พี่ตู่ นันทิดา เป็นนักร้องไทยสากลคนแรกของเมืองไทย ที่ผ่านเวทีประกวดในระดับนานาชาติ และได้ออกอัลบั้มเพลงทั้งแนวไทยลูกทุ่ง เพลงสากล และเพลงไทยสากล เพลงแรกที่หัดร้องคือ "My Way" และ "I Who have Nothing" การฝึกร้องฝึกเปล่งเสียง เป็นเรื่องที่ไม่สนุกเอาเสียเลย ในความรู้สึกของเด็กวัย 11ขวบ เวลาครูเข้ามา ต้องแอบหนีไปอยู่ใต้บันได ซึ่งก็ไม่วายถูกจับได้ แต่คนที่มีส่วนผลักดัน ให้นันทิดาเข้ามาสู่ถนนดนตรี เต็มตัว คือ คุณสุดา ชื่นบาน (แม่ของครูแหม่ม ณ อาร์เอส) ซึ่งบังเอิญได้ยินเสียง เด็กหญิงนันทิดา ซ้อมร้องเพลง เลยแนะนำ ให้ไปประกวดร้องเพลงที่ช่อง 3 ซึ่งคุณแม่ให้การสนับสนุน ในขณะที่ตัวนันทิดาเองไม่ค่อยจะยินยอม คุณแม่เลยใช้แผนหลอก ด้วยการไปรับเธอที่โรงเรียน และบอกว่า คุณยายไม่สบาย อยู่โรงพยาบาล แต่ขอแวะทำธุระที่ช่อง 3 ก่อน พอขึ้นไปด้วยกัน เธอถึงรู้ว่าเป็นการประกวดรางวัล นักร้องสมัครเล่น ไม่ว่าเรื่องนี้ จะเริ่มต้นอย่างไร แต่ตอนจบก็คือ นันทิดาได้รางวัล นักร้องสมัครเล่น ยอดเยี่ยม จากสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ปี 2521 จากนั้นก็ไปประกวดต่อที่ฮ่องกง และได้รางวัล นักร้องสมัครเล่นยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ในปีถัดมา สาวน้อยวัย 19 เป็นคนไทยคนแรก ที่คว้ารางวัลระดับนานาชาติ ส่งผลให้นันทิดา เป็นดาวที่ฉายแสงเจิดจรัส ในยุคนั้น ไม่ว่าจะเธอ จะขยับตัวไปทางไหน ก็มีแต่ชื่อเสียง และความสำเร็จ ไม่เพียงแต่งานเพลง เธอยังรับเล่นภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น "เพลงรักดอกไม้บาน" แสดงคู่กับคุณสรพงษ์ ชาตรี ในส่วนของงานเพลง หลังชนะการประกวด นันทิดาออกอัลบั้มชุดแรกกับช่อง 3 ในปี 2523 เป็นเพลงสากล และปลายปีนั้น ก็ออกผลงาน เพลงไทยออกมาอีกชุดหนึ่ง ชื่อ "รักต่างแดน" ซึ่งทำกับห้างแผ่นเสียง เอ บี ซี หลังจากนั้น ก็ทยอยตามมาอีกหลายชุด ซึ่งงานที่ทำกับเอ บี ซี ส่วนใหญ่เป็นเพลงลูกทุ่ง เช่น "แฟนใครไม่มีป้ายแขวนคอ" , "ข้อยเว้าแม่นบ่" , "จำกันบ่ได้กา" และได้รางวัล นักร้องหญิงยอดเยี่ยม จาก "ข้อยเว้าแม่นบ่" ปี 2526 หลายปีกับเพลงลูกทุ่ง ทำให้นันทิดา รู้สึกอิ่มตัวกับสิ่งที่ทำอยู่ ช่วงต่อ ระหว่างย้ายจาก ห้างแผ่นเสียง เอ บี ซี มาอยู่แกรมมี่ เธอเคยออกเทปเพลงสากล กับบัตเตอร์ฟลาย ชุด "Something in Our Mind" อัลบั้มแรก ที่ออกกับแกรมมี่ คือ "นันทิดา 27" มีเพลง "ดีเจ..เสียงใส" ซึ่งเรวัต พุทธินันทน์ แต่งคำร้อง และอุกฤษณ์ พลางกูร แต่งทำนองดังกระหึ่มไปทั่วเมือง จากนั้น นันทิดาก็มีอัลบั้มออกมาอย่างสม่ำเสมอ ทุกปี และเมื่อมีเวลาว่าง ก็จะไปเรียนร้องเพลงเพิ่มเติม กับ 'ครูนิ่ม' กัลยารัตน์ วารณะรัตน์ (นักแต่งเพลงนามสีฟ้า สุดยอดฝีมือของแกรมมี่) และ อ.'ป๋อง' อรรณพ จันสุตะ ทั้งทางภาคทฤษฎี และปฏิบัติ
