คุณผู้อ่านเคยสงสัยมั๊ยว่า
เหตุใดค่าเงินทุกสกุลบนโลกนี้ ที่ไม่ใช่เงินสกุลหลักของโลก (ดอลล่าร์ ปอนด์ เยน
ยูโร หยวน) มันถึงได้คงที่ ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงบ่อยหรือมากนัก แต่กับเงินสกุลหลัก
โดยเฉพาะเงินดอลล่าร์ มันถึงได้สวิงเปลี่ยนแปลงค่าได้บ่อย (เงินสกุลอื่นที่ไปอิงค่ากับเงินสกุลหลักก็จะผันผวนตาม) และรวดเร็ว
มันต้องมีสาเหตุปัจจัย รวมถึงราคาของสินค้าประเภทโภคภัณฑ์ต่างๆ ด้วย (น้ำมัน ทอง
เหล็ก เงิน ฯลฯ) แล้ววันดีคืนดี เหตุใดหุ้นตกกันระเนระนาดทั่วโลก
โดยอ้างค่าเงินบ้างหล่ะ เศรษฐกิจโลกบ้างหล่ะ น้ำมันขึ้นลงบ้างหล่ะ
การขึ้นหรือลงของดอกเบี้ย Fed ,หนี้สาธารณะเพิ่มบ้างหล่ะ ไม่สามารถใช้หนี้ได้ทันตามกำหนด ต่างๆ เหล่านี้ แล้วทำไมจึงเกิดวิกฤติค่าเงินในหลายประเทศ
เหตุใดเงินดอลล่าร์จึงท่วมโลก ราคาน้ำมันทำไมจึงลดฮวบฮาบดิ่งเหว
ทั้งหมดเกิดจากกลไกธรรมชาติงั้นหรือ หรือมีใครกำลังควบคุมระบบทุกอย่างให้เป็นไปในทิศทางที่ตนเองต้องการ
(คำโบราณที่อธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจ ก็คือ เล่นแร่แปรธาตุนั่นเอง) ก่อนอื่นอยากให้ไปลองอ่านบทความที่คุณทนง ขันทอง นักข่าวอาวุโสของสำนักข่าวเนชั่น
ได้เขียนวิเคราะห์เอาไว้อย่างน่าสนใจก่อน เกี่ยวกับสงครามเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐ
กับจีน แล้วจะเข้าใจภาพกว้างของมูลเหตุ ต้นตอว่ามันมาจากอะไร แล้วท่านผู้อ่านก็จะพอจะเข้าใจได้บ้างว่า
กำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้ ถามว่าแล้วเมื่อช้างสารชนกัน หญ้าแพรกอย่างประเทศเราจะแหลกราญมั๊ย
คำตอบอยู่ในใจของปุถุชนโดยทั่วไปแล้ว
จีนโต้กลับในสงครามการเงินที่ร้อนระอุ
ภาพที่คนทั่วไปเข้าใจจากนักวิเคราะห์หรือสื่อของฝรั่งคือ จีนกำลังย่ำแย่ทางเศรษฐกิจและการเงิน ไหนจะตลาดหุ้นแครช (ล้มระเนระนาด) ไหนจะส่งออกทรุด ไหนจะอสังหาริมทรัพย์ย่ำแย่ ไหนจะจีดีพีร่วง จึงจำเป็นต้องลดค่าเงินหยวนอย่างรุนแรงเพื่อที่จะหวังพึ่งพาการส่งออกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ความจริงเป็นเช่นนั้นหรือ?ต้องเข้าใจว่าจีนและสหรัฐกำลังซัดกันอยู่ในสงครามการเงิน เป็นการต่อสู้ระหว่างเจ้าหนี้จีนและลูกหนี้สหรัฐ โดยที่จีนมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมากที่สุดในโลกถึงเกือบ$4ล้านล้าน และสหรัฐแทบจะไม่มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศเพราะว่ามีแต่หนี้เงินหยวน แต่มีทองคำมหาศาลหนุน ในขณะที่ดอลล่าร์มีแต่instrumentsหรือตราสารการเงินที่เป็นกระดาษหนุน จีนมีภาคการผลิต ในขณะที่สหรัฐอยู่ได้ด้วยการก่อหนี้เพื่อที่จะบริโภค ปัจจัยพื้นฐานต่างกันโดยสิ้นเชิง ที่สหรัฐได้เปรียบอยู่เรื่องเดียวคือมีดอลล่าร์เป็นเงินสกุลหลักของโลก และสามารถก่อหนี้ได้โดยไม่มีความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน สหรัฐก่อสงครามการเงินก่อน โดยใช้ลูกไม้เดิมๆ คืออัดฉีดดอลล่าร์เข้าไปในเศรษฐกิจจีน เพื่อสร้างฟองสบู่การเงิน โดยมีนักลงทุนจีนเล่นตามน้ำ ทำให้หุ้นจีนพุ่ง 150%ในช่วงหนึ่งปีกว่าๆที่ผ่านมาก่อนที่ถอนการลงทุนดอลล่าร์กลับอย่างกระทันหัน เพื่อทำให้หุ้นจีนแครชในกลางเดือนมิถุนายน โดยตกไปแล้วประมาณ30% จีนตอบโต้ด้วยการถล่มไซเบอร์ระบบคอมฯของลาดหุ้นนิวยอร์ค สายการบินUnitedและสื่อ Wall Street Journalตามด้วยการห้ามนักลงทุนที่ถือหุ้นเกิน5%ขายหุ้นออกมาในระยะ6เดือนข้างหน้า เพื่อดัดหลังกองทุนฝรั่งที่เข้ามาถล่มตลาดหุ้นจีน ทำให้กองทุนฝรั่งติดหุ้นบนดอยตลาดหุ้นจีนอย่างน้อย$1ล้านล้าน จากมูลค่าตลาดรวมของจีน$7ล้านล้านเวลานี้ เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงแน่นอน แต่มันก็หมายความว่าเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของทุกประเทศต้องชะลอลงไปด้วย แต่จีนชะลอตัวจากฐานที่สูงคือจีดีพีที่โตระดับ6-7% เทียบกับเศรษฐกิจของสหรัฐที่น่าจะไม่โตเลยแต่มีการปั่นตัวเลขเพื่อสร้างภาพเศรษฐกิจฟื้น เพื่อหนุนดอลล่าร์ให้แข็ง และเพื่อให้เฟดอ้างเหตุในการขึ้นดอกเบี้ยให้ดอลล่าร์ยิ่งจะแข็งขึ้นเพื่อทำลายหยวนและค่าเงินของตลาดเกิดใหม่ๆ ทั้งๆที่รู้กันอยู่ว่า ธนาคารกลางของสหรัฐมีพอร์ตพันธบัตรอยู่$4.5ล้านล้าน ขึ้นดอกเบี้ยมีแต่จะเจ๊งอย่างเดียว ในทางตรงกันข้ามเฟดมีอยู่ทางเดียวคือต้องทำ QEเพิ่มเพื่อรักษาฟองสบู่ตลาดการเงินสหรัฐ ในช่วงที่ผ่านมา จีนเริ่มตอบโต้ในสงครามการเงินหนักมือยิ่งขึ้นด้วยการลดค่าเงินหยวน 4%กว่า โดยมีเป้าหมายหลายประการ:
1. ลดค่าเงินเพื่อหนุนการส่งออกจีน
ทำให้ส่งออกสหรัฐมีปัญหา
2. กดหยวนให้อ่อนค่า เพื่อดันราคาทองให้สูงขึ้น
เพราะว่าจีนมีทองคำสำรองมหาศาล
3. นักลงทุนตกใจวิ่งเข้าหาทอง
เห็นได้ว่าทองวิ่งขึ้น5-6วันทำการแล้ว 4. สหรัฐต้องกดราคาทอง หรือสกัดไม่ให้ระบบมาตรฐานทองคำเกิดเพราะว่าทองคำเป็นศัตรูหมายเลข 1ของดอลล่าร์
5. เงินหยวนที่อ่อนลงจะทำให้กองทุนฝรั่งที่ติดหุ้นจีน ยิ่งขาดทุนเพิ่มไปอีก
ที่เทียนจิน
ท่าเรือทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนโดนถล่มในคืนที่ผ่านมา
โดยเกิดเหตุระเบิดรุนแรงมีผู้เสียชีวิต17คน บาดเจ็บนับร้อย
ยังไม่แน่ชัดว่าจีนโดนก่อการร้ายหรือไม่ ตุรกีเพิ่งจะโดนก่อการร้ายเป็นชุดๆ
หลังจากที่ยื้อไม่ยอมให้สหรัฐใช้เป็นฐานในการปิดล้อมรัสเซีย และเพื่อการถล่มซีเรีย
ดูเกมแล้ว คาดการณ์ได้ล่วงหน้าเลยว่า จีนจะถล่มสงครามไซเบอร์สหรัฐกลับอย่างรุนแรง
ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ของจีนมีสมรรถภาพสูงกว่าสหรัฐหลายเท่าตัว
ระบบการเงินของสหรัฐมีโอกาสล่มสูง เมื่อยักษ์รบกัน
เราเป็นมดก็ได้แต่เฝ้าดูด้วยความมันส์ (อ้างอิงบทความของคุณทนง ขันทอง
