วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556

จากมิตรแท้โชว์ห่วย สู่การเป็นเมียรักของเจียไต๋


นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทซีพี ออลล์ ซึ่งทำธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อรายใหญ่ สุดในไทย ภายใต้ชื่อ"เซเว่น อีเลฟเว่น" กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้ลงนามในสัญญาซื้อหุ้นในบริษัทสยามแม็คโคร สัดส่วน 64.35% กับบริษัทเอสเอชวี เนเธอร์แลนด์ บี.วี. ในราคาหุ้นละ 787 บาท รวมมูลค่า 121,536 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทยังจะทำคำเสนอซื้อหุ้นสยามแม็คโคร (เทนเดอร์-ออฟเฟอร์) จากผู้ถือหุ้นรายย่อยที่เหลือทั้งหมดในราคาหุ้นละ 787 บาทเช่นกัน โดยคาดว่าการทำคำเสนอซื้อจะมี ขึ้นในราวเดือนส.ค.นี้ ส่งผลให้บริษัทประเมินว่าจะใช้เงินซื้อหุ้นสยามแม็คโครทั้งหมดราว 1.89 แสนล้านบาท

สำหรับแหล่งเงินทุนที่จะใช้ในการซื้อหุ้น จะมาจากกระแสเงินสดของบริษัท และการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน โดยบริษัทยืนยันว่าจะไม่เพิ่มทุนจดทะเบียน

ทั้งนี้บริษัทซีพีออลล์จะแถลงข่าวการเข้าซื้อกิจการที่ธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่เวลา 14.00 น.วันนี้ โดยคาดว่า ธนาคารไทยพาณิชย์จะเป็นสถาบันการเงินหลักในการสนับสนุนการปล่อยกู้ในกับดีลซื้อแม็คโคร

บริษัทซีพีออลล์ ระบุว่าการเข้าซื้อหุ้นสยามแม็คโครในครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่าผล ตอบแทนจากการลงทุนที่ดี และสยามแม็คโคร มีกลยุทธ์ทางการตลาดที่โดดเด่น ซึ่งบริษัท จะใช้แบรนด์แม็คโคร สร้างมูลค่าเพิ่มและทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อขยายธุรกิจรองรับ การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)

บริษัทสยามแม็คโคร ประกอบธุรกิจศูนย์จำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภคแบบชำระเงินสดและบริการตนเองให้แก่ลูกค้าที่เป็นสมาชิกบัตรของแม็คโคร เป็นบริษัทในกลุ่มเอสเอชวีจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ปัจจุบันมีสาขารวมทั้งสิ้น 57 สาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ และร้านจำหน่ายอาหารแช่แข็งขนาดเล็ก"สยามโฟรเซ่น" อีก 5 แห่ง

สำหรับฐานะการเงินของบริษัทสยามแม็คโครปี 2555 มีรายได้รวม 114,956 ล้านบาท มีกำไรสุท่ธิ 3,556 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 32,085 ล้านบาท

ด้านราคาหุ้นสยามแม็คโครปิดตลาดก่อนแขวนเอสพีอยู่ที่ 682 บาทต่อหุ้นส่วนราคาหุ้นซีพี ออลล์ วานนี้อยู่ที่ 43.50 บาท ขณะที่วันนี้ซีพีออลล์ขอพักการซื้อขายหุ้นด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่ากรณีดีลซีพีออลล์ซื้อหุ้นสยามแม็คโครนั้น ถือเป็นดีลขนาดใหญ่ ซึ่งคงต้องติดตามข้อมูลให้ชัดเจนอีกครั้งแต่หากประเมินเบื้องต้น หากทั้งสองบริษัทควบรวมกัน ก็จะทำให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้นในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม การทำดีลนี้จะทำให้ซีพี ออลล์ต้องกู้เงินมูลค่า 1.8 แสนล้านบาท โดยคิดในอัตราดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดีปกติ จะมีภาระดอกเบี้ยจ่าย หมื่นล้านบาทต่อปี ขณะที่ความสามารถในการทำกำไรปัจจุบันของทั้งสองบริษัทอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาทต่อปี ทำให้บริษัทซีพี ออลล์ มีหนี้สินต่อทุนเพิ่มขึ้นเป็น 7 เท่า แต่ถ้าหลังควบรวมกันแล้ว ก็จะอยู่ที่ 5 เท่า ซึ่งยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่มค้าปลีกที่มีค่าพีอีเรโชเพียง 3 เท่า

เขากล่าวว่า ราคาซื้อหุ้นแม็คโครที่ 787 บาทต่อหุ้นนั้น ถือว่าสูงมากและสูงกว่าราคาในกระดานหลัก โดยหากเทียบมูลค่าหุ้นตามบัญชีของแม็คโคร พบว่าราคาดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 17.7 เท่าของมูลค่าตามบัญชี (book value) ซึ่งจะต้องดูเหตุผลอะไรที่สนับสนุนให้บริษัทซีพี ออลล์ยอมจ่ายในอัตราที่สูงขนาดนี้


กรุงเทพ ฯ 24 เม.ย. - นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) กล่าวยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนเพื่อเข้าซื้อกิจการ บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) เพราะบริษัทสามารถใช้เงินกู้และกระแสเงินสดที่มีอยู่ได้ แต่ก็ยอมรับว่าราคาซื้อหุ้น MAKRO ค่อนข้างแพง แต่เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ถือว่าคุ้มราคา ซึ่งทาง CPALL มีแผนจะขยายสาขา MAKRO ในต่างประเทศ อีกทั้งอาจจะมีการพัฒนาร้านสาขาไปสู่รูปแบบของซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วยและในอนาคตยังมีแผนจะนำสินทรัพย์ของ MAKRO มาจัดตั้งเป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากทำเลที่ตั้งของ MAKRO เป็นทำเลที่มีศักยภาพในการเติบโตทางธุรกิจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หุ้น บริษัท ซีพี ออลล์ (CPALL ) ร่วงร้อยละ 10.34 มาอยู่ที่ 39 บาท ลดลง 4.50 บาท ติดอันดับหุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง ขณะที่หุ้น บริษัท สยาม แม็คโคร (MAKRO ) พุ่งมาอยู่ที่ 754 บาท เพิ่มขึ้น72 บาท หรือร้อยละ10.56 ติดอันดับหุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุดเป็นอันดับสอง

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส วิเคราะห์ว่า การที่บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) การซื้อกิจการ บมจ.สยามแมคโคร(MAKRO) โดยซื้อหุ้น MAKRO ที่ราคา 787 บาทต่อหุ้น คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป ส่วนการที่แหล่งเงินทุนส่วนใหญ่เป็นเงินกู้ ดังนั้นอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 3.3 เท่า ณ ปลายปี 2556 และในอนาคตก็จะทยอยลดลง เมื่อมีการชำระคืนหนี้เงินกู้ สำหรับประโยชน์ที่ได้จากการซื้อกิจการคือ อำนาจในการต่อรองการสั่งซื้อสินค้ามาจำหน่าย จะแข็งแกร่งมาก อีกทั้งสามารถใช้สาขาของ MAKRO ที่มีอยู่มาบริหารให้มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ MAKRO ในการบุกตลาดในโซนเอเซีย เพราะไม่มีข้อจำกัดแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้นและประโยชน์จากการซื้อในช่วงแรกๆจะยังไม่เห็นผลนัก จึงได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2556 ลง ร้อยละ 3 แต่เพิ่มกำไรสุทธิปี 2557 อีกร้อยละ 8 เพื่อสะท้อนอัตรากำไรที่สูงขึ้น และได้รับกำไรจากการทำงบรวมกับ MAKRO เต็มปีบทวิเคราะห์จาก บล.เกียรตินาคิน ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 63 บาท แม้ซื้อ MAKRO แพงกว่ามูลค่าทางบัญชีหุ้น MAKRO ถึง 18 เท่า และสูงกว่าราคาตลาด ถึงร้อยละ 15 แต่ระยะยาวเรามีมุมมอง บวก ต่อโอกาสเติบโตโดยเฉพาะผลจากการประหยัดต่อขนาด การใช้ประโยชน์ร่วมกันจากระบบกระจายสินค้า และโอกาสขยายสาขาต่างประเทศ คาดว่าผลบวกจากการควบรวมจะเริ่มเห็นเต็มปี 2557 เป็นต้นไป ทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2556-2558 ของ CPALL จะเติบโตเฉลี่ย ร้อยละ 24 ดีขึ้นเทียบกับก่อนควบรวมเติบโต ร้อยละ 12.-สำนักข่าวไทย

ย้อนหลังไปในปี 2531 หรือกว่า 25 ปีที่แล้ว การเกิดขึ้นของศูนย์จำหน่ายสินค้าในรูปแบบ Cash and Carry ในนาม สยามแมคโคร คงสร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการค้าปลีกไทยไม่น้อย แต่บริบทที่เกิดขึ้นกับ สยามแมคโคร ในวันนี้กำลังเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ธุรกิจค้าปลีกไทย ไปไกลเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการถึง


บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เริ่มดำเนินธุรกิจศูนย์จำหน่ายสินค้าระบบสมาชิก แบบชำระเงินสดและบริการตนเอง ภายใต้ชื่อ “แม็คโคร” ด้วยการจดทะเบียนก่อตั้งบริษัท ในเดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2531 หลังจากที่ SHV Holding บรรษัทที่มีโครงข่ายธุรกิจหลากหลายสัญชาติจากเนเธอร์แลนด์ รุกเข้ามาทำธุรกิจค้าปลีกในเอเชีย ซึ่งควบคู่กับการรุกเข้าไปทั้งใน มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

การเข้ามาในเมืองไทยของบรรษัทต่างชาติอย่าง SHV ในครั้งนั้น ย่อมต้องดำเนินไปโดยมีพันธมิตรธุรกิจขนาดใหญ่ของไทย เป็นส่วนหนึ่งของย่างก้าวก่อนที่จะลงหลักปักฐาน ซึ่งไม่แปลกที่ในครั้งนั้นชื่อของเครือเจริญโภคภัณฑ์จะปรากฏเป็นพันธมิตรสำคัญตั้งแต่เริ่ม  “25 ปีที่แล้ว กลุ่มซีพีได้ชักชวน ให้ SHV Holding เปิดแม็คโครในเมืองไทย ในขณะที่ซีพี ก็เปิด 7-11 ซึ่งถือได้ว่า เราได้เป็นพี่น้องตระกูลเดียวกัน มาปีนี้เราได้มาผนวกกำลังกัน เพื่อพร้อมรับ AEC”

