วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เจ้าแม่เพลงโรแมนติก ตอนที่ 2 (ศิลปินชื่อ อ.)

เสาวลักษณ์ ลีละบุตร


พี่แอม เสาวลักษณ์ ลีละบุตร นักร้อง นักแต่งเพลง เป็นบุตรสาวคนโตของฉันทนา กิติยพันธ์ มีพี่น้อง 3 คน จบชั้นประถมศึกษา และมัธยมศึกษาจากโรงเรียนราชินี ปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เอกสาขาวิชาภาษาไทย
เริ่มเข้าวงการเพลงครั้งแรกในปี พ.ศ. 2524 เมื่อมีโอกาสร้องเพลงในรายการ ฉันทนาโชว์ ทางช่อง 5 และรายการ มิวสิกสแควร์ ทางช่อง 3 ร่วมกับ พัชริดา วัฒนา (แหม่ม) ลูกสาวของคุณสุดา ชื่นบาน และ อรวรรณ เย็นพูนสุข (ปุ้ม) หลานสาวของคุณฉันทนา กิติยพันธ์ ต่อมาคุณประเสริฐ พงษ์ธนานิกร (คุณระย้า) นักจัดรายการวิทยุและเจ้าของบริษัทรถไฟดนตรี ชักชวนทั้ง 3 คนมารวมกันเป็นศิลปินนักร้องในนาม สาว สาว สาว ในช่วงเวลา 9 ปี "สาว สาว สาว" มีผลงานเพลง 10 อัลบั้ม หลังจากอัลบั้มสุดท้ายของ "สาว สาว สาว" ในปี พ.ศ. 2533 แอม เข้าเป็นนักร้อง นักแต่งเพลง ในสังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ มีผลงานออกมาอยู่อย่างสม่ำเสมอ

ผลงานเพลง อัลบั้มเดี่ยว บันทึกของดอกไม้เหล็ก (2536) ,ชีวิตและจิตใจ (2537) ,ชั้นหนึ่ง (1st Floor) – (2541) แอมเอง (2542) , City Woman (2543) , Amp's Tales เรื่องเล่า..เสาวลักษณ์ (2544) , May Love Remain (2548) , Beach Time (2549) , เรื่องน้ำเน่า (2550) , Any Amp (2551) , The Piano Amp (2551) , ก่อนดอกไม้เหล็กบาน (2552) , เข้าใจ..แต่ใช่ว่าไม่เจ็บ (2553) , รวมเพลง 30 ปี แอม เสาวลักษณ์ (2555)

ผลงานกลุ่มในนาม สาว สาว สาว ช่วงปี พ.ศ.2524 -2532 จำนวน 10 อัลบั้ม รักปักใจ (2524) , ประตูใจ (2525) ,In Concert (2526) , เป็นแฟนกันได้ยังไง (พ.ศ. 2526) ,หาคนร่วมฝัน (2527) , ในวัยเรียน (2528) ,แมกไม้และสายธาร (2529) , Because I Love You (2530) , ว้าว..ว! (2531) , Together (2531) , ดอกไม้ของน้ำใจ (2532) ,

ผลงานอัลบั้มพิเศษที่ทำร่วมกับศิลปินอื่นๆ

• อัลบั้ม งานซนคนดนตรีนานที 10 ปีหน (30 กันยายน 2536)
• รวมงานคนเขียนเพลง เสาวลักษณ์ ลีละบุตร (รวมงานเพลงที่พี่แอมแต่ง ปี 2536)
• อัลบั้ม ขนนกและดอกไม้ (24 กุมภาพันธ์ 2538) ร่วมกับ "เบิร์ด" ธงไชย แมคอินไตย์
• อัลบั้ม แอม-ดา (3 ธันวาคม 2539) ร่วมกับ "ดา" ศักดา พัทธสีมา
• อัลบั้ม Rock For Life (23 มกราคม 2542)
• อัลบั้ม The Special 4 (2542)
• อัลบั้ม ลงเอย พี่น้อง ร้องเพลง อัสนี-วสันต์ (18 มกราคม 2543)
• อัลบั้ม Beauty 4 Rock (2543)
• อัลบั้ม Seven (30 พฤศจิกายน 2543)
• อัลบั้ม Songs & Stories 2545
• อัลบั้ม แอม + อุ๊ (21 กุมภาพันธุ์ 2546) ร่วมกับ "อุ๊" หฤทัย ม่วงบุญศรี
• อัลบั้ม The Family (2547)
• อัลบั้ม ด้วยแสงแห่งรัก (2548)
• อัลบั้ม วันฟ้าใหม่ (2548)
• อัลบั้ม Devil Divas 2549
• Deep Blue (2549)
• อัลบั้ม สีฟ้า Project
• เพลงมูลนิธิ เพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก
• อัลบั้ม Divas in love
• อัมบั้ม เรวัต พุทธินันทน์ remembered in tribute
• อัลบั้ม แอม อุ๊ Feminine Night
• อัลบั้ม Devils and Divas
• อัลบั้ม Divas Feminine Night นันทิดา แก้วบัวสายและ วิยะดา โกมารกุล ณ นคร
• อัลบั้ม "เย็นย่ำก็ฮัมเพลง"
• อัลบั้ม แอม ว่าน
• อัลบั้ม ชมสวน 1
• อัลบั้ม ชมสวน 3
• Sweet Love Songs vol.1 รักเธอ...คือคำตอบ (14 ส.ค. 51)
• Sweet Love Songs Vol.2 "HAPPINESS" (8 ต.ค. 54)
• อัลบั้ม: COVER NIGHT GREEN WAVE 20th ANNIVERSARY

เพลงประกอบละครและภาพยนตร์

• 01 แค่รู้ว่ารักกัน - ละครเงา
• 02 จุดจบสุดท้าย - ละครร่ายริษยา
• 03 ม่ายค่ะ - ละครม่ายค่ะ
• 04 ภาพมารยา - ละครมารยา
• 05 A Whole New World - ภาพยนตร์อะลาดิน (ร้องคู่กับ เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์)
• 06 ล่า - ละครล่า
• 07 ฉันผิดใช่ไหม - ละครจงกลกลิ่นเทียน
• 08โลกนี้ยังมีดวงตะวัน - ละครดวงตะวัน
• 09 ความรัก ศรัทธา ปฎิหาริย์ - ภาพยนต์ ความรัก ศรัทธา ปฎิหาริย์
• 10 ที่ที่ความดียังยืน - เสถียรธรรมสถาน
• 11 ถ้าเรารักกันมากพอ - สภาพดนตรี

ผลงานการแต่งเพลงให้กับศิลปินอื่นๆ

แต่งเพลงให้ศิลปินหลายคนอาทิเช่นเพลง "สุดฤทธิ์สุดเดช" ของ ใหม่ เจริญปุระ ,"เสียมั้ย" ของ อำพล ลำพูน , "คำมักง่าย" ของ บิลลี่ โอแกน,"ให้เวลาฉัน" ของ มาช่า วัฒนพานิช, "ขอจันทร์" ของ วิยะดา โกมารกุล ณ นคร , "ต้องดีกว่าเก่า" ของ ตั้ม สมประสงค์, "ขอได้ไหม" ของ ปนัดดา เรืองวุฒิ, "สักวัน" ของ นันทิดา แก้วบัวสาย , ลานนา คัมมินส์ ฯลฯ

