ถ้าเป็นคนที่ไม่ได้สนใจติดตามดูละครไทยหรือติดตามชมภาพยนตร์ไทย รวมถึงไม่ชอบฟังเพลงไทยสากลซักเท่าไหร่ในช่วงระยะเวลา 5-6 ปีที่ผ่านมานี้ ก็จะกลายเป็นคนตกกระแส ไม่ทราบว่าวงการบันเทิงไทยได้ก้าวไกลไปถึงไหนกันแล้ว เรามักจะเคยชินกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ละครไทยว่าน้ำเน่าบ้าง ภาพยนตร์ไทยไม่พัฒนาบ้าง ยังคงวนเวียนอยู่กับ ผี ตลก กระเทยอย่างซ้ำซากบ้าง หรือแม้แต่เพลงไทยที่มักลอกทำนองเพลงต่างประเทศมาบ้าง การเข้ามาเจาะตลาดไทยของวัฒนธรรมบันเทิงจากเกาหลีบ้าง กลายเป็นคนไทยคลั่งไคล้กระแสเกาหลีฟีเวอร์จนเฝือกันไปหมด ในขณะที่วัยรุ่นไทยคลั่งกระแสเกาหลีฟีเวอร์ในช่วง 5-6 ปีมานี้ แต่ศิลปินไทยและผู้เกี่ยวข้องกับวงการละคร ภาพยนตร์ไทย และวงการเพลงไทยกลับได้นำวัฒนธรรมไทยไปบุกตลาดทั่วโลกและทั่วเอเซียได้สำเร็จ จนมีข่าวเป็นระลอกคลื่น เป็นระยะเกี่ยวกับผลงานของศิลปินไทยทั้งในส่วนที่ไปเกี่ยวกับละครไทย ภาพยนตร์ไทย หรือวงการเพลงไทยไปดังไกลทั้งในระดับโลกและในระดับเอเซียมากมาย
ยิ่งในช่วง 5-6 ปีมานี้ กระแส T-POP มาแล้ว และมาจริง มาไกล จนไปยึดหัวหาดในตลาดเอเซียได้สำเร็จ โดยเฉพาะในย่านอาเซี่ยนและประเทศใหญ่อย่างจีนแผ่นดินใหญ่ด้วย
ผู้เขียนเองก็ไม่ใช่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านละครไทย ภาพยนตร์ไทยหรือวงการเพลงไทยมากนัก แต่พอได้รับทราบข่าวคราวเกี่ยวกับความนิยมในผลงานบันเทิงไทยในหลายประเทศ จึงเข้าไปสืบค้น หาข่าว และพบว่า T-POP งวดนี้ของจริง จนรู้สึกได้ว่าชื่นชมในผู้ที่เกี่ยวข้องที่ไปสร้างชื่อเสียงให้คนไทย ทำให้ประเทศไทยมีชื่ออยู่ในทำเนียบกับเขาบ้าง และเราได้มาถูกทางแล้ว แม้ว่าสิ่งที่ออกไปเจาะตลาด สู้รบปรบมือกับต่างชาติในครั้งนี้ เป็นผลงานฝีมือของเอกชนล้วนๆ ไม่ได้มีส่วนจากภาครัฐเลยแม้แต่น้อย ผู้เขียนเองก็เคยคิด และใฝ่ฝันไว้ว่า เมื่อไหร่หนอ T-POP มันจะเป็นจริงได้ แล้ววันนั้นก็มาถึงจริงๆ ด้วย ไม่ต้องรอเหมือนกระแสฟุตบอลไทยไปบอลโลก ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องรออยู่ต่อไป
ถ้าจะจัดอันดับหมวดหมู่ของความบันเทิงจากไทยที่เข้าไปเจาะตลาดหรือส่งออกไปตีตลาดในระดับโลกและเอเซียได้อย่างเข้าเป้าและมีผลงานเป็นที่ยอมรับ จะได้แก่
1.ภาพยนตร์และละครไทย นักแสดงไทย อันนี้เป็นหัวหอกหลักและจัดเป็นการส่งออกทางวัฒนธรรมไทยอย่างได้ผลที่สุด และควรที่ภาครัฐจะให้การสนับสนุนส่งเสริมอย่างจริงจังมากกว่านี้ เหมือนที่ประเทศเกาหลี จีน อินเดีย ทำสำเร็จมาแล้ว ทำรายได้เข้าประเทศอย่างมากมาย รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวทางอ้อมด้วย กลุ่มของภาพยนตร์ไทยที่ไปบุกเบิกตลาดโลก กรุ๊ปแรกๆ ได้แก่ นางนาก ฟ้าทะลายโจร องค์บาก ต้มยำกุ้ง บางระจัน สตรีเหล็ก ชัตเตอร์ แฟนฉัน โดยแกนหลักคือ ค่ายหนังสหมงคลฟิมล์ และ GTH ส่วนละครไทย ก็มีค่ายละครเอ็กซ์แซ็กท์เป็นหัวหอกหลัก
2.เพลงและการแสดง อันนี้ก็เป็นหัวหอกในระดับรอง แต่ก็สร้างการยอมรับในระดับอาเซี่ยน ไม่ว่าจะเป็น ศิลปินนักร้อง วงดนตรีไทย การแสดงโขน การแสดงเชิดหุ่นละครโจ-หลุยส์ การแสดงวงดนตรีไทย เช่น วงฟองน้ำ วงบอยไทย เป็นต้น
