วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2559

ช่อง ONE ปรับทัพสู้ศึกอย่างไร เรตติ้งถึงพุ่งขึ้นสู่อันดับ 4 (ตอนที่ 2)


 
ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา การจัดทัพปรับกลยุทธ์ของช่อง ONE เป็นอย่างไร

 ด้านบุคลากรที่เห็นเด่นชัด ก็คือฝ่ายข่าว มีการลาออกของคุณต๊ะ นารากร ติยายน ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวของสถานี (โดยเหตุผลที่คุณต๊ะให้ไว้ ในการยื่นใบลาออกก็คือ จุดยืนในการทำข่าวไม่ตรงกับทางผู้บริหารสถานี โดนกดดันจากผู้ใหญ่เรื่องการลดต้นทุนในฝ่ายข่าวลง เนื่องจากสถานีแบกรับรายจ่ายจากฝ่ายข่าวมากเกินไป เนื่องจากฝ่ายข่าวเป็นจุดอ่อนที่ไม่สามารถหารายได้เข้าสถานีได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ จนเป็นที่มาของการลดเวลาข่าว และยกเลิกรายการข่าวช่วงเช้า ต่อมามีการกดดันเรื่องการปรับลดพนักงานในฝ่ายข่าวลง นั่นเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้คุณต๊ะตัดสินใจลาออก ในฐานะเป็นผู้อำนวยการฝ่ายข่าวของสถานี เพื่อเปิดทางให้มีการเปลี่ยนแปลงในฝ่ายข่าวได้ตามที่ผู้บริหารสถานีต้องการ) พอคุณต๊ะ นารากร ลาออกไปแล้ว ดูเหมือนทางผู้บริหารจะแต่งตั้งคุณเดียว วรตั้งตระกูลมาเป็นผู้ดูแลบริหารในฝ่ายข่าวแทน และได้มีการรับผู้ประกาศข่าวหญิงคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่ประกาศข่าวในช่วงเย็น ภายหลังไม่มีผู้ประกาศข่าวหญิงในสถานี เนื่องจากคุณนารากร ติยายนกับคุณ วิลาสินี แวนฮาเร่น ลาออกไปทั้ง 2 คน

การปรับกลยุทธ์ในด้านรายการข่าว จากช่วงต้นปีที่มีรายการข่าวช่วงเช้า แล้วโฆษณาไม่เข้าตามเป้า คุณบอยตัดสินใจยกเลิกรายการข่าวช่วงเช้าลง โดยอ้างว่าทำไปแล้วขาดทุน โฆษณาเข้าน้อย และอาจถูกแชร์ไปยังช่องอื่น แต่พอเข้าสู่ช่วงกลางปี ทางผู้บริหารได้ตัดสินใจให้บริษัทภาพดีทวีสุขเข้ามาร่วมทำข่าวกับทีมข่าวของสถานี โดยได้พิธีกรคนดังจากบริษัทภาพดีทวีสุข คือคุณเอก เอกรัฐ กับคุณจั๊ด หิมะ มาเป็นผู้ประกาศข่าว/พิธีกรคู่กัน ในชื่อรายการ “ตื่นแต่เช้า” โดยรูปแบบรายการ คล้ายรายการ 7 วันทันข่าว ที่ทางทีมนี้เคยทำให้กับช่อง GMM25 มาก่อน ในช่วงเย็นเสาร์อาทิตย์ ก็เปลี่ยนมาเป็นเช้าตรู่จันทร์ถึงศุกร์แทน และย้ายมาลงช่อง one แทน ดูเหมือนทางออกตรงนี้ก็ดูเข้าท่า เพราะกลายเป็นข่าวเช้าดูมีสีสัน และ 2 พิธีกรคู่นี้ก็เคมีเข้าขากันดี รายการเป็นลักษณะพูดคุย เล่าข่าว แทนที่จะเป็นมานั่งอ่านข่าวเหมือนของเดิม ลูกล่อลูกชน และการคุยสนุก ทำให้รายการดูน่าสนใจขึ้นเยอะ พอจะไปชนกับข่าวช่วงเช้าของต่างช่องได้ ในส่วนของข่าวภาคเที่ยง ถูกปรับให้เป็นรายการเที่ยงรายวัน ใช้ผู้ประกาศข่าวนั่งอ่านข่าวถึง 5 คนพูดคุยกึ่งรายงานข่าว ทำให้ไม่เป็นทางการมากนัก และมีสอดแทรกเนื้อหาข่าวบันเทิง หรือสกู๊ป ประเด็นกระแสทอล์คออฟเดอะทาวน์ และบางวันอาจมีเชิญแขกรับเชิญมาร่วมรายการ มีศิลปินมาเยี่ยมรายการ และร้องเพลงหรือประชาสัมพันธ์คอนเสิร์ต หรือละคร ฯลฯ ส่วนข่าวช่วงเย็น จะเป็นข่าวรอบวัน ยังคงสไตล์เดิมคือดูเป็นทางการหน่อย ใช้ผู้ประกาศข่าว 2 คน ส่วนข่าวรอบดึกที่เคยมีหลังรายการวาไรตี้โชว์ภาคค่ำ ก็ถูกยกเลิกไป เปลี่ยนมาเป็นรายการ “นอนดึก” ซึ่งเป็นรายการกึ่งทอล์คโชว์ วาไรตี้โชว์ สำหรับคนนอนดึก โดยเนื้อหาจะนำเอาเรื่องราวที่อยู่ในกระแสโซเชียล หรือของล้ำนำเทรนด์มาพูดคุย กึ่งรายงาน โดย 3 พิธีกรวัยรุ่นมาดกวน คือ อ๊อฟ ชัยนนท์ ,คิว คิ้วสาหร่าย, บอส ณัฐพงศ์พล คือดูไปจะคล้าย ๆ สมัยช่อง 5 ทีมีรายการแบบ five live อะไรประมาณนี้

