วันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

คาสเซ็ทรีวิว- ร็อคเท่ห์ๆ กวนๆ สไตล์บิลลี่ โอแกน

บิลลี่ โอแกน เป็นนายแบบ และนักแสดงภาพยนตร์ มาก่อน จากนั้นมาเป็นพิธีกรรายการเพลง night show ของแกรมมี่ ก่อนจะมาเป็นศิลปินนักร้องในสังกัดแกรมมี่ ในอัลบั้มแรกนั้น พี่บิลลี่ ยังมีคาแรกเตอร์แบบในหนังเรื่องปลื้ม หรือ ซึมน้อยหน่อย ที่แกเล่นแล้วประสบความสำเร็จ คือบุคลิกใสๆ กวนๆ เฮฮา น่ารัก สมวัย และยังเป็นช่วงค้นหาแนวทางดนตรีอยู่ ดนตรียังไม่เข้มข้น และวิธีการร้องเพลงก็ยังเป็นป็อปจ๋า แต่อัลบั้มแรกก็ประสบความสำเร็จใช้ได้ จนถึงขนาดมีค่ายคู่แข่งส่งคุณ แมน วทัญญู ตามประกบ แต่ก็ไม่ดังเท่า และเงียบหายไป งานของพี่บิลลี่ตั้งแต่อัลบั้มแรกจนถึงปัจจุบัน มีความเข้มข้น หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่ไม่เคยขาดจากอัลบั้มเลย ก็คือ ท่วงทำนองที่เป็นร็อค เนื้อหาของเพลงที่ประชดประชัน เสียดสีสังคม จิกกัดค่านิยม สังคมไทย บางครั้งให้แง่คิด วิถีการดำเนินชีวิต การเคารพในคุณค่าของตนเอง ซึ่งหาได้ยากในศิลปินทั่วๆ ไป พี่บิลลี่เป็นแบบอย่างที่ดีได้ทั้งในแง่การผลิตงานดนตรี และการใช้ชีวิต ทัศนคติ มุมมอง และรสนิยมทางดนตรี ความสามารถทางดนตรีล้นเหลือ แต่เนื่องจากผู้เขียนตามงานของพี่บิลลี่ถึงแค่ชุดที่ 5 คือบันลือโลก ภายใต้ชายคาแกรมมี่และคีตาเท่านั้น หลังจากนั้นไม่ได้ตามต่อ แต่จะขอนำมารีวิวเพียงแค่ 3 อัลบั้มแรก เท่านั้น ดังนี้


