เกมออฟทน (ภาคที่ 1 หัตถ์ของพระราชา) องก์ที่ 2 ฉากที่ 1 ที่บ้านของครอบครัวสตาร์ค ณ วินเทอร์เฟล
เมื่อกองทัพฝ่ายพันธมิตร ถูกสลายการชุมนุม
และใบสั่งตามเช็คบิลรายบุคคล
แคทลิน : “ลูกแม่เป็นอย่างไรบ้าง
คุณหมอ แบรนจะหายเป็นปกติมั๊ย”
หมอหลวงประจำตระกูล : “คุณชายร่วงหล่นมาจากปราสาทหอคอยที่สูงมาก
ร่างหล่นกระแทกลงสู่พื้น ดีว่ากระทบกระเทือนเพียงช่วงล่าง แต่อาจพิการเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิตครับ
พระมเหสี”
แคทลิน : “ปกติแบรน
ไม่ใช่เด็กดื้อเด็กซนอะไรเช่นนั้น
ฉันไม่มีทางเชื่อว่าเขาจะปีนขึ้นไปเล่นบนต้นไม้สูงโดยลำพัง และการตกจากปราสาทคอคอยสูงที่จุดเกิดเหตุ
ก็ใกล้กับปราสาทของราชินีเซอร์ซี เป็นไปได้มั๊ยว่าแบรน
จะถูกผลักตกลงมาจากช่องหน้าต่าง”
หมอหลวงประจำตระกูล : “มีความเป็นไปได้ทั้งหมดครับ
ฝ่าบาท แต่เราไม่มีพยานหลักฐาน ไม่มีใครสามารถเป็นพยานได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณชาย
ตอนนี้คงได้แต่รักษาไปตามอาการ พะยะค่ะ”
ทหารเดินเข้ามาแจ้งต่อพระมเหสีแคทลินว่า คุณนายบริแอนน์
จะขอเข้าพบ พระมเหสีจึงได้ออกไปจากห้องนอนของแบรน และออกไปพบกับบริแอนน์
อัศวินหญิงคนสนิทของลอร์ดเรนลี ซึ่งเป็นน้องชายของคิงโรเบิร์ต
บริแอนน์ : “พระมเหสี
เราจะนัดไปรวมพลกันวันที่ 7 ตุลา
เพื่อไปชุมนุมกันต่อต้านอำนาจของจอฟฟรีย์ ที่จะเสด็จขึ้นครองราชย์แทนคิงโรเบิร์ต
ที่เพิ่งสิ้นพระชนม์ไปด้วยถูกหมูป่าแทงเข้าที่ช่องท้อง จนเป็นบาดแผลฉกรรจ์ติดเชื้อ
ทนพิษบาดแผลไม่ไหว สิ้นพระชนม์ไปกลางดึก จากนั้นราชินีเซอร์ซี่รีบรวบรัดอำนาจ
สั่งการให้สภาเสนอชื่อแต่งตั้งรัชทายาทองค์โต จอฟฟรีย์ ขึ้นครองราชย์แทน
โดยไม่ฟังคำทักท้วงจากท่านลอร์ดเนด (นายกรัฐมนตรี) ของเราเลย งานนี้
พวกเราจึงยอมไม่ได้ ที่จะยินยอมให้บ้านจันทร์ส่องหล้า เข้ามารวบอำนาจไปอยู่ในมือของพวกมัน
อีกทั้งจอฟฟรีย์ มิเพียงเป็นนอมินีของตระกูลแลนนิสเตอร์ แต่มันยังเป็นเชื้อชั่วที่ไม่มีสิทธิ์และความชอบธรรม
ที่จะได้ครองบัลลังก์อีกด้วย”
แคทลิน : “เอาเถอะ
แล้วจะมีใครมาบ้างหล่ะ”
บริแอนน์ : “ฝ่ายพันธมิตรของเรา
จะประกอบไปด้วยกองทัพของท่านลอร์ดสแตนนิส กองทัพของลอร์ดเรนลี
(ฝ่ายเดียวกับบริแอนน์)
กองทัพของตระกูลบอลตัน
