อันดับ 10
บัลลังก์ของผู้เล่นรายใหญ่
โทรศัพท์มือถือสะเทือนเป็นครั้งแรก
มีการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ
โดยเฉพาะผู้เล่นรายใหม่พะยี่ห้อแบรนด์จากจีน กำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่น
คู่แข่งในตลาดโทรศัพท์มือถืออย่างน่ากลัว และพร้อมที่จะแก่งแย่งกันเป็นเบอร์ 1 แซงเจ้าตลาด
พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ทำได้ดีกว่าแบรนด์ใหญ่ ในขณะที่สนนราคาถูกกว่า
รูปลักษณ์สวยงามไม่แพ้กันด้วย ในขณะที่พฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือของคนไทย
เป็นตัวบ่งบอก แนวโน้มการใช้ประโยชน์จากโทรศัพท์มือถือ ไปแบบพลิกฝ่ามือ
คนไทยเสพติดการใช้โทรศัพท์มือถือ เสียยิ่งกว่ายาเสพติดไปแล้ว
ทำให้พฤติกรรมการใช้จ่าย-บริโภคเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
อีริคสัน ได้เปิดเผยรายงาน Ericsson Mobility Report และแนวโน้มการพัฒนาของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของประเทศไทย
·
ประเทศไทยจัดเป็นหนึ่งใน 10 ประเทศอันดับต้นๆ
ที่มีตัวเลขผู้ใช้งานโมบายเพิ่มเข้ามาในช่วงไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2559
·
ตัวเลขการใช้งานสมาร์ทโฟนในประเทศไทยคาดว่าจะสูงถึง 50 ล้านเมื่อถึงสิ้นสุดปี
พ.ศ. 2559
·
เกือบครึ่งของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในประเทศไทยนั้นใช้เข้าถึงโซเชียลเน็ตเวิรค์
บริการส่งข้อความและบริการชมวิดีโอออนไลน์เป็นประจำทุกวัน
รายงาน Mobility Report ฉบับล่าสุดของ
Ericsson (NASDAQ: ERIC เปิดเผยให้เห็นว่าจำนวนอุปกรณ์ Internet
of Things หรือ IoT นั้นกำลังจะแซงหน้าโทรศัพท์มือถือและกลายเป็นอุปกรณ์ที่จะมีการเชื่อมต่อที่มีมากที่สุดภายในปี
พ.ศ. 2561
โดยระหว่างปี 2558
– 2561 จำนวนอุปกรณ์ IoT คาดว่าจะเพิ่มขึ้นกว่า
23% ต่อปี โดยอุปกรณ์ IoT ที่จะเชื่อมต่อกับเครือข่ายมือถือ
เซลลูลาร์ หรือเรียกอีกอย่างว่า Cellular IoT นั้นคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด
โดยจาก 2,800 ล้านเครื่องมือทั้งหมดที่จะมีการเชื่อมต่อในปี 2564 เกือบ
1,600 ล้านเครื่องจะเป็นเครื่องมือ IoT
คนไทยใช้สมาร์ทโฟน 4 ชั่วโมง/วัน
นีลเส็น ประเทศไทย
ได้เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนของคนไทยในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2559
(เมษายน–มิถุนายน) พบว่าคนไทยใช้เวลาในการใช้สมาร์ทโฟนเฉลี่ย
234 นาที หรือเกือบ 4 ชั่วโมงต่อวัน
ใช้พีคสุด 2-3 ทุ่ม
ช่วงที่คนไทยตื่นตัวกับการใช้สมาร์ทโฟนคือช่วง 8 โมงเช้าถึง 5
ทุ่ม เฉลี่ย 12 นาทีต่อชั่วโมง
แต่ช่วงเวลาที่ผู้ใช้มากสุด จะอยู่ในช่วง 2 ทุ่ม ถึง
3 ทุ่ม เฉลี่ยการใช้ 13.1 นาทีต่อชั่วโมง
ใช้แชตโทรผ่านไลน์มากสุด 66 นาที/วัน
เมื่อลงลึกถึงกิจกรรมที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนในไทยใช้เวลามากที่สุดพบว่า
อันดับ 1 คือ การสื่อสาร (communications) โดยใช้เวลาทั้งหมด
78 นาที/วัน ซึ่งในจำนวนการใช้งาน 78
นาทีนี้ จะใช้ Chat และ VOIP
เช่น การแชตผ่านไลน์ บีทอล์ก เฟซบุ๊ก แมสเซนเจอร์
และโทรศัพท์ผ่านไลน์ มากที่สุด โดยจะใช้เวลาในกิจกรรมเหล่านี้ถึง 66 นาที/วัน ใช้เพื่อโทรแค่ 8 นาทีต่อวัน ใช้ส่งอีเมล 2 นาที และส่งข้อความ
2 นาที
อันดับ 2 ใช้แอปพลิเคชั่น ใช้เวลา 66 นาทีต่อวัน เช่น
ยูทิลิตี้ต่างๆ 63 นาที/วัน
อันดับ 3 ใช้เพื่อความบันเทิง ใช้เวลา 42 นาทีต่อวัน
ไปกับการเล่นเกม 20 นาที/วัน มัลติมีเดีย 22 นาที/วัน
อันดับ 4 การจัดการเกี่ยวกับตัวเครื่อง Device
Management ใช้เวลา 27 นาที/วัน
ใช้เกี่ยวกับ Phone Navigation (พิกัดมือถือ) 6นาที/วัน ระบบรักษาความปลอดภัย (กดรหัสล็อกเครื่อง) 21 นาที
อันดับ 5 การค้นหาข้อมูล 21 นาที/วัน
คนไทยแชต/โซเชียลเน็ตเวิร์คสนั่นสุด
เที่ยงและ 6
โมง – 3 ทุ่ม
เมื่อดูพฤติกรรมในการใช้แชต (ไลน์, บีทอล์ก, เฟซบุ๊ก แมสเซนเจอร์) จะกินเวลา 66 นาที/วัน
และโซเชียลเน็ตเวิร์ค (เฟซบุ๊ก) จะอยู่ที่ 40
นาที/วัน
เมื่อแยกช่วงเวลาในการใช้แชตและ VOIP หนักที่สุดในช่วงเวลา
9-11 โมง และมาพีคอีกทีในช่วงกลางคืน ตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึง 3 ทุ่ม
ในขณะที่การโซเชียลเน็ตเวิร์คจะถูกใช้เยอะที่สุดในช่วงเที่ยง และ 2-3 ทุ่ม
จับตาโมบายแบงกิ้ง/เอ็มคอมเมิร์ซมาแรง
ผลสำรวจของนีลเส็น
ยังได้พบพัฒนาการที่น่าสนใจของ “การใช้งานด้านการเงินบนสมาร์ทโฟน” ซึ่งจะเป็นโอกาสในการเข้าถึงของเอ็ม-คอมเมิร์ซในอนาคต
ข้อมูลชี้ให้เห็นว่าการชำระเงินผ่านมือถือ
หรือ mobile payment
(ทรูมันนี่, SCB UP TO ME, M-PAY,เพย์พาล,
อาลีเพย์,ไลน์เพย์)
นั้นมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 100% เมื่อเทียบระหว่างไตรมาสแรกของปี
2015 และ 2016 การช้อปออนไลน์ผ่านมือถือ
(ตลาดดอทคอม, ขายดี, ลาซาด้า, ไลน์ช้อป, วีเลิฟช้อปปิ้ง, อาลีบาบา
รวมทั้งธุรกิจค้าปลีกที่เปิดแอปขายผ่านออนไลน์ เช่น
