เอพี -
ประธานาธิบดียูเครนเผยกองกำลังรัฐบาลและฝ่ายกบฏถอนอาวุธหนักเกือบทั้งหมดออกจากแถวหน้าของสมรภูมิรบทางภาคตพวันออกแล้ว
แต่ในวันอังคาร(10มี.ค.)
สองฝายยังกล่าวโทษกันไปมาต่อการถ่วงเวลาปฏิบัติตามเงื่อนไขอื่นๆของข้อตกลงหยุดยิง
การให้มุมมองในแง่ดีอย่างระมัดระวังของประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก
มีขึ้นหลังจากรัฐมนตรีต่างประเทศของเขา กล่าวหาฝ่ายกบฏขัดขวางคณะสังเกตการณ์ที่มีหน้าที่ตรวจสอบการถอนอาวุธหนัก
ส่วนโฆษกของพวกแบ่งแยกดินแดน
ก็ตอบโต้ด้วยการกล่าวหากองกำลังยูเครนดำเนินการถอนอาวุธล่าช้ากว่ากำหนด โปโรเชนโก
ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐในช่วงค่ำวันจันทร์(9มี.ค.) ว่าอาวุธหนักบางส่วนยังประจำการอยู่ใกล้กับจุดล่อแหลมของการสู้รบ ณ
ท่าอากาศยานเมืองโดเนตสก์ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของฝ่ายกบฏ เงื่อนไขถอนอาวุธหนักซึ่งถูกเคาะในการเจรจาสันติภาพระดับสูงเมื่อเดือนที่แล้ว
จะช่วยส่งเสริมความพยายามยุติความขัดแย้งโดยเด็ดขาด ที่ทางสหประชาชาติคาดหมายว่าได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า
6,000 ศพและมีประชาชนอีกเกือบ 1.8 ล้านคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย การถอนอาวุธหนักอยู่ภายใต้การตรวจตราของเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์หลายร้อยคนจากองค์การเพื่อความปลอดภัยและความร่วมมือแห่งยุโรป(OSCE)
แต่องค์การแห่งนี้ส่งเสียงคร่ำครวญว่าไม่ค่อยได้รับความร่วมมือจากทั้งสองฝ่ายคู่สงครามอังดรีย์
ลีเซนโก โฆษกประจำปฏิบัติการทางทหารในภาคตะวันออกของกองทัพยูเครน
เผยว่ากองกำลังรัฐบาลขอสงวนไว้ซึ่งทางเลือกในการนำอาวุธหนักกับคืนที่มั่นเดิมหากความเป็นปรปักษ์หวนคืนมา
"เพื่อไม่ให้กำลังพลในแนวหน้าของเราตกอยู่ในความเสี่ยง
ตำแหน่งที่ตั้งปืนใหญ่บางส่วนจึงต้องอยู่ไม่ไกล และในกรณีที่จำเป็น
พวกมันจะถูกส่งกลับมา" ลีเซนโก
ยอมรับว่าในแนวหน้ายังจำเป็นต้องมีทหารราบอาวุธหนักเพื่อคอยปัดเป่าการรุกคืบใดๆของพวกกบฏ
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เจาะจงถึงชนิดของอาวุธเหล่านั้น
แต่ด้วยถ้อยคำที่ใช้คาดหมายว่าน่าจะเป็นอาวุธจำพวกปืนครก
เครื่องยิงลูกระเบิดและปืนต่อสู้รถถังภายใต้ข้อตกลงที่บรรลุกัน ณ กรุงมินสก์
เมืองหลวงของเบลารุส เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์
อาวุธหนักจะต้องถูกถอนออกจากแนวหน้าในรัศมี 25 ถึง 70
กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับขนาดลำกล้องของอาวุธนั้นๆ อย่างไรก็ตามในวันอังคาร(10มี.ค.) เอดูอาร์ด
บาซูริน ตัวแทนกองกำลังติดอาวุธของกบฏ
กล่าวหาทหารยูเครนว่าดำเนินการอย่างล่าช้าในการถอนอาวุุธหนักบางส่วน แต่นายลาฟโล