กองทัพของตระกูลเฟรย์ กองทัพของตระกูลเกรย์จอย
และตระกูลไทเรล (ที่พระชายาและพี่ชายสนิทสนมอยู่กับลอร์ดเรนลี) และกองทัพของตระกูลทัลลี
เมื่อรวมกันเราจะสามารถโค่นล้มฝ่ายที่กุมอำนาจอยู่ในคิงแลนด์ดิ้งได้สำเร็จ
โดยเราจะชูให้คุณชายร็อบบ์ ลอร์ดแห่งวินเทอร์เฟล ขึ้นเป็นคิงออฟเวสเทอรอสแทน”
เกมออฟทน (ภาคที่ 1 หัตถ์ของพระราชา) องก์ที่ 2 ฉากที่ 2 บริเวณรัฐสภา ท้องพระโรง คิงแลนด์ดิ้ง
ในวันที่ 7 ตุลา
กองทัพของเหล่าบรรดาพันธมิตรทุกฝ่ายต่างมาชุมนุมกันอยู่หน้ารัฐสภาของวินเทอร์เฟล
ที่ซึ่งจอฟฟรีย์จะต้องเข้าไปสาบานตน รวมถึงแถลงการณ์
และรับตำแหน่งกษัตริย์พระองค์ใหม่ของเวสเทอรอส กองทัพของราชสำนักคิงแลนด์ดิ้งที่กุมอำนาจอยู่ต้องเผชิญการต่อต้านจากกองทัพฝ่ายพันธมิตรที่อยู่ภายนอก
เกิดการต่อสู้กัน เพื่อขัดขวางไม่ให้จอฟฟรีย์ขึ้นครองราชย์ เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง
ทีเรียน : “พวกท่าน
นี่ข้างนอกเขากำลังจะฆ่ากันตาย เป็นสงครามเลือดกันอยู่ข้างนอกเนี่ย
พวกท่านยังปรีด์เปรม มีหน้ามาเฉลิมฉลองให้กับการขึ้นครองราชย์อยู่อีกเหรอ จะไม่ออกไปดูดำดูดีราษฏรข้างนอกบ้างเลยเหรอ”
ทีเรียนเป็นเชื้อพระวงศ์เพียงคนเดียวของราชสำนัก และในพระราชพิธีราชาภิเษก
ที่ออกมาค้านการขึ้นครองราชย์ของจอฟฟรีย์ และยังท้วงติงว่าตอนนี้
ข้างนอกกำลังมีเรื่องปะทะกันอยู่ ให้หยุดหรือเลื่อนพิธีออกไปก่อน และให้ฝ่ายผู้กุมอำนาจออกคำสั่งให้กองทัพอัศวินยุติการสลายการชุมนุมที่อยู่ด้านนอกรัฐสภาโดยด่วน
แต่หามีใครฟังไม่
เซอร์ซี : “จะสนใจไปทำไม
ตอนนี้เรากำลังอยู่ในพิธีสถาปนาคิงคนใหม่ ในฐานะหัตถ์ของพระราชา คนใหม่ ขอให้ท่านอย่าเสียมารยาทด้วย
พิธีการจะต้องดำเนินต่อไป”
จอฟฟรีย์ : “ข้าขอบพระคุณทุกท่าน
ที่มาอยู่ร่วมเป็นเกียรติให้ข้าในวันนี้ ข้าขอสาบานตนว่าจะเป็นกษัตริย์ที่ดี
ของชาวประชาเวสเทอรอสสืบไป มาร่วมดื่มฉลองกัน เชียร์”
บรรดาขุนนางและเชื้อพระวงศ์ “ขอให้คิงจอฟฟรีย์จงเจริญ ๆ ๆ”
โดยที่ไม่ใครคาดคิด ฝ่ายราชสำนักใช้แก๊สน้ำตาที่หมดอายุแล้ว
ระดมยิงใส่กองทัพของฝ่ายพันธมิตรจนแตกกระเจิงกันไปคนละทิศคนละทาง
เนื่องจากเป็นอาวุธร้ายแรง และไม่คาดคิดว่าจะถูกนำมาใช้ในการสลายการชุมนุม
