ด้านชีวิตส่วนตัว โบได้สมรสกับดารา นักแสดงชื่อ ฝันเด่น จรรยาธนากร ซึ่งทั้งคู่ได้พบรักและคบหาดูใจกันมายาวนานถึง 10 ปี ก่อนที่จะลงเอยด้วยการแต่งงานไป เมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2548และในวันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมาเพิ่งคลอดลูกสาวคือน้องฮานิ
ผลงานอัลบั้มเดี่ยว Beau (2539) SuperBeau (2540) Miracle (อัศจรรย์) (2541) รักยิ่งใหญ่จากชายคนหนึ่ง (2544) Enjoy (2547) Music (2549)
มินิอัลบั้ม (อีพี) Beau Light (2540)
อัลบั้มพิเศษ และอัลบั้มรวมเพลงฮิต 1,000,000 Copies Celebration (2539) The Very Best Of โบ สุนิตา (2543) Non Electric Project (2544) I Am Beau (2545) My Inspiration (2551)
เพลงที่มีชื่อเสียง และซิงเกิ้ลฮิต
1. ฉันรู้
2. เธอไม่เคยถาม
3. ไม่มีอีกแล้ว
4. อยู่คนเดียว
5. พรุ่งนี้ (จะไปกับเธอ)
6. อธิษฐาน
7. ขอเป็นคนของเธอ
8. พรุ่งนี้จะรักฉันไหม
9. อยากให้เธออยู่ตรงนี้
10. เสียใจ
11. เทน้ำบนกองทราย
12. เห็นน้ำตาฉันไหม
13. ตามใจ
14. ฉันจะจำเธอแบบนี้
15. อัศจรรย์
16. แค่คำว่ารัก
17. บอกอะไรป่านนี้
18. อย่าบอกให้ฉันไป
19. รักยิ่งใหญ่จากชายคนหนึ่ง
20. กีรติ (เพลงประกอบภาพยนตร์ ข้างหลังภาพ)
21. พี่ชายที่แสนดี
22. รักครั้งสุดท้าย
23. ยังรักกันอยู่ใช่ไหม
24. ค้นใจ
25. เมื่อไหร่ดีพี่
26. ถ้าเธอพร้อม ฉันก็พร้อม
27. เจ้าหญิงในนิยาย
28. เธอรู้ได้ยังไง
29. รักแท้หรือแค่เหงา
30. ฝากตามเขาที
31. หนึ่งในไม่กี่คน
ศิรินทิพย์ หาญประดิษฐ์ (โรส) เกิดเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2526 จบการศึกษาระดับประถมศึกษาปีที่ 1-3 จากโรงเรียนอาเวมารีอา อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ระดับประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียน Emmaus ในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ระดับประถมศึกษาปีที่ 5 จาก ICS (International Christian School) เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ระดับประถมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนสวนนันทวัน (ปิดไปแล้ว) ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากโรงเรียนคริสตธรรมศึกษา กรุงเทพมหานคร ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6 จากโรงเรียนสายน้ำผึ้ง (ศิลป์ภาษาฝรั่งเศส) และปริญญาตรี เอกภาษาอังกฤษ คณะมนุษยศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร
