นิโคลเข้าสู่วงการบันเทิงตอนอายุ 14-15 ปี โดยเริ่มจากงานถ่ายแบบเสื้อผ้าวัยรุ่น ลงในนิตยสารเธอกับฉัน วัยหวาน วัยน่ารัก แพรวสุดสัปดาห์ และงานโฆษณาสินค้าอีกมากมาย ด้านการร้องเพลง นิโคลเริ่มประกวดร้องเพลงในโครงการของ สตาร์เซิร์ช ในปี พ.ศ. 2539 และได้ออกอัลบั้มแรกในปี พ.ศ. 2541 นิโคล ยังมีผลงานการแสดงที่ผ่านมา ทั้งละครทีวี (รัน! รักอันตราย) ละครเวที (อโรคา จอมยากับยาใจ) และภาพยนตร์ (คืนไร้เงา ONE NIGHT HUSBAND) เคยผ่านชีวิตสมรสกับแมว-จีระศักดิ์ ปานพุ่ม ศิลปินชาวไทยในสังกัดเดียวกัน มีบุตรด้วยกัน 1 คน ชื่อ อชิระ ปานพุ่ม หรือ ทิกเกอร์ ปัจจุบันได้เลิกรากันไปแล้ว
ผลงานเพลงอัลบั้ม กะ-โป-โล-คลับ (2541) ,บุษบาหน้าเป็น (2542) , พันธุ์ดุ (2544) ,หัวใจเดินทาง (2546)
อัลบั้มรวมเพลงฮิต The Best Selected (2545)
อัลบั้มพิเศษของตนเอง
• 2542 - อัลบั้ม บุษบาหน้าเป็น Acoustic Version
• 2543 - อัลบั้ม Another Part Of Me (อัลบั้มภาษาอังกฤษ)
• 2544 - อัลบั้ม Playtime Vol.1 (อัลบั้มภาษาอังกฤษ และไทย)
• 2544 - อัลบั้ม Playtime Vol.2 (อัลบั้มภาษาอังกฤษ และไทย)
• 2545 - อัลบั้ม Two Faces Of Love (อัลบั้มนำเพลงเก่ายอดนิยมจากศิลปินอื่นมาร้องใหม่)
• 2550 - อัลบั้ม Beautiful Life (อัลบั้มนำเพลงเก่ายอดนิยมจากศิลปินอื่นมาร้องใหม่)
อัลบั้มพิเศษร่วมกับศิลปินอื่น
• 2543 - อัลบั้ม Seven
• 2544 - อัลบั้ม Merry Christmas (อัลบั้มภาษาอังกฤษ)
นัท มีเรีย เบนเนเดดตี้ (Myria Benedetti) เกิดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 บิดาเป็นชาวสวิส-อิตาลี มารดาเป็นชาวไทย จบการศึกษา ระดับปริญญาตรี จากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (วิชาเอกประชาสัมพันธ์ วิชาโทวิทยุและโทรทัศน์) นัท มีเรีย เดิมไม่มีชื่อเล่น เริ่มมีชื่อ "นัท" เมื่อเข้าสู่วงการบันเทิงแล้ว โดยใช้ชื่อในวงการแสดงว่า "นัท เบนเนเดตตี้" ต่อมาเป็น "นัท มีเรีย" จนถึงทุกวันนี้ นัท มีเรีย เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงเมื่อปี 2531 จากการถ่ายโฆษณา แคร์ลีน โลชั่น ขณะนั้นมีอายุเพียง 13 ปี ได้ค่าตัวก้อนแรกจากการถ่ายโฆษณาดังกล่าวเป็นจำนวน 15,000 บาท และจากนั้น นัท มีเรีย ก็มีผลงานด้านการถ่ายแบบนิตยสารมากมายหลายเล่ม อาทิเช่น นิตยสาร วัยน่ารักจนกระทั่งปี 2533 นัท มีเรีย ได้รับโอกาสจากบริษัท ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ให้แสดงเป็นนางเอกภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต คือ ฉลุย โครงการ 2 คู่กับสุรศักดิ์ วงษ์ไทย พระเอกชื่อดังในยุคนั้น ทำให้ชื่อของ นัท มีเรีย เป็นที่รู้จักของประชาชน จึงทำให้เธอมีผลงานด้านภาพยนตร์ออกมาอีกหลายเรื่อง อาทิ นัดกับผีตอน 4 ทุ่ม, ป้อสำหรับบางวัน, สมองกลอัจฉริยะ แต่ภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับ นัท มีเรีย อย่างถล่มทลาย นั่นคือ เร็วกว่าใจ... ไกลเกินฝัน คู่กับ เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล ซึ่งทำให้นัท มีเรีย ได้รับรางวัลตุ๊กตาเงินสาขานักแสดงดาวรุ่งหญิง ในปี 2536 ในปี 2537 นัท มีเรีย เป็น 1 ใน 4 นักแสดงวัยรุ่น