รอยเตอร์/เอเอฟพี - ฟรังซัวส์ ออลลองด์
ประธานาธิบดีฝรั่งเศสแถลงยืนยันเมื่อวันศุกร์(9ม.ค.) ว่ามีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 4 รายในเหตุจับตัวประกันที่ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งทางตะวันออกของกรุงปารีส
ส่วนผู้ก่อเหตุถูกวิสามัญเช่นเดียวกับ 2 ผู้ต้องสงสัยสังหารหมู่ที่สำนักงานนิตยสารรายสัปดาห์
ท่ามกลางข้อมูลที่ปรากฏชัดว่าทั้ง 3 คนร่วมมือกัน
ขณะที่เหล่าผู้นำทั่วยุโรปเตรียมแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับแดนน้ำหอม
ด้วยการตอบรับร่วมเดินขบวนสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ประธานาธิบดีฝรั่งเศสแถลงหลังเหตุจับตัวประกันสิ้นสุดลง
โดยบอกว่า "พวกคนบ้าคลั่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับศาสนาอิสลาม"
เขากล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ พร้อมเตือนว่า
"ภัยคุกคามต่างๆของฝรั่งเศสต้องเผชิญคงไม่สิ้นสุดลงง่ายๆ"
นอกจากนี้ออลลองด์ ยังประณามเหตุสังหารตัวประกัน 4 คนที่ซูเปอร์มาร์เก็ตโกเชร์
ทางภาคตะวันออกของกรุงปารีส ว่าเป็นพฤติกรรมต่อต้านยิวที่น่าสะพรึงกลัว ผู้นำแดนน้ำหอมรายนี้บอกว่าเขาจะไปร่วมเดินขบวนแสดงความเป็นเอกภาพของชาติในวันอาทิตย์นี้(11ม.ค.) ที่คาดหมายว่าจะมีประชาชนหลายแสนคนเข้าร่วมเช่นเดียวผู้นำเยอรมนี
อิตาลี อังกฤษ สเปน และเบลเยียมที่ตอบรับเรียบร้อยแล้ว ขณะที่นายโดนัลด์ ทัสก์
ประธานสภายุโรปและนายฌอง-โคลด ยุงเคอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป
บอกว่าจะไปร่วมเดินขบวนในกรุงปารีสเช่นกันแม้แต่เกาหลีเหนือและคิวบาก็ยังส่งสารแสดงความเสียใจต่อเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้
ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่สหรัฐฯในวันศุกร์(9ม.ค.)
ออกมาสนับสนุนฝรั่งเศส
โดยประกาศพร้อมให้ความช่วยเหลือในทุกรูปแบบเพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามของพวกนักรบอิสลามิสต์หัวรุนแรง ความเคลื่อนไหวของนานาชาติ
มีขึ้นหลังจากกองกำลังตำรวจของฝรั่งเศสบุกจู่โจมช่วยเหลือตัวประกัน 2 จุดในเวลาไล่เลี่ยกันในวันศุกร์(9ม.ค.) ปลิดชีพ 2
พี่น้องที่อยู่เบื้องหลังเหตุสังหารหมู่ที่สำนักงานนิตยสารรายสัปดาห์แนวเสียดสี
“ชาร์ลี เอ็บโด”และผู้สมรู้ร่วมคิดอีกคนหนึ่ง
อย่างไรก็ตามในเหตุการณ์ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตโกเชร์ มีตัวประกันเสียชีวิต 4 คน