นั่นเป็นคำกล่าวของก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ที่ปรากฏอยู่ในช่วงหนึ่งของการแถลงข่าวการซื้อสยามแม็คโคร จากกลุ่ม SHV เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2556 ซึ่งสะท้อนวิธีคิดและรากฐานความสัมพันธ์ของทั้งสองกลุ่มธุรกิจนี้ได้เป็นอย่างดี และบ่งบอกนัยความหมายในเชิงยุทธศาสตร์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการขยายธุรกิจค้าปลีกไทยไปสู่ตลาดสากลในอนาคตได้อย่างชัดเจน  ประเด็นสำคัญที่หลายฝ่ายให้ความสนใจเกี่ยวกับดีลครั้งใหญ่ นี้อยู่ที่ อะไรเป็นเหตุให้ SHV Holding หนึ่งในบริษัทเก่าแก่เนเธอร์แลนด์ และมีโครงข่ายธุรกิจครอบคลุมทั้งกิจการขนส่ง อุตสาหกรรมน้ำมัน รวมถึงธุรกิจบริการด้านการเงิน และถือเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทเทรดดิ้งและค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถอนตัวออกจากประเทศไทย 

SHV Holdings ถือกำเนิดขึ้นในปี 1896 ในฐานะ Steenkolen Handels-Vereeniging จากการควบรวมกันของผู้ค้าส่งถ่านหิน 8 รายในเนเธอร์แลนด์ เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่เกิดขึ้นจาก Rheinisch-Westfälischem Kohlen-Syndikat วิสาหกิจด้านถ่านหินของเยอรมนี  นอกจาก SHV จะผูกขาดการค้าและการขนส่งถ่านหินในเนเธอร์แลนด์ที่ทำให้ SHV เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อนที่ยุโรปจะเข้าสู่ภาวะสงครามโลกครั้งที่ 1 และ2 แล้ว SHV ยังขยายบริบททางธุรกิจด้านพลังงานไปสู่อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ ซึ่งหนุนส่งให้ SHV มีสรรพกำลังทางการเงินในการรุกเข้าสู่ธุรกิจอื่นๆ ในเวลาต่อมา  ความชำนาญการอย่างหนึ่งที่สะท้อนออกมาในรูปแบบการดำเนินธุรกิจหลากหลายของ SHV Holdings อยู่ที่ความสามารถในการบริหารจัดการธุรกิจที่พร้อมจะสร้างหลักประกันในการผูกขาดและลดความเสี่ยงด้วยการหลีกเลี่ยงการแข่งขันซึ่งถือเป็นมรดก ตั้งแต่ยุคของ Frits Fentener van Vlissingen ซึ่งนำพา SHV ให้ก้าวขึ้นมาเป็นบรรษัทข้ามชาติได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงของสงครามอีกด้วย  SHV เริ่มเข้าสู่ธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีก ด้วยการจัดตั้งและเปิดMakro ในฐานะร้านจำหน่ายสินค้าระบบสมาชิก แบบชำระเงินสดและบริการตนเองแห่งแรก ที่เมืองอัมสเตอร์ดัมในปี 1968 ก่อนที่จะขยายสาขาไปเกือบทั่วโลก ทั้ง ยุโรป, อเมริกา และเอเชีย  ข้อเท็จจริงที่ปรากฏอยู่ในด้านหนึ่งอยู่ที่ยุโรป กำลังเกิดปัญหาวิกฤตขนานใหญ่ ซึ่งทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่ากระบวนการถอนสมอออกจากไทยเป็นส่วนหนึ่งใน “จังหวะถอย” เพื่อดึงทรัพยากรไปทุ่มเทและใช้พยุงธุรกิจอื่นๆ ที่ยังสามารถเป็นหลักให้กับ SHV ได้ โดยเฉพาะในธุรกิจพลังงานซึ่งดูเหมือนจะเป็นคำตอบสำหรับอนาคตของ SHV และนี่อาจเป็นการยุติให้ Makro ของ SHV กลายเป็นชื่อในตำนานของธุรกิจค้าปลีก เพราะก่อนหน้านี้ SHV ได้ถอยออกจากการค้าปลีกทีละน้อยด้วยการขายกิจการ Makro ในยุโรปให้กับ Metro ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจค้าส่งค้าปลีกจากเยอรมนี ในปี 1998 ขณะที่ในเอเชีย SHV ขายกิจการของ Makro มาเลเซียให้กับ Tesco จากอังกฤษในปี 2007 และทำให้สาขาของ Makro ถูกแทนที่ด้วยชื่อ Tesco Extra ในปีถัดมา SHV ก็ขาย Makro ในอินโดนีเซียให้กับกลุ่ม Lotte จากเกาหลี พร้อมกับการเปลี่ยนชื่อเป็น Lotte Mart Wholesale  แม้ว่า SHV จะมีท่วงทำนองไปทางทยอยถอย Makro ออกจากเอเชีย แต่โครงข่ายของ Makro ในภูมิภาค อื่นๆ โดยเฉพาะในละตินอเมริกา ยังมีความแข็งแรงและครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่ โคลัมเบีย เปรู เวเนซุเอลา อาร์เจนตินา และบราซิล ซึ่งเฉพาะในบราซิล มีสาขาของMakro อยู่มากถึงกว่า 76 แห่งทีเดียว 

การเข้าซื้อกิจการ Makro ในประเทศไทยของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในสายตาของผู้ประกอบการหรือนักลงทุนจำนวนไม่น้อยอาจประเมินว่าเป็นดีลที่ over price แต่สำหรับเครือเจริญโภคภัณฑ์แล้ว พวกเขาเชื่อว่า การได้สยามแม็คโครเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในโครงข่ายธุรกิจ จะสามารถเสริมจุดแข็งและสร้างความมหัศจรรย์ของการลงทุนให้เกิดขึ้นได้  แต่การลงทุนที่ถือว่าเป็นดีลที่ยิ่งใหญ่เป็นประวัติการณ์ของสังคมธุรกิจไทย ด้วยมูลค่ารวมเป็น “เลขมงคล” 188,880 ล้านบาท ในครั้งนี้จะหนุนนำให้ CP All ก้าวไปสู่จุดที่มุ่งหวังหรือไม่ ยังต้องพิสูจน์

อ้างอิงข้อมูลจาก บทความที่ชื่อว่า “เปิดปูม SHV ก่อนถอนสมอ Makro จากไทย” นิตยสารออนไลน์ ผู้จัดการ 360องศา, www.gotomanager.com




วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2556

One Up on SET เหนือกว่าตลาดหุ้นไทย

ตอน เมื่อช้างสารชนกัน หญ้าแพรกก็แหลกราญ


ในช่วงเวลาที่ท้องฟ้าแจ่มใส ดวงอาทิตย์ส่องแสงเปล่งประกาย แดดจ้ากว่าทุกวัน อากาศร้อนจัดมากในความรู้สึกของผู้คน แต่ลองไปเช็คอุณหภูมิดูจริงๆ ก็ไม่เห็นมันจะทะลุ 40 องศาเซลเซียสไปเลยซักวัน นั่นเป็นเพราะความรู้สึกของเราเองที่คิดว่าแดดวันนี้มันร้อนจัดมาก อุณหภูมิคงทะลุจุดเดือดไปนานแล้ว ความรู้สึกกับความเป็นจริงหลายครั้งดูขัดแย้ง ไม่ได้สอดคล้องต้องกันเลย เฉกเช่นในโลกของการลงทุนที่เมื่อครั้งนึง ตลาดหุ้นดิ่งเหวลงไปแตะ 380 จุด ไม่มีคนคิดที่จะลงทุนอีกแล้ว ขายมันทุกราคา โลกวันนั้น ท้องฟ้าเป็นสีเทา และดูมืดมิด ไม่มีแสงจากพระอาทิตย์ส่องลงมาเลย เผลอๆ คิดไปเองว่าดวงจันทร์จะมาโผล่เอาตอนกลางวันเสียด้วยซ้ำ แต่ในภาวะนั้นมีคนกลุ่มนึงเข้ามาดอดเก็บหุ้นในราคาถูกแบบเงียบๆ ซึ่งตรงตามทฤษฏีที่ว่า “จงลงทุนในภาวะที่ผู้คนตื่นกลัว และจงทำกำไรเสียในภาวะที่คนรู้สึกหิว กระหาย และโลภถึงที่สุด” แต่ผู้คนจำนวนมากทำอย่างที่ทฤษฎีบอกไว้ไม่เป็น เพราะเรามักจะเอาความรู้สึกไปผูกพันกับการลงทุนจนเคยชินเป็นนิสัย