ที่ได้แสดงละครเรื่อง น้ำใสใจจริง ซึ่งเป็นการรวมตัวของนักแสดงวัยรุ่นชื่อดังแห่งยุค ได้แก่ ศรราม เทพพิทักษ์ สมชาย เข็มกลัด แคทรียา อิงลิช และ นัท มีเรีย ซึ่งนัท มีเรีย รับบทบาท อ้อมพร สาวห้าวทอมบอย ที่โดนใจวัยรุ่นทั้งประเทศ และละครเรื่องดังกล่าวทำให้ นัท มีเรีย ได้รับรางวัลเมขลา สาขานักแสดงดาวรุ่งหญิง อีกด้วย ในปีเดียวกัน นัท มีเรีย ได้เริ่มต้นร่วมงานกับค่าย แกรมมี่ จากการเป็นนางเอก mv เพลง เหนื่อยไหม ของซุปเปอร์สตาร์อันดับ 1 ของเมืองไทย ธงไชย แมคอินไตย์ และได้ร่วมงานกันอีกครั้งในคอนเสิร์ต แบบ เบิร์ด เบิร์ด ตอน อยากเห็นท้องฟ้า..เป็นอย่างในฝัน หลังจากคอนเสิร์ตครั้งนั้น ทำให้นัท มีเรีย ได้รับการชักจูงจากเรวัต พุทธินันทน์ ให้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินของค่ายแกรมมี่ ต่อมาในปี 2538 นัท มีเรีย ได้แสดงละครเรื่อง คือหัตถาครองพิภพ ซึ่งรับบทเป็น พริ้มเพรา และละครเรื่องดังกล่าวทำให้ นัท มีเรีย ได้ทำหน้าที่ในฐานะนักร้องอีกด้วย จากเพลง ด้วยมือของเธอ ซึ่งเพลงนี้ได้รับความนิยมมากพอสมควร และถือเป็นการชิมลางก่อนที่ นัท มีเรีย จะได้ออกอัลบั้มกับค่าย แกรมมี่ ในปี 2539 อัลบั้ม 6.2.12 ออกวางจำหน่าย ซึ่งเป็นการรวมตัวของศิลปินแนว Pop Dance ชื่อดังของค่ายแกรมมี่ ได้แก่ คริสติน่า อากีล่าร์,มอส ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ ,เจ เจตริน วรรธนะสิน ,อมิตา ทาทา ยัง ยูเอชที และอัลบั้มนี้ยังถือเป็นการแจ้งเกิดให้กับ นัท มีเรีย ในฐานะนักร้องได้อย่างสวยงาม อัลบั้มนี้ทำยอดขายได้กว่า 2 ล้านชุด ภายในเวลาอันสั้น และ 1 เดือนถัดมาหลังจากที่อัลบั้ม 6.2.12 ออกวางจำหน่าย อัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของ นัท มีเรีย ในชื่อชุด NAT MYRIA BENEDETTI ในแนวเพลง อาร์แอนด์บี ก็ได้ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ซึ่งถือเป็นวันคล้ายวันเกิดของเธอด้วย และอัลบั้มชุดนี้ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ด้วยยอดขาย 1.5 ล้านชุด และทำให้ นัท มีเรีย ได้รับฉายาจากแฟนเพลงว่า นักร้องสาวเอื้อนเสน่ห์ อัลบั้มชุดดังกล่าวมีเรวัต พุทธินันทน์ เป็นผู้วางแนวเพลงของอัลบั้มทั้งหมด โดยมี ชุมพล สุปัญโญ เป็นโปรดิวเซอร์ เพลงในอัลบั้มชุดนี้ล้วนเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมทั้งสิ้น อาทิ อย่าทำ อย่าทำ, ขอโทษที่กวนใจเธอ, ฟ้ากับตะวัน, คนเพียงคนเดียว, ทุกที่มีแต่เธอ เป็นต้น ในปี 2541 นัท มีเรีย ได้ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดที่ 2 ชื่ออัลบั้ม Sugar Free ในแนวเพลง Pop Dance และเป็นอีกครั้งที่อัลบั้มเดี่ยวของเธอ สามารถสร้างสถิติด้วยยอดขาย 1 ล้านชุด อีกครั้ง ซึ่งถือเป็นศิลปินหญิงคนที่ 2 ที่สามารถทำยอดขายทะลุล้าน 2 อัลบั้มติดกัน ต่อจากคริสติน่า อากีล่าร์ หลังจากนั้นก็ทำให้นัท มีเรีย มีผลงานออกสู่สายตาประชาชนอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ทั้งผลงานเพลงอัลบั้มเดี่ยว อัลบั้มรวมศิลปิน ผลงานละคร +เพลงประกอบละคร คอนเสิร์ต ผลงานถ่ายแบบนิตยสาร พรีเซ็นเตอร์โฆษณา ฯลฯ และล่าสุดกับผลงานละครเวทีมิวสิคัล ที่ นัท มีเรีย ทำมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เธอได้รับฉายา จากสื่อมวลชน และแฟนละครเวที ว่า เจ้าแม่ละครเวที จึงถือได้ว่า นัท มีเรีย คือบุคคลผู้ที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่งในทุกๆสาขาของวงการบันเทิงไทย
