วันจันทร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เกมออฟทน (นิยายแปลง) ตอนที่ 3


จากนวนิยายแฟนตาซี/ซีรีส์อันโด่งดัง Game of Thrones มหาศึกชิงบัลลังก์ สู่การแปลงเป็นนิยายแสบๆ คันๆเรื่อง เกมออฟทน มหาศึกปากมัน ณ แดนสาระขัณฑ์
บทเกริ่นนำ
ณ สาระขัณฑ์ ดินแดนแห่งความขบขัน อัปรีย์ จังไรของใครบางคน และเสียงกรีดร้องเศร้าสะพรึง เครือไปกับเสียงหัวเราะ ขบขันในความโง่งม จมปรัก ดักดาน ไร้ศักดิ์ศรี  ดินแดนที่มีผู้นำบ้องตื้น ไร้น้ำยา นักการเมืองหน้าด้าน หน้าทน แวะเวียนกันเข้ามากอบโกยผลประโยชน์อย่างไร้ยางอาย ไร้เกียรติและศักดิ์ศรี ไร้ความดีและคุณธรรม อย่ามาถามหาจรรยาบรรณ แต่เปลือกนอกถูกฉาบโรยด้วยภาพลักษณ์ ความเป็นคนดีมีคุณธรรม มืออาชีพ เป็นผู้เสียสละ เข้ามาสร้างผลประโยชน์ให้กับประชาชนและบ้านเมือง ขณะกำลังนั่งพิมพ์อยู่นี้ กู(ผู้เขียน) ยังขบขันอยู่เลย อยากจะหัวเราะให้ตกเก้าอี้ ช้ากว่านี้คงไม่ได้การณ์แล้ว ไปอ่านลิเกเรื่องนี้กันได้แล้ว
ฮันเล วังกา เมื่อแขกเขามา ต้องไปดูลิเก เต๊งเตงเต่งเต๊ง เตงเต่งเต๊งเตงเตง
เมื่อเดเนริส ถูกรัฐประหารโค่นล้มอำนาจ เธอก็ตระเวนขอความช่วยเหลือจากคนถ่อย (เอ๊ย! คนเถื่อน) และพันธมิตรแนวร่วม และเรียกร้องความเป็นธรรมให้กลับคืนมา



เกมออฟทน (ภาคที่ 1 หัตถ์ของพระราชา จะรวมเอา 3 ซีซั่นเข้าไว้ด้วยกัน) องก์ที่  3 ฉากที่ 1 ที่วินเทอร์เฟล
อารัมภบทก่อนเข้าสู่องก์ที่ 3 ฉากที่ 1 ที่ปราสาทแกร่ง แห่งวินเทอร์เฟล
ก่อนหน้าจะถึงเหตุการณ์วิวาห์เลือด (Red Wedding) ที่วินเทอร์เฟล ธีออน เกรย์จอย ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงเชลยของเนด เอ็ดดาร์ก สตาร์ค ได้ออกอุบายไปขอความช่วยเหลือจากลอร์ดบาลอน เกรย์จอย บิดาของตน เพื่อมาช่วยเป็นกำลังรบให้กับร็อบบ์ แต่ว่า เขากลับกระทำการหักหลัง เข้าทำการยึดอำนาจที่วินเทอร์เฟล และหมายจะจับตัวลูกชายของเนด ที่เหลือ ก็คือ แบรนและริคค่อน ไว้เป็นตัวประกัน แต่บริวารของ 2 คนนั้น ไหวตัวทัน เลยรีบพาเด็กทั้ง 2 คนหลบหนี โดยการช่วยเหลือของ โฮดอร์ กับโอชาลอน  โดยพวกเขาทั้ง 2 ต้องเดินทางพเนจรผ่านป่าและเทือกเขา เพื่อมุ่งหน้าไปหาจอน สโนว์ พี่ชายของเขาที่หน่วยพิทักษ์ราตรี หรือ Night Watch  ด้านร็อบบ์พอทราบข่าวว่าวินเทอร์เฟลถูกยึดโดยธีออน เกรย์จอย ข้าในบ้านแท้ๆ จึงมอบหมายให้รูส โบลตัน ผู้ปฏิญาณตนว่าจะรับใช้ตระกูลสตาร์ค ให้ส่งคนไปยึดคืนปราสาทวินเทอร์เฟลกลับมา รูส โบลตัน จึงมอบหน้าที่นี้ให้กับแรมซีย์ บุตรนอกสมรส หรือลูกเลี้ยงของตนรับหน้าที่นี้ไป ซึ่งเป็นการปรากฏตัวร้ายเพิ่มมาอีก 1 ตัวก็คือ แรมซีย์ ซึ่งเขาจะมีบทบาทอันร้ายกาจต่อไป   
ธีออน  “ฉันจะปลดแอกจากพวกตระกูลสตาร์ค และยึดคืนเอกราชกลับมาสู่เกาะเหล็ก พวกแกคนไหน หากไม่ยินยอมสวามิภักดิ์ต่อฉัน ก็ก้าวออกมา ฉันจะให้แกตามไปอยู่ในนรก”

