วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555

สถานการณ์สหรัฐอเมริกา ภายหลังพายุเฮอร์ริเคนแซนดี้ถล่ม เร่งฟื้นฟู ดูความเสียหาย





 
รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-เหยื่อเฮอริเคนแซนดีพุ่งเฉียด120 ศพใน 7 ประเทศ ทั้งสหรัฐฯ แคนาดา บาฮามาส จาเมกา คิวบา เฮติและโดมินิกัน โดยจำนวนดังกล่าวเป็นผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯถึง 50 รายและพื้นที่ 14 มลรัฐทางตะวันออกของสหรัฐฯ ตั้งแต่ฟลอริดาขึ้นไปถึงแถบนิวอิงแลนด์ ต่างได้รับผลกระทบทั่วหน้า ขณะที่กระทรวงพลังงานสหรัฐฯเผยมากกว่า 8 ล้านครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ ข้อมูลระบุชัด เป็นเฮอริเคนแรงสุดอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ตามหลัง แคทรินาเมื่อปี 2005 และ แอนดรูว์ในปี 1992
เอเจนซีส์ - ผู้คนหลายสิบล้านคนตลอดแนวชายฝั่งด้านตะวันออกของอเมริกาพยายามกลับมาใช้ชีวิตตามปกติเมื่อวันพุธ (31 ต.ค.) หลังถูกพายุแซนดี้ถล่มรุนแรงทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 45 คนใน 9 มลรัฐ ทั้งนี้ ตลาดหุ้น, สนามบินหลายแห่ง และธุรกิจจำนวนมากกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง ถึงแม้คาดหมายกันว่ายังจะต้องใช้เวลาอีกหลายวันจึงจะสามารถแก้ไขระบบส่งกระแสไฟฟ้า และระบบคมนาคมขนส่งสาธารณะให้กลับมาใช้งานได้

พายุไซโคลนทรงพลังซึ่งมาพร้อมกำลังลมระดับเฮอร์ริเคนและคลื่นยกสูงกระหน่ำชายฝั่งตะวันออกของอเมริกา (อีสต์โคสต์) ยังทำให้เกิดพายุหิมะในแถบเทือกเขาแอปปาลาเชียน รวมถึงบางส่วนของโอไฮโอ เพนซิลเวเนีย และเวสต์เวอร์จิเนีย ผู้คนหลายล้านไม่มีไฟฟ้าใช้ และระบบขนส่งเป็นอัมพาต


ขณะที่เหลือเวลาไม่ถึงสัปดาห์ก่อนที่ชาวอเมริกันจะไปหย่อนบัตรเลือกผู้นำประเทศ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา มีแผนตรวจเยี่ยมพื้นที่ริมชายฝั่งของนิวเจอร์ซีย์พร้อมกับผู้ว่าการมลรัฐ คริส คริสตี้ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญของ มิตต์ รอมนีย์ แคนดิเดตชิงทำเนียบขาวจากพรรครีพับลิกัน

รอมนีย์นั้นเตรียมกลับไปหาเสียงอีกครั้งที่ฟลอริดาในวันพุธ (31 ต.ค.) หลังยกเลิกกิจกรรมในวันจันทร์และอังคาร เพื่อติดตามการปฏิบัติการกู้ภัยและการฟื้นฟู ส่วนโอบามาคาดว่าจะออกเดินสายปราศรัยใหม่ในวันพฤหัสบดี (1 พ.ย.) โดยที่โพลหลายสำนักระบุว่าประธานาธิบดีคนปัจจุบันและผู้ท้าชิงมีคะแนนคู่คี่จี้ติดชนิดหายใจรดต้นคอ

แซนดี้ซึ่งถือเป็นพายุลูกใหญ่ที่สุดลูกหนึ่งที่พัดถล่มสหรัฐฯ ทำให้มีผู้เสียชีวิตในอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 45 คน นับตั้งแต่เข้าฝั่งที่นิวเจอร์ซีย์เมื่อคืนวันจันทร์ (29 ต.ค.) หลังจากที่คร่าชีวิตผู้คนไป 69 คนขณะพัดผ่านพื้นที่แถบทะเลแคริบเบียนในสัปดาห์ที่แล้ว

เจ้าหน้าที่และพลเมืองของมหานครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของอเมริกา พยายามฟื้นบริการสำคัญๆ และเก็บกวาดซากปรักหักพัง หลังพายุใหญ่ลูกนี้ทำให้เกิดคลื่นสูงกว่า 4 เมตรซัดน้ำเข้าท่วมอุโมงค์รถไฟใต้ดิน และทำให้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ในหลายๆ จุด

ไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนิวยอร์ก เผยว่า การฟื้นฟูระบบไฟฟ้าและขนส่งมวลชนเป็นความท้าทายใหญ่สุดในช่วงอีกหลายวันนับจากนี้

ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กและตลาดแนสแดคปิดทำการเนื่องจากสภาพอากาศเป็นครั้งแรกนับจากปี 1985 แต่เปิดทำการอีกครั้งแล้วในวันพุธ

สนามบินหลัก 2 แห่ง คือ จอห์น เอฟ. เคนเนดี ในนิวยอร์ก และนวร์ก ลิเบอร์ตี ในนิวเจอร์ซีย์ เปิดให้บริการแบบจำกัดในวันพุธ ส่วนลาการ์เดียในนิวยอร์กยังมีน้ำท่วมขังและต้องปิดให้บริการต่อไป

ในย่านบรีซี พอยต์ของเขตควีนส์ บ้านเรือนกว่า 80 หลังถูกเผาวอดหลังจากพายุและน้ำท่วมทำให้เกิดไฟไหม้ ขณะที่ย่านโลเวอร์แมนฮัตตัน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ศูนย์กลางการเงินของนิวยอร์ก ไม่มีไฟฟ้าใช้

ความเสียหายไม่ได้จำกัดวงอยู่เฉพาะนครนิวยอร์กเท่านั้น แต่ครอบคลุมชายฝั่งด้านตะวันออกของสหรัฐฯ ตั้งแต่บอสตันจนถึงฟิลาเดลเฟียและกรุงวอชิงตัน ซึ่งเผชิญลมกรรโชกแรงและชุมชนริมฝั่งต้องจมอยู่ในน้ำเป็นบริเวณกว้างขวาง

นักพยากรณ์อากาศเตือนว่า น้ำจะยังคงท่วมขังพื้นที่ชายฝั่งบริเวณมิดแอตแลนติกที่มีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่น และกองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติจัดส่งกำลังสำรอง 7,400 นายออกปฏิบัติภารกิจบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินใน 11 มลรัฐ

โอบามาที่กำลังกรำศึกเลือกตั้งมหาโหดในวันที่ 6 เดือนหน้า และต้องหลีกเลี่ยงความผิดพลาดซ้ำรอยอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช กรณีเฮอร์ริเคนแคทรีนาเมื่อปี 2005 แถลงให้กำลังใจผู้ประสบภัย

กระทรวงพลังงานแถลงเมื่อวันอังคาร (30 ต.ค.) ว่า ครัวเรือนและสถานธุรกิจกว่า 8 ล้านแห่งตั้งแต่แคโรไลนาจนถึงเมนไม่มีไฟฟ้าใช้ นอกจากนี้ยังมีไฟฟ้าดับในอาณาบริเวณกว้างขึ้นขณะที่แซนดี้เคลื่อนไปทางตะวันตกสู่บริเวณเกรทเลคส์

โรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ 3 แห่งหยุดทำงาน และแห่งที่ 4 แจ้งเตือนภัย หลังจากพายุทำให้เครือข่ายสายส่งและระบบหล่อเย็นขัดข้อง อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ปัญหานี้ไม่มีความเสี่ยงรุนแรงแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ตัวเลขเบื้องต้นในอุตสาหกรรมยังระบุว่า แซนดี้อาจทำให้ธุรกิจประกันภัยต่อขาดทุน 7,000-15,000 ล้านดอลลาร์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระ นางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชสาส์นไปยังประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แสดงความเสียพระราชหฤทัย เรื่องพายุ แซนดี้ขณะที่พิษซุปเปอร์สตอร์ม แซนดี้เล่นงานชาวอเมริกันงอมพระรามใน 11 รัฐ นิวเจอร์ซีย์และนิวยอร์กเสียหายหนักสุด เขตเศรษฐกิจและการเงินโลกในย่านแมนฮัตตันยังจมน้ำ ไฟฟ้าดับ เมืองทั้งเมืองยังเป็นอัมพาต ระบบขนส่งมวลชนยังใช้การไม่ได้ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตพุ่งกว่า 50 ศพ ประเมินค่าเสียหายนับหมื่นล้านดอลลาร์ บารัค โอบามา พักหาเสียงเป็นวันที่ 3 ลงพื้นที่ประสบภัยรัฐนิวเจอร์ซีย์ ด้านพายุแซนดี้พัดมุ่งหน้าขึ้นเหนือเข้าแคนาดาแล้ว

