วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2556

ฟรีทีวีช่วงไพร์มไทม์ มีรายการใดน่าสนใจใน พ.ศ.นี้ (ตอนที่ 2)

วงการทีวีในบ้านเราในปีนี้คงต้องเผชิญการแข่งขันสูงมากอีกปีนึง การเพิ่มขึ้นของผู้จัดละคร ผู้จัดรายการผนวกรูปแบบรายการใหม่ๆ ทีมงานข่าว พิธีกรหน้าใหม่ๆ ดารานักแสดงหน้าใหม่ๆ ผุดขึ้นมากมาย จากเหตุผลการขยายฐานของทั้งเวลา จำนวนช่องสถานีที่เพิ่มขึ้น (ซึ่งเป็นช่องทางเลือกใหม่จากทีวีดาวเทียม,เคเบิ้ลทีวี) เพราะทั้งด้วยตัวนโยบายของเจ้าของสถานีโทรทัศน์แต่ละช่องก็กำหนดแนวทาง มาตรฐานของตนเอาไว้สูงขึ้น ผู้จัดรายการ หรือผู้เช่าเวลาสถานีแต่ละรายก็ต้องเร่งพัฒนาปรับปรุงรายการให้ดีขึ้น หาไม่แล้วก็จะต้องถูกปรับเปลี่ยนเวลาออกอากาศให้ไปอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยดีนัก บางรายอาจถูกถอดรายการออกจากโปรแกรมสถานีไปเลยก็มี อีกด้านนึงก็ถึงยุคเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีพอดี คือจากยุคอนาล็อคมาสู่ยุคดิจิตอล (สังเกตว่าเมื่อก่อนเราจะรับชมทีวีต้องใช้เสาหนวดกุ้งหรือก้างปลา ปัจจุบันมารับชมผ่านทางจานดาวเทียมหรือสายเคเบิ้ลแทน) และในพ.ศ.นี้กำลังจะมีการประมูลคลื่นความถี่หรือสัญญาสัมปทานการออกอากาศในระบบทีวีดิจิตอลและการให้ใบอนุญาตในการตั้งช่องสถานีโทรทัศน์ที่แพร่ภาพในระบบดิจิตอลทีวีที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกจำนวนมาก และทีวีดาวเทียมเคเบิ้ลอีกเป็นหลักร้อยหลักพันช่อง ซึ่งเป็นยุค 3G และกำลังพัฒนาเทคโนโลยีไปสู่ HDTV กันมากขึ้น หลายรายการเริ่มมีการผลิตเป็นระบบ HD กันแล้ว ซึ่งด้วย platform และโครงข่ายที่เปลี่ยนแปลงไปของทั้งเทคโนโลยีการออกอากาศ การส่งข้อมูลแพร่ภาพ การแข่งขันด้าน content เนื้อหารายการ ทำให้เกิดการปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมทีวีขนานใหญ่เข้าสู่ยุคใหม่ ที่จะทำให้ฟรีทีวีหมดสิทธิ์ผูกขาดคนดูอีกต่อไป และก็เม็ดเงินจากเอเจนซี่โฆษณา เจ้าของสินค้าจะถูกกระจายไปยังทีวีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น สงครามเรตติ้งจะทวีความรุนแรงมากขึ้น การแข่งขันพัฒนาด้านเนื้อหารายการ(content) จะเป็นหัวใจของความสำเร็จของรายการหรือสถานี มาแทนปัจจัยทางด้านรูปแบบรายการแต่เพียงอย่างเดียว เมื่อก่อนสถานีโทรทัศน์จะกำหนดช่วงเวลาของรายการข่าวและละครเป็นธงนำ ในการดึงเรตติ้งทั้งเพิ่มเวลาและดึงทีมงานเก่งๆ มาอยู่กับสถานีตนให้มากที่สุด (ซึ่งก็วนเวียนอยู่กับฟรีทีวีไม่กี่ช่อง ไม่มีทางเลือกมากนัก) แต่ปัจจุบันต้องหันมาโฟกัสไปมากกว่านั้นอีก คือผู้บริโภคมีทางเลือกใหม่ๆ เพิ่มขึ้นจากหลายๆสื่อ หลายๆ ช่องทางเลือก ผู้บริโภคก็จะต้องพิจารณาลงลึกไปยังรายละเอียดที่มากกว่านั้น นั่นก็คือรายการข่าว หรือละครของช่องนั้นๆ มีเนื้อหา มีจุดขาย ที่แตกต่างหรือดีกว่าช่องอื่นๆ อย่างไร หากตรงกับใจก็จึงจะตัดสินใจเลือกเสพหรือดูช่องนั้น ดังนั้นการผลิตรายการข่าวหรือละครของแต่ละสถานีจึงต้องพิถีพิถัน และขยันสร้างเนื้อหาและจุดขายที่ดึงดูดใจผู้บริโภคมากขึ้น อาจสร้างเอกลักษณ์เป็นของตนเพื่อสร้างความแตกต่าง อย่างเช่น ช่อง 3 ครอบครัวข่าว กำหนดให้พิธีกรหรือผู้ประกาศข่าวแต่ละคนสร้างคาแรกเตอร์ส่วนตัวขึ้นมาเพื่อให้คนดูจดจำได้  ละครต้องมีเนื้อหาแรง มีบทพูดที่แรงและเป็นที่จดจำหรือ talk of the town เพื่อเรียกเรตติ้งคนดู เป็นต้น

รายการข่าวและละครยังคงเป็นจุดขายและดึงเรตติ้งให้สถานีอยู่ต่อไป การพัฒนารายการข่าวทั้งลงทุนด้านอุปกรณ์ถ่ายทำ การผลิตต่างๆ เฮลิคอปเตอร์ ลงทุนกับบุคลากร มีการดึงตัวผู้ประกาศข่าวดังๆ จากช่องอื่นมาร่วมงาน การสร้างผู้สื่อข่าวภาคสนามให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น ด้านละครมีทั้งสร้างพระเอกนางเอกเลือดใหม่ ปลุกปั้นขึ้นมาเอง หรือดึงซุปเปอร์สตาร์จากต่างช่องมาร่วมงานหรือเซ็นสัญญาย้ายช่องก็มี การแย่งซื้อบทประพันธ์ที่ดีๆ มาไว้ครอบครอง การแย่งยื้อบุคลากรด้านมือเขียนบทโทรทัศน์เก่งๆซึ่งระดับท็อปๆของวงการมีอยู่ไม่กี่คนมาร่วมงานกับค่ายละครผู้จัด ซึ่งก็อาจมีการทำสัญญาผูกขาดให้กับค่ายหรือช่อง หรือบางคนก็รับงานอิสระ การซื้อตัวผู้กำกับเก่งๆ มาร่วมงาน คล้ายๆ ซื้อตัวผู้ประกาศข่าวชื่อดังจากต่างช่อง ทั้งหลายเหล่านี้เป็นเพียงบางส่วนของทางลัดในการเพิ่มศักยภาพ ขีดความสามารถของสถานีโทรทัศน์ในการสร้างจุดแข็งให้กับตนเอง เพื่อต่อสู้กับคู่แข่งซึ่งนับวันจะมีแต่รุนแรง เข้มข้นมากขึ้น

