วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

โลก 360 องศา - (กลุ่มไอเอสสุดโหดเผยคลิปประหารตัดศีรษะชาวอียิปต์ 21 คน,เหตุกราดยิงในเดนมาร์ก,ยูเออีสั่่งปิดสถานฑูตในเยเมน)


เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-กลุ่มนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) เผยแพร่วิดีโอล่าสุดในวันอาทิตย์ (15 ก.พ.) แสดงการประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะกลุ่มชาวอียิปต์ซึ่งนับถือศาสนาคริสต์จำนวน 21 คนในลิเบีย คลิปวิดีโอความยาว 5 นาทีดังกล่าว ซึ่งมีการนำออกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของพวกสุดโต่งแห่งหนึ่งในวันอาทิตย์ (15) ถูกระบุว่า เป็นการฆ่าตัดศีรษะแรงงานชาวอียิปต์ที่นับถือศาสนาคริสต์จำนวน 21 คนบริเวณใกล้ชายหาดแห่งหนึ่งในประเทศลิเบีย โดยเหยื่อทั้งหมดถูกพวกไอเอสลักพาตัวไประหว่างเดินทางจากบ้านเกิดเข้าไปหางานทำในลิเบียเมื่อไม่นานมานี้  เนื้อหาบางช่วงบางตอนในคลิประบุว่า การฆ่าตัดศีรษะแรงงานชาวอียิปต์ที่นับถือศาสนาคริสต์จำนวน 21 คน เป็นการแก้แค้นที่ชาวมุสลิมในอียิปต์ถูกกดขี่จากผู้มีอำนาจที่เป็นพวกชาวคริสต์นิกายคอปติกในแดนไอยคุปต์  ทั้งนี้ ลิเบียได้กลายสภาพจากดินแดนที่เคยได้ชื่อว่ามีความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจมากที่สุดในแอฟริกาตอนเหนือไปสู่การเป็นดินแดนที่ไร้ขื่อแปหลังการล่มสลายของระบอบการปกครองภายใต้การนำของมูอัมมาร์ กัดดาฟีเมื่อปี 2011  แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีประชาชนจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึง ชาวอียิปต์จำนวนหลายพันคนเดินทางเข้าไปหางานทำในลิเบียอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีคำเตือนจากรัฐบาลอียิปต์ ถึงภัยคุกคามของพวกนักรบอิสลามิสต์ที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอสในซีเรียและอิรัก ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ (13) กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) เพิ่งประกาศการจับวัยรุ่นอิสราเอลเชื้อสายอาหรับรายหนึ่งไว้เป็นตัวประกัน โดยไอเอสกล่าวหาว่าตัวประกันรายนี้แฝงตัวเข้าไปเป็นนักรบ เพื่อสืบความลับให้แก่หน่วยข่าวกรอง มอสซาดของอิสราเอล ขณะที่ครอบครัวเหยื่อชี้ ถูกลักพาตัวบทสัมภาษณ์ มูฮัมหมัด มูซัลลาม วัย 19 ปี ซึ่งถูกตีพิมพ์ลงนิตยสารออนไลน์ภาษาอังกฤษ ดาบิค” (Dabiq) ของกลุ่มไอเอส ระบุว่าได้เดินทางไปร่วมต่อสู้กับไอเอสในซีเรียเพื่อสืบข้อมูลเกี่ยวกับคลังอาวุธ ฐานที่มั่น ตลอดจนแนวร่วมไอเอสที่เป็นชาวปาเลสไตน์ และรายงานให้รัฐบาลอิสราเอลทราบ แต่ตัวตนของเขาถูกเปิดโปงในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม ซาอิดซึ่งเป็นบิดาของเขาออกมายืนยันว่าลูกชายไม่ใช่สายลับ แต่หายตัวไประหว่างเดินทางไปท่องเที่ยวในตุรกี และมูซัลลามก็เคยโทรศัพท์กลับมาแจ้งคนที่บ้านว่าเขาถูกลักพาตัวไปยังซีเรีย แต่ถ้ายอมจ่ายเงินให้คนร้ายก็อาจจะรอดชีวิต
 

