วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556

โลก 360 องศา (ภัยหนาว - วิกฤติตัวประกันแอลจีเรีย)



ภัยหนาวคุกคามหลายประเทศในยุโรป ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกิน 600 รายเเล้ว และยังมีอีกกว่า 4,000 ราย ขาดแคลนอาหาร

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ภัยหนาวยังคงคุกคามประเทศในแถบยุโรปอย่างต่อเนื่อง โดยรายงานยอดผู้เสียชีวิตล่าสุด เพิ่มขึ้นมากกว่า 600 รายแล้ว ที่ต้องเสียชีวิตไปเพราะคลื่นอากาศหนาวเย็นที่แผ่ปกคลุมไปทั่วทวีปยุโรปตะวันออก ในช่วงอากาศเย็นเป็นประวัติการณ์ของฤดูหนาวปีนี้

ด้านเจ้าหน้าที่ของรัสเซีย ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 205 ราย เพราะอากาศหนาวเย็นต่ำกว่าจุดเยือกแข็งของฤดูหนาวปีนี้ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ขณะที่ยูเครนมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 112 ราย โปแลนด์อีก 107 ราย ฮังการี 35 ราย เซอร์เบีย 20 ราย และอีก 10 ราย ในโคโซโว ขณะที่โรมาเนีย มีประชาชนเกือบ 4,000 ราย กำลังขาดแคลนอาหารอย่างหนัก รวมถึงยารักษาโรค

ที่มา : สำนักข่าวไอเอ็นเอ็นนิวส์

ภัยหนาวยังคงคุกคามยุโรปการสัญจรทางน้ำในแม่น้ำดานูบ ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญกลายเป็นอัมพาต ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงถึง 460 คน ขณะที่อัฟกานิสถานเป็นประเทศล่าสุดที่เผชิญภัยหนาวรุนแรงที่สุดในรอบ 15 ปี

สภาพอากาศที่หนาวจัดในยุโรป ทำให้การสัญจรทางน้ำในแม่น้ำดานูบซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญกลายเป็นอัมพาตอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากมีน้ำแข็งปกคลุมไปทั่วท้องน้ำ ทั้งนี้หลายประเทศไม่ว่าจะเป็นเซอร์เบีย, โครเอเชีย, บัลแกเรีย, โรมาเนีย, ฮังการี และออสเตรีย ต้องประกาศห้ามการเดินเรือในแม่น้ำดานูบเพื่อความปลอดภัย โดยแม่น้ำดานูบมีความยาวทั้งสิ้น 2,860 กิโลเมตร ไหลผ่าน 10 ประเทศ นอกจากจะเป็นเส้นทางขนส่งที่สำคัญแล้ว ยังเป็นแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้า และทำประมงด้วย

ขณะที่บัลแกเรียอุณหภูมิทำสถิติครั้งใหม่ ลดต่ำติดลบถึง28.6 องศาเซลเซียสที่เมืองวิดิน (Vidin) ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ส่วนที่อิตาลีคาดว่าจะเผชิญกับอากาศหนาวเย็น และหิมะตกหนักระลอกใหม่ในวันนี้ (10 ก.พ.) และวันพรุ่งนี้ (11 ก.พ.) หลังเพิ่งจะฟิ้นตัวจากหิมะตกหนักที่สุดในรอบหลายสิบปีในก่อนหน้านี้

มีรายงานว่าในตุรกี หิมะปิดกั้นเส้นบนถนนมากกว่า 2,000 สาย และสภาพอากาศที่หนาวจัดได้แผ่ออกไปไกลถึงทวีปแอฟริกาเหนือ ขณะที่ยูเครนซึ่งเป็นประเทศทีได้รับผลกระทบผลจากภัยหนาวรุนแรงที่สุด คาดว่าอุณหภูมิในบางพื้นที่จะลดต่ำติดลบถึง 30 องศาเซลเซียสในช่วงสุดสัปดาห์นี้