ปีนี้จะเป็นปีทองของรายการประเภทละครสำหรับผู้ชมเลยทีเดียว ทั้งในแง่ปริมาณและคุณภาพ ความหลากหลายครบรสด้วย จากกระแสละครของช่อง 3 (รอยมาร,บ่วง,ขุนศึก,ปัญญาชนฯ,ธรณีนี่นี้ฯ,กี่เพ้า,แรงเงา,รากบุญ) ช่อง 5 (ดอกโศก,นางสิงห์สะบัดช่อ,สายฟ้ากับสมหวัง,มารยาริษยา,บ่วงรัก) ช่อง 7 (ป่านางเสือ,ปิ่นอนงค์,ขุนเดช,โบ๊เบ๊,อุบัติเหตุ,หยกเลือดมังกร) จะมีผู้จัดรายใหม่เกิดขึ้นอีกมาก จากอดีตดารานักแสดงที่ผันตัวมาเป็นผู้จัดเอง ดารานักแสดงดาวรุ่งหน้าใหม่เกิดขึ้นอีกมาก กระแสละครรีเมคจะยังคงเป็นกระแสหรือความนิยมของผู้จัดอยู่ต่อไป (ทรายสีเพลิง,แรงปรารถนา,ลูกทาส,บ่วงวันวาร,คู่กรรม,อีสา,ทองเนื้อเก้า,ลูกไม้หลากสี) ละครที่สร้างจากบทประพันธ์ชื่อดังที่ยังไม่เคยสร้างก็มี เช่น สุภาพบุรุษจุฑาเทพ,ฟ้าจรดทราย,สาปพระเพ็ง หรือบทประพันธ์ใหม่ที่เขียนมาเพื่อเป็นละครเลยก็มี เช่น ละครของเอ็กแซ็กท์ และละครประเภทต่อยอดจากความสำเร็จเดิม เช่น ละครภาคต่อ เช่น เหนือเมฆ2 ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่เวลานี้ (บทวิจารณ์กรณีละครเหนือเมฆ2 ถูกแบนตอนจบ จัดหนักอยู่ช่วงท้ายของบทความนี้) หรือละครซีรี่ย์ ซิทคอม ที่ยังคงมีอยู่ ปีนี้จะเป็นปีที่เต็มไปด้วยละครพีเรียดจำนวนมากมาย จุดเปลี่ยนที่สำคัญอีกประการนึงก็คือ การที่ช่อง 5 มีนโยบายเพิ่มเวลาละครหลังข่าวให้มากขึ้นจากเดิม 1 ชั่วโมงเป็น 1 ชั่วโมงครึ่ง ทำให้ค่ายละครหลักอย่างเอ็กซ์แซ็กท์ได้อานิสงส์ผลบุญไปเต็มๆ สามารถสร้างละครได้มากขึ้นเพื่อขยายฐานคนดู และการร่วมมือกับค่ายละครจันทร์ 25 ของคุณสุรางค์ เปรมปรีด์ ทำให้สงครามละครปะทุอย่างรุนแรง และไม่อาจจะมองข้ามละครช่อง 5 ได้เหมือนก่อนแล้ว ในขณะที่ช่องทีวีทางเลือกหรือทีวีดาวเทียมก็มีการสร้างละครซึ่งเป็น talk of the town และจับฐานคนดูเฉพาะกลุ่มของตนเองได้สำเร็จเช่นกัน อาทิ ละครช่อง 8 ของ RS (ทองประกายแสด,น้องเมีย)  ซีรี่ย์ละครที่ต่อยอดจากโปรเจ็คท์คลับ Friday ของพี่ฉอด เอไทม์ ฉายทางช่องกรีนชาแนล ก็เรียกกระแสคนดูได้มากในยูทูป จนเป็น talk of the town  การกลับมาของซิทคอมอันดับ 1 อย่างเป็นต่อขั้นเทพ และบางรักซอย 9 ที่ลงโรงฉายเฉพาะที่ช่อง GMM one ของ GMMZ เท่านั้น และกำลังมีซีรี่ย์ละครใหม่ๆ กำกับโดยทีมงานผลิตของ GTH ที่จะตามมาอีกมาก แม้กระทั่งช่องข่าวอย่าง Blue Sky ยังผลิตละครเสียดสีการเมืองที่ชื่อ ไทยคู่ฟ้า ออกฉายเฉพาะในช่องของตนเองเหมือนกัน ช่อง 9 และ ช่องทีวีไทยก็มีรายการละครเฉกเช่นช่องอื่นเหมือนกัน แต่เนื้อหาจะฉีกแนวเน้นความสัมพันธ์อันดีในครอบครัวเป็นหลัก หรือเป็นละครที่มีมุมคิดด้านบวกเป็นหลัก แต่ยังไม่ใช่กระแสหลัก ทำให้ละครของทั้งช่อง 9 และทีวีไทยยังไม่ได้รับความนิยมในวงกว้างเหมือนกับช่อง 3,5,7
ด้านรายการเกมส์โชว์และวาไรตี้ทอล์คโชว์ มาถึงจุดที่ใกล้จะอิ่มตัวแล้ว ดังนั้นการพัฒนารูปแบบรายการจึงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา มีการเปลียนแปลงรูปแบบรายการ เปลี่ยนพิธีกร เพิ่มรางวัลแจ็คพ็อต ชิงโชค ทำให้รายการในลักษณะนี้มีวงจรชีวิตสั้น บางรายการอยู่เพียงแค่ปีสองปีก็จากเราไปแล้ว แต่ที่ยังอยู่ได้อย่างยาวนานก็ต้องลงทุนด้านโปรดักชั่นสูง เช่น ชิงร้อยชิงล้าน รายการใหม่ของน้าเน็คดูน่าสนใจทีเดียว(จะรอดู)


รายการประเภทเรียลลิตี้โชว์ยังไปได้อีกนาน กระแสความฮ็อตฮิตของเรียลลิตี้ใหม่ๆ อาทิ The Voice Thailand ซึ่งไปซื้อลิขสิทธิ์เมืองนอกมา ค่อนข้างจะประสบความสำเร็จทีเดียวสำหรับซีซั่นแรก เป็น talk of the town ไม่แพ้ Thailand Got Talent สำหรับปีนี้ที่กำลังจะมาก็คือ Thailand Dancing with Star ส่วนรายการเก่าๆ อย่าง The Star, AF ก็ยังคงฮิตไม่เลิก หากตัวผู้เข้าแข่งขันยังเป็นที่น่าสนใจอยู่
รายการแข่งขันกีฬาหรือประเภทการแสดงสด เช่น ฟุตบอล,คอนเสิร์ต ประกวดประชันเวทีต่างๆ การแจกรางวัลต่างๆ จะยังเป็นที่สนใจอยู่ เพียงแต่ขึ้นอยู่กับโปรดักชั่นการผลิตและตัวเนื้อหานั่นแหละว่าจะน่าสนใจพอที่จะดึงความสนใจได้หรือไม่

มาไล่เรียงรายการทีวีช่วงไพร์มไทม์ของแต่ละช่องในแต่ละวันกันเลย มีดังนี้

วันจันทร์ ช่อง 3 มีละคร คุณสามี(กำมะลอ)ที่รัก ตามด้วยข่าวสามมิติ และทูไนท์โชว์ ช่อง 5 มีละครเจ้าแม่จำเป็น ทีวีพูลไลฟ์ จับประเด็นข่าวร้อน นาทีฉุกเฉิน ต่อด้วยศึกน้ำผึ้งพระจันทร์ และเรื่องของเรื่อง,คนรักรถ ช่อง 7 มีละครดุจตะวันดั่งภูผา ประเด็นเด็ด7สี และจันทร์พันดาว ช่อง 9 มีดาวกระจาย สนุกสุดขั้วชุดทีวีแชมเปี้ยน และตามด้วยคลุกวงข่าว จบด้วยวีไอพี ช่องทีวีไทย มีรายการเมืองใจดี ตอบโจทย์ และเปิดปม สำหรับละครคงสุดแล้วแต่รสนิยมความชอบของแต่ละบุคคลว่าจะชอบละครเรื่องใดของช่องใด ใครแสดง ขอข้ามไปที่รายการช่วงดึกเลยแล้วกัน สำหรับข่าวช่วงหัวค่ำนั้นระยะเวลาก็มาไม่ตรงกันเสียทีเดียวมีเหลื่อมเวลากัน และก็ขึ้นกับความชอบส่วนบุคคลคล้ายๆละคร โดยส่วนตัวผู้เขียนชอบตอบโจทย์และก็ข่าว 3 มิติ ที่ดูมีพลังกว่าช่องอื่นๆ และพิธีกรผู้ประกาศข่าวมีฝืมือทำให้รายการดูน่าติดตาม ส่วนจับประเด็นข่าวร้อนช่อง 5,ประเด็นเด็ด 7 สี และคลุกวงข่าวช่อง 9 ยังไม่โดน ทั้งตัวพิธีกรผู้ประกาศและเนื้อหา สำหรับวันแรกของสัปดาห์นั้น แทบทุกช่องยังคงรายการเดิมของตนจากปีที่แล้ว แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงจะมีก็แต่ช่อง 5 เลื่อนรายการออกไปดึกขึ้นจากแต่ก่อนเป็นผลจากการเพิ่มเวลาของละครหัวค่ำ และช่องทีวีไทยมีรายการใหม่คือ เมืองใจดี อันนี้คงต้องรอดูว่าจะเป็นอย่างไร กล่าวโดยสรุปก็คือ ผู้เขียนยังคงชอบรายการโปรดเดิมๆ ก็คือ ทูไนท์โชว์ เรื่องของเรื่อง และวีไอพี รายการอื่นสอดแทรกยากจริงๆ