ถือว่าช่อง one เป็นช่องที่มีการปรับเปลี่ยนผังรายการอยู่ตลอดเวลา ทุกเดือน จนบางครั้งผู้ดู ผู้ชม แฟนคลับรู้สึกเบื่อ ที่จะต้องมาคอยติดตามว่าวันนั้น วันนี้ รายการไหน เปลี่ยนแปลง ถูกยุบ เปลี่ยนเป็นรายการอะไรแล้ว เพราะถือว่าในรอบปีที่ผ่านมาปรับเปลี่ยนบ่อยมาก แต่ก็เข้าใจว่ายังอยู่ในช่วงของการทดลอง และรีเสิร์ชว่า รายการรูปแบบใด เป็นที่นิยม เรตติ้งดี หรือรายการรูปแบบใด ไม่เป็นที่นิยม และช่วงเวลาใดในแต่ละวัน มีอัตราการรับชมของผู้ชมเป็นอย่างไร ผลตอบรับดีหรือไม่ดี และผลจากการทดลองปรับผัง และรีเสิร์ชในช่วงเปิดสถานีมาจนถึงกลางปีนี้ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อเรตติ้ง
 
การปรับกลยุทธ์ในด้านรายการเกมส์โชว์ วาไรตี้โชว์ เรียลลิตี้โชว์ จากช่วงเปิดสถานีอย่างเป็นทางการ เม.ย.ปี 57,การเปิดตัวสถานีเต็มรูปแบบ ออกอากาศในระบบ HD ในปี 58 และต่อเนื่องมาถึงปีนี้ 59 มีการถอดรายการที่เคยเป็นรายการหลักในช่วงก่อตั้งสถานีอย่าง เช่น naked show,concert in one,สถานีแสนแสบ,2 สาวเล่าเรื่อง,สมรภูมิพรมแดง,มาจิเด๊ะเจแปน,Food Prince,โตแล้วไปไหน,ขอรวยด้วยคน,รอบดึกกับจอห์น วิญญู,วันนี้,เม้าท์ละคร,แซ่บวัน,ว๊าวดารา,มหัศจรรย์แห่งรัก,Dream Up,งานเข้าที่เล้าเป็ด,เกมแจกเก๋ง,จันทร์ได้ใจ,สมาคมนิยมยิ้ม,4 โพธิ์ดำ,Thai Hero,One Big World,S.U.N reporter,ลองดี Try Out,DeScience,เป็นเรื่อง,Life Record,เสือติดปีก,พ่อบ้านปากเก่ง,ดารามหาชน,โชว์ไทยไชโย,เจาะใจ,โจ๊ะ,ครอบครัวลูกหนัง เป็นต้น จะสังเกตว่าหลายรายการก็ถือว่าได้รับการตอบรับจากแฟนคลับของช่อง one เป็นอย่างดี แต่บางรายการติดปัญหาด้านตัวพิธีกรขอถอนตัว พิธีกรย้ายช่อง ต้นทุนการผลิตหรือโปรดักชั่นแพงไม่คุ้มกับเรตติ้งที่ได้ หรือบางรายการมีการปรับย้ายวันเวลาออกอากาศแล้วไม่เปรี้ยง หรือหมดมุกในการผลิต ฯลฯ รายการที่ยังอยู่เหมือนเดิมคือเทยเที่ยวไทย,Doctor Smith โดยคุณหมอโอ๊คสมิทธิ์,ONE บันเทิง,One Theatre,เรียลลิตี้ประกวดร้องเพลง The Star ค้นฟ้าคว้าดาว,จับต้นชนปลาย,ร้านนี้ Number One,ซุปตาร์ปาร์ตี้,4 ต่อ 4 แฟมิลี่เกม,ศึกวันดวลเพลง เป็นต้น