, 13 สิงหาคม 2015 ,facebook : Thanong Fanclub)
ล่าสุดจีนออกมาจวกจอร์จ
โซรอส ผู้อยู่เบื้องหลังถล่มตลาดเงินของจีน
เอเจนซีส์ -
สื่อรัฐบาลจีนรุมจวก “พ่อมดนักปั่นเงิน”
จอร์จ โซรอส และเทรดเดอร์ตลาดเงินอื่น ๆ ว่า กำลัง “ประกาศสงคราม” กับสกุลเงินแดนมังกร
ขณะที่เงินหยวนถูกกดดันอย่างหนัก
โดยที่มีการอ้างกันว่าตลาดกำลังเชื่อว่าหากเงินทุนยังไหลทะลักออกจากแดนมังกรภายหลังเทศกาลวันหยุดตรุษจีนแล้ว
ก็มีแนวโน้มสูงว่าเงินหยวนจะอ่อนยวบลงต่อเนื่อง ทั้งนี้ เฮดจ์ฟันหลายรายเดิมพันว่า
ค่าเงินจีนจะอ่อนลงถึง 20 - 50% ระหว่างการประชุมประจำปี “เวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรัม” ที่เมืองดาวอส, สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โซรอส พ่อมดการเงินวัย 85 ปี ให้สัมภาษณ์บลูมเบิร์ก ทีวี ว่า จีนกำลังจะเผชิญปัญหาเศรษฐกิจอีกมากมาย
และการชะลอตัวรุนแรงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โซรอสที่ถูกกล่าวหาว่า
มีบทบาทสำคัญทั้งในการปั่นเงินจนทำให้เงินปอนด์ต้องลดค่าเมื่อทศวรรษ 1990 และในวิกฤตการเงินเอเชีย “ต้มยำกุ้ง” ปี 1997 บอกว่า
ภาวะเงินฝืดและปริมาณหนี้ที่มีมากเกินไป คือ ปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจแดนมังกรชะลอตัว
เขาวิจารณ์ด้วยว่า จีนรอนานเกินไปกว่าที่จะเปลี่ยนโมเดลการเติบโต
โดยยกเลิกการพึ่งพิงการส่งออกและหันมาส่งเสริมการเติบโตที่หนุนนำโดยการบริโภคแทน
ถึงแม้ปักกิ่งมีความสามารถเหนือกว่าประเทศอื่น ๆ
ในการจัดการการเปลี่ยนผ่านดังกล่าว เนื่องจากมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศมหาศาลกว่า
3 ล้านล้านดอลลาร์ก็ตาม ช่วงหลายเดือนมานี้
เงินหยวนที่ปกติแล้วมีเสถียรภาพดี และอยู่ภายใต้การควบคุมใกล้ชิดของปักกิ่ง
กลับถูกกดดันอย่างหนักในตลาดต่างประเทศและจากการไหลออกของเงินทุน
กระทั่งทางการต้องทุ่มเงินหลายแสนล้านดอลลาร์เข้าปกป้อง ในวันพุธ (27) สำนักข่าวซินหวาของทางการจีน ระบุว่า ในอดีตที่ผ่านมา
โซรอสทำนายทายทักมาหลายครั้ง ว่า จีนจะเผชิญปัญหาเศรษฐกิจ “ไม่ว่าพวกที่ขายชอร์ตไม่ได้ทำการบ้านมา
หรือว่าคนเหล่านั้นกำลังพยายามทำให้ตลาดแตกตื่นเพื่อฟันกำไรก็ตาม” ซินหวากล่าว ขณะที่บทความภาษาอังกฤษของโกลบัล ไทมส์
หนังสือพิมพ์แนวชาตินิยมในเครือของเหรินหมินรึเป้า กล่าวหาว่า “ตะวันตก” ไม่รับผิดชอบในการก่อปัญหาให้กับเศรษฐกิจโลก การแสดงความคิดเห็นเหล่านี้มีขึ้นหลังจากที่เหรินหมินรึเป้า
หนังสือพิมพ์ที่เป็นกระบอกเสียงอย่างเป็นทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ลงบทความหน้าหนึ่งฉบับวันอังคาร (26) โดยระบุว่า
โซรอสกำลังประกาศสงครามอย่างเปิดเผยกับจีน ด้วยการออกมาพูดว่าเขากำลังเดิมพันว่า
ค่าเงินสกุลต่าง ๆ ในเอเชียจะอ่อนลง ในอีกด้านหนึ่ง
ทางด้านสำนักข่าวรอยเตอร์เสนอรายงานข่าวว่า กองทุนแมคโครเฮดจ์ฟันด์จำนวนมาก