วันอังคาร ช่อง 3 มีละครเรื่องเดียวกับเมื่อวาน ตามด้วยตีสิบ ช่อง 5 มีละครเรื่องเดียวกับเมื่อวาน ทีวีพูลไลฟ์ จับประเด็นข่าวร้อน นาทีฉุกเฉิน ขวัญถุงเงินล้าน ต่อด้วยกรรมลิขิต,โฟโต้สตอรี่ชีซ(รายการนอกรอบย้ายเวลาไปอยู่ช่วงเย็น 17.55 น.ทุกวันจันทร์-ศุกร์) ช่อง 7 มีละครเรื่องเดียวกับเมื่อวาน ต่อด้วยรายการใหม่แกะกล่อง Dancing with The Star สำหรับช่อง 9 มีดาวกระจาย สนุกสุดขั้วชุดเกมซ่าท้ากึ๋น ไนน์เอ็นเตอร์เทนไนท์ไลฟ์ ต่อด้วยคลุกวงข่าว และสตาร์นิวส์ จบด้วยซิทคอมเรื่องใหม่ ออฟฟิซพิชิตใจ(ตามผังใหม่อาจสลับวันกับรายการคาหนังคาเขา) ช่องทีวีไทยมีคนละดาวเดียวกัน ที่นี่ไทยพีบีเอส ตอบโจทย์ และชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ละครกับข่าวไม่ขอพูดถึงแล้ว ทางด้านรายการภาคดึก แต่ละช่องยังคงรายการเดิมไว้จากปีที่แล้ว มีเพียงช่อง 7 ที่ซื้อลิขสิทธิ์รายการจากต่างประเทศยอดฮิตที่ชื่อ Dancing with The Star มาชนกับรายการตีสิบ อันนี้แหละเป็นคู่ที่น่าสนใจ และตัวผู้เขียนก็ชอบของใหม่เสียด้วย ยังไม่รู้ว่ารายการจะทำออกมาได้ดีเหมือนต้นแบบที่ต่างประเทศหรือเปล่า เพราะถ้าดีก็คงเปลี่ยนใจมาชมอย่างถาวรแทนรายการตีสิบ ที่หาความน่าสนใจไม่เจอแล้ว งานนี้เฮียวิทวัสคงต้องทำงานหนักขึ้นอีก เพื่อคงเรตติ้งที่สูงเอาไว้ให้ได้ นั่นแสดงว่ารายการอัพทูยูคู่ซ่าส์ได้หลุดผังไปแล้วสิ น่าเสียดายเหมือนกันแต่มันไม่สามารถสู้ตีสิบได้จริงๆ ช่อง 9 นั้นชิมลางด้วยซิทคอมภาคดึกเรื่องใหม่เอาใจคนนอนดึกคล้ายๆ เป็นต่อ สำหรับช่องทีวีไทยรายการชีวิตจริงยิ่งกว่าละครดูน่าสนใจ แต่มาดึกไปนิดนึง เพราะรายการลักษณะนี้จะดึงความสนใจคนดูตอนดึกๆ ยาก ควรจะสลับเวลากับคนละดาวเดียวกันก็น่าจะดี

วันพุธ ช่อง 3 มีละครตะวันฉายในม่านเมฆ ข่าว 3มิติ ต่อด้วยรายการสามแซ่บ รายการใหม่ของโพลีพลัส ช่อง 5 มีละครบ่วงวันวาร ทีวีพูลไลฟ์ จับประเด็นข่าวร้อน นาทีฉุกเฉิน และตามด้วยคนอวดผี ช่อง 7 มีละครหยกเลือดมังกร ประเด็นเด็ด7 สี ตามด้วยเชฟกระทะเหล็ก ช่อง 9 มีดาวกระจาย สนุกสุดขั้วชุดวิทย์สู้วิทย์ ไนน์เอ็นเตอร์เทนไนท์ไลฟ์ คลุกวงข่าว และคาหนังคาเขา(ตามผังใหม่รายการนี้อาจสลับวันกับซิทคอมเรื่องออฟฟิซพิชิตใจ) ช่องทีวีไทยมีรายการเจมี่โอลิเวอร์ (อะไรอ่ะ ซีรี่ย์เหรอ ไม่เคยดู) ที่นี่ไทยพีบีเอส ตอบโจทย์และพื้นที่ชีวิต ละครกับข่าวข้ามไป วันพุธคงเป็นการสู้กันของ 3 รายการจาก 3 ช่องก็คือ สามแซ่บ (รายการใหม่มาแทนค้างคืนกับซุปตาร์) คนอวดผี (เจนญาณทิพย์น่าจะมาปะทะกับริวจิตสัมผัสเสียทีนะ) และเชฟกระทะเหล็ก ผู้เขียนก็คงจะดูเชฟกระทะเหล็กต่อไปเหมือนเดิม ก็รายการมันดีจริงๆ อ่ะ

วันพฤหัส ช่อง 3 มีละครเรื่องเดียวกับเมื่อวาน ข่าว 3 มิติ และครอบครัวขำ ช่อง 5 มีละครเรื่องเดียวกับเมื่อวาน ทีวีพูลไลฟ์ จับประเด็นข่าวร้อน นาทีฉุกเฉิน ตามด้วยเจาะใจ และสาวแซ่ดเจนเนอเรชั่น,หาเช้าโชว์ค่ำ ช่อง 7 มีละครเรื่องเดียวกับเมื่อวาน ประเด็นเด็ด7สี และเรื่องจริงผ่านจอ ช่อง 9 ดาวกระจาย ฉลาดสุดๆ คลุกวงข่าว และพฤหัสอัศจรรย์(ตามผังใหม่เห็นว่าจะมีรายการไอเด็นติตี้ไทยแลนด์ ใครคือใคร ของน้าเน็กมาเสียบแทน) ช่องทีวีไทยมีสุดยอดสารคดีโลก ที่นี่ไทยพีบีเอส ตอบโจทย์ ซีรี่ย์ญี่ปุ่นเรื่อง จินหมอทะลุมิติ รายการใหม่สารคดีโลกของช่องทีวีไทยน่าสนใจดีในช่วงหัวค่ำ เด็กจะได้ดูด้วย แต่รายการภาคดึกคงจะเป็นการสู้กันระหว่าง ครอบครัวขำ เจาะใจ และพฤหัสอัศจรรย์(รายการใหม่ของน้าเน็กจะเป็นตัวสอดแทรกและน่าสนใจ) สำหรับผู้เขียนน้ำหนักคงเทใจไปให้ครอบครัวขำ และบางทีก็เปลี่ยนไปดูเจาะใจอยู่บ้าง และกำลังรอรายการ ไอเด็นติตี้ไทยแลนด์ ใครคือใคร สำหรับซีรี่ย์ญี่ปุ่นนั้นถ้าเปลี่ยนเป็นซีรี่ย์อเมริกาก็จะน่าสนใจกว่านี้

