วันอังคารที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2560

10 สุดยอดปรากฏการณ์ทางการตลาดแห่งปี 2017 (อันดับที่ 10,9,8)





ทุกสิ้นปี ก็จะมีบทสรุปหรือรวบรวม ประมวลเหตุการณ์ ความเป็นที่สุด ของเหตุการณ์ เรื่องราว ต่างๆ เกี่ยวกับบุคคล สิ่งของ สถานที่ หรือเหตุการณ์ในรอบปี ว่าสิ่งใดคือที่สุดของปีนั้นๆ คอลัมน์ 10 สุดยอดปรากฏการณ์ทางการตลาดแห่งปี ในบล็อกหยิกแกมหยอก ได้รวบรวมทำมาตั้งแต่ปี 2010 ทำให้ผู้เขียนเองก็ได้รับประโยชน์มหาศาล ทำให้รู้ว่าในแต่ละปี มีเรื่องผลิตภัณฑ์สินค้าหรือบุคคล อีเว้นต์ใดเด่นดังบ้างในแต่ละปี แต่สิ่งที่ทำให้ผู้เขียนตกผลึกทางความคิดได้อย่างนึงก็คือ กลยุทธ์การตลาด ผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ที่โดดเด่น มักจะวนลูปอยู่ในกลุ่มผู้เล่นหน้าเดิมๆ วนซ้ำๆ กันไปทุกปี เพราะตลาดบ้านเราไม่ได้ใหญ่อะไรมาก และโครงสร้างของตลาดในบางชนิดมันกึ่งผูกขาด ผู้เล่นหรือผู้นำในตลาดมันจึงเป็นหน้าเดิมๆ กลุ่มบริษัทเดิม อยู่ไม่กี่ราย เฉกเช่นงบโฆษณาในแต่ละปี ไปดูได้ ส่วนใหญ่ก็บริษัทเจ้าประจำเดิมๆ แต่ที่ทำให้ปรากฏการณ์ทางการตลาดในแต่ละปีมันยังพอมีสีสันอยู่บ้าง ที่แตกต่างกันก็ตรงอันดับ 1 กับ 2 ของแต่ละปี จะมีปรากฏการณ์หรือเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่มันนำพาเอาผู้คนทั้งสังคมพูดถึงกัน เป็น talk of the town ในปีนั้น และแคมเปญหรือตราสินค้านั้นแหละ มันกินรวบตลาด ชนะทุกเหตุการณ์หรือแคมเปญโฆษณาทุกตัว เป็นอันดับ 1 ในปีนั้น (ในมุมมองของผู้เขียนหรือบล็อกหยิกแกมหยอกเท่านั้นนะ) และปีนี้ สิ่งนั้นก็ได้หมุนเวียน วงรอบมาถึง ณ เวลานี้อีกปีหนึ่งแล้ว

คอลัมน์นี้ไม่ใช่จะมาจัดอันดับแคมเปญโฆษณาสินค้าที่โดดเด่น ยอดเยี่ยมอะไร อันนั้นต้องไปดูตามเพจที่เกี่ยวกับวงการตลาดหรือโฆษณาโดยตรงจะดีกว่า แต่บล็อกหยิกแกมหยอก จะมองเป็นภาพกว้างของการตลาดที่เป็นตัวขับเคลื่อนจริงๆ ของเศรษฐกิจและสังคมมากกว่า ซึ่งเราจะไม่ลงลึกไปถึงกลยุทธ์การตลาด การแก้เกมของผลิตภัณฑ์คู่แข่ง ยอดขาย ส่วนแบ่งทางการตลาด หรือการวางตำแหน่งสินค้า การโฆษณาประชาสัมพันธ์อะไรใดๆ ทั้งสิ้น แต่จะเน้นที่ปรากฏการณ์อะไรบางอย่างที่มันเป็นตัวสะท้อนการเคลื่อนไหวอะไรบางอย่างของอุตสาหกรรมบางอย่างหรือเซคเตอร์ของธุรกิจบางชนิด ที่มันเป็นตัวสร้างสีสันให้กับวงการค้า การตลาด ธุรกิจ และเศรษฐกิจของประเทศไทย และนี่คือคำอธิบายว่า ทำไมเราถึงตั้งชื่อหัวข้อว่า “สุดยอดปรากฏการณ์ทางการตลาดแห่งปี” 