แต่งเพลงโดย ใช้นาม ปากกา อื่นๆ เช่น "อิงเมือง เกิดสา" ให้กับวงอิสซึ่น , "สินนัทที" ให้กับฟอร์ด สบชัย ไกรยูรเสน และ "พิรีย์" (เพลงยิ่งกว่ารัก) ให้กับวิยะดา โกมารกุล ณ นคร มากมาย เพลงที่เธอแต่ง/น้อยไปอีกหรือ/กลับมาตรงนี้/ขอคืน/เพลงนั้น มากมาย รายชื่อศิลปินที่ แอม แต่งเพลงให้ อุ๊/ก้อย/อ้อม/วิยะดา/นันทิดาิ มากมาย

ร้องและแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์โฆษณา Baby Mild ชุด Sexy ร้องและแต่งเพลงประกอบละครเรื่อง "แม่ปูเปรี้ยว", "อวสานเซลล์แมน" แต่งเพลงให้โรงเรียนสอน คนตาบอด ในโครงการ "เห็นด้วยหูรับรู้ด้วยน้ำใจ" ชื่อเพลง "ขอเป็นดั่งดวงตาให้เธอ" ซึ่งถูกแปลงเนื้อร้อง เป็น อักษรเบลล์ด้วย

ผลงานการแต่งเพลงให้กับงานของตนเอง เพลง กดดัน ,เพลง ก็เรารักกันไม่ใช่หรือ ,เพลง ขอบคุณที่หวังดี ,เพลง คนเช่นนี้ ,เพลง ความทรงจำ ,เพลง คิดถึงคนแปลกหน้า ,เพลง จะคุ้มไม่คุ้ม , เพลง จุดจบสุดท้าย , เพลง ฉันเลว ,เพลง ฉันไม่อยากฟัง ,เพลง ฉันไม่ใช่เจ้าของเธอ ,เพลง ชั้นหนึ่ง ,เพลง ดูเอง ,เพลง ตัดสินใจ ,เพลง ท้อไม่แท้ ,เพลง นิยาย ,เพลง บอระเพ็ด ,เพลง ปล่อยฉัน ,เพลง ผิดไหมที่รักเธอ ,เพลง ผู้หญิง , เพลง ภาพมายา ,เพลง รักกันเบาๆ ,เพลง รักฉันทำไม , เพลง ล่า ,เพลง สักวันจะไปถึงฝัน ,เพลง สามวันเจ็ดวัน ,เพลง ห้ามปวดตับ ,เพลง อยากสวย ,เพลง อย่าเอ็ดไป ,เพลง อุปสรรค ฯลฯ

พี่อุ๊ หฤทัย ม่วงบุญศรี (ชื่อเล่น: อุ๊) เกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2517 เป็นนักร้องชาวไทย ออกผลงานอัลบั้มกลุ่มในนามวง “เปเปอร์แจมส์” ชุดแรกในปี พ.ศ. 2540 อุ๊ หฤทัย จบการศึกษาระดับ ปวช. วิทยาลัยช่างศิลป์ กรมศิลปากร และได้ร้องเพลงอยู่ที่ร้านอาหาร ก่อนจะได้รับการชักชวนมาเป็นนักร้องโดย อัสนี โชติกุล" ปัจจุบันเธอได้เปิดค่ายมวยกับครอบครัว และเป็นสมาชิกสภาเขตพระโขนง (ส.ข.) สังกัดพรรคประชาธิปัตย์

อุ๊ หฤทัย ได้เข้ามาเป็นนักร้อง อัลบั้มแรกในนามวง "เปเปอร์แจมส์" ออกมาในปี 2539 ในแนวดนตรีร็อก ด้วยน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ทรงพลัง และการถ่ายทอดอารมณ์ มีเพลงดัง เช่น "ไม่รักดี","รู้ตัวหรือเปล่า","เรื่องเท่านี้","เธอรักตัวเอง","แค่หลับตา" เป็นต้น

ปี 2542 อัลบั้ม "By Heart" ซึ่งเป็นอัลบั้มเดี่ยว อัลบั้มแรกของอุ๊ ด้วยแนวเพลงร็อค ในชุดที่2 มีเพลงดังเช่น เพลง "โธ่เอ๋ย...เด็กๆ", "เอ๋อ-เหวอ-เพี้ยน","อย่ารักนะ"และ "ตื่น"

ปี 2544 อัลบั้มชุดที่ 3 ในชื่อ"The Voice" มีเพลงดังเช่น "จะภาวนา","คนเก่งของฉัน","ฉันรู้สึก","กลับไปกลับมา" เป็นต้นในและปีเดียวกัน อุ๊ได้รวมตัวกับพี่น้องและผองเพื่อน นักร้องจากค่ายแกรมมี่แกรนด์ ทั้ง 7 คนประกอบด้วย แอม เสาวลักษณ์,ใหม่ เจริญปุระ,มาช่า วัฒนพานิช,นิโคล เทริโอ,นัท มีเรีย และตอง ภัครมัย ออกอัลบั้มพิเศษ "SEVEN" มีเพลง"แค่หลับตา" และ "กลางสายหมอก" ที่อุ๊ร้องเดี่ยว

ปี 2546 เธอมีอัลบั้มพิเศษ"Amp Au Fine Time" ที่เธอได้ร่วมงานกับ "แอม เสาวลักษณ์ " อีกครั้ง มีเพลงดังเช่น "ตำนานคนโชคดี","ไฟกับน้ำแข็ง","คล้ายๆว่าใช่" เป็นต้น

ปี 2551 "อุ๊" ร่วมงานกับศิลปินหญิงแถวหน้าของเมืองไทย อาทิเช่น แอม เสาวลักษณ์ , ฐิติมา สุตสุนทร , วิยะดา โกมารกุล ณ นคร , ศรัณย่า ส่งเสริมสวัสดิ์ , มิ้นท์ มาลีวัลย์ และ โบ สุนิตา ออกอัลบั้ม Seven Divas

ปี 2552 อัลบั้ม Amp Au Feminine Night ร่วมกับ แอม เสาวลักษณ์

ปี 2552 Save The Earth เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง 2022 สึนามิ วันโลกสังหาร



ธิติมา ประทุมทิพย์ ชิ่อเล่น "แอน" นักร้องชาวไทย อดีตสมาชิกวงคูณสามซูเปอร์แก๊ง (X3 Super Gang) ปัจจุบันเป็นศิลปินเดี่ยวในสังกัดลักษ์มิวสิก

ธิติมา ประทุมทิพย์ เกิดเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2522 จบการศึกษาระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนดรุโณทยาน และเข้าศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย หลังจากนั้นได้ศึกษาต่อที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

แอน มีความสนใจในการร้องเพลงตั้งแต่เด็ก และเริ่มประกวดร้องเพลงตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ได้รับรางวัลจากการประกวดร้องเพลงมากมาย อย่างเช่นรางวัลดีเด่นจากรายการการประกวด Thailand Junior Singing Contest และอีก 6 ปีถัดมา เธอก็ชนะการประกวดรายการ Johnny Walker Star Search พร้อมทั้งได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินในสังกัดกรีนบีนส์

แอน เริ่มเป็นที่รู้จักจากการร้องเพลงประกอบละครเรื่อง "คู่รัก" ในเพลง"รักใช่ไหม" ต่อมาได้มีผลงานกับวงคูณสามซูเปอร์แก๊ง ร่วมกับ คณิตกุล เนตรบุตร สืบสกล สืบสหการ และสืบสกุล สืบสหการ มีผลงานออกมา 2 อัลบั้ม ก่อนที่ทางวงจะยุบไป โดย แอน ได้มีผลงานเพลงทั้งในรูปแบบศิลปินเดี่ยว และร่วมกับศิลปินอื่นๆ อีกมากมายในสังกัดกรีนบีนส์ ก่อนจะย้ายมาสังกัดลักษ์มิวสิก นอกจากนี้ แอน ยังเป็นครูสอนร้องเพลงที่ H.O.P.S. (House of Pro Studio

ผลงานเพลง

• เพลงประกอบละครเรื่อง "คู่รัก" (เพลง"รักใช่ไหม")

• อัลบั้ม "คูณสามซูเปอร์แก๊ง" (ศิลปินกลุ่มในชื่อคูณสามซูเปอร์แก๊ง) พ.ศ. 2540

• อัลบั้ม "คูณสามช่องสอง" (ศิลปินกลุ่มในชื่อคูณสามซูเปอร์แก๊ง) พ.ศ. 2541

• อัลบั้ม "The 4 Wonders" (ศิลปินกลุ่มในชื่อThe 4 Wonders)

• เพลงประกอบละครเรื่อง "น้ำใสใจจริง" (เพลง"แลกใจ")

• อัลบั้ม "ดิน ฟ้า อารมณ์" (ศิลปินคู่ในชื่อโอ๋แอน คู่กับ รสรินทร์ ดวงสร้อยทอง) พ.ศ. 2542

• อัลบั้ม "เอ็กซ์ตร้ามายด์" (ศิลปินเดี่ยว) พ.ศ. 2543

• อัลบั้ม "กรีน รูม" (ศิลปินเดี่ยว) พ.ศ. 2544

• อัลบั้ม "ปั่น Be Cool" (ศิลปินคู่กับ ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว)

• อัลบั้ม "ไนซ์ ไทม์" (ศิลปินเดี่ยว) พ.ศ. 2545

• อัลบั้ม "The Best Selected of Ann" (ศิลปินเดี่ยว) พ.ศ. 2545

• อัลบั้ม "Meeting Again" (รวมศิลปิน)

• อัลบั้ม "Your Songs" (รวมศิลปิน)

• อัลบั้ม "ฟูลมูน ดูเอท" (ศิลปินคู่กับ ศิรศักดิ์ อิทธิพลพาณิชย์) พ.ศ. 2546

• อัลบั้ม "Your Songs #2" (รวมศิลปิน)

• อัลบั้ม "Love Anniversary" (ศิลปินเดี่ยว) พ.ศ. 2547

• อัลบั้ม "Sleepless Society by Narongvit" (รวมศิลปิน)

• อัลบั้ม "บลูม" (ศิลปินเดี่ยว) พ.ศ. 2548

• อัลบั้ม "Behind the songs by เอิ้น พิยะดา" (รวมศิลปิน) พ.ศ. 2549

• อัลบั้ม "เสนาหอย ดำจัง" (รวมศิลปิน)

• อัลบั้ม "Extra Gift" (รวมศิลปิน)

• อัลบั้ม "Remind" (รวมศิลปิน) พ.ศ.2550

• เพลงประกอบเกม Audition (เพลง "ความรักฉันคือเธอ")

• เพลง เจ้าหญิงของเรา พ.ศ. 2551

• Single เพลง "ยังเป็นฉันอยู่หรือเปล่า"

• เพลงประกอบหนังสือ มิวส์กับหมู่ดาวกีตาร์ (เพลง "โปสการ์ดจากคนไกล")

• เพลงประกอบละคร แม่ค้าขนมหวาน (เพลง "หนึ่งนาทีที่ยาวนาน")

• Single เพลง "ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ" พ.ศ. 2552

• เพลง "ที่รักของใครสักคน" (Extended Version) (ร้องร่วมกับ เต้ วิทย์สรัช)

• เพลงประกอบคอนเสิร์ต I love you ณ ทะเล) (เพลง "I love you ณ ทะเล") พ.ศ.2553

• เพลงประกอบภาพยนตร์บ้านฉัน...ตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้) (เพลง "อธิษฐาน")

• อัลบั้ม "Forever Love Songs" (รวมศิลปิน)

• อัลบั้ม "Sweet Sunday" (รวมศิลปิน)

• อัลบั้ม "The Emotions" (แอน ธิติมา/แนน วาทิยา รวยนิรัตน์/กิ่ง เหมือนแพร พานะบุตร The Star)

• อัลบั้มเพลงประกอบละคร 365 วันแห่งรัก (รวมศิลปิน)

• อัลบั้ม "Summer Hippie" (รวมศิลปิน) พ.ศ.2554

• อัลบั้ม Forever Love Hits by แอน ธิติมา (ศิลปินเดี่ยว)

• Single เพลง "คนไม่น่าสงสาร" จากอัลบั้ม Club friday





พิยะดา หาชัยภูมิ หรือ หมอเอิ้น เกิดเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2524 เป็นนักแต่งเพลงชาวไทย จบการศึกษาจาก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต , จิตเวช คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี, ปัจจุบันประจำที่ โรงพยาบาลจิตเวชเลยราชนครินทร์ มีผลงานแต่งเพลงอาทิ คำถาม ของ ท็อฟฟี่ นิชาภา โพธิ์งาม, เพื่อนรัก และ ขอโทษ ของ เอิร์น กัลยากร นาคสมภพ, ฉันจะยืนข้างเธอ ของ กบ-เสาวนิต นวพันธ์, ขอทำตามหัวใจ ของ บัวชมพู ฟอร์ด

ผลงานการแต่งเพลง

• เพื่อนรัก, ขอโทษ (เอิน กัลยากร),

• ลาลา รักเธอ, เจ็บซ้ำซ้ำ, เลือกเป็นคนที่รักเธอ (แอน ธิติมา),

• อยากบอกว่ารัก, แมวเหมียว ( 2 become 1 ),

• ฉันจะยืนข้างเธอ (กบ เสาวนิตย์),

• ขอทำตามหัวใจ (บัวชมพู),

• คำถาม, อยากมีสิทธิ์ใช้คำว่ารัก (ท๊อฟฟี่),

• รักเท่าไหร่ก็ยังไม่พอ, แค่อยากมีรักจริง (ลูกปัด),

• ลูกปัด อัลบั้ม Chocolate (รักของเราจะเป็นแบบไหน, รักตัวเองมากไป, Crush, ขอบคุณเหลือเกิน)

• เพลงประกอบรายการเงาะถอดรูป,

• เพลงรายการผู้หญิงถึงผู้หญิง ช่อง 3 (ครึ่งปีแรก 2552)

• เพลงประกอบละครนิราศสองภพ, ฟ้าสวยเลนส์ใส (รักก็คือรัก - แอน),

• เพลงสำหรับภาพยนตร์ Seasons Change*ฤดูรัก, แน่ใจใช่ไหม

• อัลบั้ม Behind The Songs เป็นอัลบั้มที่ “เอิ้น” เป็นคนแต่งเนื้อร้องทั้งอัลบั้มและมีนักร้อง รับเชิญหลายคนมาร่วมแจม

• หนังสือ Behind The Songs : The Story พร้อม 6 เพลงพิเศษ,

(เพลง theme โครงการ liveandlearn, โครงการเด็กไทยไม่กินหวาน)

• เพลง ความรักฉันคือเธอ (แอน)