ซึ่งส่วนใหญ่มีฐานอยู่ในอเมริกา กำลังเดิมพันตั้งแต่ปลายปีที่แล้วว่า
เงินหยวนจะอ่อนลง 20 - 50% ขณะเดียวกัน
ข้อมูลจากซิตี้แสดงให้เห็นว่า กองทุนที่ลงทุนด้วยเงินที่กู้ยืมมา (leveraged
funds) เริ่มถอนเงินออกตั้งแต่ที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนในตลาดนอกประเทศลดเหลือ
6.76 หยวนต่อดอลลาร์ เมื่อสามสัปดาห์ที่แล้ว รายงานของรอยเตอร์อ้างว่า
ผู้เล่นจำนวนมากมองว่าหากหลังวันหยุดตรุษจีนในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนหน้า
เงินทุนยังคงไหลทะลักออกจากตลาดจีน ก็จะส่อแสดงว่ากองทุนต่าง ๆ
วางเดิมพันได้อย่างถูกต้องแล้วว่าหยวนจะอ่อนค่าลงอีก มาร์ก ฮาร์ต
ประธานกองทุนแมคโครเฮดจ์ฟันด์ “คอร์เรียนต์” ออกมาพูดทางทีวีในเดือนนี้ ว่า
จีนควรปล่อยให้เงินหยวนอ่อนลงอย่างรุนแรงและรวดเร็วตั้งแต่ตอนนี้
แทนที่จะรออ่านเกมไปเรื่อย ๆ และปล่อยให้เงินทุนไหลออก
ซึ่งเท่ากับเป็นการเชิญชวนนักเก็งกำไรเข้าไปโจมตีเงินหยวน ขณะที่เทรดเดอร์ตราสารอนุพันธ์สำทับว่า
กำลังมีการเดิมพันกันอย่างกว้างขวางว่า อัตราแลกเปลี่ยนของจีนจะอ่อนยวบถึง 8
หยวนต่อดอลลาร์ และข้อมูลบ่งชี้ว่า
จะมีการเข้าโจมตีครั้งใหญ่เมื่อเงินหยวนอยู่ที่ 7.20 - 7.60 หยวนต่อดอลลาร์
ทั้ง คอร์เรียนต์ และ ออมนิ แมคโคร ฟันด์ จากลอนดอน ต่างมองว่า
หากจีนยังคงขัดขืนต่อสู้ ทุนสำรองก็จะร่อยหรอลงอย่างฮวบฮาบ
และอาจถูกบีบให้ต้องลดค่าเงินหยวนครั้งใหญ่ในปีนี้จนได้ โดยผู้บริหารของทั้ง 2
กองทุน คาดว่า เดือนนี้ปักกิ่งอาจต้องถอนทุนสำรองออกมาแทรกแซงตลาดอีก
200,000 ล้านดอลลาร์
ซึ่งหากยังมีการถอนออกมาใช้ในอัตรานี้ต่อไป ทุนสำรองของจีนจะเหือดแห้งภายในปีนี้
และเงินหยวนก็จะอ่อนลงอีก 18 - 20% กระนั้น
มีผู้จัดการสินทรัพย์ระยะยาวน้อยคนนักที่คาดว่า เงินหยวนจะอ่อนลงเกิน 10% ในปีนี้ ตัวอย่างเช่น แกร์รี กรีนเบิร์ก หัวหน้าทีมตลาดเกิดใหม่ของแอร์เมส
อินเวสต์เมนต์ แมเนจเมนต์ ที่บอกว่า แม้มีเหตุผลที่จะกล่าวอ้างได้ว่า
เงินหยวนขณะนี้มีมูลค่าสูงเกินจริงถึง 20% แต่คงต้องใช้เวลาเกินสองปีกว่าที่อัตราแลกเปลี่ยนจีนจะอ่อนลงถึง
20% และเขาคิดว่า การลดค่าเงินครั้งใหญ่รวดเดียวกลับจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงกว่าเดิม (เครดิตอ้างอิง ข่าวแปล คอลัมน์ต่างประเทศ,MGR online, 27 มกราคม 2559)
หมายเหตุ
เพิ่มเติมบทความของคุณทนง ขันทอง “จอร์จ โซรอส นำทัพถล่มเมืองจีน” ซีงมีหลายตอนเขียนอยู่ในเฟสบุ้คส่วนตัว ซึ่งมีเป็นตอนๆ
ได้ที่ https://th-th.facebook.com/ThanongFanclub/และบทความเก่าๆ “มือที่มองไม่เห็น” มี 14
ตอน ซึ่งอธิบายเหตปัจจัยต่างๆ และกลวิธีในการควบคุมกลไกระบบเศรษฐกิจ
และเล่นงานคนที่เป็นศัตรูของอเมริกาอย่างไร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น