วันศุกร์ ช่อง 3 มีละครแรงปรารถนา ข่าว 3 มิติ และเพชรรามา ช่อง 5 มีละครเซน..สื่อรักสื่อวิญญาณ คริสเดลิเวอรี่ นาทีฉุกเฉิน และแฟนพันธุ์แท้,สองคนถนนเดียวกัน ช่อง 7 มีละครเสือสมิง ประเด็นเด็ด7 สี และวันวานยังหวานอยู่ ช่อง 9 มีดาวกระจาย วิชาตัวเบา(ตามผังใหม่จะมีรายการปรากฏการณ์ดนตรีมาแทน) คลุกวงข่าว จบด้วย พราวไนท์(เพิ่มพิธีกรหลักคือคุณตั๊กมยุรา) ช่องทีวีไทย สารคดีไทยพีบีเอส ที่นี่ไทยพีบีเอส ตอบโจทย์และซีรี่ย์ญี่ปุ่นเรื่องเดียวกับเมื่อวาน สำหรับรายการภาคดึกนั้นแทบทุกช่องจะเป็นรายการทอล์คโชว์หรือวาไรตี้ทอล์คโชว์หมดเลย มีเพียงเกมส์โชว์อย่างแฟนพันธุ์แท้โดดออกมา และยังคงน่าสนใจอยู่เพียงแต่เนื้อหาในแต่ละอาทิตย์ก็เปลี่ยนไปตามเรื่องต่างๆ ตามความชอบหรือสนใจในแต่ละสัปดาห์ แต่ช่วงต้นปีนี้ยังคงเป็นการแข่งขันเพื่อหาแชมป์แฟนพันธุ์แท้แห่งปีอยู่

วันเสาร์ ช่อง 3 มีละครเรื่องเดียวกับเมื่อวาน ข่าว3มิติ ซีรี่ย์จุดนัดภพ ช่อง 5 มีซีรี่ย์ศีล5 คนกล้าท้าอธรรม ธรรมดีมีเฮ โลก360องศา ตาถึง จับประเด็นข่าวร้อน ศึกสองบ้าน(รายการใหม่) ศึกมวยไทยลุมพินีเกริกไกร ช่อง 7 มีละครเรื่องเดียวกับเมื่อวาน ข่าวเด็ด7 สี และบิ๊กซีนีม่า ช่อง 9 มีละคร My Melody 360 องศารักเดอะมิวสิคัล ตามด้วย The Designer season 2 ช้างมิวสิคคอนเทสต์ เกาะข่าว9 และ The Jinx ก๊วนป่วนซ่า ช่องทีวีไทยมีเปิดบ้านทีวีไทย ทันโลกกับชัยรัตน์ ถมยา ต่อด้วยดนตรี กวี ศิลป์ และไทยเธียเตอร์ ดูท่าจะเป็นวันของละครจริงๆมีเยอะมาก แข่งกันแทบทุกช่อง ผู้เขียนยังคงชอบรายการ ดนตรี กวี ศิลป์เป็นหลัก และภาพยนตร์ภาคดึกไม่รายการบิ๊กซีนีม่า ก็เป็นไทยเธียเตอร์ และกำลังรอดูเรียลลิตี้ยอดนิยมอย่างเดอะสตาร์ซีซั่น 9 นอกนั้นขอบายไม่นิยมดู

วันอาทิตย์ ช่อง 3 มีละครเรื่องเดียวกับวันก่อน ข่าว3 มิติ ต่อด้วยซีรี่ย์เรื่องใหม่ครัวซองทำนองรัก ช่อง 5 มีตลาดสดสนามเป้า สมุดโคจร คลับแอทไฟว์ ต่อด้วยจับประเด็นข่าวร้อน จบด้วย 5 มหานิยม และไลฟ์วิว ช่อง 7 มีละครเรื่องเดียวกับวันก่อน ข่าวเด็ด7 สี และที่นี่หมอชิต ช่อง 9 มีละครเรื่องเดียวกับเมื่อวาน ตามด้วยถอดหัวโขน ช้างมิวสิคคอนเทสต์ วู้ดดี้เกิดมาคุย เกาะข่าว 9 และ The Idol คนบันดาลใจ ช่องทีวีไทย มีเปิดบ้านทีวีไทย ทันโลกกับชัยรัตน์ ถมยา ต่อด้วยเสียงประชาชนเปลี่ยนประเทศไทย จังหวะจะเดิน หนังพาไป (rerun) และจบด้วยโลกหลากมิติ ผู้เขียนยังคงชอบดูวู๊ดดี้เกิดมาคุย และที่นี่หมอชิต อยู่เหมือนเดิม อาจมี 5 มหานิยมหรือโลกหลากมิติ เป็นตัวสอดแทรก

รายการโดยส่วนใหญ่ยังคงเป็นรูปแบบรายการแบบเดิมๆ จากปีที่แล้ว สถานีโทรทัศน์ยังคงให้ความสำคัญกับรายการข่าวและละครโทรทัศน์อยู่เป็นหลัก ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาใด ละครเรื่องใดจะสามารถสร้างกระแสความนิยมให้กับคนดูเป็นที่ชื่นชอบได้มากกว่า จุดขายยังคงเป็นดารานักแสดง แนวละคร และบทโทรทัศน์จะมีความสำคัญมากขึ้น เพราะถ้าเทียบด้านโปรดักชั่นแล้วทุกช่องพัฒนามาได้ใกล้เคียงกันหมดแล้ว ที่เหลืออยู่คงเป็นด้านการแสดงและบทโทรทัศน์ว่าเรื่องใดจะดึงความสนใจได้และเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันได้มากกว่ากัน