• Men's Room (ไม่มีสิทธิ์, เก็บไว้ในใจก็พอ)

• เพลงประกอบละครเรื่องสร้อยแสงจันทร์

เพลงอยากจะย้อนเวลา ร้องโดย toffy

เพลงความทรงจำ ร้องโดยเต้ นักร้องหน้าใหม่ใน school of luck project

column behind your song ใน DDTmagazine

column ว่าด้วยการแบ่งปันความสุข เศร้า เหงา หรืออกหัก แล้วเอิ้นจะหยิบมาเล่า หยิบมาเขียนเป็นเพลงให้ เพลงของคุณ : บทเพลงจากความรัก, ยังอยากรู้ feat.scrubb, แอบรัก (เค๊า) , อดทนไว้, มือซ้ายกับมือขวา, เพื่อนแท้

• แขกรับเชิญรายการ club x

• เจ้าหญิงของเรา

• จดหมายรัก (พลอย ณัฐชา)

• อย่าทำร้ายกันอีกเลย feat. ลูกปัด (หน่วยจัดการความรู้เรื่องความรุนแรงในครอบครัว รพ รามาธิบดี)

• อัลบั้ม เพลงของเธอ / เพลงประกอบละครสายสืบดีลิเวอรี่ (ทำไมต้องรักเธอ)

• คือคำว่ารัก feat.คริส หอวัง

• ยินดีรับฟัง / ศิรศักดิ์

• มากกว่ารัก (โรส ศิรินทิพย์ ost.เการักที่เกาหลี Sorry ซารางเฮโย, พีท เดอะสตาร์ อัลบั้ม:Voice Male)

• คำขอครั้งสุดท้าย LADY drama

• ขอบฟ้า กับ ความรัก มุก The Entertainer

• Club Friday Based On True Story By เอิ้น พิยะดา

• แต่งเพลง เจ็บแต่จบ (ร้องโดย ปองศักดิ์ รัตนพงษ์), เพลง จดหมายจากความเหงา (ร้องโดย ธนชัย อุชชิน),เพลง คนไม่น่าสงสาร (ร้องโดย แอน ธิติมา) ,เพลง เธอไม่ยอมปล่อยหรือฉันไม่ยอมไป (ร้องโดย ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา),เพลง คนที่เธอไม่ยอมรับ (ร้องโดย เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ์) และ เพลง วันสุข (ร้องโดย หนึ่งธิดา โสภณ และ ป็อป แคลอรี่ส์ บลาห์ บลาห์



อัญชลี จงคดีกิจ (พี่ปุ๊) เกิดวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2498 นักร้องหญิง ที่เริ่มจากการเล่นดนตรี ในตำแหน่งต่างๆ ของหลายวง และมีผลงานเดินแบบ และผลงานการแสดง จนกระทั่งมาโด่งดังกับอัลบั้ม หนึ่งเดียวคนนี้

พี่ปุ๊ อัญชลีเกิดในครอบครัวที่ชอบร้องเพลง เป็นบุตรสาวของ นายเท่ห์ จงคดีกิจ อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ เธอหัดเล่นกีตาร์และร้องเพลงตามพี่สาวทั้งสามคน ต่อมาเข้าร่วมวง The Waves ของพี่ชาย (เอกกมล จงคดีกิจ) เล่นในตำแหน่งเบสกีตาร์ เล่นเพลงในแนวฮาร์ดร็อกเช่นวง Deep Purple และ Uriah Heep เป็นหลัก ปุ๊เล่นทำหน้าที่เล่นเบส จบมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ขณะที่เรียนอยู่เอแบคปีสองทางวงก็ได้เล่นประจำที่โรงแรมมณเฑียร เธอเปลี่ยนมาริธึมกีตาร์แทนและเริ่มได้มีโอกาสร้องนำ ในช่วงนี้ทางวงเล่นเพลงแนวคันทรีร็อก เช่น The Eagles เล่นได้ประมาณ 2 เดือน ก็ยุบวง ต่อมาได้รับการทาบทามให้ไปเป็นนักร้องนำของ The Everests ก่อนที่จะเดินทางไปศึกษาต่อที่ เซ็นต์หลุยส์ มิสซูรี สหรัฐอเมริกาและสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโทสาขาวิชาการเงินและธนาคาร เรียนจบกลับมาก็เข้าร่วมวง บาราคูดัส ในตำแหน่งนักร้องนำช่วงระยะหนึ่งและเริ่มมีงานเดินแบบกับถ่ายแบบเข้ามา

ในปี พ.ศ. 2527 ได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง ถามหาความรัก และเธอลงตีพิมพ์ในนิตยสารดาราและเพลงหลาย ๆ เล่ม ในปี 2528 อัลบั้มชุด หนึ่งเดียวคนนี้ ออกวางจำหน่าย แกรมมี่เป็นผู้ทำการโปรโมทให้ เดิมทีใช้ชื่อชุดว่า อยู่ไปวันวัน (ชื่อเพลงหนึ่งในอัลบั้มเดียวกัน) แต่คุณจิตนาถ วัชรเสถียร (ผู้แต่งคำร้องและทำนองของงานเพลงชุดนี้) แย้งว่ามันไม่แรงพอเลยขอเปลี่ยน นักดนตรีในห้องบันทึกเสียง ได้แก่ อุกฤษณ์ พลางกูร, วิรัช อยู่ถาวร, สนอง โสตถิลักษณ์, ไพฑูรย์ ไวทยากร, เสกสรร ยงยุทธ และ วิชัย อึ้งอัมพร ทุกคนเป็นมืออาชีพระดับโปรดิวเซอร์ เมื่อผลงานเริ่มได้รับการโปรโมทผ่านสื่อต่าง ๆ ตัวเพลงและภาพลักษณ์ของเธอเรียกได้ว่าเป็น ของใหม่ และคุณภาพการร้องและตัวเพลงที่แข็งแรงทั้งอัลบั้ม ทำให้เกิดกระแส อัญชลีฟีเวอร์ จน มจ.ทิพยฉัตร ฉัตรชัย ต้องสร้างหนังเรื่อง ด้วยรักคือรัก โดยมีโจทย์ที่ใช้เพลงในอัลบั้มนี้เป็นหลัก และ ธงไชย แม็คอินไตย์ ซึ่งตอนนั้นเบิร์ดยังไม่ได้ออกผลงานชุดแรก มาประกบการแสดง กลายเป็นคู่ขวัญทางจอเงินระดับคลาสสิคอีกคู่หนึ่งของวงการหนังไทย

สะดุดรัก และ อีกครั้ง คือผลงานเพลงและหนังที่ออกตามมาในปี 2529 ได้รับการตอบรับที่ดีอยู่ ปุ๊ยังจับคู่กับพี่เบิร์ดเหมือนเดิม แต่ในขณะนั้นพี่เบิร์ดออกอัลบั้มชุดแรกออกมาแล้ว

ไฮไลท์สูงสุดในการเป็นนักร้องของปุ๊ คือการได้รับเลือกจาก เป๊ปซี่ ให้ถ่ายโฆษณาคู่กับศิลปินหญิงระดับชื่อก้องโลก ทีน่า เทอร์เน่อร์ โฆษณาชิ้นนี้ได้ออกฉายไปทั่วโลกไม่ใช่เฉพาะในเมืองไทย