เมสเตอร์ลูวิน  :  “เอ่อ ใจเย็นๆ ธีออน เธอก็เป็นพวกเรากันเอง เหตุใด ถึงต้องกระทำเช่นนี้ หากร็อบบ์รู้เข้าจะมองหน้ากันไม่ติดนะ”

ธีออน “ไอ้แก่ แกอย่ามาลูกเล่น ถ่วงเวลา ไปเอาตัวแบรนกับริคค่อน ออกมา ไม่งั้นฉันจะฆ่าคนของพวกแกให้หมด”

ทหารยามคนหนึ่งในกำแพงปราสาท วิ่งเริ่กหรั่ก เข้ามากระซิบข้างหูของเมสเตอร์ลูวิน ดูเหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่    :  “ท่านเมสเตอร์ลูวิน กองกำลังทหารของตระกูลโบลตัน มันมาโอบล้อมไว้หมดแล้ว มันต้องการให้เราส่งมอบตัวธีออน เกรย์จอย ให้กับมันเพียงคนเดียว แล้วที่เหลือจะไว้ชีวิตพวกเราครับ”

เมสเตอร์ “งั้น ก็จัดการเสียสิ”  จากนั้นธีออน ที่กำลังเกรี้ยวกราด โมโหโกรธา กำลังยืนจ้องหน้า ด่ากราดทุกคนที่อยู่ตรงหน้า ก็ถูกนายทหารยามกระแทกดาบเข้าที่ศีรษะเป็นลมหมดสติไป จากนั้นถูกนำตัวไปส่งมอบให้กับแรมซีย์ แต่คนอย่างแรมซีย์มีหรือจะรักษาคำพูด เขาสั่งฆ่าทุกคนที่หลงเหลืออยู่ในวินเทอร์เฟลจนหมด ไม่ว่าจะเป็นคนของวินเทอร์เฟล หรือคนของเกาะเหล็ก ตายสิ้นหมด  พักเรื่องของแรมซีย์ กับธีออนไว้ตรงนี้ก่อน ค่อยมากล่าวต่อในภายหลัง



เกมออฟทน (ภาคที่ 1 หัตถ์ของพระราชา) องก์ที่  3 ฉากที่ 2 ดินแดนอันกว้างใหญ่ ฝั่งทวีปตะวันออก (เอสซอส)

เดเนริส “คาร์ล โดรโก ฉันรับปากเธอนะ ฉันจะเลี้ยงดูลูกของเราให้เติบโตเป็นคนดี เหมือนพ่อของมัน”

คาร์ล โดรโก  “บอกน้อง Pyte Dragon นะ อย่าบินผาดโผนให้มันมากนะ พ่อไม่อยากให้ลูกเป็นเด็กแว๊นซ์”

เดเนริส “คาร์ล โดรโก ก่อนตายช่วยเซ็นใบหย่าให้ฉันก่อนนะ ฉันจะได้สินสมรสจากเธอครึ่งนึง ฉันและลูกก็จะได้สบาย แล้วเซ็นพินัยกรรมยกกิจการและลูกน้องให้ฉันด้วยนะ ฉันจะได้ไม่ลำบาก”

คาร์ล โดรโก  : “แล้วกูจะเหลืออะไรบ้างหล่ะ ที่รัก”

เดเนริส  “ก็ไม่ต้องเหลืออะไรหรอกคาร์ล ก็จะตายอยู่แล้ว คงเอาอะไรติดตัวไปไม่ได้หรอก จะโลภไปทำไมอีก”

คาร์ล โดรโก  : “นี่เธอเก็บคำคำนี้ เอาไว้สอนพี่ชายของเธอบ้างสิ ที่รัก ฉันจะจำจนวันตาย”

