วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ย้อนตำนานยุครุ่งเรืองซีรี่ย์ญี่ปุ่น ตอนที่ 2


สงครามชีวิต...โอชิน เป็นละครตอนเช้าของสถานีโทรทัศน์ NHK  เริ่มฉายที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 2526 เมื่อนำเข้ามาถึงเมืองไทย ออกอากาศครั้งแรกเมื่อคืนวันที่ 19 พฤศจิกายน 2527 เวลา 21.20 น.เพียงแค่ซีรี่ย์ดำเนินไปไม่กี่ตอน เรตติ้งไต่ระดับถึงใจผู้ชมอย่างรวดเร็ว นับแต่นั้นมา ทุกคืนวันจันทร์ถึงพฤหัสฯ แทบทุกบ้านต่างต้องมานั่งหน้าจอเปิดทีวีช่อง 5 คาไว้ทุกบ้าน ตลอดช่วงชีวิตตั้งแต่ 7 ขวบ จนถึง 83 ปี ของโอชิน ซึ่งเป็นต้นตระกูลของโทโนกูระ (เจ้าของและผู้ก่อตั้งห้างเยาฮันชื่อดัง)ต้องเผชิญมรสุมชีวิตลูกแล้วลูกเล่า หากไม่มีจิตใจที่มั่นคงและใฝ่ดีเป็นที่ตั้ง เธอคงข้ามอดีตมาไม่พ้น
โอชินเติบโตขึ้นมาในครอบครัวชาวนาทางภาคเหนือ สมัยต้นศตวรรษที่ 20 สงครามนอกบ้านระหว่างญี่ปุ่นกับจีนกำลังดำเนินไป ข้าวยากหมากแพงแร้นแค้นไปทุกหย่อมหญ้า โดยเฉพาะชาวนาอย่างพ่อกับแม่ ต้องเช่าที่ดินคนอื่นทำกิน อีกทั้งลูกก็มาก และมีย่าเฒ่าชราที่ต้องคอยดูแล อากาศแล้งเพาะปลูกไม่ได้ราคา ทำเท่าไรไม่พอข้าวสารกรอกหม้อ ครอบครัวต้องผสมหัวไชเท้าประทังความหิวอยู่เป็นประจำ ในฐานะโอชินเป็นเด็กผู้หญิง ส่วนลูกชายคนโตต้องช่วยพ่อทำนา ทันทีที่ลูกสาวโตพอรู้ประสา พ่อตัดสินใจส่งหนูน้อย 7 ขวบ ขึ้นแพไปเป็นคนเลี้ยงเด็กที่ร้านค้าไม้  เพื่อแลกกับข้าวสารเพียงถังเดียว  ที่ร้านค้าไม้ห่างไกลบ้าน โอชินต้องพบกับความกดดัน เป็นครั้งแรกจากคนที่ไม่ใช่พ่อแม่ สาวใช้เจ้าอารมณ์ทุบตีเธอไม่เว้นวัน  ข้าวในชามมีแค่พอเกือบอิ่มไปวันๆ สุดท้ายโดนกล่าวหาว่าเป็นขโมย  โอชินตัดสินใจหนีกลับบ้าน กระทั่งเกิดพายุหิมะกระหน่ำฝังร่าง  และได้ชินซากุมาช่วยชีวิตเอาไว้  แต่ในโชคชะตาที่แสนจะอาภัพนี้ ในความมืดมิดที่โอชินต้องเผชิญ ยังพอเกิดแสงสลัวส่องทางแก่หนูน้อยอยู่บ้าง