3.แฟชั่น อาหาร ศิลปะ ในหมวดนี้ ถือได้ว่าประเทศไทยมี Identity ที่ชัดเจน ต่างชาติเขายอมรับยกย่องกันอยู่แล้ว มีคาแรกเตอร์ชัดเจน และได้รับการยกย่องในระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น ดีไซน์เนอร์ของไทย ช่างผมของไทย อาหารไทย (อันนี้ไม่ต้องพูดถึง ของเราเป็นเบอร์ 1 ของโลกด้านอาหารอยู่แล้ว) มวยไทย หรือกีฬาตะกร้อของไทย เป็นที่นิยมมากขึ้นในระดับโลก ชุดแต่งกายไทย มักได้รับรางวัลเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยมในเวทีประกวดนางงามจักรวาล เป็นต้น
และที่สำคัญที่สุดคือรอยยิ้มและมิตรภาพ ความมีน้ำใจ อันนี้แหละคือเอกลักษณ์ของคนไทยที่ได้รับการยอมรับจากชาวต่างชาติ
ศิลปินไทยที่ไปดังทั่วเอเซีย ได้แก่
กลุ่มนักแสดง
ช่อง 3 เคน ธีรเดช , แอน ทองประสม, อั้ม อธิชาติ ,แอ๊ฟ ทักษอร, ณเดชณ์ คูกิมิยะ ฯลฯ
ช่อง 5 มอส ปฏิภาณ , อ้อม พิยดา , ป้อง ณวัฒน์ , บี น้ำทิพย์ , บี้ สุกฤษณ์ , สน ยุกต์ , วิว วรรณรท ,โอ อนุชิต ,ฟลุ้คเดอะสตาร์ ฯลฯ
ช่อง 7 อั้ม พัชราภา , นุ่น วรนุช , แพนเค้ก เขมนิจ , ป๊อก ปิยธิดา , ยุ้ย จีรนันท์ , กบ สุวนันท์ ,น้องใบเฟิร์น ฯลฯ
นักแสดงในสังกัดอื่นๆ หรือมีผลงานทางภาพยนตร์ด้วย อาทิ มาริโอ้ เมาเร่อร์ , ติ๊ก เจษฏาภรณ์ , เป้ วงเสลอ , พีช วงออกัส ,เก้า จิรายุ , อนันดา เอเวอริ่งแฮม, โดม ปกรณ์ ลัม ,กันต์ กันตถาวร น้องทีน่า น้องออม จากเรื่อง yes or no ,เทย่า โรเจอร์ ,ซาร่า มาลากุล เลน ,อัษฏา พานิชกุล ฯลฯ
จาพนม ยีรัมย์ , จีจ้า ญานิน , พันนา ฤทธิไกร , หม่ำ จ๊กม๊ก ,โหน่ง สามช่า, เท่ง เถิดเทิง , ตุ๊กกี้ ฯลฯ
กลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังวงการภาพยนตร์ไทย (นำผลงานสู่ตลาดโลก)
เสี่ยเจียง, เจ้ยอภิชาติพงศ์ ,เป็นเอก รัตนเรือง, อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร, วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง, ท่านมุ้ย มจ.ชาตรี เฉลิมยุคล,หม่อมน้อย มล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล , จิระ มะลิกุล, ยงยุทธ ทองกองทุน ,พจน์ อานนท์ ,ณภัทร ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม ,ถกลเกียรติ วีรวรรณ, เอกชัย เอื้อครองธรรม
คุณวิชา/วิสูตร พูลวรลักษณ์ , ยุทธเลิศ สิปปภาค , จันทิมา เลียวศิริกุล, เกียรติกมล เอี่ยมพึ่งพร , ธวัชชัย พันธุ์ภักดี ,จาฤก กัลย์จาฤก ฯลฯ
ผู้เขียนคิดว่าสาเหตุที่ทำให้ละครไทยไปตีตลาดที่เมืองจีนได้สำเร็จ น่าจะเกิดจากผลพวงการเปิดประเทศของจีน เปิดรับวัฒนธรรมจากต่างแดน โดยเฉพาะอาเซี่ยน คือจีนมีความต้องการขยายตลาดการค้าและต้องการเข้ามาศึกษาวัฒนธรรมของชาติอาเซี่ยนอย่างลึกซึ้ง เพราะถือว่าเป็นบ้านใกล้เรือนเคียงและคู่ค้าสำคัญ ในขณะที่ญี่ปุ่นและเกาหลี อินเดีย จีนถือเป็นคู่แข่งมากกว่า และค่อนข้างจะแอนตี้ชาติญี่ปุ่นที่ถือว่าเคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อนในอดีต ส่วนเกาหลีนั้นวัฒนธรรมนั้นลอกเลียนทั้งจีนและญี่ปุ่นมา จีนจึงถือว่าชาติเกาหลีนั้นด้อยกว่า แม้ว่ากระแสเกาหลีจะฟีเวอร์ในระดับเอเซียก็ตาม ส่วนชาติในอาเซี่ยนที่จีนเล็งเป็นพิเศษก็คือไทยกับอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ แต่รากฐานทางวัฒนธรรมไทยนั้นแข็งแรงและใกล้เคียงกับจีนมากกว่า ส่วนอินโดนีเซียมีความเป็นมุสลิมอยู่สูง ซึ่งแตกต่างจากวัฒนธรรมจีน และเข้าถึงยาก ส่วนอินเดียนั้นเป็นคนละขั้วกับจีนชัดเจน และถือเป็นคู่แข่งในเกือบทุกด้าน มีรากฐานทางวัฒนธรรมแข็งแกร่งพอๆ กัน ยากที่จะเข้าครอบงำ