มือปืนผู้ก่อเหตุจับตัวประกันในซูเปอร์มาร์เก็ตชาวยิวในกรุงปารีสเมื่อวันศุกร์(9ม.ค.) เผยกับสื่อมวลชนท้องถิ่นระหว่างหลบหนีว่าเขาร่วมมือกับ 2 พี่น้องผู้ต้องสงสัยโจมตีสำนักงานหนังสือพิมพ์นิตยสารรายสัปดาห์แนวเสียดสี “ชาร์ลี เอ็บโด” ก่อนทั้งหมดจะถูกปลิดชีพในปฏิบัติการจู่โจม 2 จุดไล่เลี่ยกันของหน่วยคอมมานโด พร้อมกันนั้นยังบอกด้วยว่าการโจมตีดังกล่าวเป็นภารกิจที่ดำเนินการในนามกลุ่ม AQAP หรืออัลกออิดะห์สาขาเยเมนและกบฏรัฐอิสลาม(ไอเอส)
มือปืนผู้ก่อเหตุจับตัวประกันในซูเปอร์มาร์เก็ตชาวยิวในกรุงปารีสเมื่อวันศุกร์(9ม.ค.) เผยกับสื่อมวลชนท้องถิ่นระหว่างหลบหนีว่าเขาร่วมมือกับ 2 พี่น้องผู้ต้องสงสัยโจมตีสำนักงานหนังสือพิมพ์นิตยสารรายสัปดาห์แนวเสียดสี “ชาร์ลี เอ็บโด” ก่อนทั้งหมดจะถูกปลิดชีพในปฏิบัติการจู่โจม 2 จุดไล่เลี่ยกันของหน่วยคอมมานโด พร้อมกันนั้นยังบอกด้วยว่าการโจมตีดังกล่าวเป็นภารกิจที่ดำเนินการในนามกลุ่ม AQAP หรืออัลกออิดะห์สาขาเยเมนและกบฏรัฐอิสลาม(ไอเอส)
สรุปเหตุการณ์
- ตำรวจฝรั่งเศสกระจายกำลังไปในแถบชนบทเพื่อไล่ล่านายเชรีฟ กูอาชี นักรบอิสลามวัย 32 ปี ที่เคยถูกจำคุก 18 เดือนในปี 2008 โทษฐานมีส่วนเกี่ยวข้องในเครือข่ายลักลอบส่งนักรบไปยังอิรัก และซาอิด พี่ชายวัย 34 ปีของเขา โดยทั้งคู่เกิดในปารีส 2 ผู้ต้องสงสัยสังหารหมู่ที่สำนักงานนิตยสารรายสัปดาห์แนวเสียดสีชาร์ลี เอ็บโดเมื่อวันพุธ(7ม.ค.) ขณะที่ทั้งสองยังหลบหนีเป็นคืนที่ 2
- พอถึงช่วงเช้าวันศุกร์(9ม.ค.) ตอนเวลาประมาณ ตำรวจขับรถยนต์ไล่ล่าด้วยความเร็วสูงและยิงตอบโต้รถยนต์คันหนึ่งบนทางหลวง N2 ทางตะวันออกเฉียงเหนือของปารีส ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นยานพาหนะที่พี่น้องกำลังใช้หลบหนี
- หลังจากจนมุมในช่วงสาย สองพี่น้องก็บุกจับตัวประกันคนหนึ่งที่โรงพิมพ์ CTD ในดามมาแตง ออง กูเลอ เมืองเล็กๆที่มีประชากรราว 8,000 คน ห่างจากท่าอากาศยานหลักของปารีส ชาร์ลส เดอ โกล แค่ 12 กิโลเมตร ทำให้ตำรวจต้องปิดล้อมเมืองดังกล่าวและส่งเฮลิคอปเตอร์บินตรวจตราวนไปวนมาอยู่ด้านบน พร้อมสั่งอพยพตามโรงเรียนที่อยู่โดยรอบและห้ามประชาชนที่อยู่ในละแวกดังกล่าวออกนอกบ้าน
- เครื่องบินโดยสาร 2 ลำของสายการ "แอร์ ฟรานซ์" ต้องยกเลิกการลงจอดในสนามบิน ชาร์ลส เดอ โกล เนื่องจากเฮลิคอปเตอร์ของทางการที่ไล่ล่าตัวคนร้าย บินวนเวียนอยู่ในบริเวณนั้น
- ถึงช่วงนั้น ประธานาธิบดี ฟรองซัวร์ โอลองด์ ได้เข้าร่วมการประชุมของกระทรวงมหาดไทย เพื่อรับฟังสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุด ส่วนนายกรัฐมนตรี มานูเอล วอลส์ ได้ประกาศว่า ฝรั่งเศสไม่ได้ทำสงครามกับศาสนา แต่กำลังทำสงครามกับผู้ก่อการร้าย