พี่ตู่ นันทิดา จัดได้ว่าเป็นนักร้องคู่บุญและนักร้องหญิงเบอร์แรกๆ ของแกรมมี่ โดยผ่านการเจียระไนจากพี่เต๋อ เรวัติ พุทธินันท์ อัลบั้มเพลงชุดแรกๆ ของเธอ จึงถูกผ่านการเจียระไนและเคี่ยวบ่มอย่างสุดฝีมือ จากนักดนตรีชั้นครูในค่ายในยุคนั้น ทำให้อัลบั้มชุดแรก ๆ นั้นยังคงมีความไพเราะ อมตะ จนถึงทุกวันนี้ หยิบเอามาฟังใหม่ในยุคนี้ ยังรู้สึกไพเราะมาก ดนตรีไม่ล้าสมัยเลย
ชีวิตส่วนตัว สมรสแล้วกับ คุณชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม (เอ๋) มีบุตรด้วยกัน 2 คน
การศึกษา ประถม-มัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนเซนต์ฟรังซิสซาเวียร์คอนแวนต์ ,มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) , Mini MBA พาณิชยศาสตร์ และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผลงานเพลงก่อนมาอยู่แกรมมี่
• I Who have Nothing (พ.ศ. 2523)
• เพลงรักดอกไม้บาน (พ.ศ. 2523)
• รักต่างแดน (พ.ศ. 2523)
• จำกันบ่ได้กา (พ.ศ. 2524)
• ข้อยเว้าแม่นบ่ (พ.ศ. 2526)
• Something in Our Mind (พ.ศ. 2526)
อัลบั้มแรก นันทิดา'27 (พ.ศ. 2527) อัลบั้มรัก (พ.ศ. 2528) เมื่อวันฟ้าสวย (พ.ศ. 2529) ในฝัน (พ.ศ. 2531)บ่งบอก (พ.ศ. 2532) ขอเป็นคนหนึ่ง (พ.ศ. 2534) The Theatre (พ.ศ. 2537) คืนสุดท้าย (พ.ศ. 2541) ปลายฟ้า (พ.ศ. 2543) คนที่แสนดี (พ.ศ. 2546) Me&My Orchestra 1,2 (พ.ศ. 2548) Love is still beautiful (พ.ศ. 2550) Nantida this is my life (พ.ศ. 2552)
อัลบั้มพิเศษ divas เพลงหวานเมื่อวานนี้ แม่ไม้เพลงไทย Stickly Romantic The Brother Four เฟมินิน ดาวร้อยเดือน 1 ดาวร้อยเดือน 4 ฉันเป็นของเธอ 1 ปลูกรัก 2 โอ้รัก 3 แกรมมี่ โกลด์ซีรีส์ สุนทราภรณ์ เพลงประกอบละครกรุงเทพราตรี
วิยะดา โกมารกุล ณ นคร
พี่ตุ๊ก วิยะดา โกมารกุล ณ นคร เกิดเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2499 เป็นนักร้องและนักแสดง มีผลงานที่สร้างชื่อให้เธอก็คือ ภ.เรื่อง ขวัญ-เรียม เมื่อปี พ.ศ. 2544 (รับบทเป็นพิศ) และเมื่อปีพ.ศ. 2553 ได้รับบทเป็น"แม่แก้ว"ในละครเทพบุตรมายา เทพธิดาจำแลง
ด้านครอบครัว มีพี่ชายสองคน น้องชายหนึ่งคน เป็นลูกสาวคนที่สาม และคนดียวของบ้าน การศึกษา มัธยมศึกษาตอนปลายจาก โรงเรียนราชินี และเรียนต่อระดับอนุปริญญา ทางด้านเลขานุการ ที่กุมารเยซูวิทยา หรือ "Holy" (Convent of The Holy in St.Jesus) วิยะดาเป็นหุ้นส่วนของ "อิมเมจารีส์" ผับแอนด์เรสเตอรองค์ สุขุมวิท 24
รางวัลด้านวงการเพลงที่เธอเคยได้รับคือ รางวัลรองชนะเลิศ (Best Song) เพลง "Reality" จากสยามกลการ ทางสยามกลการส่งเพลงนี้ ไปประกวดที่ญี่ปุ่น และติดรอบ 18 เพลงจาก 2000 เพลงทั่วโลก และติด World Popular Songs ของญี่ปุ่นด้วย
ผลงานเพลง 2529 อัลบั้ม เพียงแค่ใจเรารักกัน (Space theatre) 2532 อัลบั้ม ยังไม่ลืมผู้รู้ใจ (Space theatre) 2533 อัลบั้ม หน้าต่างของความรู้สึก (แกรมมี่) 2537 อัลบั้ม ให้ทั้งใจ (มูเซอร์) 2538 อัลบั้ม My Special One (วอร์นเนอร์มิวสิค) 2540 อัลบั้ม ด้วยหัวใจอย่างเดียว