ดังนั้น การที่ละคร ภาพยนตร์ หรือศิลปินไทยจะไปดังในเมืองจีนบ้างนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะจีนเปิดทางให้เพื่อจะศึกษาวัฒนธรรมไทยให้ถ่องแท้ โดยมีการส่งคนมาเรียนภาษาไทยด้วย เพราะวัฒนธรรมไทยนั้นครอบงำชาติสำคัญในอินโดจีนเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลาว กัมพูชา พม่า เวียดนามไว้ได้ ไม่ได้หมายความว่าเราเจาะตลาดจีนได้สำเร็จแล้ว เราจะสามารถไปครอบงำชาติยิ่งใหญ่อย่างจีนได้ เป็นเพียงกระแสความนิยมช่วงสั้นๆ เท่านั้น ก่อนที่จีนจะตีโจทย์แตกและแก้เกม กลับมาเจาะตลาดและครอบงำไทยและอินโดจีนได้ทั้งหมด เมื่อถึงเวลานั้นไทยเราจะตั้งรับ และปรับปรุง พัฒนา content ของบันเทิงไทยของเราอย่างไร ให้คงจุดขายที่แข็งแกร่ง และสามารถต่อกรกับหลากหลายวัฒนธรรมจากชาติมหาอำนาจต่างๆ ที่จะเข้ามาครอบงำเราให้กลายเป็นเหยื่อ หรือเป็นทาสทางวัฒนธรรม หรือภาษาทางการตลาดก็คือผู้บริโภคของเขาได้อย่างไร
เราอยากเห็นกระแสนี้อยู่อย่างยั่งยืน ตลอดไป เทียบเท่าความเจริญงอกงามของวงการบันเทิงไทย และอยากเห็นการสนับสนุนอย่างเต็มที่ของหน่วยงานรัฐ และภาครัฐ ผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ เสมือนประเทศเกาหลีทำสำเร็จมาแล้ว อาทิ การสนับสนุนด้านภาษี ด้านเงินทุน ด้านการมีส่วนร่วม หาผู้เชียวชาญที่มีความรู้ความเข้าใจด้านศิลปะบันเทิงอย่างแท้จริง ทำงานร่วมกับเอกชนแบบเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่ใช่คอยจับผิด ขัดแข้งขัดขา อย่างที่เป็นอยู่ แค่นี้วงการบันเทิงไทยคงจะไปได้ไกลกว่านี้อีกมาก เราในฐานะผู้เสพงานหรือผู้บริโภคประชาชนคนหนึ่ง คงทำได้ดีเพียงแค่เป็นอีก 1 กำลังใจสนับสนุนอย่างเต็มที่ให้กับวงการบันเทิงไทยก้าวไกลสู่ตลาดโลกต่อไป เสมือนอุตสาหกรรมดาวรุ่งดวงหนึ่งของประเทศ
ตัวอย่างการจัดอันดับศิลปินและนักแสดงไทยในจีน (โดยสมาชิกของเว็บไซต์ baidu หรือไป่ตู๋ ในจีน)
อันดับ 10 บี น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์
จำนวนสมาชิกในเว็บ tieba.baidu 1,172 สมาชิก
http://tieba.baidu.com/f?kw=%E9%AA%B5%CF%A1%A4%D7%DA%C0%AD%CE%AC%C3%C9&frs=yqtb
ผลงานเด่นที่ประเทศจีน
- สงครามนางฟ้า
- บ่วงรักกามเทพ
- ทะเลริษยา
อันดับ 9 วิว วรรณรท สนธิไชย
จำนวนสมาชิกในเว็บ tieba.baidu 1,444 สมาชิก
link http://tieba.baidu.com/f?kw=vill&frs=yqtb
ผลงานเด่นที่ประเทศจีน
- ดอกรักริมทาง
- แก้วล้อมเพชร
จำนวนสมาชิกในเว็บ tieba.baidu 2,722 สมาชิก
link http://tieba.baidu.com/f?kw=nichkhun
ผลงานเด่นที่ประเทศจีน
- สมาชิกวง 2 pm
- ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์หลายรายการในเกาหลีใต้
อันดับ 7 ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์
จำนวนสมาชิกในเว็บ tieba.baidu 3,062 สมาชิก
link http://tieba.baidu.com/f?kw=baifern&frs=yqtb
ผลงานเด่นที่ประเทศจีน
- ภาพยนตร์เรื่องสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก
อันดับ 6 ออม สุชารัตน์ มานะยิ่ง
จำนวนสมาชิกในเว็บ tieba.baidu 3,321 สมาชิก
link http://tieba.baidu.com/f?kw=aomizsucharat&frs=yqtb
ผลงานเด่นที่ประเทศจีน
- ภาพยนตร์เรื่อง yes or no อยากรัก ก็รักเลย
จำนวนสมาชิกในเว็บ tieba.baidu 3,361 สมาชิก
link http://tieba.baidu.com/f?kw=tinajittaleela&frs=yqtb
ผลงานเด่นที่ประเทศจีน
-ภาพยนตร์เรื่อง yes or no อยากรัก ก็รักเลย
อันดับ 4 ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์
จำนวนสมาชิกในเว็บ tieba.baidu 3,654 สมาชิก
link http://tieba.baidu.com/f?kw=pong&fr=itb_favo&fp=favo
ผลงานเด่นที่ประเทศจีน
- ทะเลริษยา
- สงครามนางฟ้า
- เงาอโศก
- บ่วงรักกามเทพ
- พรุ่งนี้ก็รักเธอ
- ค่าของคน (ยังไม่ออนแอร์ แต่ถ้าออนแอร์เรตติ้งกระฉูดแน่)
อันดับ 3 พิช วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล (วงออกัส)
จำนวนสมาชิกในเว็บ tieba.baidu 6,732 สมาชิก
link http://tieba.baidu.com/f?kw=pchy&frs=yqtb
ผลงานเด่นที่ประเทศจีน
- ภาพยนตร์เรื่องรักแห่งสยาม
- สมาชิกวงออกัส เปิดคอนเสิร์ตที่ประเทศจีน 4 ครั้ง
อันดับ 2 มาริโอ้ เมาเร่อ
จำนวนสมาชิกในเว็บ tieba.baidu 6,826 สมาชิก
link http://tieba.baidu.com/f?kw=mario&frs=yqtb
ผลงานเด่นที่ประเทศจีน
- รักแห่งสยาม
- สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก
อันดับ 1 บี้ สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว
จำนวนสมาชิกในเว็บ tieba.baidu 7,117 สมาชิก
link http://tieba.baidu.com/f?kw=bie&fr=itb_favo&fp=favo
ผลงานเด่นที่ประเทศจีน
- ละครเรื่อง รอยอดีตแห่งรัก
- ละครเรื่อง ดอกรักริมทาง
- ละครเรื่อง หัวใจศิลา และเรื่อง ข้ามเวลาหารัก (ใกล้ออนแอร์)
- ผลงานเพลง อัลบั้ม Love Scenes , I Love You Too, Hug Bie , It’s Alright และ รักนะคะ
ตัวอย่างบทความที่พูดถึงภาพยนตร์ไทย
Indonesia's Blossoming Thai Romance
Nauval Yazid ,May 10, 2011
The lamentable film tax fight that has prevented Hollywood blockbusters from making it into our theaters has had at least one interesting side effect, turning quirky Thai romantic comedies into local favorites.
One could argue that the popularity of these films was prompted by the huge success of “Bangkok Traffic (Love) Story,” which earned enough positive buzz to extend its time in local theaters.
The positive feedback from audiences has encouraged the second-biggest cinema chain in the country, BlitzMegaplex, to continue importing romantic comedies from Thailand.
Immediately after “Bangkok Traffic (Love) Story,” audiences were treated to the Seoul-set Thai film “Hello Stranger.” After a string of other kooky Thai romantic comedies, the genre this year delivered a Pygmalion-like teen story in “Crazy Little Thing Called Love.”
And for the last two weeks, the Thai romantic comedy “Suck Seed” has been sitting on top of the local box office charts, and with the lack of competition from Hollywood big shots, it could remain there for some time.