ทิศทางของละครใน 3 ช่องหลัก ในปี 2556

"ช่อง 3"มีอุปกรณ์เพิ่ม-เติมจินตนาการ

"สมรักษ์ ณรงค์วิชัย" รองกรรมการผู้จัดการและรักษาการผู้จัดการฝ่ายผลิตรายการช่อง 3 เผยว่า ปีนี้เรามีอุปกรณ์ดิจิตอล ถ้าได้เครื่องมือมาเราสามารถสร้างภาพเติมแสงสี สร้างบรรยากาศเรื่องได้มากขึ้น รวมถึงกล้อง 5D เข้ามาเสริมให้คล่องตัว ทำเทคนิคและเติมจินตนาการ แนวละครปีงูเล็กของช่อง 3 สมรักษ์เผยว่า มีทุกแนวทั้งโรแมนติก ดราม่า พีเรียด คอมเมดี้ แอ๊กชั่น แต่ในการเขียนบทพยายามสร้างให้จับต้องได้ อย่างแนวดราม่า เข้มข้น มีเรื่อง "ทรายสีเพลิง" ของ จ๋า-ยศสินี ได้ ป๋อ-ณัฐวุฒิ, ชมพู่-อารยา และ ชาคริต แย้มนาม นำแสดง จะยกกองไปถ่ายทำที่อเมริกา, "ทองเนื้อเก้า" ของ อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ ได้ ป๋อ-ณัฐวุฒิ คู่ นุ่น-วรนุช ร่วมด้วย ชาย-ชาตโยดม และ เจมส์-จิรายุ, "สามีตีตรา" ของ แอน ทองประสม วางสาว พลอย-เฌอมาลย์ แสดงนำ ส่วนนางเอกอีกคนกับพระเอกยังไม่สรุป แนวแฟนตาซีมี "ซิกธ์เซ้นส์ ซีซั่น 2" เทคนิคมากขึ้นกว่าภาคแรก แนวพีเรียด มี "ลูกทาส" ของทีวีซีน เรื่องนี้ตั้งใจปั้นพระเอกใหม่ แนวเรื่องทาง คุณปิ่น-ณัฏฐนันท์ กับ คุณเอกลิขิต คนเขียนบทต้องการจะสอดแทรกการศึกษา พระเอกเป็นทาสแต่แอบไปเรียนหนังสือจนได้ดี และพูดถึงพระราชกรณียกิจของรัชกาลที่ 5 นอกจากเลิกทาสแล้วยังวางพื้นฐานการศึกษาให้คนไทยด้วย นอกจากนี้ยังมี "บางระจัน" ของบรอดคาซท์ฯ บทประพันธ์ ไม้เมืองเดิม วาง "ป๋อ- ณัฐวุฒิ" ไว้ เป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์ช่วงกรุงศรีฯจะแตกครั้งที่ 2 เป็นเรื่องรักระหว่างรบ พูดถึงความสามัคคีของคนหมู่บ้านบางระจัน, "บุพเพสันนิวาส" ของบรอดคาซท์ฯ วาง ชมพู่-อารยา ส่วนพระเอก เลือกอยู่ ละครซีรีส์ มีซีรีส์ "สามทหารเสือสาว" ของทีวีซีนที่มีเรื่อง มายาตวัน, มนต์จันทรา, ฟ้ากระจ่างดาว บทประพันธ์ กิ่งฉัตร ทั้ง 3 เรื่อง เป็นเรื่องของนักข่าวสายบันเทิงที่มีเพื่อนเป็นนักข่าวสาวสายเศรษฐกิจต่างประเทศและสายอาชญากรรมที่เจอความรักในรูปแบบต่างกัน "มายาตวัน" มี อั้ม- อธิชาติ, ญาญ่า-อุรัสยา, หนุ่ม-ศรราม, "มนต์จันทรา" มี ชาคริต, มาร์กี้-ราศรี และ "ฟ้ากระจ่างดาว" มี บอย-ปกรณ์ กับ แมท-ภีรนีย์ ซีรีส์ชุด "ลูกไม้ของพ่อ" พูดถึงโครงการพระราชดำริของในหลวงมีทั้งหมด 5 เรื่อง ในม่านเมฆ, หัวใจใกล้รุ่ง, ลูกหนี้ที่รัก, ใต้ร่มใบภักดิ์ และ แสงดาวกลางใจ เป็นละครโรแมนติก-คอมเมดี้ ผลิตโดยมายด์ แอต เวิร์ค เป็นละครก่อนข่าวภาคค่ำ ซีรีส์แนวญี่ปุ่นเรื่อง "รอยฝันตะวันเดือด" กับ "รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน" ของค่ายเมคเกอร์ "รอยฝันตะวันเดือด" ได้ มาริโอ้ คู่ แต้ว-ณฐพร ส่วน "รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน" วาง ณเดชน์ กับ ญาญ่า-อุรัสยา คู่กัน เป็นเรื่องราวความรักของสาวไทยกับหนุ่มญี่ปุ่น การห้ำหั่นกันในวงการธุรกิจ ซีรีส์ชุด "เสือ-สิงห์-กระทิง-แรด-หงส์" เป็นซีรีส์แนวตลก ซึ่ง อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ รับผิดชอบทั้ง 5 เรื่อง เรื่องราวชีวิตผู้คนในเยาวราชเป็นแนวเบาๆ รักๆ อ๊อฟ กำกับฯ 2 เรื่อง ให้ สถาพร นาควิลัย กำกับฯ 2 เรื่อง และ ชุดาภา จันทเขตต์ กำกับฯ 1 เรื่อง ตอนนี้ทำบทอยู่ รวมถึงยังมี "สุภาพบุรุษจุฑาเทพ" โปรเจ็กต์ที่เราวางไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แนวโรแมนติก-คอมเมดี้ มี "มาดามดัน" ของบรอดคาซท์ฯ เรื่องเสียดสีวงการบันเทิง วาง พลอย-เฌอมาลย์ กับ มาริโอ้, "ดาวเกี้ยวเดือน" ค่ายบรอดคาซท์ฯ เรื่องผู้หญิงที่ไม่อยากแต่งงานแต่อยากมีลูก ต้องหาสเปิร์มผู้ชาย นักแสดง เจนี่ คู่กับ อั้ม-อธิชาติ และ "ในสวนขวัญ" ของทีวีซีน วาง บอย-ปกรณ์ กับ มาร์กี้ ฯลฯ

ปีนี้การทำละครของช่อง 3 ตั้งใจทำให้สนุกทุกเรื่อง อาจเห็นวิธีการดำเนินเรื่อง วิธีการเขียนบท นักแสดงมีการแสดงที่หลากหลายมากขึ้น จะเน้นบท การถ่ายทำ นักแสดงต้อง มีการปั้นเพิ่มเพราะให้เพียงพอกับงานที่มากขึ้น

"ช่อง 5" ไร้เวลาทดลอง-ทุกเรื่องต้องชัวร์

"ป้อน"นิพนธ์ ผิวเณร ผู้อำนวยการฝ่ายการผลิต บ.เอ็กแซ็กท์ ผู้ผลิตละครรายใหญ่ช่อง 5 เผยถึงทิศทางละครปีนี้ ว่า ละครทุกเรื่องมีจุดขายชัดเจนมากขึ้น โปรดักชั่น นักแสดงหรือเรื่องต้องคิดให้มากขึ้น ละครฟอร์มยักษ์ที่ทำอย่าไปคิดว่าอยู่ที่ โปรดักชั่นหรือนักแสดงเพียงอย่างเดียว มันมีองค์ประกอบหลายอย่าง และสิ่งที่เราต้องการนำเสนอต้องแหลมคม ไม่ใช่เรื่องที่รู้อยู่แล้ว ต้องเป็นเรื่องที่แรงและแหวกกว่าคนอื่นและสนุก ปีนี้ละครมีทั้งรีเมกและพล็อตขึ้นเอง ที่พล็อตเองมีเรื่อง "ทาสเสน่หา" ที่อาจเปลี่ยนชื่อเป็น "เรือนเสน่หา" เป็นพีเรียดยุคทาสสูตรสำเร็จมีการสลับลูก, "มนต์ดำคุณไสย" เขียนบทโดยทีมเขียนมารยาริษยา อยู่ระหว่างออดิชั่นนักแสดง ผู้กำกับฯ คือ พี่เอ (ฉัตรชัย สุรสิทธิ์), "คุ้มนางครวญ" พล็อตโดยพี่แก๊ป คนเขียนบท แรงเงา เป็นเรื่องผีกลับชาติมาทวงความแค้น นักแสดงวาง พิ้งกี้-สาวิกา มาเล่นบทผี และนางเอกอีกคนอยู่ระหว่างวางตัว ส่วนพระเอกอาจเป็น สน-ยุกต์ กำกับฯ โดย สถาพร นาควิลัย ละครรีเมกมี "ภาพอาถรรพ์" หนุ่ม-อรรถพร กำกับฯ เป็นแนวพีเรียด-ผี-ดราม่า วางตัว ป้อง-ณวัฒน์ กับ เฌอเบลล์-ลัลณ์ลลิน คู่ขวัญจาก ดอกโศก มาเล่นเรื่องนี้ รวมถึง อ้อม-พิยดา กับบท คุณประยงค์, "บ่วงวันวาร" จากเรื่องเดิม รอยรักรอยอดีต เรื่องแรกที่ จุ๋ย-วรัทยา มาเล่นกับเรา คู่กับ โตโน่-ภาคิน เวอร์ชั่นนี้พีเรียดเยอะกว่าเวอร์ชั่นที่แล้ว "อีสา-รวีช่วงโชติ" ได้ นุ่น-วรนุช คู่ ป้อง-ณวัฒน์ วางตัว นก-สินจัย เล่นบทหม่อมพรรณรายอีกหนึ่งตัวละครที่มีความสำคัญต่อเรื่อง ส่วนภาคสอง "รวีช่วงโชติ" นักแสดงรุ่นลูกเป็นนักแสดงเลือดใหม่เอ็กแซ็กท์ เปิดกล้องเดือน เม.ย. ผู้กำกับฯ คือ สันต์ ศรีแก้วหล่อ, "คู่กรรม" ที่นำแสดงโดย บี้-สุกฤษฎิ์ และ หนูนา-หนึ่งธิดา ถ่ายได้ 40-50% แล้ว น่าจะออกประมาณเดือน ก.พ. นอกจากแนวผี ดราม่า-เข้มข้นแล้ว ก็ยังมีแนวโรแมนติก-คอมเมดี้ ซึ่งกำลังเซ็ตอยู่ อาจเป็นคอมเมดี้แบบบ้านๆ สักเรื่อง หรือเป็น โรแมนติก-คอมเมดี้แบบในเมือง ส่วนแนวบู๊กำลังเซ็ตอยู่