ทีนี้มาเข้าสู่หัวข้อในปีนี้ก็คือ 10 สุดยอดปรากฏการณ์ทางการตลาดแห่งปี 2017 โดยจะค่อยๆ ไล่อันดับจาก 10 มาถึงอันดับที่ 1 โดยมีรายละเอียดดังนี้

อันดับที่ 10 ภาพรวมตลาดรถยนต์ของไทยยังคงเติบโต ปีนี้ฟื้นขึ้นจากปีก่อนอย่างเห็นได้ชัด ภายหลังประกาศ พรบ.ภาษีรถยนต์ (ฉบับใหม่) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2559 ทำให้ยอดขายปี 59 สะดุดไปเล็กน้อย แต่พอมาปีนี้ โดยเฉพาะครึ่งปีหลัง ยอดขายกลับพุ่งสวนทางเศรษฐกิจ โดยเห็นได้จากความคึกคักของงาน Motor Show ตอนต้นปี และงาน Motor Expo ตอนปลายปี ที่จัดขึ้นที่อิมแพ็คเมืองทองธานีเหมือนกัน เอาตัวเลขเฉพาะงานปลายปี Motor Expo 2017 เป็นตัวสะท้อนว่า ตลาดรถยนต์และมอเตอร์ไซด์ในบ้านเราไม่ได้ซบเซาตามภาวะเศรษฐกิจเลย ดังนี้

ยอดจองในงาน Motor Expo 2017 รถยนต์ทั้งสิ้น 32,422 คัน ,มอเตอร์ไซด์ 7,711 คัน
นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่34 หรือ มอเตอร์เอ็กซ์โป เปิดเผยว่า ปิดฉากงานมอเตอร์เอ็กซ์โปปี 60 ที่ได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29พ.ย.-11ธ.ค.ที่เมืองทองธานี ได้สรุปยอดขาย รถยนต์จาก35 ผู้ผลิต มีจำนวนทั้งสิ้น39,832คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน22.9%โดย 5 อันดับสูงสุดได้แก่ อันดับ 1.ฮอนด้า 6,488คัน 2.โตโยต้า 5,456คัน 3.มาสด้า 5,015คันอันดับ 4.อีซูซุ 4,479คัน และ 5.เมอร์เซเดส-เบนซ์ 2,701คัน

ทั้งนี้รถเก๋งได้รับความสนใจสูงสุด มีสัดส่วนยอดขาย38.7% โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ฮอนด้า ซิตี้ ฮอนด้า ซีวิค มาสด้า2 ฮอนด้า แจ๊ซ และนิสสัน โน๊ต ส่วนรถอเนกประสงค์(เอสยูวี) มีสัดส่วน 33.9% ยอดขาย 5อันดับแรก ได้แก่เอ็มจี แซดเอส มิตซูบิชิ ปาเจโร ปอร์ต มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ฟอร์ด เอเวอร์เรส และฮอนด้า เอชอาร์-วี รถกระบะมีสัดส่วน 17.9% และ 5 อันดับแรก ได้แก่ฟอร์ด เรนเจอร์ อีซูซุ ดีแม็คซ์โตโยต้า รีโว่ มิตซูบิชิ ไทรทัน และนิสสัน นาวารา

ส่วนรถหรู มียอดขายรวม4,874คัน โดย 5 แบรนด์ ที่ได้รับความสนใจสูงสุด ได้แก่เมอร์เซเดส-เบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู วอลโว่ ออดี้ และปอร์เช่

สำหรับยอดขายรถจักรยานยนต์รวม7,711คันสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้เล็กน้อย 5 อันดับแรกได้แก่จีพีเอ็กซ์ 1,115 คัน คาวาซากิ904 คัน ริวก้า 831 คัน ยามาฮ่า 805 คัน และ ฮอนด้า 741 คันราคาเฉลี่ยของรถที่ขายได้ในงาน 1,271,837บาทมีเงินหมุนเวียนภายในงาน 52,000ล้านบาท ผู้เข้าชมงานจำนวน1,360,605คน เพิ่มขึ้น14.2%

"งานปีนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ด้วยการสนับสนุนจาก บริษัทรถยนต์ รถจักรยานยนต์ อุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนผู้เข้าชมงาน"
ยอดจองรถยนต์ของปีนี้มากกว่าปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด จากสภาพตลาดรถยนต์โดยรวมที่เริ่มฟื้นตัว และการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีของค่ายรถ ครอบคลุมเกือบทุกเซกเมนท์ ทั้งรถยนต์ราคาย่อมเยาอย่าง อีโคคาร์ หรือ รถยนต์ในสไตล์ครอสส์โอเวอร์ที่กำลังได้รับความนิยมในตลาด รวมถึงบรรดารถหรูที่อัดแน่นทั้งออพชัน และราคาที่เหมาะสม ยอดจองในงาน Motor Expo 2017 จึงสะท้อนถึงสภาวะตลาดรถยนต์ของปีนี้ได้เป็นอย่างดี ส่วนยอดจอง 10 อันดับแรก เป็นไปตามนี้ พร้อมยอดจองของแต่ละบแรนด์ในปีที่แล้ว

ยอดจองรถยนต์ 10 อันดับแรกของงาน Motor Expo 2017 (ยอดจองของปีก่อนหน้า Motor Expo 2016)
1. Honda 6,488 คัน (4,902 คัน)
2. Toyota 5,456 คัน (5,124 คัน)
3. Mazda 5,015 คัน (3,434 คัน)
4. Isuzu 4,479 คัน (3,620 คัน)
5. Mercedes-Benz 2,701 คัน (1,722 คัน)
6. MG 2,366 คัน (1,455 คัน)
7. Nissan 2,275 คัน (2,292 คัน)
8. Mitsubishi 2,260 คัน (2,098 คัน)
9. Ford 2,253 คัน (2,411 คัน)
10. Suzuki 1,361 คัน (1,386 คัน)
ยอดจองรถมอเตอร์ไซค์ ในงาน Motor Expo 2017
7,711 คัน
ยอดจองรถมอเตอร์ไซค์ ในงาน Motor Expo 2016
7,942 คัน

ยอดจองรถมอเตอร์ไซค์ของ Motor Expo 2017 ลดลงจากปีก่อนหน้าเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วตลาดรถมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะกลุ่ม Big Bike ยังมีผู้ให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง
ยอดจองรถมอเตอร์ไซค์ 10 อันดับแรกของงาน Motor Expo 2017 (ยอดจองของปีก่อนหน้า Motor Expo 2016)
1. GPX 1,115 คัน (1,109 คัน)
2. Kawasaki 904 คัน (762 คัน)
3. Ryuka 831 คัน (418 คัน)
4. Yamaha 805 คัน (1,040 คัน)
5. Honda 741 คัน (791 คัน)
6. Lifan 626 คัน ( - )
7. Vespa 500 คัน (1,059 คัน)
8. Triumph 396 คัน (488 คัน)
9. BMW 309 คัน (290 คัน)
10. Benelli 238 คัน (208 คัน)




อันดับที่ 9 ตลาดโทรศัพท์สมาร์ทโฟน บี้กันสุดฤทธิ์ ผู้เล่นรายใหม่ผุดเข้าตลาด โปรโมชั่นเลือดสาด เปลี่ยนสภาพจากตลาดผุ้เล่นน้อยราย เป็นตลาดแข่งขันเสรีโดยสมบูรณ์ อันดับ 3-5 จีนกวาดกินตลาดเรียบวุธ นาทีนี้ผู้ซื้อเป็นพระเจ้าอย่างแท้จริง 

เรียกได้ว่าปี 2017 ตลาดมือถือสมาร์ทโฟนในไทย คึกคักเป็นที่สุด เพราะว่ามีการเปิดตัวทั้งแบรนด์เก่า รุ่นใหม่ หรือแบรนด์ใหม่ๆ ก็มี กลายมาเป็นคู่แข่งแบบชนิดที่ว่า เจ้าตลาดเดิมๆ ยังต้องทำโปรโมชั่นออกมาแข่ง เพราะต้องสูญเสียส่วนแบ่งตลาดไปให้กับแบรนด์เก่ารุ่นใหม่ และแบรนด์ใหม่ๆ (Apple i-phone, Samsung Galaxy, Huawei, Oppo, Vivo, Xiaomi, Google, Sony, Microsoft ) ยังไม่นับแข่งกันเองระหว่างเจ้าตลาดเดิม เบอร์ 1-5 ที่สนุกสนานจนผู้ซื้อปวดหัว ไม่รู้จะเลือกยี่ห้อไหน รุ่นอะไรดี
ขอเริ่มต้นด้วยการเปิดตัวของเจ้าตลาดเดิมอย่างค่าย Apple ก่อน