หลังจากปี 29 หนึ่งเดียวคนนี้ในภาคภาษาอังกฤษก็ได้ออกมา ข่าวตัวปุ๊ค่อนข้างจะผิดหวังกับบุคคลในวงการบันเทิงที่รายล้อมตัวเธอในช่วงหลังและเธอก็เงียบหายไปจากวงการเพลง กระทั่งปี 2531 ได้ร่วมงานกับ "ชรัส เฟื่องอารมย์" และ "พนเทพ สุวรรณะบุณย์" ออกเพลง "อัญชลีกับตัวของเธอเอง"

ในปี 2540 เธอกลับมาแบบเซอร์ไพรส์และเป็นการกลับมาที่เยี่ยมยอดมาก ๆ ในขณะที่กระแสอินดี้ในบ้านเรายังดี งานชุด Crossroads กับสังกัด Oh My God แนวเพลงป๊อป ต่อมาได้เป็นนักร้องรับเชิญในอัลบั้ม "Million Ways to Dobe" ด้วยเพลง "รัก" กระทั่งล่าสุดได้มาร่วมเป็นศิลปินในอัลบั้ม "Love is Vol.1" กับสหกรณ์ทางดนตรี ภายใต้การดูแลของ "สุกี้ - กมล สุโกศล แคลปป์" และ "บอย โกสิยพงษ์" ร้องเพลง "อยู่ที่ไหน" จนมาถึงปัจจุบันด้วยอัลบั้มเดี่ยว "50" ภายใต้สังกัด เลิฟอีส ที่มี บอย เป็นผู้แต่งเพลงและดูแลงานเพลงในชุดนี้ร่วมกับ 3 โปรดิวเซอร์ คือ "ปุ๊ก - จิตนาถ วัชรเสถียร" "เหวิน - เรืองกิจ ยงปิยะกุล" และ "ฟั่น - โกมล บุญเพียรผล"

ปี 2544 เธอปรากฏตัวอีกครั้งอย่างไม่เป็นทางการ ในวันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม 2544 ณ อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี เป็นศิลปินรับเชิญร่วมการแสดงสดของวง NUVO ใน concert NUVO IN LOVE : รักเสียงดังจังเลย ร้องเพลง ร่วมกับ จอห์น นูโว ในเพลง สัญญาปากเปล่า

พี่ปุ๊ อัญชลี นับถือศาสนาคริสต์ นิกายโปรแตสแตนท์ และเคยเป็นพรีเซนเตอร์ของหนังสือ พลังแห่งชีวิต ที่มีเนื้อหาประกอบด้วยคำสอนตามนิกายนี้ด้วย

ผลงานเพลงอัลบั้มเดี่ยว

• หนึ่งเดียวคนนี้ (2527)

• สะดุดรัก (2529)

• เขย่าโลก

• อัญชลีกับตัวของเธอเอง (2531)

• Crossroads (2540)

• 50 (2548)



อีฟ ปานเจริญ (Palmy) หรือ ปาล์มมี่ วันเกิด 7 สิงหาคม พ.ศ. 2524 นักร้องลูกครึ่งไทย-เบลเยี่ยม แนวป็อปร็อก สังกัด GMM Grammy ปาล์มมี่จบการศึกษาจากโรงเรียนพระแม่มารี (เซนต์หลุยส์) และศึกษาต่อที่ Holy Cross High School เมือง ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย


ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่สามารถ ถ่ายทอดทุกบทเพลง ทุกอารมณ์ ได้อย่างเข้าใจและเป็นเพื่อนกับมันทำให้เพลงของเธอ “เป็นมากกว่าเพลง” เราได้รู้จักเธอครั้งแรกเมื่อปี 2544 เมื่อเธอ ออกอัลบั้มแรกภายใต้ชื่อว่า “Palmy” เป็นอัลบั้มแรกหลังจากที่เธอสานฝันของเธอตั้งแต่เด็กให้เป็นจริง...ที่บ้านหลังหนึ่งใน GMM Grammy คือ กลุ่มของ RPG โดยพี่โอม (ชาตรี คงสุวรรณ) และ พี่ Golf ( รุ่งโรจน์ ผลหว้า) ความสุขของการได้ทำในสิ่งที่เธอรักและใฝ่ฝันมานาน ทำให้ทุกความรู้สึก ทุกอารมณ์ ทุกบทเพลง และ ความเป็นเธอ ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านบทเพลงของเธอทุกเพลง ไม่ว่า จะเป็น อยากร้องดังๆ , อยุ่ต่อได้หรือเปล่า , กลัว และทุกบทเพลง ได้เข้าไปเป็นเพลงประจำใจของหลายๆคนเป็นที่เรียบร้อย เธอได้สร้างปรากฎการณ์ทางดนตรีขึ้นมาอีกครั้งเมื่อบัตร concert ครั้งแรกของเธอ ขายหมดเพียง 1 ช.ม. เท่านั้น และเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2545 เธอมอบความประทับใจให้แก่ทุกคนที่ชื่นชอบเธออีกครั้งที่ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ภายใต้ concert เต็มรูปแบบครั้งแรกในชีวิตของเธอ ที่ชื่อว่า “ palmy life concert ”

ความงดงามของเธอ กลับมาเปล่งประกายอีกครั้งหลังจากการหายไปกว่า 2 ปีเมื่อเธอกลับมาพร้อมกับคำสั้นๆ ที่นิยามเรื่องราวของเธอได้อย่างลงตัวว่า “ Stay “ เป็นการนิยาม อัลบั้มที่ 2 อย่างสั้นๆแต่ได้ใจความว่า “ เธอ ยังคงอยู่ตรงนี้ ยังทำในสิ่งที่เธอรัก ไม่ได้หายไปไหน” เพลงและพัฒนาการของเธอไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวังเมื่อเธอกลับมาอีกครั้ง ในทุกบทเพลงของเธอ ยังถ่ายทอดความเป็นเธอได้ดีเหมือนเดิม หลายเพลงที่กลับมาเป็นสีสันของอัลบั้ม 2 อย่าง ทำเป็นไม่ทัก , พูดไม่เต็มปาก , พรุ่งนี้อาจไม่มีฉัน และเพลงที่ได้นักร้องเสียงดี "จั๊ก-ชวิน จิตรสมบูรณ์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเพลง"Stay" โดยเล่น กีตาร์อะคูสติกให้ Palmy เป็นหญิงสาวตัวเล็กแต่มีพลังในการขับเคลื่อนสูง ความเต็มที่ในการเล่นคอนเสิรต์ทุกคอนเสริต์ ของเธอมาจากความตั้งใจที่ถ่ายทอดออกมาอย่างสวยงาม ...." ลิปซิ้ง , ไม่ร้องสด” คำพวกนี้เก็บพับใส่กระเป๋าไปได้เลยสำหรับนักร้องสาวคนนี้ .....จากการตอบรับการกลับมา เธอกลับมาสร้างความประทับใจอีกครั้ง ใน Palmy Stay with me ที่ Impact Arena เมืองทองธานี และเรื่องราวยังไม่จบแค่นั้นเมื่อตามมาด้วย Palmy in the candle light concert เป็นคอนเสริต์ที่เกิดขึ้นภายใต้ concept ใต้แสงเทียน ที่สวนสาธารณะวชิรเบญจทัศ หรือ สวนรถไฟ