มีการเสริมรายการใหม่เข้ามาที่ถือเป็นแม่เหล็กอย่างรายการ สาบานว่าพูดจริง,รู้ไหมใครโสด,The Bachelor Thailand,บ้าบอลพัฒนามาจากรายการครอบครัวลูกหนัง,เซียนแกะสูตร,เรื่องของเรื่องรีเทิร์น,ลิเก HD,นอนดึก,ซีรีส์ต่างประเทศ เช่น ซีรีส์จีน,ซีรีส์เกาหลี เป็นต้น

ช่วงเวลาที่จัดว่าเป็นเวลาทองหรือไพร์มไทม์ ไม่ใช่มีเพียงแค่ช่วงค่ำถึงดึกของวันธรรมดา (20.00-23.00 น.) จันทร์ถึงศุกร์ ซึ่งเป็นเวลาของละครดี ดูที่ช่องวัน และรายการวาไรตี้โชว์หลังละคร แต่ยังมีช่วงทองช่วงหัวค่ำ จันทร์ถึงศุกร์ระหว่างเวลา 18.20-20.00 น.เป็นเวลาทองที่ช่อง one ปรับกลยุทธ์เข้าสู้ศึกนับตั้งแต่ต้นปี ด้วยการส่งรายการ เกมแจกเก๋ง และศึกวันดวลเพลง เข้าสู้ในช่วงเวลานี้ ผลการตอบรับค่อนข้างดีในช่วงแรก รายการถูกกล่าวขวัญถึงและติดตามอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะรายการศึกวันดวลเพลง สามารถทำเรตติ้งสูงขึ้นเรื่อยๆ จากหลัก 1 ในช่วงแรกๆ ไปพีคสุดได้ถึง 4 กว่า ๆ (จุดเด่นของรายการศึกวันดวลเพลงคือการเข้าถึงกลุ่มคนตจว.ที่ชอบเพลงลูกทุ่ง เป็นรายการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งที่มีเงินรางวัลสูง คอมเม้นเตเตอร์อย่างครูสลาที่ให้คำแนะนำดี นำไปปรับใช้ได้ รูปแบบรายการดูง่ายและสนุก) ปัจจุบันเป็นรายการที่ได้รับเรตติ้งความนิยมสูงสุดของช่อง ส่วนรายการเกมแจกเก๋งเคยทำเรตติ้งสูงสุดเป็นรองแค่รายการปริศนาฟ้าแลบ ของช่องเวิร์คพ้อยท์ ภายหลังเรตติ้งไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากไปชนกับช่วงเวลาละครเย็นของช่อง 3,7 ทำให้เรตติ้งไม่เป็นที่น่าพอใจนัก และต้นทุนการผลิตรายการสูง จึงถูกถอดรายการไป และนำรายการ 4 ต่อ 4 แฟมิลี่เกม มาแทน และเพิ่มรายการสาบานว่าพูดจริง มาคั่นแทรก จึงนับช่วงเวลาทองหัวค่ำนั้น ช่องวันสามารถปรับกลยุทธ์สู้ศึกได้สำเร็จ ทำให้เรตติ้งโดยรวมขยับขึ้นจากส่วนหนึ่งมาจากช่วงเวลาช่วงนี้ มีการขยับสับเปลี่ยนรายการมาถูกทาง