ปีนี้ละครมีหลากหลายแนว ถ้าทำแนวสูตรสำเร็จที่คนดูชอบบ่อยๆ มันอันตรายถ้าคนดูเบื่อ เพราะฉะนั้นต้องมีความแปลกใหม่ สนุก น่าสนใจ เราทำหลายแนวให้คนดูเลือกเสพ ในส่วนการปั้นนักแสดงใหม่ เรามีการปั้นเรื่อยๆ ที่ไม่ใช่เดอะ สตาร์ ที่ตอนนี้กำลังบ่มอยู่ รอพร้อมเปิดตัวเร็วๆ นี้

ปีหน้าแต่ละช่องคงแข่งกันน่าดู ของเล็กอยู่ไม่ได้แล้ว มีแต่ของใหญ่ ถ้าไม่ใหญ่ด้วยฟอร์มก็ต้องใหญ่ด้วยเรื่อง หรือใหญ่ด้วยประเด็นที่พูดถึงต้องแหลมคม การทำงานยากขึ้นแน่นอน ไม่มีเวลาให้ทดลองว่าเวิร์กหรือเปล่า ถ้าทำต้องชัวร์ทุกเรื่อง ต้องมีการรีเสิร์ชมาอย่างดีว่าคนดูชอบแนวไหน ละครเวิร์กหรือเปล่ามีหลายปัจจัยประกอบ บางครั้งเรื่องดี แต่ต้องการนักแสดงใหญ่ๆ มาเล่น ถ้าเกิดไม่มีคนเล่นได้ขนาดนั้นก็ไม่ควรทำ เพราะจะทำให้เสียของเปล่าๆ"

การทำงานในปีนี้ ทางเราจะร่วมมือกับทางบ.จันทร์ 25 ของ คุณแดง-สุรางค์ ประเดิมด้วย "มารกามเทพ" ที่ ป้อง-ณวัฒน์ แสดงกับ นัท มีเรีย เราจ้างจันทร์ 25 ผลิต ผู้กำกับฯ เป็นของเขา เราให้อิสระในการทำงานเขาเต็มที่ เอาความสนุกตามที่บริษัทของเขาเห็น แต่ในส่วนนักแสดงใช้ของเราในบทพระ-นางบ้าง ส่วนตัวละครแวดล้อมก็มาจากช่องอื่นบ้าง ให้เกิดความแปลกใหม่

"ช่อง 7 สี"ทีมเวิร์ก-มั่นใจในความเป็นผู้นำ

"หน่อง"พลากร สมสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการและผู้จัดการฝ่ายรายการ เผยถึงทิศทางละครของช่อง 7 ในปีมะเส็ง ว่า ปี 2556 ภาพรวมเน้นละครให้คนทั่วประเทศดูได้เหมือนเดิม เน้นหนักเรื่องคุณภาพงานโปรดักชั่น ปีนี้มีละครฟอร์มยักษ์หลายเรื่อง อย่าง พีเรียดมี "โดมทอง" พระ-นางคือ วี-วีรภาพ กับ เปรี้ยว-ทัศนียา นางเอกใหม่, "อาญารัก" รวมนักแสดงคับคั่ง นัส-อานัส, ยุ้ย-จีรนันท์, นุส-นุสบา, เอมมี่-มรกต, ทราย เจริญปุระ, "ไฟหวน" ได้ เติ้ล-ธนพล ประกบนางเอกใหม่อย่าง โบ-ธัญญะสุภางค์, แซมมี่-ปัณฑิตา หรือ "วันนี้ที่รอคอย" ช่วงต้นก็เป็นพีเรียดเมืองสมมติ โดยเรื่องนี้นอกจากมีส่วนพีเรียดแล้ว ยังยกกองไปถ่ายที่ฮ่องกง

ละครฟอร์มยักษ์ที่ไปถ่ายต่างประเทศมีหลายเรื่อง อย่าง "ฟ้าจรดทราย" ที่ได้ ตุ้ย- ธีรภัทร์ คู่ ขวัญ-อุษามณี ยกกองไปอียิปต์, "ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ" พระ-นาง เป้-อารักษ์ กับ มิน-พีชญา ไปถ่ายที่สวิตเซอร์แลนด์, "รหัสลับทิวลิปทอง" ของ คุณฉลอง ภักดีวิจิตร ที่จะยกกองไปถ่ายที่เนเธอร์แลนด์ ส่วนนักแสดงกำลังวางตัวอยู่ นอกจากนี้มีละครพล็อตใหม่ๆ และบางส่วนก็มาจากบทประพันธ์นักเขียนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่คละๆ กันไป

สำหรับกลยุทธ์ในการทำละครปี 2556 ช่อง 7 เพิ่มมูลค่าให้คนดูหลายเรื่องอย่างโลเกชั่น โปรดักชั่น และเราจะมีทีมใหม่เพิ่มขึ้น และบริษัทเดิมที่ทำอยู่แล้ว 20 กว่าบริษัท ละครมีเวลาเพิ่มขึ้นเยอะ เราต้องเพิ่มทีมใหม่ๆ เข้ามา ต้องเปิดโอกาสให้ทุกคน ละครหลังข่าวทุกเรื่องเราถ่ายระบบเอชดี มีต้นฉบับให้สถานี 2 ต้นฉบับ ชุดปกติ 1 ชุด และอีกชุดเป็นเอชดี เตรียมเพื่อจัดจำหน่ายในต่างประเทศ ตอนนี้มีบางเรื่องไปฉายที่จีนอย่าง "ปิ่นอนงค์" ละครเรตติ้งดีแต่กระแสเงียบ ซึ่ง หน่อง เผยว่า เราพอใจเรตติ้งที่ได้รับจากการสำรวจของเอซีนีลสัน ส่วนกระแสเป็นเรื่องของการสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ เราต้องเพิ่มความเข้มข้นตรงจุดนั้น สำหรับการรักษาแชมป์เราใช้หลักพยายามเข้าใจคนดูให้มากขึ้น ปัจจุบันคนดูมีรีโมตอยู่ในมือ ต้องทำให้คนดูกดรีโมตอยู่กับช่อง 7 ซึ่งเราเดาใจคนดูถูกตลอดว่าคนดูต้องการบริโภคละครแนวไหนในช่วงเวลาไหน

ส่วนนักแสดงก็มีการปั้นใหม่เพิ่มขึ้น เพราะเรามีละครประมาณ 70 กว่าเรื่องต่อปี ถ้านักแสดงน้อยก็ไม่สามารถเปิดละครใหม่ๆ ได้ นอกจากปั้นใหม่แล้ว นักแสดงเก่าก็ไม่ทิ้งอย่าง อั้ม-พัชราภา, ยุ้ย-จีรนันท์, วี-วีรภาพ เพราะเขาอยู่กับเราตั้งแต่ต้น

"ช่อง 7 มีทีมงานที่ดีเป็นทีมเวิร์กซึ่งทำงานกันมานาน เรามั่นใจในทีมของเรา และปีนี้เชื่อว่าเรายังคงรักษาความเป็นผู้นำของเราเอาไว้ครับ" บอสหนุ่มทิ้งท้าย

