วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2559

ช่อง ONE ปรับทัพสู้ศึกอย่างไร เรตติ้งถึงพุ่งขึ้นสู่อันดับ 4 (ตอนที่ 1)



 
ช่อง one ทำอย่างไรจึงขยับเรตติ้งจากอันดับ 6 เมื่อต้นปี (2559) มาสู่อันดับ 4 ในช่วงไตรมาส 3/59 ของปีได้สำเร็จ ผู้เขียนบังเอิญเป็นแฟนคลับของช่อง one และได้เฝ้าดู การขยับสับเปลี่ยน กลยุทธ์ และการบริหารงานของช่อง one มาโดยตลอด ในมุมมองของผู้เขียน จึงขอนำมาวิเคราะห์ให้ได้ทราบกัน

ก่อนอื่นต้องทราบแบ็คกราวน์ดของช่อง one ก่อน ช่อง one เป็นทีวีดิจิตอล ช่องหมายเลข 31 ที่ผ่านการประมูลช่องมาได้ด้วยมูลค่า 3,320 ล้านบาท (ค่าสัมปทานมีการแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ โดยปีแรกต้องจ่าย 50% ปีที่สองต้องจ่าย 30% และปีที่สามต้องจ่ายที่เหลือ 20%)  ยังไม่นับค่าเช่าคลื่นสัญญาณเครือข่าย ซึ่งต้องจ่ายอีกเป็นรายเดือนนับล้านกว่าบาท ซึ่งเป็นต้นทุนคงที่ ยังไม่นับต้นทุนผันแปร คือบรรดาค่าจ้างเงินเดือนพนักงาน ต้นทุนการผลิตรายการ บริษัทถูกประมูลและบริหารงานโดยบริษัทวันเอ็นเตอร์ไพร์ซ ซึ่งมีบริษัทแม่ GMM grammy ถือหุ้นอยู่ด้วย และมีประธานบริหารบริษัทคือคุณบอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ (ซึ่งแต่เดิมก็บริหารงานบริษัทเอ็กซ์แซ็กท์,บริษัทซีนาริโอ้ จำกัด ในเครือแกรมมี่อยู่ก่อนแล้ว) จุดแข็งเดิมของคุณบอย ถกลเกียรติ ก็คือเป็นบริษัทรับจ้างผลิตละคร,ผลิตรายการทีวอื่นๆ ป้อนฟรีทีวีในอดีตมาก่อน (ทั้งช่อง 3,5,7,9)  และเคยรับสัมปทานผลิตละคร,รายการทีวีอื่นๆ ป้อนให้กับช่อง 5 โดยข้อตกลงก็คือบริหารเวลาเอง หารายได้ หาโฆษณาเอง ในช่วงเวลาที่ได้รับสัมปทานจากช่อง 5 ทำให้มีประสบการณ์ทั้งในแง่ผู้ผลิตรายการ และในแง่การบริหารงานสื่อทีวี นอกจากนั้นบริษัทเอ็กซ์แซ็กท์ ซึ่งเป็นบริษัทหัวหอกเดิมของกลุ่มคุณบอย ยังเชี่ยวชาญการผลิตละครทุกรูปแบบทั้งละครดราม่าหลังข่าว,ละครซีรี่ส์ขนาดสั้น-ยาว,ละครซิทคอม รายการเกมส์โชว์, รายการเรียลลิตี้โชว์ชื่อดังอย่าง The Star,รายการรูปแบบโชว์ จัดคอนเสริ์ต โชว์บนเวทีประกวดนางงาม, หรือแม้กระทั่งละครเวที (ปัจจุบันเป็นผู้นำทางด้านผู้ผลิตละครเวทีของบ้านเรา) อีกทั้งมีโรงละครเป็นของตนเอง (รัชดาลัยเธียเตอร์) มีโรงถ่ายละครขนาดใหญ่และครบวงจรที่ลาดหลุมแก้ว (โรงถ่ายละคร Acts Studio) มีดาราหรือนักแสดงที่เป็นสังกัดของตนเองอยู่ประมาณนึง ที่สามารถนำมาใช้ในงานผลิตละคร เหล่านี้คือจุดแข็งโดยรวมของช่อง one ในปัจจุบัน