อัลบั้มแรก บิลลี่ บิลลี่ (ปี 2530) จาจุรนซ์ เอมซ์บุตร เป็นโปรดิวเซอร์ และมีพี่เต๋อดูแลการผลิตเอง เป็นยุคต้นๆ ของแกรมมี่ เพลงเปิดตัว วันนี้ วันนั้น วันไหน ,อย่างน้อย ,บอกแล้วแววมันออก
3 เพลงนี้ ดังมาก เพลงเปิดตัว วันนี้ วันนั้น วันไหน (คำร้อง อรรณพ จันสุตะ,ทำนอง จาตุรนซ์ เอมซ์บุตร) สดใสน่ารัก ดนตรีสนุก เพลงต่อมา แพ้แก้ตัวใหม่ เพลงกลางๆ ความหมายดี เนื้อหาชอบ ,ขอเป็นเพื่อนที่ดี (คำร้อง จาตุรนซ์ เอมซ์บุตร,ทำนองไพฑูรย์ วาทยากร) มีท่อนฮุคติดหู “รู้ๆ ดี เราไม่ควรฝืนใจ เพราะรู้ๆ ดี เราต่างมีหนทางก้าวไกล คิดต่างกัน จากกันด้วยดี” เป็นเพลงอกหักที่มีแง่คิดเชิงบวกดี อัลบั้มนี้จะอยู่ในโทนคอนเซ็ปต์คือวิธีคิดเชิงบวกทั้งอัลบั้ม ค่อนข้างถ่อมตน สังเกตจากชื่อเพลงได้ เพลงทำอะไรก็ทำ เพลงนี้มีความหมายที่ดี มีกลิ่นไอความเป็นร็อกนิดๆ ซึ่งพี่บิลลี่ก็เริ่มฉายแววทางด้านนี้นิดๆ แล้ว เพลง ก็พอแล้ว ดนตรีเป็นร็อกเลย (คำร้อง พี่ดี้,ทำนอง อัฐพงษ์ ชัยกุล) เพลงช้าที่ไพเราะที่สุดในอัลบั้มคืออย่างน้อย (คำร้อง ประภา จันนิน , ทำนอง โสฬส ปุณกะบุตร) มีท่อนฮุค ประโยคจำ “ฉันนั้นก็รู้ดี จากวันนี้เธอคงต้องไป ตามทางที่เธอตั้งใจ สุดแต่ใจของเธอ จะขอไว้แต่ก็เพียง หากบังเอิญเรามาพบกัน จำไว้อย่างว่าเรายังรู้จักกัน อย่างน้อยก็คนเคยรัก ฉันคงยังจะหักใจไม่ได้ เพียงทักทาย ๆ แค่นั้นพอ” เพลงนี้แต่งไว้ก่อนที่พี่บิลลี่กับคุณสิเรียมจะเป็นแฟนกัน แต่พอมาฟังตอนหลัง นี่ได้ฟีลสุดๆ มันยังไพเราะมาจนถึงปัจจุบัน แล้วพี่บิลลี่ก็ร้องได้ดี อินสุดๆ เพลงบอกแล้วแววมันออก (คำร้องพี่ดี้,ทำนอง กฤษณ์ โชคทิพย์พัฒนา) จังหวะมันส์ ๆ เพลงโจ๊ะของอัลบั้มนี้ มิวสิควีดีโอก็สนุก เพลงมาเป็นเพื่อนที่ดี (คำร้องอรรณพ จันสุตะ,ทำนอง อนุวัฒน์ สืบสุวรรณ) เพลงนี้สร้างคาแรกเตอร์ของเสียงให้เกิดสำเนียงแบบบิลลี่ๆ จนทำให้อัลบั้มต่อๆ มาของพี่บิลลี่ มีสำเนียงแบบเพลงนี้ คือเน้นๆ กระแทกๆ ยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก เพลงแค่รองเท้าเก่าๆ (คำร้องประภา จันนิน,ทำนอง ไพฑูรย์ วาทะยากร) ดนตรีมีความเป็นร็อกที่สุดในอัลบั้มแล้ว คำร้องก็มีความหมายที่ดี เพลงนี้ผู้เขียนชอบที่สุดในอัลบั้มที่สุดแล้ว
อัลบั้มที่ 2 บิลลี่ เข้ม (ปี 2532) โปรดิวเซอร์คนเดิมคือ จาตุรนซ์ เอมซ์บุตร เพลงเปิดตัว เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม ,หยดน้ำในทะเล ,อยากตะโกน ชื่อเพลงในอัลบั้มนี้มันบอกนัยยะอะไรบางอย่าง คือประชดประชันสุดๆ แต่เข้ากับธีมร็อคสุด ๆ อัลบั้มนี้ประสบความสำเร็จสูงสุดของพี่บิลลี่ เลยก็ว่าได้ ทั้งในแง่ยอดขาย การสร้างภาพลักษณ์การเป็นศิลปินร็อค และมีผลให้พี่บิลลี่มีคอนเสิร์ต และมีงานโชว์ตัวตามมาอีกมากมาย ขึ้นแท่นเป็นศิลปินลูกรักพี่เต๋อ และก็เบอร์ต้นๆ ของแกรมมี่ในยุคนั้น เพลงไพเราะทั้งอัลบั้ม เพลงแรก หยดน้ำในทะเล (คำร้องพี่ดี้,ทำนอง จาตุรนซ์) แค่ชื่อเพลงก็โดนแล้ว แต่งมาได้ยังไงเนี่ย เพลงต่อมานี่สิ เด็ดดวงมาก

เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม (คำร้องพี่ดี้,ทำนอง ชาตรี คงสุวรรณ) ทั้งเนื้อร้องและทำนองโดนสุดๆ ถูกนำมา cover มากที่สุดของบิลลี่ ฮิตที่สุดของบิลลี่ด้วย เพลงโจ๊ะของอัลบั้มนี้ ทุกวันนี้ยังมีคนนำเพลงนี้มาร้องอยู่เสมอๆ ประโยคจำ ท่อนฮุค วลีเด็ด “สิ่งใดดูเหมือนมีค่า คนใขว่และคว้ากันไป ไม่ขอยึดยื้อให้เหนื่อยใจ ฉันขอเธอคนเดียว โลกกลมๆ จะเป็นของใคร ไม่เคยจะข้องเกี่ยว มีแต่เธอผู้เดียวก็สุขใจ เธอให้ใจจริงแท้ และมีความหมาย เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม” เพลงเบื่อก็ทนเอา (คำร้องเขตอรัญ เลิศพิพัฒน์ ,ทำนองสมชาย กฤษณะเศรณี) เพลงนี้ประชดประชันผู้ใหญ่สุด ๆ ฟังครั้งแรกรู้สึกพี่บิลลี่ แนวสุดๆ กบฏนิดๆ

แล้วมาต่อด้วยเพลง ฟ้าคงสะใจ (คำร้อง พี่ดี้ ,ทำนอง จาตุรนซ์ เอมซ์บุตร) เพลงนี้โดนสุด ๆ เลย ชอบทั้งเนื้อหา ดนตรี มิวสิควีดีโอ มันบอกตัวตน คาแรกเตอร์ของพี่บิลลี่ ในอัลบั้มนี้ได้ชัดที่สุด คือบิลลี่เข้ม ท่อนฮุค ประโยคจำ “ฟ้าคงสะใจ คงพอใจที่ได้เห็นเราเลิกรา เห็นคนต้องเสียน้ำตา เห็นคนช้ำใจ คงจะเห็นเป็นความสะใจ “ เพลงช่างปะไร (ผู้หญิงคนเดียว) (คำร้องพี่ดี้, ทำนองสมชาย กฤษณะเศรณี) เพลงนี้เป็นเพลงอกหักที่มีท่วงทำนองสนุก เนื้อหาเป็นคำสอนชาย เมื่อก่อนเห็นมีแต่สอนหญิง แต่นี่เป็นเพลงสอนผู้ชาย ดูเท่ห์มากในยุคนั้น “เก็บมาจำ ให้เจ็บทำไม ช่างปะไร ผู้หญิงคนเดียว ....คนเดี๋ยวนี้ แม้รักจะหมดใจ ถึงยังไงก็ไม่มีทาง ใจก็รุ้ยิ่งคิดยิ่งผิดหวัง แล้วหวังทำไม “ เพลงก็มันเป็นอย่างนั้น (เพลงประกอบ ภ.ฉลุย) (คำร้อง เขตต์อรัญ,บิลลี่ ,ทำนอง จิรพรรณ อังศวานนท์) เพลงนี้ถูกนำมาใส่ไว้ในอัลบั้มนี้ด้วย ทั้งตัวเพลงและภาพยนตร์เรื่องฉลุย ถือว่าประสบความสำเร็จมากในยุคนั้น เพราะมีนักแสดงนำคือพี่บิลลี่และพี่เอ็ม สุรศักดิ์ แสดงนำ และเพลงนี้ร้องและแต่งเพลงเองด้วย คนเราเวลาจะประสบความสำเร็จ มันจะมาเป็นคอมโบ้เซ็ท เสมอ คือร้องเพลง เล่นภาพยนตร์ ถ่ายแบบ เล่นละคร ออกรายการ ออกคอนเสิร์ต ทัวร์ทั่วประเทศ ต่างประเทศ นั่นแหละพี่บิลลี่ตอนนั้น มีเขียนพ็อกเก็ตบุ้ค ด้วยหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ นะครับ