อัลบั้มเพลงพิเศษ ชมฟ้า (เพลงชมฟ้า,ม่วงเรียงร่มเย็น) , Spyda Monkee (เพลงพลิ้ว) , The Perfect Hamony (เพราะมีเธอ, รู้อยู่แก่ใจ) ,คนอื่นอื่นอีกมากมาย ของเฉลียง (เพลงฝากเอาไว้) , Indy Cafe Love You 2 (เพลงตัวเปียก) , SWANSONG AND LOVE CALLING , เพลงเพื่อพ่อ (เพลงเมืองไทยใสสะอาด และ ฝนหลวง) , เพลงประกอบละครเวที ทวิภพ (เพลงคนดีที่หนึ่ง) , บทเพลงแห่งรัก , The Very Best of Viyada , The Best of Viyada , The Best Selected , Green Concert 9 , Love Diary , Be My Guest Singaholic , ชมสวน 1 , ชมสวน 3 , Love Divas นันทิดา วิยะดา , Divas In Love , Divas , Be My Guest Most Wanted
Lyrics แต่งเพลงเอง ได้แก่ เพลงหัวใจ (ซุกซน) อัลบั้ม ด้วยหัวใจอย่างเดียว และ เพลงใครคนนั้น ( เพลงประกอบละครหัวใจห่อใบตอง )
ผุสชา โทณะวณิก
พี่ตุ้ม ผุสชา โทณะวณิก เกิดเมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2503 เป็นนักร้อง พิธีกรชื่อดัง อีกทั้งยังเคยเป็นนักพากย์การ์ตูน และคนเบื้องหน้าเบื้องหลังรายการโทรทัศน์หลายรายการ เธอมีผลงานอัลบั้มเพลงรวม 4 ชุด และยังเคยมีผลงานเขียนหนังสือ
ผุสชา โทณะวณิก ศึกษาที่โรงเรียนสมถวิล ราชดำริ เมื่อเรียนอยู่ชั้น ม.ศ.2 ได้เรียนเปียโนที่ศูนย์ดนตรีวาทินี และเป็นนักร้องนำประจำวงวาทินี ได้ออกรายการโทรทัศน์และงานต่างๆร่วมกับวง จนเรียนจบ ม.ศ.5 จากโรงเรียนสตรีวิทยา 2 จากนั้นผุสชาเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เอกการละคร เมื่อเรียนปี 2 ได้ตั้งวงดนตรีหญิงชื่อ "เบลลาดอนน่า" ซึ่งมีสมาชิกอย่าง ศรัณย่า ส่งเสริมสวัสดิ์, พิไลวรรณ บุญล้น เวนิกา วิล ออกแสดงตามงานของมหาวิทยาลัยและเล่นตามงานข้างนอกด้วย จึงทำให้รู้จักกับ ชรัส เฟื่องอารมย์ และ พนเทพ สุวรรณะบุญย์(วงแฟลช)ที่เล่นประจำอยู่ที่เดอะ ไนล์ โรงแรงแมนดาริน ขณะนั้น ชรัสกำลังทำอัลบั้มชุดแรกกับวงแฟลช และเมื่อมาพบผุสชาขณะกำลังซ้อมอยู่กับวงเบลลาดอนน่าก็รู้สึกพอใจกับการร้องและน้ำเสียง จึงขอให้ไปช่วยบันทึกเสียงร้องประสานในชุดแรกของเขา และต่อมาชรัส เฟื่องอารมย์ ก็ได้ชวนผุสชาให้ออกงานเดี่ยว โดยเขาจะทำหน้าที่ดูแลการผลิต ผุสชาออกผลงานชุดแรก ฝัน ฝันหวาน ในวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2529 ภายใต้สังกัดแกรมมี่ อัลบั้มชุดนี้ได้รับเสียงตอบรับที่ดียิ่ง ทำให้ในวันแรกมียอดสั่งจองเทปถึง 70,000 ม้วน และส่งผลให้ชื่อ " ผุสชา โทณะวณิก" เป็นนักร้องโด่งดังในทันที ผุสชามีผลงานชุดที่ 2 ตามมา ชื่อ โปรดฟังฉัน ในปี พ.ศ. 2531 และผลงานชุดที่ 3 คือ "วันและคืน" ในปี พ.ศ. 2537 โดยมี ธเนส สุขวัฒน์ เป็นโปรดิวเซอร์ และออกผลงานชุดสุดท้าย "ริธึ่ม ออฟ ผุสชา" (Rhythm of Pusacha) ในปี พ.