วันอังคารที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เกมออฟทน (นิยายแปลง) ตอนที่ 4



จากนวนิยายแฟนตาซี/ซีรีส์อันโด่งดัง Game of Thrones มหาศึกชิงบัลลังก์ สู่การแปลงเป็นนิยายแสบๆ คันๆเรื่อง เกมออฟทน มหาศึกปากมัน ณ แดนสาระขัณฑ์

เมื่อผู้กุมอำนาจในคิงแลนด์ดิ้งถูกลูบคม และปฏิบัติการทวงแค้นเอาคืน เพิ่งเริ่มต้นขึ้น

บทสรุปในตอนท้ายของภาคที่ 1 หัตถ์ของพระราชา ก่อนจะเข้าสู่ภาคที่ 2 บัลลังก์ดาบเหล็กสั่นสะเทือน
-ธีออนเมื่อถูกจับได้ ก็ถูกแรมซีย์จับมาทรมานแบบคนโรคจิต (เฉือนอวัยวะเพศ,กระทำชำเรา,ให้คลานเหมือนสุนัข,ให้เปลี่ยนชื่อเป็นริค) และบังคับให้ธีออนปฏิญาณตนว่าจะเป็นข้ารับใช้ที่เชื่องของแรมซีย์
-เซอร์ดาวอส อัศวินข้างกายของสแตนนิส เริ่มมีความคิดเห็นต่างกับสแตนนิสในหลายเรื่อง และไม่ไว้วางใจสตรี (แม่มด) สีแดง ที่คอยยุยงให้สแตนนิสหลงงมงายในไสยศาสตร์ อาทิ จะให้จับตัวเกรนดี้ (ลูกนอกสมรสของคิงโรเบิร์ต) เอาปลิงตัวเลือดดูดเลือดของเกรนดี้ ที่มีเลือดของกษัตริย์ และทำพิธีสาปแช่งจ็อฟฟรีย์,ร็อบและบาลอน และสแตนนิสก็ทำจริง เชื่อตามแม่มดสีแดง อีกทั้งยังยอมฆ่าลูกสาวของตนเอง เพื่อเอามาทำพิธีบูชายัญต่อเทพ อ้างว่าเป็นพิธีกรรมที่จะทำให้ตนเองออกรบและได้ชัยชนะ เซอร์ดาวอสแอบช่วยเกรนดี้ให้หลบหนีออกไป สแตนนิสตัดสินใจส่งกองเรือยกพลขึ้นบกที่จะโจมตีคิงแลนด์ดิ้งแต่ก็พ่ายแพ้หมดรูป ไม่เป็นท่าต่อกลศึกของทีเรียน ที่ในขณะนั้นยังสวมตำแหน่งหัตถ์ของพระราชาอยู่ 