ช่อง ONE เปิดสถานีอย่างเป็นทางการก็คือ 1 เมษายน 2557 (ไม่นับช่วงทดลองออกอากาศก่อนหน้านั้น ซึ่งก่อนหน้านั้น เป็นการทดลองออกอากาศในระบบดาวเทียม ผ่านกล่อง GMMZ) ช่วงแรกในปี 2557 ยังไม่มีการผลิตรายการข่าว หรือยังไม่ผลิตละครโทรทัศน์ชุดใหม่มาลง แต่จะเป็นการนำละครเก่าๆ มารีรัน ผสมกับรายการโทรทัศน์ที่ผลิตขึ้นเอง คอนเสิร์ตเก่าๆ ของศิลปินแกรมมี่ รายการดังๆจากช่อง acts channel (ซึ่งเป็นช่องรายการอยู่ในระบบดาวเทียมเดิม) มาฉาย และพอเข้าสู่ปีใหม่ 2558 จึงเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน มีรายการใหม่ๆ มีรายการข่าวและทีมข่าวประจำตามช่วงเวลา และมีการผลิตละครใหม่ๆ ลงในช่วงไพร์มไทม์เหมือนช่องทีวีหลักๆ ในช่วงต้นปี 2558-กลางปี 2559 เรตติ้งของช่อง one ยังเกาะกลุ่มอยู่ในแถวๆ 0.3-0.5 ปลายๆ  อยู่ในอันดับที่ 6-8 ในตารางเรตติ้งช่องที่มีเรตติ้งสูงสุด ขึ้นๆ ลงๆ อยู่แถวๆ นี้ จนมาในช่วงต้นปี 2559 ที่เรตติ้งคงที่อยู่ในอันดับ 6 ค่อนข้างสม่ำเสมอ จนมาเมื่อช่วงกลางปี 2559 ที่เรตติ้งมีการขยับสับเปลี่ยนขึ้นมาอยู่อันดับ 5 (เรตติ้งช่อง ONE เริ่มขยับมาอยู่อันดับ 5 โดยเรตติ้งเฉลี่ยทั้งประเทศอยู่ที่ 0.582 ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 59 และมาพีคสุดขึ้นไปถึง 0.771 ในเดือนสิงหาคม 59 ขึ้นไปอยู่อันดับ 4 ของตารางหัวแถว แซงช่อง Mono29 และช่อง 8 ที่เคยอยู่อันดับ 4,5 มาก่อน อย่างมีนัยสำคัญ) 

จะนำเข้าสู่ประเด็นว่าช่อง one ทำอะไรบ้าง ที่ทำให้เรตติ้งของช่องตนเองขยับขึ้นมาใกล้สู่เป้าหมายที่ได้วางเอาไว้ คุณบอยเคยให้สัมภาษณ์ว่า เป้าหมายของช่อง one คือต้องการทำเรตติ้งช่องให้ได้สู่ระดับเลข 1 ขึ้นไป เพื่อฐานของรายได้คือค่าโฆษณาจะได้ปรับขึ้น เมื่อเรตติ้งสูงขึ้น รายได้จะขยับตาม เพื่อเป้าหมายแรกคือให้ช่องอยู่ได้ อยู่รอดก่อน และเป้าถัดไปคือต้องการเป็นเบอร์ 1 ของช่องทีวีดิจิตอลใหม่ทั้งหมด นั่นหมายความว่าต้องไปเบียดกับช่องเวิร์คพ้อยท์ ที่ครองบัลลังก์อยู่ในอันดับ 3 ในตารางหัวแถวของช่องเรตติ้งสูงอย่างไม่ต้องสงสัย และจะต้องทำอย่างไรเพื่อโค่นและแซงเวิร์คพ้อยท์ขึ้นไปอยู่ที่ 3 แทน นั่นคือโจทย์ที่คุณบอยกำลังคิด และหากลยุทธ์อยู่

โปรดติดตามตอนต่อไป ที่เราจะไปวิเคราะห์กันว่า 1 ปีที่ผ่านมาคุณบอยทำอะไรกับช่อง one บ้าง เรตติ้งถึงพุ่งขึ้นมาได้ และหลังจากนี้ในไตรมาสสุดท้ายของปี คือไตรมาส 4/59 จะทำอย่างไรจึงจะรักษาสถานะของช่องอันดับ 4 เอาไว้ได้อย่างเสถียรและมั่นคง นี่คือโจทย์ที่ท้าทายผู้บริหารคนเก่งอย่างคุณบอย ณ เวลานี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น