ผลงานเพลงอัลบั้ม Nat Myria Benedetti (2539) , Sugar Free (2541) , Freshy Myria (2542) , Colorful (2543) , Unreleased (2544) , Emotion (2545) , Life & Love (2549) , Chill Time (2549) , Get up Beautiful (2551)
อัลบั้มรวมเพลงฮิต
พ.ศ. 2544 The Very Best Of นัท มีเรีย , พ.ศ. 2551 The Long Play Collection (อัลบั้ม นัท มีเรัย เบนเนเดดตี้) ,พ.ศ. 2551 The Long Play Collection (อัลบั้ม 6.2.12) ,พ.ศ. 2551 The Emotion Nat & Marsha (รวมเพลงฮิตกับ มาช่า วัฒนพานิช) ,พ.ศ. 2553 FOREVER LOVE HITS By NAT MYRIA
อัลบั้มพิเศษร่วมกับศิลปินอื่นๆ พ.ศ. 2539 6.2.12 ร่วมกับ คริสติน่า อากีล่าร์ ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ เจตริน วรรธนะสิน ทาทา ยัง ยูเอชที , พ.ศ. 2540 มินิอัลบั้ม "แฮปปี้เบิร์ทเดย์" ,พ.ศ. 2543 Seven ร่วมกับ เสาวลักษณ์ ลีละบุตร ใหม่ เจริญปุระ มาช่า วัฒนพานิช นิโคล เทริโอ หฤทัย ม่วงบุญศรี ภัครมัย โปตระนันท์ , พ.ศ. 2545 We Love Carpenter ร่วมกับ ปนัดดา เรืองวุฒิ นิโคล เทริโอ เสาวนิตย์ นวพันธ์ อรรถวดี จิรมณีกุล , พ.ศ. 2546 Grand Soundtrack ร่วมกับ ภัครมัย โปตระนันท์ หฤทัย ม่วงบุญศรี จิตภัทร พุ่มหิรัญ อรรถพร ธีมากร
นิว-จิ๋ว
ปิยนุช เสือจงพรู หรือ จิ๋ว เดอะสตาร์ เกิดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2525 โดยมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับตำแหน่งอันดับ 2 ในรายการ "เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ปีที่ 1" สำเร็จการศึกษาจากคณะมนุษยศาสตร์ สาขาดุริยศิลป์ มหาวิทยาลัยพายัพ เชียงใหม่ เป็นนักร้องเพลงป็อป/อาร์แอนด์บี ในสังกัดของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ คู่กับ นิว เดอะสตาร์
ซึ่งในขณะที่กำลังศึกษาอยู่นั้น ทั้งคู่ได้ทำงานไปด้วย คือเป็นนักร้องในผับชื่อ The Cottage โดยวันหนึ่งนิวได้เห็นประกาศรับสมัครผู้เข้าประกวดร้องเพลง รายการ เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ครั้งที่ 1 นิวจึงตัดสินใจชวน จิ๋ว เดอะสตาร์ หรือ ปิยนุช เสือจงพรู จิ๋ว มาสมัครด้วย และนั่นก็เป็นก้าวแรกของทั้งสองคนในเวที เดอะสตาร์ ในการแสดงความสามารถในการร้องเพลง รวมทั้ง มิตรภาพแห่งเพื่อน ที่ทั้งสองมีต่อกัน
สำหรับนิว ตลอดการประกวดเธอมีเพลงที่นำมาขับร้องและได้รับการชื่นชมหลายเพลง อาทิ สักวันต้องได้ดี, คิดถึงเธอทุกที...ที่อยู่คนเดียว, สาวนาสั่งแฟน, ไม่ยอมหมดหวัง, Loving you และ ปล่อยใจฝัน ในขณะที่จิ๋ว มีเพลงที่เป็นที่จดจำในการประกวดเดอะสตาร์ ก็คือเพลง ทำไมต้องเธอ ที่นำเอาเพลงของพี่เบิร์ด ธงไชย มา cover ใหม่ เป็นการร้องในสไตล์อาร์แอนด์บี ในแบบของเธอ ซึ่งทำให้ชนะใจกรรมการทั้ง 3 ท่าน ทุกวันนี้ เพลงนี้ได้ถูกนำมาใช้ในการประกวดร้องเพลงต่างๆ มากมาย แต่ใช้สไตล์การร้องเป็นแบบของจิ๋ว