งานดนตรีของเธอยังส่องประกายสดใสไปถึงต่างแดน เมื่อทาง ญี่ปุ่นได้เลือก เพลงจาก 2 อัลบั้มของเธอ ออกวางจำหน่าย และเธอยังมีโอกาสแสดงความสามารถทางดนตรีของเธอ ภายใต้ concert ที่ชื่อว่า “Palmy First Live In Japan” กลางกรุงโตเกียวเมื่อ 10 มิ.ย. 2547 ด้วยลีลาการแสดงสด ความเต็มที่ของเธอในทุกเวที ทำให้ตรึงใจชาวปลาดิบที่เรียกให้เธอกลับไปอีกครั้ง เธอกลับไปใน “ Palmy Live in Tokyo VoL.2” และในปีเดียวกันเธอยังเป็นศิลปินไทยคนเดียวที่ได้รับเลือกจากประเทศเกาหลีไปเป็นส่วมหนึ่งในงาน ASIA SONG FESTIVAL ซึ่งเป็นงานมหกรรมดนตรีจากศิลปินแนวหน้าในหลากประเทศในทั่วเอเซีย นับจากวันที่เธอมุ่งมั่นทำความฝันของเธอให้เป็นจริง จนช่วงสิ้นสุดการทำงานชุดที่ 2 เธอตัดสินใจ เบรคงานเพลงของเธอไปสักพักหนึ่งเพื่อ พาหัวใจที่ออกเดินทางมานาน หยุดเดินแล้วพักบ้าง เธอหายไปใช้ชีวิตแบบสบายๆ ที่มันห่างหายจากเธอไปนานตอนที่เธอทุ่มเทกับการทำงานและทัวร์ concert  “ก็คิดว่าหยุดก่อนดีกว่าจะได้พักผ่อนกันไปเต็มที่ทุกคน ทั้งวงมี่ด้วย ทั้งตัวมี่ ไปดำเนินชีวิตตามปกติ ที่ไม่ใช่เล่นคอนเสริต์ หรือคุยเรื่องงาน กลับไปเป็นปาล์มมี่ตอนก่อนจะออกชุดแรก” เมื่อหัวใจได้ไปพักผ่อน หยุดอยู่นิ่งๆกับที่ในบางครา ก็ถึงเวลา แล้วที่เธอจะ”เลือก” ให้กลับมาเดินในเส้นทางเดิมอีกครั้ง “ระหว่างการดำเนินชีวิตก็คิดว่าข้างหน้าจะทำอะไร ใช้สติคิด หยุดนิ่งแล้วคิด ตัดสินใจว่าพร้อมแล้วก็กลับมาลุยแล้ว ทำให้มันอยากก่อน สำหรับมี่ ไม่อยากทำด้วยความเคยชิน จะทำอะไรต้องรู้สึก ต้องพร้อม ก็ลองกลับไปร้องเพลงที่ชอบ เรียกบรรยากาศเก่าๆ ว่าตอนนั้นทำไมเราชอบร้องเพลง กลับไปเปิดเพลงที่เราเคยฝึก กลับมาดิ๊...กลับมา เราก็จะได้รู้ว่าเราทำได้แค่ไหน มันเหมือนกลับมาค้นหาตัวเองอีกรอบนะ” แล้วการเดินทาง บนถนนสายเพลงครั้งใหม่ของเธอก็เริ่มต้นขึ้น ในถนนสายที่ชื่อว่า Beautiful Ride เป็นสื่อแทน ความรู้สึกมากมายที่เกิดขึ้นในการมีส่วนร่วมลงมือขับเคลื่อนดนตรีด้วยตัวเองทุกขั้นตอน นับตั้งแต่การค้นหาผู้ร่วมงาน ดนตรี บทเพลง ทุกอารมณ์  สำหรับปาล์มมี่เป็นความรู้สึกที่งดงาม จากการได้ขับเคลื่อน ทั้งเดิน ทั้งวิ่ง อาจมีล้ม สะดุด นิดแต่ก็ยังก้าวต่อไป บนถนนสายดนตรี ในการเดินทางระยะยาวตลอด 2 ปีตั้งแต่เริ่มจนเสร็จ เพื่อให้ได้เป็นงานดนตรีที่รื่นรมย์ เพื่อให้ได้ชมดอกไม้สวยๆ......ที่ปลายทาง...ของถนนเส้นนี้   “ ทางไหนที่เราเลือก เราก็ทำมันให้เต็มที่ ซึ้งมันก็คือคำตอบของทุกๆอย่าง หมายความว่ามี่จะอยู่ไหน งานมันก็จะต้องเกิดจากความตั้งใจทำงานของมี่ ของนักร้องคนนั้นอยู่ดี ไม่ว่ายังไงมันก็ต้องทำให้ดีที่สุด...เมื่อมี่เลือกแล้ว ...มี่ต้องลุย!! ”  จิตวิญญาณทางดนตรีของผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึงที่ชื่อว่า “อีฟ ปานเจริญ” กับถนนสายสีสัน สดใส ทุ่งหญ้า ดอกไม้ตามทาง ที่เธอเลือกเติมแต่งให้มัน...ในถนนสายดนตรีของเธอเอง
เพราะเธอคือสีสันทางดนตรี อิสระ กว้างไกล และ มีแค่ “ใจ” ที่รักเสียงเพลง

ผลงานเพลง Palmy (2544) , Stay (2546) ,Beautiful Ride (2549) , The Acoustic Album (2550) , Palmy 5 (2554)

อัลบั้มรวมเพลงฮิต Showcase (2548) ,Tea Time with Palmy (2554) , Music Box Palmy (2554)




อมิตา ทาทา ยัง (Amita Tata Young) หรือ ทาทา ยัง (Tata Young) มีชื่อจริงว่า อมิตา มารี ยัง เกิดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2523 เป็นนักร้อง นักแสดง นางแบบชาวไทย-อเมริกัน ทาทาเป็นศิลปินที่ขับร้องเพลงในหลากหลายแนวเพลงทั้งป๊อป บัลลาด ร็อก เธอเป็นนักร้องหญิงที่ทำรายได้เข้าสู่ประเทศไทยกว่า 800 ล้านบาท และมียอดจำหน่ายอัลบั้มแล้วกว่า 14 ล้านชุด


ทาทา ยัง เกิดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2523 ณ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย เป็นธิดาคนแรกและคนเดียวของนายทิมและนางบัญชร ยัง บิดาเป็นชาวอเมริกัน และมารดาเป็นชาวไทย ทาทาเริ่มต้นการศึกษาในระดับอนุบาลที่โรงเรียนแมรีปอปปินส์ สำเร็จการศึกษาในระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนาบริติช และศึกษาต่อระดับอนุปริญญาจาก Nebraska University of Lincoln

เมื่ออายุได้ 11 ปี เธอชนะการประกวดจากเวที "นิสสันมิวสิกอวอร์ด" ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยขับร้องเพลง "One Night only" การแข่งขันดังกล่าวทำให้เธอได้เช็นสัญญากับยามาฮ่ามิวสิก ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นทางวงการดนตรีของเธอ ต่อมาในปี พ.ศ. 2537 เธอได้เซ็นสัญญากับจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของไทยและนำเธอเข้าสู่อุตสาหกรรมดนตรีอย่างเป็นทางการ