บรรดาครอบครัวสตาร์คที่เหลือ ชะตากรรมรายตัวเป็นอย่างไรกันบ้าง
-เน็ด แคทลิน ร็อบบ์ เสียชีวิตไปหมด จากผู้บงการอยู่เบื้องหลัง ที่แท้ก็คือตระกูลแลนนิสเตอร์ ในตอนแรกแคทลินกล่อมจนร็อบบ์ยอมใจอ่อนเพื่อเห็นแก่งานใหญ่ จนร็อบบ์ยอมรับเงื่อนไขที่จะแต่งงานกับลูกสาวของวัลเดอร์เฟรย์แล้ว แต่พอถึงคืนวันสมรสจริง วัลเดอร์เฟรย์กลับหักหลังโดยร่วมหัวกับรูสโบลตัน สังหารครอบครัวสตาร์คในงานจนหมดสิ้น เพื่อที่จะไปเข้าร่วมกับฝ่ายแลนนิสเตอร์  
-ซานซ่า ถูกถอนหมั้นจากจ็อฟฟรีย์ ตอนแรกมาเจอร์รี่ที่เริ่มสนิทกับซานซ่า ได้ทาบทามให้ซานซ่าเป็นคู่หมั้นกับพี่ชายของตนก็คือ เซอร์ลอรัส แห่งตระกูลไทเรล แต่พอไทวินเดินทางเข้าสู่คิงแลนด์ดิ้ง กลับเข้ามาแทรกแซงจัดการให้ซานซ่าแต่งงานกับทีเรียน ลูกชายของตนแทน แล้วไทวินยังจัดแจงทาบทามมาเจอร์รี่ผ่านทางคุณย่าโอเลนน่า ให้มาเจอร์รี่อภิเษกสมรสกับคิงจ็อฟฟรีย์ พระนัดดาของตนด้วย ทีเรียนจำยอมต้องแต่งกับซานซ่า เพื่อปกป้องเธอจากจ็อฟฟรีย์ ในขณะที่เช หญิงโสเภณีคนรักของทีเรียนน้อยใจ ที่ทีเรียนจะไม่รัก ทีเรียนปลอบใจ และพูดให้เธอเข้าใจ และยินยอมเป็นหญิงรับใช้ให้กับซานซ่า  
-อาร์ย่า อุตส่าห์หนีออกจากคิงแลนด์ดิ้ง มาได้ก็มาเจอกับ เดอะฮาวน์ อดีตองครักษ์ของจ็อฟฟรีย์ที่หนีทัพจากคิงแลนด์ดิ้งมา โดยเดอะฮาวน์ต้องการพาอาร์ย่าไปหาไลซ่า ทัลลี ที่แคว้นแอรินต่อไป
-แบรน กับริคค่อน 2 ลูกชายคนเล็กของครอบครัว ก็หลบหนีจากวินเทอร์เฟล จากการตามล่าของกองกำลังทหารของตระกูลโบลตันกับเกรย์จอย และได้รับการช่วยเหลือจากคนนอกกำแพงอย่างโฮดอร์ และโอชา จึงหนีมาได้ แต่แบรนมักฝันเห็นหรือมีนิมิตเห็นอีกา 3 ตา ซึ่งเป็นผู้ล่วงรู้แห่งพงไพร มาบอกเกี่ยวกับภัยร้ายของเหมันตภูติหรือ White Walker ทางเดียวก็คือแบรนจะต้องเดินทางไปรับพลังจากเขา (อีกา 3ตา) ทำให้แบรนต้องแยกเดินทางกับริคค่อน เพราะกลัวว่าน้องจะไม่ปลอดภัย และไม่ต้องการให้เป็นตัวถ่วงซึ่งกันและกัน ริคค่อนจึงแยกไปกับบริวารอีก 2 คนที่เพิ่งพบกันระหว่างทาง
-จอน สโนว์ ออกจากผากำแพงไปกับแซม,เอ็ดเพื่อนซี้กันในหน่วยพิทักษ์ราตรีออกไปทำภารกิจ แต่พลัดหลงกับพวกไปเจอกับเหล่าคนเถื่อนนอกกำแพง ทำให้จอนได้รู้จักกับอีกลิต ซึ่งเธอเป็นสาวงามในกลุ่มคนเถื่อน เธอพาจอนไปรู้จักกับหน.คนเถื่อน ทำให้จอนไปเข้าพวก แต่พวกคนเถื่อนต้องการเล่นงานหน่วยพิทักษ์ราตรี ทำให้จอนพยายามโน้มน้าวคนเถื่อนให้สามัคคีกับหน่วยพิทักษ์ราตรี เพราะเมื่อฤดูหนาวมาถึงจะได้รวมกันต่อกรกับเหมันตภูติ หรือ White Walker ได้ แต่คนเถื่อนไม่ฟัง ทำให้จอนต้องหลบหนีออกมา ทำให้อีกลิตแค้นเคืองที่จอนหักหลัง เมื่อจอนหนีกลับมาที่หน่วยพิทักษ์ราตรีก็โดนตั้งกรรมการสอบสวนความผิด ที่ไปเข้ากับคนเถื่อน ทำให้จอนต้องพิสูจน์ความภักดีต่อหน่วย จนทุกคนยอมรับเขา