เดเนริส “หลับให้สบายนะที่รัก แล้วจะทำบุญไปให้”   จากนั้นเดเนริสก็จัดการเผานั่งยางสามีสุดที่รักของเธอในกองไฟ เนื่องจากคาร์ล โดรโก เป็นโรคติดเชื้อที่น่ากลัว จึงต้องทำการเผาร่างให้มอดไหม้ไป ไม่ให้เชื้อโรคมาติดคนอื่น เธอคร่ำครวญเสียใจ จนถึงขนาดอยากจะตายตามสามีไป ด้วยการเดินลุยเข้าไปในกองไฟ เปลวเพลิงไม่สามารถเผาผลาญชีวิตเธอได้ กลับกลายเป็นเธอให้กำเนิดมังกรน้อยออกมาอีก 2 ตัว รวมเป็น 3 ตัว ท่ามกลางความตกตะลึงของบริวารทั้งหลาย เธอได้เปล่งประกายบารมีของวีรสตรีกู้ชาติ หรือผู้คนขนานนามเธอใหม่ว่า วีรสตรีขี่ม้าขาว เอ๊ยไม่ใช่ วีรสตรีขี่มังกรไฟ  

ก่อนหน้านี้ 2 พี่น้องตระกูลทาร์กาเรียน (เดเนริสกับซิฟิลิส) ต้องเผชิญวิบากกรรม ถูกรัฐประหารซ้ำซ้อน จนต้องระเห็จระเหิน หนีออกนอกประเทศ กลายเป็นสัมพเวสีทางการเมือง ด้วยข้อหาอุกฉกรรจ์ มากมาย ทั้งฉ้อฉล ซื้อขายที่ดินให้เมีย แก้กฎหมายหลีกเลี่ยงการจ่ายสัมปทาน ซุกใบกรรมสิทธิ์ (หุ้น) โอนขายกรรมสิทธิ์ (หุ้น) โดยไม่ยอมเสียภาษี บ้านเอื้ออาธร กล้ายาง แทรกแซงกระจอกข่าว ตั้งรัฐบาลนอมินีเครือญาติตัวเอง ทุจริตโครงการรับจำนำข้าว จีทูจี แก้กฎหมายลักหลับสุดซอย ฯลฯ  แต่เมื่อซิฟิลิส พี่ชายของเดเนริส ต้องมีอันเป็นไปแล้ว เธอจึงเหลือเพียงหัวเดียวกระเทียมลีบ เมื่อถูกทำรัฐประหาร ทำให้เธอต้องตกระกำลำบาก ต้องระเหเร่ร่อนไปขอความเป็นธรรม ร้องขอความช่วยเหลือ ร้องไห้น้ำลายฟูมปาก ขอความเห็นใจ และหาแนวร่วมเป็นคนเถื่อนทั้งหลายมาหนุนหลังสนับสนุนเธอต่อไป เธอมีผู้ติดตามก็คืออัศวินพี่หมี จอร่าห์ เมอร์มองค์ และท่านแม่ทัพหนอนเทา เกรย์วอร์ม กับเมีย ที่คอยติดตามเธอไป ทุกหนแห่ง และครั้งนี้เธอได้มาขอความเป็นธรรมต่อหน้าศาลฏีกา ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีทุจริตจำนำข้าวของเธอ


เกมออฟทน (ภาคที่ 1 หัตถ์ของพระราชา) องก์ที่  3 ฉากที่ 3 บริเวณศาลฏีกา ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

เดเนริส  : “ศาลค่ะ ดิฉันไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งๆ ที่โครงการนี้มีประโยชน์ และเป็นสิ่งที่ดิฉันหาเสียงเอาไว้ หากไม่ทำตามก็ถือว่าตระบัดสัตย์ต่อประชาชน โครงการนี้ทำให้ชาวนา ได้ลืมตาอ้าปากค้าง ได้หน้าและลืมหลัง ฟังเสียงสวดมนต์ ในห้องดับจิต วิปริตผิดเพศ อาเพททั้งตระกูล เลยค่ะ ใช่มั๊ยคะพี่น้อง”.....เสียงเฮดังออกมาจากนอกศาล ฟังไม่ได้ศัพท์ เซ็งแซ่อื้ออึงไปทั่ว ซักพักมีเสียงกรี๊ด กรีดร้อง ไม่ใช่ๆ ดังลั่นขึ้น

จอร่าห์ เมอร์มองค์  : “เอ่อ...เดเนริส โทษที โพยผิด ไม่ใช่โพยอันนั้น เอาอันนี้ไปอ่านใหม่ มันไม่ใช่”

เดเนริส หันหน้ามาทำมึนงงเล็กน้อย ก่อนจะตวาดกลับไป  : “นี่ จอร่าห์ แกทำโพย ประสาอะไรนะ จะทำให้ฉันขายหน้าหรืออย่างไร”     

ประธานผู้พิพากษาของศาลฏีกาฯ  “เป็นการอ่านคำแถลงปิดคดีด้วยโพยของฝ่ายจำเลย ที่น่าเบื่อที่สุด ศาลอยากจะขอออกไปกินกาแฟก่อน เดี๋ยวจะกลับเข้ามาฟังใหม่นะ เดเนริส”

