วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2558

โลก 360 องศา - (อินโดพบซากเครื่องบินตก,ยอดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นมูจีแก,น้ำท่วมชานเมืองฝรั่งเศส,ฝนพันปีทำเซาท์แคโรไลน่าท่วมหนัก,ดินถล่มที่กัวเตมาลา,วิกฤติหมอกควันอินโด)



รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียในวันจันทร์(5ต.ค.) ระบุพบซากของเครื่องบินใบพัดคู่ ทวินออตเตอร์ของสายการบินเอเวียนสตาร์ ที่สูญหายเหนือเกาะสุลาเวสีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ยังไม่มีการเปิดเผยถึงชะตากรรมของผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 10 คนแต่อย่างใด สำนักข่าวเมโทรทีวีรายงานว่าซากของเครื่องบินโดยสารลำนี้ถูกพบในเขตเอ็นเรคัง ห่างจากเมืองมาคัสซาร์ สุลาเวสีใต้ ราว 240 กิโลเมตร อาเด็กซ์ ยูดิสวาน ตำวจของสุลาเวสีใต้ บอกกับรอยเตอร์ว่าชาวบ้านเป็นคนพบซากเครื่องบิน แต่เขาไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆเกี่ยวกับสภาพเครื่องหรือชะตากรรมของผู้โดยสารและลูกเรือ เครื่องบินของสายการบินเอเวียนสตาร์ ที่เดินทางออกจากเมืองมาซัมบา ขาดการติดต่อกับเจ้าหน้าที่การบินในวันศุกร์(2ต.ค.) ราว 30 นาทีก่อนมีกำหนดลงจอดในมาคัสซาร์ ส่วนสายการบินภายในประเทศ เอเวียสตาร์ บอกว่าพวกเขาขาดการติดต่อกับเครื่องบินในตอนบ่ายวันศูกร์(ต.ค.) และจากนั้นจึงประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่  อินโดนีเซียที่มีชื่อเสียงด่างพร้อยด้านประวัติความปลอดภัยและมีเที่ยวบินประสบอุบัติเหตุใหญ่ๆ 3 ครั้งเมื่อปีที่แล้ว ในนั้นรวมถึงเครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชีย ที่ตกลงสู่ทะเลขณะบินจากเกาะบาหลีมุ่งหน้าสู่สิงคโปร์ในเดือนธันวาคม คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือยกลำ 162 ศพ ในเดือนมิถุยายน มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 คน หลังเครื่องบินลำเลียงของกองทัพตกใส่ชุมชนในเมืองเมดาน ทางภาคเหนือของประเทศ กระตุ้นรัฐบาลต้องออกมาให้สัญญาทบทวนฝูงบินอายุเก่าเก็บของกองทัพอากาศ ขณะที่ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเครื่องบินโดยสารอีกลำประสบอุบัติเหตุในปาปัว คร่าชีวิตยกลำ 54 ศพ

เอเจนซีส์ - ทางการจีนรายงานในวันจันทร์ (5 ต.ค.) พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 200 คน และมีประชาชนกว่าล้านคนได้รับผลกระทบ หลังไต้ฝุ่น มูจีแกขึ้นฝั่งทางภาคใต้ของประเทศตั้งแต่วันอาทิตย์ (4 ต.ค.) ขณะที่ฟิลิปปินส์ ทางผ่านก่อนเข้าสู่แดนมังกรของไต้ฝุ่นลูกนี้ รายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 2 รายและชาวประมงสูญหาย 30 คน สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนรายงานวันจันทร์ (5) ว่า ไต้ฝุ่นลูกนี้ ซึ่งขึ้นฝั่งที่บริเวณเมืองจ้านเจียง ในมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันอาทิตย์ ทำให้เกิดพายุหมุนทอร์นาโดหลายลูกเข้าถล่มพื้นที่ต่างๆ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 223 ราย และผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 รายในกวางตุ้ง และเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงแห่งกว่างซี (กวางสี) ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกันและมีฐานะเทียบเท่ามณฑลเช่นกัน