ศ. 2544 กับยูนิเวอร์แซล เป็นการคัพเวอร์เพลงเก่าผลงานประพันธ์ของ สุรพล โทณะวณิก คุณอาของเธอ มาร้องใหม่ในแนวละตินแจ๊ซ โดยธเนส สุขวัฒน์ เป็นโปรดิวเซอร์ ในขณะที่ผุสชาเป็นนักร้องที่โด่งดัง แต่เธอกลับยังทำงานในสิ่งที่เธอเรียนมาไปพร้อมๆกัน คือ งานผลิตรายการโทรทัศน์ที่บริษัทเจเอสแอล และได้เริ่มงานเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ในเวลาต่อมา ผลงานที่สร้างชื่อเสียงในการเป็นพิธีกร คือ รายการเพลง"น้ำแข็งใส่น้ำหวาน" รายการประกวดเพลงที่โด่งดัง "คอนเสิร์ตคอนเทสต์" คู่กับปัญญา นิรันดร์กุล ในปี 2529 และรายการที่ยังคงอยู่ในใจผู้ชมอย่างรายการ "จันทร์กะพริบ" คู่กับ ดร.อภิวัฒน์ วัฒนางกูร ความสามารถด้านการเป็นพิธีกรของผุสชานั้นได้รับการยอมรับจากสถาบันต่างๆ โดยเธอได้รับรางวัลพิธีกรยอดเยี่ยมถึง 6 รางวัล นอกจากนี้ ผุสชายังทำงานอื่นๆอีก อาทิ เป็นนักพากย์การ์ตูน เป็นนักเขียน เธอยังเคยเขียนหนังสือ "ลูกชายช่างพูด" ที่เขียนรวบรวมเรื่องขำๆที่น่ารักของลูกชายตัวน้อยๆของเธอ
ด้านชีวิตครอบครัวส่วนตัว เธอสมรสกับ ธเนส สุขวัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ชาเนส มิวสิค โปรดักชั่น จำกัด และเจ้าของโรงเรียนดนตรีและศิลปะ Middle C มีลูกชาย 1 คนชื่อ ธชา สุขวัฒน์ ( พาย )
ปัจจุบัน ผุสชา ทำงานที่บริษัท เจเอสแอล โกลบอล มีเดีย จำกัด ในตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการ และยังถ่ายทอดความรู้ในการเป็นพิธีกรให้แก่รุ่นน้องๆในวงการ อาทิ ป๋อ-ณัฐวุฒิ สะกิดใจ กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง ซี-ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ อาร์ต-พนิตนาฏ ฉัตรวิไล ทิน โชคกมลกิจ เจนนิเฟอร์ คิ้ม เอก-ชมะนันทน์ วรรณวินเวศร์ ฯลฯ และยังเป็นหนึ่งในทีมดนตรีธรรมให้กับเสถียรธรรมสถาน โดยได้ออกอัลบัมเพลงเพื่อจิตวิญญาน "ดอกไม้บาน" และแสดงดนตรีเพื่อช่วยเหลือสังคมอยู่เป็นประจำอีกด้วย
ผลงานเพลง ฝัน ฝันหวาน (2529) โปรดฟังฉัน (2531) วันและคืน (2537) ริธึ่ม ออฟ ผุสชา (Rhythm of Pusacha) (2544)
นรารักษ์ ใจบำรุง
เต้น นรารักษ์ ใจบำรุง คือนักร้องที่แจ้งเกิดจากเวทีประกวด MIC Idol เธอเป็นแชมป์ในรายการนี้ถึง 8 สมัย เป็นสถิติสูงสุด เท่าที่เคยมีการประกวดร้องเพลงเคยทำได้ ด้วยคุณภาพของเสียงร้องที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ ทำให้เธอถูกโปรโมตเป็นศิลปินเดี่ยวของ ค่าย GMM Grammy หลังจากนั้นไม่นานได้ร่วมกับเพื่อนๆ ศิลปินออกซิงเกิ้ลและ อัลบั้มกับผู้เข้าแข่งขันเวทีไมค์ไอดอลคนอื่นๆในนามอัลบั้ม Mic Idol มี "เพลงนอนไม่หลับ" และเพลงที่ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองอย่าง "เพลงถามเอาอะไร" ที่กลายเป็นผลงานสร้างชื่อให้เธอโด่งดัง จนเป็นที่มาให้มีผลงานอัลบั้มเต็ม