ที่มา : หน้า 16 นสพ.ข่าวสด



Link เว็บที่เกี่ยวกับโผละครใหม่ๆ ในปี 2556

http://news.tlcthai.com/entertainment/83708.html

http://www.dailynews.co.th/entertainment/175475


ต่อกรณีของละครเหนือเมฆ 2 ที่ถูกสั่งระงับการออกอากาศอย่างกระทันหัน ทั้งๆที่เนื้อหาละครใกล้ถึงจุดไคลแม็กซ์ จวนจะถึงบทสรุปหรือจุดจบแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการออกอากาศ ทำให้คนดูที่ติดตามอยู่เกิดอาการงุนงงสงสัย จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกอินเตอร์เน็ท โซเชียลเน็ทเวิร์กอย่างกว้างขวาง ผู้เขียนจึงขอแสดงความคิดเห็นในกรณีดังนี้-สำหรับประเด็นเนื้อหาที่ทางช่อง ได้ขึ้นตัววิ่งชี้แจงว่าเนื้อหาของละครไม่เหมาะสม หรือหมิ่นเหม่ต่อการกระทบกระเทียบถึงบุคคลในแวดวงการเมืองโดยอ้างว่าอาจจะเข้าข่ายละเมิด ม.37 ในกฏหมายพรบ.ควบคุมการแพร่ภาพและกระจายเสียงสื่อโทรทัศน์และวิทยุกระจายเสียง ทำให้ต้องสั่งงดฉายตอนจบไปเลย และนำละครเรื่องใหม่คือแรงปรารถนามาออกอากาศแทนทันที ผู้เขียนได้ไปอ่านเรื่องย่อและพบว่าเนื้อหาละครมีการชี้ปมขัดแย้ง สร้างประเด็นให้เห็นถึงตัวละครที่ทำผิดคิดชั่ว ได้สร้างเรื่องราวขึ้นมาทำให้ตัวละครฝ่ายดีมาแก้ไข กำราบ พิทักษ์ยับยั้งการกระทำนั้น ไม่ต่างอะไรกับโลกแห่งความเป็นจริงที่คนดีจะต้องจัดการกับคนเลว ไม่ให้ไปทำชั่ว ย่อมแสดงว่าเนื้อหาละครเป็นละครน้ำดี สอนให้คนทำดีจะได้ดี คนทำชั่วก็จะได้รับผลกรรมตามสนอง จึงไม่เข้าใจว่าเนื้อหาไม่เหมาะสมได้อย่างไร ในขณะที่ละครอีกเรื่องจากช่องเดียวกัน ที่สร้างกระแสเรตติ้งสูงสุดในปีที่ผ่านมา มีเนื้อหาชี้นำไปในทางไม่ดี ส่อเสียด มีพฤติกรรมชี้นำในทางผิดศีลธรรม ทำผิดต่อสถาบันครอบครัว กลับไม่ได้รับการท้วงติง ถูกระงับการฉาย หรือเซนเซอร์บทพูดของตัวละครที่ผู้เขียนคิดว่ามีความรุนแรงมากกว่าละครเหนือเมฆ 2เสียอีก ในขณะที่ผู้หลักผู้ใหญ่ของทางสถานีและสื่อในช่องก็เห็นดีเห็นงามกับกระแสละครที่เป็น talk of the town  ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็ไม่นำพาที่จะท้วงติงใดๆ มีเพียง ส.ว.หญิงท่านนึงที่ออกมาท้วงติงในประเด็นดังกล่าว แต่กับถูกสื่อโจมตีใส่ร้ายเสียอีก ราวกับเห็นกงจักรเป็นดอกบัว
-ต่อกรณีเรื่องประเด็นเนื้อหานั้น ผู้เขียนเข้าใจว่าการที่ละครเรื่องนึงจะถูกนำมาฉายออนแอร์ได้ต้องผ่านกระบวนการเซ็นเซอร์หรือฉายดูเพื่อเป็นการตรวจสอบเนื้อหาก่อนทุกเรื่องก่อนออกฉายของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรับผิดชอบ ซึ่งก็น่าจะได้ดูได้ชมในโครงเรื่องเนื้อหามาก่อนอยุ่แล้ว แต่ทำไมยังปล่อยให้ออกอากาศฉายมาได้ตั้งแต่ต้น แล้วเหตุใดจึงมาระงับเอาตอนที่ละครใกล้จะจบ ซึ่งทำให้ทำร้ายจิตใจคนดูเป็นอย่างมาก เห็นใจแฟนละครช่อง 3 และขอให้กำลังใจพี่ 2 นก ผู้จัดละครเรื่องนี้รวมถึงทีมงานและนักแสดงที่พวกท่านทำดีที่สุดแล้ว ผู้เขียนไม่อยากจะโทษผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตละครเรื่องนี้กลับจะชื่นชมด้วยซ้ำที่พวกท่านกล้าที่จะนำเสนอแง่มุมความจริงหรืออย่างน้อยเนื้อหาก็มีส่วนตีแผ่ความจริง สะท้อนสังคมและให้คติข้อคิดที่ดีแก่ผู้ชม มากกว่าจะผลิตละครประเภทประโลมโลกที่มีอยู่ดาดดื่น ไม่ได้สร้างสรรค์สังคมแต่อย่างใด และไม่คิดว่าทีมงานจะต้องการพาดพิงถึงใคร เพราะมันเป็นเพียงละครเรื่องนึง ซึ่งเป็นความบันเทิงรูปแบบนึงก็เท่านั้น ดูจบก็ผ่านเลยไปเสมือนทุกเรื่องที่เคยมีมา แต่การที่ทางสถานีสั่งแบนละครของตัวเอง ยิ่งทำให้เกิดบูมเมอแรงย้อนกลับ ผู้คนที่ไม่ได้สนใจติดตามก็พลอยมาสนใจละครเรื่องนี้ด้วย เฉกเช่นผู้เขียนเองก็ไม่ได้ดูละครเรื่องนี้มาแต่ต้น  
-ผู้เขียนไม่ได้เป็นแฟนละครของสถานีโทรทัศน์ที่เป็นข่าวอยู่เวลานี้ และเลิกดูละครของช่องนี้มานมนานแล้ว ตั้งแต่มีการนำเอาซีรี่ย์จีนที่ผู้เขียนชื่นชอบไปออกอากาศในยามวิกาลคือหลัง 2.00-3.00 น.ทำให้ไม่สามารถติดตามรับชมได้ และตั้งแต่สถานีโทรทัศน์ช่องนี้มีนโยบายในการซื้อตัวดารา นักแสดงจากต่างช่องมาสังกัดช่องตน มีการซื้อตัวนักข่าว ผู้สื่อข่าว ผู้ประกาศข่าวจากช่องคู่แข่งมาอยู่กับช่องตนอย่างมากมายจนล้นช่อง แต่ในขณะที่อุดมการณ์ และปรัชญาการทำสื่อนั้นไม่ได้พัฒนาขึ้นเลย ทำให้หมดศรัทธาในช่องนี้ไป และไม่ได้ติดตามดูละครหรือข่าวของช่องนี้เป็นหลักมานานแล้ว ทั้งๆที่ เมื่อยุคก่อตั้งสถานี ผู้เขียนเป็นแฟนละคร ซีรี่ย์จีน ซีรี่ย์ฝรั่งของช่องนี้อย่างเหนียวแน่นทุกเรือง ต่อกรณีนี้จึงไม่เสียใจหรือเสียดายอะไรกับละครเรื่องดังกล่าว แต่อยากจะบอกแฟนละครของช่องนี้ว่าควรจะทำใจกับนโยบายและปรัชญาการทำสื่อของช่องนี้ให้ดี อย่าไปคาดหวังอะไรให้มากมาย เพราะยังมีสื่อทางเลือกช่องอื่นๆ ที่มีรายการคุณภาพมากกว่าให้ติดตามอีกมาก ไม่ก็เลิกดูมันไปเสียจะดีกว่า

หัวข้อข่าวในเว็บดัง

“เหนือเมฆ” พ่นพิษ “นก ฉัตรชัย” อาจปิ๋วผู้จัดช่อง 3 ด้าน “นก สินจัย” ขอโทษบอกพูดไม่ได้จริงๆ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 มกราคม 2556 18:24 น.

