วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

การเมืองเรื่องน้ำเน่า (ราวกับละครดอกส้มสีทอง)

การเมืองเรื่องน้ำเน่า (ราวกับละครดอกส้มสีทอง)

กงกรรมกำเกวียน ของนักการเมืองและประชาชน

ผ่านการเลือกตั้ง (วัฏสงสาร) เวียนว่ายตายเกิดทางการเมืองไม่รู้จักจบสิ้น

เกิด(ได้เป็น ส.ส.,ส.ว.รัฐมนตรี) แก่(เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน หรืออยู่อย่างกะโหลกกะลาไปวันๆ)

เจ็บ(บาดแผลเหวอะหวะ เต็มตัว เต็มไปด้วยข้อสงสัยเรื่องการทุจริตคอรัปชั่น) ตาย(ซากศพทางการเมือง)

เมื่อตายไปแล้ว(โดนยุบพรรค,ตัดสิทธิ์ทางการเมือง)กลายไปเป็นผีดิบ (บ้านเลขที่ 111) มาดูดเลือด (งบประมาณ ไม่รู้จักอิ่ม)


ชนิดของผีดิบทางการเมือง

แฟรงเกนสไตน์ เป็นพวกนักการเมืองประเภทเขี้ยวลากดิน เสือสิงห์กระทิงแรด ประเภทหัวหน้ามุ้งทั้งหลาย และมักอยู่เบื้องหลังการจัดตั้งรัฐบาลหรือจัดสรรตำแหน่งทางการเมือง รวมถึงเงินงบประมาณต่าง ๆ

ท่านเคาน์แดร็กคิวล่า เป็นพวกนักการเมืองไฮโซ มีตำแหน่งระดับท็อปๆ เช่น นายกรัฐมนตรี เลขาธิการพรรค หรือรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงใหญ่ บางครั้งไม่ต้องออกหน้า มีคนคอยชงให้อนุมัติ(รับประทาน) ตามน้ำบ้าง อยู่ตลอดๆ เป็นถุงเงินของพรรคด้วย หรืออาจเป็นนายทุนหนุนหลังพรรคอยู่เบื้องหลัง

แวมไพร์สุดหล่อ เป็นพวกนักการเมืองพรรคเทพ สุดหล่อ ภาพลักษณ์ดี แต่เบื้องหลังก็ชอบกินเลือด (งบประมาณ)เหมือนกัน ขอให้อย่าได้แคร์ เพราะเหยื่อมักจะมาติดเบ็ดอยู่เสมอ เนื่องจากหลงในความหล่อ บรรดาแม่ยกทั้งหลายเตรียมเงินในกระเป๋ากุชชี่ หลุยส์ติงต๊อง หรือแอร์เมสเอาไว้ให้ดี เพราะกระเป๋าอาจแฟบหรือฉีกได้ เพราะอาจโดนแวมไพร์สุดหล่อปอกลอกจนหมดตัว และหัวใจ

ผีชีวะ(หรือผีซอมบี้) เป็นพวกนักการเมืองขี้ฉ้อ ขี้โกงทั้งหลาย ที่มักจะซื้อเสียงเข้ามาเป็น ส.ส. ,ส.ว. พอจับได้ ถ้าไม่มีหลักฐานเป็นใบเสร็จก็ไม่ยอมรับ ยังหน้าด้านเข้ามาเล่นการเมืองอย่างต่อเนื่อง หลายสมัย อาศัยเป็นเจ้าพ่อ คนมีอิทธิพลในท้องถิ่น และมักเป็นส .ส.ตามต่างจังหวัด และเป็นอย่างยาวนาน หลายสมัย จนกลายเป็นกิจการสมบัติประจำตระกูล สามารถผ่องถ่ายกิจการต่อไปยังคนในครอบครัว ผัวเมีย พี่น้อง ลูกหลาน ได้ต่อไปอีกหลายชั่วโคตรทีเดียว