รวมทั้งทำให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง นอกจากนี้ทางการยังต้องอพยพคนอีกหลายหมื่นคน และนาข้าวจำนวนมากได้รับความหาย ขณะเดียวกัน ระบบโทรคมนาคมที่ใช้การไม่ได้ ส่งผลให้การรายงานการประเมินความเสียหายเป็นไปด้วยความล่าช้า ในช่วงเช้าวันจันทร์ ไต้ฝุ่นมูจีแก ได้เคลื่อนตัวออกจากกวางตุ้งเข้าสู่กวางสี โดยมีความเร็วลมที่ศูนย์กลางลดลงอยู่ที่ 54 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ในบริเวณนี้ได้เตรียมรับมือล่วงหน้าแล้ว ด้วยการสั่งให้เรือประมง 12,700 ลำ รวมทั้งคนงานนอกชายฝั่ง 35,400 คนกลับเข้าฝั่ง ทางด้านสำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนของกวางสีรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ มูจีแก ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนกว่า 1.44 ล้านคน ขณะเดียวกัน มีผู้เสียชีวิตรายหนึ่งจากต้นไม้ล้มในเมืองหนานหนิง เมืองเอกของกวางสี ไต้ฝุ่นลูกนี้พัดเข้าสู่แผ่นดินใหญ่ ขณะที่ชาวจีนนับล้านๆ คน กำลังออกท่องเที่ยวช่วงเทศกาลวันหยุดเนื่องในวันชาติ 1 ต.ค. และจะสิ้นสุดลงในวันพุธ (7) โดยจำนวนมากมุ่งหน้าสู่ชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เป็นต้นว่า มณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) ซึ่งเป็นเกาะรีสอร์ทที่ขึ้นชื่อ ปรากฏว่า มูจีแก ทำให้ต้องมีการยกเลิกเที่ยวบินหลายสิบเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกจากสนามบินในเมืองไหโขว่ เมืองเอกของมณฑลไห่หนาน รวมทั้งต้องระงับบริการรถไฟความเร็วสูงระหว่างไหโขว่กับซานย่า ซึ่งเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว ตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ซินหวารายงานว่า นักท่องเที่ยวกว่า 500 คนยังคงต้องเข้าพักหลบภัยในโรงแรมต่างๆ ของเกาะฟางจี ของมณฑลกวางตุ้ง ภายหลังความพยายามที่จะอพยพพวกเขาออกมาถูกขัดขวางจากลมพายุที่พัดแรง ก่อนที่จะเข้าสู่จีน มูจีแก ซึ่งเป็นภาษาเกาหลีแปลว่า สายรุ้งและเป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 22 ของปีนี้ ได้พัดผ่านตอนเหนือของฟิลิปปินส์ช่วงเช้าวันเสาร์ (3) ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มในบางพื้นที่ และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ชาวประมงประมาณ 30 คนสูญหาย ทั้งนี้ตามการแถลงของ ไมก์ ซาบาโดโฆษกของสำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ประจำภูมิภาคดังกล่าวของฟิลิปปินส์

บ้านราว 5,000 หลังคาเรือนยังคงไม่มีไฟฟ้าในช่วงเช้าวันนี้ (5 ต.ค.) หลังจากที่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (4 ต.ค.) บ้านเรือนมากถึง 70,000 หลังประสบกับปัญหาไฟฟ้าดับ  เบอร์นาร์ด คาเซนูเว รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยแดนน้ำหอมซึ่งได้ไปเยือนพื้นที่ประสบภัยเมื่อวานนี้ (4) กับประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ โอลลองด์ บอกกับสถานีวิทยุเรดิโอ 1 ในวันนี้ (5) ว่า มีการปล้นชิงทรัพย์เกิดขึ้นบ้างและมีคน 9 คนถูกจับกุม  ตำรวจเข้าแทรกแซงอย่างรวดเร็วเพื่อหยุดยั้งการกระทำเลวทรามนี้เขากล่าวตำรวจราว 300 คนและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงประมาณ 543 คนยังคงดำเนินปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยทั่วทั้งพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม คาเซนูเว กล่าว  เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (4) มีฝนตกหนักที่จังหวัดอาลป์-มาริตีมซึ่งมีพรมแดนติดกับอิตาลีทำให้เกิดน้ำท่วมเมืองท้องถิ่นหลายแห่งรวมถึงเมืองคานส์และทำให้เส้นทางขนส่งหลายเส้นทางใช้การไม่ได้ เหยื่ออุทกภัยครั้งนี้รวมถึงคน 3 คนที่เสียชีวิตในบ้านพักคนชราที่ถูกน้ำเข้าท่วมในหมู่บ้านบิออต และชาวบ้าน 7 คนในเมืองมองเดอเลีย ลา นาพูอ ซึ่งพยายามไปที่รถของพวกเขาในที่จอดรถ เจ้าหน้าที่หน่วยงานปกครองท้องถิ่นกล่าว การให้บริการรถไฟท้องถิ่นได้กลับมาเปิดอีกครั้งเมื่อวานนี้ (5) หลังจากที่ถูกระงับตลอดทั้งคืน แต่คาดว่าจะเปิดให้บริการถึงแค่หมดวันนี้ (5) เท่านั้น ในขณะที่ถนนบางเส้นยังคงถูกกีดขวางอยู่ เมื่อวันอาทิตย์ (4) ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ โอลลองด์ กล่าวว่า รัฐบาลจะเห็นชอบให้ประกาศสถานะภัยพิบัติธรรมชาติสำหรับพื้นที่นี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพุธ (7) และสัญญาว่าจัดสรรเงินเงินช่วยเหลือเพื่อช่วยชดเชยความเสียหายภายใน 3 เดือน

เอเจนซีส์ ผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา นิกกี ฮาลลี (Nikki Haley) สั่งให้มีการบังคับใช้กฎหมายเคอร์ฟิวในช่วงกลางวันไปจนถึงวันจันทร์(5)เพื่อกันให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ออกนอกบ้าน และสั่งการหน่วยทางน้ำเคลื่อนที่เร็ว 8 ทีม รวมไปถึงเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยฉุกเฉินอีก 11 ตัว และทหารเนชันแนลการ์ดประจำรัฐอีก 600 นายถูกสั่งลงปฎิบัติหน้าที่ หลังรัฐเซาท์แคโรไลนาต้อนรับเฮอริเคนระดับ 3 วาควิน(Joanquin)จนทำให้เกิดฝนพันปีตกหนักสูงสุดถึง 24 นิ้ว รวมไปถึงน้ำท่วมฉับพลัน ถนนตัดขาด ไฟฟ้าถูกตัดขาดเป็นวงกว้าง และทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 8 คน  วอลสตรีทเจอร์นัล สื่อธุรกิจรายงานเมื่อวานนนี้(4)ว่า ผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา นิกกี ฮาลลี (Nikki Haley)ออกประกาศคำสั่งเคอร์ฟิวเวลากลางวัน เพื่อบังคับให้ประชาชนอยู่แต่ภายในบ้านเรือนของตนมาจนถึงวันทำงานในสัปดาห์นี้ หลังจากรัฐเซาท์แคโรไลนาต้องผจญกับ ฝนพันปีจากการเรียกขานของฮาลี ที่เกิดจากอิทธิพลพายุเฮอร์เคน วาควินซึ่งอ่อนกำลังลงเหลือแค่ระดับ 3 รวมไปถึงอิทธิพลพายุลูกอื่นๆที่พัดเข้ามา จนทำให้เกิดฝนตกหนักในบางแห่งในรัฐเซาท์แคโรไลนา ที่มีฝนตกหนักถึง 24 นิ้วบริเวณเมาต์ พลีแซนต์( Mount Pleasant) จากการรายงานของสื่อสหรัฐฯ CNN  และยังพบว่า มีฝนตกหนักไม่ต่ำกว่า 20 นิ้วบริเวณชาร์ลสตัน( Charleston) และไม่ต่ำกว่า 18 นิ้วบริเวณ กิลลส์ ครีก(Gills Creek)ในเมืองโคลัมเบีย รัฐเซาท์แคโรไลนา ในขณะที่เดลีเมล สื่ออังกฤษรายงายเพิ่มเติมว่า นับตั้งแต่เกิดฝนตกหนักในบริเวณอีสเทิร์นซีบอร์ดสหรัฐฯมีคนเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 6 คน และนอกจากนี้ยังพบว่า ทั้งในรัฐนอร์ทแคโรไลนาและรัฐเซาท์แคโรไลนา มีตัวเลขผู้เสียชีวิตอีกไม่ต่ำกว่า 8 คนสืบเนื่องมาจากสภาพอากาศเลวร้าย โดย 4 คนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ และมีจำนวนหนึ่งในทั้งหมดเสียชีวิตจากต้นไม้ล้มทับ รวมไปถึงอีก 1 