ต่อมาเป็นช่วงเวลาเช้าของเสาร์อาทิตย์ มีการปรับกลยุทธ์นำซีรีส์จีนมาฉายช่วง 8.00-9.00 น.ซึ่งช่วงต้นปีเป็นซีรีส์วัยรุ่นผลิตโดยจีเอ็มเอ็มทีวี พอจบชุดไปจึงนำซีรีส์จีนมาฉายแทน ตามด้วยช่วงเวลา 9.00-10.00 น.จะเป็นช่วงเวลาของรายการไลฟ์สไตล์ ผลิตโดยลูกหม้อของคุณบอย เช่น เจี๊ยบอ้อม,ภูริ,เร แม็คโดนนัลด์ (รายการ TT Rider ย้ายเวลาไปออนช่วงเย็น 16.00 ของวันเสาร์แทน) หรือผลิตโดยบริษัทที่มีคอนเนคชั่นดีกับทางผู้บริหารช่อง เช่น บริษัทมาถูกทางโปรดักชั่นจำกัด (ผลิตรายการ Animal Lulla) บริษัทที่ผลิตรายการไอทีนคลับ จากนั้นช่วงเวลา 10.00-11.00 น.จะเป็นช่วงเวลาของการรีรันซิทคอม เรื่องเก่าๆ เช่น ผู้กองยอดรัก,บ้านนี้มีรัก,เป็นต่อ เป็นต้น ช่วงเวลา 11.00-13.00 น.ยังเป็นช่วงเวลาทดลองที่มีการนำรายการหลากหลายมาลง และเปลียนอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่คอนเสิร์ต,รายการเกมส์โชว์ใหม่ๆ,รายการข่าว,ซีรีส์ต่างประเทศ คือนับตั้งแต่ต้นปี 59 มาจนถึงปัจจุบัน รายการช่วงครึ่งวันเช้าของเสาร์อาทิตย์ ช่อง ONE จะออกมาในลักษณะใกล้เคียงแบบนี้ และทำให้เรตติ้งเริ่มขยับ เนื่องจากสามารถสร้างฐานแฟนคลับจากรายการต่างๆ ที่มีเวลาตายตัว และรายการหลากหลายน่าสนใจ
พอมาถึงช่วงเวลาเย็นของวันเสาร์อาทิตย์ ก็คือตั้งแต่ 17.00-18.00 น. เดิมจะเป็นรายการซิทคอมชื่อดังของช่อง เช่น บ้านนี้มีรัก และเป็นตอนใหม่ๆ หลังๆ มีการปรับเปลี่ยนเอาช่วงเวลานี้เป็นของเกมส์โชว์ชื่อดัง เช่น 4 ต่อ 4 Celebrity,สาบานว่าพูดจริง ช่วง 18.20-20.00 น.เป็นช่วงเวลาใหม่ของช่อง มักเอาละครเรื่องใหม่มาลง อาทิ ทอฝันกับมาวิน,นางอาย,สลักจิต บางครั้งนำซีรีส์จีนมาลง เช่น ศึกอภินิหารภูผาซู และในปัจจุบันอาจมีการนำเกมส์โชว์มาลงในช่วงเวลานี้ด้วย เช่น รายการรู้ไหมใครโสด เป็นต้น ช่วง 20.00-22.00 น.ถูกล็อคเอาไว้ให้เป็นช่วงเวลาของรายการเรียลลิตี้โชว์ชื่อดัง อาทิ The Star,The Bachelor และอนาคตอาจมีซิทคอมหรือซีรีส์ใหม่ๆ ซึ่งนับว่าเป็นช่วงเวลาแม่เหล็กของช่อง ONE ที่สามารถกระชากเรตติ้งขึ้นสู้กับช่องใหญ่ๆ ที่ฉายละครฉาคค่ำ (ศ,ส,อา) ในช่วงเวลาเดียวกัน

โดยภาพรวมรายการต่างๆ ของช่อง one มีรายการใหม่ๆ เสมอและปรับกลยุทธ์ตลอด ทำให้มีความเคลื่อนไหวเป็นข่าว และเรียกความสนใจ น่าติดตามได้ตลอด อีกทั้งมีแฟนคลับในช่องทางโซเชียลเป็นของตนเอง ทั้ง Line TV,Facebook Fanpage ช่อง One, IG, Youtube ,Twitter, Pantip, Dek-D ทำให้มีกระแสในโลกโซเชียลคอยซัพพอร์ทเป็นฐานให้รายการต่างๆ ถูกพูดดึงอยู่ตลอดเวลา และจริงๆ แล้วฐานแฟนคลับของช่อง ONE ที่เพิ่มขึ้น ส่วนหลักๆ มาจากฐานแฟนคลับของช่องอื่น ๆ ที่หันเหความสนใจมาชมรายการของช่อง One แทนนั่นเอง
ตอนต่อไป จะไปวิเคราะห์ในส่วนของภาคละครของช่อง one ว่ามีพัฒนาการเป็นอย่างไร มีส่วนหรือไม่ในการดึงเรตติ้งให้ช่องสูงขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น