ของหายอยากได้คืน (พ.ศ. 2554)
1. ของหายอยากได้คืน
2. ความเฉยชาคือการบอกลาโดยไม่ต้องออกเสียง
3. อยากอกหักบ้างไรบ้าง
4. แรง
5. เสี่ยงเหลือเกิน
6. ฉันต้องการเวลาจากเธอ
7. ต่อให้ดับดาวจนหมดฟ้า
8. จะจับมือกันได้นานเท่าไร
9. อย่าปล่อยให้คนคนหนึ่งคิดถึงเธอ
10. อย่าเหงาเรื่อยเปื่อย
หลังจากนั้นเต้น นรารักษ์ ก็มีซิงเกิ้ลฮิตติดชาร์ทออกมาเรื่อยๆ โดยอัลบั้มเต็มออกมาเมื่อ 21 กันยายน พ.ศ.2554
ตอง ภัครมัย โปตระนันทน์ เป็นนักแสดง นักร้อง และนางแบบชาวไทย เกิดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2520 สูง 172 ซม. หนัก 48 กก.จบการศึกษาระดับอุดมศึกษาจาก มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ เข้าสู่วงการบันเทิงโดยแสดงมิวสิกวิดีโอของ ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล ในเพลง "ผลงานเพลง “อยากไปไหนก็ไป" จากนั้น จึงได้ออกผลงานเพลงเป็นศิลปินในสังกัดแกรมมี่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 จนถึงปี2547 จากนั้นได้ย้ายมาเป็นศิลปินในสังกัด อาร์เอส ออกอัลบั้มเพลง แต่ไม่ดังเปรี้ยงปร้างเหมือนเก่า
ผลงานเพลง
• ตองหนึ่ง พ.ศ. 2541 (แกรมมี่)
• ตองสองตา พ.ศ. 2542 (แกรมมี่)
• TONG 333 พ.ศ. 2544 (แกรมมี่)
• ตอง 4 พ.ศ. 2546 (แกรมมี่)
• CHANGES พ.ศ. 2548 (อาร์เอส)
• TONG SECRET พ.ศ. 2550 (อาร์เอส)
คริสติน่า อากีล่าร์
ติ๊นา คริสติน่า อากีล่าร์ (อังกฤษ: Christina Aguilar) เป็นนักร้องที่ได้รับฉายาว่า ราชินีเพลงแดนซ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 มีเพลงดังอย่าง นินจา,พลิกล็อค เป็นต้น เป็นนักร้องหญิงไทย(เชื้อสายฟิลิปปินส์และฝรั่งเศส) ที่ทำยอดจำหน่ายเทปทะลุล้านตลับเป็นคนแรก และเป็นหญิงไทยคนแรกและคนเดียวที่จำหน่ายเทปทะลุล้านตลับถึง 3 อัลบั้ม
คริสติน่า ซุปเปอร์สตาร์นักร้องสาวของเมืองไทย เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2509 เป็นบุตรสาวของโทนี่ อากีล่าร์ นักดนตรีที่มีชื่อเสียงชาวฟิลิปปินส์ กับมากาเร็ต อากีล่าร์ มารดาชาวฝรั่งเศส จบการศึกษาปริญญาตรีด้านเลขานุการการบริหารจากฝรั่งเศส คริสตีน่าเคยเข้าประกวดนางสาวไทย พ.ศ. 2527 โดยใช้ชื่อในการประกวดว่า ตรีจินดา อากีล่าร์สกุล โดยในปีนั้น เรวัติ พุทธินันท์ เป็นพิธีกร ต่อมาเธอได้ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงโดยคำชักชวนของเรวัติ ซึ่งรู้จักกับคุณพ่อของเธอ
อัลบั้มแรกชุดนินจา คริสติน่า (21 ธันวาคม 2533) ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี มีโปรดิวเซอร์อย่าง ชาตรี คงสุวรรณ เพลงที่ฮิตมากๆ แล้วทำให้คนทั้งประเทศได้รู้จัก ก็คือ เพลง นินจา, พลิกล๊อค, ขอคืน, ประวัติศาสตร์, หัวใจขอมา , เปล่าหรอกนะ ,อย่าไปเสียน้ำตา ฯลฯ ส่งผลให้ยอดขายอัลบั้มชุดนี้ขายได้เกินหลักล้าน ถือเป็นนักร้องหญิงคนแรกที่ทำได้ในขณะนั้น