บรรดาครอบครัวแลนนิสเตอร์ ความเป็นไปล่าสุดเป็นดังนี้
-ไทวิน เมื่อเดินทางมาถึงคิงแลนด์ดิ้ง ก็สั่งปลดทีเรียน ออกจากตำแหน่งหัตถ์ของพระราชา และสถาปนาตนเองเป็นหัตถ์พระราชาแทน เพื่อดูแลจ็อฟฟรีย์
-เซอร์ซี เริ่มไม่พอใจที่ทีเรียน พยายามเป็นฝ่ายค้านในรัฐสภา และเห็นแย้งกับตนทุกเรื่อง
-เจมี่ กับบริแอนน์ ถูกทหารของตระกูลโบลตันจับตัวไป และเจมี่ถูกตัดข้อมือขวาขาด เป็นการลงโทษ ส่วนบริแอนน์ถูกบังคับให้สู้กับหมีป่าตัวใหญ่ แต่เธอเอาชนะและหนีเอาตัวรอดออกมาได้
-จ็อฟฟรีย์กับทีเรียน  จะมีชะตากรรมเป็นเช่นไร กำลังจะเข้าสู่เนื้อหานี้ไปพร้อมกัน




เกมออฟทน (ภาคที่ 2 บัลลังก์ดาบเหล็กสั่นสะเทือน) องก์ที่ 4 ฉากที่ 1 งานเลี้ยงฉลองพิธีสมรสของจ็อฟฟรีย์กับมาเจอร์รี่
จ็อฟฟรีย์  “ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมในงานเลี้ยงอภิเษกสมรสของข้าพเจ้ากับเจ้าหญิงมาเจอร์รี่ ราชินีคนใหม่ของข้า”
มาเจอร์รี่  “ขอบพระทัย เพค่ะ ที่ทรงให้เกียรติต่อหม่อมฉัน”
ไทวิน  “มา มาร่วมดื่มฉลองเป็นเกียรติต่อคิงจ็อฟฟรีย์ และราชินีมาเจอร์รี่ เชียร์.....”
ทีเรียน  “เชอะ....ตอนแต่งกับซานช่า ก็พูดแบบนี้ ไดอะล็อกเหมือนกันเดี๊ยะ กูชักเบื่อบทน้ำเน่าแบบนี้จริงๆ”
ลอร์ดวาเรียส  “นี่ท่านนินทาดังไปหน่อยมั๊ย”
ทีเรียน “ใครจะได้ยินก็ช่าง แล้วจะทำไม ทุกคนควรรับความจริงได้ อย่ามาเสแสร้ง จะให้ถอดหน้ากากทีละคนเลยมั๊ย”
โอเบอริน (เจ้าชายแห่งดอร์น ที่เสด็จมาในงานพิธีอภิเษกสมรสของคิงจ็อฟฟรีย์ กับมาเจอร์รี่แห่งไทเรล ในฐานะพระอาคันตุกะของแลนนิสเตอร์)  “ไม่น่าเชื่อ คนในตระกูลแลนนิสเตอร์ จะมีคนพูดความจริงด้วย”
ทีเรียน  :   “ก็บอกแล้วว่า ผมเป็นคนจริงใจ ดีก็ว่าดี ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่เคยเสแสร้ง”
โอเบอริน  “ผมจะเว้นคุณไว้ซักคน นอกนั้นผมจะไม่ถือว่าเป็นมิตรแท้ของผม”
คุณย่าโอเลนน่าแห่งไทเรล  “เอ้า....แล้วคุณย่าหล่ะ จะถือเป็นมิตรแท้ได้มั๊ย”
โอเบอริน  “เป็นสิครับ ที่ผมเดินทางมาคิงแลนด์ดิ้งนี้ ก็เพราะให้เกียรติต่อตระกูลไทเรล จึงได้ยอมมาในฐานะอาคันตุกะ หาไม่แล้ว จะไม่มาเหยียบคิงแลนด์ดิ้งให้เสียพระบาทหรอก”