เทสโก้ โลตัส) มีการเติบโต 57% และการใช้งานในส่วนของ banking,
financial services และ insurance (โมบายแบงกิ้ง)
นั้นมีอัตราเพิ่มขึ้นที่ 39%
“การเติบโตนี้ชี้ชัดถึงการเปลี่ยนแปลงในไลฟ์สไตล์ของคนไทย
ซึ่งมีการใช้งานสมาร์ทโฟนด้านการเงินการธนาคาร และชำระเงินผ่านมือถือ
รวมถึงช้อปปิ้งผ่านมือถือมากขึ้น แสดงให้เห็นถึงการเปิดรับเอ็ม-คอมเมิร์ซมากขึ้น
ทำให้เห็นถึงโอกาสสำหรับตลาดการซื้อขายบนโทรศัพท์มือถือในประเทศไทย
และเป็นโอกาสขององค์กรต่างๆ ในการดึงผู้บริโภคให้เข้ามามีส่วนร่วมบนแพลตฟอร์มนี้
ด้วยการทำให้แพลตฟอร์มนี้รองรับการให้บริการของตนมากขึ้นรวมถึงใช้ช่องทางนี้ในการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า”
ยุวดี กล่าว
“วิธีการที่ดีที่สุดที่จะดึงให้ผู้ใช้เข้ามามีส่วนร่วมก็ยังคงเหมือนเดิม
นั้นคือการทำความเข้าใจแรงผลักดัน
และแรงจูงใจของพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือของผู้ใช้
จากนั้นพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดซึ่งสามารถเข้าถึงแรงผลักดันและแรงจูงใจนั้นๆ
ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากต่อการประสบความสำเร็จ
(เครดิตข้อมูลจาก Positioningmag.com)
บทเรียนความผิดพลาดแบบไม่ได้ตั้งใจของซัมซุง
อาจหมายถึงการสูญเสียมาร์เก็ตแชร์ครั้งยิ่งใหญ่
เป็นข่าวใหญ่ที่ส่งกระทบผู้ใช้สมารท์โฟน
Galaxy Note 7 และกระทบความเชื่อมั่นของแบรนด์ Samsung อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ตั้งแต่เรื่อง Galaxy Note 7
เครื่องระเบิด จนมีการเรียกคืนและผลิตใหม่และจำหน่ายในต่างประเทศอีกครั้งเป็นล็อตที่
2 แต่กลับมีปัญหาลุกไหม้อีก หลายเครื่องซึ่งผิดปกติเมื่อเทียบกับ Galaxy
Note รุ่นอื่นที่ไม่มีปัญหานี้เลย จน Samsung ตัดสินใจเลิกผลิตเครื่องเมื่อ
10 ตุลาคม 2559 ก่อนที่จะประกาศทางการในวันนี้ ( 11 ตุลาคม 2559 ) ว่า Samsung
ยุติจำหน่าย Galaxy Note 7 ทั่วโลก
โดยรายละเอียดประกาศเผยว่าทาง Samsung หยุดจำหน่าย Galaxy
Note 7 ทั่วโลก และหยุดเปลี่ยนเครื่อง Note
7 เครื่องใหม่ด้วย และผู้ที่ได้รับเครื่อง Galaxy Note 7 แล้ว ให้ปิดเครื่อง หยุดใช้งาน แล้วนำเครื่องไปขอรับเงินคืน
หรือรับส่วนลดสำหรับการเปลี่ยนเครื่องเป็น Samsung รุ่นอื่นต่อไป
ขณะเดียวกัน Samsung ก็จะตรวจสอบหาสาเหตุของระเบิดและปัญหาเครื่อง
Galaxy Note 7 ไหม้ต่อ
เพราะความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ซึ่งประกาศนี้อาจส่งผลกระทบให้การส่งมอบเครื่อง
Galaxy Note 7 ในไทยอาจเลื่อนออกไปอีก
(จากเดิมมีกำหนดส่งมอบเครื่องภายในช่วง 30 พฤศจิกายน 2559)
และตอนนี้รอความชัดเจนจากทาง ไทยซัมซุง
ที่จะออกมาตรการชดเชยอย่างไรกับลูกค้าที่สั่งจองเครื่อง
รวมถึงผู้ที่ผ่อนผ่านบัตรเครดิตด้วย แต่ประกาศนี้โอกาสสูงว่า Samsung จะเลิกขาย Galaxy
Note 7 ถาวร
Huawei ยึดอันดับ 3 แบรนด์มือถือโลกเหนียวแน่น ตั้งเป้าแซง Apple
สู่อันดับ 2 ด้าน Samsung ยังครองแชมป์ด้วยส่วนแบ่งกว่า 28.3% ของตลาดโลก!
ในงาน CES
2016 ณ เมืองลาสเวกัส
ประเทศสหรัฐอเมริกา ทางบริษัท Huawei
ได้จัดแถลงข่าวเกี่ยวกับความสำเร็จอีกขั้นของบริษัทด้านส่วนแบ่งทางการตลาดในตลาดมือถือโลก
โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ ชื่อของแบรนด์ Huawei ที่เป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสเปคระดับไฮเอนด์ในราคาย่อมเยาเริ่มเป็นที่รู้จัก
และถูกจดจำมากขึ้นอย่างรวดเร็ว
จากผลการสำรวจด้านส่วนแบ่งทางการตลาดทั่วโลกของบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนในช่วงไตรมาสที่ 3
ปี 2015 ที่ผ่านมา
ปรากฏว่าบริษัท Huawei
มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 9.7% ซึ่งนับเป็นอันดับ 3 รองลงมาจาก
Samsung ผู้ครองตำแหน่งอันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่
28.3%
และบริษัท
Apple ในอันดับที่ 2 โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 11.8% สำหรับบริษัทอื่นๆ ที่รองลงมาได้แก่ OPPO ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 5.3%, Xiaomi มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่
5.2%, Lenovo มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 3.9% และ LG กับ Microsoft
มีส่วนแบ่งการตลาดเท่ากันที่ 2.6%
นอกจากนี้ทาง Huawei
ได้ตั้งเป้าหมายในการขึ้นเป็นอันดับ
2
ของบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดให้ได้
และคาดว่าจะทำสำเร็จในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้อย่างแน่นอน
สำหรับในประเทศไทยเองสมาร์ทโฟนแบรนด์ Huawei ก็เป็นที่รู้จัก
และได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย ด้วยการเป็นแบรนด์ที่ผลิตสมาร์ทโฟนที่มีคุณสมบัติระดับสูง
แต่มีราคาวางจำหน่ายไม่แพงมาก
อีกทั้งยังสามารถตอบสนองทุกความต้องการใช้งานของผู้ใช้
