วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555

คนดีเดินตรอก ขี้ครอกเดินถนน ยุคนี้อันธพาลครองเมือง

คนดีเดินตรอก ขี้ครอกเดินถนน
ยุคนี้อันธพาลครองเมือง ใครจะทำไม หรือ ใครจะจัดการมันบ้างมั๊ย

จากข่าวหน้า 1 และออกทุกสื่อในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ เกี่ยวกับโรงเรียนช่างกลคู่อริ ไล่ยิงกันบนท้องถนน โดยมีรถเมล์ประจำทางสาย 59 พร้อมประชาชนผู้โดยสารตกเป็นเหยื่อ มีทั้งผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต อีกตามเคย เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยและซ้ำซากมาก โดยต้นตอสาเหตุ ก็เกิดจากการทะเลาะเบาะแว้งจากกรณีใดก็ตาม เกิดบันดาลโทสะ ต้องการล้างแค้นกัน ในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ขี้หมูราขี้หมาแห้ง และเกี่ยวกับจิตสำนึกที่ดี ขาดความรับผิดชอบต่อสังคมของทั้งตัวเด็กและผู้เกี่ยวข้อง ขาดศีลธรรม ความตระหนักรู้ในบาปบุญคุณโทษ เจ้าหน้าที่ของบ้านเมืองขาดความเอาจริงเอาจัง ขาดการบังคับใช้กฏหมายอย่างเข้มงวด จนเกิดการหย่อนยานในหน้าที่ ความไม่เกรงกลัวต่อกฏหมายบ้านเมือง ค่านิยมเรื่องศักดิ์ศรีสถาบันแบบผิดๆ ระบบการรับน้องพิเรนทร์ๆ โหดๆ ฝังหัวในหมู่นักเรียนสายอาชีวะ โดยเฉพาะช่างกล ระบบรุ่นพี่รุ่นน้องที่ปกครองกันเอง แบบสปอยด์กันผิดๆ ไม่ได้อยู่ในกรอบความคิดด้านศีลธรรม จรรยาบรรณ หรือตระหนักรู้เกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง ต่อครอบครัว และต่อสังคม ประเทศชาติ ไม่เคยปลูกฝังค่านิยมทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ในหมุ่เด็กนักเรียนอาชีวะ ทั้งหมดนี้คือบทสรุปทุกเรื่องราว ทุกปมประเด็นส่วนใหญ่ที่มักพบเจอ สุดท้ายจุดจบก็คือการสูญเสียของเหยื่อ หรือประชาชนที่ไม่มีส่วนเกียวข้อง ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วย ต้องมาจบชีวิตลงอย่างที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย หากบุคคลคนนั้นเกิดเป็นคนที่คุณรัก ต้องมาประสบเหตุการณ์อะไรแบบนี้ คุณจะรู้สึกอย่างไร

โศกนาฏกรรมในลักษณะวัยรุ่นอาชีวะตีกัน ไล่ยิงกัน นั้น เท่าที่ทราบน่าจะเป็นลักษณะเฉพาะของสังคมไทย แต่เพียงสังคมเดียวในโลกมั๊ง ที่เกิดขึ้นซ้ำซาก สาเหตุหรือต้นตอนั้นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องก็น่าจะรู้ปัญหานะ แต่การขจัดหรือแก้ไขนั้นเกือบจะเรียกได้ว่าล้มเหลวมาโดยตลอด และมักจะพูดในทำนอง ขอให้เหตุการณ์นี้เป็นความสูญเสียครั้งสุดท้าย ที่จะไม่ไปเกิดกับใครอีกในอนาคต

(ข่าวเช้านี้ที่หมอชิต - กรณีนักเรียนตีกันแล้วผู้บริสุทธิ์ต้องล้มตายกัน เกิดขึ้นมานาน เหตุเกิดขึ้นบนรถเมล์สาย 59 เมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ พบศพนายวันชัย ทองสองแก้ว หรือเจ๊ก อายุ 21 ปี นักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 1 โรงเรียนไทยวิจิตรศิลป์ เสียชีวิตอยู่บนรถูกยิงที่บริเวณใต้รักแร้ซ้าย ส่วนอีกรายทราบชื่อ นางยุพา พรายงาม อายุ 48 ปี ถูกยิงที่ศีรษะด้านซ้าย เสียชีวิตทันทีนั่งติดกับประตูทางขึ้นลง ล่าสุดที่ตำรวจได้คือภาพจากกล้องวงจรปิด ค่อนข้างชัดเจน กำลังแกะภาพผู้ที่ก่อเหตุว่าเป็นใครกันแน่ คาดว่าเป็นนักเรียนจาก เทคนิคดอนเมือง )