ผีปอบกับผีกระสือ เป็นพวกนักการเมืองขายตัวทั้งหลาย ที่ไม่มีถิ่นที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ชอบย้ายพรรค ย้ายมุ้งเป็นว่าเล่น สุดแล้วแต่พรรคไหนจะจ่ายให้อย่างงาม ก็จะหอบผ้าหอบผ่อนหนีตามกันไป พวกนี้จะทำตามนายสั่ง ไม่มีความคิดเป็นของตนเอง ชอบชเลียร์เจ้านาย ไม่ว่าจะทำกิจกรรมใด ต้องถามก่อนว่าได้เท่าไหร่ จึงจะตัดสินใจทำ เรียกว่าปอบหยิบ ส่วนพวกผีกระสือ คือพวกที่หัวอยู่พรรคนี้ แต่ตัวไปอยู่อีกพรรคนึง คือเหยียบเรือ 2 แคม ได้ค่าจ้างทั้ง 2 ทาง หรือสมัยหน้าใจจะไปอยู่อีกพรรคนึง แต่ตัวยังกินเงินเดือนอยู่ที่เก่าอีกพรรคนึง เรียกว่าเป็นนก 2 หัว หรือนังผีกระสือก็ได้

เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ประเทศไทยวนเวียนอยู่กับการเลือกตั้งมา 26 หนแล้ว แต่การเมืองยังไม่ได้ดีขึ้นเลย ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มานับต้งแต่ปี พ.ศ.2475 แล้ว โดยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.7) เป็นผู้ถวายพระราชอำนาจให้กับประชาชนปกครองกันเอง ซึ่งก็ผ่านมาแล้ว 79 ปี ถ้าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เวลาขนาดนี้ ประชาธิปไตยต้องเบ่งบาน บ้านเมืองเจริญก้าวหน้าไปขนาดไหนแล้ว ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับประเทศตะวันตกก็ได้ ลองเทียบกับเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวันดูก็จะรู้ดี แต่ทำไมบ้านเรายังไม่ไปไหนเสียที และนับวันจะกลายเป็นประเทศล้าหลังที่สุดในย่านอาเซี่ยนเข้าไปอีกก็เป็นได้ หากสภาพการณ์ยังเป็นอยู่อย่างในขณะนี้ สาเหตุที่ประเทศไทยยังไม่สามารถก้าวไปเป็นประเทศพัฒนาแล้ว นั่นก็มาจากสาเหตุหลักคือระบบการเมือง และนักการเมืองของเรานั่นเอง เป็นตัวถ่วงความเจริญก้าวหน้าของประเทศ เพราะนักการเมืองและพรรคการเมือง ไม่ได้เป็นกลไกหลัก หรือตัวขับเคลื่อนสังคมให้ก้าวหน้าหรือไม่ได้เข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศ แต่กลับเป็นตัวสร้างปัญหาเสียเอง และบอกได้เลยว่านักการเมืองของไทย รวมถึงพรรคการเมืองแทบทุกพรรคไม่มีอุดมการณ์อย่างจริงจังที่จะเสียสละทำเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง ส่วนใหญ่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ให้กับพวกพ้องและกลุ่มนายทุนใหญ่ที่สนับหนุนอยู่เบื้องหลังพรรคการเมืองแทบทั้งสิ้น ประชาชนคนไทยจึงหวังพึ่งพวกนักการเมืองไม่ได้ ส่วนการเลือกตั้งจึงกลายเป็นเพียงแค่พิธีกรรมส่วนหนึ่งของการเข้าสู่อำนาจของนักการเมืองไทยเท่านั้นเอ ง ภายหลังจากนั้น ประชาชนก็ถูกแยกส่วนจากอำนาจการตัดสินใจไป เพราะพวกเขาก็จะเข้าไปแบ่งสรรผลประโยชน์กันเองในหมู่นักเลือกตั้ง โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้งหรือแม้แต่ผลประโยชน์ของประชาชนก็จะทำเป็นแต่เพียงโยนเศษเงิน หรือชิ้นกระดูกให้แทะ แต่เนื้อก้อนโต ขิ้นปลามันก็เอาไปแบ่งกันเอง ในหมู่พวกพ้องนักการเมืองด้วยกัน โดยผ่านนโยบายประชานิยม หรือการทุจริตเชิงนโยบาย ผลประโยชน์ทับซ้อนต่างๆ และพอใกล้เวลาที่จะเลือกตั้ง จะต้องมีการมาหาเสียงกับประชาชน ก็จะคิดกุศโลบาย หานโยบายมาขายฝัน หรือติดสินบนประชาชนด้วยสิ่งล่อใจ หรือสัญญาประชาคมว่าจะทำนู่นทำนี่ให้ หรือจะสร้างโครงการอะไรต่างๆให้ เพื่อแลกกับคะแนนเสียงที่ประชาชนจะไปเลือกพวกเขา นี่คือลูกไม้เก่า ๆ ไม่ต่างอะไรกับเซลล์ขายประกัน หรือเซลล์ขายตรงต่างๆ ประเภท MLM (ขอโทษเซลล์ขายตรงทุกชนิดด้วยที่นำพวกท่านไปเปรียบเทียบกับนักการเมือง แต่พฤติกรรมดูว่าคล้ายกัน และตัวผู้เขียนเองก็เคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับเซลล์เหล่านี้หลายคนเป็นส่วนใหญ่ที่จะมาเอาใจเวลาจะขายของ พอขายได้แล้ว หลังจากนั้นจะไม่ค่อยมาบริการ จะมาอีกทีเมื่อมีโปรดักท์ใหม่มานำเสนอ เพราะจะได้คอมมิชชั่นใหม่อีกนั่นแหละ) ที่ไม่ต่างจากนักการเมือง