โรสได้รับรางวัลร้องเพลงรางวัลประกวดชนะเลิศ การประกวดร้องเพลงภาษาฝรั่งเศสประจำปีที่เซนต์จอห์น (St. John) จากสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ในตอนมัธยมปลาย และเคยได้รับรางวัลสีสันอวอร์ดสครั้งที่ 17 ในสาขาศิลปินหญิงเดี่ยวยอดเยี่ยม จากอัลบั้ม Time Machine ปี 2548 นอกจากนั้นโรสยังทำหน้าที่เป็นคอรัสและไกด์เพลงให้กับศิลปินคนอื่นๆ ในวงการดนตรีอีกมากมาย และโรสยังสามรถเล่นกีตาร์ เปียโน เบส และกลอง
ผลงานเพลงอัลบั้มเดี่ยว Time Machine 2547 ,Rose Line 2550 , Rose My Inspiration 2551 , Rose Show 2551 , Feel by Rose 2553 , Living Rose 2554 , Evening with Rose 2554 More Than 2555
เพลงคริสเตียน
1. ฝากใจไว้ที่กางเขน
2. How Excellent Your Name
3. We are the reason
4. บุตรแห่งรางหญ้า
5. รักไม่มีเงื่อนไข (feat. โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร)
6. วางใจเมื่อมีเธอ (อัลบั้ม the one)
7. ขอให้ลูก
ผลงานอัลบั้มพิเศษอื่นๆ
1. อัลบั้มพิเศษ The War เพลงฮิต "Tomorrow"
2. อัลบั้มพิเศษ GIFT เพลงฮิต "เกิดมาแค่รักกัน"
3. ซิงเกิ้ลเพลง"ฉันเป็นอะไรไป" (ประกอบละครเรื่อง "ลมหวน" ทางไทยทีวีสีช่อง3)
4. อัลบั้มพิเศษ เพลงประกอบละครซีรีส์เกาหลี เพลงฮิต "Perhaps Love"
5. อัลบั้มพิเศษ Sleepless Society 2 เพลงฮิต "นอนกับความเหงา"
6. อัลบั้มพิเศษ เพลงสากล Simply Emotions เพลงฮิต "Superman (It's not easy)"
7. อัลบั้มพิเศษ Beautiful Bossa เพลงฮิต "ไม่ต้องห่วงฉัน"
8. อัลบั้มพิเศษ Herspective 2 เพลงฮิต "เก็บใจเธอไว้" และ "ไม่เจอไม่จำ"
9. อัลบั้ม Melody of Rose เพลงฮิต "ขอจันทร์" (ประกอบละครเรื่อง "น้ำผึ้งขม" ทางไทยทีวีสีช่อง 3)
10. อัลบั้ม Feel by Rose อัลบั้ม Cover รวมเพลงสากลยุค 70's-90's
11. ซิงเกิ้ลเพลง "ฟ้าเปลี่ยนสี" (ประกอบละครเรื่อง "เมื่อวันที่ฟ้าเปลี่ยนสี" ทางช่อง5)
12. ซิงเกิ้ลเพลง ""อนิลทิตา"" (ประกอบละครเรื่อง "อนิลทิตา" ทางช่อง5)
13. ซิงเกิ้ลเพลง "ฉันไม่ได้รักเธอใช่ไหม"(ประกอบละครเรื่อง "สุดแต่ฟ้าจะกำหนด" ทางไทยทีวีสีช่อง3)
14. ซิงเกิ้ลเพลง "ทำดีต้องได้ดี" (ประกอบละครเรื่อง "สุดแต่ฟ้าจะกำหนด" ทางไทยทีวีสีช่อง3)
15. ซิงเกิ้ลเพลง "รักแท้หรือแค่ของเล่น" (ประกอบละครเรื่อง "เทพธิดาปลาร้า" ทางไทยทีวีสีช่อง 3)
16. ซิงเกิ้ลเพลง "แค่เรารักกันก็พอ" (ประกอบละครเรื่อง "สู้ยิบตา" ทางไทยทีวีสีช่อง3)
17. ซิงเกิ้ลเพลง "หนึ่งในไม่กี่คน" (ประกอบละครเรื่อง "เหลี่ยมรัก" ทางช่อง7สีทีวีเพื่อคุณ)
18. ซิงเกิ้ลเพลง "ทำดีกู้แผ่นดิน" (ประกอบรายการ "ทำดีกู้แผ่นดิน" )
19. ซิงเกิ้ลเพลง "เพราะฉันมีเธอดูแล" (เพื่อตำรวจ)