กลุ่มไอซิส สุดโหดอีกแล้ว...จับตัวประกันนักรบชาวเคิร์ด 17 คน ใส่กรงขึ้นรถประจานไปตามท้องถนนในเมือง เคอร์คุก ในอิรัก พร้อมขู่จะ เผาทั้งเป็นตัวประกันเหล่านี้ เหมือนกับนักบินจอร์แดน  เมื่อ 14 ก.พ. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความเหี้ยมโหดของกลุ่มติดอาวุธมุสลิมหัวรุนแรง รัฐอิสลามหรือไอซิส ว่า ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ เหตุการณ์สุดป่าเถื่อนในโลกออนไลน์ครั้งล่าสุด  ด้วยการจับตัวประกัน นักรบชาวเคิร์ด 17 คน หรือรู้จักกันดีในชื่อ เปชเมอร์กา’  ขังไว้ในกรงและถูกนำแห่ขึ้นรถประจานไปตามท้องถนน ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นเมืองเคอร์คุก ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอิรัก เนื้อหาในคลิปวิดีโอล่าสุดของกลุ่มไอซิส ซึ่งมีความยาว เกือบ 4 นาที ได้แสดงให้เห็นเหตุการณ์สุดป่าเถื่อน ขณะกลุ่มไอซิสนำตัวประกัน นักรบชาวเคิร์ดในชุดนักโทษแบบจั๊มสูท สีส้มใส่ไว้กรงขัง และบรรทุกไว้บนท้ายรถกระบะ คันละ 1 กรง โดยมีสมาชิกกลุ่มไอซิส ซึ่งมีปืนอาก้าเป็นอาวุธ และ ถือธงสีดำของกลุ่มไอซิส คอยควบคุมตัวอยู่ ท่ามกลางเสียงเชียร์ไชโยโห่ร้องของผู้คนสองข้างทาง เมื่อขบวนรถแล่นผ่าน ข่าวแจ้งว่า สิ่งที่น่าวิตกมากที่สุดต่อชะตากรรมตัวประกันนักรบชาวเคิร์ด หรือเปชเมอร์กา เหล่านี้ ก็คือ กลุ่มไอซิส ยังขู่ด้วยว่า พวกตนจะเผาทั้งเป็น นักรบชาวเคิร์ดทั้ง 17 คน เหมือนกับ เรืออากาศโทมูอัธ อัล-คาซาสเบห์ นักบินจอร์แดน ที่ถูกกลุ่มไอซิสเผาทั้งเป็นมาแล้วเมื่อ 3 ม.ค.และเพิ่งมีการนำคลิปวิดีโอสุดโหดเกินบรรยายเผยแพร่เมื่อ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา จนสร้างความสะเทือนใจและโกรธแค้นให้แก่ชาวจอร์แดน และชาวโลกอย่างมาก.

กองกำลังสหรัฐฯ ไม่ปล่อย... ส่ง โดรนทิ้งระเบิดปลิดชีพ มูลเลาะห์ อับดุล ราอูฟอดีตหนึ่งในผู้บัญชาการกองกำลังตาลีบันในอัฟกานิสถาน ที่ผันตัวเองกลายเป็นแกนนำระดับสูงกลุ่มไอซิสในอัฟกานิสถาน คอยเกณฑ์คนหนุ่มไปเข้าร่วมกองกำลังติดอาวุธสุดโหดในอิรักและซีเรีย เมื่อ 10 ก.พ. สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ทางการระดับสูงในอัฟกานิสถานว่า กองกำลังสหรัฐฯ ได้ส่งอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน ทิ้งระเบิดปลิดชีพ นายมูลเลาะห์ อับดุล ราอูฟ อดีตหน่ึงในผู้บัญชาการกองกำลังตาลีบันในอัฟกานิสถาน และกลายมาเป็นแกนนำระดับสูงของกลุ่มไอซิส โดยคอยเสาะหา, เกณฑ์นักรบจากอัฟกานิสถาน ไปเข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือไอซิส ในอิรักและซีเรีย  จากการเปิดเผยของ นายโมฮัมเหม็ด จาน ราซูลา รองผู้ว่าจังหวัดเฮลมานด์ ใต้ ในอัฟกานิสถาน ระบุว่า นายราอูฟได้ถูกโดรนของกองกำลังสหรัฐฯ ทิ้งระเบิดโจมตี ขณะนั่งอยู่ในรถยนต์ที่กำลังแล่นข้ามทะเลทรายในจังหวัดฮัลมานด์ จนทำให้เขาเสียชีวิต พร้อมกับเหล่านักรบอีก 5 คน ซึ่งในจำนวนนี้ 4 คน เป็นนักรบจากปากีสถาน  การเสียชีวิตของนายราอูฟ ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวระดับสูงด้านความมั่นคงในอัฟกานิสถานเช่นกัน ซึ่งถือเป็นการสิ้นชีพของผู้ก่อการร้ายตัวเอ้ ซึ่งเคยถูกคุมขังที่เรือนจำสหรัฐฯ บนอ่าวกวนตานาโม มาแล้ว ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวให้กลับมาอยู่ในอัฟกานิสถาน โดย นสพ.นิวยอร์ก ไทมส์ ในสหรัฐฯ เรียกนายราอูฟว่า เป็นเครือข่ายกลุ่มไอซิสใหม่ที่มีความสำคัญในจังหวัดเฮลมานด์เลยทีเดียว