จากนั้นทุกคนต่างตกตะลึงพรึงเพริด เมื่อจ็อฟฟรีย์ลุกขึ้น ตะโกนร้องจนขาดใจ พระพักตร์เปลี่ยนเป็นแดงก่อนจะซีดเหลือง และมีพระโลหิตทะลักออกมาจากพระนาสิก “คิงจ็อฟฟรีย์ถูกวางยาพิษ”  ทหารและบริวารตะโกน  เซอร์ซีตะโกนบอกให้ทหารเข้าไปอู้มคิงจ็อฟฟรีย์ ร่ำร้องใคร่ครวญด้วยความเสียพระทัย และให้รีบหาตัวการที่เป็นคนวางยาพิษ  เซอร์ซีกวาดตามองไปที่คนรอบข้าง และสายตาที่จ้องเขม็งเกลี่ยวมาที่ทีเรียนและซานซ่าในทันที โดยเฉพาะทีเรียนเป็นคนรินไวน์ให้กับจ็อฟฟรีย์คนล่าสุด และเป็นที่รู้กันว่าทีเรียนกับซานซ่าไม่ชอบพอจ็อฟฟรีย์เท่าไหร่นัก เพราะจ็อฟฟรีย์มักเหยียบย่ำน้ำใจ และทำให้ซานช่ากับทีเรียนเสียหน้า หรือทำให้ดูเหมือนเป็นตัวตลกในสายตาของคนในคิงแลนด์ดิ้งเสมอ  เมื่อทีเรียนกลายเป็นผู้ต้องสงสัย เขาจึงถูกจับกุม เพื่อรอการสอบสวน ส่วนซานซ่าได้รับการช่วยเหลือจากลอร์ดปีเตอร์เบลิซหลบหนีไปจากคิงแลนด์ดิ้ง เพื่อไปหาน้าสาวของเธอ ไลซ่า แอริน (ทัลลี) อยู่ที่ปราสาทเอียรี่ (จริงๆ แล้วปีเตอร์เบลิซ จำเป็นต้องหนี ไม่ใช่เพราะต้องการช่วยซานซ่าหนีเท่านั้น แต่เขาคือคนที่บงการวางยาพิษจ็อฟฟรีย์โดยร่วมมือกับคุณย่าโอเลนน่า เพียงแต่ในตอนนี้ ไม่มีใครในคิงแลนด์ดิ้งสงสัย เพราะทุกคนพุ่งความสงสัยไปที่ทีเรียนคนเดียว


