วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

โลก 360 องศา (ดาวเคราะห์น้อยโคจรใกล้โลก - อุกกาบาตตกที่รัสเซีย)



เมื่อเวลาตี 2 กว่าๆ ซึ่งเป็นเวลาเช้าวันใหม่ที่ 16 ก.พ.นี้ ดาวเคราะห์ 2012 DA14 ที่มีขนาดประมาณสนามฟุตบอลเฉียดโลก และเป็นสถิติการเข้าใกล้โลกมากที่สุดของดาวเคราะห์น้อยที่ใหญ่ขนาดนี้เท่าที่เรามีข้อมูล แต่ผู้เชี่ยวชาญยืนยันวัตถุอวกาศนี้ไม่พุ่งชนโลกอย่างแน่นอน

ดาวเคราะห์น้อย 2012 DA14 ที่กว้าง 45 เมตรจะเข้าใกล้โลกมากที่สุดเวลา 02.24 น.ของวันที่ 16 ก.พ.2013 ตามเวลาประเทศไทย ที่ระยะ 17,200 ไมล์ หรือ 27,000 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะที่ใกล้โลกมากกว่าระยะของดาวเทียมอุตุนิยมวิทยาและดาวเทียมระบุตำแหน่งที่โคจรรอบโลกที่ความสูงประมาณ 20,000 ไมล์หรือ ประมาณ 32,100 กิโลเมตร

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าดาวเคราะห์น้อยดวงนี้จะไม่พุ่งชนโลก โดย จิม กรีน (Jim Green) ผู้อำนวยการแผนกวิทยาการดาวเคราะห์ขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐ (นาซา) แถลงผ่านวิดีโอเผยแพร่ขององค์การอวกาศว่า ไม่มีใครบนโลกหรือดาวเทียมดวงใดจะได้รับอันตรายจากการเข้าใกล้โลกของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้

อย่างไรก็ดี หากดาวเคราะห์น้อยดวงนี้พุ่งชนโลกนักวิทยาศาสตร์คาดว่าความเสียหายจะใกล้เคียงกับดาวเคราะห์ขนาดเท่าๆ กันนี้ ซึ่งเคยพุ่งชนโลกที่ทังกัสกาแถบไซบีเรียเมื่อปี 30 มิ.ย.1908 โดยครั้งนั้นดาวเคราะห์น้อยขนาด 40 เมตร หนัก 100 ล้านกิโลกรัม ได้ทำลายต้นไม้ในป่าทังกัสกา รวมถึงกวางเรนเดียร์อีกหลายร้อยตัว เป็นพื้นที่กว่า 1,287 ตารางกิโลเมตร แต่โชคดีว่าพื้นที่ดังก่าวอยู่ห่างไกล จึงไม่มีคนเสียชีวิตจากเหตุการณ์นั้น และตอนนี้บริเวณที่ต้นไม้ถูกทำลายก็ฟื้นตัวขึ้นใหม่แล้ว

ดาวเคราะห์น้อยที่ทำลายป่าในทังกัสกาพุ่งชนโลกด้วยความเร็ว 539,130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งสเปซด็อทคอมระบุโดยอ้างตามรายงานของนาซา และมีความรุนแรงมากกว่าระเบิดปรมาณูที่ถล่มฮิโรชิมาของญี่ปุ่นถึง 185 เท่า แต่ไม่มีหลุมอุกกาบาตปรากฏเนื่องจากความดันและความร้อนที่เกิดขึ้นระหว่างพุ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก ทำให้ดาวเคราะห์น้อยระเบิดเสียก่อน

สำหรับการเข้าใกล้โลกของดาวเคราะห์น้อย 2012 DA14 ในครั้งนี้สเปซด็อทคอมระบุว่า สร้างความตื่นเต้นให้แก่นักวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมาก เพราะเป็นโอกาสอันหายากที่จะได้เห็นดาวเคราะห์น้อยขนาดนี้อย่างใกล้ชิด โดยกรีนบอกว่าทางนาซาจะใช้สัญญาณเรดาร์ที่มียิงไปยังดาวเคราะห์น้อยดวงนี้แล้ววัดสัญญาณวิทยุที่สะท้อนกลับเพื่อศึกษาการหมุนและขนาดของดาวเคราะห์น้อย รวมถึงรูปร่างและข้อมูลที่อาจจะได้บ้างเกี่ยวกับองค์ประกอบของดาวเคราะห์น้อย