เครื่องบินรบของจอร์แดน ออกปฏิบัติการโจมตีทางอากาศใส่กลุ่มไอซิสในประเทศซีเรียถึง 56 ครั้งในช่วง 3 วันที่ผ่านมา เอาคืนกรณีไอซิสฆ่าโหดนักบินแล้วอัดคลิปแพร่ลงอินเทอร์เน็ต... สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน อ้างการเปิดเผยของพลเอก มานซูร์ อัล-เจบูร์ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศจอร์แดน ว่า จอร์แดนส่งเครื่องบินรบโจมตีทางอากาศใส่ฐานที่มั่นสำคัญและคลังอาวุธ ของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศซีเรียถึง 56 ครั้ง ในช่วงเวลา 3 วันที่ผ่านมา ประเทศจอร์แดนยกระดับการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มไอซิส ภายใต้ปฏิบัติการของกลุ่มพันธมิตรซึ่งนำโดยสหรัฐฯ ตั้งแต่วันพฤหัสบดี จนถึงวันเสาร์ที่ผ่านมา (5 ก.พ.) เพื่อตอบโต้หลังกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้เผยแพร่คลิปวิดีโอการสังหารร้อยโท มูอัธ อัล-คาซาสเบห์ นักบินของกองทัพจอร์แดนอย่างโหดเหี้ยมด้วยการเผาทั้งเป็นขณะที่เขาถูกขังอยู่ในกรงเหล็ก  พลเอกเจบูร์ กล่าวในงานแถลงข่าวถึงการโจมตีทางอากาศที่เกิดขึ้นว่า พวกเขาได้รับในสิ่งที่ตั้งเป้าหมายไว้ พวกเขาทำลายศูนย์การขนส่ง, คลังอาวุธ และที่ซ่อนของนักรบของกลุ่มไอซิส "การโจมตีนี้ลดขีดความสามารถของกลุ่มติดอาวุธกลุ่มเกือบ 20%" พลเอกเจบูร์กล่าว และเผยด้วยว่า ในภารกิจนี้มีเครื่องบินรบของสหรัฐฯ คอยให้ความช่วยเหลือด้านข่าวกรองและการสอดแนมด้วย

เอเจนซีส์-เกิดเหตุ 2 มือปืนนิรนามก่อเหตุกราดยิงกลางกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงของเดนมาร์กในวันเสาร์ (14) เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน และทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างน้อย 3 นายได้รับบาดเจ็บจากการยิงปะทะกับคนร้ายก่อนที่จะคนร้ายจะหลบหนีลอยนวลออกจากจุดเกิดเหตุ  ทางด้านนายกรัฐมนตรีเฮลเล ธอร์นิง-ชมิดท์แห่งเดนมาร์ก ออกคำแถลงที่มีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ไปทั่วประเทศประณามเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นบริเวณศูนย์วัฒนธรรม ครุดต์ตอนเดนกลางกรุงโคเปนเฮเกนในครั้งนี้และว่าเป็นฝีมือของผู้ก่อการร้าย  ด้านฟรองซัวส์ ซิแมราย เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำเดนมาร์กซึ่งเดินทางไปร่วมการแสดงวิสัยทัศน์ เกี่ยวกับการแผ่ขยายอิทธิพลของขบวนการอิสลามสุดโต่งอยู่ในจุดเกิดเหตุ ออกมาเปิดเผยว่า เหตุโจมตีที่เกิดเป็นความพยายามของคนร้ายที่ต้องการเลียนแบบการสังหารหมู่ที่กองบรรณาธิการนิตยสาร ชาร์ลี เอ็บโดที่กรุงปารีส  เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำเดนมาร์กเปิดเผยเพิ่มเติมว่า มือปืนที่คาดว่าจะมีจำนวน 2 คนได้ลงมือกราดยิงไม่ต่ำกว่า 50 นัดในที่เกิดเหตุ ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเดนมาร์กระบุพบร่องรอยของการกราดยิงมากกว่า 200 นัด  จนถึงขณะนี้มีการยืนยันการพบผู้เสียชีวิตเพียง 1 รายเป็นชายไม่ทราบชื่อซึ่งถูกยิงมากกว่า 1 นัด ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างน้อย 3 นายได้รับบาดเจ็บจากการยิงปะทะกับคนร้ายก่อนที่จะคนร้ายจะหลบหนีลอยนวลออกจากจุดเกิดเหตุด้วยรถยี่ห้อโฟล์คสวาเกน รุ่น โปโลซึ่งถูกพบว่าถูกจอดทิ้งไว้ในเวลาอีกราว 2 ชั่วโมงต่อมา  ล่าสุดตำรวจเดนมาร์กเผยแพร่ภาพถ่ายของชายคนหนึ่งที่เชื่อว่าเป็นหนึ่งในมือปืนที่ก่อเหตุในครั้งนี้ พร้อมระบุผู้ต้องสงสัยน่าจะมีอายุราว 25-30 ปีและมีส่วนสูงราว 185 เซนติเมตร