ขณะเป็นคนเลี้ยงเด็กอยู่ที่ร้านค้าไม้ ด้วยความกรุณาของนายจ้างและครูที่โรงเรียน อนุญาตให้เธอได้เรียนหนังสือเป็นครั้งแรก และเมื่อต้องเฉียดตายอยู่ท่ามกลางหิมะ ชินซากุสอนให้เธอรู้จักความงดงามของบทกวี ความไพเราะจากหีบเพลงปาก รวมถึงความไม่เท่าเทียมกัน ความขัดแย้ง การสูญเสีย ซึ่งมีอยู่ตลอดเวลาในโลกภายนอก ในเวลานั้น  หนูน้อยยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ชินซากุบอกเท่าไรนัก  กระทั่งถึงวันที่เขาจากไปด้วยกระสุนปืนของทหาร โอชินถูกจับไปสอบสวน  เธอปิดปากแน่นไม่ตอบคำถามใด ทหารเกิดบันดาลโทสะตบหนูน้อยจนกระดอนไป และเมื่อถูกปล่อยตัว  การกลับบ้านมาพบพ่อแม่ไม่ได้รับความเห็นใจ พ่อตบตีฐานที่หนีมาจากร้านค้าไม้และไปอยู่กับทหารหนีทัพ จนกลายเป็นขี้ปากชาวบ้าน เหมือนที่เคยเป็นมา มีเพียงแม่กับย่าเท่านั้นที่คอยปลอบประโลม  แต่ความอบอุ่นจากคนทั้ง 2  โอชินมีสิทธิ์หวนกลับมารับได้ไม่นาน  เธอถูกพ่อส่งไปเป็นคนเลี้ยงเด็กอีกครั้ง คราวนี้ที่ร้านค้าข้าวคางายาในเมืองซาคาตะ  ค่าตัวของเด็กวัย 8 ขวบ เพิ่มขึ้นเป็นข้าวสาร 5 ถัง  ส่วนแม่ของเธอจำใจทิ้งผืนนาและลูกสาวน้อย  ออกเดินทางไปเป็นเกอิชาหาเงินมาจุนเจือครอบครัว แรกเริ่มเดิมที เมื่อมาถึงร้านคางายา โอชินได้รับการตอบรับด้วยความเย็นชาจากทั้งคุณนายใหญ่คุนิ  มิโนกับเซทาโร บุตรชายและลูกสะใภ้ รวมถึงคาโย  หลานย่าของคุณนายคุนิ  คาโยมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับโอชิน แต่ทั้งคู่เติบโตมาในสถานภาพต่างกันราวฟ้ากับดิน คาโยได้กินข้าวขาวทุกวัน  แต่งตัวสวยไปโรงเรียน  มีความเป็นอยู่สุขสบาย ได้รับการดูแลอย่างกับไข่ในหิน เธอจึงเป็นเด็กเอาแต่ใจ คาโยแสดงท่าทีรังเกียจพี่เลี้ยงของน้องชาย  แต่เมื่อไม่ให้พ่อแม่ต้องเป็นห่วง และเพื่อลบล้างความรู้สึกผิดที่หนีกลับบ้านเมื่อคราวก่อน  โอชินกัดฟันอดทนทำงานโดยเคร่งครัด ไม่สนใจท่าทีรังเกียจของคาโย  ยามเหงาเธอได้อาศัยหีบเพลงของชินซากุปลอบประโลม แต่วิธีคลายเหงาของโอชินกลับนำเรื่องยุ่งยากมาให้   คาโยยื้อแย่งหีบเพลงจากโอชินและทำแตกหักใช้การไม่ได้ โอชินหมดความอดกลั้น  เธอผลักคาโยล้มฟาดพื้น จนหมดสติ  โอชินคิดว่าตนเองคงถูกไล่ออกและพ่อแม่ต้องเดือดร้อนอีก  เธอสารภาพผิดโดยไม่โทษคาโย  แต่เมื่อคาโยฟื้นขึ้นมา เหตุการณ์กลับตาลปัตร เธอกลับยอมสารภาพผิดเสียเอง และเสียใจในการกระทำของเธอ คาโยขอร้องไม่ให้คุณย่าไม่ให้ไล่โอชินออก
ตั้งแต่นั้นมา โอชินกับคาโยจึงเข้าใจกันในที่สุด เธอปฏิญาณจะขอรับใช้คุณหนูของเธออย่างถวายชีวิต ทั้งคู่กลายเป็นเงาตามตัวกันและกัน  แต่ความเป็นไปนี้ไม่ได้มีผู้เห็นชอบด้วยทุกคน  คุณนายใหญ่คุนิเป็นคนใจดี เธอเห็นโอชินรักเรียน จึงสั่งสอนทุกวิชาความรู้เท่าที่กุลสตรีควรมีไว้ประดับตัว เธอไม่รังเกียจที่หลานรักจะเป็นเพื่อนกับเด็กรับใช้ และความสนิทสนมระหว่างโอชินกับคาโย ยังช่วยให้หลานสาวรักเรียนมากขึ้น  คาโยยึดความหมั่นเพียรของเด็กด้อยโอกาสอย่างโอชินเป็นตัวอย่าง แต่จะมีที่เห็นต่างจากคุณนายใหญ่ไป คือแม่ของคาโยเอง ....

