทีมประสิทธิภาพแห่งปี 2017 ตามธรรมเนียมของบล็อกเรา ก็จะจัดหมวดและประกาศ โดยจำแนกออกเป็น 5 หมวดใหญ่ๆ คือ 1.ทีมประสิทธิภาพสาขากีฬา ,2.ทีมประสิทธิภาพสาขาสื่อสารมวลชน 3.ทีมประสิทธิภาพสาขาหน่วยงานภาครัฐหรือหน่วยงานสาธารณะบริการประชาชน และ 4.ทีมประสิทธิภาพสาขาหน่วยงานภาคเอกชนหรือหน่วยธุรกิจให้บริการประชาชน รวมสายบันเทิงไว้ในหมวดนี้ด้วย 5.ทีมด้อยประสิทธิภาพแห่งปี เพื่อประกาศเกียรติคุณให้กับหน่วยงานเหล่านั้น ที่ได้สร้างผลงานอันน่าประทับใจเอาไว้ในปีนี้ ซึ่งเราได้รวบรวมไว้แล้ว
1.ทีมประสิทธิภาพแห่งปี
สาขาด้านกีฬา ได้แก่
สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ,
ทีมฟุตบอลชายไทยชุดช้างศึกและทีมฟุตบอลหญิงไทยชุดชบาแก้ว (ทีมชาติไทยชุดใหญ่) , สมาคมและทีมฟุตซอลทีมชาติไทย ,ทีมฟุตบอลสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด
, ทีมฟุตบอลสโมสรเชียงราย (กว่างโซ้ว) ,สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ,ทีมวอลเล่ย์บอลหญิงทีมชาติไทย, ทีมฟุตบอลสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้
,ทีมฟุตบอลสโมสรบาร์เซโลน่า,ทีมฟุตบอลสโมสรเปเอสเช
(ปารีสแซงค์แชร์กแมง), ทีมสมาคมกีฬายกน้ำหนักแห่งประเทศไทย,
ทีมสมาคมเทควันโด้ประเทศไทย, สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย-สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย
,สมาคมกีฬาสนุกเกอร์แห่งประเทศไทย ,นักกีฬาทีมเซปัคตระกร้อชาย-หญิงทีมชาติ ,สมาคมกีฬาเจ็ทสกีแห่งประเทศไทยในพระอุปถัมภ์ของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ
,สมาคมอีสปอร์ต
2.ทีมประสิทธิภาพแห่งปี สาขาสื่อสารมวลชน จำแนกเป็นสื่อกระแสหลัก
(ฟรีทีวี,นสพ.วิทยุ,เว็บไซต์)
กับสื่อกระแสรอง (ทีวีดาวเทียม,สำนักข่าวเอกชน,สื่ออิสระ,เอ็นจีโอ,โซเชียลมีเดีย)
สื่อกระแสหลัก (เน้นการแพร่ข่าวสาร,บทวิเคราะห์เจาะลึกที่น่าเชื่อถือ,ทันสถานการณ์,นำเสนอตรงไปตรงมาไม่บิดประเด็น,ไม่จำเป็นต้องเป็นกลาง,ไม่จำเป็นต้องเร็วมาก,มีแหล่งข่าวที่ดี,ไม่ชี้นำสังคม,แยกแยะผิดถูกชั่วดี,กล้านำเสนอความจริง) ได้แก่ 7HD, TPBS, ไทยรัฐทีวี,Nation ทีวี, Now 26 ,SpringNews, TNN24,
ช่อง 8, One HD, Amarin TV ,Mono 29, PPTV,
3HD,3SD ,นสพ.ไทยโพสต์, นสพ.โพสต์ทูเดย์-บางกอกโพสต์ ,นสพ.ผู้จัดการ-MGR
online ,นสพ.กรุงเทพธุรกิจ-เนชั่น-คมชัดลึก นสพ.มติชน-ข่าวสด-ประชาชาติธุรกิจ, วิทยุคลื่น 90.5 คลื่นเนชั่น, 96.5
modernradio 105 LiveTalk ,101-RR1
สื่อกระแสรอง (เน้นการแพร่ข่าวสาร,บทวิเคราะห์เจาะลึกที่น่าเชื่อถือ,ทันสถานการณ์,นำเสนอตรงไปตรงมาไม่บิดประเด็น,ไม่จำเป็นต้องเป็นกลาง,ไม่จำเป็นต้องเร็วมาก,มีแหล่งข่าวที่ดี,ไม่ชี้นำสังคม,แยกแยะผิดถูกชั่วดี,กล้านำเสนอความจริง) ได้แก่ ทีวี News
1,วิทยุ สวพ. 91
,จส.100,เฟซบุ้คคุณทนง ขันทอง, เว็บไซต์แบงคอคบิสนิวส์, เว็บไซต์ไทยพับลิก้า, เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์, สำนักข่าวอิศรา ,เว็บไซต์ MGR
online ,เพจอีจัน,เพจแหม่มโพธิ์ดำ, เพจจ่านิว, เพจ Drama-Addict
,ช่อง You Like Clip เด็ด V.4 , เพจ the standard co ,เพจ CSI LA ,หมอแล็ปแพนด้า
3.ทีมประสิทธิภาพแห่งปี
สาขาหน่วยงานภาครัฐ,หน่วยงานบริการสาธารณะชน,องค์กรพัฒนาเอกชนเพื่อสาธารณประโยชน์ ได้แก่
คณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ
สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศและบูรณะปฏิสังขรณ์ราชร ถและพระยานมาศ
ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร, คณะกรรมการฝ่ายจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
พระบรมนาถบพิตร , สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
(ปปง.) ,สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน, สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน,
กรมศุลกากร ,กระทรวงวัฒนธรรม , การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กรุงเทพมหานคร ,
มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค, มูลนิธิทูบีนัมเบอร์วัน, ศูนย์ประชาบดี 1300 ,ศูนย์เอราวัณ 1646 ,สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ,มูลนิธิชัยพัฒนา ,มูลนิธิพระดาบส ,มูลนิธิสายใจไทย ,มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ,คณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ,รพ.รามาธิบดี ,เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย, เครือข่ายปกป้องกระบี่จากถ่านหิน ,เครือข่ายคนเทพาคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินและเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานี ไม่เอาโรงไฟฟ้า ถ่านหิน, ,สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ,เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ,จิตอาสาทุกคนบริเวณรอบสนามหลวง
,มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม ,สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย,
มูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก , มูลนิธิเด็ก ,มูลนิธิปอเต็กตึ๊ง , มูลนิธิร่วมกตัญญู , อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ,ทีมงานโครงการ “ก้าวคนละก้าว จากเบตง-แม่สาย เพื่อหาเงินช่วยเหลือ 11 รพ.โดยทีมงานของนายตูน
อาทิวราห์ คงมาลัย
4.ทีมประสิทธิภาพแห่งปี สาขาหน่วยงานภาคเอกชน หรือหน่วยธุรกิจให้บริการประชาชน และสาขาบันเทิง ได้แก่
ค่ายเพลงแกรมมี่โกลด์ , ค่ายเพลงจีนี่เรคคอร์ด , ค่ายเพลงสมอลล์รูม , ค่ายเพลงวอทเดอะดักส์ ,ค่ายเพลงบีอีซี-เทโร
มิวสิค , ค่ายเพลงดักส์บาร์ , ค่ายเพลง แชนเดอร์เลียร์ , ค่ายเพลงสไปซี่ดิสค์
, ค่ายเพลงอาร์สยาม , ค่ายเพลงเอ็มบีโอ
, ค่ายเพลงไวท์มิวสิค ,ไหทองคำเรคคอร์ด
บริษัทเอไทม์โชว์บิซ ,บริษัทเฟรชแอร์
เฟสติวัล, บริษัทอินเด็กซ์ครีเอทีฟวิลเลจ ,บริษัทเซ้นส์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ,บริษัทมีมิติ ,แร็บบิทสตูดิโอ ,บริษัททริปเปิ้ลทู ,บริษัทใจอั้น , บริษัทเวิร์คพ้อยท์และโต๊ะกลมโทรทัศน์
, บริษัทกันตนากรุ๊ป , บริษัททีวีธันเดอร์
, บริษัททีวีบูรพา , บริษัทแฮปอะกู้ดดรีม
,บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย
บริษัทละครไท , บริษัทถนัดละคร , บริษัทนาดาวบางกอก
, บริษัทเมตตาและมหานิยม , บริษัทคนทีวี
(ไทยแลนด์) ,บริษัทบรอดคาสท์ไทยเทเลวิชั่น , บริษัทดี วัน ทีวี, บริษัทแอค-อาร์ต เจเนอเรชั่น ,บริษัทซีนาริโอ ,บริษัทจีเอ็มเอ็มทีวี ,บริษัทกันตนามูฟวี่ทาวน์