แต่การจะขึ้นเป็นบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดเป็นอันดับ
2 นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า Huawei
จะสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้หรือไม่
Table 1
Worldwide Smartphone Sales to End Users by Vendor in 2Q16
(Thousands of Units)
Company
|
2Q16
Units
|
2Q16 Market Share (%)
|
2Q15
Units
|
2Q15 Market Share (%)
|
Samsung
|
76,743.5
|
22.3
|
72,072.5
|
21.8
|
Apple
|
44,395.0
|
12.9
|
48,085.5
|
14.6
|
Huawei
|
30,670.7
|
8.9
|
26,454.4
|
8.0
|
Oppo
|
18,489.6
|
5.4
|
8,073.8
|
2.4
|
Xiaomi
|
15,530.7
|
4.5
|
15,464.5
|
4.7
|
Others
|
158,530.3
|
46.0
|
160,162.1
|
48.5
|
Total
|
344,359.7
|
100.0
|
330,312.9
|
100.0
|
Source: Gartner (August 2016)
หมายเหตุ ตัวเลขยอดขายในตารางนี้
เป็นตัวเลข ณ สิ้นสุดไตรมาสที่ 2/2016 แต่ก็พอจะคาดคะเนได้ว่าผู้นำของเครื่องโทรศัพท์มือถือของโลกก็ยังคงเป็น
ซัมซุง แต่ผลสะเทือนของการยุติการจำหน่ายและผลิตซัมซุงรุ่น กาแล็คซี่ โน้ต 7
น่าจะมีผลต่อยอดขายรวมทั้งปี และไม่แน่ว่าเร็วๆ
นี้หัวเหว่ยอาจจะแซงหน้าซัมซุงขึ้นไปอยู่บนบัลลังก์แชมป์เครื่องโทรศัพท์มือถือ
ตามที่บทวิเคราะห์ทั่วโลกคาดการณ์กันไว้
อันดับ 9 อาณาจักรฟิตเนสโตไม่หยุด
จากพื้นที่ออกกำลังกายส่วนบุคคล กำลังจะกลายเป็นพื้นที่ออกกำลังทางธุรกิจ
จากข่าวที่ฟิตเนสชื่อดังอันดับ 1
อย่าง California Wow ที่ถูกฟ้อง
ผู้บริหารหลบหนีไป เนื่องจากประสบปัญหาทางการเงิน
ผู้บริหารถูกกล่าวหาว่าฉ้อฉลเงินค่าสมาชิกเข้ากระเป๋าตนเอง ไปซื้อที่ดิน
ทรัพย์สินเก็บไว้ ในขณะที่ไม่พัฒนางานบริการของตนเอง ขาดสภาพคล่องทางการเงิน
ไม่มีเงินจ่ายทั้งค่าเช่าที่ ค่าพนักงานเทรนเนอร์
ไม่สามารถให้บริการสมาชิกได้อย่างคุ้มค่าสมาชิก มีการเก็บเงินค่าสมาชิกรายปี
รายเดือนไปเป็นจำนวนมากแล้วทำไมไม่นำไปพัฒนางานบริการของตน โดยนายแอริค
ผู้บริหารของ California Wow อ้างว่าเป็นเพราะ Major
Cineplex นั่นแหละ ตัวการใหญ่ที่ถอนหุ้นออกจากกิจการไป
ทำให้กระทบฐานะทางการเงินของเขา แต่สุดท้ายแล้วต้องถูกธ.กรุงเทพฟ้องล้มละลาย
ต้องเข้าแผนฟื้นฟูกิจการ กิจการถูกปิดไปแบบถาวร
สมาชิกจำนวนมากสูญเสียเงินค่าสมาชิก เสียหายจากการบริการที่ไม่เป็นธรรม
กลายเป็นข่าวขึ้นหน้า 1 บริษัทถูกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ
ผลพวงจากเรื่องนี้ยังตามมาหลอกหลอนผู้บริโภคคนไทยอยู่จนถึงทุกวันนี้
แต่ด้วยมูลค่าทางการตลาดกว่าหมื่นล้าน
อันหอมหวาน ของธุรกิจฟิตเนสในไทยยังมีช่องว่างทางการตลาด
และตลาดยังสามารถโตได้อีกมาก
เนื่องจากกระแสผู้รักสุขภาพกำลังเป็นเทรนด์ฮิตไปทั่วโลก อีกทั้งปัจจุบันคนรุ่นใหม่
หันมาใส่ใจสุขภาพ และการออกกำลังกายกันเยอะมาก ดังนั้น นอกจากกรณีศึกษาเรื่อง California
Wow จะไม่มีผลกระทบต่อตลาดผู้บริโภคแล้ว
ยังกลายไปเป็นกรณีศึกษาให้ผู้ประกอบการเจ้าอื่น
นำเอาข้อบกพร่องนี้ไปพัฒนาต่อยอดให้ธุรกิจฟิตเนสของตนตอบสนองความต้องการได้อีกด้วย
รูปแบบการออกกำลังกายสมัยนี้
ไม่ได้มีเพียงการเข้าไปวิ่งบนลู่วิ่ง ยกเวท เท่านั้น
ยังมีเรื่องของการเต้นที่ผสมผสานการออกกำลังกายไปด้วยในตัว การเล่นโยคะ
หรือแม้กระทั่งการชกมวย ศิลปะการต่อสู้ในหลายรูปแบบ
ถูกนำมาผสมผสานกับการออกกำลังกายได้หมด และเทรนด์ล่าสุดก็คือการใช้เครื่องมือ
อุปกรณ์ที่ถูกคิดค้น พัฒนาขึ้น ให้คนสามารถเข้าไปเล่นเหมือนสวนสนุก
แต่เป็นการบริหารร่างกายเราไปด้วยในตัว เพื่อให้ไม่รู้สึกเบื่อ
หรือกำลังรู้สึกว่ากำลังออกกำลังกาย เสมือนกำลังเล่นเครื่องเล่น
หรือผจญภัยในสวนสนุกมากกว่า เป็นต้น
ความนิยมในการออกกำลังกายถูกจุดกระแสขึ้นจากบรรดาดารา
เซเลปคนดังในวงการบันเทิงมากมาย ไม่ว่จะเป็น กาละแมร์ พัชรศรี, วู๊ดดี้, ชมพู่
อารยา, นาวินต้าร์, ตุน บอดี้สแลม ,แม้กระทั่งอดีตนักมวยชื่อดังทั้งหลาย
ต่างเปิดยิมฝึกสอนมวย,ค่ายมวย เป็นของตนเอง ฯลฯ
และเมื่อพูดถึงธุรกิจฟิตเนสออกกำลังกายแล้ว มันยังพ่วงเอาธุรกิจที่เกี่ยวข้องตามมาอีกด้วย
อาทิ อาหารเสริม พวกเวย์โปรตีน (ก็เห็นดาราหลายคนฮิตผลิตใส่แบรนด์ของตนเอง
ขายทางอินสตาแกรม กันเป็นล่ำเป็นสัน) หรืออย่างพวกอาหารคลีนฟู้ด
(ทำเป็นเซ็ทเป็นกล่อง มีบริการเดลิเวอร์ลี่ด้วย) เอากันเข้าไป
เป็นที่เอิกเกริกมากในยุคนี้
ดังกรณีข่าวความขัดแย้ง
ของดาราเซเลปตัวแม่ 2 คนคือ
(เจนนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ vs บุ๋ม ปนัดดา เชื้อผู้ดี) เกี่ยวกับปัญหาที่จอดรถของยิมออกกำลังกายของทั้ง
2 คน ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน
สุดท้ายต้องลงเอยด้วยการที่ต้องอัปเปหิ อีกฝ่ายออกไป
โดยยอมเคลียร์จ่ายค่าเสียหายให้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องที่จอดรถไม่พอ
ทับซ้อนกัน (จริงๆ เป็นเรื่องของการแย่งลูกค้ากันมากกว่า)
บุกอาณาจักรฟิตเนส เจนี่
เทียนโพธิ์สุวรรณ 911 by JT
รักการออกกำลังกายจนเปลี่ยนจากหุ่นอวบแก้มซาลาเปามาเป็นตัวแม่หุ่นเป๊ะ