เพลงที่ทำให้ทั้ง 2 คนแจ้งเกิดได้ภายหลังจากจบการแข่งขันเดอะสตาร์ จนมาเป็นศิลปินแล้ว ก็คือ เพลง "คนเจ้าน้ำตา" ที่เขียนโดย พี่นิ่ม สีฟ้า เพลงนี้ส่งให้เธอทั้ง 2 คนโด่งดัง และได้รับการยอมรับให้เป็นศิลปินคู่ดูโอหญิงที่ดังที่สุดในเวลานั้น
ผลงานเพลง อัลบั้ม NJ Together (2548) , อัลบั้ม Next Step (2554)
อัลบั้มพิเศษที่ร่วมกับศิลปินอื่น
• อัลบั้ม The Star ค้นฟ้าคว้าดาว เพลง คืนนี้ไม่เหมือนคืนนั้น
• อัลบั้ม Your Star Your Songs เพลง ไว้ใจ๋ได้กา (Guest)
• อัลบั้ม ยินดีปีระกา (ลานนา คัมมินส์) เพลง ยินดีปีระกา (Guest)
• อัลบั้ม Life & Love (นัท มีเรีย) เพลง หลับไปกับฉัน ตื่นมากับฉัน (Featering)
• อัลบั้ม Life & Love (นัท มีเรีย) เพลง เหงาใจนะ (Featering)
• อัลบั้ม Koh Mr. Saxman - Sax is All Around เพลง ปาฏิหาริย์
• อัลบั้ม REMIND เพลง พูดลาสักคำ
• อัลบั้ม Simply Emotions เพลง It Must Have Been Love
• อัลบั้ม Down Town Story เพลง Down Town Story
• อัลบั้ม Down Town Story เพลง อดใจรอ
• อัลบั้ม Down Town Story เพลง เสียบางอย่างเพื่อได้บางอย่าง
• อัลบั้ม Down Town Story เพลง อ้วนจัง
• อัลบั้ม The Very Best of Cover Night Live & Easy เพลง ช่างไม่รู้เลย
• อัลบั้ม Hug
• อัลบั้ม Scent Of Harmony#1
• อัลบั้ม Re-feel by Narongvit เพลง รักยากลืมยาก
• อัลบั้ม Club Friday Based On True Story By เอิ้น พิยะดา เพลง หยุดบอกเลิกกันเสียที
ซิงเกิ้ลล่าสุด
• เพลง เก็บคำว่ารัก (ไว้ใช้ที่อื่น) อัลบั้ม FACE2FACE By New Jiew
• เพลง อย่าเอาความเหงามาลงที่ฉัน
• เพลง รอแล้วได้อะไร
• เพลง ตัวจริงไร้ตัวตน
• เพลงยิ่งลึกซึ้ง ยิ่งหวั่นไหว
• เพลง หยุดบอกเลิกกันเสียที
ร้องเพลงประกอบละคร
• เพลง มังกรเดียวดาย เพลงประกอบละคร มังกรเดียวดาย
• เพลง หนึ่งมิตรชิดใกล้ อัลบั้ม เพลงรัก...เพลงละคร
• เพลง ประตูใจ เพลงประกอบละคร สาวเต็มพิกัด
• เพลง เธอมาจากไหน อัลบั้ม เพลงประกอบละคร พริกหวานน้ำตาลเผ็ด
• เพลง คนเจ้าน้ำตา เพลงประกอบละคร เหมือนเราจะรักกันไม่ได้
• เพลง คิดถึงเขาทำไม เพลงประกอบละคร ฟ้า หิน ดิน ทราย
• เพลง คนไม่เข้าตา อัลบั้ม เพลงประกอบละคร เจ้าหญิงขอทาน
• เพลง ดาวกับตะวัน เพลงประกอบละคร อธิษฐานรัก
• เพลง ตราบสิ้นดินฟ้า เพลงประกอบละคร ตราบสิ้นดินฟ้า
• เพลง ไม่รู้ตัว เพลงประกอบละคร เปรี้ยวตลาดแตก
• เพลง ยิ่งลึกซึ้ง ยิ่งหวันไหว เพลงประกอบละคร เจ้าหญิงหลงยุค
• เพลง เกิดเป็นผู้หญิง เพลงประกอบละคร พิมมาลา
กัลยารัตน์ วารณะวัฒน์ หรือ พี่นิ่มสีฟ้า โปรดิวเซอร์ และนักแต่งเพลงระดับเทพคนนึงของตึกแกรมมี่ ที่มีผลงานโด่งดังมากมาย เพลงส่วนใหญ่ของพี่นิ่มสีฟ้า จะถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกที่อ่อนไหว โดยเฉพาะเพลงที่มีเนื้อหาที่เศร้า เรียกได้ว่าใครที่กำลังอยู่ภาวะเหงา ปวดร้าว เดียวดาย ถ้าได้ฟังเพลงของสีฟ้า จะยิ่งรู้สึกเศร้าลึกลงไปอีกหลายเท่า มีคนกล่าวไว้ว่า เพลงของสีฟ้า เป็นการทรมานคนฟังด้วยตัวหนังสือ ถ้าเพลงเศร้าคือหายนะ เพลงของสีฟ้า ก็คือหายนะที่งดงามที่สุด พี่นิ่มเคยเป็นสมาชิกในกลุ่มนักดนตรีที่เรียกชื่อว่า บัตเตอร์ฟลาย เคยร่วมงานกับ อ.ดนู ฮันตระกูล ,อ.จิรพรรณ อังศวานนท์ ,อ.อรรณพ จันสุตะ และสถาบันดนตรีศศิลิยะ อีกทั้งพี่นิ่ม ยังเคยเป็นคอรัส ให้กับพี่ป้อมพี่โต๊ะ (อัสนี-วสันต์) ในคอนเสิร์ตใหญ่ๆ แทบจะทุกคอนเสิร์ต ร่วมกับ พี่บี๋ (คณาคำ อภิรดี) ในยุคอัลบั้มแรกๆ ของพี่ป้อมพี่โต๊ะอีกด้วย