- ระหว่างนั้นตอนเวลาประมาณ 13.00น.(ตรงกับเมืองไทย 19.00น.) ได้เกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญอีกคดีแทรกขึ้นมา โดยมีมือปืนเปิดฉากยิงที่ซูเปอร์มาร์เก็ตนิวแห่งหนึ่งที่ปอร์เตอเดอ แวงซองน์ ทางตะวันออกของปารีสและจับตัวประกันไว้อย่างน้อย 5 คน โดยเชื่อกันว่ามือปืนคนนี้คือผู้ต้องสงสัยที่เพิ่งก่อเหตุยิงตำรวจหญิงนายหนึ่งเสียชีวิตทางใต้ของปารีสเมื่อวันพฤหัสบดี(8ม.ค.)และต่อมาก็ปรากฎความชัดเจนว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับสองพี่น้องกูอาชี
- เมื่อถึงเวลา 17.00น.(ตรงกับเมืองไทย 23.00น.) หน่วยคอมมานโดฝรั่งเศส ก็บุกจู่โจมเข้าไปยังอาคารที่สองพี่น้องกูอาชีจับตัวประกันและหลบซ่อนอยู่ ท่ามกลางเสียงปืนและระเบิดที่ดังขั้นสนั่นหวั่นไหว ต่อมาพบว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 ถูกกองกำลังความมั่นคงวิสามัญ ส่วนตัวประกันเป็นอิสระโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ
- ระหว่างนั้นตอนประมาณ 17.15 น.(ตรงกับเมืองไทย 23.15 น.) หน่วยคอมมานโดอีกชุดก็บุกจู่โจมซูเปอร์มาร์เก็ตยิวเพื่อช่วยตัวประกัน แต่คราวนี้มีผู้เสียชีวิต 5 คน ในนั้นรวมถึงมือปืน นอกจากนี้แล้วยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 4 คน
- ตำรวจฝรั่งเศสกระจายกำลังไปในแถบชนบทเพื่อไล่ล่านายเชรีฟ กูอาชี นักรบอิสลามวัย 32 ปี ที่เคยถูกจำคุก 18 เดือนในปี 2008 โทษฐานมีส่วนเกี่ยวข้องในเครือข่ายลักลอบส่งนักรบไปยังอิรัก และซาอิด พี่ชายวัย 34 ปีของเขา โดยทั้งคู่เกิดในปารีส 2 ผู้ต้องสงสัยสังหารหมู่ที่สำนักงานนิตยสารรายสัปดาห์แนวเสียดสีชาร์ลี เอ็บโดเมื่อวันพุธ(7ม.ค.) ขณะที่ทั้งสองยังหลบหนีเป็นคืนที่ 2
- พอถึงช่วงเช้าวันศุกร์(9ม.ค.) ตอนเวลาประมาณ ตำรวจขับรถยนต์ไล่ล่าด้วยความเร็วสูงและยิงตอบโต้รถยนต์คันหนึ่งบนทางหลวง N2 ทางตะวันออกเฉียงเหนือของปารีส ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นยานพาหนะที่พี่น้องกำลังใช้หลบหนี
- หลังจากจนมุมในช่วงสาย สองพี่น้องก็บุกจับตัวประกันคนหนึ่งที่โรงพิมพ์ CTD ในดามมาแตง ออง กูเลอ เมืองเล็กๆที่มีประชากรราว 8,000 คน ห่างจากท่าอากาศยานหลักของปารีส ชาร์ลส เดอ โกล แค่ 12 กิโลเมตร ทำให้ตำรวจต้องปิดล้อมเมืองดังกล่าวและส่งเฮลิคอปเตอร์บินตรวจตราวนไปวนมาอยู่ด้านบน พร้อมสั่งอพยพตามโรงเรียนที่อยู่โดยรอบและห้ามประชาชนที่อยู่ในละแวกดังกล่าวออกนอกบ้าน
- เครื่องบินโดยสาร 2 ลำของสายการ "แอร์ ฟรานซ์" ต้องยกเลิกการลงจอดในสนามบิน ชาร์ลส เดอ โกล เนื่องจากเฮลิคอปเตอร์ของทางการที่ไล่ล่าตัวคนร้าย บินวนเวียนอยู่ในบริเวณนั้น
- ถึงช่วงนั้น ประธานาธิบดี ฟรองซัวร์ โอลองด์ ได้เข้าร่วมการประชุมของกระทรวงมหาดไทย เพื่อรับฟังสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุด ส่วนนายกรัฐมนตรี มานูเอล วอลส์ ได้ประกาศว่า ฝรั่งเศสไม่ได้ทำสงครามกับศาสนา แต่กำลังทำสงครามกับผู้ก่อการร้าย