และไม่แจ้งเตือนล่วงหน้า ไม่มีการเจรจา แม้ว่ากองทัพของทางฝ่ายพันธมิตรจะส่งทูตมาขอเจรจาสงบศึก
ก็ไม่เป็นผล การถูกระดมยิงด้วยอาวุธทีทันสมัยและรุนแรงกว่า
ทำให้กองทัพของฝ่ายพันธมิตรบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก แม้จอฟฟรีย์จะได้รับการสถาปนาเข้าพิธีสวมมงกุฎเป็นกษัตริย์และได้รับการรับรองจากสภาจนเสร็จสิ้นแล้วก็ตาม
เหล่าบรรดาอัศวินของราชสำนัก ที่อ้างตนว่าเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ของเวสเทอรอสก็ยังไม่รามือจากการระดมยิงเข้าสลายการชุมนุมนี้
ตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ จนทัพของฝายพันธมิตรต้องปราชัยแตกพ่าย
และสูญเสียชีวิตไพร่พลและคนที่รักไปเป็นจำนวนมาก
“ยิงมันเข้าไป เอาให้ตาย มันทนได้ ทนไป”
“พี่อัศวินครับ ผมขอชีวิตด้วย ผมยอมแพ้แล้ว”
เกมออฟทน (ภาคที่ 1 หัตถ์ของพระราชา) องก์ที่ 2 ฉากที่ 3 ที่แคมป์กระโจมรวมพลของตระกูลสตาร์ค
ทางด้านบริแอนน์ กับแคทลินยังเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
และตกตะลึงเมื่อเห็นชะตากรรมของเพื่อนๆพี่น้องต้องสูญเสียแขนขาด ขาขาด
จากพิษสงของแก๊สระเบิดจำนวนหลายลูก ราวกับทำสงครามแย่งชิงเมืองมิหนำซ้ำยังต้องมาเผชิญเหตุซึ่งหน้า
กับการเสียชีวิตของลอร์ดเรนลี่ ซึ่งถูกภูตผีพรายลอบทำร้ายแทงเข้ากลางพระอุระของลอร์ดเรนลีจนสิ้นพระชนม์ไปต่อหน้าต่อตา
ตอนแรกทุกคนยังตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก แต่พอตั้งสติได้
ทุกคนพอจะล่วงรู้ว่าที่แท้เป็นฝีมือของลอร์ดสแตนนิส ที่หักหลังพวกเดียวกัน อาศัยนางแม่มดแดง
ส่งภูตผีพรายมาลอบทำร้ายลอร์ดเรนลี (พระอนุชาของตนเอง) จนเสียชีวิต
ตอนนี้สถานการณ์ของฝ่ายพันธมิตรดูจะเลวร้ายลง
เพราะบรรดาแนวร่วมพันธมิตรต่างแตกกระสานซ่านเซ็น ไปกันคนละทิศละทาง
โดยฝ่ายของลอร์ดสแตนนิส ไปตั้งตัวเป็นพระราชาอยู่ที่ดราก้อนสโตนแทน
ทหารบางส่วนของลอร์ดเรนลี่แปรภักดิ์ไปเข้าร่วมกับลอร์ดสแตนนิสเป็นส่วนใหญ่
แต่บริแอนน์ขอมาติดตามเป็นข้ารับใช้ให้กับตระกุลสตาร์คของลอร์ดร็อบสตาร์ค
ที่ตั้งตนเป็นราชันย์แห่งแดนเหนือ อยู่ที่วินเทอร์เฟลเช่นกัน
เวลาต่อมาจิมมี่ แลนนิสเตอร์ ถูกบริแอนน์จับตัวได้
และนำตัวไปมอบให้กับแคทลินและร็อบบ์