คนเสียชีวิตจากการจมน้ำ อ้างอิงจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯในพื้นที่ CNN สื่อสหรัฐฯรายงานเพิ่มเติมว่า เดอร์เรค เบค (Derrec Becke) หัวหน้าหน่วยงานภัยพิบัติรัฐเซาท์แคโรไลนาได้ออกคำเตือน ห้ามประชาชนเซาท์แคโรไลนาอยู่ให้ห่างถนนในช่วงนี้ โดยเบคเปิดเผยว่า มีรถอย่างน้อย 315 คันเกิดอุบัติเหตุในช่วงเวลา 12 ชม. ในวันอาทิตย์(4) ในขณะที่ผู้ว่าการรัฐฮาลลีเปิดเผยว่าในช่วงเวลเดียยวกันนั้นมีนักขับกว่า 750 คนโทรศัพท์สายด่วนขอความช่วยเหลือ และในการรับมือเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งร้ายแรงนี้ ผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนาได้สั่งการหน่วยทางน้ำเคลื่อนที่เร็ว 8 ทีม รวมไปถึงเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยฉุกเฉินอีก 11 ตัว และทหารเนชันแนลการ์ดประจำรัฐอีก 600 นายถูกสั่งลงปฎิบัติหน้าที่ และอีก 1,300 นายถูกสั่งสำรองกำลังพร้อมเรียกใช้  และ 1 วันก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ได้เซ็นคำสั่งภาวะฉุกเฉินในรัฐเซาท์แคโรไลนาให้มีอำนาจย้อนหลังกลับไปในวันพฤหัสบดี( 1)เพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯละหน่วยงานท้องถิ่นสามารถเริ่มต้นทำงานรับมือรับฝนพันปีจากฝีมือของพายุเฮอริเคนวาควินได้ทันท่วงที หลังจากที่มีการคาดว่า อาจมีฝนตกหนักเพิ่มมากไปกว่านี้ นิกกี ฮาลลี แถลงเพิ่มเติมว่า รัฐที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง เช่น รัฐนอร์ทแคดรไลนา รัฐเทนเนสซี และรัฐฟลอลิดา ได้ประกาศยื่นมือให้ความช่วยเหลือ ทั้งนี้หน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯด้านสภาพอากาศให้ข้อมูลว่า คาดว่าจะยังมีน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่เกิดขึ้นตลอดทั้งคืนวันอาทิตย์(4)จนเข้ามาถึงวันนี้(5)ในเบิร์กลี เคาน์ตี (Berkeley County) รัฐเซาท์แคโรไลนา ซึ่งมีในตกไม่ต่ำกว่า 18 นิ้วภายใน 24 ชม.วอลสตรีทเจอร์นัลรายงานเพิ่มเติมถึงสภาพน้ำท่วมฉับพลันในรัฐเซาท์แคโรไลนาจากแถลงการณ์ของผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนาบนเฟสบุ๊กว่า น้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรัฐแห่งนี้ เพราะน้ำท่วมใหญ่ขนาดนี้เกิดเพียงแค่ทุกพันปีเท่านี้และน้ำท่วมฉับพลันในเมืองโคลัมเบีย รัฐเซาท์แคโรไลนาทำให้เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพประจำริชแลนด์ เคาน์ตี (Richland County ) แกรี วัตต์ส(Gary Watts)เปิดเผยว่า 3 ใน 5ของผู้เสียชีวิตที่เมืองโคลัมเบียเกิดจากน้ำท่วมฉับพลัน เนื่องจากคลื่นน้ำสูงทำให้รถยนต์ตกจากถนนลงป่าข้างทาง หรือน้ำลึกเบื้องล่าง นอกจากนี้มีรายงานว่า รถจำนวนมาก ที่รวมไปถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่ยังคงต้องตายคาถนนในสภาพจมน้ำเกือบมิด และทำให้มีความกังวลว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉินอาจไม่สามารถสังเกตเห็นได้โดยง่าย CNN รายงานเพิ่มเติมว่า เฮอริเคนวาควินที่อ่อนกำลังลงเหลือเพียงระดับ 3 ในช่วงเช้าวันอาทิตย์(4)หลังจากเพิ่มกำลังแรงถึงระดับ 4 ในวันพฤหัสบดี(1)ก่อนหน้านั้น และคาดว่าจะอ่อนกำลังลงไปเรื่อยในขณะที่บ่ายหน้าไปยังเกาะเบอร์มิวดา CNNรายงานต่อว่า เมื่อวานนี้(4)วาควินมุ่งหน้าไปทางเหนือในมหาสมุทรแอตแลนติก และคาดว่าอาจทำให้เกิดกำแพงคลื่นสูงที่เรียกว่า สตอร์มเสิร์จทางตะวันออกเฉียงเหนือขณะที่เฮอริเคนวาควินพัดผ่าน
       
