วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2554

คาสเซ็ทท์รีวิว-ศิลปินแด๊นซ์หญิง เบอร์ 1 ของเมืองไทย คริสติน่า อากีล่าร์


จำได้ว่าตอนที่พี่ติ๊นา ออกอัลบั้มแรกที่ชื่อว่า นินจา ออกมานั้น ถือเป็นความแปลกใหม่ของวงการเพลงไทยเลยทีเดียว ประมาณปลายปี 2533

ทั้งๆ ที่ยังเป็นศิลปินใหม่ ที่ยังไม่มีใครรู้จักเลย แต่ปรากฏว่าอัลบั้มนั้น ถือเป็นอัลบั้มล้านตลับ เป็นอัลบั้มแรกของศิลปินหญิงในเมืองไทย และน่าจะถือเป็นศิลปินหน้าใหม่เคยทำได้เป็นคนแรกๆ ด้วย จำได้ว่าผู้เขียนก็เป็นคนนึงที่อุดหนุนอัลบั้มนี้ตอนเปลี่ยนปกเทปใหม่ ตอนฉลองล้านตลับไปแล้ว

ต้องถือว่าอัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มเพลงแด๊นซ์ที่ดีที่สุดอัลบั้มนึงที่เคยมีมา ผมยกให้พี่ติ๊นาเป็นมาดอนน่าเมืองไทย หรือ ไครี่ มิน็อกเมืองไทยเลยทีเดียว ในยุคนั้นต้องถือว่าอัลบั้มนั้นเพอร์เฟ็คท์ ไพเราะทั้งอัลบั้ม ดีทั้งเพลงช้า เพลงเร็ว ทีมงานแข็งปึ้ก พี่เต๋อลงมาดูแลการผลิตด้วยตนเอง และต้องถือว่าเป็นความน่าเสียดายอย่างมากที่พี่ติ๊นาควรจะต้องดังนานกว่านี้ และดังมาจนถึงยุคปัจจุบันเทียบเท่าพี่เบิร์ดเลย หากแต่การจากไปของพี่เต๋อ ทำให้ผลงานนับตั้งแต่อัลบั้มชุดที่ 4 จนถึง 7 ความนิยมเริ่มลดลง ผลงานดร็อปลงอย่างเห็นได้ชัด มีการเปลี่ยนผู้ดูแลอัลบั้มไปเป็นพี่โอม ชาตรี และอัลบั้มท้ายๆ ไม่ทราบไปอยู่ที่ใครเป็นผู้ดูแลแล้วก็ไม่ทราบ เนื่องจากผู้เขียนตามงานของพี่ติ๊นาตั้งแต่อัลบั้ม 1-3 ในยุคพี่เต๋อยังดูแลอยู่ และจะขอวิจารณ์ติชมเฉพาะอัลบั้ม 1-3 เท่านั้น ขอเริ่มเป็นรายเพลงเลยดีกว่า ดังนี้


อัลบั้มแรก นินจา เพลงเปิดตัว พลิกล็อค กับนินจา

เพลงพลิคล็อค เป็นเพลงป็อปแด๊นซ์ ที่มีจังหวะลีลาน่าฟัง มีลูกเล่นกริมมิคที่ถือเป็นท่อนจำของคนฟัง และเป็นคาแร็กเตอร์หรือไอเด็นติตี้ ติดตัวพี่ติ๊นามาตั้งแต่ครั้งนั้น ก็ประโยค ที่ร้องว่า อ๋า................ เพลงนี้ถ้าได้ยินขึ้นเมื่อไร ก็ชวนให้ขยับโยกได้ทุกครั้ง