การเปิดตัว iPhone 8 และ iPhone 8 Plus กับไอโฟนรุ่นใหม่หมดจดคือ iPhone X หรือ iPhone รุ่นครบรอบ 10 ปี (อ่านว่า ไอโฟนเท็น) มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่หมดจดหน้าจอไร้ขอบ ก็เรียกว่าหลุดออกมาตามข่าวก่อนหน้านี้ แน่นอนว่ามาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ น่าสนใจหลายอย่าง มีอะไรบ้างไปดูกันเลยครับ
iPhone X หน้าจอไร้ขอบ

ตามข่าวลือก่อนหน้านี้ iPhone X มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่หมดจด คือเปลี่ยนวัสดุตัวเครื่องจากอลูมิเนียมที่ด้านหลังเป็นกระจก และขอบเครื่องเป็นอลูมิเนียม กล้องคู่แบบแนวตั้ง และที่ด้านหน้าเป็นหน้าจอที่ไร้ขอบ แต่มีรอยบากด้านบนสำหรับวางเซ็นเซอร์และกล้องหน้าครับ

หน้าจอความละเอียด 2436 x 1125 พิกเซล Apple เรียกว่า Super Retina Display ความหนาแน่น 458 ppi แน่นอนว่าหน้าจอใช้เทคโนโลยี OLED ที่มีความสว่าง เฉดสีกว้าง และมีความถูกต้องและแม่นยำสูง รองรับการแสดงวิดีโอแบบ HDR ด้วยมาตรฐาน HDR10 และ Dolby Vision
เนื่องจาก iPhone X ไม่มีปุ่มโฮมแล้ว การเปิดใช้งานเครื่องจะต้องแตะที่หน้าจอหนึ่งครั้งแล้วปัดขึ้นเพื่อเป็นการเปิดเครื่องครับ คุณลักษณะ,คุณสมบัติโดดเด่นของรุ่นนี้ก็คือ iPhone X กับรอยบากบนหน้าจอ ,สเปกของ iPhone X ,Face ID ระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า ,iPhone X มีกล้องคู่จัดเต็ม ,มาพร้อมระบบชาร์จไร้สาย

iPhone X มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ สีขาว โดยมีความจุให้เลือกเพียงสองความจุเท่านัน ได้แก่ 64GB และ 256GB มีให้เลือสองสีได้แก่สีดำและสีขาว ราคาเริ่มต้น $999 หรือประมาณ 33,000 บาทครับ และรุ่น 256GB อยู่ที่ $1,149 หรือประมาณ 38,000 บาท เปิดพรีออเดอร์วันที่ 27 ตุลาคม วางจำหน่าย 3 พฤศจิกายนนี้ (เครดิตข้อมูลจากหน้าเพจ แบไต๋ไฮเท็ค)

วงการสมาร์ทโฟนโลกในช่วงครึ่งแรกของปี 2017 ที่ผ่านมานับเป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดมากที่สุด ทั้งแบรนด์ใหญ่ แบรนด์เล็ก ต่างงัดเอาอาวุธเด็ดของตนเองมาฟาดฟันกับคู่แข่งกันแบบไม่มีใครยอมใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาร์ทโฟนเรือธงตัวท็อปของแต่ละแบรนด์นั้นต่างอัดแน่นไปด้วยสุดยอดนวัตกรรมที่ดีที่สุดเท่าที่จะมีได้ เรียกว่าใครไม่แกร่งจริงคงอยู่ยาก สุดท้ายแล้วประโยชน์ก็มาตกอยู่กับผู้บริโภคอย่างเราๆ ท่านๆ นั่นเอง เพราะมีตัวเลือกดีๆ ให้เลือกสรรกันแบบไม่หวาดไม่ไหว ซึ่งทีมงานเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์ของเราก็ได้นำเอาข่าวคราวความเคลื่อนไหวของสมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ มาอัปเดตให้ทุกท่านได้ติดตามกันโดยตลอด