ผู้ที่มีโอกาสเห็นดาวเคราะห์น้อยดวงนี้คือผู้ที่อยู่ในเอเชีย แอฟริกา ออสเตรเลีย และพื้นที่บางส่วนของยุโรป โดยใช้กล้องสองตาหรือกล้องโทรทรรศน์ในการจับภาพ ซึ่งดาวเคราะห์น้อยจะพุ่งผ่านท้องฟ้าด้วยความเร็วเชิงมุม 0.8 องศาต่อนาที หรือหากใครไม่สะดวกก็มีหลายองค์กรที่ถ่ายทอดสดการเข้าใกล้โลกของดาวเคราะห์น้อยผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งรวมถึงหอดูดาวลาซากรา (La Sagra Observatory) ในสเปน ที่นักดาราศาสตร์สมัครเล่นอาศัยข้อมูลจากหอดูดาวแห่งนี้ค้นพบ 2012 DA14 เมื่อเดือน ก.พ.2012

ส่วนนาซาซึ่งอยู่ในซีกโลกตะวันตกที่ยังเป็นช่วงเวลากลางวัน ขณะที่ดาวเคราะห์น้อยเข้าใกล้โลกก็จะอาศัยกล้องโทรทรรศน์จากหอดูดาวขององค์การที่ตั้งอยู่ในทวีปต่างๆ เพื่อจับภาพดาวเคราะห์น้อยดวงนี้และถ่ายทอดสดผ่านอินเทอร์เน็ตด้วย (ผู้สนใจสามารถดูได้ในเว็บแคสต์ที่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ ได้แนบไว้ด้านล่าง)

ทางด้านบริษัทดีพสเปซอินดัสทรีส์ (Deep Space Industries) บริษัทเอกชนตั้งเจตนารมย์ในการทำเหมืองบนดาวเคราะห์น้อยตีมูลค่าของดาวเคราะห์น้อย 2012 DA14 ว่ามีมูลค่าสูงถึง 5.85 ล้านล้านบาท หากสามารถทำเหมืองบนดาวเคราะห์ดวงนี้ได้ เนื่องจากมีแร่โลหะและน้ำที่สร้างมูลค่าได้มหาศาล แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกจก็ออกมาแย้งว่าดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ไม่ได้มีมูลค่าขนาดนั้น และไม่ได้มีมูลค่าอะไรเลย


webcast จากนาซาถ่ายทอดการเข้าใกล้ของดาวเคราะห์น้อย โดยเริ่มถ่ายทอดเวลาเที่ยงคืนนี้


ผู้บาดเจ็บอุกกาบาตตกในรัสเซียพุ่งกว่า 1,000 คนแล้ว
วันที่ 16 ก.พ 2013 เวลา 00:28 น.
ทางการรัสเซีย รายงานว่า ยอดผู้บาดเจ็บจากเหตุอุกกาบาตตกลงมาเหนือเทือกเขา "อูรัล" ทางตอนกลางของประเทศ ได้เพิ่มสูงราว 1,000 คนแล้ว ซึ่งในจำนวนนี้ มีผู้บาดเจ็บสาหัส 43 คน โดยแพทย์ระบุว่า ส่วนใหญ่ถูกกระจกบาด หลังจากได้รับคลื่นกระแทก หรือ "ช็อกเวฟ" ที่ทำให้กระจกหน้าต่าง อาคารและบ้านเรือนแตกกระจาย ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญ เปิดเผยว่า เหตุอุกกาบาตตกลงมายังพื้นโลกในครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับ"ดาวเคราะห์ 2012 ดีเอ 14" ที่จะพุ่งเฉียดโลกในช่วงเช้ามืดวันนี้แต่อย่างใด

อย่างไรก็ดี รัฐบาลรัสเซีย ประกาศห้ามประชาชนเข้าใกล้สะเก็ดอุกกาบาตที่ตกในบริเวณใกล้เคียงอย่างเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัย พร้อมกับยืนยันว่า ยังไม่พบการเปลี่ยนแปลงระดับรังสีที่เป็นอันตราย จากอุกกาบาตในครั้งนี้