ทีนี้มาดูคำถามที่สื่อมวลชน หรือนักข่าวไทย ซึ่งเป็นสื่อกระแสหลัก ไม่ค่อยจะถามนักการเมือง แต่มักถามคำถามโง่ๆ แทน

คำถามที่สื่อมวลชนไทยชอบตั้งคำถามกับนักการเมือง

ท่านคะถ้าผลคะแนนเลือกตั้งออกมาว่าท่านได้อันดับ 2 ท่านจะจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคอันดับ 1 มั๊ยคะ , มีคนทาบทามท่านเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีแล้วหรือยัง ,ฝ่ายนู้นเขาท้าท่านดีเบตด้วย ท่านจะไปมั๊ยค่ะ

คำถามที่อยากให้สื่อมวลชนตั้งคำถามกับนักการเมือง

ทำไมพรรคท่านไม่มีนโยบายเกี่ยวกับเรื่องกรณีพิพาทเขาพระวิหารกับกัมพูชาเลย ท่านจะแก้ปัญหานี้อย่างไร หากได้กลับมาเป็นรัฐบาล และกรณีของคุณวีระ กับคุณราตรี ท่านจะให้ความช่วยเหลือพวกเขาอย่างไรคะ

ท่านคะกรณีที่พรรคท่านถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมอยู่เบื้องหลังการชุมนุมของคนเสื้อแดงบริเวณสี่แยกราชประสงค์ จนเกิดความเสียหายของธุรกิจย่านนั้น หากท่านได้เป็นนายกรัฐมนตรี ท่านจะขอโทษประชาชนหรือไม่คะ และท่านมีแผนงานที่จะดำเนินการฟื้นฟูเยียวยาความเสียหายแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ย่านธุรกิจราชประสงค์อย่างไรให้กลับมาเป็นแลนด์มาร์คด้านการท่องเที่ยวของประเทศเหมือนเดิม อย่างไรบ้างคะ

คำตอบที่นักการเมืองอยากจะพูด (ประดิษฐ์คำ,วาทกรรม) แม้สื่อมวลขนไม่ได้ถาม หรือมักตอบไม่ตรงกับคำถามที่ถามไป

อยากให้ประชาชนไปเลือกพรรคที่จะสามารถทำงานให้ท่านได้ทันที ภายใน 3 วัน หรือท่านจะไปเลือกพรรคที่ต้องมานับ 1 ใหม่ คือเสียเวลาต้องไปแก้กฎหมาย แก้ปัญหาส่วนตัวก่อนแล้วจึงจะมาแก้ปัญหาให้ประชาชนอ่ะครับ ท่านจะเลือกแบบไหน

ถ้าท่านไปกาเลือกโหวตโน พรรคอีกพรรคนึงก็จะมา พรรคที่ทำให้บ้านเมืองเสียหายก็จะได้เป็นรัฐบาล และผู้นำของเขาก็จะพ้นผิด กลับประเทศมาแบบบริสุทธิ์ ท่านจะเอาเหรอครับ

ขอบคุณค่ะ ที่พี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจพรรคของเรา เราจะไม่คิดถึงเรื่องแก้แค้นใดๆ เราคิดแต่จะแก้ไขค่ะ เพื่อให้บ้านเมืองสามารถปรองดองกันได้ และสงบสุข

ไม่เลือกเรา เขามาแน่ , 10 ความล้มเหลว 5 ความขมขื่น 99 วันฝันเปียกที่อภิสิทธิ์ทำไม่ได้เลย