คลิมคิน
รัฐมนตรีต่างประเทสเคียฟตอบโต้ด้วยการกล่าวหาพวกแบ่งดินแดนว่าแสร้งทำเป็นถอนอาวุธหนักออกมาเท่านั้น
"พวกเขาขัดขวางอย่างไม่ลดลด ไม่ให้คณะสังเกตการณ์ของ OSCE เข้าถึงขั้นตอนการถอนอาวุธ"รายงานของ OSCE เมื่อวันอาทิตย์(8มี.ค.) บ่งชี้ว่าทั้งสองฝ่ายต่างขัดขวางความพยายามของคณะสังเกตการณ์
โดยยกตัวอย่างต่างๆนานาเกี่ยวกับกรณีที่ทหารยูเครนและนักรบกบฏสั่งคณะทำงานของ OSCE
หยุดติดตามขบวนรถที่บรรทุกอาวุธหนักกลับจากแนวหน้า ในการให้สัมภาษณ์ โปเรเชนโก
บอกว่าการดวลปืนใหญ่และจรวดตามแนวหน้าส่วนใหญ่ยุติลงแล้ว
แต่ยังคงมีการปะทะกันด้วยอาวุธขนาดเล็กและเครื่องยิงระเบิดบ้างประปราย
ขณะที่สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของยูเครนรายงานโดยอ้างโฆษกของกองทัพยูเครน
ระบุว่าหนึ่งวันก่อนหน้านี้พวกกบฏมีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง 12 ครั้ง
เอเจนซีส์ – ชาวฝรั่งเศสจมลงสู่ความโศกเศร้าอาลัยอีกครั้งในวันอังคาร
(10 มี.ค.)
หลังจากการเสียชีวิตของดารานักกีฬา 3 คน
ซึ่งมีทั้งนักว่ายน้ำเหรียญทองโอลิมปิก
และนักกีฬาเรือใบยอดเยี่ยมคนหนึ่งของโลกรวมอยู่ด้วย ในเหตุเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำชนกันกลางอากาศ ระหว่างการถ่ายทำรายการเรียลลิตี้โชว์
ในประเทศอาร์เจนตินาเมื่อวันจันทร์ (9) ทั้งนี้มีรายงานว่า
ซิลแวง วิลตอร์ อดีตนักฟุตบอลทีมอาร์เซนอล
เป็นผู้ร่วมแข่งขันของรายการนี้ด้วยผู้หนึ่ง แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ฟลอรองซ์ อาร์โธด์
แชมเปี้ยนกีฬาเรือใบหลายรางวัล, การมิลล์ มุฟฟาต์ นักว่ายน้ำเหรียญทองโอลิมปิก,
และ อเล็กซีส์ วาสติน นักมวยเหรียญทองแดงโอลิมปิก เป็น 3 ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 10 คน
เมื่อเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำเกิดชนกันขณะกำลังถ่ายทำรายการเรียลลิตี้โชว์ชุด
“ดร็อปเป็ด” (Dropped) ในเขตเทือกเขาทุรกันดารของจังหวัดลา
ริโอจา ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกของอาร์เจนตินา
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในอาร์เจนตินาระบุ
“ทั่วทั้งฝรั่งเศสต่างจมอยู่ในความโศกเศร้าอาลัยในเช้าวันนี้”
นายกรัฐมนตรี มานูเอล วาลส์ ของฝรั่งเศส กล่าวก่อนหน้านั้น ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ ออกคำแถลงแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของผู้เคราะห์ร้ายทั้ง
10 ซึ่งในจำนวนนี้เป็นชาวฝรั่งเศส 8 คน ทั้งนี้
ผู้อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ทั้ง 2 ลำต่างเสียชีวิตทั้งหมด
โดยนอกจากนักบินชาวอาร์เจนตินา 2 คนแล้ว