สุดเซ็กซี่ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ เลยอาศัยความรัก ความชอบเปิด สปอร์ตคลับ
911 by JT แต่ระดับตัวแม่ทั้งทีจะเปิดเล็กๆก็ใช่เรื่อง
งานนี้จากสปอร์ตคลับก็กลายเป็นอาณาจักรหุ่นเป๊ะไปเล้ย
The Studio
ห้องสตูดิโอขนาดใหญ่รายล้อมด้วยกระจกรอบห้อง
แถมเกร๋ๆด้วยไฟดาวไลท์และแสงไฟวิบวับที่ช่วยให้สนุกสนานกับการออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น
สิ่งที่เกิดขึ้นในห้องนี้แต่ละอย่างก็มันส์สุดติ่งจริงๆ เลยต้องขอยกคลาสเด็ด
ถูกใจขาแดนซ์มาให้ชม
ZUMBA
กับครูหนุ่ม ยอดชาย ยมะคุปต์ ครูสอนเต้นซุมบ้าที่ฮอตที่สุดในเมืองไทย ณ ขณะนี้ ถามว่าซุมบ้าคืออะไร ก็คือการออกกำลังกายกระชับสัดส่วนด้วยการเต้นในสไตล์ลาติน ที่มีจังหวะหนัก จังหวะเบาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายให้ยิ่งเผาผลาญได้เร็วยิ่งขึ้นและยัวช่วยเพิ่มการทำงานของหัวใจให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมลวดลายการเต้นก็ง่าย ไม่ล้ำลึก 18 ระดับ เผลอๆจบคลาสเต้นได้ท่าโพสต์สุดเซ็กซี่สไตล์สาวลสตินกลับไปเป็นของแถมด้วย ที่สำคัญการเต้น 1 ชั่วโมง ช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากถึง 500 – 1000 kcal เลยนะ
กับครูหนุ่ม ยอดชาย ยมะคุปต์ ครูสอนเต้นซุมบ้าที่ฮอตที่สุดในเมืองไทย ณ ขณะนี้ ถามว่าซุมบ้าคืออะไร ก็คือการออกกำลังกายกระชับสัดส่วนด้วยการเต้นในสไตล์ลาติน ที่มีจังหวะหนัก จังหวะเบาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายให้ยิ่งเผาผลาญได้เร็วยิ่งขึ้นและยัวช่วยเพิ่มการทำงานของหัวใจให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมลวดลายการเต้นก็ง่าย ไม่ล้ำลึก 18 ระดับ เผลอๆจบคลาสเต้นได้ท่าโพสต์สุดเซ็กซี่สไตล์สาวลสตินกลับไปเป็นของแถมด้วย ที่สำคัญการเต้น 1 ชั่วโมง ช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากถึง 500 – 1000 kcal เลยนะ
Piloxing
การออกกำลังกายที่ผสมผสานระหว่าง มวย พิลาธิส และการเต้น เข้าไว้ด้วยกัน 911 JTถึงกับให้นิยามไว้ 3 คำสั้น แต่เชื่อเหอะว่าโดนใจมาก ทั้ง Sleek, Sexy และ Powerful เป็นคลาสที่เบิร์นหนักมาก เห็นผลไว ไม่เพียงแค่น้ำหนักนะที่ลง แต่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อได้ด้วย
การออกกำลังกายที่ผสมผสานระหว่าง มวย พิลาธิส และการเต้น เข้าไว้ด้วยกัน 911 JTถึงกับให้นิยามไว้ 3 คำสั้น แต่เชื่อเหอะว่าโดนใจมาก ทั้ง Sleek, Sexy และ Powerful เป็นคลาสที่เบิร์นหนักมาก เห็นผลไว ไม่เพียงแค่น้ำหนักนะที่ลง แต่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อได้ด้วย
Hulax
เอา ล่ะ เราจะเลิกระบำชาวเกาะแบบนวลๆแบบที่ทำมาตั้งกะวัยเนอสเซอรี่ แล้วเต้นระบำแบบชาวฮาวายให้สะโพกกลม ไร้หน้าท้อง แถมยังไม่ต้องกระโดดให้ทรมานเข่า และที่สำคัญคาร์ดิโอเพลินเลยล่ะ
เอา ล่ะ เราจะเลิกระบำชาวเกาะแบบนวลๆแบบที่ทำมาตั้งกะวัยเนอสเซอรี่ แล้วเต้นระบำแบบชาวฮาวายให้สะโพกกลม ไร้หน้าท้อง แถมยังไม่ต้องกระโดดให้ทรมานเข่า และที่สำคัญคาร์ดิโอเพลินเลยล่ะ
Fusion Yoga Rhythm
ชื่อ ไม่คุ้นเนอะ ก็แหงสิมีที่ 911 by JT ที่แรกและที่เดียวนะ เป็นการผสมระหว่าง การเต้น โยคะ และไทเก๊ก ผสมกันหลายอย่างแบบนี้ให้ผลลัทธ์ด้านไหน ก็ต้องตอบว่า ต้นแขน ต้นขา และก้นเด้งๆ ไงค่ะ แถมล้ำกว่านั้นเมื่อให้ผลด้านผิวพรรณด้วย เนื่องจากช่วยกระตุ้นระบบต่างๆภายในร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้น
ชื่อ ไม่คุ้นเนอะ ก็แหงสิมีที่ 911 by JT ที่แรกและที่เดียวนะ เป็นการผสมระหว่าง การเต้น โยคะ และไทเก๊ก ผสมกันหลายอย่างแบบนี้ให้ผลลัทธ์ด้านไหน ก็ต้องตอบว่า ต้นแขน ต้นขา และก้นเด้งๆ ไงค่ะ แถมล้ำกว่านั้นเมื่อให้ผลด้านผิวพรรณด้วย เนื่องจากช่วยกระตุ้นระบบต่างๆภายในร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้น
สาวๆอย่างเราบางทีก็ไม่ได้อยากเรียนมวยเพื่อทำท่า หนุมานถวายแหวน ให้เป๊ะ
แต่เพราะประโยชน์ของมวยไทยที่ก็รู้กันอยู่ว่าเล่นแล้วหุ่นเฟิร์มได้แบบไม่น่าเชื่อ
เพราะงั้นมันจะเริ่ดเลอกว่าป่ะถ้าเป็น “มวยไทยเพื่อการลดน้ำหนัก” มวยไทยที่ผสมหลักการออกกำลังกายแบบ
HITT ที่สลับจังหวะช้าเร็วอย่างต่อเนื่องภายใน 90 นาที (ไม่เบิร์นให้มันรู้ไป)
ครูมวยจะจัดฐานเพื่อให้เผาผลาญได้มากที่สุดทำให้ผู้ฝึกต้องฟังการให้จังหวะของครูมวยอย่างเคร่งครัด
ช่วงท้ายของการฝึกแต่ละครั้งครูมวยจะจัด เซอร์กิตเทรนนิ่ง
ซึ่งเป็นการออกำลังกายรูปแบบที่เน้นได้ทุกส่วนรวมถึงความแข็งแรงของหัวใจ
และตรงเนี้ยสำคัญก็เพราะจะกระตุ้นให้หัวใจเข้าสู่อัตรา Target Heart Rateที่จะทำให้ร่างกายเผาผลาญต่อเนื่องไปอีก 48 ชั่วโมง
เมื่อร่างกายผ่านการฝึกฝนในระดับเบื้องต้น และสอบผ่าน
เขาก็มีระดับมาเนียร์รออยู่ โดยจะเป็นคลาสที่สอนตามความสามารถทางมวยของผู้เรียน
แถมยังแอดวานซ์จัด มวย H.I.T.T
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเบิร์นให้หนักหน่วงไปอีก อ้อ!