เพื่อแก้แค้นที่สืบทราบว่าเขาเป็นคนผลักแบรนตกจากช่องหน้าต่างของปราสาทหอคอยที่คิงแลนด์ดิ้งจนต้องพิการ
และเขายังเป็นฝ่ายเดียวกับคิงจ็อฟฟรีย์ บริแอนน์ขอให้แคทลินสั่งประหารชีวิตจิมมี่เสีย
แต่แคทลินไม่เห็นด้วย โดยออกอุบายว่า จะใช้เจมี่เป็นตัวประกัน
เพื่อแลกกับการขอคืนซานซ่าและอาร์ย่า บุตรสาวของตนทั้ง 2 คนที่เวลานี้ถูกควบคุมตัวอยู่ในคิงแลนด์ดิ้งในฐานะตัวประกัน
โดยซานซ่ากลายเป็นคู่หมั้นจอฟฟรีย์ตั้งแต่ยังไม่ขึ้นครองราชย์
ในขณะที่อาร์ย่ากลับหนีรอดออกมาจากคิงแลนด์ดิ้งได้สำเร็จ
โดยถูกเหล่าอัศวินตามล่าตัวอยู่ และไม่มีใครรู้ว่าเวลานี้เธออยู่ที่ไหน
เกมออฟทน (ภาคที่ 1 หัตถ์ของพระราชา) องก์ที่ 2 ฉากที่ 4 ณ คิงแลนด์ดิ้ง ราชอาณาจักรเวสเทอรอส
บริแอนน์ปฏิบัติตามคำแนะนำของแคทลิน ควบคุมตัวเจมี่ไปส่งยังคิงแลนด์ดิ้งหวังว่าจะใช้เงื่อนไขขอแลกเปลี่ยนตัวเจมี่กับ
2 บุตรสาวตระกูลสตาร์คคืน แต่เมื่อมาถึงคิงแลนด์ดิ้งกลับไม่เป็นเช่นนั้น
เจมี่พอได้รับการปล่อยตัว แต่ทางฝ่ายเซอร์ซี่และคิงจอฟฟรีย์ไม่ยินยอมคืนซานซ่าให้
ส่วนอาร์ย่าไม่อยู่แล้ว คิงจอฟฟรีย์พอได้ขึ้นครองราชย์แล้วก็เขี่ยซานซ่าทิ้ง
อ้างว่าเธอเป็นเพียงของเล่นที่ไม่มีค่า และย่ำยีเธอทุกวิถีทาง แถมยังคอยพูดจาถากถาง
เยาะเย้ยเธอที่เนด บิดาของตนถูกตนเองสั่งประหารชีวิตไปแล้ว
ตระกูลแลนนิสเตอร์ต้องการให้ตระกูลไทเรลมาเป็นพวก ไทวินจึงเจรจาพูดคุยผ่านคุณย่าโอแลนนาของตระกูลไทเรล
ว่าต้องการให้จอฟฟรีย์อภิเษกสมรสกับมาเจอร์รี่ หลานสาวคุณย่า ซึ่งเป็นภริยาม่ายของลอร์ดเรนลี่
(เคยเป็นพระชายาของลอร์ดเรนลีที่เสียชีวิต) เพื่อดองกันเป็นพันธมิตร
อีกทางนึงก็ดึงตระกุลนี้มาเป็นพวก
ตัดกำลังของฝ่ายตระกูลสตาร์คหรือฝ่ายพันธมิตรให้อ่อนเปลี้ย ลดกำลังลง ส่วนซานซ่า
(อดีตคู่หมั้นของจอฟฟรีย์ที่ถูกเขี่ยทิ้ง) ก็ถูกเซอร์ซี่และจิมมี่
ทาบทามให้มาเป็นภริยากับทีเรียน น้องชายคนเล็กของตระกูลแลนนิสเตอร์
เพื่อให้ทีเรียนมีเมียเสียที หลังจากเห็นน้องชายมักมีสัมพันธ์ลับๆ
อยู่กับโสเภณีหญิงคนหนึ่ง ทางหนึ่งต้องการให้ทีเรียนอยู่ในสายตาและกำมือของพี่น้อง
(เซอร์ซี,จิมมี่) ผู้กุมอำนาจ อีกทางเพื่อให้บิดา ก็คือไทวิน
ได้หน้าว่ามีสะใภ้ที่มีสกุลลุนชาติกับเขาเสียที