เอเอฟพี ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุดินถล่มในหมู่บ้านชานกรุงกัวเตมาลาซิตีเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 131 รายเมื่อวานนี้ (4 ต.ค) และยังมีชาวบ้านสูญหายอีกราว 300 คน หลังเหตุการณ์ภัยพิบัติผ่านพ้นไปได้ 3 วัน  ฮูลิโอ ซานเชซ โฆษกอาสาจากสำนักงานดับเพลิง ระบุว่า จากข้อมูลล่าสุด พบผู้เสียชีวิตที่ยืนยันและเก็บกู้ขึ้นมาได้แล้ว 131 รายและยังมีคนสูญหายไม่ทราบชะตากรรมอีกประมาณ 300 คน ชานเชซ เผยต่อสื่อมวลชนว่า ผู้เสียชีวิตในเหตุดินถล่มทับหมู่บ้าน เอล คัมบรีย์ 2 ในเขตเทศบาลเมือง ซานตา คาตารินา พินูลา ยังรวมถึงเด็กเล็กและทารกแรกเกิดอีกหลายคน สายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนักทำให้พื้นดินอุ้มน้ำไม่ไหว และพังถล่มลงมาทับบ้านเรือนอย่างน้อย 125 หลังเมื่อค่ำวันพฤหัสบดีที่แล้ว (1) ทางการกัวเตมาลาได้ตั้งโกดังเก็บศพชั่วคราวไว้ใกล้ๆ หมู่บ้าน เพื่อให้ญาติผู้สูญหายสามารถเดินทางไปตรวจสอบได้ เทศบาลเมือง ซานตา คาตารินา พินูลา ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงกัวเตมาลาไปทางตะวันออกราว 15 กิโลเมตร เคยประกาศเตือนให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่นี้มาแล้วหลายครั้ง ล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แต่หลายครอบครัวปฏิเสธที่จะย้าย โดยอ้างว่าพวกเขาไม่มีที่ไป  เราคงอาศัยอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกแล้วคาร์ลอส เฮอร์นันเดซ ช่างไฟฟ้าซึ่งรอดชีวิตจากเหตุดินถล่มและเหลือทรัพย์สินติดตัวเพียงเล็กน้อย ให้สัมภาษณ์  ฝนซึ่งตกลงมาอีกเมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ (4) ทำให้หน่วยกู้ภัยต้องยุติการค้นหาชั่วคราว เนื่องจากมีความเสี่ยงอันตราย แต่ทุกๆ ชั่วโมงที่ผ่านไป โอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตเพิ่มก็ยิ่งลดน้อยลงตามไปด้วย ทั้งนี้ ระยะเวลา 72 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุการณ์ซึ่งถือว่ามีโอกาสสูงที่จะพบผู้รอดชีวิตกำลังจะผ่านพ้นไปในเวลา 4.00 GMT วันนี้ (5) ครอบครัวผู้สูญหายหลายคนอ้างว่า ได้รับข้อความโทรศัพท์มือถือจากญาติที่เชื่อว่าน่าจะยังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ปีที่แล้ว มีชาวกัวเตมาลาเสียชีวิตจากภัยพิบัติในฤดูมรสุมรวม 29 คน และบ้านเรือนพังเสียหายอีกมากกว่า 9,000 หลัง สงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อนานถึง 36 ปีและเพิ่งสิ้นสุดลงได้เมื่อปี 1996 ยังส่งผลกระทบต่อสภาพสังคมของกัวเตมาลา และประชากรร้อยละ 53 จากทั้งหมด 16 ล้านคนก็ยังมีฐานะยากจน นอกจากปัญหาความยากจนและการคอรัปชันแล้ว กัวเตมาลายังมีสถิติอาชญากรรมรุนแรงที่ค่อนข้างสูง และมีการฆ่ากันตายโดยพวกแก๊งอันธพาลมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก

เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเรียกร้องให้อินโดนีเซียดำเนินการต่อผู้ที่ทำให้เกิดไฟป่าและไฟพื้นที่เกษตรอันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนส่งหมอกควันปกคลุมภูมิภาคนี้เป็นเวลาหลายสัปดาห์ ในขณะที่โรงเรียนของแดนเสือเหลืองต้องปิดการเรียนการสอนอีกครั้งเป็นเวลา 2 วันเนื่องจากมีความกังวลเรื่องผลกระทบด้านสุขภาพ พวกเขา (เหล่าบริษัทเกษตรกรรม) ดำเนินงานกันอยู่ที่นั่น เราต้องการให้อินโดนีเซียจัดการสำนักข่าวเบอร์นามาของทางการรายงานเมื่อค่ำวานนี้ (4) โดยอ้างจากคำพูดของนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค เบอร์นามาระบุว่า นาจิบชี้ว่าปัญหา หมอกควันประจำปีของปีนี้เป็นสาเหตุให้คุณภาพอากาศในมาเลเซียแย่ลง พร้อมเสริมว่า มันกำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม สำนักข่าวแห่งนี้ระบุว่า นาจิบแสดงความคิดเห็นดังกล่าวในระหว่างการเยือนอิตาลี  มีเพียงอินโดนีเซียเท่านั้นที่สามารถหาหลักฐานและเอาผิดบริษัทที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ได้นาจิบกล่าว  ไฟดังกล่าวลุกไหม้ขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงหน้าแล้งบริเวณพื้นที่เพาะปลูกและพื้นที่ดินพรุซึ่งถูกเคลียร์พื้นที่อย่างผิดกฎหมายด้วยการเผาบนเกาะสุมาตราและบนส่วนหนึ่งของเกาะบอร์เนียวของแดนอิเหนา   วิกฤตควันไฟในปีนี้เป็นหนึ่งในครั้งที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี ทำให้พื้นที่ใหญ่ๆ ของอินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันที่รุนแรง มันจุดชนวนให้เกิดการประกาศเตือนภัยด้านสุขภาพและการปิดโรงเรียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า การยกเลิกเที่ยวบินและทำให้ผู้คนหลายหมื่นคนต้องเข้ารับการรักษาทางการแพทย์จากปัญหาทางระบบหายใจก่อนหน้านี้ทางการมาเลเซียได้สั่งปิดโรงเรียนในหลายพื้นที่ของประเทศในวันจันทร์ (5) และวันอังคาร (6) หลังจากที่เคยสั่งปิดไปแล้วเมื่อเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากระดับมลภาวะพุ่งสูงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์  อินโดนีเซียเผชิญกับแรงกดดันจากเพื่อนบ้านให้จัดการกับปัญหานี้นับตั้งแต่มันเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว แต่การแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่ได้เกิดผลคืบหน้าใดๆ เลย นาจิบกล่าวว่า ทั้งสองประเทศต้องกำหนดยุทธศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อจัดการกับภัยพิบัติทางแวดล้อมประจำปีนี้  ความคิดเห็นของเขาออกมาหลังจากที่เมื่อเดือนที่แล้วเจ้าหน้าที่สิงคโปร์ได้แสดงถึงความเหลืออดกับอินโดนีเซีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าวิกฤตควันไฟในปีนี้กำลังจะมีความรุนแรงเท่ากับหรือมากกว่าการแพร่กระจายของหมอกควันเมื่อปี 1997 ที่ภาวะมลพิษพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์และก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจราว 9 พันล้านดอลลาร์ คุณภาพอากาศที่ย่ำแย่นี้เริ่มที่จะทำให้หลายกิจกรรมสำคัญๆ ในภูมิภาคนี้ต้องเป็นอันล้มเลิก ในสิงคโปร์การแข่งขันใน FINA World Championship ซึ่งเป็นการแข็งขันว่ายน้ำชิงแชมป์โลกได้ถูกเลื่อนออกไปเมื่อวันเสาร์ (3) และหนึ่งในกิจกรรมวิ่งมาราธอนที่ใหญ่ที่สุดของแดนเสือเหลืองที่กำหนดจัดในวันอาทิตย์ (4) ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ก็ถูกยกเลิกเช่นกัน รวมถึงการแข่งขันสโมสรฟุตบอลท้องถิ่นของมาเลเซียบางนัดที่ถูกเลื่อนออกไปด้วย

(หมายเหตุ คัดลอกจากข่าวแปล คอลัมน์ข่าวต่างประเทศ เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น