เพลงร้อน เพลงนินจา และเพลงเปล่าหรอกนะ ผู้เขียนมีความรู้สึกหรือคิดไปเองว่ามีกลิ่นไอ หรือบรรยากาศหรือท่วงทำนองแบบญี่ปุ่นผสมเข้ามามันได้ฟีลเหมือนฟังเพลงญี่ปุ่น ถ้าไม่ใช่ก็ขออภัยพี่โปรดิวเซอร์และพี่ติ๊นาด้วยนะครับ แต่เพลงร้อนพอฟังแล้วรู้สึกถึงบรรยากาศเย็นๆ ยังไงไม่ทราบ ส่วนเพลงนินจา ฟังแล้วรู้สึกว่ามีนินจามาผลุบโผล่อยู่ข้างตัว แล้วพี่ติ๊นาก็เอามีดไปไล่ฟันกับมัน โดยตอนหลังพี่ติ๊นาแปลงร่างเป็นมนุษย์ไฟฟ้าสีชมพูอ่ะ ดูน่ารักดี (เลอะเทอะไปใหญ่แล้ว) ส่วนเพลงช้าสุดเจ็บจี๊ด ซึ่งพี่ติ๊นาร้องไว้ดีมากก็คือ เพลงเปล่าหรอกนะ ภาษาเพลงก็สวย มีความหมายดีด้วย เป็นผลงานเขียนโดยพี่นิ่มสีฟ้า โอ้โห ชอบประโยคที่ว่า เปล่าหรอกนะ น้ำตาที่รินไหล ให้กับฟ้ากับใบไม้ แต่ไม่ใช่เธอ เป็นการเขียนเพลงกระทบกระเทียบระหว่างความเสียใจในรัก กับความอ่อนไหวในจิตใจ เมื่อมองเห็นท้องฟ้า ต้นไม้ ใบไม้ที่ร่วงโรย เจ็บโดนใจ และก็ชอบเพลงนี้ที่สุดในอัลบั้ม

ส่วนเพลงช้าอีกเพลงนึงที่พี่ติ๊นาร้องได้ดีมากก็คือเพลง อย่าไปเสียน้ำตา ฝีมือการเขียนเพลงของพี่ดี้ นิติพงษ์ มีท่อนจำหรือประโยคโดนใจก็คือ ถ้าหากคุณเคยช้ำใจกับคนใจร้ายสักคน เขาปล่อยคุณไว้ให้หมองหม่น ให้ทนกับความเฉยชา ทุกสิ่งที่คุณให้ไปไม่มีความหมายกลับมา ที่สุดก็เสียน้ำตา ที่คุณไม่เคยให้ใคร อย่าไปเสียน้ำตาให้เขาเลย จงปล่อยให้นองหัวใจ อย่าไปเสียน้ำตาและร้องไห้ ให้คนที่ใจไม่จริง ไม่มีหวังที่มันจะเหมือนเก่า เหมือนวันที่เคยแอบอิง อย่าไปเสียน้ำตาให้บางสิ่ง ที่มันไม่กลับคืนมา ต้องบอกว่าภาษาเพลงของพี่ดี้คมมากในสมัยนั้น เพลงนี้มีภาคต่อด้วย เดี๋ยวจะบอกว่าเพลงใดเป็นภาคต่อของเพลงนี้ อยู่อีกอัลบั้มนึง

เพลงประวัติศาสตร์ แต่งขึ้นมาเพื่อที่จะอวยพี่ติ๊นาหรือเปล่าไม่ทราบ แต่ก็เป็นอีกเพลงนึงที่ดังมากในอัลบั้มนี้ มีจังหวะสนุก ๆ และคำร้องที่ลงตัวร้องตามได้ง่าย ติดหูง่าย และเพลงนี้ก็มีภาคต่อไปอีกอัลบั้มนึง ไม่รู้คนแต่งตั้งใจวางโครงเนื้อหาไว้แต่แรกหรือไม่รู้จะแต่งอะไรก็เลยต่อยอดไปเป็นอีกเพลงนึง ต้องถือว่าทีมแต่งเพลงเขาเก่งจริงๆ ครับ เดี๋ยวจะบอกว่าเพลงภาคต่อเพลงนั้นคือเพลงอะไร

เพลงหัวใจขอมา เพลงนี้ต้องถือว่าทั้งคำร้องและดนตรีลงตัวที่สุดในอัลบั้ม และเป็นเพลงช้าอีกเพลงนึงแล้ว ที่พี่ติ๊นาร้องได้ดีกว่าเพลงเร็ว ผลงานเขียนคำร้องโดยคุณสุรักษ์ สุขเสวี มีท่อนฮุคหรือประโยคจำ ที่โดนใจ ก็คือ กลับมาคราวนี้ เพื่อมาทวงความฝันคืน สูดความฝันให้ชื่นใจ ยาวนานเหลือเกินที่ฝันจางหายไป ในหัวใจยังทวงถาม กลับมาคราวนี้ เพราะหัวใจมันขอมา ให้ตามหาความทรงจำ ปล่อยใจตัวเองให้มันชื่นฉ่ำ กับความทรงจำที่เคยมี ต้องบอกว่าอัลบั้มนี้มีเพลงช้าที่ภาษาดี ไพเราะถึง 3 เพลง จะไม่ให้ดังได้อย่างไร และทีมแต่งเพลงเขาเก่งมาก ปัจจุบันเอากลับมาฟังทีไรก็ยังไพเราะอยู่เลย