แต่หากถามว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใดคือที่สุดของวงการในช่วงครึ่งแรกของปี 2017 ในสายตาทีมงานเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์? ก็ต้องยอมรับว่าเป็นการตัดสินใจที่ยากเอาการ เพราะสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นที่เปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 2017 ต่างก็มีความโดดเด่นในแบบฉบับของตนเอง ไม่ว่าจะโดดเด่นในเรื่องของราคาที่คุ้มค่า หรือโดดเด่นในเรื่องของฟีเจอร์ที่อัดแน่น อย่างไรก็ดีสำหรับการตัดสินในครั้งนี้ ทีมงานของเราขอตัดการพิจารณาเรื่องราคา หรือความคุ้มค่าออกไป เพื่อให้สามารถพุ่งเป้าไปที่เรื่องของนวัตกรรม, เทคโนโลยี, ฟีเจอร์ หรือคุณสมบัติของแต่ละรุ่นได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นงานนี้สมาร์ทโฟนรุ่นใดที่มีนวัตกรรมที่ล้ำกว่าใคร, มีฟีเจอร์ที่ไฮเอนด์จัดเต็มกว่าเพื่อน หรือมีดีไซน์เข้าตาที่สุด ก็น่าจะก้าวเข้ามายืนอยู่ในตำแหน่งสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดของเราประจำครึ่งแรกของปี 2017 ได้ไม่ยาก

และต้องขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจกันก่อนสักเล็กน้อยว่าสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นที่เรานำมาพิจารณานั้น จะต้องเป็นสมาร์ทโฟนที่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งแรกของปี 2017 หรือในเดือนมกราคม-มิถุนายน 2017 เท่านั้น และลำดับของการจัดเรียงรุ่นไม่ได้สื่อถึงอันดับรางวัลที่ 1-10 แต่อย่างใด เป็นเพียงการรวม 10 รุ่นที่ดีที่สุดเท่านั้น ส่วนสุดยอดสมาร์ทโฟนทั้ง 10 รุ่นที่เราคัดมาจะมีรุ่นอะไรบ้าง (Huawei P10 plus, Samsung Galaxy S8, Sony Xperia XZ premium, HTC U11, LG G6+,OnePlus 5 , Xiaomi MI6 , OPPO R11 plus, BlackBerry KEYOne , IPhone 7plus (product) RED Special Edition (ที่มา : เว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์)

Samsung Galaxy Note 8 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดกับจุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์อย่าง ปากกา S Pen, นวัตกรรมกล้องคู่ (Dual-Camera) และหน้าจอไร้ขอบขนาดใหญ่ในอัตราส่วน 18:9 พร้อมฟีเจอร์สุดพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งหลังจาก Samsung ได้วางจำหน่าย Galaxy Note8 อย่างเป็นทางการแล้ว กระแสตอบรับจากผู้ใช้ถือว่าอยู่ในระดับดีเลยทีเดียว

วันนี้ทีมงาน Thaimobilcenter จึงได้ทำการรวบรวมโปรโมชั่นสำหรับ Samsung Galaxy Note 8 จากเครือข่ายผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือทั้ง 3 ค่าย มาให้ทุกท่านได้รับชมกันเป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อ Note 8 จากค่ายใดถึงจะคุ้มค่าที่สุด ลองมารับชมรายละเอียดกันได้เลยครับ

รีวิวของ Samsung Galaxy Note 8 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหญ่ใหม่ล่าสุด! พร้อมกล้องคู่ (Dual Camera) รุ่นแรกของค่าย, ระบบกันสั่น Dual OIS รุ่นแรกของโลก, 2x Optical Zoom, ปากกา S Pen เวอร์ชันใหม่, จอ Infinity Display ไซส์ยักษ์ 6.3 นิ้ว, ชิปเซ็ต Exynos 8895 ตัวท็อป, RAM ใหญ่จุใจ 6GB และระบบสแกนม่านตาสุดล้ำ บนบอดี้ Metal-Glass โฉมใหม่แบบไร้ขอบไร้ปุ่มโฮมที่ไม่กลัวน้ำ! หากท่านใดกำลังหมายตา Galaxy Note 8 รุ่นนี้อยู่ ลองแวะไปชมรีวิวกันก่อนได้เลยครับ!