“คาโย หนูหน่ะจะเป็นผู้สืบสกุลคางายานะ มันคนละชั้นกับโอชิน ให้มันเข้ามาในห้องในหับอย่างนี้ มันจะเหลิง!” มิโนบอกลูกสาว  เมื่อเห็นโอชินเข้ามาเล่นกับคาโย  แต่สำหรับเด็กวัย 8 ขวบ ฟังแล้วไม่เข้าใจอะไรเลย  กระทั่งวันหนึ่ง เมื่อความศิวิไลซ์ได้เคลื่อนมาถึงเมืองซาคาตะ  เสาไฟฟ้าต้นแรกได้ถูกตั้งขึ้นกลางเมือง ทุกคนกรูกันเข้าไปดูอย่างเนืองแน่น  รวมทั้งโอชินและคาโยด้วย แต่แล้วเกิดอุบัติเหตุเสาไฟเอนตัวไร้ควบคุมมาทางคาโย  เด็กน้อยยืนตะลึงมองดูเสาขนาดยักษ์กำลังล้มมาหาตัว  แต่โอชินเคยผ่านทั้งความตาย เสียงปืน และความกดดันมาอย่างมากมาย  เธอจึงยังมีสติ พุ่งเข้าไปกระแทกคาโยจนพ้นระยะอันตราย ส่วนเธอรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด ด้วยความดีที่กระทำจนเป็นที่ประจักษ์ไปทั่ว มิโนจึงเริ่มเปลี่ยนสายตาจากดูแคลนไปเป็นเอ็นดูเด็กน้อย นับแต่นั้นเธอจึงเปลี่ยนใจมารักโอชินเป็นดั่งลูกในไส้อีกคน
ในวันขึ้นปีใหม่ โอชินวัย 9 ขวบ ได้นุ่งชุดกิโมโนราคาแพง โอชินอายหน้าแดงยิ้มเขินกับคำชมของใครๆ  เพราะเป็นครั้งแรกที่เธอมีโอกาสแต่งตัวสวยเหมือนคนอื่น  บางขณะเธอคิดว่าเหมือนฝันไป  คาโยจูงมือโอชินออกไปไหว้พระที่วัด ทั้งคู่ได้พบผู้คนมากมายออกมาทำบุญปีใหม่  ท่ามกลางฝูงชนในวัด โอชินกับคาโยที่แต่งกายเหมือนกับราวฝาแฝดกำลังหัวเราะสดใสแต่โอชินเหลือบไปพบหญิงสวมกิโมโนสีฉูดฉาดคนหนึ่ง  เธอกำลังหัวร่อต่อกระซิกอยู่ท่ามกลางชายหนุ่ม  บางคนอยู่ใกล้กับโอชิน กำลังกระซิบนินทาในอิริยาบถของหล่อน แต่โอชินจำได้ว่า หญิงคนนั้นคือมารดาของเธอ แม้ในความทรงจำอีกด้าน พยายามยื้อยั้งไว้ไม่ให้เชื่อในภาพที่เห็นก็ตาม และในคืนนั้นมีคนแอบมาซุ่มอยู่ริมรั้ว โอชินออกไปดู เธอจึงพบแม่ที่กำลังยืนรั้งรอเพื่อพบกัน ดวงตาไม่โป้ปด  ผู้หญิงในวัดคือแม่ของเธอจริง สองแม่ลูกสนทนากันด้วยน้ำตา แม่ยื่นเงินให้โอชินเก็บไว้ แต่ลูกสาวกลับรีบปฏิเสธ นางเองก็เหมือนเข้าใจลูกสาว เงินเกอิชาอาจทำให้ลูกสาวไม่สะดวกใจที่จะรับไว้ แต่การพบกันทั้งคู่ อยู่ในสายตาของคุณนายใหญ่คุนิโดยตลอด  “ผู้หญิง เราหน่ะ ไม่มีโอกาสได้ทำอะไรเพื่อตัวเองดอกนะ ทำเพื่อลูกเพื่อผัวทั้งนั้น  ถึงจะลำบากเลือดตากระเด็นยังไงก็ไม่สนใจ นี่แหละคือผู้หญิง... “แม่ของหนูก็เหมือนกัน  คิดแต่เพื่อครอบครัวอย่างเดียว ยอมทำได้ทุกอย่าง เพราะฉะนั้นไม่ว่าแม่จะเป็นอะไร หนูไม่ควรคิดตำหนิคุณแม่เป็นอันขาด  คุณแม่ห่วงหนูอย่างที่สุด อยากเห็นลูกแทบใจจะขาด แต่ก็ไม่กล้ามาพบ คิดดูสิว่า คุณแม่จะช้ำชอกใจเพียงใด  โอชิน...หนูต้องรักคุณแม่ให้มากๆ นะ”  คุณนายใหญ่บอกกับโอชิน ทั้งแก้มของหนูน้อยเปียกเปื้อนไปด้วยน้ำตาใสๆ