ความคืบหน้าพายุหมุน แซนดี้ที่ถล่มพื้นที่หลายรัฐแถบชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ สร้างความเสียหายวายป่วงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สำนักข่าวต่างประเทศเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์ รายงานเมื่อวันที่ 31 ต.ค.ว่า ชาวอเมริกันหลายรัฐแถบชายฝั่งตะวันออก รวมทั้งรัฐนิวเจอร์ซีย์และนิวยอร์ก ต่างพยายามอย่างหนักเพื่อกอบกู้วิถีชีวิตคืนกลับมา เมื่อพายุแซนดี้ซึ่งพัดขึ้นฝั่งรัฐนิวเจอร์ซีย์ เมื่อคืนวันที่ 29 ต.ค.ตามเวลาท้องถิ่นหรือตรงกับ 07.00 น.
วันที่ 30 ต.ค.ตามเวลาในไทย กลายเป็นพายุหมุนเขตร้อน ที่คงกำลังแรงลมตาพายุเทียบเท่าเฮอริเคนที่ระดับ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้สร้างความเสียหายตามมาอย่างหนัก ทั้งภาวะคลื่นทะเลยกตัวสูง หรือสตอร์มเซิร์จ น้ำท่วม ไฟไหม้ ไฟฟ้าดับ การสัญจรทางบกและอากาศเป็นอัมพาต ผลพวงพายุแซนดี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นกว่า 50 คน รวมทั้งในแคนาดา 1 คน ทั้งนี้ เฉพาะรัฐนิวยอร์กมีผู้เสียชีวิตมากถึง 27 คน โดย 22 คนอยู่ในมหานครนิวยอร์ก ที่เหลืออยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์และรัฐอื่นๆ

สำนักข่าวต่างประเทศยังรายงานด้วยว่า ความเสียหายที่รัฐนิวยอร์ก โดยเฉพาะมหานครนิวยอร์ก เมืองศูนย์กลางการค้าและการเงินโลก ชาวบ้านยังคงหวาดผวากับภัยพิบัติที่เกิดขึ้น เนื่องจากต้องเจอทั้งน้ำท่วมและไฟไหม้พร้อมๆกัน นางแคโรล แอนเดอร์สัน วัย 53 ปี หนึ่งในผู้ประสบภัย ที่รอดพ้นจากบ้านถูกไฟไหม้ที่เขตบริสซี พอยท์ ย่านควีนส์ บนเกาะแมนฮัตตัน แต่ต้องมาเผชิญเหตุน้ำท่วมต่อ กล่าวว่า ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นไม่ต่างจากการเกิดสงคราม โดยสถานการณ์ทั่วไปของเขตบริสซี พอยท์ ไม่ต่างจากย่านอื่นๆบนเกาะแมนฮัตตันที่ถนนหลายสายยังจมใต้น้ำ ส่วนบนพื้นที่แห้งพบเศษข้าวของและเฟอร์นิเจอร์กระจัดกระจาย รวมทั้งรถยนต์หลายคันถูกแรงพายุและน้ำซัดมาจอดกลิ้งโค่โล่อยู่กลางถนนโดยมีเศษซากปรักหักพังของวัตถุต่างๆทับถมอยู่

หลังเกิดเหตุ นายไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีมหานครนิวยอร์ก และ ส.ว.ชัค ชูเมอร์ ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายและเยี่ยมผู้ประสบภัย พร้อมเผยว่า ระบบรถไฟใต้ดินจะยังใช้การไม่ได้ไปอีก 4-5 วัน ขณะที่เจ้าหน้าที่รับผิดชอบงานส่วนนี้ กำลังตรวจสอบความเสียหายทั้งระบบที่ถูกน้ำเค็มกัดเซาะทำลาย ส่วนอุโมงค์รถไฟใต้ดินทั้ง 7 แห่งบนเกาะแมนฮัตตัน รวมทั้งอุโมงค์บรูคลิน-แบตเตอรีและควีนส์ มิดทาวน์ ยังถูกน้ำท่วม ส่วนบริการรถบัสโดยสารน่าจะเปิดใช้ได้ในวันพุธ ตลาดหุ้นวอลสตรีท ของสหรัฐฯที่ปิดตัวหลังถูกน้ำท่วม คาดว่ากลับมาเปิดการซื้อขายได้วันพุธเช่นเดียวกัน พายุแซนดี้ยังทำให้มหานครนิวยอร์กต้องเลื่อนจัดงานพาเหรดฮัลโลวีนในคืนวันพุธออกไป