เพลงฝังไว้ในผืนดิน (คำร้องพี่ดี้ ,พี่นิ่มสีฟ้า ,ทำนอง สมชัย ขำเลิศกุล) เพลงนี้เนื้อหาและดนตรีโดนสุด ๆ รวมถึงมิวสิควีดีโอเพลงนี้ภาพมิวสิคเหมือนถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตพี่บิลลี่ ตลอดการเดินทางมาเป็นศิลปินได้ดี (เป็นเพลงธีมของอัลบั้ม) และก็พูดถึงเรื่องราว ความรักของคนที่ทุ่มเท ศรัทธากับความรัก แต่ก็ต้องมาผิดหวัง เป็นผลงานเพลงที่ประพันธ์โดยสุดยอดนักแต่งเพลงแห่งยุค 2 ท่าน คือพี่ดี้และพี่นิ่ม( ตอนนั้นต้องมาทำงานร่วมกันเพื่อผลิตงานมาสเตอร์พีชชิ้นนี้) ท่อนฮุค ประโยคจำ “บนแผ่นดินที่มันกว้างใหญ่ หากจะพอฝังความตรอมใจที่มี ชีวิตคงดีกว่าที่เป็นมา เจ็บใจนักเพราะรักมาไป ไม่เตรียมใจซะบ้าง ไม่ระวัง ก็เพราะมัวแต่ไว้ใจ เก็บความหวังจริงใจที่ให้ไป ฝังลงในผืนดิน แล้วลืมมันให้สิ้นไปจากใจเสียคงดี” ผู้เขียนชอบที่สุดในอัลบั้ม ส่วนเพลงปล่อยเขา (คำร้อง อรรณพ จันสุตะ,ทำนองจาตุรนซ์)มีเนื้อหาที่ตัดพ้อ และจำยอมต่อความรัก เพลงนี้จะโดดออกไปจากคอนเซ็ปต์อัลลั้ม คือเพลงอื่นๆ จะประชดประชัน หรือออกแนวบู๊ เข้มตลอดเลย เพลงนี้มีเนื้อหาเชิงบวก คล้ายๆ เพลงเบื่อก็ทนเอา

เพลงอยากตะโกน (คำร้องพี่นิ่ม สีฟ้า,พี่ดี้ ,ทำนองจาตุรนซ์) เป็นผลงานเพลงที่ประพันธ์โดยสุดยอดนักแต่งเพลงแห่งยุค 2 ท่าน คือพี่ดี้และพี่นิ่ม มีท่อนฮุค ประโยคจำ “ทั้งที่ใจอยากตะโกน ฟ้องใครต่อใครเกี่ยวกับใจของเธอที่มี ที่ใครๆ คิดกันว่าดี แต่มันไม่ดีเท่าไหร่ อยากระบายให้ใครได้ฟัง เมื่อได้ฟัง แล้วคงเข้าใจ ว่าจริงๆ ฉันจวนจะตายเพราะเธอ “ เพลงโตๆ กันแล้ว (คำร้อง จาตุรนซ์,ทำนองอภิไชย เย็นพูนสุข) เพลงนี้เป็นเพลงปิดท้ายอัลบั้ม มีกลิ่นไอที่คล้ายเพลง แค่รองเท้าเก่าๆ ในอัลบั้มแรก คือโซโล่กีต้าร์กันยาวเลย แม้เนื้อหาไม่เกี่ยวเนื่องกัน แต่ภาคดนตรีมันจะดูเหมือนว่าจะเป็นการปล่อยของในเพลงสุดท้ายเสมอ
อัลบั้มที่ 3 บิลลี่ เข้มตลอด (ปี 2533) เพลงเปิดตัว ลาออก , ผิดจนเกินอภัย เพลงแรก ลาออก ฟังครั้งแรกก็ติดหู ดังระเบิดระเบ้อไปเลย เพลงนี้สร้างกระแส ลูกน้องกับเจ้านายในออฟฟิซ มากมาย เป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ในช่วงนั้น อัลบั้มนี้ประสบความสำเร็จสูงสุดต่อยอดมาจากอัลบั้มชุดที่แล้ว บางทีก็คิดว่าพี่บิลลี่เป็นเดวิด โบวี่เมืองไทยเหมือนกัน เพลงนี้จำได้ว่าถูกร้องบ่อยที่สุดเวลาไปเที่ยวคาราโอเกะกับเพื่อนๆ ในออฟฟิซ ประโยคจำหรือท่อนฮุค “เสียเวลาหน่ะ เสียเวลา ...ออก อย่างนี้ต้องลาออก จะขอลาออก ประท้วงคนงกนัก อย่างนี้ต้องลาออก ๆ จะขอลาออก รู้แล้วรู้รอดไป”