รอยเตอร์ การปะทะกันระหว่างกองกำลังฮูธีนิกายชีอะห์และกลุ่มชนเผ่านิกายสุหนี่ที่ต่อสู้เคียงข้างกลุ่มติดอาวุธอัลกออิดะห์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 26 ราย เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น รายงาน ขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ร่วมกับซาอุดีอาระเบียและชาติตะวันตกสั่งปิดสถานทูตของตนในประเทศนี้แล้ว การต่อสู้กันอย่างหนักหน่วงกำลังดำเนินอยู่ในจังหวัดอัล-เบย์ดาซึ่งเป็นพื้นที่ภูเขาทางตอนใต้ และส่งผลให้กลุ่มกบฏฮูธีเสียชีวิต 16 ราย ชณะที่กลุ่มชนเผ่าและกลุ่มติดอาวุธนิการสุหนี่สูญเสียนักรบ 10 คน เจ้าหน้าที่ความมั่นคงและแหล่งข่าวจากกลุ่มชนเผ่า บอกกับรอยเตอร์  เยเมนกำลังเผชิฐกับการล่มสลาย สองสัปดาห์หลังจากที่กลุ่มฮูธีเข้าควบคุมประเทศนี้อย่างเป็นทางการและยังคงนำกองกำลังรุกไปทางตอนใต้ฝรั่งเศส , สหรัฐฯ , อังกฤษ , เยอรมนี , อิตาลี และซาอุดีอาระเบียสั่งปิดสถานทูตของพวกเขาในกรุงซานาและถอนเจ้าหน้าที่ออกมา โดยอ้างเหตุผลด้านความปลอดภัย  สำนักข่าว WAM ของทางการ รายงานว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ประกาศปิดสถานทูตของตนประจำกรุงซานาในวันนี้ (14) ยูเออีอ้างถึง สถานการณ์ทางการเมืองและความปลอดภัยในเยเมนที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ และเหตุการณ์น่าเศร้าต่างๆ ภายหลังการเข้ายึดของฮูธีได้บ่อนทำลายอำนาจการใช้กฎหมายโดยชอบธรรม  บรรดาประเทศเพื่อนบ้านสายสุหนี่แถบอ่าวอาหรับของเยเมนเกลียดชังกลุ่มกบฏที่มีอิหร่านหนุนกลังกลุ่มนี้ และเรียกการขึ้นสู่อำนาจของพวกเขาว่าเป็น รัฐประหารการปิดสถานทูตของนานชาติรอบนี้ได้โดดเดี่ยวกลุ่มผู้ปกครองกลุ่มใหม่ของเยเมนจากโลกภายนอก และทำให้มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องพยายามพูดคุยกันเรื่องการแบ่งสรรอำนาจภายใน ซึ่งกลุ่มฮูธีกำลังเป็นแกนนำควบคุมบรรดาพรรคฝ่ายค้าน  กลุ่มฮูธี ซึ่งสรรเสริญการรุกคืบของพวกเขาว่าเป็น การปฏิวัติมีเป้าหมายที่พวกเจ้าหน้าที่คอร์รัปชั่นและความหายนะทางเศรษฐกิจ ได้ทำการยุบรัฐสภาและจัดตั้งหน่วยงานปกครองของพวกเขาเองเมื่อช่วงต้นเดือนนี้  พวกฝ่ายต่อต้านฮูธี ระบุว่า กลุ่มนี้ได้รับการสนับสนุนจาก อาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ อดีตประธานาธิบดีผู้ทรงอำนาจที่ถูกโค่นล้มในการประท้วงอาหรับสปริงเมื่อปี 2011 และถูกวางหมากให้เข้ามายึดดินแดนและอำนาจ   การที่กลุ่มฮูธีกระจายกำลังเข้าไปยังเขตต่างๆ ของชนเผ่าที่มีอาวุธครบมือในภาคตะวันออกและภาคใต้ของเยเมนกระตุ้นให้พวกคนท้องถิ่นหันไปจับมือกลุ่มติดอาวุธจากกลุ่มอัลกออิดะห์ในคาบสมุทรอาระเบีย (AQAP) หนึ่งในองค์กรก่อการร้ายข้ามชาติที่อันตรายที่สุด  หลายเดือนแห่งการสู้รบและเหตุระเบิดที่พุ่งเป้ากลุ่มฮูธีในกรุงซานาโดยกลุ่ม AQAP ได้ทำให้เกิดกระแสความกังวลกันว่าจะลุกลามกลายเป็นสงครามระหว่างนิกายเต็มขั้น



เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ข้อมูลล่าสุดชี้ ขยะพลาสติกน้ำหนักรวมมากกว่า 8 ล้านตันถูกทิ้งลงสู่มหาสมุทรทั่วโลกในแต่ละปี ส่งผลกระทบอย่างเลวร้ายต่อระบบนิเวศน์  ข้อมูลการวิจัยล่าสุดที่จัดทำโดยองค์กร “Association for Marine Science” ในมลรัฐแมสซาชูเซ็ตต์สของสหรัฐฯ และมีการตีพิมพ์ลงในนิตยสารดังอย่าง “Science” ระบุ ในเวลานี้ทั่วโลกมีปริมาณขยะพลาสติกรวมกันสูงถึงกว่า 275 ล้านตันซึ่งในจำนวนนี้มีราว 3 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่า 8 ล้านตันที่ถูกนำไปทิ้งลงสู่มหาสมุทร ข้อมูลระบุว่าภายในสิ้นปี 2015 นี้ มีแนวโน้มที่ปริมาณขยะพลาสติกในมหาสมุทรทั่วโลกจะเพิ่มจำนวนสูงขึ้นจนแตะระดับ 9 ล้านตัน และที่มาของขยะพลาสติกในมหาสมุทรส่วนใหญ่ถูกระบุว่ามาจาก ประเทศกำลังพัฒนา   จากผลการวิจัยดังกล่าวอ้างว่า สาธารณรัฐประชาชนจีนคือประเทศกำลังพัฒนาที่ปล่อยขยะพลาสติกลงสู่มหาสมุทรสูงที่สุดในโลก คิดเป็นสัดส่วนราว 30 เปอร์เซ็นต์ของขยะพลาสติกในมหาสมุทรทั่วโลก ตามมาด้วยอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ศรีลังกา ไทย อียิปต์ มาเลเซีย ไนจีเรียและบังกลาเทศ ซึ่งติดอันดับ 10 ประเทศที่พบการทิ้งขยะพลาสติกลงสู่มหาสมุทรสูงสุด  ทั้งนี้ ทีมวิจัยได้เรียกร้องให้รัฐบาลของ 192 ประเทศทั่วโลกที่มีอาณาเขตติดต่อกับทะเลเร่งหามาตรการที่เป็นรูปธรรมในการจัดการกับปัญหานี้

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) รายงานในคืนวันพุธ (11 ก.พ.) ยืนยันการเกิดแผ่นดินไหวทางตะวันตกเฉียงเหนือของอาร์เจนตินา ใกล้พรมแดนชิลี ซึ่งสามารถวัดความรุนแรงได้ที่ระดับ 6.7 ตามมาตราแมกนิจูด  ข้อมูลของยูเอสจีเอสระบุ ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้อยู่ลึกลงไปใต้ดินราว 190 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเมืองเอล อากิลาร์ของอาร์เจนตินาไปทางตะวันตกราว 93 กิโลเมตร โดยในเบื้องต้นยังไม่มีรายงานการพบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวระดับ 6.7 แมกนิจูดครั้งนี้ รวมถึงยังไม่มีรายงานถึงความเสียหายของสิ่งปลูกสร้างและอาคารบ้านเรือนแต่อย่างใด  ด้านกองทัพเรือของชิลีได้ออกคำที่แถลงมีการยืนยันว่า ไม่มีความเป็นไปได้ใดๆทั้งสิ้นที่จะเกิด คลื่นสึนามิตามมาจากผลพวงของแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นบริเวณพรมแดนชิลี-อาร์เจนตินาครั้งนี้  อย่างไรก็ดี มีรายงานจากสื่อท้องถิ่นที่ระบุว่า แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ นอกจากจะรับรู้ได้ในหลายเมืองของอาร์เจนตินาและชิลีแล้ว ยังมีการยืนยันถึงการรับรู้ของแรงสั่นสะเทือนที่เมืองบิญาซอนของโบลิเวีย ที่อยู่ห่างจากศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้ราว 154 กิโลเมตรด้วยเช่นกัน
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น