ขณะที่สถานการณ์ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ นายคริส คริสตี้ ผู้ว่าการรัฐ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินตรวจสอบความเสียหายในหลายพื้นที่ของรัฐ ก่อนแถลงว่าจะใช้เวลา 7-10 วัน ฟื้นระบบไฟฟ้าคืนเป็นปกติทั่วรัฐ พร้อมกล่าวชมนายโอบามาและส่วนกลาง ที่เตรียมแผนรับมือพายุได้ดีพอสมควร และยังมีรายงานชาวบ้านติดค้างอยู่ในบ้านรอความช่วยเหลืออยู่ประมาณ 20,000 คน ในเมืองโฮโบเคน รัฐนิวเจอร์ซีย์ ต่อมาโอบามาซึ่งหยุดหาเสียงเป็นวันที่ 3 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายที่นิวเจอร์ซีย์ด้วยเช่นกัน ส่วนนายรอมนีย์คู่แข่งของนายโอบามา ลงพื้นที่ตั้งศูนย์รับบริจาคข้าวของช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่รัฐโอไฮโอ โดยหลีกเลี่ยงไม่กล่าวถึงประเด็นการเมือง และไม่วิจารณ์คู่แข่งชั่วคราว ขณะที่ก่อนหน้านี้ โอบามาแถลงระหว่างตรวจเยี่ยมสำนักงานใหญ่กาชาดอเมริกัน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ว่า วิกฤติจากพายุแซนดี้ยังไม่ยุติ พร้อมเตือนบางรัฐทางภาคเหนือยังต้องเผชิญเหตุน้ำท่วมและลมกระโชกแรง

ส่วนการสัญจรทางอากาศ ซึ่งมีเที่ยวบินภายในสหรัฐฯและจากทั่วโลกถูกยกเลิกมากกว่า 18,000 เที่ยวและเจ้าหน้าที่สั่งปิดสนามบินใหญ่ทั้ง 3 แห่ง ในนิวยอร์กนั้น ข่าวระบุว่า สนามบินเจเอฟเคน่าจะเปิดดำเนินการได้ในวันพุธ 31 ต.ค. ตามวันและเวลาท้องถิ่น แต่เปิดบริการอยู่ในวงจำกัด อีกทั้งยังไม่แน่ชัดว่าอีก 2 สนามบินคือลาการ์เดียและนวร์ก รวมทั้งสนามบินรัฐนิวเจอร์ซีย์จะเปิดได้เมื่อไหร่ ขณะเดียวกัน พายุแซนดี้ยังพัดเอื่อยๆด้วยความเร็วลม 13 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหนือพื้นที่รัฐเพนซิลเวเนีย คาดพัดมุ่งหน้าขึ้นทางเหนือรัฐนิวยอร์กและเข้าแคนาดาเป็นด่านต่อไป ซึ่งการเคลื่อนตัวอย่างช้าๆยังทำให้พายุแซนดี้ผสมผสานกับแนวอากาศหนาวเย็นจากแคนาดา ก่อให้เกิดหิมะตกหนักแถบหุบเขาแอพพาลาเชน เมาเทนส์และพื้นที่ใกล้เคียง ส่วนพื้นที่หิมะตกหนักสุดอยู่ที่เมืองเรด เฮาส์ รัฐแมรีแลนด์ วัดได้สูงเกือบ 30 นิ้ว ส่วนบางพื้นที่ในรัฐโอไฮโอและเวสต์เวอร์จิเนีย มีรายงานว่าเกิดหิมะตกหนักและสูงถึง 1 เมตร สร้างความคึกคักด้านการท่องเที่ยว สำหรับสกี รีสอร์ตในพื้นที่ได้พอสมควร

สำหรับความเสียหายที่แคนาดาเมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 ต.ค. ตามวันเวลาท้องถิ่น แม้พายุแซนดี้ยังพัดไม่ถึง แต่แรงลมทำให้ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่นหลายจุด บ้านเรือนและบริษัทห้างร้านไม่มีไฟฟ้าใช้มากกว่า 130,000 หลัง มีผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงถูกป้ายโฆษณาตกทับ 1 คน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของแคนาดาเผย ตาพายุแซนดี้ได้พัดขึ้นฝั่งภูมิภาคเกรต เลคส์ ในวันพุธตามเวลาท้องถิ่น จากนั้นมุ่งหน้าตะวันออกเฉียงเหนือข้ามรัฐออนตาริโอและควิเบก ก่อนพัดลงทะเลในที่สุด