เพลงผิดจนเกินอภัย (คำร้อง/ทำนอง พี่บิลลี่แต่งเอง) เริ่มแสดงศักยภาพในการแต่งเพลงเอง แต่เพลงนี้ผู้เขียนชอบน้อยกว่าเพลงหมื่นล้านเพลง ที่เนื้อหาและดนตรีเข้มข้นกว่า แต่เพลงนี้ถูกเลือกโปรโมตในช่วงแรกเพราะคำร้องอาจฟังดูติดหูกว่าหรือเปล่า แต่สำหรับผู้เขียนก็ถือว่าเพลงนี้ไพเราะในระดับธรรมดาๆ เพลงนึง ไม่ได้มีกิมมิคอะไร เพลงพูดด้วยก็ไม่พูดด้วย (คำร้องอรรณพ จันสุตะ,ทำนอง จาตุรนซ์และบิลลี่) เพลงนี้ดีไซน์การร้องและดนตรีจะมีเน้นเสียงกลอง คือจะมีสำเนียงอีสานหน่อยๆ แบบติดสำเนียงฝรั่ง คือพี่บิลลี่แกเริ่มจะค้นหาแนวทางใหม่ๆ มาใส่ในอัลบั้ม และการร้องติดสำเนียงอีสาน ก็ถูกค้นพบ และก็ถูกนำมาใช้ในอัลบั้มต่อๆ ไปของแก เพลงคำมักง่าย (คำร้อง สุรักษ์ ,จักราวุธ ทำนอง โสฬส ปุณกะบุตร) เพลงนี้โดยส่วนตัวผู้เขียนก็ชอบเพลงนึงในอัลบั้ม แต่มันแปลกแยกที่สุดในอัลบั้ม คือมันซอฟท์ลงจนกลายเป็นเพลงป็อบอีซี่เพลงนึงไปเลย “เอ่ยคำว่ารัก ไม่ยากเท่าไหร่ ใครๆ ก็พูดกันได้ หากใครเชื่อใจ ก็ปล่อยให้ทนช้ำใจไปเอง” เพลงไม่มีแก่นสาร (คำร้องประชา พงษ์สุพัฒน์,ทำนอง โสฬส ปุณกะบุตร) เพลงนี้ร็อคสะใจที่สุดในอัลบั้ม เนื้อหาก็ดี มีช่วงโซโล่กีต้าร์ที่ยาว ชอบมากที่สุดในอัลบั้มแล้ว ประโยคจำ ท่อนฮุค “ย้อนนับวันนับปี ชีวิตที่เรามีอยู่ ก็ใช้นิ้วนับนิ้วดูสักที ว่ามีกี่ปีก่อนสิ้นใจ” เพลงหมื่นล้านเพลง (คำร้อง/ทำนอง แต่งโดยบิลลี่เอง) เป็นการโชว์ความสามารถของพี่บิลลี่เป็นครั้งแรกในเพลงนี้ เนื้อหาและทำนอง ซึ่งก็เป็นการฉายแววการเป็นโปรดิวเซอร์ของพี่บิลลี่จากเพลงนี้ เพลงนี้เป็นอีกเพลงนึงที่ชื่นชอบในอัลบั้มนี้ครับ เพลงหน่อมแน้มไปหน่อย (คำร้องพี่แอม ,ทำนองอภิไชย เย็นพูนสุข) เพลงนี้ท่าจะให้ฟังอย่างเดียวยังไม่ได้ฟิลเท่าไหร่ ต้องดูตอนพี่บิลลี่เล่นคอนเสิร์ตด้วย ลีลาแต๋วแตกมากๆ ไม่ออกหน่อมแน้มเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าตีความผิด หรือว่าบุคลิกมันไม่ได้ก็ไม่รู้, เพลงเสี้ยนหนาม (คำร้องพี่ดี้, ทำนองสมชาย กฤษณะเศรณี) (เพลงช้าโดนใจอีกเพลงนึง ในอัลบั้ม เพลงนี้ไม่ค่อยได้ยินเปิดทางสื่อมากนัก แต่เป็นอีกเพลงนึงที่พี่บิลลี่ร้องได้ฟีลสุด ๆ เพลงจนแต่เจ๋ง (คำร้องจักราวุธ แสวงผล, ทำนองบิลลี่ โอแกน) เพลงนี้แหละมันส์ที่สุดแล้วในอัลบั้มนี้ และมักนำขึ้นไปโชว์บนคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ดนตรีสนุกมาก พี่บิลลี่แต่งเอง ได้คำร้องโดนๆ ของจักราวุธ แสวงผล ทำให้เพลงนี้ลงตัว ฟังทีไรอยากจะขึ้นมาโยกตามทุกที ประโยคจำ ท่อนฮุค “จนก็จนแต่เจ๋ง เป็นนักเลงหัวใจ เราไม่เคยหวั่นไหว ใครจะใช้สตางค์ เงินไม่มีไม่สน ใจไม่จนซะอย่าง จะจริงใจทั้งใจให้เธอ” เพลงหุ่น (คำร้อง พี่ดี้,ทำนอง จิรพรรณ อังศวานนท์) เนื้อหาเพลงดีมาก เป็นเพลงที่ให้แง่คิด คุณค่าความเป็นคน เป็นเพลงปิดอัลบั้มที่สุดยอดมาก