ถึงชีวิตความเป็นอยู่ของโอชินจะดีขึ้นผิดจากเดิม อนาคตเบื้องหน้าก็ไม่เคยให้โอชินก้าวไปโดยไร้อุปสรรค ทั้งยามเป็นเด็ก เติบใหญ่เป็นสาว จนล่วงสู่วัยชรา สงครามชีวิตก่อตัวขึ้นโดยไม่มีวันหยุดพัก ราวกับเพื่อนสนิทของเธอ  เมื่อเติบใหญ่โอชินต้องออกจากบ้านคางายาเมื่ออายุย่างเข้า 16 ปี เพราะไม่ยินยอมแต่งงานตามประสงค์ของคุณนายใหญ่ โอชินถือเป็นการเนรคุณ และเธอต้องยอมเสียสละรักแรกให้คาโยผู้มีพระคุณ โอชินโซซัดโซเซกลับไปบ้านเกิด พ่อก็ยังเหมือนเดิม เขารำคาญการกลับมาของเธอ เพราะรังแต่จะเปลืองข้าวสาร เขาแนะนำให้โอชินไปเป็นเกอิชายังจะเข้าทีเสียกว่า  โอชินจึงออกจากบ้าน พลัดถิ่นมาถึงกรุงโตเกียว เธอเข้าไปขอเป็นคนรับใช้ที่ร้านทำผมของอาจารย์ทากะ เธอพบรักกับลิวโซ-พ่อค้าร้านขายผ้า ทั้งคู่ตกลงใจเป็นคู่สามีภรรยา ช่วยกันก่อร่างสร้างตัว แม้จะเต็มไปด้วยความขัดแย้งของชีวิตคู่ โอชินก็ออกทำงานหาเงินเพื่อครอบครัวอย่างเต็มกำลัง ไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ต่อให้เสี่ยงอันตรายเพียงใด เมื่อยามลำบากต้องพาผัวและลูกให้รอด เธอไม่ปริปากบ่นท้อแท้  จากช่างทำผม ตกแต่งความงามให้กับบรรดาเกอิชา โอชินคิดฝันกับสามีจะมีร้านเสื้อเป็นของตนเองสักร้าน แต่พอความฝันใกล้จะเป็นจริง กิจการค้าเริ่มก่อรูปเจริญรุ่งเรือง เพื่อนเก่าก็กลับมาอีก  เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ทุกอย่างพังราบคาบ โอชินกับลิวโซต้องพาลูกน้อยไปซางาเพื่อพึ่งใบบุญครอบครัวของสามี โอชินต้องกระเตงลูกคนโตและลูกในท้องออกทำนา แต่แม่สามีรังเกียจเธอ มองเธอเหมือนตัวอัปมงคล ไม่ว่าจะทำอย่างไร  ไม่มีค่าใดตอบแทน ชีวิตสมรสแตกหักในเวลาต่อมา พร้อมกับชีวิตลูกในท้อง เป็นอีกครั้งที่โอชินต้องออกเผชิญมรสุมชีวิตเพียงลำพัง เธอหอบลูกหนีจากลิวโซ มุ่งหน้ากลับโตเกียว เธอหวังสร้างครอบครัวขึ้นใหม่ และรอวันที่พ่อแม่ลูกได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง  ที่โตเกียว โอชินทำงานหนักเท่าที่จะทำได้  จนสามารถเปิดร้านขายขนมเล็กๆ ขึ้นมา ในขณะเดียวกัน ลิวโซก็มุ่งมั่นทำนาบนทะเลให้ได้  เขาหวังจะรับโอชินกับลูกกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง แต่ข่าวคราวของทั้งคู่ก็ถูกกีดกันโดยตลอดจากแม่สามี  กว่าจะกลับมาเข้าใจและอยู่ร่วมกันได้ใหม่ ก็ต้องผ่านมรสุมอีกลูกแล้วลูกเล่า  และในเวลาต่อมา แม้ว่าโอชินจะกลายมาเป็นคนร่ำรวยจากผลของความอุตสาหะ  มีซุปเปอร์มาร์เก็ตเกือบ 20 สาขา ช่วงชีวิตทั้งก่อนหน้าและกำลังดำเนินไป ภาวะสงครามกินเวลาถึง 10 ปี ความเข้าใจผิดของคนในครอบครัว โอชินต้องพบกับความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า บั้นปลายชีวิตของโอชินมีแต่ปัญหาประเดประดังเข้ามาอยู่เช่นเดิม บททดสอบความอดทนและความดีของชีวิตเหมือนไม่มีตอนจบ ด้วยทั้งหมดของเรื่องราวหนักหน่วงกินเวลายาวนาน
เมื่อซีรี่ย์นี้ออกอากาศครั้งแรกในญี่ปุ่น ละครเรื่องนี้มีความยาวถึง 300 ตอน ก่อนที่คนญี่ปุ่นทุกคนจะออกไปทำงาน ต่างต้องดูเรื่องนี้เหมือนกันหมด เป็นเรตติ้งระดับประวัติศาสตร์ ไม่เคยมีละครเรื่องใดเลยทำได้มาก่อน และเมื่อละครเรื่องนี้ตกมาถึงบ้านเรา  บริษัทรัชฟิล์มทีวี  ร่วมกับบริษัทเดนสึ (ซึ่งเป็นบริษัทโฆษณาของญี่ปุ่น) นำเข้ามาฉาย ช่วงเวลาก่อนรายการมาตามนัด (รายการเกมส์โชว์ชื่อดัง เรตติ้งสูงสุดของช่อง 5) สามารถสร้างเรตติ้งสูงสุดได้ในเวลาอันรวดเร็ว มีการขยายเวลาออกอากาศจาก 30 นาทีเป็น 1 ชั่วโมงเต็ม ซีรี่ย์เรื่องนี้ในบ้านเราจึงแพร่ภาพออกอากาศไม่ยาวนานเหมือนญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม จำนวนกว่า 100 ตอน ก็ยังถือว่าเป็นประวัติการณ์สำหรับวงการโทรทัศน์ไทยด้วยเช่นกัน  ชื่อโอชินกับลิวโซ ถูกนักการเมืองเอาไปใช้เรียกฝ่ายตรงข้าม คอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์ชื่นชมเนื้อหาสร้างเสริมสังคมอย่างเป็นเอกฉันท์  ยังไม่ทันฉายหมดชุด ต้องถูกนำมาฉายรีรันใหม่ตั้งแต่ต้นอีกหนในช่วงเย็น  เพื่อให้คุณหนูๆ ได้ตามดูกันได้ตลอด ดารานำผู้รับบทโอชินโด่งดังเป็นที่รู้จักกันไปทั้งเมือง  โดยเฉพาะ โคบายาชิ  อากิโกะ และยูโกะ ทานากะ ถูกใจใครต่อใครเหลือเกิน