อัลบั้มที่ 2 "อาวุธลับ" ได้รับรางวัล MTV Asian Viewers Choice Award จากมิวสิควีดีโอเพลงจริงไม่กลัว ซึ่งการตัดสินรางวัลในช่วงเวลานั้น จะทำการโหวตนักร้องรวมทั้งทวีปเอเชีย ไม่มีการแยกเป็นประเทศอย่างเช่นในปัจจุบัน และผู้ชนะจะได้รับเกียรติเดินทางไปรับรางวัลที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยคะแนนโหวตส่วนใหญ่ ที่ส่งให้เธอได้รับรางวัลนี้ มาจากประเทศอินเดีย แม้ในอัลบั้มชุดนี้จะไม่เปรี้ยงปร้างเท่าชุดที่แล้วแต่ยอดขายและความนิยมจากประชาชนต่อคริสติน่า ยังมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และคริสติน่าได้ไมเคิล หว่อง มาแสดง MV ในเพลง "เวลาไม่ช่วยอะไร" และ "อย่าให้ถึงวันนั้นเลย" รวมถึงมอส ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ ที่มาแสดงใน MV เพลง"เสียใจ เสียฟอร์ม"
ม.ค. ปี 2537 อัลบั้มชุดที่ 3 ชื่อชุด "Red Beat รหัสร้อน" เป็นอัลบั้มที่สร้างยอดขายมากกว่าหนึ่งล้านชุดอีกครั้ง มีเพลงฮิตอย่าง ไม่ยากหรอก ซึ่งมีแอม เสาวลักษณ์ และ มาช่า วัฒนพานิช เป็นคอรัสให้ อย่างไม่เป็นทางการ,ไปด้วยกันนะ มีนักร้องรับเชิญคือด.ญ.ฟ้า - ฝน มาร้องให้ด้วยในเพลงนี้ , นาทีที่ยิ่งใหญ่ , รักเธอที่สุด ,เลิกเหอะ ,ไม่มีใครขอร้อง ซึ่งอัลบั้มชุดนี้มียอดขายสูงถึง 2 ล้านตลับ และเป็นอัลบั้มที่โด่งดังยาวนานถึง 2 ปี ในปลายปี พ.ศ. 2537 เธอได้ร่วมงานกับ ธงไชย แมคอินไตย์ ร่วมกับอีก 5 สาวในอัลบั้ม "ขนนกกับดอกไม้" และปลายปี 2538 ยังได้มีส่วนร่วมได้อัลบั้ม "6.2.12" ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจนทำยอดขายได้ถึง 2 ล้านตลับ ซึ่งคริสติน่าได้ร้องไว้สองเพลงคือ "แล้วมารักกันต่อ" และ "ฉันจะรอดู" และในปีเดียวกันนั้น คริสติน่าได้ร้องเพลงเพลง "มีเพียงแต่เธอ" ประกอบละครเรื่องรักหลอกๆ (อย่าบอกใคร)และเป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่ประสบความสำเร็จ
ปี 2540 อัลบั้มชุดที่ 4 ชื่อชุด "Golden Eye" มีเพลงฮิตอย่าง อย่ามองตรงนั้น , ฝากความยินดี ที่แต่งโดยคุณนิ่ม สีฟ้า , พูดอีกที, ไม่ต้องขอบใจ(ยอดขายล้านตลับ และสร้างสถิติ นักร้องหญิงไทยคนแรกที่ขายเทปได้ล้านตลับ ถึง 3 อัลบั้ม)และคริสติน่ายังได้ร่วมแต่งทำนองเพลงในเพลง ใต้ผ้าห่มอุ่น ซึ่งได้รับความนิยมเช่นกัน
ในปี2541 ได้มีอัลบั้มพิเศษอย่าง CHRISTINA REMIX ซึ่งนำเพลงเก่าของเธอมาทำดนตรีใหม่ รวมถึงการนำเพลงของนักร้องท่านอื่นมาร้องใหม่ และที่พิเศษมีการแต่งเนื้อเพลง "ไม่ยากหรอก" เป็นภาษาอังกฤษ
ปี 2542 กับอัลบั้มชุดที่ 5 "5th Avenue" เป็นเพลงแนวพ็อพ-วาไรตี้ มีเพลงที่ดังในช่วงนั้นเช่น รออีกนิดนึง ,หนึ่งนาที ,อุ่นใจ ในปีเดียวกันเธอได้ร่วมงานกับนักร้องชาวอังกฤษ Sarah Jane Fearnley ในอัลบั้มพิเศษชุด You Are The One และมีเพลงประกอบละครเรื่อง บาปรัก ชื่อเพลง "ผิดด้วยหรือ"