ในขณะที่ทีเรียน ไม่ได้รักหรือชมชอบซานซ่าในแบบฉันท์ชู้สาว เพียงแต่สงสารและเห็นใจเธอ
เนื่องจากเธอเป็นบุตรสาวคนโตของเนด สตาร์ก ที่กลายเป็นเหยื่อ โดนกระทำทารุณ
อย่างเหี้ยมโหดโดยครอบครัวพี่น้องของตนเอง
จึงต้องการช่วยเหลือและไถ่โทษให้กับซานซ่า ด้วยการรับซานซ่ามาเป็นภรรยาของตนเอง
อย่างน้อยก็จะได้ดูแลและคุ้มครองเธอให้รอดจากการถูกกลั่นแกล้งของจอฟฟรีย์ได้
ในเหตุการณ์สลายชุมนุม 7 ตุลาของกลุ่มพันธมิตร
มีจำเลยที่เป็นผู้บงการการอยู่เบื้องหลังสังหารพี่น้องชาวพันธมิตร ดังนี้
1.เซอร์ซี,จอฟฟรีย์,ไทวิน แลนนิสเตอร์ จำเลยที่
1
ในฐานะผู้มีอำนาจสูงสุด
2.ทีเรียน แลนนิสเตอร์
จำเลยที่ 2 ในฐานะนายกฯ หรือหัตถ์ของพระราชา
3.เซอร์เกรกอร์ คลีเกน หรือ เดอะเมาเท่น จำเลยที่ 3 ในฐานะผบ.อว
ผุ้บัญชาการกองกำลังอัศวินแห่งเวสเทอรอส
4.เซอร์แซนเดอร์ คลีเกน หรือเดอะฮาวน์ จำเลยที่ 4 ในฐานะ ผบช.น.คิงแลนด์ดิ้ง
5.สแตนนิส บาราธอร์น จำเลยที่ 5 ในฐานะคนทรยศ
ฆ่าลอร์ดเรนลี และนำกองทัพบางส่วนถอนกำลังออกไป ทำให้กองกำลังของพันธมิตรแตกพ่าย
บริแอนน์และแคทลิน นั้นแค้นฝังหุ่นกับรายชื่อข้างบนมาก
ชาตินี้เธอขอเอาคืนบุคคลเหล่านี้ให้จงได้
ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์สลายการชุมนุมนั้น เนด สตาร์ค ถูกคำสั่งประหารชีวิตจากคิงจอฟฟรีย์
และก่อนตายเนด ได้สั่งเสียให้ลูกเลี้ยงของเขา หรือบุตรนอกสมรสที่ชื่อ จอน สโนว์
เดินทางไปยังหน่วยพิทักษ์ราตรี หรือ night watch เพื่อไปเป็นผู้บัญชาการที่นั่น
หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ส่งไปยัง 3 จว.ชายแดนภาคใต้ของแดนสาระขัณฑ์นั่นแหละ
นัยหนึ่งก็ต้องการให้บุตรคนนี้ของตนมีศักดิ์ศรี มีที่ยืน
และมีกองกำลังเป็นของตนเอง และได้เป็นใหญ่ที่นั่น
เพราะเส้นทางของเขาจะทับซ้อนกับร็อบบ์ บุตรชายคนโตแท้ๆ ของเขาไม่ได้ เพราะร็อบบ์ถูกวางตัวให้เป็นคิงแห่งวินเทอร์เฟลอยู่ก่อนแล้ว
อีกทางนึงต้องการให้จอน
สโนว์ได้ไปฝึกฝนความอดทน แข็งแกร่ง
และเป็นคนที่สามารถสร้างตนเองได้ด้วยฝีมือของตนเอง ไม่ต้องพึ่งบารมีพ่อเลี้ยงอย่างตน
และความสำคัญของหน่วยพิทักษ์ราตรีก็คือหน้าที่ป้องกันดินแดนจากพวกคนเถื่อน
หรือก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดนทางภาคใต้