โคบายาชิ อากิโกะ รับบทเป็นโอชินวัย 7-9 ขวบ ได้เดินทางมาปรากฏตัวพร้อมเปิดห้างโตคิว ในช่วงละครกำลังโด่งดังสุดขีด ส่วน ยูโกะ ทานากะ ผู้รับบทโอชินวัยสาวจนถึงกลางคน มีข่าวลือว่าผู้สร้างหนังบ้านเรา เล็งทาบทามให้เธอมาเล่นหนังไทยเรื่องนึง แต่ก็เงียบหายไป  นอกจากนั้นยังมีวิดีโอหนังจอเงินเรต R สมัยก่อนที่ ยูโกะ ทานากะ จะมารับบทโอชิน ออกมาให้เสือสิงห์กระทิงเฒ่าทั้งหลายไล่ตะครุบ กรณีตกเป็นข่าวอึกทึกครึกโครมทั้งที่ญี่ปุ่นและเมืองไทย เพราะในหนังเรื่องนั้น ทานากะยอมเปลือยกายจะแจ้ง ผิดแผกภาพลักษณ์จากละครดัง ชนิดพลิกคาแรกเตอร์ไปคนละด้าน ซึ่งอาจทำลายภาพลักษณ์สาวคนดีในเรื่องโอชินลงอย่างสิ้นเชิง อย่างไรก็ดี กรณีนี้ไม่ได้จางความประทับใจของผู้ชมโดยมากที่มีต่อเธอได้ในฐานะผู้รับบทโอชิน 
ความเชื่อ ศรัทธา น้ำใจ ที่สำคัญที่สุด หมายถึงความอดทน  บางทีก็หมายถึงจุดรวมของสิ่งทั้งหลาย สิ่งใหม่ๆ สัจธรรม ความอดกลั้น......สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่ทำให้ผู้คนจดจำเธอ ยามคิดถึงนามนี้ที่ชื่อ   โอชิน

(แดง ระวี ถอดความประโยคของชินกากุ ที่กล่าวกับโอชิน เมื่อคราวเธออายุได้แค่ 8 ปี  ตีพิพม์ไว้ในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ที่หน้า 10 ฉบับวันที่ 23 พฤศจิกายน 2527)หมายเหตุ บทความและเรื่องย่อนี้ ถอดความจาก สงครามชีวิตโอชิน  โดยสืบสกุล แสงสุวรรณ,  Good Olddays 2 ดีวันดีคืน ,สำนักพิมพ์ อะบุ้ค , บริษัท เดย์ โพเอทส์ จำกัด