รีวิว (Review) Samsung Galaxy Note 8
วิดีโอรีวิว COMMY TPG 3D กระจกกันรอยสุดแกร่งสำหรับ Samsung Galaxy Note 8
สำหรับ Samsung Galaxy Note 8 สมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดของ ซัมซุง ในปีนี้นั้นก็มาพร้อมกับหน้าจอ Infinity Display ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดถึง 6.3 นิ้ว และครอบทับด้วยกระจกหน้าจอสุดแกร่งใหม่ล่าสุดอย่าง Gorilla Glass 5 แต่เพื่อให้เราๆ ท่านๆ สามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจมากขึ้น การหากระจกกันรอยดีๆ มาป้องกันอีกชั้นก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี ล่าสุด COMMY ก็ได้ผลิตกระจกกันรอยระดับพรีเมียมรุ่น TPG 3D สำหรับ Galaxy Note 8 มาวางจำหน่ายแล้ว ซึ่งจะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามกันได้เลยครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม : รีวิว COMMY TPG 3D กระจกกันรอย Samsung Galaxy Note 8 สุดแกร่ง พร้อมเขียน S Pen ลื่น, สวยบางเฉียบ, ลดรอยนิ้วมือ และแสดงผลคมชัดสดใส!

หลังจากที่ Samsung ได้จัดงานเปิดตัว Samsung Galaxy Note 8 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของค่ายไปเมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา และเปิดให้ผู้ใช้ได้สั่งจอง (Pre-Order) กันไปแล้วในหลายๆ ประเทศ รวมถึงผู้ใช้ในไทยด้วยเช่นกัน ซึ่งระยะเวลาการเริ่มส่งสินค้าจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศ แต่ล่าสุดก็มีข่าวว่า Samsung ได้เริ่มกระบวนการจัดส่ง Galaxy Note 8 ให้กับผู้ใช้บ้างแล้ว (ที่มา : sammobile)

6 สมาร์ทโฟนเรือธง “น่าจับตามอง” ในครึ่งหลังของปี 2017 

ในช่วงครึ่งแรก (6 เดือน) ของปี 2017 ได้มีสมาร์ทโฟนเรือธงเปิดตัวหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Samsung Galaxy S8, Galaxy S8+, LG G6, HTC U11, OnePlus 5 และ Sony Xperia XZ Premium ซึ่งช่วยยกระดับสมาร์ทโฟนในตลาดโลกขึ้นไปอีกขั้น และในช่วงครึ่งหลังของปี 2017 นี้ ก็จะมีการเปิดตัวเรือธงรุ่นใหญ่อีกหลายรุ่นที่จะมาเขย่าวงการสมาร์ทโฟนอีก ดังนี้ LG V30 , Sony Xperia XZ2 , Nokia 9 , Google Pixel 2 และ Google Pixel XL 2 , iPhone 8, iPhone 7s, iPhone 7s Plus , Samsung Galaxy Note 8 (ที่มา : phonearena)




อันดับที่ 8 สมรภูมิห้าง ศูนย์การค้ายังคงเดือด เมื่อรายใหม่มา รายเก่าถึงเวลาต้อง รีโนเวทเพื่อสู้ ไม่เช่นนั้นก็รอวันตายสถานเดียว

ปีนี้เป็นปีที่เซ็นทรัลรุกหนัก ในการเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาในตจว.หรือภูมิภาค อาทิ โคราชและมหาชัย และส่วนต่อขยายของเซ็นทรัลเฟสติวัลภูเก็ต โดยเพิ่มในส่วนของศูนย์การประชุมนานาชาติ,โรงแรม 5 ดาว,อควอเรียมอีกด้วย โดยจะยึดหัวหาดเมืองหน้าด่านหรือหัวเมืองใหญ่เป็นหลัก และยังทุ่มงบประมาณรีโนเวทสาขาเก่าอย่างปิ่นเกล้า,พัทยา,บางนา และพระราม 3 ให้ดียิ่งขึ้น