ปัจจุบันพี่นิ่มสีฟ้า ได้ลาออกจากเครือจีเอ็มเอ็มแกรมมี่แล้ว ไปอยู่ค่ายบีบีเรคคอร์ด ของแก้ว เบญจา ส่วนสาเหตุการลาออก คงเป็นการจากกันด้วยดีเหมือนดี้ นิติพงษ์ (อากู๋ ไพบูลย์บอกว่าพี่นิ่มอายุงานเกษียณแล้ว และต้องการไปหาความท้าทายใหม่ๆ จากที่อื่นบ้าง)
ผลงานการแต่งเพลง
• หมอกหรือควัน - เงียบๆคนเดียว - เสียดาย - จะได้ไม่ลืมกัน - ธงไชย แมคอินไตย์ (เพลงประกอบภาพยนตร์ความจำสั้น แต่รักฉันยาว) อยู่เพื่อใคร - ธงไชย แมคอินไตย์ (เพลงประกอบละครคู่กรรม) เธอคนเดียว - ธงไชย แมคอินไตย์ (เพลงประกอบภาพยนตร์คู่กรรม)
• คึดถึงเธอทุกที ที่อยู่คนเดียว - แบ่งเธอ แบ่งใจ - ยิ่งใกล้ ยิ่งไกล - ไม่เกี่ยวกับเธอ - เจนนิเฟอร์ คิ้ม
• รักเธอที่สุด - เปล่าหรอกนะ - ฝากความยินดี - เวลา..ไม่ช่วยอะไร - ไม่ต้องขอบใจ - อุ่นใจ - ผิดด้วยหรือ - คริสติน่า อากีล่าร์
• ไม่อยากให้เธอรู้ - เสียใจได้ยินไหม - เธอรู้หรือเปล่า - อยากให้รู้ว่ารักเธอ - เก็บไว้ฝัน วันที่ไม่มีเธอ - คนเดียวในหัวใจ - สัญญา - ใหม่ เจริญปุระ
• จากเพื่อนคนหนึ่ง - คนเพียงคนเดียว - ขอฉันฝัน - ผิดหรือเปล่า - เกมของผู้แพ้ - นัท มีเรีย
• คนเจ้าน้ำตา - ดาวกับตะวัน - นภัสสร ภูธรใจ & ปิยนุช เสือจงพรู (เพลงประกอบละครอธิษฐานรัก)
• หยุดไม่ได้...ขาดใจ - ของที่เธอไม่รัก - แทงข้างหลัง ทะลุถึงหัวใจ - จุดอ่อนของฉันอยู่ที่หัวใจ - (เพลงประกอบละครสวรรค์เบี่ยง) ผู้ชายคนนี้กำลังหมดแรง -
• อยากให้รู้...รักไม่มีวันเลี่ยน - (เพลงประกอบภาพยนตร์เการักที่เกาหลี ซอร์รี ซารังเฮโย)ฝุ่นละออง - เวลาคือของขวัญที่ดีที่สุด - ปองศักดิ์ รัตนพงษ์
• ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ - เสาวลักษณ์ ลีละบุตร
• ฉันกับเขาและคืนนี้ -ใหม่ เจริญปุระ & คริสติน่า อากีล่าร์
• ขอเป็นคนหนึ่ง - นันทิดา แก้วบัวสาย - ไม่มีใคร - รักเธอเหลือเกิน - นันทิดา แก้วบัวสาย
• ขาดเธอ - อุ๊ หฤทัย ม่วงบุญศรี
• ใบไม้ - ไม่เหลืออะไรเลย - (เพลงประกอบละครตลาดอารมณ์) มหันตภัย - แก้ม เดอะสตาร์
• คนของเธอ - พลพล
• อยากหยุดเวลา - เคว้งคว้าง - ศรัณย่า ส่งเสริมสวัสดิ์
• เจ้าหมาดำกับคุณยาย - แอม เสาวลักษณ์
• ฉันทำผิดเอง - แพท สุธาสินี (เพลงประกอบละครเวทีบัลลังก์เมฆ เดอะมิวสิคัล)
• ไว้ใจ - นึกหรือว่าไม่รู้ - อำพล ลำพูน
• สั่งสอน - เป๊ก ผลิตโชค
• ความฝัน ขอบฟ้า และพายุ - แอม เสาวลักษณ์ & อุ๊ หฤทัย ม่วงบุญศรี
• ไม่มีอีกแล้ว - เสียใจ - โบ สุนิตา
• คนธรรมดา - ชิน ชินวุฒิ (เพลงประกอบละครสูตรเสน่หา) คนรู้ใจ - เติมไม่เคยเต็ม - ชิน ชินวุฒิ
• ยิ่งรักยิ่งเจ็บ - กอล์ฟ-ไมค์ (เพลงประกอบละครอุบัติรักข้ามขอบฟ้า)
• กุมภาพันธ์ - ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล (เพลงประกอบภาพยนตร์กุมภาพันธ์)
• แค่ได้คิดถึง - ญารินดา บุนนาค
• บอกได้ไหม - ไอซ์ ศรัณยู