สงครามชีวิตโอชิน (อังกฤษ: Oshin) (ญี่ปุ่น: おしん) เป็นละครโทรทัศน์ญี่ปุ่นผลิตโดยเอ็นเอชเค เป็นละครฉลองครบรอบ 30 ปีเอ็นเอชเค โดยเล่าถึงชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อ ชิน ทาโนะคุระ ตั้งแต่เกิดในยุคเมจิปี พ.ศ. 2441 จนเข้าวัยชราในยุคโชวะปี พ.ศ. 2526 ผ่านเรื่องราวมามากมายทั้งสุขและทุกข์ มีทั้งหมด 297 ตอน ตอนละ 15 นาที มีการฉายครั้งแรกในญี่ปุ่นในวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2525 - 31 มีนาคม พ.ศ. 2526 โดยออกอากาศวันละ 1 ตอน และมีการออกอากาศในอีกหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย มีผู้ชมทั่วโลกกว่า 2 ล้านคน
บทละครเขียนขึ้นโดย อิวาซากิ ซุงาโกะ (ใช้นามแฝงว่า ฮาชิดะ ซุงาโกะ) ดัดแปลงจากเรื่องราวในชีวิตจริงของ คัทสึ วะดะ (Katsu Wada) มารดาของคะซึโอะ วะดะ ผู้ก่อตั้งและประธานห้างสรรพสินค้าเยาฮัน  เรียวเฮ (Ryohei Wada) สามีของคัทสึ วะดะเสียชีวิตตั้งแต่ลูกยังเล็ก คัทสึต้องเลี้ยงดูลูกจำนวนห้าคนตามลำพัง และก่อร่างสร้างตัวจากร้านขายผักสด จนเป็นเจ้าของร้านขายของชำ และขยายกิจการจนเป็นเครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ต และห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

·         รัชฟิล์มทีวี ได้นำละครโทรทัศน์เรื่องนี้ มาฉายทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ในช่วงปี พ.ศ. 2527-2528
·         ไทยทีวีสีช่อง 3 นำมาฉายซ้ำในปี พ.ศ. 2537 - พ.ศ. 2538

·         วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551 ทรูวิชั่นส์ได้เปิดช่องทรูเอเชี่ยนซีรีส์และได้นำละครเรื่องนี้กลับมาฉาย โดยออกอากาศในวันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 21.00 น. (รีรัน 04.00 น. และ 14.00 น.) และจบในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 จากนั้นได้ฉายซ้ำครั้งที่สองในเวลา 12.00 น. จบประมาณเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2552 จากนั้นประมาณเดือนมกราคม พ.ศ. 2553 ได้ฉายซ้ำครั้งที่สาม ในเวลา 24.00 น. และ 06.00 น. จบในวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2553 เป็นการฉายซ้ำครั้งสุดท้ายในทรูวิชั่นส์ก่อนที่จะส่งลิขสิทธิ์ต่อให้ไทยทีวีสีช่อง 3

·         ครั้งล่าสุดสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 นำมาฉาย ออกอากาศใน วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 18.15 น. - 18.45 น. เริ่มออกอากาศตอนแรก วันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2553 - วันจันทร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2554  ต่อมาได้ปรับเวลาออกอากาศเป็น 18.30-19.00 น. โดยออกอากาศวันละ 2 ตอน แต่หากมีโอกาสพิเศษจะออกอากาศเพิ่มเป็น 45 นาที นอกจากนี้ สงครามชีวิตโอชินในฉบับพากย์ พ.ศ. 2553 ยังเป็นผลงานพากย์เรื่องสุดท้ายของกำธร สุวรรณปิยะศิริ นักแสดงและนักพากย์อาวุโส โดยพากย์เป็น โนโซมิ ลูกชายบุญธรรมของโอชินในวัยผู้ใหญ่  และในปี 2554 true vision ได้นำมาออกอากาศอีกครั้งที่ช่อง 160 โดยออกอากาศตลอด 24 ชม.

