ถ้าจะเอ่ยถึงรายการเกมส์โชว์ในบ้านเรายุคแรกๆ ก็ต้องนึกถึงรายการ ประตูดวง (ปี 2510-2530) กับ นาทีทอง (ปี 2514-2530) ซึ่งเป็นรายการเกมส์โชว์ชื่อดังในอดีต (ช่วงยุคบุกเบิกวงการทีวี ทั้งคู่เป็นรายการของช่อง 7 สี) ซึ่งมีคุณอาคม มกรานนท์และคุณธรรมศักดิ์ นาคสุริยะ สลับกันเป็นพิธีกรหลักทั้ง 2 รายการ และพิธีกรคนอื่นๆ อีกมากมายในยุคถัดๆ ไป รูปแบบยังคงเป็นการเสี่ยงดวง ไม่ได้เน้นของรางวัลมากนัก เกมส์ก็ง่ายๆ อาศัยเสี่ยงดวงเอา ผู้แข่งขันคัดมาจากทางบ้าน หรือสมัครมา
รายการประตูดวงออกอากาศช่วงเวลา 16.30
-17.30 น. ไฮไลท์อยู่ในช่วงทายปริศนาดาราที่อยู่หลังประตูดวง
ซึ่งมีหลายประตู มีคำใบ้ ถ้าทายถูกมีรางวัลเป็นเงินสด และภายหลังเป็นรถเก๋ง
รายการนาทีทองออกอากาศช่วงเวลา 11.30-
13.00 น. ไฮไลท์คือช่วงปาลูกดอกตรงวงล้อที่หมุนเคลื่อนเป็นวงกลม
หากถูกตรงตำแหน่งแจ็คพ็อทก็จะได้รางวัลใหญ่ไป
ทั้ง 2 รายการมีแขกรับเชิญเป็นดารา
นักร้องที่อยู่ในความสนใจ หรือร่วมงานกับช่อง 7 และมีตลกผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาเล่นในรายการ
จัดได้ว่าทั้ง 2 รายการนี้เป็นต้นแบบของเกมส์โชว์ในบ้านเราก็ว่าได้
เพราะอายุอานามเก่าแก่ที่สุดแล้ว
รายละเอียดรายการประตูดวง
อ่านที่ลิ้งค์นี้https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0
รายละเอียดรายการนาทีทอง
อ่านที่ลิ้งค์นี้ https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87
ยุคต่อมาก็จะเป็นยุคเฟื่องฟูของการผลิตเกมส์โชว์ด้วยรูปแบบใหม่ที่มีฟอร์แมทมากขึ้น
กติกาการเล่นที่ง่าย ตายตัว และสนุก ตื่นเต้น มีรางวัลมาล่อใจ
โดยบริษัทที่เป็นผู้บุกเบิกเกมส์โชว์รูปแบบใหม่ที่ว่านี้ก็คือ บริษัท เจเอสแอล
จำกัด
ในขณะนั้นบริษัทได้แจ้งเกิดพิธีกรหน้าใหม่ชื่อ ปัญญา นิรันดร์กุล
กับเกมพลิกล็อก คู่กับคุณดี๋ ดอกมะดัน (ปี 26-32)ในนามคู่หูพลิกล็อค
รายการเกมพลิกล็อคกลายเป็นเกมส์โชว์อันดับ 1 ของเมืองไทยไปโดยปริยาย
มีเรตติ้งถล่มทลาย ครองความนิยมในช่อง 5 มาอย่างยาวนานนับตั้งแต่
ปี 2524-2532 และ 2539-2541 โดยมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบรายการอยู่เสมอ
เบื้องหลังความสำเร็จของรายการนี้คงอยู่ที่บรรดารุ่นพี่กลุ่มสถาปัตย์ จุฬาฯ