ส่วนที่ฝรั่งเศส อากาศที่หนาวจัดในพื้นที่ทางภาคใต้ทำให้นกฟลามิงโก้สีชมพูหนาวตายไปถึง 55 ตัว หลังจากที่พวกมันต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นมานานถึง 10 วันจนร่างกายอ่อนแอ ส่วนนกที่ยังไม่ตายเจ้าหน้าที่ก็ต้องช่วยเหลือนำมาพักฟื้นก่อนส่งไปยังที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 27 ปี ที่พบนกฟลามิงโก้สีชมพูตายมากที่สุด

อัฟกานิสถานเป็นประเทศล่าสุดที่เผชิญกับภัยหนาวรุนแรง โดยสภาพอากาศในกรุงคาบูลหนาวเย็นที่สุดในรอบ 15 ปี อุณหภูมิลดต่ำติดลบถึง 16 องศาเซลเซียสท่ามกลางหิมะตกหนักวัดปริมาณหิมะได้สูงสุดถึง 50 เซนติเมตร ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าดับ และมีน้ำแข็งปกคลุมพื้นผิวถนน

ขณะที่ชาวญี่ปุ่นในจังหวัดนิงาตะ แม้จะต้องอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวจัด และหิมะตกหนัก แต่ก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี เพราะมีประสบการณ์อยู่กับหิมะมานานโดยบ้านส่วนใหญ่มีการสร้างส่วนของหลังคาที่ออกแบบเป็นพิเศษ มีการติดตั้งทั้งอุปกรณ์ทำความร้อนเพื่อละลายหิมะ และทำให้โครงสร้างแข็งแรงสามารถทานรับน้ำหนักหิมะที่หนาถึง 2 เมตรได้ นอกจากนี้ยังมีการทำหลังคาคลุมทางเดินหน้าอาคาร และบ้านเรือนเพื่อป้องกันคนเดินเท้าจากหิมะ รวมทั้งมีการตั้งเสาเหล็กสูงกว่า 3 เมตรตามแนวถนนเพื่อไม่ให้รถเฉี่ยวกองหิมะ ส่วนป้ายรถประจำทางก็ทำเป็นหลากสีเพื่อให้ผู้โดยสารสังเกตได้ง่าย

ที่มา : สำนักข่าวไทยพีบีเอส
สภาพอากาศหนาวในจีนเลวร้ายกระทบต่อการเดินทางช่วงตรุษจีน
การเดินทางกลับภูมิลำเนาครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด ของประเทศจีน กำลังจะเริ่มขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์โดยกระทรวงคมนาคมของจีนเปิดเผยว่า ระบบขนส่งมวลชนทั่วประเทศ กำลังเตรียมพร้อมรับมือกับประชาชนราว 3,100 ล้านคน ที่จะออกมาเดินทางในช่วงระหว่างวันที่ 26 ม.ค. ถึง 6 มี.ค. เนื่องจากเทศกาลตรุษจีน ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญที่สุด ซึ่งครอบครัวจะกลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ สภาพอากาศในหลายพื้นที่ของจีนกลับไม่เป็นใจในการเดินทาง หลังเกิดอากาศหนาวเย็น และควันพิษปกคลุม โดยเฉพาะในกรุงปักกิ่งของจีน ซึ่งนอกจากหมอกควันพิษ จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชนแล้ว ยังก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอีกด้วย โดยพนักงานขององค์กรด้านการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่า สภาพอากาศอันเลวร้าย ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของกรุงปักกิ่ง และส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยชิงหัวพบว่า สภาพอากาศที่เป็นมลพิษ สร้างความเสียหายต่อประเทศคิดเป็นมูลค่าอย่างน้อย 560,000 ล้านหยวน หรือประมาณ 2.6 ล้านบาท (สองล้านหกแสนล้านบาท) ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 1.2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของจีนในปี 2555