(ข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติม จากเว็บวิถีพีเดีย สารานุกรมออนไลน์) 




สถานีโทรทัศน์ NHK กำลังมีโครงการใหญ่ยักษ์ กับการหยิบเอาทีวีซีรีส์ระดับตำนานแห่งวงการโทรทัศน์ญี่ปั่น "สงครามชีวิตโอชิน" ที่เคยสร้างความโด่งดังทั้งในประเทศ และต่างประเทศเมื่อยุค 80s กลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง ในรูปแบบของภาพยนตร์

ผลงานของ
NHK เรื่องนี้ แพร่ภาพครั้งแรกระหว่างปี 1983 - 1984 จนกลายเป็นปรากฏการณ์อย่างที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นกับวงการโทรทัศน์ญี่ปุ่นมาก่อน นอกจากนั้นก็ยังถูกซื้อไปเผยแพร่ในประเทศต่าง ๆ 60 ประเทศทั่วโลกด้วย ซึ่งล่าสุดเรื่องราวของ สงครามชีวิตโอชิน จะได้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง แต่เป็นในรูปแบบของภาพยนตร์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดใด ๆ ของหนังรวมถึงเรื่องนักแสดงแต่อย่างใด

สงครามชีวิตโอชิน เล่าเรื่องของ
โอชิน ทาโนะคุระ สตรีผู้ต่อสู้กับอุปสรรคมากมายกับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ของประเทศตั้งแต่ปี 1907 - 1980 โดยอิงจากประวัติชีวิตมารดาของ คาซุโอะ วาดะ ผู้ก่อตั้ง 'เยาฮัน' เครือห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ เป็นซีรีส์ที่ออกอากาศวันละ 15 นาทีกับจำนวนตอนมากถึง 297 ตอน ซึ่งเรื่องราวว่าด้วยการต่อสู้กับปัญหา และใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลกมากมาย สำหรับในญี่ปุ่นช่วงที่มีเรตติ้งสูงสุดนั้นยอดคนดูพุ่งไปสูงถึง 62.9% เลยทีเดียว

สำหรับโอชินในฉบับซีรีส์นั้นมีนักแสดงหลายคน ที่ร่วมกันรับบทเป็นตัวละครเอกตัวนี้ในวัยที่แตกต่างกันไปโดย
อายาโกะ โคบายาชิ สวมบทบาทเป็น เด็กหญิงโอชิน, ยูโกะ ทานากะ รับบทในวัยสาว และโนบุโกะ โอโตวะ เป็นในช่วงบั้นปลาย

โดยนาย
มิตซึโอะ ซูซูกิ ผู้นำกลุ่มอนุรักษ์ที่ร่วมกันดูแลบ้านอายุ 100 ปี ใน นากายามะ จังหวัดยางาตะ ซึ่งเคยใช้ถ่ายทำในฉากบ้านของโอชิน ได้กล่าวแสดงความตื่นเต้นถึงการรื้อฟื้นเรื่องราวของโอชินขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อเด็กรุ่นใหม่จะได้มีโอกาสรับรู้ถึงเรื่องราวสุดแสนประทับใจอย่างที่คนรุ่นก่อนเคยสัมผัสกันมาก่อน โดยบ้านอายุ 100 ปี ยังคงเป็นที่สนใจของเหล่านักท่องเที่ยว ซึ่งแวะเวียนไปชมบ้านเก่าแก่ซึ่งเคยถูกใช้ถ่ายทำซีรีส์เรื่องดัง แม้ค่าใช้จ่ายในการดูแลค่อนข้างสูงก็ตาม

โอชิน ผลงานการเขียนบทของ ฮาชิดะ ซุงาโกะ ที่แพร่ภาพทาง NHK ในช่วงเช้าวันละ 15 นาที ระหว่างปี 1983-1984 ด้วยจำนวนตอนทั้งหมด 297 ตอน ถือเป็นตำนานบทหนึ่งแห่งวงการโทรทัศน์ญี่ปุ่น ด้วยการมีเรตติ้งสูงสุดถึง 62.9% และเรตติ้งเฉลี่ย 52.6% นับว่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์โทรทัศน์แดนอาทิตย์อุทัย

สำหรับเรื่องราวในซีรีส์มีฉากหลังอยู่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 กับชีวิตของ โอชิน หญิงสาวผู้เติบโตขึ้นมาจากครอบครัวที่ยากไร้ในยามางาตะ และใช้ชีวิตอย่างเข้มแข็ง แม้จะต้องเจอกับอุปสรรคในชีวิตมากมาย แต่ก็ไม่ท้อถอย เป็นงานที่ดัดแปลงมาจากเรื่องราวในชีวิตจริงของ คัทสึ วาดะ มารดาของ คาซึโอะ วาดะ ผู้ก่อตั้งและประธานห้างสรรพสินค้าเยาฮัน

