วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Apocalypse Now กองพันปีศาจ จิตวิปลาศของมนุษย์

จากเหตุการณ์สงครามกลางเมืองในซีเรีย การจลาจลต่อสู้กันของประชาชนกับรัฐบาลทหารในอียิปต์ขณะนี้ บ่งบอกได้ว่าที่ใดที่ผู้ปกครองหรือผู้มีอำนาจลุกขึ้นปราบปรามประชาชนซึ่งอยู่ฝ่ายตรงกันข้าม ที่นั่นย่อมขาดความสงบสุข และสงครามไม่เคยให้อะไร นอกจากความเจ็บปวดรวดร้าวและบาดแผลทางจิตใจ ซึ่งกินเวลายาวนาน กว่าที่ผู้คนจะลืมเลือน บางครั้งก็หลายชั่วอายุคน แม้ว่าบางครั้งสงครามอาจจบสิ้นไปนานแล้วก็ตาม จากเหตุการณ์การสู้รบ และสงครามที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทำให้ผู้เขียนอยากจะหยิบยกเอาภาพยนตร์ที่พูดถึงเรื่องราวของสงครามเรื่องนึงมาตีแผ่เนื้อหา เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงของนักวิจารณ์และเป็นภาพยนตร์ที่ถูกจัดอันดับให้เป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมตลอดกาลเรื่องนึงในอดีต นั่นก็คือ Apocalypse Now


หนังออกฉายปี 1979 เรื่องนี้สร้างขึ้นจากการดัดแปลงวรรณกรรมคลาสสิกของโจเซฟ คอนราด ที่ชื่อว่า Heart of Darkness โดยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามในเวียดนาม เมื่อร้อยโท เบนจามิน วิลลาร์ด นายทหารอเมริกันที่กำลังจะสติแตก จากการต่อสู้และได้รับมอบหมายภารกิจพิเศษให้เดินทางเพื่อไปตามหาและสังหารนายทหารท่านนึง ซึ่งเคยเป็นตำนานในกองทัพ เขาคือผู้พันวอลเตอร์ เคิร์ท เพราะเขาถูกตัดสินว่ากระทำความผิดจากการฆาตกรรมหมู่ชาวเวียดนาม (ที่ทำงานให้สหรัฐ) และหนีออกจากกองทัพ พร้อมทั้งไปจัดตั้งกองกำลังเป็นของตนเองขึ้นมาในกัมพูชา จริงอยู่ว่าการฆ่ากันในสงครามเป็นเรื่องธรรมดา แต่คำสั่งฆ่าในครั้งนี้ วิลลาร์ดต้องไปจัดการพวกเดียวกัน และยิ่งเดินทางไปเรื่อยๆ ผู้กองหนุ่มก็ยิ่งพบกับเหตุการณ์และเรื่องราวต่างๆ มากมาย ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลก็ได้ทำให้มีอิทธิพลต่อเขา ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมุมมองความคิด ชีวิต และจิตวิญญาณของเขาไปตลอดกาล