20. ซิงเกิ้ลเพลง "มากกว่ารัก" (ประกอบภาพยนตร์ "Sorry ซารังแฮโย เการักที่เกาหลี")
21. ซิงเกิ้ลเพลง "ถ้าหากไม่รัก" (ประกอบละครเรื่อง "4 หัวใจแห่งขุนเขา (วายุภัคมนตรา)" ทางไทยทีวีสีช่อง 3)
22. ซิงเกิ้ลเพลง "รักเอย" (ประกอบละครเรื่อง "ทาสรัก" ทางไทยทีวีสีช่อง 3)
ผลงานร่วมกับศิลปินอื่นๆ
• เพลง "มีเธอ" Calories Blah Blah feat.โรส ศิรินทิพย์ (อัลบั้ม Sugar added)
• เพลง "ทฤษฎี" ไอซ์ ศรัณยู feat.โรส ศิรินทิพย์ (อัลบั้ม ICE WITH U)
สุกัญญา มิเกล หรือชื่อจริงว่า สุกัญญา เขียนเอี่ยม เกิดเมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2515 ที่สัตหีบ ต่อมาย้ายไปอยู่กับตายายที่จังหวัดนครสวรรค์ ได้รับการศึกษาจากโรงเรียนรังสรรค์วิทยา โรงเรียนพิพัฒศึกษาและโรงเรียนตากฟ้าวิชาประสิทธิ์ ต่อมาเมื่ออายุได้ 14 ปี เดินเข้าสู่กรุงเทพ และเข้าสู่วงการนางแบบอาชีพเมื่ออายุ 16 ปี จนได้มีผลงานการแสดงภาพยนตร์และละครหลายเรื่อง รวมถึงถ่ายแบบนู้ด ในปฏิทินแม่โขงในปี พ.ศ. 2535 และนิตยสารเพ้นท์เฮาส์ฉบับภาษาไทย
ทางด้านผลงานเพลง ออกผลงานเพลงชุดแรกเมื่อปี พ.ศ. 2537 ชุด “หน้ากาก” สังกัด วี.ไอ.พี. อัลบั้มชุดนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสีสันอวอร์ด ในฐานะศิลปินหน้าใหม่ ต่อด้วยผลงานชุดที่สอง “เวดทาม สตอรี่” ที่มีเพลงดังอย่าง รักเธอจริง ๆ และ ดีดีกันไว้ และยังได้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลนักร้องหญิงยอดเยี่ยมในสีสันอวอร์ด และในปี พ.ศ. 2539 กับผลงานอัลบั้มชุดที่ 3 “ครอสโอเวอร์” และยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสีสันอวอร์ด 7 รางวัล รางวัลที่ได้รับคือ โปรดิวเซอร์ยอดเยี่ยมแห่งปี โดยคุณพรชัย ศรีขจร เป็นโปรดิวเซอร์ และรางวัลศิลปินหญิงร็อกยอดเยี่ยมแห่งปี ส่วนอัลบั้มชุดที่ 4 “บอร์นทูบีฟรี” เมื่อปี พ.ศ. 2540 และอัลบั้มชุดที่ 5 “ทูรีเทิร์น” เมื่อปี พ.ศ. 2542 กับค่ายเพลงของตัวเองในชื่อบริษัท ร็อกแอนด์โรลเฮ้าส์ โดยมี บริษัทซีเควาย เป็นตัวแทนจำหน่าย
ส่วนผลงานด้านการเขียน สุกัญญาเขียนเบื้องหลังโฆษณาชุด แห่นางแมวของพานาโซนิค และเขียนนิยายเรื่องสั้นลงนิตยสารของพานาโซนิค เขียนบันทึกเรื่องสั้นลงในหนังสือ “ชีวิตต้องสู้” บันทึกเรื่องสั้นลงในนิตยสาร “แสงอรุณ” และออกผลงานกับสำนักพิมพ์คำสมัย หนังสือรวมเล่มเรื่อง “ครั้งหนึ่งในชีวิต”
ในปี พ.ศ. 2550 ภาพยนตร์เรื่อง รักแห่งสยาม ได้นำบทเพลง เพียงเธอ ของสุกัญญา นำไปทำใหม่ขับร้องโดย วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงศ์กุล
ผลงานเพลงอัลบั้มเดี่ยว
• “หน้ากาก” (พ.ศ. 2537) สังกัด วี.ไอ.พี.