ที่เหลือเป็นชาวฝรั่งเศสซึ่งเป็นทีมงานและผู้ร่วมแข่งขันในรายการ
"ดรอปเป็ด" ของบริษัท แอดเวนเจอร์ ไลน์ โปรดักชั่น (เอแอลพี)
รายการนี้เป็นรายการยอดนิยมในยุโรป
สำหรับเวอร์ชั่นฝรั่งเศสนั้นแพร่ภาพทางสถานีทีวีทีเอฟ1 ของแดนน้ำหอมรูปแบบของเรียลลิตี้โชว์รายการนี้คือ
การนำผู้แข่งขันไปปล่อยในสถานที่ซึ่งยากลำบากแก่การดำรงชีวิต
เพื่อให้พวกเขาแสดงทักษะในการเอาชีวิตรอดและค้นหาทางกลับสู่เมือง ในรายการชุดนี้
มีดารานักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันรวม 8 คน
นอกจากผู้เคราะห์ร้ายทั้ง 3 แล้ว ที่เหลืออีก 5 คนไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ จากอุบัติเหตุคราวนี้ ดารานักกีฬาเหล่านี้ได้แก่
ซิลแวง วิลตอร์ อดีตนักฟุตบอลของทีมชาติฝรั่งเศส ตลอดจนของ 2 สโมสรดังในพรีเมียร์ลีกของอังกฤษอย่างอาร์เซนอล , อแลง
แบร์นาร์ด นักว่ายน้ำ, แอนน์-ฟลอร์ มาร์กเซอร์ นักสโนว์บอร์ด
และฟิลิปเป กองเดโลโร นักสเก็ตลีลา
ภายหลังเกิดเหตุ วิลตอร์ พิมพ์ในทวิตเตอร์ว่า “ผมขอเสียใจให้เพื่อนๆ ของผม ผมตกใจมาก ผมพูดไม่ออก
ผมคงพูดอะไรต่อไม่ได้แล้ว”
สำหรับดารานักกีฬาที่เสียชีวิต อาร์โธด์ วัย 57 ปี
เป็นผู้ที่เห็นกันว่าคือนักกีฬาเรือใบยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งของโลก แถมยังเป็นผู้หญิงซึ่งสามารถพิชิตชัยชนะในกีฬาประเภทที่ครอบงำโดยผู้ชาย
หนึ่งในผลงานซึ่งสร้างชื่อเสียงให้แก่เธอคือ การคว้าแชมป์การแข่งขันรูต ดูว์ เริม
หรือการแข่งขันแล่นเรือคนเดียวข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ในปี 1990 ส่วนมุฟฟาต์ วัย 25 ปี เป็นเจ้าของเหรียญทองว่ายน้ำ 400 เมตรจากโอลิมปิกปี
2012 ที่ลอนดอน และวาสทีน วัย 28 ปี
เป็นนักมวยเหรียญทองแดงในรุ่นไลท์เวลเตอร์เวทจากโอลิมปิกปี 2008 ที่ปักกิ่ง เอแอลพี
บริษัทโปรดักชั่นผู้รับผิดชอบผลิตรายการนี้ แถลงว่า “รู้สึกเหมือนแหลกละเอียด”
จากอุบัติเหตุชวนสยองคราวนี้ และกล่าวว่า
เป็นเรื่องแน่นอนที่บริษัทจะหยุดการถ่ายทำและส่งทีมงานทั้งหมดกลับบ้าน ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สองแล้วที่เรียลลิตี้โชว์ซึ่งเอแอลพีผลิตให้ทีเอฟ1
ประสบโศกนาฏกรรม โดยคราวแรกเกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2013 เมื่อแพทย์คนหนึ่งที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลผู้แข่งขันระหว่างการถ่ายทำรายการ
“เซอร์ไวเวอร์” เวอร์ชั่นฝรั่งเศส
บนเกาะรง ของกัมพูชา
ฆ่าตัวตายหลังจากผู้แข่งขันคนหนึ่งเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายขณะถ่ายทำตอนที่ 1
ของรายการ โดยที่เขาเคยบ่นว่า มีอาการเจ็บที่หัวใจ ในเหตุล่าสุดนี้