เพลงเรื่องเก่าเล่าใหม่ ชอบครับ เป็นเพลงเปรี้ยว จี๊ดจ๊าดโดนใจ จังหวะเร็วขึ้น ไม่เนิบนาบ เหมือนหลายเพลงอย่างพลิคล็อคหรือประวัติศาสตร์ ที่ฟังเอียนได้ง่าย แล้วก็จบด้วยเพลงคำถามที่ต้องตอบ เป็นเพลงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สมัยนั้นทุกอัลบั้มของศิลปินแกรมมี่ ต้องมีเพลงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมพ่วงท้ายทุกอัลบั้ม คำถามก็คือ ทำไมต้องมีเพลงนี้ด้วยครับ มันช่างแปลกแยกจากโทนอัลบั้มโดยรวมจัง โปรดิวเซอร์ครับคำถามที่คุณต้องตอบ


อัลบั้มที่ 2 อาวุธลับ เป็นภาคต่อความสำเร็จจากอัลบั้มแรก นินจา เพลงเปิดตัว จริงไม่กลัว ไม่อยากจะเชื่อเลย

เพลงจริงไม่กลัว จังหวะกระชับหนักแน่น ท่าเต้นแข็งแรงขึ้น มิวสิควีดีโอเพลงนี้ไปได้รางวัล เอ็มทีวีอวอร์ดด้วย จึงทำให้เพลงนี้โดดเด่นขึ้นมา

เพลงไม่อยากจะเชื่อเลย เป็นเพลงช้าแบบมีจังหวะโยก หรือสโลว์แด๊นซ์ เพลงนี้น่าจะได้รับอิทธิพลมาจากเพลง It must have been love ของ Roxette หรือเปล่า แต่ฟังดูมีกลิ่นคล้าย และดังอยู่ในช่วงเวลานั้นพอดี ไม่ได้บอกว่า copy มา แต่มีกลิ่นคล้ายเป็นอย่างมาก

เพลงปัญหาโลกแตก เพลงจังหวะสนุก คำร้องติดหูง่าย แต่ไม่มีอะไรให้จดจำ

เพลงเวลาไม่ช่วยอะไร เพลงคำร้องสวยๆ อีกแล้วจากพี่นิ่ม สีฟ้า มีท่อนฮุคให้ติดหูโดนใจอีกแล้ว โดยเฉพาะท่อนที่ว่า เวลาจะช่วยอะไร หากใจมันยังฝังจำ ยังเตือนยังย้ำ ยังจำทุกคำที่ร่ำลา ยังคงมองเห็น ภาพเธอจากไปจนลับตา เวลาไม่เคยลบความทรงจำ ชอบอีกแล้วเพลงนี้

เพลงรักต้องมีอนาคต เพลงนี้แหละทั้งดนตรีและคำร้อง เป็นภาคต่อของเพลงประวัติศาสตร์ในอัลบั้มแรก ทั้งๆ ที่คนแต่งคำร้องและดนตรีของ 2 เพลงนี้ คนละคนกันเลย แต่ต้องถือว่าเขาทำการบ้านมา เป็นคอนเซ็ปต์อัลบั้มที่ต่อยอดเนื้อหากันมา

เพลงขอบคุณ เป็นเพลงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในอัลบั้ม สาเหตุที่ต้องมี ได้กล่าวไว้แล้วในอัลบั้มแรก

เพลงเสียใจเสียฟอร์ม ชอบบีทของดนตรี แต่ไม่ชอบคำร้อง เช่นเดียวกับเพลงทำไม่ลง ก็ชอบบีทของดนตรี แต่ไม่ชอบคำร้อง ดูว่าอัลบั้มนี้ บีทของดนตรีหนักแน่นขึ้น มีบีทของดนตรีที่เป็นร็อคแด๊นซ์ ที่ฉีกจากอัลบั้มแรกไปเลย แต่เพลงช้าในอัลบั้มนี้ ไม่ค่อยโดนใจ แทบไม่มีเพลงช้าที่โดนใจ หรือมีท่อนจำ ในอัลบั้มนี้ อย่างเพลง สักวันหนึ่ง หรือเพลงอย่าให้ถึงวันนั้นเลย มันแทบจะเป็นเพลงที่แต่งขึ้นมาเพื่อให้ครบ 10 เพลงเท่านั้น มันแทบจะแตกต่างหรือแปลกแยกจากเพลงอื่นในอัลบั้มเลย หรือเป็นเพราะภาษาที่คมมากในเพลงไม่อยากจะเชื่อเลย กับเพลงเวลาไม่ช่วยอะไร มันกลบเพลงช้าอื่นๆ ในอัลบั้มเสียสนิท