• “เวดทาม สตอรี่” (พ.ศ. 2538) สังกัด วอร์เนอร์มิวสิก
• “ครอสโอเวอร์” (พ.ศ. 2539) สังกัด วอร์เนอร์มิวสิก
• “บอร์นทูบีฟรี” (พ.ศ. 2540) สังกัด วอร์เนอร์มิวสิก
• “ทูรีเทิร์น” (พ.ศ. 2542) บริษัท ร็อกแอนด์โรลเฮ้าส์
• "นัมเบอร์ 6"(พ.ศ. 2550)บริษัท ร็อกแอนด์โรลเฮ้าส์
ผลงานมิวสิควีดีโอ
• เพลง ลาออก ของ บิลลี่ โอแกน
ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม ลีเดีย (Lydia) เกิดเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2530 เป็นนักร้องหญิงสไตล์ R&B เจ้าของเพลงฮิต "ว่างแล้วช่วยโทรกลับ" คำว่า Lydia มีที่มาจากภาษาโปแลนด์ ซึ่งทั้งชื่อจริงและชื่อเล่นมีความหมายเดียวกันว่า “ความสำเร็จ”
ลีเดีย เป็นบุตรสาวของ นายไชยยันต์ วิสุทธิธาดา นักธุรกิจสนามกอล์ฟและอุปนายกสมาคมกอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย กับนางศันสนีย์ วนะไชยเกียรติ มีน้องสาวชื่อ ศรัณย์พร วิสุทธิธาดา (ดั๊กกี้) ซึ่งลิเดียเคยเป็นนักร้องสังกัดค่ายอาร์เอส ปัจจุบันไม่ได้ต่อสัญญากันแล้ว และลีเดียได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดโพลีพลัส ด้านนักร้องเป็นศิลปินอิสระ แต่ได้ไปร่วมงานในโปรเจ็กท์พิเศษ เรื่องจริง จาก
ลีเดียเริ่มเรียนร้องเพลง แนว R&B ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ กับครูวสันต์ เกษแก้ว (ซึ่งเคยเป็นครูสอนร้องเพลงให้กับ ปาน ธนพร) โดยมีศิลปินที่เป็นแรงบันดาลใจในการเรียนแนว R&B เช่น บียอนเซ่, เจนนิเฟอร์ โลเปซ, คริสติน่า อากีเลร่า, มารายห์ แครี และ บริทนีย์ สเปียร์ส นอกจากรักการร้องเพลงแล้ว ในเรื่องการเรียน ลีเดียก็ยังสามารถทำได้ดีอีกด้วยโดยได้เกรดเฉลี่ย ตลอดช่วงการเรียนของไฮสคูล 3.9 (Honor Roll Student : 3.9 GPA and above) และสามารถสอบเข้าเรียนต่อได้ที่มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 11 ในอเมริกา โดยเลือกเรียนในสาขา Biological Sciences และ Business Institutions และยังชอบทำกิจกรรมของโรงเรียน โดยมีเครดิตเป็น Vice President [student Government] และ National Honor Society of Secondary Schools
ปี พ.ศ. 2549 ลีเดียถูกเสนอเข้าชิงรางวัล เอ็มทีวี เอเชีย อวอร์ดส สาขาศิลปินยอดนิยมประเทศไทย แต่พ่ายให้กับทาทา ยัง
ต่อมาปี พ.ศ. 2550 ลีเดียได้เขียนพ็อกเกตบุ๊กที่มีชื่อ ลีเดีย...เฮียร์ ไอ แอม เธอได้ตกเป็นข่าวดังติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ในประเด็นที่ว่านักร้องสาว ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา สนิทสนมกับครอบครัว ชินวัตร โดยในช่วงแรกเธอตกเป็นข่าวกับ โอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร และต่อมาตกเป็นข่าวกับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จนกระทั่งความจริงเปิดเผยในเวลาต่อมาว่า ครอบครัวของลีเดียและครอบครัวของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตรนั้น มีความสนิทสนม และแนบแน่นกันมานานแล้ว เนื่องจากครอบครัววิสุทธิธาดา ประสบกับภาวะล้มละลาย และได้ขอความช่วยเหลือจากครอบครัวของพ.ต.ท.ทักษิณ จนมีบางกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่เธอสนิทสนมกับอดีตนายกฯ เป็นอย่างมาก แต่เธอก็ปฏิเสธมาโดยตลอด และกล่าวว่าอดีตนายกฯ เปรียบเสมือนเป็นพ่อคนที่ 2
ปี 2554 ลีเดีย และในปี 2555 นี้ลีเดียเผยจะเรียนแอ็คติ้งเพิ่ม ผู้จัดอาจเป็นค่ายเดิม นอกจากนี้อาจมีผลงานเพลงใหม่ร่วมกับดีเจคนหนึ่ง ในเดือน มิถุนายน ลีเดีย ถูกวางตัวสำหรับละครเรื่องที่ 2 ก็คือ สุสานคนเป็น ทางช่อง 7 ซึ่งตอนนี้กำลังรอยืนยันจากทางผู้จัด และช่องอยู่
ผลงานเพลงอัลบั้ม
• Lydia (วางจำหน่ายเดือน มิ.ย. 2548)
• Dreams II A Little Dream Project (ลีเดีย/เม/ฝ้าย)
• Lydia 19
• ลูกของพ่อ (ร้องคู่ แอมมารี่ เพลง บอกด้วยใจ-ทำด้วยใจ)
• Ost.รักนะ 24 ชม. (เพลง Someday)
• Lydia Inside Out
• Lydia Moving On
• Fabulous Lydia
• Love Maker II by am:pm (ร้องคู่ บี พีระพัฒน์ เพลง ทั้งชีวิต)
ซิงเกิ้ลเพลง
• เพลง "Y.O.U."