• รักเธอที่สุด - มิ้นท์ อรรถวดี
• ชาวนากับงูเห่า - ฟลาย
• คนที่ไว้ใจร้ายที่สุด - คือเธอ - (เพลงประกอบละครเพียงใจที่ผูกพัน)รักแท้แพ้ทุกอย่าง - น้ำชา ชีรณัฐ (เพลงประกอบละครพิมมาลา)
• คงเดิม - เอิร์น จิตรภัทร พุ่มหิรัญ
• ตั้งแต่วันนั้น - ละมุน
• ผิดไหม - น้ำตาคือคำตอบ - ฟาเรนไฮธ์
• ไม่แน่ใจ - นิโคล เทริโอ
• ฟ้ายังมีฝน - แหวน ฐิติมา
• ใจของฉันเป็นของเธอ - (เพลงประกอบละครใจร้าว) - ระยะสุดท้าย - บอย พีซเมคเกอร์
• กว่าจะรัก - XYZ
ฯลฯ
นัดดา วิยกาญจน์ เป็นนักร้องหญิงชาวไทย ประกอบอาชีพในแวดวงดนตรีมานานหลายสิบปี เคยสร้างชื่อเสียงระดับโลกจากการประกวดเพลงนานาชาติที่ประเทศญี่ปุ่น และเป็นศิลปินไทยคนแรกที่ได้รับการทาบทามให้เซ็นสัญญาเข้าสังกัดค่าย CBS ประเทศอังกฤษ นัดดา มีชื่อเล่นว่า "ตุ๋ม" จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนสายปัญญา และศึกษาต่อที่บพิตรพิมุข จากนั้นได้เข้าทำงานเป็นแอร์โฮสเตส และไปใช้ชีวิตในต่างแดนเป็นเวลา 8 ปี โดยศึกษาต่อด้านเลขานุการที่ประเทศแคนาดา และด้านภาษาที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งการได้ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ ต้องช่วยเหลือตัวเองและทำงานส่งตัวเองเรียนหนังสือ เมื่อกลับมาถึงประเทศไทยก็ได้สมัครเข้าทำงานด้านเลขานุการแต่ไม่เป็นผลสำเร็จ จึงหันมาเป็นนักร้องอาชีพ โดยเริ่มเป็นนักร้องนำวง "Evergreen" เล่นที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ นัดดา เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากขึ้น จากการขับร้องเพลง "Happiness" แต่งทำนองโดย อินทุอร ศรีกรานนท์ บุตรสาวของอาจารย์ แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ และประพันธ์คำร้องโดย บาทหลวงเซฟเฟอริโน โดยเข้าประกวดรายการ "Siam Popular Song Festival ’ 81" ของสยามกลการมิวสิกฟาวเดชั่น ในปี พ.ศ. 2524 ได้รางวัล Best Song Award จากนั้นได้นำเพลงนี้เข้าประกวดบนเวทีระดับโลก ในงาน "World Popular Song Festival # 12" ณ บูโดกัน ฮอลล์ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยมีเพลงส่งเข้าประกวดทั้งหมด 1,963 เพลง จาก 56 ประเทศ ผลปรากฏว่าเพลง Happiness ได้รับรางวัล The Best Song Award from the World Popular Song Festival ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก ในปี พ.ศ. 2525 นัดดาได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวแทนศิลปินประเทศไทย เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และทักษะทางด้านดนตรี ในงาน "ASEAN ARTISTS EXCHANGE FESTIVAL" ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และเริ่มมีคอนเสิร์ตของตนเองที่สถาบันสอนภาษาอังกฤษ เอยูเอ ในวันที่ 4 และ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2526 ซึ่งประสพความสำเร็จอย่างงดงาม จนก้าวขึ้นมาเป็นนักร้องหญิงคุณภาพระดับแถวหน้าคนหนึ่งของประเทศไทย