เศร้าใจมั๊ยครับ ที่เปิดประเด็นเรื่องวัยรุ่นช่างกลตีกัน เพื่อที่จะโยงเข้าสู่ภาพยนตร์ 2เรื่อง เรื่องนึงเป็นหนังไทย อีกเรื่องเป็นหนังฮอลลีวู้ด ที่มีปมประเด็นขัดแย้ง ในลักษณะเดียวกัน เรื่องราวที่เกี่ยวกับอาชญากรรมในโลกมืดของสังคมที่เราเรียกกันว่า อันธพาล หรือเจ้าพ่อมาเฟีย ที่ดูจะเป็นปัญหาของสังคมทุกที่ในโลก หากสังคมใดก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า อันธพาล หรือ เจ้าพ่อมาเฟีย สิ่งที่จะตามมาอย่างหลีกหนีไม่พ้นนั่นก็คือ อาชญากรรม นั่นเอง

เรื่องแรก เป็นงานกำกับของผู้กำกับคนเก่งของไทยอีกคนในวงการ นั่นก็คือ ก้องเกียรติ โขมศิริ

งานกำกับของเขาที่ผ่านมา มีลายเซ็นต์ที่ชัดเจนมาก เกือบทั้งหมดก็คือหนังที่ว่าด้วยเรื่องด้านมืดของคน ตีแผ่ด้านมืดในจิตใจมนุษย์ มุมมืดในสังคม อาทิ ลองของ , ไชยา ,เฉือน และมีส่วนในการร่วมเขียนบทให้กับเรื่องเปนชู้กับผี ของวิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ด้วย เรื่องราวเกี่ยวกับ อันธพาล ในเวอร์ชั่นนี้ ไม่ได้เป็นงานรีเมค หรือภาคต่อของ ภ.เรื่อง 2499อันธพาลครองเมือง แต่อย่างใด แต่เป็นอีกเรื่องนึงในยุคสมัยเดียวกัน ผ่านการตีความในบริบทที่เป็นสไตล์ของตัวเขาเอง มุมมองที่ลึกและอิงกับข้อมูลจริงในอดีต ผ่านการรีเสิร์ชข้อมูลของจริงมากขึ้น การเขียนบทที่เจาะลึก มีมิติมากขึ้นของตัวแสดงหลักทุกตัว

นักแสดง : น้อย วงพรู กฤษดา สุโกศล แคลปป์, เต๋า สมชาย เข็มกลัด, พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง, สาครินทร์ สุธรรมสมัย, กฤษฎา สุภาพพร้อม, ภคชนก์ โวอ่อนศรี, วสุ แสงสิงแก้ว, บุญส่ง นาคภู่, นันทรัตน์ ชาวราษฎร์