• เพลง "ข้อความในใจ"
• เพลง "เธอไม่ยอมปล่อยหรือฉันไม่ยอมไป" จากอัลบั้ม Club Friday Base On True Story By เอิ้น พิยะดา
เสาวนิตย์ นวพันธ์ - กบ
• ศิลปินนักร้อง
• ครูสอนร้องเพลง (Vocal Teacher/ Vocal Coach)
• ผู้อำนวยการและ
ผู้ฝึกสอนเทคนิคการใช้เสียง สถาบันสอนร้องเพลง "Private Studio"
• อาจารย์ประจำสาขา Vocal Jazz ประจำวิทยาลัยดนตรี ม.รังสิต
• ผู้วางหลักสูตรการสอนร้องเพลง-ครูสอน "ปฏิบัติการนักล่าฝัน AF Season #6-#7 (Academy Fantasia 6-7)"
การศึกษา
• ปี 2538-2541: อนุูปริญญา (เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง) เอกสาขาดนตรี ระดับมืออาชีพ จากวิทยาลัย Berklee, Boston, MA, USA.
• ปี 2534 - 2538: ปริญญาตรีศิลปกรรมศาสตร์ เอกขับร้องตะวันตก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เกียรติประวัติและรางวัล
• ปี 2548 : รางวัลนักร้องหญิงยอดเยี่ยม สาขาเพลงไทยสากล จาก คม ชัด ลึก ประจำปี พ.ศ. 2547
• ปี 2547 : เป็นตัวแทนประเทศไทยไปฝึกนักร้องที่ประเทศเวียดนาม สำหรับโครงการประกวดร้องเพลง "SAO MAI DIEM HEN" ตำแหน่ง Grooming Director, GMM, THAILAND
• ปี 2537 : รางวัลนักร้องระดับมืออาชีพจากการประกวดร้องเพลงระดับมืออาชีพ จัดโดย สมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย
• ปี 2533 : รางวัลเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ สาขากิจกรรมสร้างสรรค์ดีเด่น
• ปี 2532 :รางวัลนักร้องดีเด่น จากการประกวดเพลงนิสสัน อวอร์ด "Nissan Awards 1989 Thailand Singing Contest
ประสบการณ์ด้านดนตรี
• ปี 2544 :
ร่วมเป็นศิลปินรับเชิญให้กับศิลปินระดับโลก ได้แ่ก่
• Manhattan Jazz , Quintet (MJQ)
• Jim Brickman
• Dave Coz
• Philips Symphony Orchestra
• ปี 2542 - ปัจจุบัน:ร่วมเป็นศิลปินรับเชิญให้กับ Bangkok Symphony Orchestra (วงดุริยางค์ซิมโฟนี่กรุงเทพ)
2545 - รวมศิลปิน
Album : "บัวขาว ชุด 2"
by Bangkok Symphony Orchestra (BSO)
2544 - รวมศิลปิน
Album : "ความฝันอันสูงสุด"
by Bangkok Symphony Orchestra (BSO)
2541 - รวมศิลปิน
Album : "Reflection of H.M. Blues"
by TSAB กลุ่มนักเรียนไทยใน Boston, USA.