โอ้ว....อ่านแล้วงงมั๊ยครับ คนแต่งยังงงเองเลย เวียนหัวมากๆ
เกมออฟทน (ภาคที่ 1 หัตถ์ของพระราชา) องก์ที่ 2 ฉากที่ 5 ปราการแห่งริเวอร์รัน บ้านตระกูลเฟรย์
คิงร็อบบ์ สตาร์ค หรือราชันย์แห่งแดนเหนือ King of
Winterfell ไปชอบผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง คืบหน้าไปจนถึงมีการหมั้นหมายว่าจะแต่งงานกัน
แต่ว่าลอร์ดวัลเดอร์ เฟรย์ เป็นลอร์ดแห่งดินแดนท่าข้ามหรือ River Run ยืนคำขาดต่อแคทลิน และร็อบบ์ว่า
ต้องให้ร็อบบ์นั้นแต่งงานกับบุตรสาวของตน คือต้องการดองกัน
อยากได้ร็อบบ์เป็นลูกเขย
เพื่อแลกกับการที่จะให้ตระกูลเฟรย์เข้าร่วมเป็นพันธมิตรและสนับสนุนการขึ้นเป็นใหญ่ของร็อบบ์
แต่ร็อบบ์ปฏิเสธ โดยอ้างว่าตนเองมีคู่หมั้นหมายแล้ว และได้พาเธอมาร่วมในงานเลี้ยงที่ตระกูลเฟรย์เลี้ยงต้อนรับด้วย
ซึ่งเป็นการหยามเกียรติซึ่งหน้าต่อวัลเดอร์เฟรย์
แต่ใครจะไปคาดคิดว่าตาเฒ่าวัลเดอร์เฟรย์ ซึ่งเป็นเฒ่าตัณหากลับ เอาลูกเป็นเมีย
จนออกลูกออกหลานเต็มตระกูล กว่า 100 กว่าคน
ทำให้บรรดาลูกหลานที่เป็นผู้หญิงของบ้านนี้ ล้วนเป็นโสดเป็นหม้ายกันเต็มบ้านไปหมด
อีกทั้งหน้าตาก็ยังเหมือนๆ กันไปหมด เพราะมีทั้งแฝด 3 แฝด 4
และแถมลูกสาวของตนบางคนก็เอามาเป็นเมีย จนเกิดออกดอกออกผล
หน้าตาเหมือนกันยังกับแกะเต็มบ้านไปหมด กลายเป็นชาติพันธุ์ที่มียีนส์ด้อย
โดยมีเชื้อตัวผู้มาจากคนๆ เดียวกันเต็มบ้านไปหมด
เมื่อร็อบบ์ปฏิเสธ โดยไม่ฟังคำทัดทานจากแคทลิน
เพราะเกรงว่าลอร์ดวัลเดอร์เฟรย์ คงจะไม่ร่วมเป็นพันธมิตร
แต่ใครจะไปคาดคิดในคืนวันที่เรียกว่าวิวาห์เลือด Red Wedding วัลเดอร์เฟรย์จะร่วมมือกับตระกูลโบลตัน
ทำการวางแผนปิดประตูตีแมว ทำการสังหารโหดครอบครัวสตาร์ค ทั้งแม่ลูก คือแคทลิน
ร็อบบ์ และว่าที่คู่หมั้น จนเสียชีวิตทั้งหมดในงานเลี้ยงเลือด
ที่เหี้ยมอำมหิตและโหดร้ายฝุดๆ โดยที่อาร์ย่าแอบมาได้ยิน แต่แม้นไม่เห็นเหตุการณ์
แต่ก็รับรู้ได้ว่า มารดากับพี่ชายถูกลอบสังหารโดย 2 ตระกูลผู้ทรยศ
ก็คือตระกูลเฟรย์ กับโบลตัน
แต่ว่าอาร์ย่ามาพบเจอกับเดอะฮาวน์ เลยถูกเดอะฮาวน์จับตัวไป
ขอจบองค์ที่ 2 แต่เพียงเท่านี้ เรื่องมันยาวมากๆ จะแต่งจนจบมั๊ยเนี่ย ต้องติดตาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น