ทั้งหลาย อาทิ โปรดิวเซอร์มือทองของค่ายเจเอสแอล อย่าง วัชระ แวววุฒินันท์ ,
กลุ่มซูโม่สำอางค์ (รายการเพชฌฆาตความเครียด
เป็นครีเอทีฟทอล์คโชว์ผสมซิทคอมรายการแรกของไทย ,รายการภาษาไทยวันละคำ โดยมีปัญญา
นิรันดร์กุลเป็นพิธีกร ช่วงปี 2527-2532) ยังคงทำรายการอยู่ในสังกัดเจเอสแอลอีกหลายรายการ
ภายหลังปัญญา นิรันดร์กุล พร้อมด้วยประภาส ชลศรานนท์ ได้แยกตัวออกจากเจเอสแอล
ไปตั้งบริษัทใหม่ของตนเองในนามเวิร์คพ้อยท์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (ปี 2532) มีรายการแรกคือเวทีทอง (32) ชิงร้อยชิงล้าน (33)
เกมแก้จน (41-46) แฟนพันธุ์แท้ (43-50,55) เกมทศกัณฐ์-เด็ก (46-51) กล่องดำ (51) อัจฉริยะข้ามคืน(49-50)
หลานปู่กู้อีจู้ (51-53) ยกสยาม (51-54)
เอสเอ็มอีตีแตก (53-55) ราชรถมาเกย (54-56)
นอกจากนี้ยังมีรายการบ้านเจ้าปัญญา ,นักประดิษฐ์พันล้าน รายการใหม่ๆ
ของช่องเวิร์คพ้อยท์เอง อย่าง ปริศนาฟ้าแล่บ เป็นต้น ฉายาพิธีกรเจ้าพ่อเกมส์โชว์อันดับ
1 ของเมืองไทยในปัจจุบัน ในช่วงก่อตั้งบริษัทใหม่ๆ ยังมีคุณสมพงษ์
วรรณภิญโญ จากบริษัทคีตามาร่วมวงก่อตั้งด้วย หลังจากนั้นไม่นานคุณสมพงษ์ ก็แยกตัวไปตั้งบริษัททีวีธันเดอร์ร่วมกับภูษิต
ไล้ทอง ผลิตเกมส์โชว์และละครเฉกเช่นเดียวกัน
ลักษณะเด่นของเกมพลิกล็อคก็คือการเปิดป้ายตัวเลข
ผู้เล่นจะต้องทายว่าเลขลำดับถัดไปมีตัวเลขที่มากกว่าหรือน้อยกว่า ทายไปเรื่อยๆ
เป็นแถวๆ แถวนึงมี 4 ป้าย
ตัวสุดท้ายของแต่ละแถวนำมาตั้งต้นเป็นเลขตั้งต้นของแถวถัดไป
ทายไปจนกว่าจะถึงป้ายสุดท้าย หากถูกหมดก็คือแจ็คพ็อตแตก ได้รางวัลใหญ่
ความสนุกคงอยู่ที่ต้องลุ้นไปทีละป้าย ทีละตัว โดยมีกิมมิคคือ ท่าชูนิ้วโป้งขึ้น
คือมากกว่า หากชูนิ้วโป้งกลับหัวลง ก็คือทายว่าน้อยกว่า กลายเป็นท่าฮิตประจำรายการ
รายละเอียดรายการพลิกล็อค อ่านที่ลิ้งค์นี้
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%81
จริงๆ ในยุคนั้น
ยังมีพิธีกรที่แจ้งเกิดและตีคู่กันมากับคุณปัญญา ก็คือคุณไตรภพ ลิมปพัทธ์
ซึ่งคุณไตรภพ เคยมาเป็นพิธีกรในรายการพลิกล็อคอยู่ในช่วงปีแรก (ปี 2525)
ภายหลังเป็นคุณปัญญาเป็นพิธีกร
ก่อนจะมาทำเกมส์โชว์เดี่ยวที่มีตนเองเป็นพิธีกร อาทิ ลาภติดเลข (ช่อง 5,ปี 2526-27) ท้าพิสูจน์ (ช่อง 7,2531) หลังจากนั้นแกก็ออกจากเจเอสแอลมาตั้งบริษัทร่วมกับน้องชาย