“Suck Seed” bears a striking similarity to the aforementioned films. It also takes a cue from “Scott Pilgrim vs. the World,” both in its look and story, and stacks up against 1980s American teen films.
In the movie, a young girl named Ped, who has an eclectic taste in music, drives Ern wild, but the boy is too shy to express his feelings. Instead, he claims that another boy has a crush on her. The trio is reunited in high school, but destiny plays a trick on them — the two boys are now best friends who want to join a high school band competition. Chaos ensues when the girl enters the picture. It takes years before the three are able to settle the feelings they have kept hidden for so long.
Most Thai romantic comedies seem to share a similar storyline. Due to a misunderstanding or some chance event, the main characters don’t see each other for a prolonged period of time and then are reunited under unexpected circumstances.
Call it formulaic, but even so, “Suck Seed” is complemented by outstanding production techniques. The film hardly feels cheesy with the out-of-center frames and the addition of animation into the story. It also doesn’t hurt that pieces of popular rock songs are interspersed within the film’s narrative.
The Thai romantic-comedy genre has a certain movie-magic quality that takes it beyond the realm of romantic cliches.
Believable performances, strong narratives and intriguing sets are enough for audiences to keep coming back to see similar stories over and over again.
On a different end of same successful spectrum is the Thai film “Lulla Man.” This crass slapstick comedy is likely to generate decent ticket sales in Indonesia.
The film’s plot couldn’t be more simple. Three married men have an acute, if not uncontrollable, need to fool around with random women, despite having loyal wives at home. The men get away with their cheating ways until one of them falls for the mistress of a mafia boss. The almost plotless film progresses to a sudden made-up intervention at the end.
If the movie’s storyline sounds familiar, it is. And there is no lack of bikini-clad or skimpily dressed women parading around. Yes, it is Thailand’s answer to Indonesian comedy legends Warkop DKI, who ruled Indonesian cinema in the ’80s and still generate good ratings whenever their films are broadcast on TV.
Despite its lack of technical elements and the magic quality that would put it on par with Thai romantic comedies, “Lulla Man” has done well at Indonesian theaters with audiences that are most likely missing the low-brow humor of Hollywood comedies.