เกมออฟทน (ภาคที่ 2 บัลลังก์ดาบเหล็กสั่นสะเทือน) องก์ที่ 4 ฉากที่ 2  เจ้าชายโอเบอริน แห่งตระกูลมาร์แตล เจ้าชายแห่งแคว้นดอร์น  ผู้ประกาศว่าจะชำระแค้นตระกูลแลนนิสเตอร์
เจ้าชายโอเบอริน เดินทางมายังคิงแลนด์ดิ้งในฐานะอาคันตุกะเพื่อมาร่วมในพิธีอภิเษกสมรสระหว่างคิงจ็อฟฟรีย์แห่งแลนนิสเตอร์กับมาเจอร์รี่ แห่งไทเรล แต่การมาเยือนคิงแลนด์ดิ้งในครั้งนี้ เขายงต้องการมาสืบคดี และหาเบาะแส เพื่อจะเล่นงานตระกูลแลนนิสเตอร์อีกด้วย
โอเบอริน “เปิดห้องเลย ฉันจะนอนในโรงแรมนี้”   โอเบอรินเดินเข้าไปในสถานนางโลม และไล่แขกที่กำลังนั่งดริ๊งค์อยู่ในร้านออกหมด เพื่อเขาจะนั่งกินเพียงคนเดียวกับสาวคนสนิทผู้ติดตามมาด้วย
2 หนุ่มที่เป็นอัศวินเครือญาติในตระกุลแลนนิสเตอร์กำลังนั่งเคลียคลอกับเด็กนั่งดริ๊งค์ ก็ถูกไล่ด้วย ทั้ง 2 คนไม่พอใจ จะเอาเรื่อง แต่ก็ถูกโอเบอรินทำร้าย จนเกือบจะเสียชีวิต ดีว่าพ่อเล้าหนุ่มรูปงามได้เข้ามาห้าม และขอชีวิตแขกทั้ง 2 คนเอาไว้  โอเบอรินจึงยอมยุติ
โอเบอริน “เจ้าเป็นเด็กขายด้วยหรือเป็นเจ้าของสถานนางโลมแห่งนี้”
พ่อเล้าหนุ่ม  “กระหม่อมเป็นได้ทั้ง 2 สถานะ พะยะค่ะ สุดแล้วแต่ฝ่าบาทจะ.....”
โอเบอริน กระชากเสื้อของพ่อเล้าหนุ่มรูปงามออกหลุดจากตัว เผยให้เห็นหุ่นล่ำๆ และกล้ามสวยงาม  โอเบอรินหันไปเปรยยิ้มเล็กน้อยกับหญิงสาวคนสนิทผู้ติดตาม
โอเบอริน “โอเค ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวตามไปที่ห้อง ฉันจะขอเปิดห้องนอนที่นี่ซักคืน”  
  

เมื่อโอเบอรินระลึกชาติได้ว่าตนเองคือนักธุรกิจหนุ่มที่มีความเฉลียวฉลาด เป็นนักค้าเก็งกำไรหุ้นและอสังหาริมทรัพย์ระดับมือเซียนที่หนีคดีแชร์ชาร์เตอร์ไปอยู่เยอรมัน สวิตเซอร์แลนด์ นิวยอร์ก ลอนดอน และมาเลเซีย โดยมีธุรกิจร้านเป็ดย่างอันลือชื่ออยู่ที่ลอนดอน การกลับมาที่สาระขัณฑ์ในหนนี้เขาจึงมีหลักฐานและกำลังเงินที่พร้อมจะแฉ กลโกง และปะฉะดะกับตระกุลคนดังคู่ปรับอย่างไม่เกรงกลัว
ความแค้นเดิมของโอเบอรินที่มีต่อตระกูลแลนนิสเตอร์ก็คือ ไทวิน แลนนิสเตอร์ นั้นเป็นผู้รับคำสั่งโดยตรงจาก Mad King ให้ประหาร Elia Martell (พี่สาวของโอเบอริน) อย่างโหดเหี้ยม โดยคนที่เป็นมือสังหารก็คือ เซอร์เกรจอร์ คลีแกน หรือ อัศวิน “The Mountain” ซึ่งทำเกินคำสั่งไปเยอะเพราะยังข่มขืน Elia และฆ่าลูกทั้งสองของ Elia พี่สาวของโอเบอรินอีกด้วย
ความแค้นเดิมของโอเบอรินที่มีต่อตระกูลดัง ก็คือ การเปิดโปงคดี ว.5 โฟร์ซีซั่น, เกาะสวาทหาดสวรรค์ที่มัลดีฟต์, เคยไล่ออกน้องสาวของตระกูลดังเมื่อครั้งที่เคยทำงานอยู่ใกล้ตัวให้ออกจากบริษัท, การเปิดโปงธุรกรรมอำพรางยักย้ายถ่ายเทหุ้น โอนหุ้น ปั่นหุ้นของหุ้นในเครือตระกูลดัง