(2002) ,บริษัทเจเอสแอลโกลบอลมีเดีย , บริษัทพอดีคำเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ , , บริษัทดีด้าวีดีโอโปรดักชั่น , บริษัทโคลีเซียมอินเตอร์กรุ๊ป ,บริษัทอินทรีย์ออดิโอวิชั่น ,บริษัทสุขสันต์หรรษา 52
, บริษัทดาราวีดีโอ , บริษัทสามเศียร ,
,บริษัทมงคลการละคร ,บริษัทปรากฏการณ์ดี
, บริษัทป้าสั่งย่าสอน, บริษัทมุมใหม่
,บริษัท, บริษัทเมกเกอร์วาย ,บริษัททีวีซีนแอนด์พิคเจอร์, บริษัทมายน์แอทเวิร์คส์ , บริษัทโพลีพลัส
เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ,บริษัท ฟิลกู๊ด เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ,บริษัท 9 บีเวอร์ฟิล์ม ,บริษัทเมกเกอร์ เจ กรุ๊ป ,บริษัทเดอะวันเอ็นเตอร์ไพร์ซ
, บริษัทเมกเกอร์กรุ๊ป ,บริษัท, บริษัทเมจิกอีฟเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ,บริษัทอู่ข้าวอู่น้ำภาพยนตร์ ,บริษัท ๙ แสนสตูดิโอ , คณะทำงานและทีมจัดการแสดงมหรสพสมโภช ในงานพระราชพิธีพระราชทานพระเพลิง พระบรมศพ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร บริเวณปรัมพิธี
ท้องสนามหลวง ในชื่อชุด โขนหน้าจอ และโขนชักรอก จำนวน 9 ชุดแสดง
,คณะทำงานการแสดงมหรสพสมโภช ในงานพระราชพิธีฯ การแสดงละคร (เรื่องพระมหาชนก อิเหนา และมโนห์รา) หุ่นหลวง หุ่นกระบอก ,คณะทำงานการแสดงมหรสพสมโภช
ในงานพระราชพิธีฯ การบรรเลงดนตรีสากล และการแสดงบัลเล่ต์
"ธ คือ ดวงใจไทยทั่วหล้า” (หรือบัลเล่ต์มโนราห์) ,ทีมงานและกองประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2017 (ทีมมารีญา)
บริษัทจีดีเอช559 , บริษัทเอ็ม 39
,บริษัทสหมงคลฟิล์ม ,บริษัทกันตนาโมชั่นพิคเจอร์ส ,บริษัท ,บริษัทโมโนพิคเจอร์ , บริษัท CJ Major , บริษัท M
Picture , บริษัทนอร์ทสตาร์โปรดักชั่น
5.ทีมด้อยประสิทธิภาพแห่งปี รางวัลนี้ต้องถวายพาน
ปูพรมแดงยกให้กับ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
(ป.ป.ช.) ไปเลย ด้วยผลงานชิ้นโบแดงในยุคนี้
ที่มีกรณีตัดตอนกระบวนการยุติธรรมที่จะเอาผิดผู้กระทำความผิด
โดยใช้กลไกองค์กรอิสระที่ผู้มีอำนาจตั้งคนของตัวเองเข้าไปนั่งเป็นหัวในองค์กร
เพื่อจะได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ไม่ต่างจากกรณีขบวนการล้มบอลในวงการฟุตบอลไทย
ที่มีการล็อกผลได้ โดยผู้เกี่ยวข้องหรือตัวละครมีทุกระดับทำแบบครบวงจร ในกรณีนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นขบวนการล้มผลการตัดสินหรือล้มกระบวนการยุติธรรม
เทียบเคียงได้เหมือนกัน ยกตัวอย่างซัก 2
กรณีก็แล้วกัน 1 กรณีที่ ป.ป.ช.ทำสำนวนคดีฟ้องเอาผิด
4 ผู้ต้องหาสำคัญในคดีสลายการชุมนุมเมื่อ 7 ตุลา 2551 แบบอ่อนหล่ะหลวม เหมือนไม่เต็มใจจะสู้
หรือเตรียมจะไปแพ้ในศาล (ไม่ได้ให้ทนายฝ่ายโจทก์เข้าไปร่วมฟังการพิจารณาคดี
อีกทั้งยังไม่ยอมใช้พยานหลักฐานประกอบอื่นๆ ที่ ป.ป.ช. ชุดเก่า (ชุดที่มีอ.อ.ปานเทพ
กล้าณรงค์ราญ เป็น ปธ.) เคยทำสำนวนไว้อย่างดิบดีและแน่นหนาแล้ว
จนถึงขั้นที่ศาลชั้นต้นเคยตัดสินตามสำนวน ป.ป.ช. ชุดเก่าแล้วให้
จำเลยในคดีสลายการชุมนุม 7 ตุลาคม 2551 มีความผิดทั้ง 4 คน ต้องติดคุก แต่แล้ว พอเปลี่ยน
ป.ป.ช.มาเป็นชุดใหม่-ชุดปัจจุบัน (ที่มี พล.ต.อ.วัชรพล
ประสารราชกิจ หรือบิ๊กกุ่ย อดีตหน้าห้องของบิ๊กป้อม มานั่งเป็น ปธ.