เพลงขอให้โชคดี เพลงที่ชอบที่สุดในอัลบั้มนี้ คำร้องโดยจักราวุธ แสวงผล ทำนองโดยพี่สมชาย กฤษณะเศรณี กลายเป็นอัลบั้มนี้กู้หน้าไว้ได้โดยจักราวุธ แสวงผล แต่งเพลงโดนๆ ไว้ทั้งขอให้โชคดีและรักต้องมีอนาคต ขอให้โชคดีมีบีทที่สนุกมาก แล้วเป็นเพลงสุดท้ายในอัลบั้มที่โซโล่ยาวถึง 4.20 นาที ทั้งที่เนื้อหาเพลงเศร้า แต่ดนตรีสนุก และได้เพลงนี้กู้หน้าไว้จริง ๆ ในอัลบั้มนี้ โดยรวมต้องถือว่าแป้กจากอัลบั้มแรกค่อนข้างเยอะ และยอดขายไม่ถึง 1 ล้านตลับ


อัลบั้มชุดที่ 3 รหัสร้อน เพลงเปิดตัว ไม่ยากหรอก ไม่มีใครขอร้อง

เพลงไม่ยากหรอก เพลงนี้ต้องถือว่าเปิดตัวแรงคล้ายเพลงพลิกล็อคในอัลบั้มแรก มีลูกเล่นลีลา ที่ร้อนแรง และน่าจะเป็นภาคต่อของพลิกล็อค อัลบั้มนี้ยอดขายจึงทะลุหลักล้านเร็วมาก และปิดไปด้วย 2 ล้านตลับซึ่งถือว่าสูงสุดเท่าที่เคยมีมาของศิลปินหญิง คำร้องและทำนองเพลงนี้เป็นผลงานของจักราวุธ แสวงผล ที่เขียนเพลงได้ดีมาก และกู้หน้าในชุดที่แล้วไว้ได้

เพลงไม่มีใครขอร้อง เพลงนี้ผู้เขียนเองลืมไปเลยว่ามีอยู่ในอัลบั้ม เพราะไม่ติดหูเลย แม้ว่าเป็นเพลงเปิดตัวและโปรโมตด้วย ขอข้ามไปแล้วกัน

เพลงเลิกเหอะ มีบีทที่กระชับ ทะมัดทะแมงดี ดูจะเป็นดิสโก้นิดๆ ด้วย ฝีมือทำดนตรีโดย ธนา ลวสุต อัลบั้มนี้มีธนา ลวสุตเข้ามาอยู่ในอัลบั้มเป็นครั้งแรก ทำให้ดนตรีมีสีสันขึ้น แม้ว่าในส่วนของภาพรวมยังเป็นพี่โอม ชาตรี คงสุวรรณดูแลอยู่ แต่ธนา ก็ฉายแววกับการทำดนตรีแด๊นซ์จากอัลบั้มนี้ ภายหลังไปเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับทาทายัง และอีกหลายศิลปินในแกรมมี่

เพลงลำบากหัวใจ ในภาคของดนตรี มีความเป็นบีทแด๊นซ์ที่สนุกทำนองดนตรีโดย โสฬส ปุณกะบุตร ชอบในส่วนดนตรีแต่ไม่ชอบคำร้องเลย

เพลงนาทีที่ยิ่งใหญ่ เป็นเพลงช้า ความหมายดีที่สุดในอัลบั้ม คำร้องโดยสุรักษ์ สุขเสวี และทำนองโดย ธนา ลวสุต มักเป็นเพลงที่นำมาประกวดขับร้องเพลงกันด้วย มีท่อนฮุค ประโยคจำอีกแล้ว ที่ว่า เพราะฉันนั้นต้องการมี เสี้ยวนาทีที่ยิ่งใหญ่ ให้ใจจดไว้ นานเท่านาน อยากจะได้ภูมิใจ ที่มือฉันเคยได้เอื้อมผ่าน ได้เก็บดาวที่แสนไกล ด้วยตัวฉันเอง