ในปี พ.ศ. 2538 ทาทาได้ออกอัลบั้มภาษาไทยในชื่อว่า อมิตาทาทายัง นับเป็นอัลบั้มแรกและเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในเวลานั้น โดยมีเพลง "โอ๊ะโอ๊ย" เป็นเพลงเปิดตัวอัลบั้ม อัลบั้มดังกล่าวมียอดจำหน่ายมากกว่า 1 ล้านชุดภายในเวลาไม่ถึง 5 เดือนหลังออกจำหน่าย ทำให้เธอออกอัลบั้ม ทาทาวันมิลเลียนกอปปีส์เซเลอเบรชัน เพื่อเป็นการขอบคุณแฟนเพลง โดยในอัลบั้มนี้เธอได้ขับร้องเพลง "ฉันรักเธอ" อันเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จเช่นกัน ด้วยยอดจำหน่ายมากกว่า 1 ล้านชุด นอกจากนี้เธอยังได้จัดคอนเสิร์ต นานาทาทา 2 รอบการแสดงและคอนเสิร์ตตอนพิเศษ "ไอเลิฟยู" ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี จากความสำเร็จดังกล่าวทำให้เธอได้รับรางวัล "นักร้องแห่งปี" จากนิตยสารบางกอก และรางวัล "ศิลปินยอดเยี่ยม" ประจำปี พ.ศ. 2538, "มิวสิกวิดีโอแห่งปี" และรางวัล "อัลบั้มแห่งปี" จากเรดิโอโวต

ในปี พ.ศ. 2539 ทาทาร่วมกับอีก 5 ศิลปิน คือ คริสติน่า,มอส,เจ,นัท,ยูเอชที ออกอัลบั้มร่วมกันในชื่อ 6.2.12 และจัดคอนเสิร์ต 6.2.12 เฟสติวัล ซึ่งมีผู้เข้าชมกว่า 5 หมื่นคน ในปี พ.ศ. 2540 ทาทากลายเป็นศิลปินที่มีอายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัล "พระพิฆเนตรทองคำ" จากสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จากการที่เธอได้รับรางวัลดังกล่าว ทำให้เธอมีโอกาสแสดงคอนเสิร์ตเฉพาะพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ภูพิงค์ราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่ และในปีเดียวกันนี้ได้มีการจัดตั้งกลุ่มแฟนคลับทาทา ยังขึ้น ในการดูแลของบริษัททาทาเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เพื่อรวมกลุ่มแฟนเพลงของเธอและช่วยเหลือมูลนิธิเด็กในประเทศไทยและมูลนิธิส่งเสริมการพัฒนาบุคคล

หลังจากความสำเร็จในวงการดนตรีของทาทา เธอจึงเป็นศิลปินไทยคนแรกที่มีโอกาสเซ็นสัญญากับค่ายโคลัมเบียในสังกัดของโซนีมิวสิกเมื่อปี พ.ศ. 2547 และได้ออกอัลบั้ม ไอบีลีฟ (I Believe) ซึ่งเป็นอัลบั้มภาษาอังกฤษอัลบั้มแรกของเธอ โดยมีซิงเกิลแรกคือ "Sexy, Naughty, Bitchy” แต่เพลงนี้ในมาเลเซียต้องเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "Sexy,Naughty,Chicky" นอกจากนี้อัลบั้มดังกล่าวยังมีซิงเกิลอีก 2 ซิงเกิลคือ "I Believe" และ “Cinderella"

นอกจากนี้ทาทายังได้รับการเลือกเป็น 1 ใน 50 สตรีที่เซ็กซี่ที่สุดในโลกจากนิตยสารในมาเลเซีย และได้รับเชิญเป็นกรรมการตัดสินการประกวดมิสสิงคโปร์ประจำปี 2004 เธอขยายตลาดเพลงของเธอสู่ประเทศอินเดียด้วยการออกซิงเกิล "Dhoom Dhoom" เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง ดูม (Dhoom) ภาพยนตร์อินเดีย คนอินเดียจึงเรียกขานเธอว่า "Dhoom Girl" และมีการจัดคอนเสิรร์ตทัวร์ Dhoom จัดขึ้นในหลายประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในปี พ.ศ. 2549 ทาทาได้ขับร้องเพลง "ไอติงค์ออฟยู" (I Think of You) ร่วมกับ "H" นักร้องชาวเกาหลี และเพลง "I Believe" ได้รับการขับร้องใหม่จากวง BabyVox Reeveในปี พ.ศ. 2551

ในประเทศไต้หวัน ทาทาได้เกียรติให้แสดงในงานประกาศรางวัล โกลเดนเมโลดี และได้ทำงานร่วมกับศิลปินชั้นนำของไต้หวันอย่างแวนเนส วู (จากวง F4), เจย์ โจว, หวัง ลี ฮอม จากความสำเร็จในงานดนตรีของเธอ เธอจึงขยายฐานแฟนเพลงสู่ประเทศญี่ปุ่น ในเพลง "เซ็กซี, นอร์ตี, บิชชี" เป็นเพลงแรกที่ขึ้นชาร์ต ออริกอนของญี่ปุ่น มิวสิกวิดีโอของเธอได้ฉายทุกๆ 10 นาทีในจอยักษ์เขตชิบูยาของญี่ปุ่น ยอดขายอัลบั้มในญี่ปุ่นในอัลบั้มนี้มากกว่า 3 แสนชุด และจัดคอนเสิร์ตทัวร์ในญี่ปุ่นไปยังเมืองสำคัญๆ 6 เมืองได้แก่ ฟูกุโอกะ โอซากา โยโกฮามา นาโกยา เซ็นได และโตเกียว และระหว่างการจัดคอนเสิร์ตในประเทศเนปาล เธอได้รับแจ้งข่าวการเสียชีวิตของมารดาของเธอ จึงทำให้เธอยกเลิกการจัดคอนเสิร์ตและกลับประเทศไทยทันที

อัลบั้ม ไอบีลีฟ ประสบความสำเร็จในการจำหน่ายทั้งในประเทศไทย ญี่ปุ่น อินโดนิเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินเดีย ได้คว้ารางวัลแผ่นเสียงทองคำขาว (Platinum) และรางวัลแผ่นเสียงทองคำ (Gold) ด้วยยอดขายทั่วเอเชียกว่า 1.2 ล้านชุด จากความสำเร็จดังกล่าวทำให้ทาทาได้ออกอัลบั้มพิเศษในชื่อ ดูมดูม โดยนำเพลง "ไอบีลีฟ" "เซ็กซี, นอร์ตี, บิชชี" และ "ไอติงค์ออฟยู" มาขับร้องใหม่ในภาษาญี่ปุ่น ทำให้เธอได้รับรางวัล "ศิลปินหน้าใหม่แห่งปี" ในงานประกาศรางวัลแผ่นเสียงทองคำของญี่ปุ่นครั้งที่ 19

ภายหลังการประชาสัมพันธ์อัลบั้ม ไอบีลีฟ ทาทาได้ออกอัลบั้มภาษาไทยในชื่อว่า แดนเจอรัสทาทา (อังกฤษ: Dangerous Tata)) โดยมีเพลง "Dangerous" เป็นซิงเกิลแรก เพลงดังกล่าวได้ขับร้องร่วมกับวงไทยเทเนี่ยม นอกจากนี้อัลบั้มดังกล่าวยังได้ร่วมงานกับศิลปินอื่นๆ อาทิ นภ พรชำนิ, ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร , ตรัย ภูมิรัตน์ และบีไฟฟ์ (B5) มียอดจำหน่ายในวันแรกกว่า 1 แสนชุดทำให้ได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำขาว (Platinum) ในวันแรกที่ออกจำหน่าย