คลาสไพรเวทก็มีนะ เขาจะคำนวณให้เสร็จสรรพว่า ควรต้องเบิร์นเท่าไหร่ กินแค่ไหน
น้ำหนักถึงจะลดได้ตามเป้า ดีใช่ไหมล่ะ
The Bloc
การออกกำลังกายแนวใหม่ที่ทั้งเซ็กซี่ ร้อนแรง และสนุกสนาน
TRAMPOLINE
เคลื่อนไหวบนแทรมโพลีนให้สุดเหวี่ยงมือจับแฮนด์ให้มั่นไม่ต้องกลัวว่าจะล้ม
ไม่ต้องกลัวว่าเข่าจะพัง เพราะการออกกำลังกายแบบนี้ต่อให้โลดเต้นบิดเกลียว 16 ครั้ง
จบด้วยการเอาเข่าลง ก็ไม่สะท้านเพราะเป็นการออกกำลังกายแบบซับแรง
แต่เผาผลาญหนักมาก ชั่วโมงนึงได้ 800 – 1000 kcal แค่ฟังก็กรี้ดแล้ว
ยิ่งเจอครูฝึกกระตุ้นทั้งจังหวะเพลงและแรงใจ แค่มองก็เหนื่อยแทนคนเล่นแล้ว
การกระโดดบนแทรมโพลีนนอกจากจะได้ความเฟิร์มของต้นขาแล้ว หน้าท้องก็ตามมาด้วย
ตามแรงแกร็งหน้าท้องที่ฮึบไว้ตลอดกรเต้น
Shape
พิลาทิสก็ว่าเซ็กซี่แล้ว แต่พิลาทิสบนเก้าอี้มันเซ็กซี่ขั้นกว่าจริงๆ แถมทำได้ง่ายๆ แต่ยังคงกระชับทุกสัดส่วนเหมือนเดิม
พิลาทิสก็ว่าเซ็กซี่แล้ว แต่พิลาทิสบนเก้าอี้มันเซ็กซี่ขั้นกว่าจริงๆ แถมทำได้ง่ายๆ แต่ยังคงกระชับทุกสัดส่วนเหมือนเดิม
นอกจากในส่วนของการออกำลังกายแล้ว
หุ่นจะปัง สุขภาพจะดี ได้ก็ต้องมีเรื่องอาหารการกินเข้ามาส่งเสริม
ไม่อย่างนั้นเราไม่เรียกว่า อาณาจักรหุ่นเป๊ะหรอก
Calories Project
ร้านขายอาหารและธัญพืช รวมถึงของออร์แกนิค
ทั้งหมดในร้านเป็นอาหารที่แคลต่ำ แถมยังปลอดสาร จะหยิบชิ้นไหนขึ้นมา
ชีวิตก็ดีทั้งนั้น แม้แต่ข้าวกล่องที่ร้านจัดเซตไว้ก็ควบคุมไม่ให้เกิน 400 kcal พร้อมกำกับโปรตีน
ไขมัน ไว้อย่างครบถ้วน ออกกำลังกายมาเหนื่อยๆก็กินได้ไร้กังวล
The Coffee Society
ร้านน้ำสมูทตี้ กาแฟ โกโก้ และชา มีตามปกติ ที่เพิ่มเติมคือ Super Food ที่ผสมลงไปให้ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าต้องการบำรุงในด้านไหน
ร้านน้ำสมูทตี้ กาแฟ โกโก้ และชา มีตามปกติ ที่เพิ่มเติมคือ Super Food ที่ผสมลงไปให้ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าต้องการบำรุงในด้านไหน
อย่างแก้วเนี้ย กล้วย โยเกิร์ตไขมันต่ำ อาซาอิ และเมล็ดเจีย
สอง Super Food ที่ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง เร่งการเผาผลาญ ลดความอยากอาหาร
ทำให้อิ่มท้องได้นาน แก้วนี้ราคา 180 บาท
นอกจากอาหารยังมีอย่าgงอื่นให้ทำไม่ว่าจะเป็น Pro
Stream ล้างรถด้วยไอน้ำที่ไม่ต้องให้ช่างมาขัดถูรถคันโปรดให้เป็นรอย
หรือจะตัดผมเท่ๆสไตล์แมนๆที่ Never Say Cutz ร้านตัดผมของหนุ่มฮิปฮอป
เวย์ ไทเทเนี่ยม และนวดคลายเมื่อที่ เสือเบอร์ตอง
ไหนๆก็พูดเรื่องออกกำลังกายล่ะ ขอแถมเรื่อง Gadget ที่พ่วงเอาแฟชั่น
มาไว้ด้วยกันอย่าง ACTIVITY TRACKING JEWELRY จาก SWAROVSKI
ที่หน้าตาก็เข้าที่ มีความแววาว
ใส่ออกกำลังกายเกร๋ๆแบบว่าฉันนั้นรวยมาก แถมยังทำได้ทั้ง นับก้าว นับแคล
วิเคราะห์การนอน ได้ด้วย
เทรนด์สุขภาพบูมจัด
ส่งผลธุรกิจฟิตเนสมูลค่าเกือบหมื่นล้านบาทเฟื่องตาม ผุดกว่า 1,000
แห่งในไทย ทั้งแบรนด์ใหญ่จากต่างประเทศ หรือแบรนด์โลคอลต่างโหมกระหน่ำดึงลูกค้า
จับตาเกมรุก “เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ” ที่จะเข้ามาท้าชนเจ้าตลาดอย่างฟิตเนสเฟิรส์ท
โลคอลแบรนด์ใหม่อย่าง “เอ็มฟิตเนส” ที่ลุกขึ้นมาปั้นแบรนด์อย่างจริงจัง
แนวใหม่อย่างแทรมโพลีนของแบรนด์ “บ๊าวซ์” ที่เข้ามาทำตลาดในไทยเมื่อปีที่แล้ว
ก็เตรียมบุกตลาดมากขึ้น
เทรนด์สุขภาพยังคงมาแรง
และกระจายไปหลายธุรกิจมากขึ้นทั้งอาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้า
ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกาย หรือฟิตเนสกลับมาบูมขึ้นอีกครั้ง
ผู้บริโภคหันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น
จะเห็นได้ว่าแต่ก่อนมีแบรนด์ฟิตเนสรายใหญ่เพียงไม่กี่แบรนด์
และบางแบรนด์ก็ล้มหายตายจากไปจากประเทศไทย เพราะปัจจัยหลายๆ อย่าง
แต่ทว่าในปัจจุบันมีแบรนด์ฟิตเนสเกิดขึ้นมากมายทั้งแบรนด์อินเตอร์ที่เข้ามาตีตลาดในไทย
และแบรนด์โลคอลท้องถิ่นที่ลุกขึ้นมาทำตลาดเอง
หรือเหล่าบรรดาเซเลบริตี้ก็หันมาทำฟิตเนสเองด้วยเช่นกัน
4 แบรนด์ใหญ่ครองตลาด 90%
มีการประเมินตลาดฟิตเนสในปีนี้มีมูลค่าราว
9,000 ล้านบาท มีการเติบโต 9-10%
จากการสำรวจตลาด พบว่า ในประเทศไทยมีฟิตเนสที่จดทะเบียนราว 1,000
แห่ง แต่เป็นแบรนด์ใหญ่ที่มีสาขาทั่วประเทศเพียงแค่ 4 แบรนด์ ได้แก่ ฟิตเนส เฟิรส์ท, เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ,
ทรูฟิตเนส และวี ฟิตเนส มีสาขารวมกันกว่า 40 สาขา
