วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ย้อนตำนานยุครุ่งเรือง เกมส์โชว์ (1) ในบ้านเรา ตอนที่ 1


ถ้าจะเอ่ยถึงรายการเกมส์โชว์ในบ้านเรายุคแรกๆ ก็ต้องนึกถึงรายการ ประตูดวง (ปี 2510-2530) กับ นาทีทอง (ปี 2514-2530) ซึ่งเป็นรายการเกมส์โชว์ชื่อดังในอดีต (ช่วงยุคบุกเบิกวงการทีวี ทั้งคู่เป็นรายการของช่อง 7 สี) ซึ่งมีคุณอาคม มกรานนท์และคุณธรรมศักดิ์ นาคสุริยะ สลับกันเป็นพิธีกรหลักทั้ง 2 รายการ และพิธีกรคนอื่นๆ อีกมากมายในยุคถัดๆ ไป รูปแบบยังคงเป็นการเสี่ยงดวง ไม่ได้เน้นของรางวัลมากนัก เกมส์ก็ง่ายๆ อาศัยเสี่ยงดวงเอา ผู้แข่งขันคัดมาจากทางบ้าน หรือสมัครมา  

รายการประตูดวงออกอากาศช่วงเวลา 16.30 -17.30 น. ไฮไลท์อยู่ในช่วงทายปริศนาดาราที่อยู่หลังประตูดวง ซึ่งมีหลายประตู มีคำใบ้ ถ้าทายถูกมีรางวัลเป็นเงินสด และภายหลังเป็นรถเก๋ง

รายการนาทีทองออกอากาศช่วงเวลา 11.30- 13.00 น. ไฮไลท์คือช่วงปาลูกดอกตรงวงล้อที่หมุนเคลื่อนเป็นวงกลม หากถูกตรงตำแหน่งแจ็คพ็อทก็จะได้รางวัลใหญ่ไป

ทั้ง 2 รายการมีแขกรับเชิญเป็นดารา นักร้องที่อยู่ในความสนใจ หรือร่วมงานกับช่อง 7 และมีตลกผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาเล่นในรายการ จัดได้ว่าทั้ง 2 รายการนี้เป็นต้นแบบของเกมส์โชว์ในบ้านเราก็ว่าได้ เพราะอายุอานามเก่าแก่ที่สุดแล้ว

รายละเอียดรายการประตูดวง อ่านที่ลิ้งค์นี้https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0

รายละเอียดรายการนาทีทอง อ่านที่ลิ้งค์นี้ https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87