ในขณะที่คู่แข่งอย่างเดอะมอลล์จะไม่มีการเปิดสาขาใหม่ในปีนี้ รอบลั๊ฟกลับในปี 2563 ถึง 2 โครงการใหญ่ก็คือ Bangkok Mall บางนา และ EmSphere เอ็มสเฟียร์ 1 ในโครงการ The Em District ซึ่งเป็นอาณาจักรห้างหรู ในย่านพร้อมพงษ์ (ซึ่งประกอบไปด้วย Emporium, Emquartier,และ EmSphere ที่จะเปิดในปี 2563 ซึ่งถ้าเปิดครบทั้ง 3 แห่งแล้ว ก็จะเป็นหมุดหมายสำคัญของอาณาจักรแฟชั่นที่ใหญ่ที่สุด ไม่แพ้ย่านสยามสแควร์-ห้างดังในกลุ่ม Siam ของกลุ่มสยามพิวรรธน์ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับกลุ่มเดอะมอลล์) นอกเหนือจากห้างในตระกูล Mall,ตระกูล Em แล้ว กลุ่มเดอะมอลล์ ยังมีห้างในตระกูล Blue Collections เพิ่มขึ้นมาอีก ปีก่อนโน้นเปิดไปแล้วคือ Blu-Port ที่หัวหิน และปีหน้าจะเปิด Blu Pearl ที่ภูเก็ตอีก 1 แห่ง คาดว่าจะมีตามมาอีก โดยจะเปิดในทำเลที่ใกล้ชายหาดหรือแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ในขณะที่จะมีการรีโนเวทสาขารามคำแหง 1 และยุบสาขารามคำแหง 2 เนื่องจากโดยเวนคืนเอาไปทำสถานีรถไฟฟ้า ทำให้จะย้ายโรงภาพยนตร์ในสาขารามคำแหง 2 ไปอยู่ที่ราม 1 แทน

ข้ามมายังกลุ่มคู่แข่งอีกกลุ่มนึงก็คือ กลุ่มเสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี กลุ่มนี้จะหันมาเน้นโครงการมิกซ์ยูซ หรืออภิมหาโปรเจ็คท์ที่รวมเอาทั้งอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า คอนโด เอาไว้ในที่เดียวกัน ซึ่งดูโดยฉายฉวย อาจจะคิดว่าโครงการศูนย์การค้าของกลุ่มเสี่ยเจริญ ไม่มีจุดโฟกัสที่ชัดเจน เมื่อเทียบกับกลุ่มเซ็นทรัล กับกลุ่มเดอะมอลล์ แต่ว่าพะยี่ห้อ เสี่ยเจริญแล้ว เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ทำ ทุกโครงการเลย ลองไปดูกันว่ามีโครงการอะไรกันบ้าง ของเดิมห้างในเครือของเสี่ยเจริญ จะมี 1.Pantip ตรงประตูน้ำกับงามวงศ์วาน 2.Asiatique ริมน้ำเจ้าพระยา ถ.เจริญกรุง 3.Gateway สยามสแควร์ 4.Boxspace รัชดา 5.Centerpoint (อยู่ในชั้น 8 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และตรงบริเวณสยามสแควร์) อันแรกเลยก็คือ ห้างในตระกูล Asiatique จะมีการขยายพื้นที่เฟส 2 ส่วนต่อขยายจากเฟส 1 เดิมริมเจ้าพระยา และจะมีการขยายโครงการนี้ไปยังตจว.ภูมิภาคด้วยในชื่อเดียวกัน อาทิ เชียงใหม่ พัทยา หัวหิน ภูเก็ต และสมุย ในขณะที่แบนด์ Gateway และ Boxspace ก็จะมีขยายไปอีก 3-4 แห่งทั้งใน กทม.และ ตจว.ด้วยเช่นกัน จะมีการรีโนเวทโครงการ Siam Centerpoint และเปิดศูนย์การค้าแบบ Pantip อีก 4 แห่ง ยังไม่ระบุว่าเป็นที่ใดบ้าง ส่วนการรีโนเวท Pantip ประตูน้ำ ได้ทำเสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว ยังไม่นับรวมห้างค้าปลีก Moderntrade อย่างบิ๊กซี ที่เสี่ยเจริญใช้เป็นหัวหอกในการรุกคืบเข้าไปตีตลาดยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียและเวียดนามอีกด้วย แต่ที่ฮือฮาเมื่อซัก 3 ปีก่อนโน้นก็คือ กลุ่มเสี่ยเจริญได้สัมปทานพื้นที่ 2 แปลงใหญ่ทำเลทองใจกลางกรุงเทพ ก็คือตรงตลาดสามย่าน จุฬา (ซึ่งเป็นของจุฬา ทรัพย์สินฯ) กับตรงบริเวณร.ร.เตรียมทหารเดิมหรือสวนลุมไนท์บาซาร์เก่า ซึ่งกลุ่มเสี่ยเจริญไปแอบเจรจาจนสำเร็จ โดยพื้นที่นี้จะถูกแปลงเป็นโครงการมิกซ์ยูซ ระดับไฮเอ็นด์ โดยใช้ชื่อโครงการว่า “One Bangkok” ที่มีโครงการครบวงจร ทั้งโรงแรม ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน และเอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งหน้าตาจะออกมาเป็นอย่างไรคงต้องรอข่าวแถลงเปิดตัวโครงการกันอีกครั้ง