เกมออฟทน (ภาคที่ 2 บัลลังก์ดาบเหล็กสั่นสะเทือน) องก์ที่ 4 ฉากที่ 3 ห้องโถงราชสำนัก บัลลังก์ดาบเหล็ก
เมื่อจ็อฟฟรีย์เสียชีวิตลง ไทวินก็รีบติดต่อขอเจรจากับโอเบอริน เพื่อเป็นพันธมิตร ขอให้เลิกเป็นศัตรูกัน และเสนอแต่งตั้งโอเบอรินเป็น 1 ในคณะตุลาการ เพื่อสอบสวนความผิดทีเรียน คดีลอบปลงพระชนม์จ็อฟฟรีย์ โดยไทวินจะเป็น ประธานตุลาการผู้พิพากษาเอง  โอเบอรินตอบตกลง แม้จะรู้ว่านี่เป็นเพียงเกม แต่เขาก็ยอมเสี่ยงที่จะเล่นอยู่ในเกมนี้
ไทวิน ลึกๆ ก็ไม่อยากจะเชื่อว่าลูกชายของตนอย่างทีเรียน จะเป็นคนลงมือวางยาพิษหลานแท้ๆ ของตน ทีเรียนนั้นปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ในเมื่อคดีนี้ จำเป็นต้องมีคนที่รับผิดชอบ เขาจึงจำต้องไต่สวนไปตามครรลอง ตามพิธี และพยายามหาทางออกที่ดี เพื่อช่วยเหลือทีเรียน ไม่ให้ต้องถูกประหารชีวิต จึงเสนอแนวคิดที่จะรอมชอมกันระหว่างเซอร์ซี่กับทีเรียน ลูกของตนทั้งคู่ แต่ไม่สำเร็จ
ไทวิน  :  “นี่ไม่ใช่การตัดสินคดีคนแคระ
ทีเรียน  :  “กูถูกตัดสินว่าเป็นคนแคระตั้งแต่กูเกิดมาแล้วและถึงตัวเองจะไม่ได้เป็นคน ฆ่า คิงจอฟฟรีย์ แต่ก็อยากจะเป็นคนทำเองเหลือเกิน
ทีเรียน  :  “ถ้ากูได้เป็นคนฆ่าเองละก็คง ฟินกว่าได้ตีกระหรี่ พันคนซะอีก!!”  เมื่อการไต่สวน ไม่ได้ผล จำเลยยืนยันเสียงแข็ง ว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำ และหลักฐานก็สาวไปไม่ถึงอย่างชัดเจน
ทีเรียนจึงเสนอวิธีแบบโบราณ คือให้มีการประลองกัน โดยต่างฝ่ายต่างส่งมือดี มาต่อสู้กันแบบตัวต่อตัว หากใครแพ้เป็นอันยุติ คือถ้าฝ่ายของเซอร์ซีแพ้ จะต้องยกประโยชน์ให้จำเลย คือปล่อยทีเรียน แต่ถ้าฝ่ายของทีเรียนแพ้ เขาจะต้องถูกประหารชีวิต ฝ่ายของเซอร์ซีเลือกเซอร์เกรจอร์ คลีแกน หรือ The Mountain เป็นตัวแทนฝ่ายตน ในขณะที่ทีเรียน อยากจะเลือกบรอนน์ อัศวินข้างกายที่มารับใช้ แต่พอรู้ว่าต้องต่อสู้กับ The Mountain เพื่อนของตนเอง ก็ขอบาย ชิงหลบหนีหายตัวไปก่อน ดีว่าเจ้าชายโอเบอริน ขอเสนอตัวลงสู้ในนามฝ่ายทีเรียน เพราะมีความแค้นฝังหุ่นอยู่กับ The Mountain อยู่ก่อนแล้ว และนี่จะถือเป็นโอกาสได้ชำระแค้นส่วนตัวไปด้วยในตัว