โดยบิ๊กป้อมแต่งตั้งมากับมือโดยตรง นี่มันไม่รู้จะเรียกว่า conflict of
interest ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอย่างไรแล้ว)
-http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000138920
งานแรก ก็ออกมารับใบสั่งเลย แสดงท่าทีที่แปลกๆ
ด้วยการไม่คิดอุทธรณ์คดีสลายการชุมนุม 7 ตุลา จนญาติวีรชน 7 ตุลา
ที่เสียชีวิต ต้องเคลื่อนไหวกดดัน และนักวิชาการ ภาคสังคม สื่อมวลชนร่วมกันกดดัน
จึงยอมเปลี่ยนแปลงท่าที มาตั้งรับว่าจะดำเนินการให้ตามขั้นตอนโดยทันที
นี่แค่เพิ่งก้าวแรกของการมารับตำแหน่ง ปธ.ป.ป.ช.ของ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ นะ
ดูต่อ
|
เหมือนกลับจงใจที่จะให้คดีนี้เอาผิดพัชรวาทไม่ได้
(เป็นถึงน้องชายบิ๊กป้อมนะโว๊ย น้องกูใครอย่าแตะ) เป็นมวยล้ม ต้มคนดู
คือทำสำนวนอ่อน หลักฐานพยานอ่อน เพื่อที่จะไปแพ้คดีในศาล และก็เป็นไปตามนั้น
เมื่อมีการตัดสินของศาลฏีกาออกมาว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ไม่มีความผิด
ศาลมีมติยกฟ้อง (เหตุใดจึงต้องยกฟ้องสมชาย
แล้วพัชรวาทมีเอี่ยวมั๊ย ก็ถ้าสมชายไม่หลุด-หรือผิด พัชรวาทจะรอดเหรอ
เพราะเป็นผู้รับคำสั่งโดยตรง)
-เปิดคำพิพากษาคดี 7 ตุลา 51 ศาลยกฟ้อง
“สมชาย” ชี้พันธมิตรไม่ได้ชุมนุมสันติhttps://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_460150
https://www.thairath.co.th/content/1025336
จากนั้นเมื่อแกนนำกลุ่มพันธมิตรมีการนัดหารือว่าจะมีการอุทธรณ์ผลการตัดสิน
โดยสามารถทำได้ โดยยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติม นำไปให้ ป.ป.ช. เพื่อยื่นต่อศาล
เป็นการอุทธรณ์ แต่ ป.ป.ช. บางคนกลับออกมานั่งตั้งโต๊ะแถลง ตัดสินเสียเองเลยว่า
จะยื่นอุทธรณ์ผล และฟ้องเพียงแค่ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว เพียงคนเดียว
คือแพะรับบาป เพียงคนเดียวในคดีนี้ โทษฐานเป็นขี้ข้าเพียงคนเดียว ที่ไม่มีแบ็ก
เอ๊ยไม่ใช่ เป็นแพะรับบาป แทนคนอื่น เนื่องจากที่เหลืออีก 3 คน
เป็นบิ๊กเนม (นี่หล่ะหนอ ที่คนเขาว่า คุกมีไว้ขังแค่คนจน เพราะใน 4 คนนี้ สุชาติ เหมือนแก้ว แกกระจอกที่สุด)
-ป.ป.ช.ตั้งโต๊ะเคลียร์ปมอุทธรณ์แค่สุชาติคดีสลายม็อบ
(การออกความเห็นราวกับเป็นศาลเสียเองของนายสุรศักดิ์ คิรีวิเชียร 1 ในกรรมการ ป.ป.ช.