- ระหว่างนั้นตอนเวลาประมาณ 13.00น.(ตรงกับเมืองไทย 19.00น.) ได้เกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญอีกคดีแทรกขึ้นมา โดยมีมือปืนเปิดฉากยิงที่ซูเปอร์มาร์เก็ตนิวแห่งหนึ่งที่ปอร์เตอเดอ แวงซองน์ ทางตะวันออกของปารีสและจับตัวประกันไว้อย่างน้อย 5 คน โดยเชื่อกันว่ามือปืนคนนี้คือผู้ต้องสงสัยที่เพิ่งก่อเหตุยิงตำรวจหญิงนายหนึ่งเสียชีวิตทางใต้ของปารีสเมื่อวันพฤหัสบดี(8ม.ค.)และต่อมาก็ปรากฎความชัดเจนว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับสองพี่น้องกูอาชี
- เมื่อถึงเวลา 17.00น.(ตรงกับเมืองไทย 23.00น.) หน่วยคอมมานโดฝรั่งเศส ก็บุกจู่โจมเข้าไปยังอาคารที่สองพี่น้องกูอาชีจับตัวประกันและหลบซ่อนอยู่ ท่ามกลางเสียงปืนและระเบิดที่ดังขั้นสนั่นหวั่นไหว ต่อมาพบว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 ถูกกองกำลังความมั่นคงวิสามัญ ส่วนตัวประกันเป็นอิสระโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ
- ระหว่างนั้นตอนประมาณ 17.15 น.(ตรงกับเมืองไทย 23.15 น.) หน่วยคอมมานโดอีกชุดก็บุกจู่โจมซูเปอร์มาร์เก็ตยิวเพื่อช่วยตัวประกัน แต่คราวนี้มีผู้เสียชีวิต 5 คน ในนั้นรวมถึงมือปืน นอกจากนี้แล้วยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 4 คน
คนร้ายใช้ไรเฟิลบุกยิงสำนักพิมพ์การ์ตูนเสียดสีในกรุงปารีส
ฝรั่งเศส คาด ไม่พอใจที่ตีพิมพ์การ์ตูนล้อเลียนศาสนาอิสลาม
เมื่อวันที่
7 มกราคม 2558 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า
ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เกิดเหตุคนร้ายพร้อมอาวุธปืนไรเฟิล
บุกถล่มกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์การ์ตูนเสียดสีรายสัปดาห์ ชาร์ลี เอ็บโด
ทำให้เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตประมาณ 12 ราย เป็นตำรวจ 2 นาย สำหรับรายละเอียดอื่น
ๆ หลังจากที่คนร้ายได้โจมตี ก็ได้ขโมยรถยนต์ก่อนขับหลบหนีไป
พร้อมกับพุ่งชนคนบนทางเท้าอีกหลายคน ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้น
คาดว่าน่าจะมาจากสำนักพิมพ์ตีพิมพ์การ์ตูนล้อเลียนศาสดาของศาสนาอิสลามของหนังสือพิมพ์เดนมาร์กซ้ำ
ซึ่งเรื่องนี้เคยสร้างความโกรธแก่ชาวมุสลิมเมื่อปี 2549 มาแล้ว
ก่อนถูกวางระเบิดในปี 2554 ต่อมา เรื่องนี้ถูกนำขึ้นศาลคดีเหยียดชาติพันธุ์ (racism)
แต่สำนักพิมพ์ก็ยังคงตีพิมพ์การ์ตูนล้อเลียนต่อไปในปี 2555
ด้วยเหตุนี้ ทำให้เกิดกระแสประท้วงต่อต้านจากชาวมุสลิมในหลายประเทศ
และบรรณาธิการก็ต้องให้ตำรวจช่วยคุ้มกันความปลอดภัยเพราะกลัวอันตราย