โดยซีรีส์เรื่องนี้ยังถูกซื้อไปฉายใน 86 ประเทศทั่วโลก รวมถึงในเมืองไทยภายใต้ชื่อ สงครามชีวิตโอชินด้วย  สำหรับ โอชิน ฉบับภาพยนตร์จะเน้นเนื้อหาไปที่ช่วงตัวละครเอกยังเป็นเด็กที่ค่อยๆ เติบโตขึ้นมาเป็นสตรีผู้งดงามทั้งรูปกาย และจิตใจ ในบ้านนอกที่ยามางาตะ ที่ซึ่งเด็กสาวตัวน้อยๆ ต้องทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวแม้จะต้องเจอกับปัญหาต่างๆ มากมาย โดยหนังจะอ้างอิงจากบทละครดั้งเดิมของ ฮาชิดะ ที่เขียนเอาไว้เมื่อร่วม 30 ปีก่อน แต่ก็จะเพิ่มเติมรายละเอียดใหม่บางอย่างลงไป

สำหรับนักแสดงหลักในภาพยนตร์ที่ประกาศกันออกมาในงานแถลงข่าวเมื่อวันที่ 5 ก.พ.ก็ประกอบไปด้วย ดาราเด็กหน้าใหม่ ฮามาดะ โคโคเนะ ที่จะสวมบทบาทเป็น โอชิน และดาราสาวสวย อุเอโตะ อายะ เป็น ฟุจิ มารดาของ โอชิน   หนังยังจะมี คิชิโมโตะ คาโยโกะ สวมบทบาทเป็น ซึเนะ บ่าวของโรงค้าไม้ ซึ่งถือว่าเป็นนายจ้างคนแรกของ โอชิน, โคบายาชิ อายาโกะ เป็น มิโนะคุณนายรองของตระกูลคางายะ, โนงิ เรียวสึเกะ เป็น เซทาโรนายของตระกูลคางายะ, โยชิมูระ จิทสึโกะ เป็น นากะ ย่าของโอชิน, มิทซึชิมะ ชินโนะสึเกะ เป็น ชินซากุ คนหนีทหาร, เก็ตส์ อิชิมัตสึ เป็น มัตสึสุคนเผาถ่าน และ อิซูมิ พินโกะ เป็น คุนิ คุณนายใหญ่ร้านคางาย่า


โดยในการแถลงข่าวมี อุเอโตะ, อิซูมิ, ฮาชิดะ และหนูน้อยฮามาดะ ที่สวมบทบาท โอชิน รวมถึงผู้กำกับ โทกาชิ ชิน มาร่วมปรากฏตัว  ซึ่งดาราสาวคนสวย อุเอโตะ อายะ ได้กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้มามีส่วนร่วมในภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่เรื่องนี้ ว่าขอบคุณคนที่เลือกฉันให้มารับบทนี้แทนที่จะเป็นนักแสดงหญิงคนอื่นนะคะ แต่ก็รู้สึกกดดันไปด้วยในเวลาเดียวกันเลย ฉันรู้ว่าคงมีคนคิดว่าฉันเด็กเกินไปสำหรับบทนี้รึเปล่า หรือไม่ก็อาจคิดว่าฉันดูไม่เหมือนคุณแม่เลย แต่คุณพินโกะนี่แหละที่ให้คำแนะนำที่ดีที่สุดกับฉันว่าทุกอย่างจะไม่มีปัญหาอะไรเลย ถ้าทำให้เต็มที่เพราะฉะนั้นฉันจะทุ่มทุกอย่างให้บทนี้ค่ะ

อันที่จริง อิซูมิ พินโกะ ก็คือ ผู้รับบทแม่ของโอชินในซีรีส์ฉบับคลาสสิกนั้นเอง ซึ่งดารารุ่นใหญ่ที่กลับมาสวมบทบาท คุณนายใหญ่ร้านคางาย่า ใน โอชิน 2013 ยังพูดถึงนักแสดงรุ่นหลานที่จะได้แสดงเป็นตัวละครเดียวกับเธออีกว่า ฉันดีใจค่ะที่ อายะจัง ได้เล่นบทนี้ และมั่นใจถ้าเราทุกคนพยายาม หนังจะต้องออกมาพิเศษแน่ๆ”  สำหรับนักแสดงเด็กหน้าใหม่ ฮามาดะ โคโคเนะ ที่เอาชนะคู่แข่ง 2,500 คน ที่มาคัดเลือกบท โอชิน ก็กล่าวอย่างมุ่งมั่นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มในงานแถลงข่าวว่าหนูก็จะพยายามให้ดีที่สุดกับการแสดงเป็น โอชิน ค่ะ”  โดยหนังจะยกกองเข้าไปถ่ายทำที่ยามางาตะ ในช่วงต้นเดือน ก.พ.นี้ และน่าจะเข้าฉายได้ในเดือน ต.ค.
(อ้างอิงข้อมูล จาก เว็บผู้จัดการออนไลน์)

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น