ปี 2544 อัลบั้มชุดที่ 6 "Dancing Queen" ซึ่งทำออกมาในภาพลักษณ์หรูหราผสมกับแนวเพลงอิเล็คโรนิคพ็อพ เพลงอาจไม่ค่อยติดหูคนฟังเท่าชุดก่อนๆแต่ทุกเพลงมีการใช้เทคนิคทางดนตรีอย่างมาก ภายใต้การทำงานของโอม ชาตรี คงสุวรรณ สังกัด RPG ในขณะนั้น อย่างเพลง "คิดผิดคิดใหม่" ซึ่งทำ MV ออกมาได้อลังการมาก ว่ากันว่าใช้เงินในการสร้างมิวสิกเพลงนี้ถึง 3 ล้านบาท
ในปี 2546 อัลบั้มชุดที่ 7 "Paradise" ที่ได้กลิ่นอายแทงโก้ และนีโอลาตินในเพลงสวรรค์อยู่ที่ใจ ซึ่งในชุดนี้มีเพลงที่ได้รับความนิยมอย่างเพลง สวรรค์อยู่ที่ใจ , ห้องเดิม , อยากฟังคำนั้นตลอดไป
ปี 2547 เธอได้สวมบทบาทจากนักร้องมาเป็นพิธีกรครั้งแรกในชีวิตของเธอ ในรายการ UNSEEN TV ทางช่อง 3 ร่วมกับ ดีเจโจ้(เสียชีวิตแล้ว) และ คุณวู๊ดดี้ ซึ่งออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 14.15 น.อยู่ระยะเวลา 1 ปี 1 สัปดาห์ และมีเพลงประกอบละครเรื่อง ตารีบุหงา ชื่อเพลง "รออยู่ตรงนี้"
อัลบั้มชุดที่ 8 "C.Space" ออกในปี 2550 อัลบั้มชุดนี้เป็นที่พูดถึงในเรื่องของเครื่องแต่งกายโดยเฉพาะแว่นตาเพชร และเพลง An Everlasting Love ซึ่งเป็นเพลงที่โปรโมท ได้รับการพูดถึงอยู่ช่วงหนึ่ง
ปี 2552 เธอจับมือกับ "ราชินีป็อบร็อค" ใหม่ เจริญปุระ ออกอัลบั้ม Mai - Tina Beauty on The Beat มีซิงเกิ้ลเพลงแรกที่ร้องคู่กันในเพลง "BURN" จากนั้น ทั้งคู่ได้เปิดการแสดงคอนเสิร์ต ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2552 นอกจากที่ใหม่ และติ๊นาร้องเพลงร่วมกันในเพลง เบิร์นแล้ว ในอัลบั้มชุดนี้มีเพลงพิเศษที่แต่งใหม่อีกคนละหนึ่งเพลง และมีซิงเกิ้ลล่าสุดเป็นเพลงช้าที่ร้องร่วมกัน เพลง ฉันกับเขาและคืนนี้ โดยอัลบั้มเต็มวางแผงไปเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2552
ในปี 2553 คริสติน่า อากีล่าร์ ขึ้นคอนเสิร์ตร่วมกับนักร้องอีกหลายท่าน อันเป็นความร่วมมือของ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และโซนี่ มิวสิค (ประเทศไทย) เพื่อรำลึกถึงราชาเพลงป๊อบของโลกผู้ล่วงลับ ไมเคิล แจ็คสัน ในวันที่ 21 -22 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี และในปีเดียวกันนั้นเอง เมื่อเดือนพฤษภาคม คริสติน่า อากีล่าร์ ได้ร่วมร้องเพลง ขอความสุขคืนกลับมา แต่งโดย นิติพงษ์ ห่อนาค เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดงในกทม. และให้ดารานักแสดงและนักร้องหลายท่านมาร่วมร้องเพลงนี้ เป็นเพลงที่เป็นความร่วมมือระหว่าง Nine Entertain และ นิติพงษ์ ห่อนาค
ในวันที่ 21 ธันวาคม 2553 เป็นวันครบรอบ 20 ปีของการทำงานในวงการเพลงของคริสติน่า อากีล่าร์ (อัลบั้มนินจาคริสติน่า วางแผง 21 ธันวาคม 2533)