ก่อนที่จะมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวอีกครั้ง
วันนี้(6
ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดพลีชีพในเมือง Ibb
ทางตอนใต้ของประเทศเยเมน ระหว่างพิธีการทางศาสนา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 33 ราย
และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือผู้ว่าการเมือง Ibb ล่าสุดยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว
แต่เจ้าหน้าที่คาดว่า เป็นฝีมือ เครือข่ายอัลกออิดะห์
มีรายงานว่า
เกิดเหตุคนร้ายขับรถมินิบัสบรรทุกวัตถุระเบิดก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย
ใกล้วิทยาลัยตำรวจกลางกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมน มีผู้เสียชีวิต 30
คน และบาดเจ็บหลายสิบคน ขณะนี้ยังไม่มีฝ่ายใดอ้างว่าเกี่ยวข้อง
แต่ที่ผ่านมาเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ในเยเมน
ซึ่งสหรัฐฯ ระบุว่า เป็นกลุ่มก่อการร้ายที่อันตรายที่สุดในโลก
และเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุรุนแรงโจมตีสหรัฐฯ หลายครั้ง
เอเอฟพี -
หัวหน้าทีมค้นหาอินโดนีเซียแถลงยืนยันวันนี้ (7 ม.ค.)
ว่าทีมค้นหาซากเครื่องบินโดยสารของสายการบิน "แอร์เอเชีย” ตรวจพบส่วนหางของเที่ยวบิน QZ8501 ที่ตกลงสู่ในทะเลชวาแล้ว
ในยามที่ปฏิบัติการค้นหาย่างเข้าสู่วันที่ 11 บัมบัง โซลิสต์โย ผู้อำนวยการสำนักงานค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติอินโดนีเซียระบุกับผู้สื่อข่าว
ณ กรุงจาการ์ตาว่า “เราค้นพบชิ้นส่วนเครื่องบินตรงตามเป้าหมาย
โดยเราขอยืนยันว่า พบส่วนหาง (ของเครื่องบินลำนี้) แล้ว” ทั้งนี้
การค้นพบซากเครื่องบินบริเวณก้นทะเลนั้นอาจช่วยผ่าทางตันของภารกิจค้นหาครั้งนี้
เนื่องจากโดยปกติแล้วส่วนหางของเครื่องบินนั้นเป็นจุดที่มีการติดตั้งอุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบิน
หรือ “กล่องดำ” เอาไว้
ซึ่งเป็นเบาะแสสำคัญที่สามารถชี้ชัดได้ว่า เครื่องบินลำน้ำดิ่งลงทะเลได้อย่างไร เมื่อวันที่ 28 ธันวาคมที่ผ่านมา เครื่องบินลำนี้อันตรธานหายไปจากหน้าจอเรดาร์ขณะเกิดพายุ
ระหว่างออกเดินทางจากเมืองสุราบายา ของอินโดนีเซีย ไปยังสิงคโปร์
พร้อมลูกเรือและผู้โดยสารรวม 162 ชีวิต
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเมืองแดนอิเหนา แม้ว่าปฏิบัติการกู้ซากเครื่องบินครั้งยิ่งใหญ่ครั้งนี้จะได้รับความช่วยเหลือจากหลายชาติ
ทว่า ภารกิจก็ยังคงดำเนินไปอย่างกะท่อนกระแท่น
เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้ายกลายเป็นอุปสรรคขัดขวางการค้นหา โดยในเวลานี้