ในอดีตที่ราคาทองคำ บาทละ 400 บาท แทบไม่เคยมีใครคิดที่อยากจะซื้อทองไว้ลงทุนเลย นอกจากพวกร้านทอง ที่ต้องทำธุรกิจซื้อขายเป็นปกติอยู่แล้ว กับคนธรรมดาโดยทั่วไปที่ถูกบังคับให้ซื้อทองเป็นสินสมรสตอนช่วงที่จะแต่งงาน จนเมื่อราคาทองวิ่งขึ้นมาถึง 20,000 กว่าบาท แล้ว ภาวะตื่นทองจึงเกิดขึ้น และทองกลายเป็นสินค้าเก็งกำไรขึ้นมาทันที ในโลกตลาดทุน ถือว่าทองเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ชนิดนึงที่สามารถเก็งกำไรได้ จนเกิดตลาดฟิวเจอร์สทองขึ้นมา สำหรับประเทศที่เจริญแล้วอย่างตะวันตกนั้นมีตลาดซื้อขายล่วงหน้าทองกันมานานแล้ว แต่ของพี่ไทยเพิ่งจะมีการจัดตั้งเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ด้วยความที่ตลาดหลักทรัพย์ฯของไทย ต้องการก้าวเข้าสู่ตลาดทุนที่ครบถ้วนสมบูรณ์อย่างเต็มตัว และเพื่อที่จะแข่งขันกับประเทศรอบบ้านเราได้ หรือแม้กระทั่งต้องการสร้างผลกำไรมหาศาลจากช่องทางการลงทุนใหม่ เพิ่มมากขึ้น แม้ว่าจะมีคนทักท้วงถึงความไม่พร้อม หรือกฎกติกาที่เสียเปรียบของตลาดบ้านเรา ที่ไม่อาจแข่งขันกับประเทศอื่นได้ (ตลาดทองเป็นตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด โดยประเทศมหาอำนาจไม่กี่แห่ง ถูกชี้นำโดยตลาดทุนใหญ่คือนิวยอร์ค ลอนดอน และฮ่องกง มีการซื้อขายแบบเรียลไทม์คือ 24ชั่วโมง ไม่มีการหยุดพักเทรด) ดังนั้น ผู้ที่จะเข้าไปลงทุนในตลาดซื้อขายทองล่วงหน้า (สัญญาทองกระดาษ)จำเป็นจะต้องศึกษากฏ กติกานี้อย่างเข้าใจก่อน และต้องยอมรับความเสี่ยงนี้ได้ ไม่นับวงเงินวางหลักประกันขั้นต่ำที่จะต้องถูกบังคับวางตามหลักเกณฑ์ซื้อขายที่กำหนดขึ้น ซึ่งแตกต่างจากการลงทุนทองคำแท่งแบบ gold spot (ได้ทองคำไปจริงๆ) แม้ว่าราคาจะตกลงไป ก็ยังสามารถถือครองทองคำแท่งนั้นไว้ได้ เสมือนสินทรัพย์ชนิดนึงที่ยังมีราคาค่างวด ถือครองไว้ได้ตลอดชีวิตเพื่อเป็นมรดกตกทอดให้ลูกหลานได้ ตราบใดที่ทองคำแท่ง ยังเป็นสินทรัพย์ที่ผู้คนยอมรับ ใช้เป็นสินค้าแลกเปลี่ยนเป็นเงินตราหรือเงินสดได้ และยังเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศที่ทุกประเทศให้การยอมรับ

ช่วง 1สัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องถือว่าเป็นช่วงที่เกิดภาวะขาลงของตลาดทองทั่วโลก แบบเฉียบพลัน เป็นช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวกับช่วงวันหยุดยาว สงกรานต์ประเพณีของไทย และตลาดฟิวเจอร์สก็ปิดอยู่ แต่ภาวะการณ์ลงทุนในตลาดทองโลกไม่ได้หยุด พอเปิดตลาดมาวันแรกก็คือวันที่ 17 เม.ย.2556 ต้องถือว่าเป็นวันนรกแตก ของนักลงทุนทองของไทยก็ว่าได้ จนตลาดฟิวเจอร์ส ต้องทำการเซอร์กิตเบรกเกอร์ ตลาด เพื่อให้เกิดการพักการหยุดไหลของราคาทอง และต้องทำการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ที่ใช้แบบชั่วคราวเฉพาะกรณี ถามว่าสิ่งเหล่านี้ มีการคาดการณ์กันไว้ก่อนแล้วหรือไม่ว่าจะเกิด ผู้สันทัดกรณีบอกว่า ผู้ทีมีอำนาจและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องน่าจะต้องรู้อยู่ว่าความเสี่ยงชนิดนี้ย่อมเกิดขึ้นได้ ในเมื่อภาวะการลงทุนในบ้านเราเป็นแบบปิด ในขณะที่ตลาดภายนอกเป็นแบบเปิด และตลาดทองเป็นตลาดที่ถูกชี้นำโดยกลไกตลาดโลก แบบ 100% เช่นนี้ ไม่อยากจะคิดว่า “งานนี้จะมีคนเสียหาย ล้มตายไปมากน้อยเพียงใด” ยิ่งกว่าแมงเม่าบินเข้ากองไฟ ใครต้องมีส่วนรับผิดชอบ แต่คิดว่างานนี้ทุกคนทุกฝ่ายจะได้บทเรียนที่แลกมาด้วยความเสียหายที่ไม่น่าจะต้องแลกเลย การสำเร็จความใคร่ของผู้มีอำนาจในตลาดทุนนั้นเสร็จสมบูรณ์ไปนานแล้ว แต่คนที่เสียตัว เสียใจ เสียทรัพย์ เสียความรู้สึก และเสียหายนั้นตกอยู่กับฝ่ายใดก็คงจะทราบดี ไม่ขอนำมาขยายความซ้ำเติมอีก (ผู้อ่านสามารถศึกษาเพิ่มเติม หาอ่านเบื้องลึกเบื้องหลังเหตุการณ์ รวมถึงบทความ บทวิเคราะห์ ภาวะตลาดทอง ได้จากสื่อการลงทุนทุกประเภท หรือจากนักลงทุน นักวิเคราะห์ระดับประเทศชื่อดังได้จากหลายๆช่องทางดังเช่นที่ท่านติดตามอยู่ได้)

ในช่วงเวลาที่ฟ้าหม่น โลกเป็นสีเทา มองอะไรไม่ออกนั้น แม้ว่าจิตใจจะหดหู่ไปด้วย ตามความรู้สึก แต่โลกของการลงทุนอาจเป็นช่วงเวลาที่สดใสเหมาะกับการลงทุนมากกว่าช่วงเวลาที่ฟ้าสว่างก็เป็นได้ พูดถึงเรื่องนี้แล้วนึกถึงเพลงรักปาฏิหารย์ของลุลา มากเลย

“ในวันที่ท้องฟ้าสีหม่น ต้องเจอกับหยาดฝน ต้องทนหนักแค่ไหน แต่ในใจฉันลึกๆ ไม่เคยนึกจะหวั่นไหว ด้วยความรักมันต้องผ่านไปด้วยดี รอคอยอดทนได้ทุกอย่าง เพราะฉันมีความหวัง และยังเชื่อต่อไป ว่าต้องมีใครคนหนึ่ง ซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ไหน จะได้พบได้เจอในสักวัน ....ฉันยังรอคอยปาฏิหารย์ เชื่อว่าวันหนึ่งจะมาถึง ครึ่งหนึ่งของฉันที่มันขาดหายไป ใครที่รักกันจริงคนนั้น คนที่เคยฝันเขาจะมาอยู่ข้างกันจริงๆ...."   (เพ้อเจ้อ...ไปเรื่อยเปื่อย ไม่ได้เกี่ยวกับอารมณ์นักลงทุนในตอนนี้เท่าไหร่ แต่ขอให้มองโลกในแง่ดีแบบในเนื้อเพลงต่อไปครับนักลงทุนผู้ไม่เคยย่อท้อ) 

ผู้เขียนพูดถึงภาวะการณ์ลงทุนในตลาดทองแล้วเลยคิดวกวนเวียนกลับมายังการลงทุนในตลาดหุ้นบ้าง ซึ่งเจ็บปวดไม่แพ้กัน ฟ้าสว่างเหมือนกันในช่วงที่ดัชนีขึ้นไปแตะ 1,600 จุด มีแต่คนทำนายทายทักว่าจะไปต่อถึง 1,700 ยัน 2,000 จุดขึ้นไปกันเลยทีเดียว แต่แล้วเมื่อมันยืนอยู่ไม่ได้ ก็มีกระบวนการทุบหุ้นลงมาแบบม้วนเดียว ลงไปแตะที่ 1,470 กว่าจุด แล้วค่อยมีการรีบาวด์ขึ้นมา จากนั้นก็ไซด์เวย์อยู่ราวๆ 1,500 จุด บวกลบ คล้ายๆ ตอนช่วงทอง ลงมาจาก 1,900 เหรียญ ทำนายว่าจะทะลุไป 2,000 เหรียญขึ้นไปบ้าง จากนั้นก็มีกระบวนการทุบราคาทองลงมาเป็นระยะ จนมันมายืนแถวๆ 1,500 เหรียญอยู่พักใหญ่ ทำไซด์เวย์อยู่แถวๆ นี้นานเป็นปี แต่ก็ไม่สามารถขึ้นไปต่อได้ แล้วก็เกิดการเทขายทองออกมาล็อตใหญ่ หาเหตุจากประเทศไซปรัสเททองออกมาขายบ้าง กองทุนของโซรอสเทขายทุบราคาทองบ้าง จนเวลานี้หาแนวรับที่ปลอดภัยไม่เจอ อยากจะบอกว่าตลาดทองเป็นการสู้กันของชาติตะวันตกกับมหาอำนาจเอเชีย ซึ่งฝั่งตะวันตกต้องการทุบราคาทองลง เพราะเห็นว่าประเทศที่ถือทองมาก และมีการสะสมทองเพื่อมาแทนแบ็งค์ดอลล่าร์กันมากขึ้น ทำให้ค่าเงินดอลล่าร์ตก และเพื่อไม่ให้ความมั่งคั่งของเอเซียทะยานไกลได้มากกว่านี้ จำเป็นต้องทุบราคาทองลง เป็นกลยุทธ์ของฝั่งตะวันตก ซึ่งทำมาหลายครั้งแล้ว และครั้งนี้ก็ประสบความสำเร็จ คาดว่าครั้งนี้ตลาดที่ฮ่องกงนั้นเจ๊งกันระนาวทีเดียว รวมถึงไทยด้วย ในขณะที่ภาพแบบเดียวกันนั้น กำลังจะถูกนำมาใช้กับตลาดหุ้นเช่นเดียวกัน แต่ตลาดหุ้นมันไม่ได้เป็นการสู้กันของคนเพียงแค่ 2ฝ่าย แต่มีหลายฝ่าย และอีกทั้งปัจจัยของตลาดหุ้นไทย ไม่ได้ถูกชี้นำจากเมืองนอกแต่เพียงปัจจัยเดียว แม้ว่าจะเป็นปัจจัยหลักก็ตาม ตราบใดที่เสถียรภาพทางการเมือง และภาวะเศรษฐกิจยังดีอยู่ การที่เขาจะทุบหุ้นลงไปกองแบบตลาดทองนั้นยากอยู่เหมือนกัน แม้ว่าจะพยายามทำอยู่ และได้ผลมาแล้ว 1 ครั้งที่ผ่านมานี้ แต่หากบรรดาสถาบัน กองทุนในประเทศกับนักลงทุนรายย่อยของไทยผนึกกำลังกันแล้ว ย่อมพอจะต้านทานกระแสกลยุทธ์ของต่างประเทศและบรรดากองทุนอีแร้งเฮดจ์ฟันด์ รวมถึงบรรดาพอร์ตพร็อพเทรดได้บ้าง สิ่งที่เขาทำก็คือ ชอร์ตเซลล์ ยืมหุ้นมากระหน่ำขาย สร้างข่าวลือมาทุบหุ้น หลายๆ กรณีนี้ นักลงทุนรายย่อยตื่นตูมขายตามตลอด และก็เป็นฝ่ายเสียหายทุกที ในขณะที่บรรดาสถาบันต่างประเทศ และพร็อพเทรดก็กลับมาช้อนซื้อ แล้วดันหุ้นกลับขึ้นมาใหม่ แล้วขายทำกำไรทุกทีไป สิ่งเหล่านี้ทำกันมาหลายรอบแล้ว เข็ดแต่ก็ไม่จำ ผู้เขียนขอทำนายไว้เลยว่า ตลาดหุ้นจะไซด์เวย์ไปอีกซักพัก จากนั้นก็จะขึ้นไปทำ High ใหม่ ไปเรื่อยๆ เมื่อถึงจุดนึงที่นักลงทุนตายใจแล้ว ก็จะเกิดกระบวนการทุบหุ้นรอบใหญ่แบบไม่ทันตั้งตัว แล้วคราวนี้ แมงเม่าก็จะบาดเจ็บล้มตายกันระเนระนาด เหมือนตลาดทอง อย่างที่กล่าวมานั่นแหละ เพียงแต่ว่าท่านเป็นนักลงทุนที่เป็นเบี้ยหรือขุน ถ้าท่านเป็นเบี้ยก็จะถูกกินทั้งกระดานไปอย่างง่ายดายและบาดเจ็บเสียหาย แต่ถ้าท่านเป็นขุน ท่านก็จะได้ชัยชนะที่คุ้มค่า กับหมากกระดานนี้และเอาชีวิตรอดมาได้อย่างวีรบุรุษ





วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2556

โลก 360 องศา - (จับผู้ต้องสงสัยระเบิดปริศนาที่บอสตัน - แผ่นดินไหว 7.0 ริกเตอร์ที่จีน ตายเจ็บเพียบ)

เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ตำรวจสหรัฐฯ ยิงปะทะกลุ่มผู้ต้องสงสัยซึ่งคาดว่าเป็นมือระเบิด “บอสตัน มาราธอน” ที่เมืองวอเตอร์ทาวน์ มลรัฐแมสซาชูเซตส์ เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา (18) โดยผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งถูกยิงได้รับบาดเจ็บ และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนอีกรายซึ่งพกพาอาวุธร้ายแรงยังคงหลบหนีลอยนวล ตำรวจรัฐบาลกลางสหรัฐฯเข้าปิดล้อมเมืองวอเตอร์ทาวน์ ซึ่งห่างจากใจกลางนครบอสตัน ประมาณ 10 ไมล์ หลังมีรายงานว่า ตำรวจท้องถิ่นนายหนึ่งขับรถไล่ล่ากลุ่มคนร้ายซึ่งมีอย่างน้อย 2 คน


สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ยังไม่ยืนยันว่า เหตุไล่ล่าคนร้ายที่เมืองวอเตอร์ทาวน์นั้นเกี่ยวข้องกับการลอบวางระเบิด บอสตัน มาราธอน เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาหรือไม่ แต่มีประกาศเตือนว่า ผู้ต้องสงสัยที่ยังจับไม่ได้นั้นคือ “ชายสวมหมวกสีขาว” ในภาพถ่ายที่ เอฟบีไอ เผยแพร่เมื่อวานนี้ (18) ล่าสุด ผู้บัญชาการตำรวจเมืองบอสตัน เอ็ด เดวิส ยืนยันวันนี้ (19) ว่า หนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ถูกกระสุนปืนของตำรวจจนบาดเจ็บนั้น เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาล ส่วนรายที่สองซึ่งหนีไปได้ “มีอาวุธและเป็นบุคคลอันตราย”

“ผู้ต้องสงสัยคนที่หนึ่งเสียชีวิตแล้ว ส่วนอีกคนยังจับไม่ได้” เดวิส เผยในทวิตเตอร์

“ชายสวมหมวกสีขาวยังอยู่ระหว่างหลบหนี เขามีอาวุธและเป็นอันตรายมาก”

ประชาชนที่อาศัยในเมืองวอเตอร์ทาวน์ได้รับคำเตือนให้อยู่แต่ในบ้าน และปิดโทรศัพท์มือถือ เพราะเกรงจะถูกใช้ส่งสัญญาณจุดระเบิด การติดตามคนร้ายที่เมืองวอเตอร์ทาวน์เกิดขึ้น หลังมีผู้ได้ยินเสียงปืนภายในสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (เอ็มไอที) เมืองเคมบริดจ์ เมื่อค่ำคืนวานนี้ (18) โดยพบว่ามีตำรวจประจำสถาบันเอ็มไอทีนายหนึ่งถูกยิงเสียชีวิต ส่งผลให้ต้องมีการปิดสถาบันเพื่อค้นหาตัวคนร้ายนานหลายชั่วโมง ก่อนที่ เอ็มไอที จะออกประกาศเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า คนร้ายไม่ได้หลบซ่อนอยู่ในอาณาเขตของสถาบันแล้ว เมื่อเวลาประมาณ 3.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น ตำรวจรัฐแมสซาชูเซตส์ ประกาศเตือนทางทวิตเตอร์ให้ชาวเมืองวอเตอร์ทาวน์ล็อกประตูบ้านให้สนิทและอย่าเปิดรับคนแปลกหน้า ระหว่างที่ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านเรือนทีละหลัง

“ผู้ที่อาศัยในเมืองวอเตอร์ทาวน์กรุณาอยู่แต่ในที่พักอาศัยของท่าน และอย่าเปิดประตูรับใครเด็ดขาด เว้นแต่จะทราบแน่นอนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ” ข้อความดังกล่าวระบุ
ภายหลัง 1 วันของการไล่ล่าตัวคนร้ายที่ก่อเหตุระเบิดในเมือง บอสตันซึ่งกบดานในเขตวอเทอร์ทาวน์ เมื่อค่ำวันที่ 19 เมษายน เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐได้ประกาศว่า ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุลอบวางระเบิดในการแข่งขันวิ่งมาราธอนที่เมือง บอสตันรายที่ 2 ได้ถูกจับตัวแล้ว ก่อนหน้านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากประชาชนว่า พบชายต้องสงสัยคือนาย โชการ์ ซาร์นาเยฟ อายุ 19 ปี กำลังหลบซ่อนในเรือที่บ้านหลังหนึ่งในเขต วอเทอร์ทาวน์ ของเมือง บอสตัน หลังจากนั้น หน่วยปฏิบัติการพิเศษพร้อมรถหุ้มเกราะนับสิบคันได้ปิดล้อมเขตที่คนร้ายกำลังหลบซ่อนอยู่ ตำรวจยังได้นำหุ่นยนต์ตรวจระเบิดเข้ามาเขตดังกล่าวด้วย แหล่งข่าวจากตำรวจได้เผยว่า คนร้ายมีเชื้อสายเชชเนียและคาดว่าได้รับบาดเจ็บจากการจับกุม นาย โชการ์ ซาร์นาเยฟ และพี่ชายคือนาย ทาเมอร์ลัน ซาร์นาเยฟ อายุ 26 ปี ซึ่งได้เสียชีวิตในปฏิบัติการไล่ล่าของตำรวจถือเป็นผู้ต้องสงสัยก่อเหตุลอบวางระเบิด ณ เมือง บอสตันเมื่อวันที่ 15 เมษายนซึ่งทำให้ผู้เสียชีวิต 3 คนและได้รับบาดเจ็บประมาณ 180 คน

แผ่นดินไหว 7.0 ริกเตอร์ ที่จีน ตายร่วมร้อยกว่าศพ บาดเจ็บหลักพัน

สำนักข่าวซินหัว ของทางการจีน รายงานความคืบหน้า เหตุแผ่นดินไหว 7.0 ริกเตอร์ ในเขตหลูซาน เมืองหย่าอัน ในมณฑลเสฉวน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ว่านายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์มาจากกรุงปักกิ่ง มาถึงจังหวัดหย่าอัน เพื่อเป็นผู้บัญชาการการค้นหาผู้รอดชีวิต และให้กำลังใจผู้ประสบภัย

นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวว่า จะต้องเร่งรีบช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังให้ได้มากที่สุด ภายใน 24 ชั่วโมงแรก เพราะถือเป็นเวลาทองที่ผู้ประสบเหตุน่าจะยังมีชีวิตอยู่ ส่วนตลอด 8 ชั่วโมงที่ผ่านมาของการค้นหาได้มีการยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตแล้ว 102 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กว่า 3,000 ราย

ขณะที่เจ้าหน้าที่ทางการมณฑลเสฉวน กล่าวว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้มีบ้านเรือนประชาชนอย่างน้อย 10,000 หลัง ถูกทำลาย อีกทั้งเครือข่ายแผ่นดินไหวของจีน ระบุว่า มีอาฟเตอร์ช็อกตามมาหลังเหตุแผ่นดินไหว 7.0 ริกเตอร์ อีกกว่า 260ครั้ง โดยมี 2 ครั้งที่มีระดับรุนแรง 5 ริกเตอร์

วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2556

ย้อนตำนานยุครุ่งเรือง ซีรี่ย์อเมริกา ตอนที่ 2


จริงๆ ความชอบในการดูซีรี่ย์ของแต่ละคนมักจะชอบแตกต่างกันไป บางคนจะชอบเป็นบางแนวเป็นพิเศษ เช่น ไซไฟ สืบสวนสอบสวน แนวตลกซิทคอม สำหรับผู้เขียนแล้วจะดูได้ทุกแนว และในแต่ละแนวก็จะมีเรื่องที่ชอบที่สุดอยู่ด้วยอย่างน้อย 1-2 เรื่อง และซีรี่ย์ในดวงใจของผู้เขียน ที่ขอนำมาเสนอแนะ 10 หมวดนี้ คงเป็นเรื่องที่อยู่ในใจหลายคน จัดเป็นยอดฮิต 10 หมวดที่คอซีรี่ย์ทุกคนไม่มีใครไม่รู้จัก และไม่ควรพลาด (ไม่เรียงอันดับ)

1.24  ,CSI

2.Friends , The Big Bang Theory

3.Lost  , Prison Break

4.American Horror Story , The Walking Dead

5.Nip/Tuck   ,Grey's Anatomy 

6.Dexter  , Homeland , Criminal Mind

7.The X' File  ,Fringe ,Supernatural

8.Breaking Bad , Mad Men , The Sopranos

9.Desperate Housewives ,Sherlock

10.Game of Thrones, Spartacus

24 เป็นซีรีส์แนวตื่นเต้นระทึกขวัญที่ดำเนินเรื่องในลักษณะ "ตามเวลาจริง" โดยแต่ละนาทีในเวลาออกอากาศนั้นตรงกับแต่ละนาทีในชีวิตของตัวละครเช่นกัน ส่วนพักโฆษณาจะถูกจัดให้อยู่ในช่วงที่เนื้อเรื่องที่ไม่สำคัญกำลังดำเนินอยู่ (เช่น พักโฆษณาจะเริ่มขึ้นเมื่อตอนที่ตัวละครกำลังขับรถไปยังจุดหมายหนึ่ง และไปถึงที่หมายเมื่อหมดพักโฆษณาพอดี) ซึ่งทำให้รายการสามารถเกิดขึ้นได้ในเวลาจริงโดยไม่รบกวนกับฉากสำคัญ เวลาออกอากาศจริงๆ ของซีรีส์โดยไม่มีโฆษณาในหนึ่งตอนมีความยาวประมาณ 45 นาที ซึ่งเป็นความยาวปกติของรายการโทรทัศน์แบบหนึ่งชั่วโมงส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม รายการจะต้องมีโฆษณาคั่นเท่านั้นถึงจะได้ผล (ซึ่งอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นในบางประเทศ หรือบริการเคเบิลทีวีที่มักจะไม่มีโฆษณาคั่นรายการ) อีกทั้งระยะเวลาของพักโฆษณาจะต้องมีความยาวพอดีกับช่องว่างของเนื้อเรื่อง (ซึ่งอาจไม่เป็นเช่นนั้นในบางสถานีที่ออกอากาศเช่นกัน)  การดำเนินเรื่องตามเวลาจริงนั้นถูกเน้นโดยเนื้อเรื่องในช่วงก่อนและหลังพักโฆษณาไม่กี่วินาที จะมีตัวละครในสถานที่ต่างกำลังทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งในจอแยกกัน โดยมีนาฬิกาดิจิตัลปรากฏขึ้นแสดงเวลา พร้อมกับส่งเสียง "บี๊ป" (ซึ่งเป็นเสียงโดและเรสลับกัน) ในแต่ละวินาทีที่ผ่านไป เวลาดังกล่าวจะตรงกับเวลาที่เกิดขึ้นในเนื้อเรื่อง ส่วนตัวละครก็มักจะวางกรอบเวลาไว้ (อาทิเช่น ภายในหนึ่งชั่วโมง) สำหรับเหตุการณ์สำคัญๆ เช่นในเนื้อเรื่องเช่นภัยคุกคามจากผู้ก่อการร้าย โดยระบุไว้อย่างแน่ชัดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นก่อนจบตอน เหตุการณ์ที่สลับไปมาระหว่างสถานที่ต่างๆ กันนำไปสู่การดำเนินเรื่องที่เป็นเส้นขนานของตัวละครหลายตัวซึ่งจะมาบรรจบกันเป็นพล็อตเรื่องใหญ่พล็อตเดียว ทำให้ในบางครั้งจะมีการบรรยายถึงความเป็นไปของตัวละครบางตัวโดยผู้ชมไม่ได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และตัวละครดังกล่าวอาจจะปรากฏตัวขึ้นเป็นช่วงสั้นๆ ของตอนเท่านั้น

จุดเด่นของซีรี่ย์เรื่องนี้ ก็คือการเดินเรื่องในหนังนั้นเดินเรื่องไปตามเข็มนาฬิกาจริงๆ ระยะเวลาในแต่ละตอนจะดำเนินไปในเวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง ซึ่งในแต่ละตอนจะเดินเรื่องกระชับฉับไว ตื่นเต้นเร้าใจ ชวนให้ติดตาม ซึ่งนับเป็นความแปลกใหม่ของซีรี่ย์แนวนี้ ได้รับรางวัลซีรี่ย์ยอดเยี่ยมประเภทดราม่า รางวัลลูกโลกทองคำ ในปี 2003 และได้รับการเข้าชิงเกือบทุกปีตั้งแต่ปี 2001

Friends  ต้นแบบของซีรี่ย์โสดขี้เหงา เม้าท์นั่งยาง  โปรเจ็กท์เรื่อง Friends เกิดขึ้นในปี 1994 เมื่อมือเขียนบทตัวฉกาจ 3 คนมาเจอกัน ได้แก่  Kevin Bright, Marta Kauffman และ David Crane ร่วมกันพัฒนาโครงเรื่องที่ว่าด้วย กลุ่มคนหนุ่มสาววัย 20 เศษ  6 คน(หญิง 3 ชาย 3) ที่อาศัยอยู่ในมหานครนิวยอร์ก ซึ่งอยู่ด้วยกันในอพาร์ตเม้นท์เดียวกัน ทั้ง 6 คนมีไลฟ์สไตล์เหมือนกัน คือเวลาว่างจะมานั่งเม้าท์กันในร้านกาแฟที่ชื่อว่า Central Park แรกเริ่มเดิมทีสถานีโทรทัศน์ NBC ไม่ค่อยมั่นใจกับซีรี่ย์เรื่องนี้นัก เพราะมีส่วนคล้ายคลึงกับซีรี่ย์ต้นแบบเรื่อง Seinfeld  ในอดีต และต้องมาฉายต่อจากซีรี่ย์ยอดฮิตอย่าง Mad About You ด้วย แต่พอเริ่มฉายออกอากาศไปฟีดแบ็กค์เรตติ้งก็ขึ้นอันดับ 1 และกลายเป็น Talk of the Town ในเวลาต่อมาจนจบซีซั่นแรก ความฮ็อตของซีซั่นแรก ทำให้ซีซั่นที่ 2 มีข่าวลือว่าดาราส่วนใหญ่ขอปรับค่าตัวขึ้นกันยกทีม และทรงผมของ Jennifer Aniston กลายเป็นแฟชั่นไอด้อลที่ผู้คนลอกเลียนไปตัดตามกันจนกลายเป็นแฟชั่น ซีรี่ย์เรื่องนี้ครองความนิยมอย่างยาวนาน กว่า 10 ปี จนผู้แสดงทั้ง 6 คนในเรื่องสนิทกันจนกลายเป็นเพื่อนซี้ในชีวิตจริงไปด้วย


จุดเด่นของซีรี่ย์เรื่องนี้คือ  ประโยคเด็ดขำขัน  พฤติกรรมรั่วๆ ของทั้งหญิง ชาย  แก๊กอำๆ กันระหว่างเพื่อนซี้ กลายเป็นต้นแบบที่ซีรี่ย์แนวๆ นี้ลอกเลียนกันต่อมา และซีรี่ย์ซิทคอมเป็นต่อ ในบ้านเราก็น่าจะได้รับอิทธิพลมาจากเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน


Lost จัดเป็นซีรี่ย์แนวติดเกาะ ผจญภัย ที่ได้รับอิทธิพลมาจากเรียลลิตี้ Survivor หรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่ด้วยพล็อตเรื่องที่ชวนติดตาม เมื่อผู้โดยสารเครื่องบินลำหนึ่ง ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกลงบนเกาะร้างกลางทะเลแห่งหนึ่ง มีผู้รอดตายจำนวน 48 คน ในจำนวนนี้มีผู้คนหลากหลายสาขาอาชีพ (ร้อยพ่อพันแม่) มาอยู่รวมตัวกัน แต่ละคนมีภูมิหลังพิเศษที่แตกต่างกัน และแน่นอนว่าทุกคนมีจุดประสงค์ร่วมกันคือ ต้องการเอาชีวิตตัวเองรอด มีการปูพื้นตัวละครเด่นๆ ที่มีบุคลิกแปลกแยก แตกต่างกัน และก็พฤติกรรมของตัวละครที่เข้ากลุ่ม และไม่เข้ากลุ่ม แต่ต้องไปปฏิบัติภารกิจร่วมกันคือ พยายามจะกู้ซากเครื่องบินเพื่อหาทางเดินทางออกจากเกาะนั้นให้ได้ ซึ่งจะมีวิธีการใดบ้าง ในขณะที่บนเกาะนั้นก็มีสัตว์ประหลาดน่ากลัวที่อาจทำอันตรายต่อมนุษย์ร่วมอยู่ด้วย ดังนั้นความระทึกขวัญ พร้อมๆกับการลุ้นภาระกิจเอาตัวรอดของตัวละครทำให้คนดูเอาใจช่วยอยู่ตลอดเวลา เพียงแค่ซีซั่นแรกก็ถล่มทลายจนเกิดการสร้างซีซั่นถัดๆ มาอีก หลายซีซั่น แค่ฉากแรกเครื่องบินตก ก็ใช้งบประมาณการสร้างสูงสุดเป็นสถิติของหนังซีรี่ย์กว่า 10 ล้านเหรียญ เพียงแค่ตอนแรก ความยาว 2 ชม. (สร้างหนังไทยหรือละครไทยได้เป็นสิบๆ เรื่อง) ตัวซีรี่ย์สร้างสถิติผู้ชมคนดู 18.65 ล้านคนทั่วสหรัฐ ติดอันดับ 1 ของสถานีโทรทัศน์ ABC นับว่าสูงที่สุดในยุคนั้น กำกับโดยผู้กำกับสุดยอดฝีมือ  J.J.Abrams 