Thai movie hit in Indonesia?-Crazy Little Thing called Love
Started 4 months, 3 weeks ago by thaiboy
10 Best Thai Drama MoviesMonday, December 6 by Ergopotamo (จัดอันดับภาพยนตร์ไทยแนวหนังชีวิตที่ดีที่สุด 10 อันดับ โดยเว็บไซต์ http://www.screenjunkies.com/movies/movie-lists/10-best-thai-drama-movies/ )
The 10 best Thai drama movies listed below will both wrench your heart and touch your soul. These dramatic movies deal with issues that anyone can identify with including the themes of family and love. Don’t let this be an undiscovered Asian genre for you.
1.“The Happiness of Kati.” Based on an award-winning novel by Ngarmpun Vejjajiva, this film tells the story of a mature nine-year-old who has come to a crossroads. Facing the death of her mother, she needs to choose between two drastically different futures. She could look for her father or remain with her retired grandparents and close friends of her mother. (ความสุขของกะทิ)
2.“Tropical Malady.” This movie is the pride of Thailand as it was the first Thai film that snagged a prize at a major international film festival. The story is portrayed in two parts. The first is a romance between two homosexuals and the second is a psychological drama following a soldier who is haunted by the spirit of a shaman. (สัตว์ประหลาด)
3.“Beautiful Boxer.” Dealing with a major theme in Thai lifestyle, the protagonist of this movie is a transsexual female, Nong Thoom, who is played by a male Thai kickboxer. The plot is an autobiographical tale of Thoom’s life as a famous transsexual woman, martial artist, actress, and model. The film was instantly recognized as a success and won various international awards.(บิวตี้ฟูลบ็อกเซอร์)
4.“Syndromes and a Century.” The director of this movie, Apichatpong Weerasethakul, has informed the public that this film is about transformation and the memory of feelings. His project was a tribute to his own parents. He tells two parallel stories with similar plotlines, but different settings and results.(แสงศตวรรษ)
5.“Blissfully Yours.” This is another prize-winning film directed by Weerasethakul. In it, the audience follows the story of a couple and tells of the longing for love and making love. Roong takes the day off work to make love to her boyfriend, a Burmese immigrant, while Om goes into the jungle to have an affair.(สุดเสน่หา)
6.“Fun Bar Karaoke.” The Japanese influence is clear in this movie, partly revolving around a hostess at a Thai karaoke bar who’s attached to a mobster. He sends an assassin, Noi, to kill a man who’s fallen in love with the hostess. The man’s daughter ends up falling in love with the hitman.(ฝัน บ้า คาราโอเกะ)
7.“Last Life in the Universe.” The two protagonists in this multicultural and multilingual film switch between speaking in Thai, Japanese, and English throughout the story. A bit of comedy, drama, and romance ensues when a Japanese librarian is forced into close quarters with a Thai woman. He is suicidal and obsessively neat while she’s a disorganized, pot-smoking slob. (เรื่องรัก น้อยนิด มหาศาล)
8.“The Last Song.” Araya Ariyawattana plays a beautiful showgirl who has sworn that she’ll never give her heart away. The movie is in fact a tale of unrequited love. When she finds herself falling for a handsome singer, she’s devastated to learn that he’s in fact fallen for her younger sister.
9.“The Judgment.” Fak, a promising novice Buddhist monk, leaves the monastery to take care of his sick father. When his father passes away, he’s left with a young stepmother who is possibly mentally ill. Fak falls into a depression when he has to deal with the villagers’ rumors that he’s sleeping with his stepmother. (ไอ้ฟัก หรือ คำพิพากษา)
10.“Som and Bank: Bangkok for Sale.” Part of the “Bangkok Trilogy,” this crime-drama follows the relationship of Som and Bank. Bank pulls Som into the drug world where they seem to be able to make tons of money so that they can live the luxurious life. Trouble arises when a big drug deal goes wrong.
(ส้มแบ็งค์ มือใหม่หัดขาย)
(ข้อมูลเพิ่มเติม/อ้างอิง www.allthpop.com, www.baidu.com)
ขอบคุณภาพจาก http://picpost.postjung.com
1 ความคิดเห็น:
เพื่อพวกคนไทยดูถูกกันเองว๊ะคนเค้าพยายามทำสิ่งที่สร้างสรรคไอ้พวกเวรนี่ก็คอยมาดูถูกกันอยู่ได้
แสดงความคิดเห็น