ผลงานอัลบั้มที่ออกภายใต้ชายคาแกรมมี่
2552 - Solo Album Album : "Nobody Knows"
2549 - รวมศิลปิน Album : "Gift"
2548 - เสาวนิตย์ นวพันธ์(อัลบั้มคู่) Album : "Mars & Venus"
2547 - เสาวนิตย์ นวพันธ์(อัลบั้มเดี่ยว) Album : "From Voice Within"
2547 - รวมศิลปิน Album : "Romantic Showcase"
2547 - รวมศิลปิน Album : "Her Emotion"
2547 - รวมศิลปิน Album : "ฝากไว้ในแผ่นดิน 1"
2546 - รวมศิลปิน Album : "Meeting 2"
2546 - รวมศิลปิน (บันทึกการแสดงสด) Album : "เส้นใหญ่"
2546 - รวมศิลปิน Album : "Your Songs 1"
2546 - รวมศิลปิน Album : "Together"
2546 - รวมศิลปิน Album : "Your Songs 2"
2545 - รวมศิลปิน Album : "We Love Carpenters"
2545 - รวมศิลปิน Album : "ยินยอม-พี่น้องร้องเพลงอัสนี-วส&#"
2544 - เสาวนิตย์ นวพันธ์(อัลบั้มเดี่ยว) Album : "Make it Natural"
หม่อม ศรีไศล สุชาตวุฒิ วรานนท์ เป็นธิดาคนที่ 8 ในจำนวน 10 คน ของนายสรร และนางถมยา สุชาตวุฒิ เข้าโรงเรียนศรีอยุธยา พญาไท จนจบ ขณะที่เป็นนักเรียนมัธยมได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดร้องเพลงในงานกาชาด ที่สวนอัมพรและได้รับพระราชทานรางวัลจากพระหัตถ์ของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เพลงที่ร้องชื่อเพลง “ดอกไม้” ประพันธ์โดย ท่านผู้หญิงพวงร้อย อภัยวงศ์ (หม่อมหลวงพวงร้อย สนิทวงศ์) ปีต่อมาได้รับรางวัลที่หนึ่งจากการประกวดเย็บปักถักร้อยในงาน “ศิลปหัตถกรรมนักเรียน” ที่โรงเรียนสวนกุหลาบ และด้วยความที่รักศิลปะ หลังจากจบการศึกษาในระดับมัธยม ศรีไศล จึงเลือกเรียนสาขาวิชาชีพไม่เลือกเข้ามหาวิทยาลัยเช่นพี่ๆ เข้าเรียนออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าจาก “สปัน” และได้รับการสอนโดยตรงจากคุณสปัน ภายหลังเมื่อจบจึงได้เริ่มทำงานกับ “สปัน” และต่อมาคุณสปันได้เปิดโรงเรียนสอนตัดเสื้อ คุณสปันเป็นผู้ชักนำเข้าร่วมร้องเพลงในรายการ “ชรินทร์โชว์” ที่ออกอากาศทุกๆเดือนทางโทรทัศน์ช่องบางขุนพรม (ในเวลานั้น) และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ ศรีไศล สุชาตวุฒิ ต่อมาได้ไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นที่ “โซเอน โตเกียว” และกลับมาเปิดร้านของตัวเอง งานออกแบบที่ถนัดคือชุดวิวาห์และชุดราตรี มีเหล่านักร้อง,นักแสดงชื่อดังที่ชื่นชอบในฝีมือเป็นจำนวนมากเป็นลูกค้าประจำเช่น สวลี ผกาพันธ์ เพ็ญศรี พุ่มชูศรี รวงทอง ทองลั่นทม จินตนา สุขสถิต รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส ลินจง บุญนากริน ตลอดถึงคนในและนอกวงการอีกมากมายหลายท่าน ได้ทำเสื้อประกอบภาพยนตร์ให้คุณดอกดิน กัญญามาลย์ และอัศวินภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง 10 ปีที่แต่งงานและการใช้ชีวิตคู่ของ ศรีไศล กับ คุณไพบูลย์ ลีสุวัฒน์ (ซึ่งต่อมาเสียชีวิต เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2555) ต้องจบลงเมื่อตกลงแยกทางกันโดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่า2-3ปีหลังจากนั้นชีวิตของ ศรีไศล ได้พลิกผลันอย่างไม่น่าเชื่อ