ทีมค้นหาพบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 39 ราย
โดยศพทั้งหมดที่พบลอยขึ้นสู่ผิวน้ำก่อนหน้านี้ บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยค้นหาและกู้ภัยแถลงว่า
ได้ตรวจพบชิ้นส่วนขนาดใหญ่ของเครื่องบินแล้ว 5 ชิ้น
แต่ยังไม่ได้ระบุแน่ชัดว่า วัตถุเหล่านั้นคือส่วนใดของอากาศยาน ทั้งนี้
อินโดนีเซียแถลงว่า เที่ยวบิน QZ8501 ไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นบนในวันที่ตก
นอกจากนี้อินโดนีเซียยังได้สั่งห้ามไม่ให้เที่ยวบินใดๆ
ของแอร์เอเชียให้บริการในเส้นทางสุราบายา -
สิงคโปร์อย่างไม่มีกำหนดนับตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา (3)เมื่อช่วงเช้าของวันนี้
(7) กระทรวงคมนาคมแดนอิเหนาระบุว่า
ได้สั่งปลดเจ้าหน้าที่ในกระทรวงหนึ่งคน รวมทั้งลงโทษเจ้าหน้าที่อีกหลายคน
ตามมาตรการลงโทษขั้นรุนแรง หลังเกิดเหตุเครื่องบินตก
ขณะที่กระทรวงคมนาคมกำลังเร่งตรวจสอบว่า อากาศยานลำนี้ขึ้นบินโดยไม่ได้รับอนุญาตได้อย่างไร ฮาดี มุสโตฟา
เจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคมกล่าวกับเอเอฟพีว่า “จนถึงตอนนี้เราได้ใช้มาตรการลงโทษเจ้าหน้าที่ไปแล้ว
8 คน โดย 2 คนเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคม
ส่วนอีก 4 คนเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการเดินอากาศ AirNav
และอีก 2 คนที่เหลือเป็นเจ้าหน้าที่สนามบินสุราบายา” “เจ้าหน้าที่ของกระทรวงคมนาคมถูกไล่ออกหนึ่งคน
ขณะที่อีกคนถูกสั่งพักงาน ส่วนเจ้าหน้าที่อีก 6 คนที่เหลือไม่ถูกสั่งพักงานก็ถูกโยกย้าย”
ทางด้าน สายการบินแอร์เอเชียอินโดนีเซียยังคงปฏิเสธที่จะออกมาให้คำชี้แจงใดๆ ภายหลังถูกกล่าวหาว่านำเครื่องบินออกให้บริการทั้งที่ไม่ได้รับอนุญาต โดยทางการสิงคโปร์กล่าวว่า แอร์เอเชียมีสิทธิ์บินในเส้นทางสุราบายา - สิงคโปร์ เฉพาะวันจันทร์ อังคาร พฤหัสบดี และวันเสาร์ เท่านั้น ขณะที่วันเกิดเหตุเป็นวันอาทิตย์ ทั้งนี้ อากาศยานลำดังกล่าวอยู่ภายใต้การบริหารงานของ “แอร์เอเชียอินโดนีเซีย” กิจการในเครือของ “แอร์เอเชีย” ซึ่งมีที่ตั้งสำนักงานใหญ่ในมาเลเซีย และสามารถรักษาประวัติความปลอดภัยในการบินไว้ได้ดีมาโดยตลอด มุสโตฟากล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ ทางกระทรวงจะตรวจสอบใบอนุญาตและตารางบินของสายการบินทั้งหมดที่ให้บริการในอินโดนีเซียเพื่อดูว่า มีการละเมิดกฎระเบียบหรือไม่ ที่เมืองปังกาลันบุน บนเกาะบอร์เนียว อันเป็นที่ตั้งของทางวิ่งเครื่องบินซึ่งอยู่ใกล้จุดตกของแอร์เอเชียมากที่สุด เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมส่งอากาศยานออกค้นหาร่างผู้เสียชีวิต และซากเครื่องบิน