มีมูลค่าการลงทุนมหาศาลคิดเป็น 90% ของมูลค่าตลาด
ส่วนสาขาที่เหลือ 900 สาขา เป็นฟิตเนสของผู้เล่นโลคอล
รายงานของ International
Health Racquet & Sports Club Association ปี 2558 พบว่าสัดส่วนของประชากรไทยที่ใช้บริการฟิตเนสมีเพียง 0.6% ของประชากร
ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับตัวเลขค่าเฉลี่ยของชาติในทวีปเอเชียที่ 8% โดยที่ประเทศสิงคโปร์ที่มี 8%
และออสเตรเลีย 13% เทรนด์พฤติกรรมของคนไทยได้หันมาดูแลสุขภาพร่างกาย
และรูปร่างของตนเองมากยิ่งขึ้น ส่งให้ธุรกิจฟิตเนสในประเทศไทยยังมีแนวโน้มการเติบโตได้อีกมาก
เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ เปิดแนวรบใหม่
ล่าสุด
แบรนด์ “เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ”
ได้เข้าท้าชนเจ้าตลาดอย่างฟิตเนสเฟิรส์ท
รวมถึงแบรนด์โลคอลแบรนด์ใหม่อย่าง “เอ็มฟิตเนส” ที่ลุกขึ้นมาปั้นแบรนด์อย่างจริงจัง
พร้อมขยายสาขา หรือธุรกิจการออกกำลังกายแนวใหม่อย่างแทรมโพลีนของแบรนด์ “บ๊าวซ์”
ที่เข้ามาทำตลาดในไทยเมื่อปีที่แล้ว ก็เตรียมบุกตลาดมากขึ้น
ในส่วน “เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ” เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ใหญ่ที่เป็นเชนจากต่างประเทศ
มีอายุกว่า 20 ปี มีสาขา 10 ประเทศ
และได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยได้ 2 ปี ปัจจุบันมีทั้งหมด 4
สาขา ได้แก่ ตึกเอ็มไพร์, เอ็มควอเทียร์,
เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต และล่าสุดที่สยามดิสคัฟเวอรี่
เมื่อเทียบระหว่างไทยและต่างประเทศ
เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ พบว่า สมาชิกแอ็กทีฟรายสัปดาห์ของไทยจะใช้บริการเฉลี่ย 4 ครั้ง/คน
ในขณะที่ประเทศอื่นๆ จะเข้าคลับเฉลี่ย 2 ครั้ง/คน
นอกจากนี้พฤติกรรมคนไทยชอบเล่นฟิตเนสกับกลุ่มเพื่อน และมีการเข้าคลาสราว 70%
ต่างจากประเทศอื่นที่มีพฤติกรรมต่างคนต่างเล่น
จึงมีการแอ็กทีฟน้อยกว่า
เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ
มองว่าโอกาสในการขยายธุรกิจยังมีอยู่มาก เพราะคนไทยยังเป็นสมาชิกฟิตเนสน้อย
จึงตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มให้ครบ 20 สาขาภายใน 6 ปี
เน้นทำเลศูนย์การค้า อาคารสำนักงานเป็นหลัก ด้วยงบลงทุนรวม 5,200 ล้านบาท เฉลี่ยลงทุนสาขาละ 300 ล้านบาท
ซึ่งสาขาจะมีขนาดใหญ่ขึ้น
เนื่องจากโจทย์ใหญ่ของเวอร์จิ้น
แอ็คทีฟไม่ต้องการจำกัดของการเป็นแค่ “ฟิตเนส” อย่างเดียว
แต่ต้องเป็น “ไลฟ์สไตล์แบรนด์” ด้านอื่นๆ
ทั้งการออกกำลังกาย ทำงาน พักผ่อน
ด้วยการวางโพสิชันในแบบพรีเมียมเพื่อสร้างความแตกต่าง โดยออกแบบคลับ
และเสริมบริการต่างๆ มีสระว่ายน้ำ หน้าผาจำลอง รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ
เช่นเสื้อผ้า ผ้าขนหนู เพื่อต้องการสร้างความแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ
ด้วยการเป็นพาร์ตเนอร์กับแบรนด์ปัญญ์ปุริ
ผลิตภัณฑ์ชำระร่างกาย และบำรุงผิวสำหรับใช้ในห้องน้ำ และแบรนด์กีฬา Under Armour ในการเป็นโคแบรนด์ทำเสื้อผ้าใส่ในคลับ
และมีชอปภายในคลับ
แมทธิว บัคนาลล์ กรรมการผู้จัดการใหญ่
และผู้ก่อตั้งเวอร์จิ้น แอ็คทีฟ บอกว่า “เราถือว่าเป็นน้องใหม่ในตลาดฟิตเนสในประเทศไทย
เพราะได้ทำตลาดมา 2 ปี
โดยหลังจากทำวิจัยแล้วพบว่า คนไทยสนใจดูแลสุขภาพมากขึ้น แต่เป็นสมาชิกฟิตเนสน้อย
ทำให้ยังมีโอกาสอีกเยอะ
ยิ่งเห็นตัวเลขการเข้าคลับของคนไทยที่มีความถี่มากกว่าประเทศอื่น ทำให้ยิ่งมีการเติบโตสูง
ใน 3 สาขาที่เปิดบริการไปแล้วนั้น มีสมาชิกรวมกว่า 11,400
คน แบ่งเป็นที่ตึกเอ็มไพร์ 4,700 คน
เอ็มควอเทียร์ 4,000 คน และเซ็นทรัล เวสต์เกต 2,700 คน ในสาขาใหม่ๆ ที่จะเปิดได้ตั้งเป้าว่าจะต้องมีสมาชิกไม่ต่ำกว่า 3,000
คน
“เอ็ม ฟิตเนส” ฟิตเนสแบรนด์โลคอล
เจาะกลุ่มชุมชน
สำหรับเอ็ม
ฟิตเนส แบรนด์ฟิตเนสของคนไทย วางแผนลงทุนเปิด 10 สาขา
ภายใน 5 ปี จากปัจจุบันที่เปิดมาแล้ว 2 ปี มี 3 สาขา ได้แก่ มหาชัย, พระราม
2 และตากสิน แต่ละสาขาค่อนข้างอยู่นอกตัวเมือง
เพราะเป็นกลยุทธ์หลักของแบรนด์ ด้วยความที่เป็นแบรนด์เล็ก
จึงนำแบรนด์เข้าไปหาผู้บริโภคตามชุมชนต่างๆ
รูปแบบฟิตเนสจึงเป็นแบบสแตนอโลนติดริมถนน และเลือกโลเคชันที่มีชุมชน
โดยที่จะมีการดีไซน์ให้เข้าแต่ละพื้นที่แตกต่างกันออกไป แต่ละยิมจะมีพื้นที่เฉลี่ย
400-1,200 ตารางเมตร
วิสุทธิ์ สุระเฉลิมกูล