เรื่องย่อ มีอยู่ว่า ยุคที่ “อันธพาล” โด่งดังไปทั่วราชอาณาจักรของเมืองไทย เหล่าอันธพาลต่างถูกยกย่องว่าเป็นฮีโร่ ผู้คนมากมายต่างนับหน้าถือตาในยุคนั้น ก่อนเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อ “จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์” ประกาศออกกฎหมายซ่องโจร กวาดล้างและปราบปรามอันธพาลครั้งใหญ่ จากฮีโร่กลับกลายเป็นผู้ร้ายหนีคุกทันที บ้างก็ถูกยิงตายข้างถนนอย่างไม่เหลือเกียรติใดๆ รวมถึงอันธพาลดาวดังที่ชื่อ “แดง” กับ “จ๊อด” ก็ยังถูกจับติดคุกอยู่นานถึง 4 ปี มันคือสิ่งที่ถูกกล่าวขานกันมานาน จากยุคร็อกแอนด์โรล เข้าสู่ยุคฮิปปี้ การกลับมาของอันธพาลรุ่นเก๋า “จ๊อด” (รับบทโดย กฤษดา สุโกศล แคลปป์) และ “แดง” (รับบทโดย สมชาย เข็มกลัด) เมื่อเส้นทางแห่งการเป็นนักเลงอันธพาลถูกกำหนดเอาไว้เรียบร้อย แดงชวน จ๊อดร่วมงานกับแก๊งเจ้าพ่อใหญ่ โดยทำหน้าที่เป็นผู้คุมบาร์และตามเก็บทวงหนี้ จนทำให้ได้รู้จักกับอันธพาลรุ่นน้องสุดห้าว “ธง” (รับบทโดย สาครินทร์ สุธรรมสมัย) และ “เปี๊ยก” (รับบทโดย กฤษฎา สุภาพพร้อม) ที่ยกให้ทั้งคู่เป็นฮีโร่รุ่นพี่นักเลงในดวงใจ และฝันไว้สักวันจะต้องเป็นอันธพาลที่มีชื่อเสียงเหมือน แดง กับ จ๊อดให้ได้ แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อจ๊อดเริ่มเข้าใจและรู้ซึ้งถึงความหมายของวงการนักเลงอันธพาลอย่างถ่องแท้ การใช้กำลังไม่ใช่หนทางที่ทำให้ผู้คนนับถือ ทัศนคติและมุมมองที่ต่างกันของคน 2 วัย กลับเป็นกระจกสะท้อนของกันและกันให้ได้เรียนรู้ถึง "ชีวิตที่ผ่านพ้น" กับ “ชีวิตที่กำลังจะเติบโต" ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงและขัดแย้งที่เกิดขึ้น ชะตากรรมของพวกเขาจะเป็นอย่างไร เมื่อพวกเขาเลือกเดินบนเส้นทางที่เรียกว่า “อันธพาล”

ก้องเกียรติ โขมศิริ (โขม) เกิดเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2518 เป็นผู้กำกับ นักเขียนบท และในบางครั้งยังเป็นนักแสดง สำเร็จการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ทำงานเบื้องหลังวงการภาพยนตร์ โดยเป็นคนเขียนบทภาพยนตร์เรื่องต่างๆ เช่น บางระจัน , ขุนแผน , 7 ประจัญบาน ภาค 1 และ 2 , ขุนศึก , คนเล่นของ ยังร่วมกำกับและเขียนบท องค์บาก อีกด้วย จนสร้างชื่อกับการเป้นทีมกำกับและเขียนบทใน ลองของ

เคยได้รับรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 19 สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง เฉือน

ภาพยนตร์ที่กำกับเอง ลองของ (2548) ไชยา (2550) เฉือน (2552) หลุดสี่หลุด (2554) ตอน “ร้านของขวัญเพื่อคนที่คุณเกลียด” (2554) อันธพาล (2555)

เขียนบทภาพยนตร์ให้กับ ชุมเสือ แดนสิงห์ ตอน กระตุกติ่งเจ้าพ่อ (2543) บางระจัน (2543) 7 ประจัญบาน ภาค 1 (2544) แรกบิน (2545) ขุนแผน (2545) องค์บาก (2546) ขุนศึก (2546) คนเล่นของ (2547) 7 ประจันบาน 2 (2548) ลองของ (2548) รักจัง (2549) เปนชู้ กับผี (2549) ไชยา (2550) รักสยามเท่าฟ้า (2551) ลองของ 2 (2551) Coming Soon (2551)