ศรีไศล ได้ก้าวขึ้นเป็นนักร้องชั้นแนวหน้าอันดับ TOP TEN ในยุคนั้นโดยร้องเพลงประจำใน “คอกเทลเลาจน์” ซึ่งในสมัยนั้นเพิ่งเริ่มเป็นที่นิยมและเป็นสถานที่ที่เหล่าบรรดาสุภาพชนนิยมมานั่งฟังเพลง อาจจะเป็นเพราะลีลาการร้องและเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอทำให้เธอได้รับความสนใจจากแฟนๆและจากเจ้าของสถานที่ เธอตระเวนร้องเพลงถึง 3-4แห่งในแต่ละวัน เริ่มตั้งแต่งหกโมงเย็นถึงเที่ยงคืน แห่งละ1ชั่วโมง ศรีไศล เคยร้องอยู่โรงแรมแอมบาสเดอร์, ปี๊ปอินน์ , โรงแรมอมพีเรียล, ทิพย์ คอกเทลเลาจน์ สยามสแควร์, โซโห เพลินจิต, มาร์โคโปโล ทองหล่อ, The Green House ทองหล่อ, Your Place สุขุมวิท33, สีทันดร ลาดพร้าว และ โรงแรมแมนดาริน ศรีไศล เข้าสู่วงการภาพยนตร์โดย คุณเริงศิริ ลิมอักษร ในผลงานเรื่อง “เพลงรักเพื่อเธอ” ร่วมกับ คุณพิศมัย วิลัยศักดิ์ และ คุณสรพงษ์ ชาตรี และผลงานเรื่อง “หนามหยอกอก” ร่วมกับคุณวิฑูรย์ กรุณา ของ คุณเป๋ โปสเตอร์ และ “แก้ว” ร่วมกับคุณทูน หิรัญทรัพย์ และ คุณลินดา ค้าธัญเจริญของ คุณเปี๊ยก โปสเตอร์
ด้านผลงานโทรทัศน์ ผู้ช้กชวนคือ คุณภัทราวดี (ศรีไตรรัตน์) มีชูธน เรื่อง“ความรัก” และ “ประชาชนชาวแฟลต” และมีเรื่องอื่นๆต่อมาอีกหลายเรื่อง เพราะงานการแสดงและร้องเพลงที่มากขึ้นทำให้เธอต้องหยุดกิจการเสื้อผ้าโดยสิ้นเชิง ได้รับคำชมจากคอลัมล์ “ลัดดาซุบซิบ”ว่าเป็นนักร้องหญิงที่แต่งตัวดีที่สุดในจำนวน2-3คนในสมัยนั้น ได้รับคำวิจารณ์จากท่านผู้หญิงพวงร้อย อภัยวงศ์ ในการให้สัมภาษณ์ของท่านในนิติยสารฉบับหนึ่งว่า “ครั้งแรกๆที่ฟังเพลงของ ศรีไศล ยังไม่ค่อยชอบเพราะเธอร้องไม่ลงกับจังหวะห้องของดนตรี (คือ ล้อกับดนตรี ไปก่อนบ้าง ตามหลังบ้าง) ” ท่านวิจารณ์ต่อว่า “แต่ฟังไปแล้วชักชอบ เพราะเป็น “สไตล” ของเขาเอง, (คือสุดท้ายก็ลงได้พร้อมดนตรี) เคยมีคนถาม ศรีไศล ว่าไปเรียนร้องเพลงแบบนี้มาจากไหน เธอตอบว่า “ไม่เคยได้เรียนร้องเพลงเลย ฝึกมาด้วยตัวเอง อาศัยชอบฟังเพลงฝรั่งมาแต่เด็กๆเพราะมีพี่ชายคนโตไปเรียนที่ประเทศอังกฤษและกลับมาพร้อมกับแผ่นเสียงเพลงดีของ Frank Sinatra, Ella Fitzgerald, Nancy Wilson, Diane Schuur และอีกมากมาย เธอเริ่มรู้จักเพลง Jazz ตั้งแต่อายุ 13 – 14 ปี ตอนเด็กๆชอบอาษารีดผ้าให้คุณพ่อและคุณแม่เพราะจะได้เปิดเพลงฟังโดยไม่ต้องโดนเรียกไปทำอย่างอื่น นักร้องไทยที่ชื่นชอบมี คุณสวลี ผกาพันธ์, คุณพูลศรี เจริญพงค์, คุณเพ็ญศรี พุ่มชูศรี, คุณชรินทร์ นันทนาคร, คุณสุเทพ วงศ์กำแหง, คุณพิทยา บุญรัตนพันธ์ และอีกหลายท่าน ในปี 2524 