ชื่อ บอร์น แอนด์ แอสโซซิเอท จำกัด โดยมาทำรายการให้ช่อง 3 รายการแรก
เอาไปเลย ปี 27-30(เป็นรายการเกมส์ชิงโชคโปรโมตช่อง 3
โดยตรง) ,คุณขอมา ปี 31-34 จากนั้นก็ทำรายการฝันที่เป็นจริง (31-38) ,ทไวไลท์โชว์
(33-51,57) , เฉียด (38-40)
ก่อนจะมาทำรายการควิชโชว์ชื่อดัง (ซื้อลิขสิทธ์จากต่างประเทศ) เกมเศรษฐี (43-51) และทูไนท์โชว์ (52-ปัจจุบัน) จนโด่งดัง และแกเคยย้ายไปทำรายการช่องไอทีวี (จู๊กบ็อกเกมส์) เป็นผู้บริหารไอทีวีอยู่พักนึงจนสถานีได้ปิดตัวลง
จึงชิมลางไปทำรายการใหม่ คลับเซเว่น (ช่อง 7) ได้เวลาช่วงไพร์มไทม์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
ถูกเปลี่ยนวันออกอากาศ สุดท้ายต้องกลับมาซบช่อง 3 ดังเดิม
ชิมลางด้วยรายการทูไนท์โชว์ ,เอ็กซ์เกม ซึ่งปัจจุบันแกมีรายการอยู่ที่ช่อง 3
ออริจินัลอยู่ 2 รายการใหม่คือ ครัวคุณต๋อย และ
ทูเดย์โชว์
เกมโชว์อีกรายการที่กลายเป็นตำนานที่สุดของเกมส์โชว์ในบ้านเราก็คือ
“มาตามนัด” ผลิตโดย รัชฟิล์มทีวี เป็นเกมส์โชว์ที่ครองความนิยมอันดับ 1
ติดต่อกันยาวนานที่สุดของเมืองไทยคือ 11 ปี
นับตั้งแต่ปี 2527-2538 นอกจากนี้ยังมีรายการเกมน่ารักน่าลุ้น
(2530-2539) ,โหดมันฮา (ซื้อลิขสิทธิ์จากญี่ปุ่น)
,ลุ้นระเบิด, ยุทธภูมิกระทะเหล็ก ,ฮาตามนัด
เป็นต้น
ลักษณะเด่นของเกมส์โชว์มาตามนัดก็คือเป็นเกมส์ที่เต็มไปด้วยแนวคิดสร้างสรรค์
ตั้งแต่การกดปุ่มแย่งกันกด ซึ่งรายการนี้ใช้ค้อนทุบปุ่มกดมาเป็นตัวกิมมิคของรายการ
นอกจากนี้เกมทายคำนั้นจัดว่าแปลกและล้ำสมัยในยุคนั้น
เป็นรายการแรกที่ใช้รูปแบบทายคำ จนรายการอื่นนำไปเลียนแบบ
นอกจากนี้ตัวพิธีกรก็มีส่วนให้รายการสนุก ขำขันตลอดรายการ ได้แก่ เศรษฐา ศิระฉายา
และญาณี จงวิสุทธิ์ อีกทั้งเป็นเกมโชว์รายการแรกของเมืองไทยที่มีติดต่อกันจันทร์-พฤหัส
ที่ทำให้คนดูสามารถดูต่อเนื่องเป็นประจำและลุ้นรายการต่อเนื่องเป็นซีรี่ย์ได้
โดยผู้แข่งขันเป็นชุดเดียวกันทั้งสัปดาห์นั้น
ซึ่งแปลกแตกต่างจากรายการอื่นในยุคนั้น ที่สัปดาห์นึงมีแค่ครั้งเดียวเพียง 1-2
ชั่วโมง
อีกทั้งเป็นเกมส์โชว์ที่ออนในช่วงไพร์มไทม์ชนกับเวลาละครภาคค่ำเสียด้วยในยุคนั้น
แต่ก็ยังคงได้รับความนิยมไม่แพ้ละครเลยทีเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น