เมื่อนักการเมืองพูดเรื่องความซื่อ+สัตย์ ประชาชนมึน ปวดหัว และเครียดจัด

คำถามที่อยากถามบรรดาหัวหน้าพรรคชั้นนำทั้งหลาย

คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หน.พรรคประชาธิปัตย์

ท่านอภิสิทธิ์ครับ กฎเหล็ก 9 ข้อของท่านนี่ ได้ใช้ซักข้อหรือยังครับ หรือเขียนไว้ดูเองในห้องน้ำบ้านท่านครับ แล้วที่ท่านไปรับปากกับภาคประชาชนที่สนามไทยญี่ปุ่นดินแดง ว่าจะดำเนินการผลักดันชุมชนกัมพูชาให้ออกไปจากวัดแก้วสิขาคีรี ดำเนินการไปถึงไหนแล้วครับ ทำไมยิ่งผลักดัน มันยิ่งเข้ามาอยู่ มีการตั้งชุมชน ตัดถนนขึ้นมา แถมมีกองกำลังทหารบุกเข้ามายิ่งประชาชนกับทหารไทยตายไป จนประชาชนไทยต้องอพยพไปอยู่ในบังเกอร์และค่ายผู้อพยพเป็นครั้งแรกในรอบไม่รู้กี่ปี แล้วการเจรจาระหว่างไทยกับกัมพูชา เรื่องมรดกโลกเขาพระวิหาร ไปๆ มาๆ ไหงกลายเป็นมีประเทศอินโดนีเซียเข้ามาร่วมในการเจรจาจนกลายเป็นพหุพาคี แล้วก็ลากเรื่องนี้ไปสู่ศาลโลกอีก ไหนท่านบอกว่ามาถูกทางแล้วไง ทั้งไม่ยอมยกเลิก MOU 43 และแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ไม่ถอนตัวจากมรดกโลกด้วย จนเกิดการชุมนุมประท้วงของคนเสื้อเหลืองในนามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรื่องของการทุจริตคอรัปชั่นในรัฐบาลท่าน มีหลายโครงการ ทั้งถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจในรัฐสภา แต่รัฐมนตรีที่มีข้อกังขาก็ยังได้รับความไว้วางใจไม่ถูกปรับ ครม.ออก ,เรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และนโยบายประชานิยมที่หนักหน่วงกว่าต้นฉบับอย่างพรรคเพื่อไทยเสียอีก ผ่านการกู้เงิน การตั้งงบประมาณขาดดุล อันมีผลต่อหนี้สาธารณะมากมาย ท่านมีนโยบายจะหารายได้เข้าประเทศอย่างไร ,หรืออย่างนโยบายการศึกษา เรื่องเรียนฟรีที่คุยนักคุยหนา เห็นผู้ปกครองบ่นว่าฟรีเฉพาะค่าเล่าเรียน นอกนั้นรายจ่ายอย่างอื่นส่วนใหญ่ต้องออกเอง และบานเบอะเยอะแยะมากมาย แทบไม่ได้ช่วยเลย รวมถึงข้าวของราคาแพง ค่าครองชีพสูงมากที่สุดในยุคของท่าน จะแก้ไขอย่างไร ,เรื่องที่ท่านไปทำคลอดตั้งคณะกรรมการชุดต่างๆ ไว้มากมายแล้วก็ไม่ดำเนินการต่อ หรือไม่ติดตามงานเลย ไม่ว่าจะคณะกรรมการปฏิรูปการเมือง,คณะกรรมการสมานฉันท์ ปรองดองแห่งชาติ ,คณะกรรมการตรวจสอบเหตุการณ์ชุมนุม และก็แผนปรองดองอะไรของท่านที่คิดมาเองนั่นแหละ สุดท้ายก็ไม่เห็นจะสานต่อ จนคณะกรรมการเขาลาออกกันไปเองแล้ว เห็นแล้วน่าอนาจใจจริงๆ ที่ประเทศไทยมีท่านเป็นผู้นำ เวลา 2 ปีกว่าที่ท่านบริหารประเทศมา ท่านได้ตัดสินใจอะไรบ้างที่เป็นผลงานที่เป็นความภาคภูมิใจของประเทศนะ ยังคิดไม่ออกเลย แต่รู้ว่าท่านไปออกงานอีเว้นท์บ่อย ไปขึ้นโพเดี้ยมกล่าวปาฐกถาตามงานต่างๆ ถี่มาก เรามีผู้นำที่เป็นนักพูดมากกว่านักปฏิบัติงั้นเหรอ แต่อยากจะบอกท่านนะครับว่า โจโฉเคยกล่าวเอาไว้ว่า แม่ทัพมีหลายประเภท แต่แม่ทัพที่เขาจะไม่เลี้ยงเอาไว้ คือ โง่แต่ขยัน เอาไปประหารชีวิตเลย คือพวกนี้ขยันในทางโง่ๆ ไม่เกิดประโยชน์ต่อองค์กรอีกทั้งจะนำผลร้ายมาสู่องค์กรได้ในภายภาคหน้า ผมไม่ได้กล่าวหาท่านว่าโง่นะครับ เพียงแต่อยากจะบอกว่า 2 ปีกว่าที่ท่านบริหารประเทศมา ท่านไม่ได้ทำงานเพื่อจะแก้ปัญหาประเทศเลย ท่านดองปัญหาเอาไว้ทุกเรื่องเลย แล้วพอวันนึงท่านเจอปัญหาที่มันหมักหมม พันตูมากๆเข้าก็ประกาศยุบสภาเสีย ไม่รู้วาหนีปัญหาหรือเปล่านะ แต่แล้วก็เลือกตั้ง แล้วมาอ้อนประชาชนให้เลือกท่านกลับเข้าไปใหม่ โดยบอกว่าจะแก้ปัญหาได้ภายในกี่วันนั้นอ่ะ ชาวบ้านเขาบอกว่าแล้วตอนนี้ท่านเป็นนายกฯ อยู่อ่ะทำไมไม่แก้ปัญหาไปเลย จะรออะไร แล้วจะมาให้ประชาชนเลือกท่านกลับเข้าไปใหม่ โดยอ้างว่าขอให้เดินต่อไปกับพรรค กับนโยบายของพรรคท่าน แล้วทุกวันนี้ประชาชนเขาไม่เดินตามท่านไปงั้นหรือจนแข้งขาจะเป็นอัมพาตตายอยู่แล้ว หนำซ้ำข้างหน้าดูเหมื่อนจะเป็นเหวเสียด้วย ท่านยังจะมาชวนให้เราเดินตามหลังท่านไปอีก เวรกรรมจริงๆ อภิสิทฺธิ์

คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แคนดิเดท หน.พรรคเพื่อไทยและนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย

คุณยิ่งลักษณ์ กล้าประกาศชัดๆ หรือไม่ว่า ถ้าเลือกพรรคเพื่อไทย เราจะแก้กฎหมายเพื่อขอนิรโทษกรรมให้กับคุณทักษิณและนักการเมืองทั้งหมดที่ถูกศาลตัดสินความผิดในคดีทางการเมือง จะแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกหรือไม่ และจะบอกให้กลุ่มคนเสื้อแดงยุติบทบาททางการเมืองหรือไม่ รวมถึงขบวนการล้มเจ้าจะยุติหรือไม่และจะมีการกระบวนการเอาผิดหรือไม่อย่างไร

คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ หน.พรรครักประเทศไทย

คุณชูวิทย์ หากคุณไม่ได้รับการเลือกตั้งในครั้งนี้ หรือคะแนนเสียงไม่ถึงจนไม่ได้ปาร์ตี้ลิสต์นี่ จะยุติบทบาททางการเมืองอีกหรือไม่ จะยังดำเนินบทบาท เคลื่อนไหวทางการเมืองทางอื่นต่อไปหรือไม่ หรือจะโผล่มาตอนจะเลือกตั้งเท่านั้น อยากให้คุณชูวิทย์ลองไปฟังเพลงนินจาของคุณคริสติน่าดู ท่านอาจจะเข้าใจว่าคนชั้นกลางหรือคนกรุงเป็นห่วงท่านอย่างไร จริงๆ อยากจะเลือกท่านนะ แต่ยัง 2 จิต 2 ใจ ว่าท่านจะจริงจังกับการเป็นนักการเมืองมากแค่ไหน เพราะการทำการเมืองไม่จำเป็นต้องเป็น สส.ก็ได้สามารถทำการเมืองภาคประชาชนแบบที่พวกเสื้อเหลืองทำก็ได้นี่ ไหนๆท่านก็มีแนวคิดแบบเดียวกับพวกพันธมิตร(เสื้อเหลือง) ท่านทำไมไม่เข้าร่วมกับเขาไปเลยหล่ะ ขอแนะนำ หรือเขาไม่เอาท่าน ?




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น