สำนักข่าวต่างประเทศยังรายงานด้วยว่า การที่พายุแซนดี้พัดถล่มสหรัฐฯที่กำลังเข้าสู่โค้งสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 6 พ.ย. ยังนำมาซึ่งคำถามว่าบางคูหาเลือกตั้งอาจไม่พร้อมเปิดทันกำหนดวันเลือกตั้งก็เป็นได้ ขณะที่บริษัทคาดการณ์และวิจัยด้านธุรกิจ “IHS Global Insight” เผยว่า พายุแซนดี้จะก่อความเสียหายแก่ทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 620,000 ล้านบาท) และจะก่อความเสียหายด้านธุรกิจและเศรษฐกิจอยู่ที่ประมาณ 10,000-30,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 310,000-930,000 ล้านบาท) ด้านบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่งระบุว่า แซนดี้อาจก่อความเสียหายด้านเงินประกันมากถึง 15,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 465,000 ล้านบาท)

นายไพโรจน์ ปักษาษิณ ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำนิวยอร์ก รายงานว่า จากการสอบถามเจ้าของธุรกิจและร้านอาหารไทยในรัฐนิวยอร์กทราบว่าได้ปิดกิจการตั้งแต่คืนวันที่ 28 ต.ค. ต่อเนื่องจนถึงวันที่ 31 ต.ค. หลังจากได้รับการประกาศเตือนภัย จึงได้รับความเสียหายกันไม่มากนัก บางจุดยังเข้าไปตรวจสอบไม่ได้ ส่วนผู้ที่มีบ้านอยู่ริมชายฝั่งในเขตฉุกเฉินฟาร์ร็อกเวย์ ควีนส์ ทุกคนปลอดภัย ความเสียหายอื่นๆ ยังไม่ได้ตรวจสอบ เช่นเดียวกับชาวไทยส่วนใหญ่ที่มีบ้านอยู่ในเขตประกาศเตือนภัย ก็ปิดบ้านอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย คาดว่าในวันที่ 1 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น คงจะทยอยเข้าไปสำรวจบ้านเรือนกันว่าได้รับความเสียหายหรือไม่ นอกจากนี้ ระหว่างพายุพัดถล่ม ปรากฏว่ามีต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าบ้านพักของกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก ถูกพายุพัดโค่นล้มลงไปทับรั้วบ้านเสียหายเล็กน้อย แต่นายรัศมี จิตต์ธรรม กงสุลใหญ่ และทุกคนในบ้านปลอดภัย พร้อมกันนี้นายรัศมีได้สอบถามไปยังชุมชนไทยต่างๆ สำรวจว่ามีคนไทยได้รับอันตรายและเสียหายอย่างไรบ้าง แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าชาวไทยได้รับอันตรายจากเหตุการณ์พายุถล่มครั้งนี้

วันเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีข้อความพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัยไปยังประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กรณีเหตุการณ์พายุเฮอริเคนแซนดี้เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ความว่า ข้าพเจ้าและพระราชินี เศร้าสลดใจยิ่งนักที่ได้ทราบข่าวเหตุการณ์พายุเฮอริเคนแซนดี้ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและก่อความเสียหายอย่างหนักต่อทรัพย์สินและโครงสร้างพื้นฐานในประเทศของท่าน ข้าพเจ้าและพระราชินีขอแสดงความเสียใจด้วยใจจริงมายังท่านและผู้ประสบความสูญเสียจากภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งนี้

นายดำรง ใคร่ครวญ รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เผยว่า สถานกงสุลใหญ่ไทย นครนิวยอร์ก รายงานเมื่อเช้าวันที่ 31 ต.ค.ว่าสถานการณ์ในนิวยอร์กขณะนี้ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ แม้ว่ารถสาธารณะ แท็กซี่เริ่มเปิดให้บริการแล้ว แต่รถไฟใต้ดินยังไม่เปิดให้บริการ เนื่องจากมีน้ำท่วมขัง คาดว่าจะให้บริการได้ในอีก 4-5 วัน เช่นเดียวกับท่าอากาศยานก็ยังไม่เปิดให้บริการ คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในช่วงเที่ยงของวันที่ 31 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเที่ยงคืนวันที่ 31 ต.ค. สำหรับคนไทยในนิวยอร์ก ไม่มีรายงานว่ามีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต สถานกงสุลใหญ่ได้ติดต่อกับวัด องค์กรต่างๆอย่างใกล้ชิด ทราบว่าคนไทยประมาณ 20-30 คน ที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณชายฝั่ง ได้อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย นอกจากนี้ กงสุลใหญ่ได้เดินทางไปเยี่ยมคนไทยที่อาศัยชั่วคราว ที่วัดพุทธไทยถาวรวนาราม ในเขตควีนส์ พบว่าทุกคนปลอดภัย และยังได้ให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวไทยในนิวยอร์กจำนวน 14 คน ซึ่งประสบปัญหาเรื่องที่พัก ส่วนคณะทัวร์ของคนไทย 2 คณะ ประมาณ 30 คน ที่ยังเดินทางกลับประเทศไทยไม่ได้ สถานกงสุลใหญ่ได้ประมาณให้ทั้งหมดเข้าพักในฝั่งนิวเจอร์ซีย์ เพื่อรอเดินทางกลับ