ผู้ซึ่งมีแนวคิดพวกเดียวกับแก๊งค์แดง นปช.)
https://www.dailynews.co.th/politics/595410
-ตัดตอนฟ้องสุชาติ-ปปช.ปล่อย”ป๊อด-จิ๋ว-ชายจืด”ลอยนวลhttps://mgronline.com/daily/detail/9600000088776
2.คดีนาฬิกาหรู แหวนเพชร ที่บิ๊กป้อมใส่โชว์ในวันถ่ายรูปร่วมกับ
ครม.ชุดใหม่ ในรัฐบาลประยุทธ์ 5 แล้วถูกนักข่าวแซะว่า
“นาฬิกรหรูนี้ ท่านได้แต่ใดมา” แล้วท่านตอบแบบแก้เกี้ยวว่า มีอยู่นานแล้ว
แต่ในใบแจ้งบัญชีทรัพย์สินของ รมต.ก่อนเข้ารับตำแหน่ง ตั้งแต่ปี 57 ไม่มีรายการทรัพย์สินชนิดนี้อยู่ เนื่องจากนาฬิกายี่ห้อนี้มีราคาแพงหลักล้าน
จะมาอ้างว่าลืมตกหล่น เลยไม่ได้แจ้ง หรือมีคนให้โดยเสน่หา ก็จะเข้าข่ายผิด พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าดวยการป้องกันและ
ปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในส่วนที่ เกี่ยวข้องกับเรื่องการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดย
มาตรา ๑๐๓ ห้ามมิให้เจ้าหน้าทีของรัฐผู้ใดรับทรัพย์สินหรือ ประโยชน์อื่นใดจากบุคคล
นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อัน ควรได้ตามกฎหมาย หรือกฎ ข้อบังคบที่ออกโดยอาศัยอํานาจตาม
บทบัญญัติแห่งกฎหมาย เว้นแต่การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อันใด โดยธรรมจรรยา ตามหลักเกณฑ์และจํานวนทีคณะกรรมการ
ป.ป.ช. กําหนดบทบัญญัติ ในวรรคหนึ่ง ให้ใช้ บังคับกับการรับทรัพย์สินหรือ ประโยชน์อื่นใดของผู้ซึ่งพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐมาแล้วยังไม่
ถึงสองปีด้วยโดยอนุโลม ซึ่งตาม พรบ.นี้กำหนดไว้คือตัวเลข 3,000 บาท แต่นาฬิกาหรูที่ว่านี้มูลค่านับล้าน มันจึงอยู่ในข่ายกระทำความผิด
ไม่ว่าจะมองในเหลี่ยมมุมไหนก็ตาม
ป.ป.ช.จึงมีหน้าที่ต้องไปตรวจสอบนักการเมืองคนดังกล่าว
(แม้ว่าเขาจะเป็นคนแต่งตั้งตัวเองมาทำหน้าที่ตรวจสอบการทุจริต –นี่ไงที่ผู้เขียนถึงบอกว่ามันเป็น conflict of interest การขัดกันของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย) ถ้านักการเมืองคนนั้นผิดจริง
ก็ต้องถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งไป ไม่ใช่ ปธ. ป.ป.ช.พูดจาเหมือนจะแก้ต่างแทน
และช่วยเหลือกันเต็มที่ ราวกับเป็นกิจการในกงสี หรือครอบครัวงั้นแหละ ยุคนี้ถ้ายังมองว่า
ปชช.กินหญ้า มีเขางอก ก็คอยดูแล้วกันว่า วันหนึ่ง ปชช.จะสั่งสอนพวกท่านอย่างไร
คล้ายๆ กรณีของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี เคยถูกถอดถอนจากตำแหน่งนายกเพราะไปทำรายการทีวี ซึ่งมีผลประโยชน์คือเงินค่าโฆษณา ซึ่งเกี่ยวพันกับผลประโยชน์ แต่หลักการก็คือว่า นายสมัครเป็นถึงนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์โดยตรงของรัฐและของประชาชน แต่ไปทำรายการโทรทัศน์ ซึ่งเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทางธุรกิจ และส่วนบุคคล มันเข้าข่ายการขัดกันของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จึงผิดเต็มประตู ไม่ใช่เรื่องที่มาเบี่ยงประเด็นเป็นว่า ไปทำรายการทีวีทำกับข้าว แล้วเลยต้องหลุดจากตำแหน่งนายก ในกรณีของบิ๊กป้อมนี่ยิ่งกว่า มัน 2 ชั้น ตัวเองเป็นนักการเมือง การแจ้งหรือยื่นบัญชีทรัพย์สินไม่ครบถ้วน นั่นส่อนัยร่ำรวยผิดปกติ แต่ไม่แจ้งให้ป.