ยันอุกกาบาตตกที่รัสเซียไม่ใช่ ดาวเคราะห์น้อย 2012 DA14 แม้ว่านาซ่าจะจับตาวัตถุใกล้โลกอย่างใกล้ชิด แต่ก็มีโอกาสเล็ดลอด เพราะแถบดาวเคราะห์น้อยที่อยู่เลยดาวอังคารออกไปนั้นมีอยู่จำนวนมาก  จากเหตุอุกกาบาตระเบิดเหนือรัสเซียส่งผลให้เกิดคลื่นกระแทกจนกระจกตามอาคารแตกและกระเด็น และเป็นเหตุให้ผู้คนในเขตอุตสาหกรรมทางตะวันออกของรัสเซียได้รับบาดเจ็บกว่า 500 คนตามรายงานของรอยเตอร์ โดยสื่อของรัสเซียพยายามเชื่อมโยงกับการเข้าใกล้โลกของดาวเคราะห์น้อย 2012 DA14

อย่างไรดี สเปซด็อทคอมอ้างความเห็น ดอน ยีโอมานส์ (Don Yeomans) ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุใกล้โลก จากองค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐ (นาซา) ยืนยันว่าการเข้าใกล้โลกของดาวเคราะห์น้อย 2012 DA14 ไม่สร้างอันตรายต่อคนและโลกแต่อย่างใด

ด้าน น.ส.ประพีร์ วิไลพร เลขานุการสมาคมดาราศาสตร์ไทย เผยว่า การที่มีอุกกาบาตตกมายังโลกในครั้งนี้มีทางเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น เพราะระหว่างดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดีเป็นแถบดาวเคราะห์น้อย และเป็นบริวารของระบบสุริยะ มีโอกาสที่จะถูกแรงดึงดูดของโลกดึงเข้ามา ซึ่งเกิดขึ้นเป็นปกติที่เราเห็นเป็นดาวตก แต่กรณีที่มีขนาดใหญ่มากแต่มีเศษซากตกถึงพิ้นโลกก็จะกลายเป็นอุกกาบาต
"ถึงจะเฝ้าระวัง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเฝ้าได้หมดแต่รับรองว่าไม่เกี่ยวกับดาวเคราะห์น้อย 2012 DA14 ซึ่งมีวงโคจรที่แม่นยำ และนาซาได้คำนวณอย่างชัดเจนอีกทั้งเศษซากวัตถุมี่หลงเหลือจากกำเนิดสุริยะนี้มีมากกว่าดาวเทียมที่เราปล่อยเสียอีก" น.ส.ประพีร์ กล่าว

แม้ว่ายังไม่มีรายงานหรือการวิเคราะห์ของนักวิชาการจากต่างประเทศ แต่นายวรเชษฐ์ บุญปลอด กรรมการวิชาการสมาคมดาราศาสตร์ไทยคาดว่าอุกกาบาตลูกนี้น่าจะมีขนาดไม่เกิน 10 เมตร โดยเทียบเคียงจากเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันซึ่งเคยเกิดขึ้นที่สหรัฐฯ และอินโดนีเซีย และเป็นเรื่องปกติที่จะมีอุกกาบาตขนาดเล็กเช่นนี้หลุดเข้ามา แม้ว่านาซาและองค์การอวกาศอื่นๆ ทั่วโลกเฝ้าจับตา เพราะยื่งวัตถุอวกาศเล็กยิ่งมีจำนวนมากเป็นแสนเป็นล้านชิ้น ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะจับตาได้หมด


วันที่ ( 15 ก.พ. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ว่า นางอีรินา รอสซิอุส โฆษกหญิงกระทรวงสภาวการณ์ฉุกเฉินรัสเซีย แถลงเกี่ยวกับรายละเอียดของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอุกกาบาตตก ที่สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ประชาชนแถบภาคกลางของประเทศว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ( 12.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ) โดยขนาดของอุกกาบาตยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด เนื่องจากส่วนหนึ่งของมันน่าจะลุกไหม้ระหว่างลอยผ่านชั้นบรรยากาศโลก