อัลบั้มเพลงผลงานทั้งหมดของบิลลี่ โอแกน


• ปี 2530 อัลบั้ม บิลลี่ บิลลี่ (สังกัดแกรมมี่ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์)

• ปี 2532 อัลบั้ม บิลลี่ เข้ม (สังกัดแกรมมี่ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์)

• ปี 2533 อัลบั้ม บิลลี่ เข้มตลอด (สังกัดแกรมมี่ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์)

• ปี 2535 อัลบั้ม บิลลี่ ทรงเครื่อง (สังกัดแกรมมี่ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์)

• ปี 2537 อัลบั้ม บิลลี่ บันลือโลก (สังกัดคีตาเอ็น เตอร์เทนเม้นท์)

• ปี 2539 อัลบั้ม บิลลี่ อาสา (สังกัดโรงบ่มดนตรี)

• ปี 2544 อัลบั้ม บิลลิโอ พิงก์ (สังกัดไวท์เลเบล)

• ปี 2547 อัลบั้ม บิลลี่ เสี่ยว (สังกัดอากูเรคคอร์ด)

• ปี 2548 อัลบั้ม บิลลี่ เข้มเหมือนเดิม (สังกัดมอร์มิวสิก)

• ปี 2551 อัลบั้ม บิลลี่ เอ็กซ์โอเอ็กซ์โอ (สังกัดติดดินอินดี้)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น