เกมออฟทน (ภาคที่ 2 บัลลังก์ดาบเหล็กสั่นสะเทือน) องก์ที่ 4 ฉากที่ 4 ลานต่อสู้ บริเวณโคลอสเซียมของคิงแลนด์ดิ้ง การประลองระหว่าง The Mountain vs เจ้าชาย Oberlyn
The Mountain เลือกจะใช้ดาบอัศวิน ส่วนโอเบอรินใช้ทวน  โอเบอรินวาดลวดลายการต่อสู้ด้วยทวนอย่างแคล่วคล่องราวกับสำเร็จวิทยายุทธมาจากหยวนวูปิง (ผู้กำกับคิวบู๊ชื่อดังและ action coach ให้กับเขาจริงๆในการถ่ายทำซีรีส์เกมออฟโทน)  ลีลาฟาดทวนเขากระหน่ำโจมตี The Mountain อย่างไม่ยั้ง หลายกระบวนท่า ทำให้ดูเหมือน The Mountain จะเพลี่ยงพล้ำแล้ว เพราะถูกทวนของ โอเบอรินแทงเข้าที่ช่องท้องจนล้มหงายไปกองกับพื้นแล้ว ท่ามกลางสายตาของผุ้ชมทั้งฝ่ายของเซอร์ซี และฝ่ายของทีเรียน ทุกคนต่างส่งเสียงกรีดร้องทุกครั้งที่ มีการฟาดฟันเข้าถึงเนื้อถึงตัว เลือดกระเซ็น บาดทะลัก โอเบอริน มัวทำท่าเก๊กท่า ดูเหมือนถ้าเขามีโทรศัพท์มือถือในตอนนี้ก็คงจะถ่ายเซลฟี่ตัวเองกับศพของ The Mountain ที่นอนหายใจรวยรินอยู่ที่พื้นจมกองเลือด แต่เขาชะล่าใจเกินไป ไม่รีบชิงลงมือปลิดชีพสังหาร The Mountian ให้มรณภาพไป กลับถูก The Mountain เตะตัดขาจนล้มลง โอเบอรินที่กำลังชะล่าใจ ได้ใจไม่ทันระวังตัวจึงพลาดท่าล้มลง และถูก The Mountain ใช้ 2 มืออันใหญ่หนา แข็งดุจหิน ใช้เล็บมือกดเข้าที่เบ้าตาของโอเบอรินทั้ง 2 ข้าง และกดใบหน้าของโอเบอรินจนแหลกละเอียด ราวกับผลแตงโมแตกทะลัก สิ้นชีพ สิ้นชื่ออย่างน่าอนาถ ท่ามกลางเสียงกรีดร้อง ของคนดูที่อยู่บนอัศจรรย์ของโคลอสเซียม สภาพดูน่าเศร้าและหดหู่มาก ทีเรียนกับคุณย่าโอเลนน่า แทบหลบสายตา ไม่อยากหันไปมอง ในขณะที่เซอร์ซียิ้มด้วยความสะใจ
การตายของเจ้าชายโอเบอริน ขจรขจายไปทั่วเวสเทอรอส ถูกกระจายไปลงใน นสพ.กระจอกข่าวในทุกสำนักสายลับ ถึงการพบสภาพศพตายอนาถ นอนขึ้นอืด เป็นการถูกหลอกไปอุ้มฆ่า โดยคนมีสี ที่เป็นมือสังหาร โดยใช้นกต่อก็คือไอ้บอลคนขับรถ หลอกพาไปให้ทีมสังหารอุ้มฆ่า จากนั้นนำศพไปอำพรางอยู่ในป่า
การสอบสวนคดีของโอเบอรินต้องยุติคดีไป เนื่องจากญาติพี่น้อง ไม่ต้องการสืบสวนเอาความต่อไปถึงผู้บงการฆ่าต่อ เนื่องจากเกรงว่าจะเจอตอ


ขอจบองก์ที่ 4 แต่เพียงเท่านี้




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น