ยุคต่อมาก็จะเป็นยุคเฟื่องฟูของการผลิตเกมส์โชว์ด้วยรูปแบบใหม่ที่มีฟอร์แมทมากขึ้น กติกาการเล่นที่ง่าย ตายตัว และสนุก ตื่นเต้น มีรางวัลมาล่อใจ โดยบริษัทที่เป็นผู้บุกเบิกเกมส์โชว์รูปแบบใหม่ที่ว่านี้ก็คือ บริษัท เจเอสแอล จำกัด  ในขณะนั้นบริษัทได้แจ้งเกิดพิธีกรหน้าใหม่ชื่อ ปัญญา นิรันดร์กุล กับเกมพลิกล็อก คู่กับคุณดี๋ ดอกมะดัน (ปี 26-32)ในนามคู่หูพลิกล็อค รายการเกมพลิกล็อคกลายเป็นเกมส์โชว์อันดับ 1 ของเมืองไทยไปโดยปริยาย มีเรตติ้งถล่มทลาย ครองความนิยมในช่อง 5 มาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ ปี 2524-2532 และ 2539-2541 โดยมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบรายการอยู่เสมอ เบื้องหลังความสำเร็จของรายการนี้คงอยู่ที่บรรดารุ่นพี่กลุ่มสถาปัตย์ จุฬาฯ ทั้งหลาย อาทิ โปรดิวเซอร์มือทองของค่ายเจเอสแอล อย่าง วัชระ แวววุฒินันท์ , กลุ่มซูโม่สำอางค์ (รายการเพชฌฆาตความเครียด เป็นครีเอทีฟทอล์คโชว์ผสมซิทคอมรายการแรกของไทย ,รายการภาษาไทยวันละคำ โดยมีปัญญา นิรันดร์กุลเป็นพิธีกร ช่วงปี 2527-2532) ยังคงทำรายการอยู่ในสังกัดเจเอสแอลอีกหลายรายการ ภายหลังปัญญา นิรันดร์กุล พร้อมด้วยประภาส ชลศรานนท์ ได้แยกตัวออกจากเจเอสแอล ไปตั้งบริษัทใหม่ของตนเองในนามเวิร์คพ้อยท์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (ปี 2532) มีรายการแรกคือเวทีทอง (32) ชิงร้อยชิงล้าน (33) เกมแก้จน (41-46) แฟนพันธุ์แท้ (43-50,55)  เกมทศกัณฐ์-เด็ก (46-51) กล่องดำ (51) อัจฉริยะข้ามคืน(49-50) หลานปู่กู้อีจู้ (51-53) ยกสยาม (51-54) เอสเอ็มอีตีแตก (53-55) ราชรถมาเกย (54-56) นอกจากนี้ยังมีรายการบ้านเจ้าปัญญา ,นักประดิษฐ์พันล้าน รายการใหม่ๆ ของช่องเวิร์คพ้อยท์เอง อย่าง ปริศนาฟ้าแล่บ เป็นต้น ฉายาพิธีกรเจ้าพ่อเกมส์โชว์อันดับ 1 ของเมืองไทยในปัจจุบัน ในช่วงก่อตั้งบริษัทใหม่ๆ ยังมีคุณสมพงษ์ วรรณภิญโญ จากบริษัทคีตามาร่วมวงก่อตั้งด้วย หลังจากนั้นไม่นานคุณสมพงษ์ ก็แยกตัวไปตั้งบริษัททีวีธันเดอร์ร่วมกับภูษิต ไล้ทอง ผลิตเกมส์โชว์และละครเฉกเช่นเดียวกัน

 
 
ลักษณะเด่นของเกมพลิกล็อคก็คือการเปิดป้ายตัวเลข ผู้เล่นจะต้องทายว่าเลขลำดับถัดไปมีตัวเลขที่มากกว่าหรือน้อยกว่า ทายไปเรื่อยๆ เป็นแถวๆ แถวนึงมี 4 ป้าย ตัวสุดท้ายของแต่ละแถวนำมาตั้งต้นเป็นเลขตั้งต้นของแถวถัดไป ทายไปจนกว่าจะถึงป้ายสุดท้าย หากถูกหมดก็คือแจ็คพ็อตแตก ได้รางวัลใหญ่ ความสนุกคงอยู่ที่ต้องลุ้นไปทีละป้าย ทีละตัว โดยมีกิมมิคคือ ท่าชูนิ้วโป้งขึ้น คือมากกว่า หากชูนิ้วโป้งกลับหัวลง ก็คือทายว่าน้อยกว่า กลายเป็นท่าฮิตประจำรายการ  

รายละเอียดรายการพลิกล็อค อ่านที่ลิ้งค์นี้ https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%81