ปิดฉากวิกฤติจับตัวประกันในแอลจีเรียยาวนาน 72 ชั่วโมง ทหารบุกฆ่านักรบอิสลามิสต์ตายเกลี้ยง 11 ศพ ตัวประกันสังเวยเพิ่มอีกอย่างน้อย 23 ศพ ผู้นำชาติมหาอำนาจทั้ง "สหรัฐ-ฝรั่งเศส-อังกฤษ" ออกหน้าปกป้องแอลจีเรียปฏิบัติชอบแล้ว อัดผู้ก่อการร้ายคือบ่อเกิดโศกนาฏกรรม เหตุการณ์สมาชิกกลุ่มก่อการร้ายที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ในแอฟริกา จับคนงานชาวแอลจีเรียและชาวต่างชาติหลายร้อยคนเป็นตัวประกันภายในโรงแยกก๊าซกลางทะเลทรายซะฮาราในแอลจีเรียตั้งแต่กลางสัปดาห์ก่อน ยุติลงแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ 19 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่น โดยกองทัพแอลจีเรียตัดสินใจส่งทหารเข้าไปสังหารกลุ่มนักรบอิสลามิสต์ที่เหลือทั้งหมด 11 ราย แต่ก็สังเวยชีวิตตัวประกันเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 23 ราย
คำแถลงของกระทรวงมหาดไทยแอลจีเรียเผยว่า หน่วยปฏิบัติการพิเศษสามารถช่วยชีวิตตัวประกันชาวต่างชาติ 107 คนจาก 132 คนที่ทำงานในโรงงาน และคนงานชาวแอลจีเรีย 685 คน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวประกัน 23 รายที่เสียชีวิตว่ามีสัญชาติใดบ้าง แต่บีบีซีรายงานว่าตัวประกันที่ถูกฆ่าหรือสูญหายมีชาวอังกฤษอย่างน้อย 5 คน, นอร์เวย์ 5 คน และญี่ปุ่น 10 คน ขณะเดียวกันยังมีรายงานผู้สูญหายอีกหลายคน ในจำนวนนี้รวมถึงลูกจ้างบริษัทวิศวกรรม เจจีซี จากญี่ปุ่น ที่รายงานว่ายังไม่พบคนงานญี่ปุ่น 10 คนและต่างชาติ 7 คน โดยหนึ่งในนี้อาจเป็นชาวมาเลเซีย 1 ใน 2 คนที่รัฐบาลมาเลเซียบอกว่าไม่ทราบชะตากรรม ส่วนฟิลิปปินส์ คนงานที่ตกเป็นเหยื่อนั้นรอดออกมาได้ 52 ราย ส่วนหนึ่งเดินทางกลับประเทศแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่ามีคนฟิลิปปินส์สูญหายหรือเสียชีวิตด้วยหรือไม่   โมหะเหม็ด ซาอิด รัฐมนตรีสารสนเทศ กล่าวกับสำนักงานเอพีเอสในวันอาทิตย์ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจมากกว่านี้ ต่อมาสถานีโทรทัศน์เอ็นนาฮาร์ของแอลจีเรียรายงานว่า ทหารพบศพตัวประกัน 25 ศพภายในโรงแยกก๊าซโรงหนึ่งในช่วงทหารเข้าเคลียร์พื้นที่  ส่วนพวกนักรบมุสลิมหัวรุนแรงที่ถูกสังหารหมดเกลี้ยง 32 คนนั้น เชื่อว่ารายหนึ่งคือ อับดุล เราะห์มาน อัลไนจีรี ผู้นำกลุ่มชาวไนจีเรียที่ใกล้ชิดกับมุกตาร์ เบลมุกตาร์ อดีตนักรบญิฮาดที่ใกล้ชิดกับอัลกออิดะห์ และเชื่อว่าเป็นผู้บงการจับตัวประกันครั้งนี้ โดยอ้างว่าทำเพื่อบีบให้ฝรั่งเศสยุติการแทรกแซงทางทหารขับไล่กลุ่มนักรบอิสลามิสต์ในสาธารณรัฐมาลี แต่นักวิเคราะห์มองว่าเป็นการวางแผนไว้ล่วงหน้านานก่อนฝรั่งเศสส่งทหารเข้ามาลีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รายละเอียดของสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงงานยังไม่ชัดเจน