ศรีไศล สุชาตวุฒิ เงีบยหายไปจากวงการอย่างฉับพลันแบบที่แฟนเพลงของเธอพากันงงงัน เธออพยพไป รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เพราะเหตุผลทางครอบครัว ในปี 2527 ศรีไศล ได้สมรสกับพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช ที่ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบที่เมือง Calabasas ทางเหนือของแอลเอ ในระหว่างที่เธอใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขดูแลครอบครัวที่รัก บุตร ธิดา ซึ่งกำลังอยู่ในวัยเรียน และเดินทางไปมาระหว่างแคลิฟอร์เนียและลอนดอนเพราะบุตรชายคนเล็กเรียนอยู่โรงเรียนประจำในประเทศอังกฤษ ปี 2533 เป็นปีแห่งการสูญเสีย “ท่านพระองค์ชาย” สิ้นชีพพิตักษัย ชีวิตของ ศรีไศล ดำเนินต่อไปกับลูกๆทั้ง 3 พิบูลศรี มัสโท นงนภา แอนเดอร์สัน และสัจจพร ลีสุวัฒน์ และหลานๆ ซึ่งปัจจุบันมีหลานยาย 3คน ศันสนีย์ (โดมินิค),อินทรีย์ (มาติน) มัสโท และ วสุ (คิลเลี่ยน) แอนเดอร์สัน อยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เพลงที่เป็นผลงานยอดนิยมเช่น เก็บรัก, รักข้ามขอบฟ้า, รักไม่รู้ดับ, รักริษยา, จงรัก, ชั่วฟ้าดินสลาย, รักที่เลือกไม่ได้, เสน่หา, ลมหวล, ลองรัก, รักและคิดถึง, คืนเหงา, ความรักครั้งสุดท้าย, พิษรัก, หยาดเพชร และอีกมากมาย ฟังเพลงได้ทุกประเภทแล้วแต่อารมณ์และสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันส่วนใหญ่ไปๆมาๆระหว่าง Chateau ชนบทในแคว้นนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส และคอนโดฯริมแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพฯ และกลับบ้านที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ในบางครั้ง กิจกรรมประจำวัน ตื่นเช้า (สาย) เพราะนอนดึก สวดมนต์ ทานอาหารดูโทรทัศน์ปลูกต้นไม้ ชอบกุหลาบและกล้วยไม้เป็นพิเศษ ชอบเลี้ยงสุนัข เวลาว่างชอบลองทำอาหารแปลกๆ เขียนจดหมายถึงเพื่อน ชอบวาดรูป (ยังไม่ได้ดีซักที) ชอบทำงานฝีมือต่างๆอย่างแต่งบ้าน เอาเฟอนิเจอร์เก่าๆมาทำใหม่ และชอบฟังเพลง เคยชอบเรียนภาษาแต่ตอนนี่ความจำไม่ช่วยเลยไม่คิดจะเรียนอีกเพราะเกิดปีวอกเลยเป็นคนว่องไว ไม่อยู่เฉยว่างเมื่อไหร่ท่องเที่ยวเมื่อนั้นทั้งๆที่ตามปกติต้องเดินทางไปดูแลบ้านทั้งประเทศไทย อังกฤษ อเมริกา และฝรั่งเศส กลางคืนชอบแช่น้ำร้อนใส่ของหอมๆแล้วอ่านหนังสือ เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุด เหมือนตอนเด็กๆที่ขอรีดเสื้อผ้าให้คุณพ่อกับคุณแม่เพื่อจะได้ฟังเพลงโดยไม่มีคนมากวน ก่อนนอนสวดมนต์ ทำวัดเย็น สวดพระคาถาชินบัญชรเสร็จแล้วนั่งวิปัสนาทุกคืน ความรัก มีมาก รักคุณพ่อ คุณแม่ คิดถึงท่านทีไรก็เกิดความรู้ถึงพระคุณ รู้ถึงความรักที่ท่านมีให้เรา แล้วใช้ความรู้สึกนี้ให้ลูกๆและหลานๆ รักพี่รักน้อง รักสัตว์ และที่สำคัญ ไม่ลืมทีจะรักตัวเอง