มาร์ลอน แบรนโด พระเอกตลอดกาลคนหนึ่งของฮอลลีวู้ดมารับบทเป็นผู้พันเคิร์ท ร่วมด้วยโรเบิร์ต ดูวัลที่มาสวมบทบาทเป็นผู้พันบิลล์ คิลโกร์ มาติน ชีน(พระเอกดาวรุ่ง) มารับบทร้อยโท วิลลาร์ด ร่วมด้วย เดนนิส ฮอปเปอร์ แสดงเป็นช่างภาพสงคราม และแฮริสัน ฟอร์ด มาแสดงเป็นผู้พันลูคัส ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของ ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปล่า ผลงานขึ้นหิ้งนี้ ใช้เวลาการถ่ายทำยาวนานถึง 3 ปี เนื่องจากเขาต้องการความพิถีพิถันในรายละเอียดต่างๆ ตอนเริ่มถ่ายทำนั้นโลเรนซ์ พิชเบิร์น (ตอนนั้นใช้ชื่อในการแสดงว่า แลรี่ พิชเบิร์น) ยังมีอายุเพียง 14 ปี และเมื่อหนังออกฉาย เขาก็มีอายุ 17 ปีพอดีซึ่งตรงกับคาแรกเตอร์ที่เขาได้รับ ผู้กำกับซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับท่านมุ้ย (หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล) ได้ใช้ทุนส่วนตัวที่ได้รับมาจากความสำเร็จของ The Godfather ประกอบกับการกู้ยืมเงินมาจากธนาคาร ในการสร้างภาพของสงครามให้ออกมาสมจริงในแผ่นฟิลม์ ซึ่งถ้าหนังไม่ประสบความสำเร็จ เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับภาวะล้มละลายอย่างแน่นอน และจากการใช้เวลานานในการถ่ายทำที่ค่อนข้างนาน พร้อมทั้งมีข่าวหลุดลอดออกมาอยุ่เรื่อยๆ ถึงปัญหาในการถ่ายทำ ส่งผลให้นักวิจารณ์บางคนเริ่มเรียกชื่อหนังจาก Apocalypes Now มาเป็น Apocalypse Whenever ซึ่งคอปโปล่าเองก็ออกมากล่าวถึงการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ว่า พวกเราใช้เงินไปมาก ใช้เครื่องมือไปก็มหาศาล และก็อีกเล็กน้อยของความวิกลจริต แม้ว่าจะถูกค่อนขอดและเสียดสี แต่เมื่อออกฉาย หนังที่ว่าด้วยด้านมืดของทหารในสงครามเวียดนามเรื่องนี้ก็สามารถทำรายได้ไปกว่า 100 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ต้องถือว่าเยอะมากในยุคนั้น) และกลายเป็นอีกหนึ่งตำนานของโลกภาพยนตร์ ในปี 2002 นิตยสาร Sight and Sound ได้เลือกให้ Apocalypse Now เป็นหนังที่ดีที่สุดในรอบ 25ปี

ฉากหนึ่งซึ่งเป็นที่จดจำมากที่สุดในหนังคือ ฉากที่กองทัพเฮลิคอปเตอร์เข้าถล่มหมู่บ้านซึ่งมีการเปิดเพลงของ ริชาร์ด แว็กเนอร์ (ใช้ชีวิตในสมัยนาซีเรืองอำนาจและเป็นคนโปรดของอดอร์ฟ ฮิตเลอร์) ไปพร้อมๆ กันเพื่อให้พวกเวียดกงกลัว เพลงที่ใช้เปิดนั่นก็คือ The Ride of Valkyries ซึ่งว่าด้วยเรื่องราวความกล้าหาญของทหารนาซี ทั้งนี้การให้นักรบอเมริกันเปิดเพลงนี้ก่อนทำการสังหารหมู่ผู้คน ก็เหมือนเป็นการเสียดสีสหรัฐอยู่กลายๆ ว่าทำตัวเหมือนกับพวกนาซีที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว

Apocalypse Now ตีแผ่ด้านมืดในจิตใจของมนุษย์ เมื่อถึงจุดนึงซึ่งความอดทนสิ้นสุด ความกลัว ความกระหายในอำนาจ ศีลธรรมในจิตใจถูกบดบัง มนุษย์จะแสดงออกอย่างไร ตัวหนังเต็มไปด้วยบทพูดหรือไดอะล็อคที่แฝงปรัชญาไว้มากมาย ซึ่งเป็นไปตามบทประพันธ์ส่วนนึง และสิ่งที่ผู้กำกับต้องการนำเสนออีกส่วนหนึ่ง ด้วยต้องการสื่อสารเนื้อหาที่เป็นปรัชญา จิตวิทยา มากเกินไป ทำให้ตัวหนังเดินเรื่องเนิบช้า และไม่ค่อยเร้าอารมณ์คนดู ทำให้ลดทอนเนื้อหาความเข้มข้นลงไป แต่จุดเด่นคงเป็นงานด้านภาพและการแสดงที่ดีของนักแสดงชั้นครูหลายท่านในวัยที่ยังเป็นหนุ่มๆ คือถ้าจะดูเอาเนื้อหาสาระก็ต้องถือว่าเป็นหนังสงครามที่ให้ข้อคิดเชิงบวกมากมาย แต่ถ้าจะดูเป็นหนังสงครามแบบแอ๊คชั่น ก็ต้องถือว่าไม่ใช่หนังสงครามประเภทบู๊สนั่น เลือดสาดอะไร และค่อนไปทางไม่สนุกเสียด้วย หากไม่ใช่คอหนังดราม่า อาจดูหนังเรื่องนี้แล้วไม่สนุก ไม่รู้เรื่องไปได้ อีกทั้งบทสรุปตอนจบช่วงท้ายเรื่องนั้นจบไม่เหมือนหนังสงครามโดยทั่วไป เพราะผู้กำกับเลือกที่จะสื่อสาร สัญลักษณ์ ความหมายบางอย่าง เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดและจิตใจของมนุษย์ เป็นเส้นบางๆ ที่ใกล้เคียงกับคำว่าออกทะเลไปได้เหมือนกัน และนี่คือสาเหตุที่ผู้เขียนเองก็ไม่เคยคิดจะแสวงหาหนังเรื่องนี้มาดู ตั้งแต่สมัยอดีต แต่เพิ่งจะได้มาดูเมื่อไม่นานมานี้ก็ต้องถือว่าเป็นความบังเอิญ ที่เมื่อดูจบแล้วก็ต้องถือว่าเป็นหนังดีทีเดียวที่พลาดชมไปเสียตั้งนาน

 

ประวัติและผลงานผู้กำกับ Francis Ford Coppola He was born in 1939 in Detroit, USA, but he grew up in a New York suburb in a creative, supportive Italian-American family. His father, Carmine Coppola, was a composer and musician. His mother, Italia Coppola, had been an actress. Francis Ford Coppola graduated with a degree in drama from Hofstra University...

Director (34 เรื่อง)

2011 Twixt

2009 Tetro

2007 Youth Without Youth

2000/I Supernova (uncredited)

1997 The Rainmaker

1996 Jack

1992 Dracula

1992 Making 'Bram Stoker's Dracula' (TV documentary)

1992 The Godfather Trilogy: 1901-1980 (video)

1990 The Godfather: Part III

1989 New York Stories (segment "Life without Zoe" / as Francis Coppola)

1988 Tucker: The Man and His Dream

1987 Gardens of Stone (as Francis Coppola)

1987 Faerie Tale Theatre (TV series)

– Rip Van Winkle (1987)

1986 Peggy Sue Got Married (as Francis Coppola)

1986 Captain EO (short)

1984 The Cotton Club (as Francis Coppola)

1983 Rumble Fish

1983 The Outsiders (as Francis Coppola)

1982 One from the Heart (as Francis Coppola)

1979 Apocalypse Now (as Francis Coppola)

1978 Apocalypse Now: The Workprint (video) (uncredited)

1977 The Godfather: A Novel for Television (TV mini-series)

– Episode #1.4 (1977)

– Episode #1.3 (1977)

– Episode #1.2 (1977)

– Episode #1.1 (1977)

1974 The Godfather: Part II

1974 The Conversation

1972 The Godfather

1969 The Rain People

1968 Finian's Rainbow

1966 You're a Big Boy Now

1963 Dementia 13 (as Francis Coppola)

1963 The Terror (uncredited)

1962 Tonight for Sure

1962 The Bellboy and the Playgirls

1959 Battle Beyond the Sun (as Thomas Colchart / re-edited version with new footage)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น