ในปี 2554 คริสติน่า อากีล่าร์ จัดคอนเสิร์ต 20 ปี คริสติน่า อากีล่าร์ โดย A-time Showbiz แสดงที่ Royal Paragon Hall ในวันที่ 4 และ 5 มิถุนายน 2554 โดยเป็นนักร้องหญิงคนแรกของไทยที่ได้มีคอนเสิร์ตเป็นเวทีรูปแบบ CENTER STAGE ซึ่งเป็นความท้าทายของนักร้องเอง และทีมงานเอไทมส์โชวบิส ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา และประสบความสำเร็จกับคอนเสิร์ตครั้งนี้อย่างสูง กระแสตอบรับดีเกินคาดจนเป็น Talk of the town ทั้งในสื่อต่างๆ มากมาย และในปีเดียวกันนั้นเอง เมื่อเดือนตุลาคม คริสติน่า อากีล่าร์ ได้ร่วมร้องเพลง บ้านเรา บ้านพ่อ แต่งโดย นิติพงษ์ ห่อนาค เนื่องจากเหตุการณ์อุทกภัยน้ำท่วมหลายจังหวัดในภาคเหนือและภาคกลาง โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแด่ผู้ประสบภัย โดยเพลงนี้ให้ดารานักแสดงและนักร้องหลายท่านมาร่วมร้องเพลงนี้ เป็นเพลงที่เป็นความร่วมมือระหว่าง Nine Entertain และ นิติพงษ์ ห่อนาค สืบเนื่องจากปัญหาน้ำท่วม ทำให้คริสติน่าได้ออกไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยตามที่ต่างๆ โดยไปในนามองค์กรของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ กลุ่มแฟนเพลงและแฟนคลับที่ร่วมทำบุญ และส่วนตัวของคุณคริสติน่าเอง หลายต่อหลายงานโดยไม่แบ่งแยกค่ายเพลง สังกัด เพื่อช่วยเหลือเพื่อนคนไทยด้วยกัน
ปี 2555 ได้มีคอนเสิร์ต ดี้ - สีฟ้า "The Lyrics of Love...... " มุมมองความรัก จากปลายปากกาของ “ดี้-นิติพงษ์” และ “สีฟ้า” แสดงวันเสาร์ที่ 4 และอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ Royal Paragon Hall และ "Sea-Mix on the Beach Concert" Concert ริมทะเลที่จะทำให้ชายหาดลุกเป็นไฟ ณ "Ocean Marina Yacht Club Pattaya" จ.ชลบุรี ซึ่งมีศิลปิน เจ เจตริน และ ก้านคอบอย(ก้านคอคลับ) มาร่วมในคอนเสิร์ตที่รวมพลังพลคนขาแดนซ์แห่งปี วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 18.30 น.
ผลงานเพลง นินจา คริสติน่า ปี 2533 , อาวุธลับ ปี 2535 , Red Beat รหัสร้อน ปี 2536 , Golden Eye ปี 2540 , 5th Avenue ปี 2542 , Dancing Queen ปี 2544 , Paradise ปี 2546 , C.Space ปี 2550
ผลงานอัลบั้มคู่ ปี 2545 You Are The One , ปี 2552 MAI - TINA BEAUTY ON THE BEAT
เพลงต่างๆ ในอัลบั้มพิเศษ
• ตะกายดาว (คู่กับ ตู่ นันทิดา) ปี 2535
• เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม อัลบั้ม งานซนคนดนตรี นานที 10 ปีหน ปี 2536
• รักเธอเสมอ อัลบั้ม ขนนกกับดอกไม้ (คู่กับ เบิร์ด ธงไชย) ปี 2537
• มีเพียงแต่เธอ เพลงประกอบละครเรื่อง รักหลอกๆ อย่าบอกใคร ปี 2538
• ฉันจะรอดู , แล้วมารักกันต่อ ในอัลบั้ม 6.2.12 ปี 2538
• รักเธอคนเดียว ปี 2541
• ผิดด้วยหรือ เพลงประกอบละครเรื่อง บาปรัก ปี 2542
• รออยู่ตรงนี้ เพลงประกอบละครเรื่อง ตารีบุหงา ปี 2547
• สุด สุด เพลงฉลองครบรอบ 20 ปี คริสติน่า ในดีวีดีคอนเสิร์ต 20 ปี คริสติน่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น