นัดดาเริ่มมีอัลบั้มเพลงชุดแรก คือ "มายาชีวิต" ในปี พ.ศ. 2526 กับค่ายอโซน่า โดยยังได้รับเชิญให้ไปแสดงผลงานเพลงของตนบนเรือเดินสมุทรรอบโลกที่ใหญ่ที่สุดในโลก "Queen Elizabeth II" อีกด้วย และเป็นตัวแทนประเทศไทยปรากฏตัวร้องเพลงอีกหลายงานในต่างประเทศเรื่อยมา พร้อมกับมีอัลบั้มเพลงอีกหลายชุด รวมถึงอัลบั้มเพลงแนวแจ๊สแบบไทยประยุกต์ซึ่งสร้างปรากฏการณ์อยู่ระยะหนึ่ง มีเพลงที่รู้จัก ได้แก่ เสน่หา, ม่านบังตา, มารยา, สิ้นแสงตะวัน, ลมหวล, ฉันไม่แคร์, มีดอกไม้มาฝาก ฯลฯในปี พ.ศ. 2533 นัดดาเป็นศิลปินหญิงไทยคนแรกที่เดินทางไปบันทึกเสียงที่ประเทศอังกฤษ โดยออกอัลบั้มเพลงสากล "World of your own" โดยใช้ทีมงานส่วนใหญ่จากอังกฤษ จนได้รับการทาบทามให้เซ็นสัญญาเข้าสังกัด CBS ประเทศอังกฤษ เป็นเวลา 5 ปี นัดดามีความสามารถทั้งการร้องเพลง และการแสดงอีกด้วย ผลงานที่เคยแสดง เช่น ละครโทรทัศน์เรื่อง น้ำผึ้งขม (2529), นิรมิต(2540), กุหลาบสีดำ (2548) และละครเวทีเรื่อง ผู้แพ้ ผู้ชนะ (2531) ที่โรงแรมมณเฑียร เป็นต้น
ชีวิตครอบครัว นัดดามีบุตรสาวคนเดียว คือ กรนันท์ อิงคะกุล(แมจิก) ซึ่งเกิดกับ อัศวิน อิงคะกุล เจ้าของโรงแรม มิราเคิล แกรนด์ และโรงแรมหลุยส์แทเวิร์น ด้านธุรกิจส่วนตัว นัดดาเป็นเจ้าของสถาบันสอนร้องเพลง N Chanting Spa Music ในปี ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) เธอมีอัลบั้มเป็นของตนเองชุดแรก ชื่อชุด “มายาชีวิต” และในปีเดียวกันนี้เอง เธอก็ได้รับการคัดเลือกร่วมกับศิลปินอีกท่าน คือ คุณ เรวัต พุทธินันท์ ให้เป็นตัวแทนของประเทศไทยเข้าร่วมงาน ASEAN ARTISTS EXCHANGE อีกครั้งที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ในปี ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) นัดดา ได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยร่วมงาน ASEAN FILM FESTIVAL ณ ประเทศ สิงคโปร์ ซึ่งผู้ร่วมเดินทางในขณะนั้นก็คือ คุณ สินจัย หงษ์ไทย และคุณ วจี อรรถไกวัลวที ดาราที่มีชื่อเสียง ในปัจจุบันนี้ ในปีเดียวกัน ถือเป็นอีกโอกาสพิเศษสุดในชีวิตของเธอและเป็นศิลปินเพลงหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับเชิญให้ไปแสดงผลงานเพลงของเธอบนเรือ Queen Elizabeth II ซึ่งเป็นเรื่อเดินสมุทรรอบโลกที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเธอได้แสดงบนเรื่อลำนี้ถึง 2 ปีซ้อน ในปี ค.ศ. 1985 เธอได้แสดงละครเรื่อง “น้ำผึ้งขม” ร่วมกับ นิรุตติ์ ศิริจรรยา และ มลฤดี ยมาภัย ของดาราวีดีโอ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก กระทั่งปลายปี ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) ได้เปิด EVITA COCKTAIL LOUNGE ที่โรงแรม อริสตั้น สุขุมวิท 24 ซึ่งเป็นกิจการของตนเอง มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จัก และเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของเธอกับเพลง “Don’t cry for me Argentina ” (EVITA) จากนั้นมา นัดดา วิยกาญจน์ ก็ได้รับการทาบทามจากองค์กรต่างๆ เพื่อไปปรากฏตัวในประเทศต่างๆ มากมายในฐานะของศิลปินตัวแทนจากประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น ประเทศฝรั่งเศส ฮ่องกง จนกระทั่งปี ค.