วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ประกาศผลรางวัล "อ๊อดกล้า" ของสมาคมลิเกการเมืองไทย ครั้งที่ 4


สมาคมลิเกการเมืองไทย (Traditional Dramatic Performance of Thai Politic Association) ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มการมอบรางวัลและประกาศผลรางวัลอันทรงเกียรติ มีคุณค่าสำหรับผู้ที่มีผลงานอยู่ในแวดวงการเมืองไทยตลอดระยะเวลา 1 ปี (พิจารณาในช่วงปี 2557) ซึ่งการมอบรางวัลและประกาศผล ตลอดจนการจัดงานได้จัดทำขึ้น ปีนี้เป็นปีที่ 4 แล้ว ณ เดธโน้ตเธียเตอร์ สุสานป่าช้าสีลม มีการปูพรมดำทางเดินสู่หอเกียรติยศ  ซึ่งในงานก็จะมีการแจกสูติบัตร โทฟี่ สดุดีวีรกรรม ผลงาน อันทรงคุณค่า และยกย่องตัวบุคคล ที่ได้สร้างผลงานอันยอดเยี่ยมเอาไว้ในแต่ละสาขา ซึ่งได้มีการแยกประเภทของสาขาออกเป็น 11  สาขารางวัล แต่มาในปีนี้ได้มีการตัดบางสาขาออกไป เนื่องจากไม่มีรายชื่อผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด ได้แก่รางวัลในสาขานักแสดงสมทบฝ่ายหญิง,รางวัลสาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม โดยขั้นตอนต่างๆ นั้นจะเริ่มจากการเสนอชื่อผู้เข้าชิงในแต่ละหมวด โดยสมาชิกผู้ทรงเกียรติของสมาคมจำนวน 5,000 ท่าน และคณะกรรมการผู้มีความเชียวชาญในแต่ละหมวดสาขาเป็นผู้พิจารณาประกอบรายชื่อต่างๆ จากนั้นจึงคัดเลือกรายชื่อผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิง ให้เหลือจำนวนหนึ่งที่มีความโดดเด่นจริงๆ เป็นรายชื่อสุดท้าย โดยในปีนี้ ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนที่แล้ว ได้มีการประกาศโผรายชื่อผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล อ๊อดกล้าซึ่งเป็นรายชื่อผู้เข้ารอบสุดท้ายในแต่ละสาขาทั้งหมด 9 สาขาที่ได้มีการพิจารณาในปีนี้  (เข้าไปดูรายละเอียดใน link นี้ http://yikgamyok.blogspot.com/2015/01/2557.html ) และผลการตัดสินหรือผลการประกาศรางวัลได้เสร็จสิ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีผลการตัดสินดังนี้

ผลการประกาศรางวัล “อ๊อดกล้า” ของสมาคมลิเกการเมืองไทย (ครั้งที่ 4) ประกาศผลแล้ว ดังนี้ 

1.สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่

 ภาพยนตร์เรื่อง The Osmosis สงครามปรองดอง 5 ทัพ ดับฝันปฏิรูปไทย”  โดย ฟิล์มอาร์คิเทคเจอร์

2.สาขานักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยม ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศไ ด้แก่

พล.อ.พิรุธ จันทร์กระพ้อ  จาก ภาพยนตร์เรื่อง “คณะสามช่า (คสช.)  Every Friday

3.สาขานักแสดงนำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิส ได้แก่

นางอุ๊บวลี ทันยุคกะปิ (เจ๊อุ๊) จาก ภาพยนตร์เรื่อง “นายกตีตรา ฉันก็รักของฉันเข้าใจบ้างมั๊ย”

4.สาขานักแสดงสมทบฝ่ายชายยอดเยี่ยม ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่

พล.ต.อ.ขมรส  ชุ่มกันง่วง  จาก ภาพยนตร์เรื่อง “ใหญ่กว่านี้มีอีกมั๊ย ขี่พายุทะลุฟ้า”

5.สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่

พล.อ.ปี้ปิ๊ด คงกระพัน  จาก ภาพยนตร์เรื่อง “คณะสามช่า (คสช.) Every Friday

6.สาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่

ภาพยนตร์เรื่อง The Osmosis สงครามปรองดอง 5 ทัพ ดับฝันปฏิรูปไทย”  โดย ฟิล์มอาร์คิเทคเจอร์

7.สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่

ภาพยนตร์เรื่อง “เกมอลหม่าน ปะ-ติด-ลูบ งงจัง(ไร) ประเทศไทย?  โดย ปักเป้าคอนเนคชั่น พิคเจอร์       

8.สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่

เพลง “เอาไปเลย”  วงไมโคร ประกอบ ภ.เรื่อง “โชติช่วงรับประทาน เรียบร้อยโรงเรียนกุ๊กบิน”

 

9. สาขาการลำดับภาพและตัดต่อ (เทคนิคพิเศษ) ยอดเยี่ยม ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่

ภาพยนตร์เรื่อง “ร่างรัฐธรรมนูญฉบับเนติศรีธนญชัย”   โดย ปักเป้าคอนเนคชั่น พิคเจอร์

และสาขารางวัลพิเศษ Lifetime Achivement Award ซึ่งเป็นรางวัลพิเศษ ที่ถูกคัดเลือกโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิกิติมศักดิ์อาวุโส โดยไม่ผ่านการเสนอชื่อโดยสมาชิก หรือการโหวดจากสมาชิก แต่ได้รับการเห็นชอบร่วมกันเป็นเอกฉันท์จากคณะกรรมผู้ทรงคุณวุฒิกิติมศักดิ์อาวุโส จำนวน 11 ท่าน เพื่อมอบรางวัลให้แก่องค์กร หรือสถาบันที่มีส่วนในการส่งเสริมภาพลักษณ์อันดีเด่นให้กับวงการนักการเมืองไทย และสอดคล้องกับแนวคิดของสมาคมลิเกการเมืองไทย โดยพิจารณาจากองค์กรที่มีผลงานโดดเด่นในรอบปีที่ผ่านมา จึงขอมอบรางวัลนี้ให้กับ กระทรวงพลังงาน ประเทศสาระขัณฑ์ และ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)  เอาไว้เป็นอนุสรณ์เพื่อเชิดชูถึงคุณงามความดีขององค์กร 2 แห่งนี้กันต่อไป


 
 
 
 






 

 

 

 

 
 
 
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น