เพลงไปด้วยกันนะ จำได้ว่าเพลงนี้มีมิวสิควีดีโอที่น่ารักด้วย ดูส่งให้พี่ติ๊นาเป็นศิลปินอินเตอร์ได้ และน่าจะโกอินเตอร์ได้จากเพลงนี้แหละ ตอนนั้นมีข่าวว่าพี่ติ๊นาจะโกอินเตอร์ มีการทำอัลบั้มเพลงเป็นเพลงสากล โดยอาจนำเพลงฮิตๆ จาก 3 อัลบั้มมาแปลงเป็นภาษาอังกฤษ แต่แล้วข่าวคราวก็เงียบหายไป เพลงนี้แทบจะเป็นลายเซ็นต์ของพี่ติ๊นาเลย จะต้องร้องในทุกคอนเสิร์ตที่ไปโชว์ และต้องถูกขอให้ร้องด้วย คำร้องโดยคุณวรัชยา พรหมสถิต ทำนองดนตรีก็โดยพี่โอม ชาตรี คงสุวรรณ เพลงแด๊นซ์สนุกๆ แบบนี้ เรียกว่าเป็นท้ายๆ ที่ไม่เห็นจังหวะ บีทสนุกๆ แบบนี้ในอัลบั้มต่อมาของพี่ติ๊นาอีกเลย เพราะเปลี่ยนทีมงานผู้ดูแลอัลบั้มใหม่ และหลังจากชุดนี้แล้วพี่เต๋อก็มาเสียชีวิตลง ขาดผู้ดูแลในภาคดนตรีที่จะพัฒนาต่อไปให้กับพี่ติ๊นาอย่างจริงจัง จึงน่าเสียดายอย่างที่บอกไว้ตอนต้น

เพลงยอมแพ้ เพลงนี้เป็นเพลงที่ผู้เขียนชื่นชอบที่สุดในอัลบั้ม ในฐานะศิลปินแด๊นซ์ และอัลบั้มชื่อว่ารหัสร้อน หรือ red beat เพลงนี้จึงมีจังหวะดนตรีที่สอดคล้องและตรงที่สุดอีกเพลงนึง นอกจากไม่ยากหรอก และไปด้วยกันนะ คำร้องโดยสุรักษ์ สุขเสวี และทำนองดนตรีโดยจาตุรนซ์ เอมซ์บุตร ช่วงท้ายท่อนฮุค มีแร็ป หรือกลิ่นไอของฮิปฮ็อปด้วย ซึ่งสมัยนั้นต้องถือว่าฮิปฮ็อปยังเป็นของใหม่ในบ้านเรา ทันสมัยมาก (ธันวา ปี 2536)

เพลงอยากให้รู้เหลือเกิน..ว่าฉันเสียใจ เป็นเพลงภาคต่อของเพลง อย่าไปเสียน้ำตา หรือมันมีเนื้อหาที่เป็นซีรี่ย์เดียวกัน คนแต่งคำร้องและทำนองของ 2 เพลงนี้เป็นคนละคนกันเลย คนแต่งเขาเก่งอีกแล้ว ตีความและทำการบ้านต่อๆ กันมา

เพลงรักเธอที่สุด เพลงช้าโดนใจในอัลบั้มนี้ เขียนคำร้องโดยพี่นิ่ม สีฟ้าอีกแล้ว ภาษาโดนใจทุกที มีท่อนฮุค ประโยคเด็ดโดนใจ เหมือนเดิม

เพลงขายเท่าไหร่ ทุกอัลบั้มของติ๊นาจะมีเพลงแปลกแยกอยู่อย่างน้อย 1 เพลง อัลบั้มนี้ก็มีเพลงนี้แหละ ดูไม่ใช่ติ๊นาที่สุดเลย ขอข้ามไป อีกเพลงนึง

ขอจบการวิจารณ์ ติชมอัลบั้มผลงานเพลงของพี่ติ๊นาทั้ง 3 อัลบั้มแรกนะครับ ยังรักและชอบพี่ติ๊นามาก และในโอกาสที่พี่ติ๊นาจะมีคอนเสิร์ตรำลึกครบรอบ 20 ปี ก็ขอให้เป็นคอนเสิร์ตที่ยิ่งใหญ่ แสดงได้อย่างประทับใจแฟนเพลง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เห็นผลงานของพี่ติ๊นาอีกในโอกาสต่อไป อยู่เป็นราชินีเพลงแด๊นซ์ของบ้านเราตลอดไป ตราบนานเท่านาน

หมายเหตุ ปกอัลบั้มเทปในชุดต่อๆ มา ความนิยมเริ่มลดลงไปเรื่อยๆ ดังนี้





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น