ทางอัยการฝรั่งเศสประกาศในวันอังคาร (10) เปิดการสอบสวนว่ามีความไม่ชอบมาพากลหรือไม่ในอุบัติเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตคราวนี้
ทว่านี่ก็เป็นการปฏิบัติตามมาตรฐานปกติในกรณีที่มีคนสัญชาติฝรั่งเศสตายในต่างแดน สำหรับทางอาร์เจนตินา สำนักข่าวเทลัมของทางการรายงานว่า
เจ้าหน้าที่อาร์เจนตินาไปถึงสถานที่เกิดเหตุตั้งแต่คืนวันจันทร์
เพื่อตรวจหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ ฮอราซิโอ
อลาร์กอน โฆษกจังหวัดลา ริโอจาระบุว่า สภาพอากาศปกติดีขณะเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 17.00
น วันจันทร์ ตามเวลาท้องถิ่น. (เวลาไทยประมาณ 03.00 น. วันอังคาร) เซซาร์ อังกูโล รัฐมนตรีด้านความมั่นคงของจังหวัดลา ริโอจา เผยว่า
เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งที่ประสบเหตุนั้นเป็นของจังหวัดลา ริโอจา
ส่วนอีกลำเป็นของจังหวัดซานเทียโก เดล เอสเตอโร ที่อยู่ใกล้เคียงกัน อังกูโลเสริมว่า ดูเหมือนว่า
เฮลิคอปเตอร์จากลา ริโอจา ที่เป็นเครื่องยูโรคอปเตอร์ บรรทุกผู้โดยสารได้ 6
คน เฉี่ยวเฮลิคอปเตอร์อีกลำ หลังจากทะยานขึ้นไม่นาน แอนเดรส
นาวาร์เรเต นายกเทศมนตรีวิลล่า คาสเตลลี เผยว่า ทีมถ่ายทำรายการดังกล่าวซึ่งมีประมาณ
80 คน ส่วนใหญ่เป็นคนฝรั่งเศส ได้เดินทางถึงวิลล่า
คาสเตลลีตั้งแต่วันอาทิตย์ (8) และเมืองนี้เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำรายการ
“ดรอปเป็ด” ที่แพร่ภาพในสวิตเซอร์แลนด์และเดนมาร์กก่อนหน้านี้
เอเอฟพี - บริษัทญี่ปุ่นหัวใส ใช้เทคโนโลยีของเครื่องปริ้นเตอร์ 3 มิติ สร้างอวัยวะเทียม สำหรับใช้ในการฝึกฝนของแพทย์ที่ยังขาดประสบการณ์ ซึ่งอวัยวะเทียมที่ผลิตจากปริ๊นเตอร์ 3 มิตินี้ ไม่เพียงแต่จะมีรูปทรงที่เหมือนจริงเท่านั้น แต่ยังมีความอ่อนนุ่มเปียกชื้นราวกับอวัยวะของสิ่งมีชีวิต ปอดเทียมที่มีรูปร่างเหมือนจริง เปียกชื้นและอ่อนนุ่ม มีทั้งเนื้องอกและเส้นเลือด คือหนึ่งในผลิตภัณฑ์อวัยวะเทียมที่ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทญี่ปุ่น "ฟาโซเทค" ซึ่งจะช่วยให้บรรดาศัลยแพทย์สามารถขัดเกลาฝีมือของตนเองได้โดยที่ไม่ต้องทำให้ใครเจ็บตัว "ด้วยแบบโมเดลเหล่านี้ บรรดาแพทย์สามารถสัมผัสได้ถึงความอ่อนนุ่มของอวัยวะ เราตั้งเป้าจะช่วยให้บรรดาแพทย์ได้พัฒนาฝีมือด้วยแบบโมเดลเหล่านี้" โทโมฮิโระ คิโนชิตะ จากฟาโซเทค บริษัทที่ตั้งอยู่ในจังหวัดจิบะ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น บอกกับนักข่าว พวกเขาเรียกผลิตภัณฑ์เหล่านี้ว่า "ไบโอเท็กซ์เจอร์ เว็ต โมเดล" โดยจะมีการนำไปวางขายในตลาดสินค้าสำหรับฝึกฝนในเชิงศัลยกรรมและอุปกรณ์สำหรับทดสอบด้านการแพทย์ที่ญี่ปุ่น ช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ ซึ่งเจ้าอวัยวะเทียมเหล่านี้สร้างด้วยการทำสแกนตัวอย่างจากอวัยวะจริงในเวลาไม่กี่นาที แล้วนำรายละเอียดที่ได้มาสร้างด้วยเครื่องปริ๊นเตอร์ 3 มิติ เมื่อสร้างด้วยเครื่องปริ๊นเตอร์ 3 มิติแล้ว อวัยวะเทียมเหล่านี้จะถูกฉีดเคลือบด้วยสารเรซินสังเคราะห์แบบเจล ทำให้มันเปียกชื้น เวลาอยู่ในมือศัลยแพทย์จะรู้สึกราวกับเป็นอวัยวะของสิ่งมีชีวิตจริงๆ ทุกชิ้นถูกออกแบบให้เหมือนจริงในทุกด้าน ทั้งผิวสัมผัสและน้ำหนัก รวมถึงยังตอบสนองต่อมีดผ่าตัดได้แบบเดียวกับอวัยวะจริง |
มาคิ ซูกิโมโต ผู้เป็นอาจารย์พิเศษของบัณฑิตวิทยาลัยการแพทย์
มหาวิทยาลัยโกเบ ระบุหลังจากที่ได้ลองทดสอบอวัยวะเทียมเหล่านี้
ว่ามีความสมจริงเป็นอย่างมาก "ผมคิดว่าคงไม่ใช่แค่เพียงแพทย์อายุน้อยที่ไร้ประสบการณ์เท่านั้น
แต่บรรดาแพทย์ผู้มากประสบการณ์ก็ยังจะสามารถทำการผ่าตัดได้ดีขึ้น
หากพวกเขาได้ซ้อมมือด้วยอวัยวะเทียมเสียก่อน" เขากล่าว โทชิอากิ โมริคาวะ
แพทย์ของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยจิเคอิ ในกรุงโตเกียว ก็ยังระบุคล้ายกันว่า
อวัยวะเทียมเหล่านี้มีความสมจริงมาก
ในแง่ของคุณภาพถือว่าผลิตออกมาได้อย่างแม่นยำใกล้เคียงกับอวัยวะของสิ่งมีชีวิตจริงๆ
ต่างกับอวัยวะเทียมแบบเดิมๆ ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันซึ่งเรียบง่ายเกินไป
แถมรายละเอียดด้านกายวิภาคศาสตร์ก็ยังไม่ตรงกับความเป็นจริงสักเท่าไหร่ ดูเหมือนว่าโลกแห่งปริ๊นเตอร์ 3
มิติ ได้นำเสนอความเป็นไปได้ในทางการแพทย์ที่ไร้จุดสิ้นสุดแก่โมริคาวะ
เขามองว่าวันหนึ่งในอนาคต
อวัยวะที่ถูกสร้างด้วยเทคโนโลยีแบบนี้อาจรุดหน้าถึงขั้นใช้ในการปลูกถ่ายแก่ผู้ป่วยได้ "เมื่อพิจารณาถึงความก้าวหน้าในอนาคตของวิทยาศาสตร์แห่งชีวิต
ผมคิดว่านี่เป็นเรื่องที่สำคัญและเร่งด่วนมาก
เทคโนโลยีที่โดดเด่นแบบนี้ควรจะได้รับการปรับปรุงเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในด้านชีววิทยา"
เขากล่าว ข้อมูลจากฟาโซเทคระบุว่า
ทางบริษัทได้เริ่มเปิดให้สั่งจองโมเดล กระเพาะและท่อปัสสาวะ
ตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้วในราคา 15,000 เยน
(ประมาณ 4 พันบาท)
นอกจากนี้พวกเขายังมีแผนจะส่งออกขายในต่างประเทศด้วย
โดยได้รับการสอบถามจากหลายประเทศแถบเอเชีย
เอเอฟพี – เมื่อวานนี้(9)มีการเปิดเผยความคืบหน้าในการตามหาเที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สที่หายไปว่า ซองผ้าเย็นที่มีโลโก้สายการบินติดอยู่ซึ่งถูกพบบนชายหาดเวสเทิร์นออสเตรเลีย 4 เดือนหลังเกิดเหตุนั้น ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถยืนยันความเกี่ยวข้องระหว่างสิ่งที่พบและเที่ยวบินที่หายไป และไม่คิดว่าซองผ้าเย็นนี้จะสามารถใช้เพื่อตามหา MH370 ได้ เที่ยวบิน MH370ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สที่หายไปเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2014 พร้อมทั้งคนทั้งหมด 239 คนที่อยู่บนเครื่อง และมาจนถึงขณะนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะสามารถพบเครื่องบินสูญหายลำนี้แต่อย่างใด ซึ่งมีการสันนิษฐานว่า MH370 ตกในมหาสมุทรอินเดียนอกชายฝั่งออสเตรเลียตะวันตก และมีการเปิดเผยล่าสุดว่า มีการพบซองผ้าเย็นที่มีโลโก้สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางพนักงานเครื่องมักแจกจ่ายให้ผู้โดยสารในอาหารระหว่างมื้อถูกค้นพบ 4 เดือนหลังจากเกิดเหตุการณ์หายไปของเที่ยวบินปริศนา โดยพบซองผ้าเย็นตกอยู่บริเวณชายหาดเทอร์สตี พอยต์ (Thirsty Point) ห่างจากเพิร์ธไปทางเหนือราว 200 กม.ด้านสำนักงานกลางควบคุมความปลอดภัยทางขนส่งของออสเตรเลีย ATSB ที่เป็นผู้นำทีมการค้นหาใต้น้ำ ได้ตรวจสอบสิ่งของต่างๆที่ถูกพบบนชายหาดออสเตรเลีย และระบุว่า สิ่งต่างๆที่ได้นำมาตรวจสอบนั้นไม่มีหลักฐานแน่นหนาเชื่อมโยงกับ MH370 รวมถึงซองผ้าเย็นติดโลโก้สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สซองนี้เช่นกัน “ซองผ้าเย็นติดโลโก้มาเลเซียแอร์ไลน์สขนาด 6 ซม x 8 ซม ถูกพบบนชายหาดเทอร์สตี พอยต์ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2014และถูกนำส่งให้ตำรวจเวิสเทิร์นออสเตรเลียหลังจากนั้น” ATSB กล่าวผ่านแถลงการณ์หลังจากการค้นพบซองผ้าเย็นถูกเผยแพร่ผ่านสื่อออสซี “และเป็นที่น่าเสียดายว่าสิ่งของเครื่องใช้ที่พบได้ตามปกติบนเครื่องไม่มีลักษณะเฉพาะที่จะบ่งชี้ว่าเกี่ยวพันกับ MH370” ATSB แถลงเพิ่มเติม โดยก่อนหน้านี้ ผลการตรวจสอบในวาระครบ 1 ปีความยาว 584 หน้า ซึ่งชี้แจงผลการสอบสวนที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการสูญหายของเครื่องบินโบอิ้ง 777-200ER ลำนี้ ระบุว่า แบตเตอรีของอุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบินซึ่งจะส่งสัญญาณระบุตำแหน่งในกรณีที่เครื่องบินตกลงทะเล หมดอายุไปตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2012 และไม่ได้รับการเปลี่ยนใหม่ ซึ่งสำนักงานการบินพลเรือนมาเลเซีย ชี้แจงว่า ระบบคอมพิวเตอร์ฝ่ายวิศวกรรมของมาเลเซียแอร์ไลน์สทำงานผิดพลาด เป็นเหตุให้ฝ่ายซ่อมบำรุงตรวจไม่พบว่าแบตเตอรีหมดอายุ แต่ทางบริษัทมาเลเซียแอร์ไลนส์ ยังยืนยันว่า แบตเตอร์รีในกล่องดำที่เก็บข้อมูลในห้องนักบินนั้นสามารถอยู่ได้ถึง 30 วัน และจะเริ่มทำงานหลังจากที่เครื่องตกลงไปยังมหาสมุทร และจะเริ่มส่งสัญญาณปิงออกมา ภารกิจค้นหาในเขตน่านน้ำ 60,000 ตารางกม. ห่างจากชายฝั่งเมืองเพิร์ธไปทางตะวันตกราว 1,600 กม.