Goodfellas คนดีเหยียบฟ้า

หนังปี 1990 เรื่องนี้สร้างมาจากหนังสือชื่อว่า Wiseguy ของนิโคลัส พิเลคจี ซึ่งสกอร์เซซีได้อ่านต้นฉบับก่อนที่จะได้รับการตีพิมพ์แล้วเขาก็ตัดสินใจท่จะทำหนังเรื่องนี้ทันทีโดยเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “Goodfellas” ผลงานของสกอร์เซซีเรื่องนี้เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวจริงของ “เฮนรี ฮิลส์” มาเฟียชื่อดังของกรุงนิวยอร์ก หลังจากที่เฝ้ามองเพื่อนบ้านและเห็นชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของการเป็นมาเฟีย เฮนรีก็ต้องการที่จะเข้าร่วมและมีชีวิตแบบนั้น เขากล่าวว่า “ตั้งแต่ที่ผมจำความได้ ผมก็อยากจะเป็นแก๊งค์สเตอร์อยู่เสมอ” เขาเริ่มไต่เต้าในตำแหน่งระดับล่างจนก้าวมาเป็นที่ยอมรับในองค์กรอาชญากรรม แม้สุดท้ายแล้วเขาจะถูกจับได้ แต่ก็ถูกกันตัวไว้ในฐานะพยานซึ่งทำให้เขารอดจากการติดคุก เรย์ ลีออตต้า คือผู้ที่มารับบทเป็น เฮนรี่ ฮิลส์ ผู้ซึ่งอยากจะมีชีวิตที่ดี แต่เลือกเส้นทางเดินที่ผิดให้ตัวเอง ร่วมด้วยนักแสดงคุณภาพเกรดเอ อย่างโรเบิร์ต เดอนีโร มาแสดงเป็น จิมมี คอนเวย์ ชายผู้ได้รับการยอมรับนับถือในแก๊งค์ และโจ เพสซี มาเล่นเป็น ทอมมี เดอ วิโต้ คนที่ทำให้ผู้ชมหัวเราะในนาทีก่อนหน้านี้ และมาสะเทือนใจได้ในนาทีต่อมา ซึ่งจากการแสดงที่ยอดเยี่ยมนี้เอง ทำให้โจ เพสซี คว้ารางวัลออสการ์ในสาขาผู้แสดงสมทบฝ่ายชายยอดเยี่ยมมาครองได้ในปี 1991 ด้วยภาษา และภาพของความรุนแรงที่มีปรากฏให้เห็นอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ทำให้ทางวอร์เนอร์ บราเธ่อร์ สตูดิโอผู้สร้างค่อนข้างที่จะกลัวว่าหนังจะไม่ประสบความสำเร็จ อีกทั้งในรอบปฐมทัศน์ก็มีผู้ตอบรับมาร่วมชมน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของสตูดิโอ ซึ่ง มาร์ติน สกอร์เซซี เคยกล่าวไว้ว่า “คนยิ่งน้อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งสนุกเท่านั้น” และจากความที่เขาไม่กลัวกับเรื่องกระแส และรายได้ของหนัง สกอร์เซซีก็เลยส่ง Goodfellas ฉบับ Directors Original Cut ออกฉาย ซึ่งนักวิจารณ์ก็ต่างพากันส่งเสียงชื่นชม และยกย่องให้ Goodfellas เป็นหนึ่งในหนังแก๊งสเตอร์ ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเรื่องหนึ่งเทียบเคียงกับ Public Enemy และ The Godfather ฉากที่กล้องถ่ายไปรอบๆ ใน Copacabana Nightclub โดยมีเสียงของเรย์ ลีออตต้า อธิบายเรื่องราวของสมาชิกแต่ละคนในแก๊งค์นั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นการถ่ายทำช็อตที่ดีที่สุดตลอดกาล อีกช็อตหนึ่ง

ตลอดความยาวกว่า 2ชั่วโมงครึ่ง สกอร์เซซีได้ตีแผ่ชีวิตและการถ่ายทำงานของเหล่าอาชญากรได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งเรื่อง ผู้ชมจะได้เห็นภาพของผู้คนที่ถูกฆ่าในหลายสาเหตุ บ้างก็เป็นศัตรูของเหล่ามาเฟียโดยตรง บ้างก็เป็นคนบริสุทธิ์ที่เข้ามาอยู่ผิดที่ผิดเวลา และบ้างก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการต่อรองเพื่อผลประโยชน์ ตัวหนังได้ตีแผ่ ให้เห็นชีวิตของมาเฟียในแต่ละวัน วิถีทางที่จะนำพาตนเองให้ขึ้นสู่ความยิ่งใหญ่ การแก่งแย่งชิงอำนาจ การหลงใหลในอำนาจนั้น จนไม่ยอมให้ใครเข้ามาขวางทาง แม้ว่าตัวของเฮนรี ฮิลส์อาจจะโล่งใจและรู้สึกโชคดีที่มีชีวิตรอดมาจากการใช้ชีวิตอย่างอาชญากรได้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้สึกผิดในสิ่งที่เขาทำลงไป ซึ่งต่อให้ย้อนเวลากลับไปใหม่ได้ เฮนรี่ ฮิลส์ก็จะยังคงเข้าเป็นส่วนหนึ่งของแก๊งสเตอร์อยู่ดี เพราะเขาบอกว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นและทำในสิ่งนี้จริงๆ เท่านั้น

ประวัติชีวิตและผลงานของผู้กำกับ link 
http://en.wikipedia.org/wiki/Martin_Scorsese

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น