ขณะที่อุกกาบาตส่วนที่เหลือ ซึ่งลุกท่วมไปด้วยเปลวไฟและกลุ่มควัน ได้แตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เหนือท้องฟ้าในเขตเชลยาบินสก์ บริเวณเทือกเขาอูราล ส่งผลให้เกิดเสียงระเบิดดังเป็นระยะ และแสงสว่างจ้าทั่วทั้งบริเวณ ประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ต่างรีบพากันหลบเข้าไปภายในอาคารหรือหาที่กำบัง ด้วยความหวาดกลัวว่าอาจมีอันตรายเกิดขึ้น ส่วนโรงเรียนทุกแห่งในพื้นที่ประกาศหยุดการเรียนการสอนชั่วคราว

แม้หลังจากนั้นไม่นาน ก้อนอุกกาบาตดังกล่าวจะร่วงลงสู่พื้นดินห่างจากเมืองซัตกี ราว 80 กิโลเมตร แต่เศษชิ้นส่วนของอุกกาบาตที่หลุดร่วงลงมาระยะได้สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนของชาวบ้านราว 6 เมืองในเขตเชลยาบินสก์ เบื้องต้นมีรายงานประชาชนกว่า 400 คน เดินทางไปยังโรงพยาบาลท้องถิ่นเพื่อเข้ารับการปฐมพยาบาล ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการถูกเศษกระจกบาด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสะเก็ดอุกกาบาต แต่ในจำนวนนี้มี 3 รายอาการสาหัส

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องระงับการปล่อยคลื่นสัญญาณโทรศัพท์มือถือชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย แต่ไม่มีรายงานการเปลี่ยนแปลงของระดับกัมมันตรังสีในอากาศ

ด้านโฆษกบริษัท โรซาทอม ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งในเขตเชลยาบินสก์ ที่รวมถึงนิคมอุตสาหกรรม มายัก ซึ่งภายในเป็นสถานที่ตั้งของหนึ่งในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งใหญ่ที่สุดของรัสเซีย แถลงยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของเตาปฏิกรณ์

ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า ยังไม่ทราบข้อมูลแน่ชัดว่า อุกกาบาตดังกล่าวตกที่ไหน และมาจากดาวดวงไหน ตกถึงพื้นหรือไม่ จากข่าวบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ปกติแล้วเวลาอุกกาบาตตกจะมีความเร็วสูงเหนือกว่าความเร็วเสียงหลายเท่าตัว ส่วนที่แตกออกมาแล้วเผาไหม้ไม่หมด ก็ทำให้กระจกแตก แล้วได้รับบาดเจ็บได้ ในแต่ละวันมีอุกกาบาตตกมากมาย เช่น ดาวตก ซึ่งตกไม่ถึงพื้นโลก หากตกถึงพื้นจะเรียกว่าอุกกาบาต นักดาราศาสตร์ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่มีใครตื่นตระหนกปัจจุบันมีโครงการดาราศาสตร์มากมายที่ศึกษาเกี่ยวกับอุกกาบาต ถือเป็นการเฝ้าระวังและป้องกันทำให้เบี่ยงเบนไปได้

"จากการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องดาราศาสตร์และเฝ้าดูดาวมานาน ยังไม่เคยเห็นหรือได้ยินว่ามีรายงานเกี่ยวกับมีคนเสียชีวิตเพราะอุกกาบาตตก"


รายงานข่าวต่อมาแจ้งว่า สถาบันวิทยาศาสตร์รัสเซียออกแถลงการณ์ระบุว่า จากการประเมินแล้วพบว่า ลูกอุกกาบาตที่ตกลงมาเหนือท้องฟ้าในแถบเทือกเขาอูราล เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น โคจรลงมาสู่ชั้นบรรยากาศโลกด้วยความเร็ว 54,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง น้ำหนักประมาณ 10 ตัน และ สะเก็ดของอุกกาบาตรแตกกระจายเป็นบริเวณกว้าง 30-50 กิโลเมตร ส่งผลให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง แล้วยังทำให้เกิดคลื่นสั่นสะเทือนจนทำให้กระจกหน้าต่างแตกกระจายเป็นบริเวณกว้าง มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 500 คนแล้ว ในจำนวนนี้ต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 34 คน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น