ยังไม่พบชิ้นส่วนที่จะยืนยันการตกของเครื่องบินได้แม้แต่ชิ้นเดียว และอาจจะต้องยุติลงกลางคันในเดือนพฤษภาคมนี้ หลังจากรองนายกรัฐมนตรีแดนจิงโจ้ โทนี แอบบ็อต ออกมาแถลงในหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้ว่า กำลังมีการหารือระหว่างออสเตรเลีย มาเลเซีย และจีน ว่าสมควรปิดฉากการค้นหาที่ยืดเยื้อนี้หรือไม่ อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก แห่งมาเลเซีย และรัฐบาลจีน ยังยืนกรานว่าเต็มใจที่จะสนับสนุนภารกิจค้นหา MH370 ต่อไป
เอเอฟพี – กลุ่มผู้ประท้วงชาวอินโดนีเซียส่งถุงบรรจุเหรียญให้กับสถานทูตออสเตรเลียในวันนี้ (10) โดยระบุว่าเป็น การคืนเงินช่วยเหลือในช่วงภัยพิบัติสึนามิ หลังจากที่แคนเบอร์ราพยายามที่จะใช้ประเด็นนี้กดดันให้จาการ์ตายุติการประหารชีวิต 2 พลเมืองออสเตรเลีย ขณะที่ส่งมอบกระเป๋าใส่เหรียญดังกล่าว พวกเขาป่าวร้องตะโกนว่า “อุดปาก แอ๊บบอต์” และ “แอ๊บบอตต์ ต้องขอโทษ” พร้อมกับเหยียบย่ำโปสเตอร์ที่มีรูปนายกรัฐมนตรี โทนี แอ๊บบอตต์ แห่งออสเตรเลียถูกเทปปิดปาก เมื่อเดือนที่แล้ว แอ๊บบอตต์ กล่าวว่า จาการ์ตาควรระลึกถึงเงินช่วยเหลือ 1 พันล้านดอลลาร์ที่ออสเตรเลียส่งให้ภายหลังเกิดภัยพิบัติสึนามิในมหาสมุทรอินเดียเมื่อปี 2004 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 220,000 คน ความคิดเห็นของเขามีเป้าหมายเพื่อโน้มน้าวให้จาการ์ตายุติการประหารชีวิต แอนดรูว์ ชาน และ มยุราน สุกุมาราน สองหัวหน้าแก๊งค้ายาเสพติดชาวออสเตเรีย ซึ่งคาดว่าจะถูกนำตัวเข้าลานประหารเร็วๆ นี้ แต่ความพยายามดังกล่าวกลับส่งผลตรงกันข้ามแล้เป็นเหตุให้เกิดกระแสความขุ่นเคืองอย่างมโหฬารขึ้นในแดนอิเหนา ที่ซึ่งผู้ประท้วงหลายกลุ่มเริ่มการรณรงค์รวบรวมเหรียญเพื่อจ่ายคืนเงินช่วยเหลือของแดนจิงโจ้ ในการประท้วงครั้งล่าสุดที่หน้าสถานทูตออสเตรเลียในกรุงจาการ์ตาเมื่อไม่กี่สัปดาห์มานี้ กลุ่มนักศึกษาราว 30 คนได้ส่งมอบถุงพลาสติกบรรจุเหรียญและธนบัตร 7 ใบให้กับเจ้าหน้าที่สถานทูต ซึ่งคิดเป็นเงินรวมแล้วประมาณ 7 ล้านรูเปีย (ราว17,501 บาท) “สิ่งที่ แอ๊บบอตต์ ทำคือพฤติกรรมต่ำชั้น เขาสามารถทำตัวมีอารยะและสุภาพกว่านี้” แอนดี สีนุลิงกา ผู้ประสานงานการรณรงค์บอกกับเอเอฟพี “เราไม่เคยขอความช่วยเหลือ แต่ออสเตรเลียเสนอตัวช่วย หากเรารู้ว่าพวกเขาไม่มีความจริงใจ เราจะปฏิเสธความช่วยเหลือนั้น” เขากล่าวเสริม ชาน วัย 31 ปี และ สุกุมาราน วัย 33 ปี สองหัวหน้าแก๊งค้าเฮโรอีนที่รู้จักกันในชื่อ “บาหลี ไนน์” ถูกตัดสินประหารชีวิตฐานพยายามลักลอบขนยาเสพติดออกจากอินโดนีเซียในปี 2006 พวกเขาคาดว่าจะถูกประหารชีวิตเร็วๆ นี้ ภายหลังคำร้องขอลดหย่อนผ่อนโทษจากประธานาธิบดีถูกปฏิเสธ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น