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม ฟิตเนส จำกัด กล่าวว่า กลยุทธ์หลักคือเลือกเอายิมเข้าไปใกล้กับกลุ่มคน
ใกล้ที่พักอาศัย และที่ทำงาน มีต้นทุนการก่อสร้างที่ต่ำ
ทำให้โลเคชันเป็นการตลาดไปในตัว เลือกติดริมถนนใหญ่
ลูกค้าสามารถนั่งรถผ่านแล้วเห็นได้ง่าย ทำให้คนได้เห็น มีป้ายเด่นชัด ให้เห็นบรรยากาศ
และให้ลูกค้ารู้สึกว่าไม่ต้องเดินทางไกลต่างจากแบรนด์อื่นที่ต้องเข้าไปอยู่ในชอปปิ้งมอลล์
และในปัจจุบันกระแสรักสุขภาพ หรือข่าวดาราก็มีส่วนช่วยทำพีอาร์ให้
ทำให้ฟิตเนสเป็นที่สนใจของผู้คน คนรุ่นใหม่เข้าใจฟิตเนสแล้ว
เป็นโอกาสและจุดแข็งทำให้ตลาดเติบโต
โดยที่ 3 สาขาของเอ็มฟิตเนสมีหลักการเลือกสถานที่แตกต่างกัน
สาขามหาชัย ริมถนนเอกชัย-บางบอน วิสุทธิ์บอกว่าตอนนั้นยังไม่มีฟิตเนสละแวกนั้น
คนจะเล่นฟิตเนสต้องขับรถออกไป เลยยกฟิตเนสเข้าไปใกล้เขา สาขาถนนพระราม 2 ตอนนั้นก็ยังไม่มีฟิตเนสที่เห็นเด่นชัด เลยทำเป็นรายแรกที่ติดถนนใหญ่
และสาขาตากสิน แยกมไหสวรรค์ เลือกที่ตั้งให้อยู่ตรงข้ามกับชุมชน
ภายในสิ้นปีนี้ตั้งเป้ามีรายได้รวม 20 ล้านบาท และไปถึง 100
ล้านบาท ให้ได้ภายในในปี 2018 มีแผนขยายสาขาเพิ่มเติมอีก
10 สาขา ภายใน 5 ปี
ซึ่งจะมีทั้งรูปแบบการลงทุนเองทั้งหมด และการร่วมลงทุนกับนักลงทุนที่สนใจ
โดยการลงทุนแต่ละสาขาใช้เงินลงทุนประมาณ 9 -25 ล้านบาท
และตั้งเป้ามีฐานสมาชิกได้กว่า 5,000 ราย
“บ๊าวซ์” ปลุกกระแสแทรมโพลีนในไทย
แม้จะไม่ใช่ตลาดฟิตเนสโดยตรง
แต่บ๊าวซ์ก็ได้รับอานิสงส์จากกระแสการออกกำลังกายในประเทศไทยเช่นกัน หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับคำว่าแทรมโพลีน
เพราะค่อนข้างใหม่สำหรับในประเทศไทย เป็นการออกกำลังกายแนวใหม่ แต่หลังจากที่ “บ๊าวซ์” ได้ทำตลาดมาแล้วเกือบ 1 ปีเต็ม
การบุกตลาดอย่างต่อเนื่องคงเป็นคำตอบอย่างดีสำหรับผลตอบรับในประเทศไทย
“บ๊าวซ์ ประเทศไทย” เริ่มเปิดสาขาแรกเมื่อปลายปี
2558 ที่ห้างเดอะสตรีท รัชดาฯ ด้วยพื้นที่ 5,600 ตารางเมตร ใช้งบลงทุนพร้อมค่าไลเซนส์รวม 300 ล้านบาท
วางจุดยืนเป็นแทรมโพลีนพาร์คระดับพรีเมียม ซึ่งจัดอยู่ในธุรกิจสปอร์ตเทนเมนต์
เป็นการออกกำลังกายเพื่อความสนุกสนาน ถือว่าเป็นธุรกิจใหม่ในประเทศไทย
ยังไม่มีมูลค่าตลาดที่ชัดเจน ตลาดนี้ไม่ได้เป็นคู่แข่งของฟิตเนสโดยตรง
เพราะจุดประสงค์ในการเล่นแตกต่างกัน
แต่จะเป็นการเสริมตลาดซึ่งกันและกันจากการออกกำลังกาย
เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ
การเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยจึงเลือกเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นโรงเรียนนานาชาติ
เพราะจะมีความคุ้นเคยและรู้จักกับแทรมโพลีนอยู่แล้ว
ซึ่งลูกค้ากลุ่มหลักของบ๊าวซ์เป็นกลุ่มเด็กราว 80%
จากนั้นจึง “สร้างกระแส” โดยใช้สื่อโซเชียลมีเดีย
และเซเลบริตี้ เพื่อให้คนที่ไม่เคยรู้จัก ได้รู้จักบ๊าวซ์ และแทรมโพลีนมากขึ้น
ประกอบกับการเลือกโลเคชันที่อยู่ในศูนย์การค้า
เพราะพฤติกรรมคนไทยมักใช้เวลาว่างในการเดินศูนย์การค้า และเดินทางสะดวกด้วย
“มาร์ค จอบบลิงค์” ประธานบริษัท
เบ๊าซ์อิงค์ (ไทยแลนด์) จำกัด บอกว่า การที่ บ๊าวซ์
ได้รับความนิยมขึ้นมาก็เป็นเพราะคนไทยสนใจสุขภาพมากขึ้น
และหันมาเล่นกีฬาแบบเอ็กซ์ตรีมมากขึ้น รวมถึงในยุคดิจิทัลที่เด็กๆ
อาจจะติดเกมหรือเชียลมีเดีย ทำให้พ่อแม่ต้องหากิจกรรมอื่นๆ เพื่อดึงดูดความสนใจ
จากสาขาแรกที่เดอะสตรีทสามารถทำรายได้
13-15 ล้านบาทต่อเดือน ในไตรมาสแรกของปี 2559 มีรายได้แล้ว
40 ล้านบาท ทำให้บ๊าวซ์ต้องรีบรุกตลาดมากขึ้นในขณะที่เหล็กยังร้อน
เล็งที่จะเปิดอีก 2 สาขาในปีนี้ที่ ดิ
เอ็มควอเทียร์ในเดือนกันยายน และเซ็นทรัลบางนาในเดือนธันวาคม
พร้อมโซนกิจกรรมใหม่ด้วยงบลงทุนรวม 250 ล้านบาท
สาขาดิเอ็มควอเทียร์มีพื้นที่ 2,000 ตารางเมตร
ใช้งบลงทุน 80 ล้านบาท และที่เซ็นทรัลบางนาพื้นที่ 3,000
ตารางเมตร ใช้งบลงทุน 150 ล้านบาท
และเปิดโซนกิจกรรมสนาม “เอ็กซ์พาร์ค” ที่สาขาเดอะสตรีทเพิ่มเติม เพื่อเป็นโซนสำหรับดึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ
คือกลุ่มวัยรุ่น และเพื่อให้ลูกค้าได้ใช้เวลาอยู่ในบ๊าวซ์นานขึ้น ใช้งบลงทุน 20
ล้านบาท
จากนั้นในปี 2560 หรือปีหน้าค่อยขยายไปยังต่างจังหวัด
สาขาแรกที่ได้เห็นจะเป็นที่เซ็นทรัลโคราช พื้นที่ 2,000 ตารางมเตร
เปิดในช่วงเดือนกันยายน และมองทำเลต่อไปก็คือราชพฤกษ์ เจริญนคร และขอนแก่น
กำลังอยู่ในช่วงกำลังพูดคุยกันอยู่