ขณะที่กลุ่มเสี่ยเจริญมีโครงการมิกซ์ยูซ กลุ่มซีพี ก็มีเช่นกัน ชื่อว่า The Icon Siam ซึ่งตัวโครงการจะประกอบไปด้วยโรงแรมระดับ 6 ดาว และศูนย์การค้า ศูนย์ประชุมนานาชาติ พิพิธภัณฑ์ และศูนย์บันเทิงครบวงจร โดยจะมีอาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ และหอชมเมือง ที่ตั้งอยู่บนอาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทย คาดว่าความสูง 70 ชั้น (135 เมตร) มูลค่าโครงการกว่า 54,000 ล้านบาท ตัวที่ตั้งอยู่บนถนนเจริญนครติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ปลายปีหน้า 2561

ในปีนี้ยังมีโครงการอื่นๆ เกิดขึ้นมากมาย อาทิเช่น โครงการ Terminal21 สาขาโคราช ของคุณอนันต์ อัศวโภคิน หรือกลุ่มแลนด์แอนด์เฮ้าส์ และ The Show D.C ของกลุ่มล็อตเต้จากเกาหลีร่วมกับนักธุรกิจไทย ตัวที่ตั้งอยู่ถนนพระราม 9 ใกล้ RCA  ฯลฯ

โครงการคอมมิวนิตี้มอลล์เกิดใหม่อีกหลายแห่ง และในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในและรอบนอกเริ่มอิ่มตัว และหาพื้นที่ว่างได้น้อยลง คอมมิวนิตี้มอลล์จะเริ่มกระจายตัวออกตจว.มากขึ้น หรือเขตรอยต่อวงแหวนรอบนอก หรือตามพื้นที่แนวรถไฟฟ้า และถนนหลวงอย่างมอเตอร์เวย์ใหม่ๆ รวมถึงตามหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัดต่อไป

ในขณะที่สมรภูมิค้าปลีกขนาดย่อม เช่น Lotus รุกหนัก ทำขนาดเล็ก หรือ Lotus Express เพิ่มขึ้น เพื่อกระจายลงสู่พื้นที่ ทำเลสำคัญๆ ได้มากขึ้น ในขณะเซ็นทรัลใช้ Tops Extra เป็นหัวหอกรุกหนักท้าชนกับ Tesco Lotus Big C และ Makro ฝั่งเดอะมอลล์ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ใช้ Gourmet’s Market รุกออกนอกเดอะมอลล์ ชิงเปิดสาขาตามสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยเริ่มที่ใต้สถานีลาดพร้าวก่อน

นี่เป็นเพียงความเคลื่อนไหวบางส่วนที่สำคัญๆ ในสมรภูมิรบห้างค้าปลีก และศูนย์การค้าที่เกิดขึ้นในปี 2560 และต่อยอดไปในอีกหลายปีข้างหน้า จนผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นเมืองหลวงแห่งการช็อปปิ้ง หรือฮับของศูนย์การค้า ในภูมิภาคได้ ไม่ไกลเกินเอื้อม

บทวิเคราะห์และเรียบเรียง โดย หยิกแกมหยอก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น