ป.ช.(หรือก็คือผู้ดูแลผลประโยชน์ของประเทศให้รู้) กรณีนึงแล้ว อีกนัยนึงก็คือ ตัวเองใส่โชว์นาฬิกาที่เป็นแบรนด์ดังหรู มันส่อนัยว่า คุณมีผลประโยชน์ต่างตอบแทนให้กับธุรกิจหรือเจ้าของนักธุรกิจนาฬิกายี่ห้อนี้หรือไม่ เหมือนกับที่พวกคุณบินไปกับคณะนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือน ก.ย.ไปพบปธน.สหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อเจรจาการค้า แต่บุคคลที่ยืนถ่ายรูปอยู่เบื้องหลังเต็มไปด้วยนักธุรกิจกลุ่มทุนพลังงานใหญ่ๆ ของสหรัฐเต็มไปหมดเลย พอกลับมาก็สั่งเดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหินที่เทพา,กระบี่ และสั่งให้เร่งรัดให้รีบอนุมัติเซ็นสัญญาสัมปทาน 2 แปลงใหญ่ (แหล่งเอราวัณ,แหล่งบงกช) ที่ใกล้หมดอายุ ให้กับกลุ่มทุนใหญ่เจ้าเดิมที่เป็นของสหรัฐ โดยไม่ฟังเสียงนักวิชาการ กลุ่มเคลื่อนไหวด้านพลังงาน ที่เขาติงว่า สัญญาสัมปทานมันเต็มไปด้วยการเสียเปรียบด้านผลประโยชน์ เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนพลังงาน โดยที่ประเทศชาติไม่ได้ผลประโยชน์อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างที่ควรจะเป็น ยังมีกรณีที่ไม่ยอมจัดตั้งบรรษัทพลังงานมากำกับดูแลผลประโยชน์ การเรียกคืนท่อก๊าซคืนจาก ปตท., การไม่เรียกเก็บภาษีจากกรณีบริษัทพลังงานของตปท.(เชฟรอน) โกงภาษี ด้วยการขนถ่ายน้ำมันจากหลุมเจาะในทะเล แล้วขนขึ้นบกขนถ่ายออกนอกประเทศ ฯลฯ (รสนาติงกรมสรรพากร-สรรพสามิต เหตุใดยังไม่ยอมเรียกเก็บเงินภาษีกับค่าปรับแก่บริษัทเชฟรอน ที่ขนถ่ายน้ำมันจากราชอาณาจักรไทยออกนอกประเทศ โดยพยายามที่จะเลี่ยงภาษี) https://www.prachachat.net/finance/news-70390
แต่ผู้นำประเทศก็ยังจะเดินหน้าอยู่ท่าเดียว ม็อบไหนมาค้านก็จะใช้กองกำลังทหาร,ตำรวจไปจัดการ พฤติกรรมไม่ต่างอะไรกับขาใหญ่มาเฟียโดยทั่วไป
การกระทำของ ป.ป.ช.ในยุคนี้
หากใช้ดุลยพินิจในการที่จะพิจาณาคดี ไม่โปร่งใส เที่ยงธรรม
ก็ไม่อาจเป็นที่พึ่งหวังของประชาชน และจะกลายไปเป็นเพียงเครื่องมือของรัฐบาลเผด็จการที่ไม่ได้มาจากประชาธิปไตย
ในการใช้เป็นอาวุธเพื่อเล่นงานนักการเมือง ผู้ที่เคยกระทำความผิดทั้งในสมัยก่อนหน้าและปัจจุบัน
ไม่ให้มีสิทธิ์มีเสียง ในการต่อสู้คัดค้านความอยุติธรรมได้อย่างเต็มกำลังได้
เพราะองค์กรที่ควรจะเป็นที่พึ่งพิงของประชาชนได้ขาดความน่าเชื่อถือ
และกลายไปเป็นเครื่องมือของนักการเมืองที่ไม่ได้มาจากประชาธิปไตยไปเรียบร้อยแล้ว
นี่จึงเป็นเหตุผลที่เพียงพอ และบทสรุปของความด้อยประสิทธิภาพของหน่วยงานนี้
เราจึงยกตำแหน่งและรางวัล ทีมด้อยประสิทธิภาพแห่งปี 2017 ให้กับ ป.ป.ช. ชุดนี้แบบไร้คู่แข่ง ในปีนี้ไป
หยิกแกมหยอก
วิเคราะห์และเรียบเรียง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น