บ๊าวซ์ตั้งเป้ารายได้รวมในปีหน้า 400 ล้านบาท
แบ่งเป็นสาขาเดอะสตรีท 200 ล้านบาท เอ็มควอเทียร์ 100
ล้านบาท และเซ็นทรัลบางนา 100 ล้านบาท
และต้องมีการเติบโตเฉลี่ย 20% ในทุกปี
อันดับ 8 พรีเซ็นเตอร์แห่งปี 2016
หากจะเอาที่สุดของพรีเซ็นเตอร์
และงานอีเว้นต์ตัวจริงของจริงฝ่ายหญิงปีนี้คงต้องยกให้ ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์
เพราะโดดเด่นที่สุด ทั้งงานอีเว้นต์ โชว์ตัว,งานโฆษณาสินค้า,การเป็นพรีเซ็นเตอร์
เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ให้กับสินค้ามากมาย ส่วนที่เบียดมาคู่คี่ก็คือใหม่ ดาวิกา
โฮร์เน่ (ซึ่งเป็นแชมป์เก่าของปีที่แล้ว) ส่วนฝ่ายชายนั้นจะดูยากซักหน่อย
เพราะกระจายหลากหลายมาก ถ้าเป็นงานอีเว้นต์ โชว์ตัว เบียดๆ กันระหว่าง มาริโอ้
เจมส์จิ ณเดชณ์ ดีเจพุฒิ ต่อธนภพ แต่หากจะเอางานนอก โกอินเตอร์ด้วย และโดยรวมๆ
มีถ่ายแบบโฆษณา เดินแบบ โชว์ตัว รวมๆ ก็ต้องยกให้มาริโอ้ เมาเร่อ จริงๆ ในปีนี้
เหตุเพราะว่ามาริโอ้ แทบไม่มีผลงานทางด้านการแสดงเลยในปีนี้ (มีภ.ไทยเรื่อง Take Me Home สุขสันต์วันกลับบ้าน,กำลังถ่ายละคร 2 เรื่องคือ บัลลังก์ดอกไม้,บ่วงบรรจถรณ์ รอออนแอร์ปี 60 และมีไปถ่ายซีรีส์ที่จีน) แต่กลับมีงานอีเว้นต์
และโชว์ตัว เป็นพรีเซ็นเตอร์ โดดเด่นมากในปีนี้ ฝ่ายชายจึงยกให้ มาริโอ้
นำโด่งมาคนเดียว
มาริโอ้ เมาเร่อร์ (ฝ่ายชาย)
เคียงคู่ ญาญ่า อุรัสยา
เสปอร์บันด์ (ฝ่ายหญิง)
โฆษณาที่มาริโอ้ เมาเร่อร์ รับเป็นพรีเซ็นเตอร์ในปีนี้ ได้แก่
·
Gatsby Moving Rubber ให้ผู้ชายทุกคน
"เปลี่ยนสู่ความเท่ขั้นสุด" (ปี 2559)
·
iamkoncept (ปี 2559)
·
คาลพิสแลคโตะให้ด้วยใจไปกับ "มาริโอ้" (ปี 2559)
·
Koncept Mario (ปี 2559)
·
Nissin "Eco Cup" (ปี 2559)
·
ทูตการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ปี3 (ปี2559)
·
รถจักรยานยนต์ Honda Click 125i (ปี 2559)
·
แป้ง AA แมทท์คูชั่น (ปี 2559)
·
ครีมอาบน้ำ Be Nice ฟรุ๊ตเอสเซ้นส์ (ปี 2559)
·
ยาลดไข้บรรเทาปวด ซาร่า (ปี 2559)
·
สมาร์ทโฟน ZTE รุ่น AXON 7 (ปี 2559)
·
Koncept เลิฟซีนของโอ้ (ปี 2559)
·
UnicefBasketOfHope (ปี 2559)
ยังไม่นับงานถ่ายโฆษณา
เดินแบบที่ประเทศจีนและฟิลิปปินส์
โฆษณาที่ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์
รับเป็นพรีเซ็นเตอร์ในปีนี้ รับไปเบาๆ กว่า 33 ตัวแล้ว
ยังไม่หมดปี ได้แก่
เยลลี่
ตราโยโย่
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ยำยำ จัมโบ้ รสต้มยำรสกุ้ง,ต้มยำกุ้งรสน้ำข้น
แบรนด์รังนกแท้
แคมเปญตรุษจีน ร่วมกับ หมีเซียะ
เครื่องสำอางเมย์เบลลีน
นิวยอร์ก แป้งเคลียร์สมูท ออลอินวัน
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
มีพลัส
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ยำยำ จัมโบ้ รสต้มยำทะเลหม้อไฟ
มันฝรั่งทอดกรอบเลย์ ชุด เลย์สไมล์ ยิ้ม แชร์ ชิง
เครื่องแต่งกายมิสตี้
มิงซ์
คอนโดมิเนียมวิสซ์ดอม
มันฝรั่งทอดกรอบเลย์ รสฮันนี่บัตเตอร์และป็อปคอร์นคาราเมล
เครื่องสำอางเมย์เบลลีน
นิวยอร์ก เบบี้ ลิปส์ บลูม
แบรนด์รังนกแท้ ชุด ปรากฏการณ์ The
Eternal Proof บทพิสูจน์ความเป็นตลอดกาล ร่วมกับ หลี่เหลียงเหว่ย
(ติงลี่)
เครื่องสำอางเมย์เบลลีน
นิวยอร์ก บาร์บี้ มาสคาร่า
เครือข่ายบริการทรูมูฟ
เอช แพ็กเกจย้ายค่าย
ชุดเปิดซิมยกก๊วน 3G
เครือข่ายบริการทรูมูฟ
เอช แพ็กเกจย้ายค่าย
ชุดซิมดับแน่นอนค่ะ
สายการบินบางกอกแอร์เวย์ ชุด
เก็บความรู้สึกพิเศษ...ในทุกการเดินทางกับบางกอกแอร์เวย์
สายการบินบางกอกแอร์เวย์
ชุด ชุด FlyerBonus
สายการบินบางกอกแอร์เวย์ ชุด Lounge
สายการบินบางกอกแอร์เวย์ ชุด In-Flight
คอนโดมิเนียมวิสซ์ดอม
ผลิตภัณฑ์แชมพูและครีมนวดผมแพนทีน
แบรนด์รังนกแท้ ชุด
รักของแม่เอาชนะได้ทุกอย่างแม้แต่มะเร็ง
ครีมบำรุงผิวหน้าพอนด์ส ชุด
ไวท์เทนนิ่งที่ดีที่สุดของพอนด์ส
เซเว่น
อีเลฟเว่น ชุด แสตมป์เพื่อนที่รู้ใจ
ครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ
ผ้าอนามัยลอรีเอะ
เครื่องแต่งกายมิสตี้
มิงซ์
ครีมบำรุงผิวหน้าพอนด์ส ชุด แบบไหนที่ใช่คุณ
มันฝรั่งทอดกรอบเลย์ เลย์ทรีดีและเลย์เน็ต
เครือข่ายบริการทรูมูฟ
เอช
แบรนด์รังนกแท้ เคล็ดลับที่เราเชื่อหมดใจ
ครีมบำรุงผิวหน้าพอนด์ส
เซเว่น
อีเลฟเว่น ชุด ของพรีเมี่ยมรอบ 2
(อ้างอิงข้อมูลจาก วิถีพีเดีย
สารานุกรมออนไลน์)
บทวิเคราะห์และเรียบเรียงโดย หยิกแกมหยอก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น