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงผลกระทบต่อการส่งออกของไทยไปสหรัฐฯว่า จะเป็นเรื่องการชะลอตัวด้านโลจิสติกส์ เช่น ระยะเวลาการขนส่งของสินค้าไปสหรัฐฯ และพิธีศุลกากรในการออกสินค้าที่ใช้เวลามากขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อการส่งมอบสินค้าที่ผู้นำเข้าจะต้องส่งมอบให้ลูกค้า/ร้านค้าปลีก หากท่าเรือในแถบชายฝั่งตะวันออกยังไม่สามารถเปิดทำการได้ ผู้ส่งออกไทยอาจต้องเปลี่ยนเส้นทางขนส่งสินค้าไปยังสหรัฐฯ ซึ่งอาจทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นถึง 20-25% ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์สหรัฐฯประเมินว่า พายุแซนดี้จะทำให้ร้านค้าปลีกและห้างสรรพสินค้าในสหรัฐฯต้องปิดตัว หรือร้านค้าบางรายได้รับความเสียหายในด้านตัวอาคาร สูญเสียรายได้ ส่งผลให้ยอดค้าปลีกรวมของเดือน ต.ค.55 ลดลง 2.3% เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน และจะมีผลฉุดให้เศรษฐกิจสหรัฐฯในไตรมาส 4 ลดลง 0.1-0.2% เพราะกิจกรรมเศรษฐกิจและการค้าในหลายสาขาได้รับผลกระทบ ทั้งการค้าปลีก การประมง ธุรกิจร้านอาหาร การเดินทาง ตลาดการเงิน การขนส่ง เป็นต้น ขณะเดียวกัน ยังคาดว่าความเสียหายในชั้นต้นน่าจะไม่ต่ำกว่า 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรืออาจจะสูงถึง 45,000 ล้านเหรียญฯ และการฟื้นฟูสภาพบ้านเมืองจะต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านเหรียญฯ ซึ่งเศรษฐกิจของพื้นที่ดังกล่าวคิดเป็น 25% ของระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ช่วงเย็นวันเดียวกัน ตามเวลาในไทย สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานสรุปความเสียหายและองค์ประกอบต่างๆของพายุแซนดี้ อาทิ ก่อให้เกิดสตอร์มเซิร์จสูงสุดวัดได้ 4.23 เมตร ที่รัฐนิวยอร์ก พื้นที่ฝนตกหนักสุด วัดได้ 31.88 เซนติเมตร ที่เมืองอีสตัน รัฐแมรีแลนด์ ลมพัดกระโชกแรงสุดเมื่ออยู่บนภาคพื้น วัดได้ 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่เมืองเมาธ์ วอชิงตัน รัฐนิวแฮมพ์เชียร์ ขนาดพายุแซนดี้โดยรวมทั้งลูก วัดเส้นผ่าศูนย์กลาง ได้ 1,600 กิโลเมตร ยอดคนไม่มีไฟฟ้าใช้อยู่ที่มากกว่า 8.5 ล้านครัวเรือน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตกว่า 50 ศพไปแล้ว แต่ไม่มีรายละเอียดอื่นๆ

พายุแซนดี้ที่เคลื่อนตัวไปพัดปกคลุมในบริเวณทางใต้ของรัฐเพลซิลเวเนีย คร่าชีวิตชาวอเมริกันในหลายรัฐแถบชายฝั่งตะวันออกเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 48 รายแล้ว และบ้านเรือนและธุรกิจ 8 ล้าน 2 แสนรายไม่มีไฟฟ้าใช้ ลมพายุและน้ำท่วมได้สร้างความเสียหายครั้งใหญ่แก่มหานครนิวยอร์กที่มีผู้คนอาศัยแออัดที่สุดในสหรัฐ

ซูเปอร์สตอร์มแซนดี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 48 รายในอย่างน้อย 8 รัฐ โดยเฉพาะที่นครนิวยอร์ก มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด 18 ราย และไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีของนครนิวยอร์ก บอกว่า พายุลูกนี้อาจเป็นครั้งร้ายแรงที่สุดเท่าที่นิวยอร์กเคยประสบมาและคาดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้นอีก ซึ่งตามรายงานข่าวคาดว่าเป็นภัยพายุที่พัดถล่มนครนิวยอร์กครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 75 ปี