ทาทา ยัง รับรางวัลงานเอ็มทีวี เอเชีย อวอร์ดส

ในปี พ.ศ. 2549 เธอได้เข้าร่วมงานเอ็มทีวี เอเชีย อวอร์ดสและได้ขับร้องเพลง Endless Love ร่วมกับลี ไรอัน และได้รับรางวัล "นักร้องโปรดประเทศไทย" นอกจากนี้ ในปีเดียวกัน เธอได้ออกอัลบั้มภาษาอังกฤษชุดที่ 2 คือ เทมเพอเรเจอร์ไรซิง (Temperature Rising) ในเดือนสิงหาคม เปิดตัวด้วยซิงเกิล "เอลนิน-โญ!" ในอัลบั้มนี้มีนักแต่งเพลงชื่อดังมากมายร่วมประพันธ์เพลงให้เธอ อาทิ ไดแอน วาเรน, พอล แม็กคาร์ตนีย์ และนาตาชา เบดิงฟิลด์ หลังจากความสำเร็จที่ได้รับ จึงได้มีการนำอัลบั้ม เทมเพอเรเจอร์ไรซิง มาจำหน่ายในรูปแบบวีซีดีคาราโอเกะ โดยเลือกมิวสิกวิดีโอเด่น 7 เพลงจากอัลบั้ม และมีการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ส่งท้ายปี ในเดือนธันวาคม ในชื่อว่า ทาทายังเทมเพอเรเจอร์ไรซิงไลฟ์อินบางกอก ณ อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี ในวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2549 และได้เปิดตัวซิงเกิลที่ 3 มาฉายในคอนเสิร์ตคือเพลง "คัมเรนคัมไชน์" (Come Rain Come Shine)

ในปี พ.ศ. 2550 ทาทาได้รับเลือกเป็นอิมเมจเกิร์ลคนแรกและได้เป็นตัวแทนช่อง สตาร์เวิลด์ (Star World) ในการประชาสัมพันธ์งานต่างๆของสถานี และได้ถ่ายทำโฆษณาของสถานีดังกล่าวที่ประเทศฮ่องกง โดยใช้เพลง "คัมเรนคัมไชน์" มาประกอบภาพยนตร์โฆษณา ในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ทาทาเข้าพิธีหมั้นกับเปรม บุษราคัมวงษ์ ทายาทค่ายมวยแฟร์เท็กซ์ ณ โรงแรมเพนนินซูล่า และในปีถัดมาทาทาได้ออกอัลบั้มภาษาไทยในชื่อ วันเลิฟ (One Love) เมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2551 โดยเริ่มบันทึกเสียงตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2550 โดยมีเพลง "วันเลิฟ" เป็นซิงเกิลแรก โดยเผยแพร่วันแรกในวันวาเลนไทน์ในปี พ.ศ. 2551 และยังมีเพลงเด่นจากอัลบั้มนี้ได้แก่ "ต้นเหตุแห่งความเศร้า" และ "I be your first, your last , your everything อีกด้วย

ในช่วงกลางเดือนเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2551 ทาทาจะเดินทางยังประเทศเยอรมันเพื่อจัดทำอัลบั้มภาษาอังกฤษชุดที่ 3 มีการคัดเลือกเพลงเพื่อสร้างอัลบั้มนี้จากกว่าหนึ่งพันเพลง และได้ออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ในชื่อ เรดีฟอร์เลิฟ (Ready For Love) โดยใช้เพลง "เรดีฟอร์เลิฟ" เป็นซิงเกิลแรกซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 และได้จัดงานเปิดอัลบั้มในชื่อว่า ทาทาเทกยูทูเดอะเวิลด์ เมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552 ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพมหานคร และมีการปฐมทัศน์มิวสิกวิดีโอที่ 2 จากอัลบั้มคือ "มายบลัดดีวาเลนไทน์" อีกด้วย และเธอได้ตัด Video Mission is you เพื่อเป็นการโปรโมท งานแถลงข่าว เปิดตัวอัลบั้มของเธออย่างเป็นทางการในงาน "ทาทา ยัง เทกยูทูเดอะเวิลด์" อีกด้วย และต่อมาหลังจากนั้นเธอได้เดินทางไปที่ประเทศ ออสเตรเลีย ในงานเทศการดนตรี One Movement Music Festival ,The Esplanade Perth Australia 17 ตุลาคม 2552 และจะมีแผนกลับไปโปรโมทที่ประเทศออสเตรเลียในเดือนมีนาคม 2553 นี้

ผลงานเพลงทั้งหมด

อัลบั้มภาษาไทย

• 2538 : อมิตา ทาทา ยัง

• 2538 : ทาทาวันมิลเลียนกอปปีส์เซเลอเบรชัน

• 2540 : อะเมซิงทาทา

• 2541 : ทาทารีมิกซ์

• 2544 : ทาทายัง

• 2546 : เรียลทีที

• 2548 : แดนเจอรัสทาทา

อัลบั้มภาษาอังกฤษ

• 2547 : I Believe

• 2549 : Temperature Rising

• 2551 : One Love

• 2552 : Ready For Love

ซิงเกิล

• 2554 : - Let's Play (เปิดตัววันที่ 17 กันยายน 2554 ในงานคอนเสิร์ต ทรู อคาเดมี่ แฟนเทเชีย ซีซั่นที่ 8)

• 2554 : - ช็อต [Remix] (Montonn Jira's Smirnoff BKK REMIX )

• 2553 : - รักใหม่อีกครั้ง (Ready for Love {Thai Version}) - หมดใจ หมดใจ (My Bloody Valentine {Thai Version})

• 2550 : - Zoom (Simlish Language) (Ost.The Sims 2 : Seasons Soundtrack )

• 2549 : - Anywhere We Can Go (Ost.I-Mobile 611 )

• 2548 : - Life is Action (Ost.Life is Action Suzuki )

• 2547 : - ขวานไทยใจหนึ่งเดียว (Ost.ขวานไทยใจหนึ่งเดียว )

• 2547 : - ข้ามฟ้ามารักกัน Moonriver (Ost. Split Second {ละคร ข้ามฟ้าเฉือนคม})

• 2545 : - จะเก็บเอาไว้ให้เธอผู้เดียว - จดจำไว้ในลมหายใจ (Ost.เพลงประกอบละคร ปลายเทียน)

• 2545 : - เชียร์หยุดโลก (Ost. 2002 FIFA World Cup Official Album)

• 2542 : - รักนี้ไม่มีฟอง - เปลี่ยนไป (Ost. Smooth E)

• 2541 : - Reach For The Star

อัลบั้มคอนเสิร์ต

• 2538 : Nana Tata in concert

• 2538 : Tata Special ตอน I Love U

• 2540 : MOS TATA & FRIEND

• 2545 : หวานใจ. . . ไม่มีง.งู

• 2548 : Tata Young Live In Concert Dhoom Dhoom Tour

• 2548 : Tata Young Japan Tour 2005 : I Believe

• 2552 : Tata Young Take You To The World

อัลบั้มรีมิกซ์

• 2549 : Sony BMG : Maximum Hitz

- สองคน หนึ่งคืน : ทาทา ยัง

• 2553 : The Ultimate Remix

อัลบั้มรวมเพลงฮิต =

• 2543 : The Very Best Of Tata Young

• 2547 : Real Love

• 2547 : Tata Young : Sexy Beat

• 2549 : Best Of Tata Young

• 2551 : Tata Young the Collection (MP3)

• 2553 : The Love of TATA

• 2554 : Tata Young : On The Top




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น