จากการประเมินเบื้องต้นโดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาอินโดนีเซียพบว่า อากาศเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เที่ยวบิน QZ8501 ดิ่งทะเล โดยภาพถ่ายดาวเทียมชี้ว่า อากาศยานลำนี้บินผ่านกลุ่มเมฆที่มีอุณหภูมิติดลบ 80-85 องศา จึงมีความเป็นไปได้ว่า อาจมีน้ำแข็งเกาะอุปกรณ์สำคัญต่างๆ กระทั่งเครื่องยนต์เสียหาย อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่า เหตุใดเครื่องบินลำอื่นๆ ที่บินในเส้นทางเดียวกันนั้นจึงไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ และนักวิเคราะห์คนอื่นๆ ทักท้วงว่า ยังมีข้อมูลไม่เพียงพออธิบายสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้จนกว่าจะพบกล่องดำ
ทางด้าน สายการบินแอร์เอเชียอินโดนีเซียยังคงปฏิเสธที่จะออกมาให้คำชี้แจงใดๆ ภายหลังถูกกล่าวหาว่านำเครื่องบินออกให้บริการทั้งที่ไม่ได้รับอนุญาต โดยทางการสิงคโปร์กล่าวว่า แอร์เอเชียมีสิทธิ์บินในเส้นทางสุราบายา - สิงคโปร์ เฉพาะวันจันทร์ อังคาร พฤหัสบดี และวันเสาร์ เท่านั้น ขณะที่วันเกิดเหตุเป็นวันอาทิตย์ ทั้งนี้ อากาศยานลำดังกล่าวอยู่ภายใต้การบริหารงานของ “แอร์เอเชียอินโดนีเซีย” กิจการในเครือของ “แอร์เอเชีย” ซึ่งมีที่ตั้งสำนักงานใหญ่ในมาเลเซีย และสามารถรักษาประวัติความปลอดภัยในการบินไว้ได้ดีมาโดยตลอด มุสโตฟากล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ ทางกระทรวงจะตรวจสอบใบอนุญาตและตารางบินของสายการบินทั้งหมดที่ให้บริการในอินโดนีเซียเพื่อดูว่า มีการละเมิดกฎระเบียบหรือไม่ ที่เมืองปังกาลันบุน บนเกาะบอร์เนียว อันเป็นที่ตั้งของทางวิ่งเครื่องบินซึ่งอยู่ใกล้จุดตกของแอร์เอเชียมากที่สุด เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมส่งอากาศยานออกค้นหาร่างผู้เสียชีวิต และซากเครื่องบิน จากการประเมินเบื้องต้นโดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาอินโดนีเซียพบว่า อากาศเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เที่ยวบิน QZ8501 ดิ่งทะเล โดยภาพถ่ายดาวเทียมชี้ว่า อากาศยานลำนี้บินผ่านกลุ่มเมฆที่มีอุณหภูมิติดลบ 80-85 องศา จึงมีความเป็นไปได้ว่า อาจมีน้ำแข็งเกาะอุปกรณ์สำคัญต่างๆ กระทั่งเครื่องยนต์เสียหาย อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่า เหตุใดเครื่องบินลำอื่นๆ ที่บินในเส้นทางเดียวกันนั้นจึงไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ และนักวิเคราะห์คนอื่นๆ ทักท้วงว่า ยังมีข้อมูลไม่เพียงพออธิบายสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้จนกว่าจะพบกล่องดำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น