เดเนริส  “ศาลค่ะ ดิฉันขออ่านคำแถลงการณ์สรุปใหม่นะคะ ดิฉันร่างมาผิดค่ะ ขออ่านใหม่อีกครั้งค่ะ อันเมื่อกี๊ ขอให้เป็นโมฆะนะคะ ล้างออกไปจากบันทึกความจำเลยจะได้มั๊ยค่ะ”

ประธานผู้พิพากษาของศาลฏีกาฯ “ยังจะอ่านใหม่อีกเหรอ วันนี้ฉันฟังเธอมาเป็นรอบที่ 4 แล้วนะ ร่างแถลงปิดคดีด้วยวาจา นี่เธอร่างด้วยมือตัวเองหรือเปล่าเนี่ย ทำไมถึงได้มีหลายฉบับ ผิดเยอะจังเลย ฉบับแรกก็มี thank you 3 times อะไรของเธอเนี่ย อีกฉบับมีต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ มันคืออะไร เกี่ยวกันมั๊ย บ้าไปหรือเปล่า มีสติหน่อยสิ  ซักพักเดี๋ยวร้องไห้ เดี๋ยวก็หัวเราะ นี่ศาลทำหน้าไม่ถูกแล้วนะ เธอเป็นไบเซ็กช่วล หรือเปล่าฮะ”

ผู้พิพากษาคนที่ 2 นั่งข้างๆ ประธานฯ  “ท่านครับ ไม่ใช่ไบเซ็กช่วล คงหมายถึง ไบโพล่าร์ ใช่มั๊ยครับ”
ประธานผู้พิพากษาของศาลฏีกาฯ “เออใช่นั่นแหละ เล่นเอาศาลมึนไป 3 ตลบ ไม่ต้องแถลงเพิ่มเติมแล้ว ศาลฟังความครบหมดทุกด้านแล้ว จะนัดวันแถลงคำตัดสินอีกที วันที่ 25 สิงหาคมนี้ แล้วมารอรับฟังคำตัดสินในวันนั้นกัน ปิดศาล” 

เดเนริส “ศาลค่ะ ดิฉันไม่ได้รับความเป็นธรรมค่ะ แม้กระทั่งตัวศาลเอง ก็ยังไม่ให้ความเป็นธรรมต่อดิฉัน ที่จะนั่งฟังแถลงการณ์ของดิฉันจนครบถ้วนกระบวนความ อีกเพียงแค่ 125 หน้าเท่านั้นเอง นะคะ” 

เดเนริส สะอื้นร้องไห้ ท่ามกลางมวลชนที่มาให้กำลังใจ มอบช่อดอกไม้ เห็ดกวาง เห็ดหูหนู เธอรับมันด้วยความชำนาญ หัวเราะไป สะอื้นร่ำไห้ ระคนเสียงหัวเราะ จนแม้กระทั่งมวลชนยังต้องผงะ ตกใจ กับอาการแปลกประหลาดของเธอ ไม่รู้อารมณ์ไหน ซักพัก เธอก็ก้าวขึ้นเครื่องบินมังกรไฟของเธอไปอย่างไม่แยแส ไม่หันมามองบรรดานกกระจอก เหยี่ยวข่าวที่มามุงดูและคอยรายงานข่าวความคืบหน้าและเหตุการณ์ในวันนี้ เธอก้าวขึ้นเครื่องบินด้วยรองเท้าบู้ทยี่ห้อ Burberry เหมือนเช่นเคย สะพายกระเป๋ากุชชี่ แอร์เมส สวมแว่นดำของชาแนล เพื่อป้องกันแดด จากนั้นหันมาทักทายทุกคนที่อยู่บนพื้นล่าง ด้วยการฉีกยิ้ม โบกมือทักทายไปทั่ว ก่อนที่มังกรไฟจะเทคออฟสยายปีกโบยบินขึ้นสู่ท้องฟ้า

เกรย์วอร์ม “งวดนี้คุณนายพร็อพจัดเต็มมาก คิดว่าจะเป็นเหมือนเดิมมั๊ย”

จอร่าห์  “เที่ยวนี้ก็คงจะทัวร์รอบโลกเหมือนเดิมแหละ ทริปยาว เพราะเช่าเครื่องแบบเหมาลำไป ส่วนบริวารก็วิ่งตามไปให้ทัน เพื่อไปดักรอข้างหน้าเอาก็แล้วกันนะ”



จบองก์ที่ 3 แต่เพียงเท่านี้ ไว้ว่างจะมาเขียนต่อตอนที่ 4


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น