ศ. 1987 เธออกอัลบั้มชุดที่ 5 ชื่อ “ร้อน” และในปีเดียวกันนี้เองเธอได้เป็นศิลปินรับเชิญให้กับ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมเปิดเส้นทางการบินเข้าประเทศปักกิ่งเที่ยวบินแรกในงาน “VISIT THAILAND YEAR” ซึ่งจัดขึ้นที่ ประเทศฮ่องกง ปี ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) นัดดา วิยกาญจน์ ได้รับเชิญ จาก ม.ล.พันเทวนพ เทวกุล ให้ร่วมแสดงละครเวที เรื่อง “ผู้แพ้ ผู้ชนะ” ที่ โรงแรมมณเฑียร โดยมี ลินดา ค้าธัญเจริญ ธิติมา สังขพิทักษ์ เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ ร่วมแสดงด้วย ในปีเดียวกัน บริษัท ไอทีซี (บริษัท International Talent Consultant) จากเมืองนอกมาติดต่อหานักร้องในเอเชียไปบันทึกเสียงที่ CBS ประเทศอังกฤษ โดยมาหยุดอยู่กับเธอที่ EVITA LOUNGE ปี ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) เธอเดินทางไปบันทึกเสียงที่ ประเทศอังกฤษ และในปี ค.ศ. 1990 ชื่อของ นัดดา วิยกาญจน์ ก็ได้รับการกล่าวขานถึงมากที่สุด เมื่อเธอเป็นศิลปินไทยคนแรกที่เดินทางไปบันทึกเสียง อัลบั้มชุดที่ 6 ซึ่งเป็นเพลงสากลทั้งหมดชื่อ “World of your own”ที่ประเทศอังกฤษ ทุกบทเพลงแต่งโดย Mr. Todd Talor ซึ่งเป็นนักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียงของเมืองผู้ดี นอกจากนั้นเธอยังเป็นศิลปินไทยคนแรก และคนเดียวที่ได้รับการทาบทามให้เซ็นสัญญาเข้าสังกัดค่าย CBS ของประเทศอังกฤษ เป็นเวลา 5 ปี ด้วยข้อตกลงที่ว่า เธอจะต้องเดินทางไปแสดงคอนเสิร์ตในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เป็นเวลา 18 เดือน ความฝันของเธอเป็นจริงแล้ว ด้วยความสามารถของเธอเองที่ชาวต่างชาติมองเห็น แต่แล้ว นัดดา วิยกาญจน์ เลือกที่จะเป็นศิลปินเพลงที่ให้ความสุขอยู่ในที่ๆ สร้างเธอขึ้นมานั่นก็คือประเทศไทย เสียงร้องเพลงอันเป็นพรสวรรค์ และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเธอ นัดดา วิยกาญจน์ ยังคงเจิดจรัสอยู่ในวงการเพลง ด้วยผลงาน 10 อัลบั้มของเธอ ได้รับการตอบรับจากผู้ที่รักการฟังเพลงตลอดมา ปัจจุบัน นัดดา วิยกาญจน์ เป็นเจ้าของ n Chanting Spa Music สตูดิโอในรูปแบบใหม่ ที่เธออยากให้ทุกคนที่มีจิตวิญญาณรักการร้องเพลงที่ถูกต้อง และมีคุณภาพ ได้มีโอกาสให้เวลาตัวเองที่จะปรนเปรอความปรารถนาที่จะได้ร้องเพลงด้วยความสุข ความสนุก และความมั่นใจ เพราะนั่นคือสิ่งที่เธอรัก และรอคอยเวลานี้มานานแล้ว สำหรับอิสรเสรีที่เธอจะได้ทำในสิ่งที่เธอฝันไว้ หลังจากที่ต้องเผชิญมรสุมชีวิตถึง 12 ปีเต็ม นับได้ว่านัดดา วิยกาญจน์ เป็นผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตสูง เพราะเธอมีพื้นฐานชีวิตมาจากเด็กผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่งที่มีใจรักการร้องเพลง และสามารถฝ่าฟันอุปสรรคบนเส้นทางการแข่งขันมาจนเป็นนักร้องคุณภาพระดับแถวหน้าในเมื่อไทยได้ในยุคที่วงการเพลงไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่เธอได้สร้างปรากฏการณ์ให้วงการเพลงต้องทึ่ง ในการออกอัลบั้มแนวแจ๊สแบบเพลงไทยประยุกต์ โดยเธอมีส่วนในการออกแบบแนวคิด การนำเสนอด้วยตนเอง ซึ่งนับว่ามีความล้ำหน้าในทางดนตรี และเสียงเพลงในสมัยนั้น เมื่อกว่ายี่สิบปีที่ผ่านมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น