จริงๆ ในยุคนั้น ยังมีพิธีกรที่แจ้งเกิดและตีคู่กันมากับคุณปัญญา ก็คือคุณไตรภพ ลิมปพัทธ์ ซึ่งคุณไตรภพ เคยมาเป็นพิธีกรในรายการพลิกล็อคอยู่ในช่วงปีแรก (ปี 2525) ภายหลังเป็นคุณปัญญาเป็นพิธีกร ก่อนจะมาทำเกมส์โชว์เดี่ยวที่มีตนเองเป็นพิธีกร อาทิ ลาภติดเลข (ช่อง 5,ปี 2526-27) ท้าพิสูจน์ (ช่อง 7,2531)  หลังจากนั้นแกก็ออกจากเจเอสแอลมาตั้งบริษัทร่วมกับน้องชาย ชื่อ บอร์น แอนด์ แอสโซซิเอท จำกัด โดยมาทำรายการให้ช่อง 3 รายการแรก เอาไปเลย ปี 27-30(เป็นรายการเกมส์ชิงโชคโปรโมตช่อง 3 โดยตรง) ,คุณขอมา ปี 31-34 จากนั้นก็ทำรายการฝันที่เป็นจริง (31-38) ,ทไวไลท์โชว์ (33-51,57) , เฉียด (38-40) ก่อนจะมาทำรายการควิชโชว์ชื่อดัง (ซื้อลิขสิทธ์จากต่างประเทศ) เกมเศรษฐี  (43-51) และทูไนท์โชว์ (52-ปัจจุบัน) จนโด่งดัง และแกเคยย้ายไปทำรายการช่องไอทีวี (จู๊กบ็อกเกมส์) เป็นผู้บริหารไอทีวีอยู่พักนึงจนสถานีได้ปิดตัวลง จึงชิมลางไปทำรายการใหม่ คลับเซเว่น (ช่อง 7) ได้เวลาช่วงไพร์มไทม์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ถูกเปลี่ยนวันออกอากาศ สุดท้ายต้องกลับมาซบช่อง 3 ดังเดิม ชิมลางด้วยรายการทูไนท์โชว์ ,เอ็กซ์เกม ซึ่งปัจจุบันแกมีรายการอยู่ที่ช่อง 3 ออริจินัลอยู่ 2 รายการใหม่คือ ครัวคุณต๋อย และ ทูเดย์โชว์  

เกมโชว์อีกรายการที่กลายเป็นตำนานที่สุดของเกมส์โชว์ในบ้านเราก็คือ “มาตามนัด” ผลิตโดย รัชฟิล์มทีวี เป็นเกมส์โชว์ที่ครองความนิยมอันดับ 1 ติดต่อกันยาวนานที่สุดของเมืองไทยคือ 11 ปี นับตั้งแต่ปี 2527-2538 นอกจากนี้ยังมีรายการเกมน่ารักน่าลุ้น (2530-2539) ,โหดมันฮา (ซื้อลิขสิทธิ์จากญี่ปุ่น) ,ลุ้นระเบิด, ยุทธภูมิกระทะเหล็ก ,ฮาตามนัด  เป็นต้น

ลักษณะเด่นของเกมส์โชว์มาตามนัดก็คือเป็นเกมส์ที่เต็มไปด้วยแนวคิดสร้างสรรค์ ตั้งแต่การกดปุ่มแย่งกันกด ซึ่งรายการนี้ใช้ค้อนทุบปุ่มกดมาเป็นตัวกิมมิคของรายการ นอกจากนี้เกมทายคำนั้นจัดว่าแปลกและล้ำสมัยในยุคนั้น เป็นรายการแรกที่ใช้รูปแบบทายคำ จนรายการอื่นนำไปเลียนแบบ นอกจากนี้ตัวพิธีกรก็มีส่วนให้รายการสนุก ขำขันตลอดรายการ ได้แก่ เศรษฐา ศิระฉายา และญาณี จงวิสุทธิ์ อีกทั้งเป็นเกมโชว์รายการแรกของเมืองไทยที่มีติดต่อกันจันทร์-พฤหัส ที่ทำให้คนดูสามารถดูต่อเนื่องเป็นประจำและลุ้นรายการต่อเนื่องเป็นซีรี่ย์ได้ โดยผู้แข่งขันเป็นชุดเดียวกันทั้งสัปดาห์นั้น ซึ่งแปลกแตกต่างจากรายการอื่นในยุคนั้น ที่สัปดาห์นึงมีแค่ครั้งเดียวเพียง 1-2 ชั่วโมง อีกทั้งเป็นเกมส์โชว์ที่ออนในช่วงไพร์มไทม์ชนกับเวลาละครภาคค่ำเสียด้วยในยุคนั้น แต่ก็ยังคงได้รับความนิยมไม่แพ้ละครเลยทีเดียว
 
 
รายละเอียดรายการมาตามนัด อ่านที่ลิ้งค์นี้  https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%94
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น