จุดเด่นของซีรี่ย์เรื่องนี้คือ   การผูกเรื่อง พล็อตเรื่อง ตัวละครที่มีหลากหลายคาแร็กเตอร์  ซึ่งจะค่อยๆ ผูกโยงความสัมพันธ์กันไปถึงซีซั่นถัดๆ ไปด้วย การเดินเรื่องกระชับฉับไว ชวนติดตามทุกตอน ได้รางวัลซีรี่ย์ยอดเยี่ยมประเภทดราม่า รางวัลลูกโลกทองคำปี 2005

Prision Break  จัดเป็นซีรี่ย์ที่ฟอร์มสดมาก อยู่ในข่ายฟอร์มมาดี หรือท่าดีทีเหลว (ซีซั่นหลังๆ เริ่มออกทะเล ตันไอเดียแล้ว)  ว่ากันว่าเป็นซีรี่ย์เกี่ยวกับคนคุกที่ดีที่สุด ไม่ค่อยแน่ใจ อาจมีดีกว่าก็ได้ เพราะยังไม่เคยดูเรื่องอืนๆ เป็นซีรี่ย์ที่ว่าด้วยการวางแผนแหกคุกที่ฉลาดแนบเนียน โดยตัวเอกของเรื่องคือ ไมเคิล สกอร์ฟิลด์ เป็นอดีตวิศวกรที่เคยออกแบบคุก “ลินคอล์น”  ที่เป็นที่กักขังพี่ชายของตนเอง ซึ่งถูกปรักปรำว่าเป็นฆาตกรสังหารพี่ชายของรองประธานาธิบดี ทำให้สกอร์ฟิลด์ต้องวางแผนปล้นธนาคารเพื่อให้ตนเองต้องถูกจำคุกเดียวกับพี่ชาย และตัวเองก็มีพิมพ์เขียวของแผนที่คุกนี้ทั้งหมดบนร่างกายของตนเอง ที่จ้างคนสักไว้บนตัว เพื่อให้การทำงานและแผนงานที่วางเอาไว้สะดวก ไม่เป็นที่น่าสงสัย แต่แม้ว่าโครงเรื่องหลักจะอยู่ที่แผนการและปฏิบัติการในการช่วยเหลือพี่ชายของเขา (เวนเวิร์ท มิลเลอร์) แต่โครงเรื่องย่อยก็น่าสนใจ เมื่อพัศดีของคุกลินคอล์นก็มีปูมหลังที่เป็นปริศนา รวมถึงทนายที่มาทำคดีให้และครอบครัวของมิลเลอร์ ที่ไปเกี่ยวข้องกับการรู้ความลับเบื้องหลังคดีฆ่ารองประธานาธิบดี ทุกคนล้วนถูกลอบสังหาร หรือตามเก็บจากชายแปลกหน้าที่เป็นคนสนิทของรองประธานาธิบดีอีกด้วย

จุดเด่นของซีรี่ย์เรื่องนี้คือ  บทภาพยนตร์ การวางโครงเรื่องหลัก โครงเรื่องย่อย นักแสดงในเรื่องเล่นได้ดีเป็นธรรมชาติ ทำให้เราเชื่อในบุคลิกตัวละครทุกตัว โดยเฉพาะพระเอกของเรื่องนั้นฉลาดล้ำเหลือ คาแร็กเตอร์ตัวละครที่หลากหลาย โดยเฉพาะกลวิธีผูกมิตรและเอาตัวรอดในคุกของพระเอกกับผองเพื่อน ซีรี่ย์เรื่องนี้เป็นขวัญใจของคนดูทั่วโลก และทำสถิติคนดูสูงถึง 10.5 ล้านคนในการออกอากาศ 2ตอนแรก สูงสุดในรอบ 7 ปีของสถานี Fox  


Nip/Tuck ซีรี่ย์ที่ว่าด้วยเรื่องราวเหตุเกิดที่คลินิกหมอศัลยกรรม 2 ท่าน ที่มีบุคลิกแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงแต่ก็เป็นเพื่อนกัน มาเปิดคลินีกร่วมกัน  เรื่องราวเริ่มต้นด้วย  2 หมอหนุ่มแห่งเมืองไมอามี่  คนนึงคือหมอ ฌอน แม็คนามาร่า อีกคนชื่อ หมอคริสเตียน ทรอย  หมอฌอนดูจะเป็นคนเจ้าหลักการ รักครอบครัว หรือ family man ส่วนอีกคนหมอคริสเตียน ทรอย นั้นดูจะเป็นคนเพลย์บอย หนุ่มเจ้าสำราญ  จูเลีย ภรรยาของหมอฌอนจะแลดูมีปมลึกอยู่ภายใน เก็บกด เนื่องจากเธอเคยเป็นพยาบาลที่พลาดท่าเสียทีตั้งท้องจนต้องออกจากงานมาเป็นแม่บ้านให้กับหมอฌอน เลี้ยงดูลูกถึง 2 คนแต่เพียงลำพัง หมอฌอนนั้นมีงานที่คลินิกมาก เนื่องจากจำนวนลูกค้าทีมาทำศัลยกรรมพลาสติกนับวันยิ่งมากขึ้น ในแต่ละตอนก็จะมีตัวละครที่เป็นลูกค้ามาทำศัลยกรรมด้วยจุดประสงค์แปลกๆ แตกต่างกันไป เช่น บาทหลวง ,พ่อค้ายาเสพติด ,ผู้ชายที่ต้องการแปลงเพศเป็นหญิง เป็นต้น เรื่องราวจะเต็มไปด้วยฉากล่อแหลม เซ็กส์ ฉากในห้องผ่าตัด ซึ่งดูส่อไปในทางอนาจารเสียส่วนใหญ่ ทำให้ตัวซีรี่ย์ติดเรต ไม่เหมาะกับเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 15 ปี หรือผู้ปกครองต้องให้คำแนะนำ

จุดเด่นของซีรี่ย์เรื่องนี้คือ  ความสมจริง เรียลลิสต์มากๆ ทำให้เห็นมุมมองด้านดี ด้านร้ายของธุรกิจศัลยกรรมความงาม ตกแต่ง รวมถึงจรรยาบรรณแพทย์ ชีวิต จิตใจ ของผู้คนสมัยนี้ อีกทั้งซีรี่ย์เรื่องนี้ยังได้รับรางวัลซีรี่ย์ยอดเยี่ยมประเภทดราม่า รางวัลลูกโลกทองคำในปี 2004 อีกด้วย

Dexter เป็นซีรี่ย์ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ Dexter Morgan ชายหนุ่มที่มีชีวิตสองด้าน ด้านหนึ่งเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการกระเซ็นของเลือด (blood spatter) ของกรมตำรวจในไมอามี่ แต่อีกด้านของ dexterกลับเป็นฆาตกรโรคจิตที่ออกตามฆ่า(และทรมาน) เหล่าฆาตกรโรคจิตอีกต่อนึงตัวเขามีแรงกระตุ้นในการฆ่า ซึ่งเกิดจาก ปัญหาในวัยเด็ก (ซึ่งเจ้าตัวเองก็นึกไม่ออก) พ่อเลี้ยงผู้เป็นตำรวจเก่า ที่เข้าใจปัญหาของเขา และพยายาม ให้เขาใช้มันไปในทิศทางที่ถูก(?)แทน ซึ่งนั่นก็คือการออกตามล่าผู้กระทำผิด เพื่อการนั้นเขาจึงได้รับการฝึกแยกแยะฆาตกรและการกำจัดร่องรอยมาตั้งแต่เด็กการดำเนินชีวิตอันแสนจะ เรียบง่ายเป็นระเบียบของเด็กซเตอร์ ต้องมาสะดุดกึกเมื่อฆาตกรต่อเนื่องรายหนึ่งโผล่ขึ้นมาในไมอามี่ เด็กซเตอร์ออกจะทึ่งๆ และแอบดีใจ ที่ฆาตกรผู้นี้มีวิธีการทำงานคล้ายกับตัวเขา ถึงอย่างนั้น เขาก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าผู้มาใหม่รายนี้ไม่เพียงเข้ามารุกล้ำถิ่นของเขาเท่า นั้น แต่ยังจะเข้ามารุกล้ำชีวิตของเขาด้วย

จุดเด่นของซีรี่ย์เรื่องนี้ก็คือ ตัวละครเอกเป็นผู้ร้ายในคาบของผู้ดี(ทำงานในกรมตำรวจ) ตีแผ่ด้านมืดในจิตใจของเขา ซึ่งทำให้คนดูจำใจที่จะต้องลุ้นเอาใจช่วยตัวละครตัวนี้ แม้ว่าจะทราบว่าเขาเป็นฆาตกร แต่ความขัดแย้งในตัวเองของทั้งตัวละคร และคนดู ทำให้ซีรี่ย์เรื่องนี้มีพล็อตเรื่องที่สนุก น่าติดตาม จนมีการสร้างตามกันมาหลายซีรี่ย์และประสบความสำเร็จมาก