แต่มีรายงานว่าคนร้ายเริ่มฆ่าตัวประกันที่เหลือ 7 ราย ก่อนโดนทหารจู่โจมสังหารเกลี้ยง ภายหลังเหตุการณ์ยุติ กระทรวงมหาดไทยเผยว่า เจออาวุธหลายชนิดในที่เกิดเหตุ ทั้งปืนกล 6 กระบอก, ไรเฟิล 21 กระบอก, ปืนสั้น 2 กระบอก, ปืนครกขนาด 60 มม. 2 กระบอกพร้อมกระสุน, เครื่องยิงจรวดขนาด 60 มม. 6 กระบอก, เครื่องยิงลูกระเบิด 2 กระบอกพร้อมจรวด 8 ลูก และระเบิดขว้าง 10 ลูก  รัฐบาลประเทศตะวันตกบางประเทศแสดงความไม่พอใจที่แอลจีเรียไม่แจ้งแผนปฏิบัติล่วงหน้าก่อน แต่แอลจีเรียซึ่งเคยทำสงครามกลางเมืองกับพวกนักรบอิสลามิสต์ที่คร่าชีวิตผู้คนกว่า 200,000 รายในยุคทศวรรษ 1990s ยืนกรานตั้งแต่แรกว่าจะไม่เจรจาต่อรองกับผู้ก่อการร้าย และหลังเหตุการณ์ยุติลงผู้นำหลายชาติได้กล่าวสนับสนุนการตัดสินใจของแอลจีเรีย
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐต้องการคำชี้แจงจากแอลจีเรียเพื่อความเข้าใจที่กระจ่างแจ้งถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เห็นว่า โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นครั้งนี้ต้องโทษพวกผู้ก่อการร้ายที่ก่อเหตุ "การโจมตีคราวนี้เป็นสิ่งเตือนใจอีกครั้งถึงภัยคุกคามจากอัลกออิดะห์และกลุ่มก่อการร้ายหัวรุนแรงกลุ่มอื่นๆ ในแอฟริกาเหนือ" โอบามากล่าว "เราจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับหุ้นส่วนทั้งหมดของเราในการสู้รบกับพวกลัทธิก่อการร้ายในภูมิภาคนี้" ด้านประธานาธิบดีฟรังซัวส์ โอลลองด์ ของฝรั่งเศสกล่าวปกป้องการแก้วิกฤติตัวประกันของแอลจีเรียครั้งนี้ว่า "เหมาะสมที่สุดแล้ว" ส่วนนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ กล่าวว่า "ไม่มีเหตุผลแก้ตัว" สำหรับพวกโจรจับตัวประกัน อังกฤษมีความตั้งใจแน่วแน่ยิ่งขึ้นที่จะร่วมมือกับพันธมิตรทั่วโลกเพื่อขุดรากถอนโคนและทำลายพวกผู้ก่อการร้ายและพวกที่ยุยงส่งเสริม   รัฐมนตรีกลาโหม ฟิลิป แฮมมอนด์ ของอังกฤษ กล่าวถึงการสูญเสียชีวิตตัวประกันว่า "น่าตกใจ และไม่อาจยอมรับได้ แต่ต้องเข้าใจเช่นกันว่าผู้ก่อการร้ายพวกนี้คือผู้ที่ต้องรับผิดชอบล้วนๆ"
กลุ่มสังเกตการณ์การก่อการร้าย อินเทลเซ็นเตอร์ชี้ว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นวิกฤติการจับตัวประกันครั้งใหญ่ที่ตั้งแต่วินาศกรรมที่นครมุมไบของอินเดียเมื่อปี 2551 และยังเป็นการก่อเหตุครั้งใหญ่ที่สุดโดยฝีมือของพวกนักรบอิสลามิสต์ ที่เคยทำให้ตัวประกันหลายร้อยคนสังเวยชีวิตในโรงละครแห่งชาติที่กรุงมอสโกปี 2545 และที่โรงเรียนในเมืองเบสลันของรัสเซียเมื่อปี 2547
ที่มา : สำนักข่าวไทยโพสต์
หมายเหตุ ตัวเลขจำนวนผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ยังไม่สามารถสรุปตัวเลขจำนวนที่แน่ชัดในขณะนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น