พายุครั้งนี้ ยังทำให้เกิดไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ครอบคลุม 15 รัฐและวอชิงตันดีซี ทำให้บ้านเรือนและธุรกิจราว 8 ล้าน 2 แสนรายไม่มีไฟฟ้าใช้ ประชาชนกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน

นครนิวยอร์ก ศูนย์กลางการเงิน ได้รับผลกระทบจากทั้งน้ำท่วมและไฟฟ้าดับมากที่สุด ตลาดหุ้นต้องปิดตลาดติดต่อกันสองวัน แต่คาดว่าจะเปิดทำการได้วันพุธนี้ ตามเวลาท้องถิ่น และน้ำท่วมสถานีรถไฟใต้ดินอย่างน้อย 7 แห่ง ซึ่งเป็นความเสียหายครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ 108 ปีของระบบรถไฟใต้ดินของเมืองนี้

นายบลูมเบิร์ก บอกว่า ยังไม่อาจกำหนดได้ว่าจะสามารถเปิดให้บริการรถไฟใต้ดินได้เมื่อไหร่ แต่คาดว่ารถโดยสารจะวิ่งให้บริการได้วันนี้ ส่วนสนามบินใหญ่ทั้งหมดในนิวยอร์กยังคงปิดอยู่เพราะรันเวย์มีน้ำท่วมขัง และคาดว่าอาจใช้เวลาอีก 2-3 วันกว่าไฟฟ้าจะใช้การได้พื้นที่ส่วนใหญ๋ของเมือง หรืออาจจะนานกว่านั้น

นอกจากนี้ นครนิวยอร์กยังเผชิญไฟไหม้เผาบ้านเรือนวอดวายกว่า 80 หลังในย่านควีนส์สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่อื่นๆของเมืองเริ่มเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านเรือน และสูบน้ำที่ท่วมขังภายในบ้าน


 
ส่วนรัฐนิวเจอร์ซี เป็นอีกแห่งที่ได้รับความเสียหายหนักจากพายุเพราะเป็นจุดที่พายุพัดขึ้นฝั่ง และนายคริส คริสตี้ ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซี ซึ่งได้นั่งเฮลิคอปเตอร์สำรวจความเสียหายบริเวณชายฝั่งของรัฐบอกว่า เป็นภาพความเสียหายร้ายแรงอย่างที่คาดไม่ถึงบ้านเรือนจำนวนมาก และสวนสนุกซีไซด์ พาร์ค จมอยู่ใต้น้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิต นอกจากนี้มีรายงานว่า เรือจำนวนมากในบริเวณชายฝั่งได้รับความเสียหายจากคลื่นซัด
และหน่วยกู้ภัยของรัฐกำลังออกค้นหาประชาชนที่อาจติดอยู่ในบ้านที่ถูกน้ำท่วม เนื่องจากบางส่วนอาจไม่อยากอพยพออกไปหรือบางส่วนอพยพไม่ทันเพราะอยู่ในจุดที่คลื่นสูงซัดกระทันหันโดยไม่ทันรู้ตัว

ขณะนี้ พายุได้อ่อนกำลังลงแล้วขณะเคลื่อนตัวช้าๆไปทั่วทางใต้ของรัฐเพนซิลเวเนีย อยู่ระหว่างเมืองพิตส์เบิร์กและเพนซิลเวเนีย โดยมีความเร็วลม 72 กม/ชม ทำให้รัฐนี้เผชิญกับลมแรงและฝนตกหนักแต่ไม่มีน้ำท่วมใหญ่

ซุปเปอร์พายุ Hurricane Sandy พัดเข้าชายฝั่งตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว นิวเจอร์ซี่-นครนิวยอร์กอ่วม ตายแล้ว 1 ยกเลิกเที่ยวบินกว่าหมื่นเที่ยว ขณะทำเนียบขาวออกประกาศหากสั่งอพยพต้องออกโดยทันที สำนักข่าวต่างประเทศรายงานคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับสถานการณ์พายุเฮอริเคนแซนดี้ (Hurricane Sandy) ที่คืบคลานขึ้นชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกาไปแล้ว โดยล่าสุด มีรายงานจากเมืองแอตแลนติก ซิตี้ (Atlantic City) รัฐนิวเจอร์ซีย์ (New Jersey) ระบุว่าความเร็วลมของพายุที่พัดกระหน่ำขณะนี้อยู่ที่ 65-85 ไมล์ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีลมกระโชกแรงเช่นนี้ไปตลอดทั้งคืน โดยความเร็วลมที่พัดมาจากทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มพัดแรงตั้งแต่ 40 ไมล์ บางช่วงเวลากระโชกขึ้นไปถึง 85 ไมล์ ซึ่งถือว่าเป็นสถานการณ์ที่อันตราย ขณะที่พายุดังกล่าวส่งผลให้ต้นไม้หลายต้นหักโค่น และพาดทับสายไฟฟ้าจนขาด ทำให้บางพื้นที่ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ในขณะนี้ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลานาน กว่าการซ่อมแซมจะเสร็จสิ้นจนมีไฟฟ้าใช้ได้อีกครั้งหนึ่ง ขณะที่มีการถ่ายทอดภาพสดผ่านทางอินเทอร์เน็ต

นอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมจากนครนิวยอร์กด้วยว่า พบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ศพ จากเหตุถูกต้นไม้ล้มทับ โดยสถานการณ์ที่นิวยอร์ก ถือว่าอยู่ในขั้นรุนแรงเช่นเดียวกัน ส่วนสถานการณ์ทั่วไปในนครนิวยอร์กนั้น มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้สั่งตัดไฟฟ้าแล้วในเขตแมนฮัตตันและบรูคลิน ส่วนทางด้านการบินนั้น มีรายงานเช่นกันว่าทางการสหรัฐอเมริกา สั่งระงับเที่ยวบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศอีกกว่า 10,000 เที่ยวบินแล้ว ด้านทำเนียบขาวออกประกาศเตือนประชาชนในแต่ละพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเผชิญหน้ากับพายุดังกล่าว ให้คอยรับฟังคำประกาศจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ซึ่งหากว่ามีคำสั่งอพยพ ขอให้ประชาชนรีบอพยพออกจากพื้นที่ในทันที


มีรายงานเพิ่มเติมว่านครนิวยอร์ก มีคำสั่งให้ประชาชนที่อยู่บนอาคารสูงใกล้กับจุดก่อสร้างอพยพออกจากพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้ปั้่นจั่นขนาดใหญ่ที่ติดตั้งอยู่บนยอดตึกสูง 90 ชั้น ซึ่งถูกลมพายุพัดเข้าใส่จนเอียง และเสี่ยงต่อการหักโค่นลงมาในทุกขณะ โดยที่ก่อนหน้านี้ มีชิ้นส่วนบางชิ้นหลุดร่วมลงมาบ้างแล้ว โดยอาคารสูงดังกล่าวตั้งอยู่ใกล้กับสวนสาธารณะเซ็นทรัลปาร์ค ล่าสุดมีรายงานว่า อิทธิพลจากพายุแซนดี้ ได้ทำให้โรงไฟฟ้า ConEd บนถนนสาย 14th ในแมนฮัตตัน ระเบิดรุนแรง เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย ขณะที่ทางการนิวยอร์ก ประกาศตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดจากพายุแซนดี้ อยู่ที่ 5 ราย

พายุไต้ฝุ่นเซินตินห์ที่ขณะนี้พัดอยู่บริเวณแนวชายฝั่งภาคเหนือของเวียดนาม ยังคงส่งผลกระทบต่อพื้นที่ที่พาดผ่าน ทำให้เกิดฝนตกหนัก และลมพัดแรง หลังพัดถึงฝั่งเวียดนามช่วงค่ำวานนี้ ด้วยความเร็วลมสูงถึง 133 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
สำนักข่าวของทางการเวียดนาม รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากพายุแล้วอย่างน้อย 3 คน บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง ทางการส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและทหาร รวม 1,300 คน ช่วยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในการช่วยเหลือ และค้นหาผู้ได้รับผลกระทบ และเตรียมความพร้อมเฮลิคอปเตอร์อีกหลายลำ เพื่อขึ้นบินค้นหาคนงานแท่นขุดเจาะน้ำมัน 35 คน ที่สูญหาย หลังจากแท่นน้ำมันหลุดออกจากเรือลากโยงกลางทะเล ในช่วงที่คลื่นลมแรงจัด และยังไม่ทราบชะตากรรมของผู้สูญหาย
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า พายุส่งอิทธิพลถึงเกาะไหหลำ ทางตอนใต้ของจีน ทำให้เรือขนส่งวิศวกรล่ม มีผู้สูญหายอีก 5 คน
ไต้ฝุ่นเซินตินห์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 30 คน นับตั้งแต่เริ่มก่อตัว และพัดผ่านฟิลิปปินส์ ก่อนเคลื่อนตัวถึงเวียดนาม และคาดจะอ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อน และดีเปรสชั่นต่อไป

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น