Desperate Housewives เป็นซี่รี่ย์ที่่ว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มแม่บ้านของย่านชานเมืองที่มีชื่อว่า ถนนวิสทีเรีย เลน ในเมืองแฟร์วิว ซึ่งเป็นสถานที่ถูกสมมุติขึ้นเพื่อไห้เป็นสถานที่พักอาศัยของกลุ่มนักแสดงนำในเรื่อง โดยกลุ่มแม่บ้านที่ทำหน้าที่ดำเนินเรื่องประกอบด้วย ซูซาน เมเยอร์, ลินเน็ท สกาโว, บรี แวน ดี แคมป์, กาเบรียล โซลิส, อีดี้ บริทท์และ แคทเธอรีน เมย์แฟร์ ซึ่งเข้ามาสมทบในซีซั่นที่ 5และ รีเน่ เพอร์รี่ ซึ่งก็เข้ามาสมทบในซีซั่นที่ 7 นอกจากนี้ ยังมี แมรี่ อลิซ ยัง อดีตหนึ่งในกลุ่มแม่บ้าน ที่ภายหลังได้ทำอัตวิบากกรรมในตอนแรกของละคร ทำการให้เสียงบรรยายเรื่องราวต่างๆ  เป็นเรื่องราวของแม่บ้านของแต่ละบ้านที่มาอยู่รวมกันในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แต่ละครอบครัวก็จะมีเรื่องราวปัญหาของตนคนละแบบกันไป แต่ชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องราวของบ้านอื่นๆ อันนี้เป็นคุณสมบัติของคุณแม่บ้านโดยทั่วไปรวมถึงสังคมตะวันตกด้วยหรือ นึกว่าเป็นเฉพาะสังคมไทยเสียอีก เรื่องนี้มีความเป็นละครน้ำเน่าอยู่ไม่น้อย ผูกปมเรื่องให้ชวนติดตาม น่าจะถูกคอกับคอละครไทยได้เหมือนกัน สำหรับคนที่ไม่ชอบดูซีรี่ย์ยากๆ แบบสืบสวนสอบสวน หรือไซไฟ เรื่องนี้น่าจะเหมาะสำหรับคุณ เพราะเหมือนเรากำลังแอบดูพฤติกรรมของครอบครัวข้างบ้านเรานั่นแหละ

จุดเด่นของซีรี่ย์เรื่องนี้ก็คือ ความลึกลับซ่อนเงื่อน ตัวละครมีคาแร็กเตอร์ที่หลากหลาย ที่เดาไม่ออกว่าใครเป็นคนดี คนร้าย ลำพังความซับซ้อนของความคิดและจิตใจของผู้หญิงคนนึงก็มากโขอยู่แล้ว แต่นี่มาแบบแท็คทีม คือมาแบบเป็นฝูง ย่อมทำให้ความซับซ้อนเป็นทวีคูณ ความยอดเยี่ยมอยู่ที่บทภาพยนตร์และผู้กำกับ นักแสดง รวมๆ กันจึงเป็นความยอดเยี่ยมแบบสมาคมแม่บ้านยอดเยี่ยมแห่งสหรัฐอเมริกาไปเลย ซีรี่ย์เรื่องนี้ได้รับรางวัลซีรี่ย์ยอดเยี่ยมสาขาตลกและมิวสิคัล รางวัลลูกโลกทองคำ 2 ปีซ้อน คือปี 2004 และ 2005 กลายเป็นตำนานอีกเรื่องนึง

American Horror Story เป็นซีรี่ย์ที่ว่าด้วยเรื่องราวของบ้านหลังหนึ่งที่เคยเกิดเหตุการณ์การฆาตกรรมมาหลายต่อหลายครั้งตั้งแต่ในอดีต....
เมื่อครอบครัวของแฮมมอน ที่ประกอบไปด้วยสมาชิกทั้งหมดสามคน ย้ายจากบอสตันมายังบ้านเก่าๆหลังหนึ่งในลอส แองเจลิสเพื่อที่จะเยี่ยวยารักษาบาดแผลจากอดีตที่ครอบครัวต้องเผชิญมา โดยที่ทั้งสามคนไม่มีใครรู้มาก่อนเลยว่าบ้านหลังนี้จะมีเรื่องราวประวัติอันน่าสะพรึงกลัวมากมายซ่อนอยู่... แล้วสิ่งที่รอพวกเขาอยู่มันคืออะไร พบกับเรื่องราวปริศนาและเหตุการณ์อันน่าพิศวงได้ใน American Horror Story


วันเสาร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2556

ย้อนตำนานยุครุ่งเรือง ซีรี่ย์อเมริกา ตอนที่ 1



Roots เป็นมินิซีรี่ย์เรื่องดังในยุคแรกๆ ที่ช่อง 3นำมาฉาย เรตติ้งสูงสุดในยุคนั้น  ปี 2520


Shogun เป็นมินิซีรี่ย์ช่วงซีรี่ย์ยุคสมัยใหม่ของอเมริกา เรื่องแรกๆออกฉายปี 1980 หรือ 2523
 มีคำกล่าวจากผู้สันทัดกรณีเคยบอกกล่าวแก่ผู้เขียนเอาไว้ว่า ถ้าหากอยากเสพความบันเทิงขั้นสุดยอดหรือหลงใหลในศิลปะภาพยนตร์ การแสดง และบทภาพยนตร์ที่ดีแล้วหล่ะก็ ควรจะต้องดูซีรี่ย์อเมริกาเป็นต้นแบบ เพราะเป็นแหล่งรวมความสุดยอด ความสนุก ครบรส รวมถึงหนังสูตรทุกรูปแบบเอาไว้ ผู้เขียนก็ไม่ใคร่ที่จะพิศมัยการดูซีรี่ย์แบบเป็นแฟนประจำมานานแล้ว อันเนื่องมาจากเวลาที่จะพักผ่อนนอนหลับก็มีน้อยอยู่แล้ว ไอ้ครั้นที่จะมาเสพความบันเทิงในรูปแบบของซีรี่ย์ ต้องอาศัยความพยายามอย่างมาก อีกทั้งต้องมีเวลาว่างมากพอ มีสมาธิหรือสติในการนั่งดู เพราะหาไม่แล้วก็จะไม่รู้เรื่อง จับประเด็นเนื้อหาไม่ได้ กลายเป็นการฆ่าเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะซีรี่ย์อเมริกาที่ดีๆ นั้น ไม่เหมือนละครไทย คือนั่งดูแล้วต้องคิดตามตัวละคร วิเคราะห์เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นข้างหน้าของตัวละครไปด้วย ยังไม่นับว่าดูแล้วอินหรือติด อาจจะไม่เป็นอันต้องทำงานทำการอื่นใดต่อเลย ต้องดูรวดเดียวให้จบซีซั่นไปเลย เพราะมันสนุกไม่อยากคั่งค้างอะไร เพราะหากการดูมีหยุดชะงักแล้วมาดูต่อในภายหลัง อรรถรสก็จะลดลงไปบ้างอีกทั้งต้องรีวิวเนื้อหาความทรงจำกันใหม่ อย่าว่าแต่การดูซีรี่ย์ซึ่งมีจำนวนตอนเยอะๆ เลย แม้แต่การดู DVDหนังยาวซักเรื่อง ให้จบแบบต่อเนื่องรวดเดียวในครั้งเดียวยังยากเลย สำหรับผู้เขียน ยิ่งถ้าเรื่องใดนำเสนอไม่น่าสนใจให้ติดตามในช่วง 15นาทีแรกที่ดูแล้ว ส่วนใหญ่ผู้เขียนก็จะหยุด ไม่ดูต่อ ไว้ค่อยมาตามดูทีหลัง เพราะการดูDVD อยู่ที่บ้าน ไม่ค่อยจะมีสมาธิกับมันนัก ถ้าไม่ได้ตั้งใจที่จะดูจริงๆ ไม่เหมือนการไปชมในโรงภาพยนตร์ ที่ความสนใจมันอยู่ที่จอใหญ่ๆ ข้างหน้าและอยู่ในบรรยากาศการชมภาพยนตร์จริงๆ และนี่เป็นอุปสรรคหรือโรคสมาธิสั้นเฉพาะตัวของผู้เขียนเพียงคนเดียวที่ทำให้การดูภาพยนตร์เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยสนุกเหมือนเมื่อก่อน จึงทำให้จำนวนเรื่องของการดูหนังลดลง รวมถึงความถี่ที่จะดูซ้ำด้วย ซึ่งเป็นข้อเสียที่ทำให้เราต้องเป็นคนเลือกดูหนัง ประเภทพล็อตเรื่องซ้ำๆ คล้ายๆ หรือเนื้อหาไม่น่าสนใจ ก็จะไม่ยอมเสียเวลาดูเลย เพราะโลกทุกวันนี้หนังใหม่ๆ ออกกันมาเยอะมาก ยังไม่นับรวมหนังสือ หรือความสนใจอื่นๆ อีกมากมาย


ซีรี่ย์หุ่นมหาสนุก ตัวละครเอกเจ้ากบเคอร์มิท สร้างโดยสถานี CBS ออกฉายปี 1984-1990


(ผู้เขียนขอออกตัวก่อนว่า ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ซีรี่ย์อเมริกาตัวยง ไม่ใช่ผู้สันทัดการดูซีรี่ย์ อีกทั้งที่บ้านก็ไม่ได้ติดทรูวิชั่น เพียงแต่ซีรี่ย์ดีๆ ดังๆ ที่คนเขานิยมชมชอบพูดถึงกันมากๆ นั้น มักจะเคยผ่านตามาบ้างก็เท่านั้น ทั้งเก่าและใหม่ หากเคยออกอากาศผ่านช่องฟรีทีวีมาแล้วส่วนใหญ่จะไม่พลาด นอกเหนือจากเป็นแนวที่เราไม่ได้ชอบจริงๆ ก็จะไม่ดู)  แรกเริ่มเดิมทีซีรี่ย์อเมริกายังเป็นของใหม่ในบ้านเรามาก ช่องแรก ๆ ที่นำซีรี่ย์อเมริกาเข้ามาฉายก่อนในบ้านเราคงเป็นช่อง 7 กับช่อง 5 ยุคทีวีขาวดำ (ประมาณปี 2509 ) ประมาณเรื่อง Dr.Who,โลมาเพื่อนแก้ว (Flipper) ,ตะลุยจักรวาล Star Trek, ขบวนการพยัคฆ์ร้าย Mission Impossible, มนุษย์ค้างคาวและโรบิน Batman & Robin ,อุโมงค์มหัศจรรย์ ,โลกพิศวง Lost in Spaceพอมาเป็นยุคโทรทัศน์เริ่มเป็นสี ก็คือยุคก่อตั้งช่อง 3 ซีรี่ย์เรื่องแรกๆก็เช่น นางฟ้าชาลี Charlie's Angels ,Dallas, Dynasty ,หนูน้อยอาร์โนลด์,อัจฉริยะนักประดิษฐ์  Macgyver (เรื่องนี้โด่งดังมาก เรตติ้งถล่มทลายกว่าทุกเรื่อง) และเรื่องที่ประสบความสำเร็จอีกเรื่องก็คือ ซีรี่ย์หุ่นมือชักอย่างเจ้ากบเคอร์มิท เรื่อง The Muppets take Manhattan (1984)  และก็ได้มีการนำเอามินิซีรี่ย์ที่โด่งดังในอเมริกามาฉาย เช่น Roots , Shogun  ,ช่อง 5 ก็มีซีรี่ย์ผีรอบดึกที่ชื่อช็อคซีนีม่า

แนวหนัง/ซีรี่ย์อเมริกา หรือของประเทศอื่นๆ ก็ใช้สูตรหรือแนวๆ เดียวกัน ซึ่งมีการแบ่งประเภทของซีรี่ย์เอาไว้หลากหลายแนวมาก ผู้เขียนขอรวบรวมแนวที่มีการสร้างออกมามากและบ่อย เป็นที่นิยมของผู้สร้างดังนี้

1.แนวสืบสวน/สอบสวน คดีฆาตกรรม อาชญากรรม โรคร้าย ยาเสพติด (ซึ่งเกี่ยวข้องกับอาชญากร,ตำรวจ,นับสืบ,แพทย์ผู้ชันสูตรวิเคราะห์ศพผู้เสียชีวิต,ทนาย) โดยเน้นไปที่การคลี่คลายคดี,หาตัวผู้กระทำความผิด แนวๆนี้ได้แก่ CSI:Crime Scene Investigation (2000), 24, Medical Investigation, Outbreak, Deep Throat, Without a Trace, Navy NCIS , The Inside, Millennium , NUMB3RS ,Law & Order: Special Victims Unit , Homeland ,The Wire (2002) ,Suit, White Collar , NCIS ,Miami Vice (1985), NYPD Blue (1993), Party of Five (1995) ,The Practice (1998)  เป็นต้น

2.แนวจิตวิเคราะห์/การแพทย์/ไขปริศนา/จิตวิทยา โดยเน้นไปที่ความคิด จิตใต้สำนึก การวิเคราะห์พฤติกรรมมนุษย์ แนวๆ นี้ได้แก่ ER(1994), Dexter, Nip Tuck ,Grey’s Anatomy ,Criminal Mind, Bones ,Castle ,The Mentalist, House M.D. (2004) ,Twin Peaks(1990) ,OZ (1997),Sherlock (2010) ,Monk

3.แนววิทยาศาสตร์/ไซไฟ ลึกลับ ภัยจากมนุษย์ต่างดาว นอกโลก โดยเน้นไปที่มิติลี้ลับ แนวๆ นี้ได้แก่ The X-File (1993), Supernatural , TAKEN ,Star Trek (1966,1987), Doctor Who (2005), Battlestar Galactica ,Twilight Zone(1959) ,Fringe (2008) , Rosswell

4.แนวครอบครัว/หรรษา/เบาสมองหรือไม่เบาสมอง แต่ให้ข้อคิด แนวๆ นี้ได้แก่ Home Improvement, Everwood ,7th Heaven, Modern Family , How I Met Your Mother , New Girl, Once Upon a Time ,Parenthood

5.แนวนักการเมือง/อัตชีวประวัติบุคคล/มาเฟีย-นักฆ่า/สารคดี แนวๆ นี้ได้แก่ Broadwalk Empire, The West Wing (1999) , The Tonight Show Starring Johnny Carson (1962),The Shield (2002) ,Nikita(2010), Shogun (1980) , Frank Sinatra: A Man and His Music (1965) ,The Mod Squad (1969) , 60 minutes (1978)

6.แนววัยรุ่น รักๆ ใคร่ๆ หรือ Musical แนวๆ นี้ได้แก่ One Tree Hill, Dawsons Creek ,Ally Mcbeal ,Gossip Girl ,Glee , Pretty Little Liars ,The 4400 ,Awkward,Ugly Betty,Chuck

7. แนวซุปเปอร์ฮีโร่/ผู้วิเศษ มีพลัง แนวๆ นี้ได้แก่ Smallville, Heroes, Mcgyver ,Arrow

8. แนวผู้หญิงโสดหรือผู้ชายโสด/มิตรภาพ/สังคมชู้สาว แนวๆ นี้ได้แก่ Sex and the City , Seinfeld(1990) Friends(1994) , Desperate Housewives, Melrose Place , Sunset Beach , Beverly Hills 90210 , Model Inc. ,Weeds (2005) เป็นต้น

9. แนวการ์ตูน อนิเมะ แนวๆ นี้ได้แก่ Monster, American Dad , The Simpsons (1989) ,Futurama (1999), South Park (1997), Death Note (2006), Family Guy (1999)

10.แนวซิทคอม หรือเบาสมอง แนวๆ นี้ได้แก่ Everybody Hates Chris ,The Fresh Prince of Bel-Air ,The Cosby Show (1984) ,Mad about You (1992) , The Big Bang Theory, Two and a Half Men ,Saturday Night Live(1975), Monk ,Mr. Bean (1990) ,Curb Your Enthusiasm (2000) , 30 Rock

11.แนวผจญภัย ต่อสู้ ไล่ล่า แนวสงคราม แนวๆ นี้ได้ Lost , Prison Break , The Fugitive , Band of Brothers (2001), Son of Anarchy ,The Pacific

12.แนวพีเรียด ย้อนยุค (จักรๆ วงศ์ๆของฝรั่ง) แนวๆ นี้ได้แก่ Game of Thrones , Spartacus : War of Damned ,Merlin ,Rome (2005)

13.แนวโร้ดมูฟวี่ หรือแนวเดินทาง เผชิญสถานการณ์เฉพาะหน้า แนวๆ นี้ได้แก่ The Dukes of Hazzard,The Amazing Race

14.แนวผี,สยองขวัญ,ตื่นเต้นระทึกขวัญ แนวๆ นี้ได้แก่ Buffy:The Vampire Slayer, Angel , American Horror Story, The Walking Dead ,True Blood ,The Vampire Diaries, Teen Wolf ,The Addams Family (1964-1966)

15.แนวดราม่าเข้มข้น หนังสะท้อนปัญหาชีวิต สังคม ครอบครัว ธุรกิจ แนวๆ นี้ได้แก่ Breaking Bad, Mad Men, Six Feet Under, Homeland , The Sopranos (1999),M*A*S*H (1972),The Office (2005), Roots (1977) ) , Lou Grant (1979) , Dallas (1980) , Dynasty (1981) เป็นต้น

เรื่องย่อ มินิซีรี่ย์เรื่อง Shogun (1980)
ภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์ความยาว 547นาที (ตอนละ 125 นาที)จัดสร้างและฉายทางสถานีโทรทัศน์ ABC จากบทประพันธ์ของเจมส์ คลาเวลล์ ผลงานชิ้นเอก
ที่สร้างจากเบื้องหลังระบบขุนนางอันสูงส่งของญี่ปุ่น ริชาร์ด แชมเบอร์เลน รับบทแบล็คธอร์น
ต้นหนเรืออับปางชาวอังกฤษ ผู้กลายมาเป็นซามูไร (เทียบเท่าอัศวิน) โตชิโร มิฟูเน่ในบท
โทรานางะ ขุนศึกมากอิทธิพลผู้ทะยานสู่ตำแหน่งโชกุน ผู้บัญชาการทางการทหารสูงสุด
และมาริโกะ (โยโกะ ชิมาดะ) ล่ามประจำตัวและ.คู่รักผู้อับโชคของแบล็คธอร์น


เรื่องย่อ ซีรี่ย์เรื่องหนูน้อยอาร์โนลด์
(Diff'rent Strokes) เป็นละครซิทคอมที่ฉายทางเครือข่ายโทรทัศน์เอ็นบีซี ระหว่างปี ค.ศ. 1978 ถึง 1985 และเอบีซี ระหว่างปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 รวมทั้งสิ้น 8 ฤดูกาล โดยผู้สร้างได้สร้างตอนพิเศษขึ้นจำนวนหนึ่ง ใช้ชื่อว่า "very special episodes" มีเนื้อหากล่าวถึงปัญหาสังคม เช่นเรื่องเกี่ยวกับการเหยียดผิว ยาเสพย์ติด และการทารุณกรรมทางเพศต่อเด็ก

ซิทคอมเรื่องนี้มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับพี่น้องเด็กกำพร้า 2 คนจากย่านฮาร์เล็ม ที่ได้รับการอุปการะจากมหาเศรษฐีชื่อ ฟิลิป ดรัมมอนด์ (รับบทโดย คอนราด เบน) พี่น้องสองคนนี้ชื่อ อาร์โนลด์ และวิลลิส แจ็กสัน (รับบทโดย แกรี โคลแมน และท็อด บริดจ์) และความสัมพันธ์ในครอบครัวกับลูกสาวของ ดรัมมอนด์ และแม่บ้านประจำครอบครัว ซิทคอมชุดนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง รวมไปถึงซิทคอมย่อยที่แยกออกไป เรื่อง The Facts of Life (1979 - 1988 รวม 8 ฤดูกาล) เกี่ยวกับเรื่องราวของเอ็ดนา แกร์เรตต์ แม่บ้านของดรัมมอนด์ (รับบทโดย ชาร์ลอต เร)

ซิทคอมเรื่องนี้สร้างชื่อเสียงให้กับแกรี โคลแมน และท็อด บริดจ์ส เป็นอย่างมาก แต่เมื่อซิทคอมชุดนี้จบลงในปี ค.ศ. 1986 ทั้งคู่กลับล้มเหลวในอาชีพการแสดง มีปัญหายาเสพย์ติดและคดีอาญา โคลแมนถึงกับถูกฟ้องล้มละลาย และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 หลังจากล้มป่วยมานานหลายปีด้วยโรคเกี่ยวกับระดับฮอร์โมน ด้วยวัยเพียง 42 ปี

เจเน็ต แจ็กสัน เคยเป็นนักแสดงรับเชิญในซิทคอมเรื่องนี้ก่อนจะเข้าสู่วงการร้องเพลง โดยรับบท ชาร์ลีน ดูพรี เพื่อนหญิงของวิลลิส ในฤดูกาลที่ 3-6 (ช่วง ค.ศ. 1981 ถึง 1984)

ซีรีส์ชุดนี้ออกอากาศในประเทศไทยทางช่อง 3 ใช้ชื่อไทยว่า "หนูน้อยอาร์โนลด์"