“นก สินจัย” ทวีตขอบคุณทุกกำลังใจ เผยซาบซึ้งใจที่ทุกคนทำให้รู้ว่าตนไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก เจ้าตัวน้ำท่วมปากบอกขอโทษที่ไม่สามารถพูดอะไรได้เลย หึ่งช่อง3 สั่งนักแสดงหุบปาก จับตางานนี้ “นก ฉัตรชัย” อาจปิ๋วผู้จัดช่อง 3 ทำเอาช็อกวงการโทรทัศน์ หลังเมื่อคืนวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา ช่อง3 จัดการถอดละครเรื่อง “เหนือเมฆ 2 ตอน มือปราบจอมขมังเวทย์” ออกจากผังช่องกลางอากาศ ทั้งที่เดิมมีกำหนดจะออกอากาศตอนจบ ในวันอาทิตย์ที่ 6 ม.ค.ที่จะถึงนี้ ทำให้ละครเรื่องดังกล่าวได้ออกอากาศเพียงแค่ 9 ตอน จากทั้งหมด 12 ตอน และเป็นละครเรื่องแรกที่ไม่มีตอนจบ!! ท่ามกลางกระแสข่าวลือ ว่า โดนการเมืองบีบ เนื่องจากเนื้อหาของเรื่องบอกเล่าถึงเรื่องราวการคดโกง การแก่งแย่งชิงอำนาจของนักการเมืองนั้นมันไปจี้แทงใจดำใครเข้า จนเป็นเหตุให้ละครเรื่องเหนือเมฆ2 ต้องลาจอเร็วกว่าที่กำหนด สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนละคร ทำเอาช่อง3 โดนสังคมโจมตียับเยิน
ความเคลื่อนไหวล่าสุด ทางด้านของ “นก สินจัย” ได้ให้สัมภาษณ์กับทางหนังสือพิมพ์คมชัดลึกสั้นๆ ถึงเรื่องนี้ว่า… “เราต้องทราบอยู่แล้วเป็นธรรมดา เพราะเราทำงานด้วยกัน ส่วนสาเหตุจะมาจากอะไรนั้น ขออนุญาตไม่มีคำพูดใดๆ ทั้งสิ้น และไม่สะดวกที่จะตอบเลย ถามว่ารู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้ ขออนุญาตไม่มีคำพูดใดๆ ทั้งสิ้น จริงๆ ต้องขอโทษด้วย เราไม่สะดวกที่จะพูดเลย เพราะเราคงไม่สามารถตอบคำถามอะไรในส่วนนี้ได้ ขออนุญาตไม่มีคำตอบอะไรแล้วกัน ต้องขอโทษด้วยจริงๆ”
นอกจากนี้ หลังจากเมื่อวานที่ผ่านมา(4 ม.ค.) เจ้าตัวได้โพสต์ผ่านอินสตาแกรมของตนเอง โดยมีข้อความว่า...“เป็นกำลังใจให้ทีมงาน ละครเหนือเมฆ 2 คะ และเป็นที่แน่นอนแล้วว่า ละครเหนือเมฆ 2 จะจบในวันศุกร์นี้ “ฉันเชื่อและศรัทธาในความดี...อย่ากลัวที่จะเป็นคนดี อย่าอายที่จะทำดี” #นภา#เหนือเมฆ 2 รวมถึงข้อความว่า...“ไม่สำคัญว่าเกิดอะไรขึ้น สำคัญที่คุณคิดอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น”..ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ..

ล่าสุด นก สินจัย ยังได้ทวีตข้อความขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้ โดยบอกว่าซาบซึ้งใจที่ทุกคนทำให้รู้ว่าตนไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก “ขอบคุณนะคะ 2-3 วันมานี้ ทำให้ซาบซึ้งว่าเราไม่ได้อยู่ในโลกนี้เพียงลำพัง กราบสวยๆ ด้วยหัวใจจากทีมงาน นักแสดงและผู้จัดเหนือเมฆค่ะ” ทั้งนี้นอกจากจะมีแฟนละครให้กำลังใจอย่างท่วมท้นแล้ว เหล่าดาราด้วยกันเองต่างก็แสดงความห่วงใยและเป็นกำลังใจให้ทีมผู้สร้างรวมถึงนักแสดงเรื่องนี้มากมายเช่นกัน อาทิ “พจน์ อานนท์” ที่โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า “เข้าใจทีมงานเหนือเมฆ2 เลย ไม่เป็นไรให้กำลังใจพี่นกพี่อุ๋ย ละครดีมีสาระดันถูกแบนไม่ให้ฉาย หรือเข้าถึงยุคฮิตเลอร์ซะแล้ว เฮ้อเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย” ด้าน “ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน” ให้กำลังใจว่า “คนดีซะอย่าง น้องแรงใจให้ค่ะพี่” ส่วน “โก๊ะตี๋ อารามบอย” โพสต์ข้อความว่า “ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจครับ” ขณะที่ “กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์” ก็โพสต์ว่า “เราคือคนทำงาน ให้กำลังใจกันชนะใจคนดูเป็นพอ” อีกหนุ่มที่แสดงความคิดเห็นถึงกรณีนี้ก็คือหนุ่ม “แทค ภรัณยู” โดยเจ้าตัวโพสต์ว่า “จะแบนทำไม กลัวอะไร”

อย่างไรก็ตาม หลังจากได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ไปยัง “นก ฉัตรชัย” ในฐานะผู้จัดละครเรื่องนี้ รวมไปถึงผู้กำกับของเรื่องอย่าง “อุ๋ย นนทรีย์” แต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ทั้งคู่ มีเพียงความเคลื่อนไหวที่เจ้าตัวได้มาโพสต์ผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว โดยทางด้านของ “นก ฉัตรชัย” นั้นได้โพสต์รูปซีดีที่เขียนข้อความว่า “เหนือเมฆ2 ตอน 9” พร้อมข้อความสั้นๆ ว่า “ขอบคุณทุกกำลังใจครับ” เช่นเดียวกันกับ “อุ๋ย นนทรีย์” ที่โพสต์รูปละครเรื่องเหนือเมฆ2 พร้อมข้อความว่า “เหนือเมฆ 2 ตอน มือปราบจอมขมังเวทย์ : หลับให้สบายนะ” เพื่อแสดงความไว้อาลัยผลงานละครของตนเอง ส่วนผู้ประพันธ์เรื่องนี้อย่าง “คฑาหัสต์ บุษปะเกศ” ก็โพสต์ว่า “ขอบพระคุณทุกกำลังใจที่มีให้กันนะครับ”

ในขณะเดียวกัน ก็มีข่าวลือสะพัดว่าทางผู้ใหญ่ในช่อง 3 สั่งไม่ให้นักแสดงในเรื่องให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ ด้านผู้บริหารช่อง 3 เองก็ทำเฉยไม่ยอมแถลงข่าว ทั้งที่การกระทำดังกล่าวเป็นการหักดิบไม่ให้เกียรติและไม่เห็นใจคนดูที่เป็นแฟนละครช่อง 3 ที่ติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น นอกจากนี้ยังมีกระแสเกี่ยวกับอนาคตของ “นก ฉัตรชัย” ออกมาด้วยว่า ผลกระทบจากครั้งนี้ อาจทำให้เจ้าตัวไม่ได้เป็นผู้จัดละครให้กับช่อง3 อีกต่อไปก็เป็นได้

ดร.พิรงรอง รามสูตร นักวิชาการคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความในเว็บไซต์ @Pirongrong Ramasoota สงสัยว่าเหตุใดละครเรื่อง “เหนือเมฆ2” ถึงโดนแบน และสรุปว่า ไม่ได้ผิดตาม กม มาตรา 37 แต่ประการใด
ดร.พิรงรองระบุว่า "ปกติไม่เคยดูละครเหนือเมฆ2จริงจัง นั่งดูเป็นเพื่อนลูกชายบ้าง บางที แต่พอมันโดนแบนไปแบบมีเงื่อนงำ ก็เลยพยายามหาคำตอบ ตามประสาคนถูกปิดกั้น ถามไปที่คนที่รู้จักแถวช่อง3 ก็เจอคำตอบประมาณว่า ตอนนี้ช่อง3อยู่ในจุดที่น่ากลัวมากทางการเมือง ใครๆก็ไม่กล้าทำอะไรแล้ว ถามไปทาง กสทช. ก็ยืนยันว่าคือเรื่องการเซ็นเซอร์ตัวเองของสถานี (ไม่ใช่กำกับดูแลตนเอง เพราะไม่เหมือนกัน) พอมานั่งอ่านเรื่องย่อละครก็เจอkeyword กับเค้าโครงเรื่องที่น่าสนใจอยู่บางจุด ดังนี้
ดร.แพรไพลิน นางเอกเป็น ลูกสาว เพชรแท้ เจ้าแม่ธุรกิจเครือข่ายสื่อสารอันดับหนึ่งของเมืองไทย แพรไพลินไม่พอใจการทำธุรกิจแบบไม่ซื่อตรงของแม่ ดร.เมฆา นายกรัฐมนตรีผู้ซื่อตรงมีปากเสียงอย่างรุนแรงกับจักรนักการเมืองดาวรุ่งเรื่องสัมปทานดาวเทียมฯ ดวงใหม่ เพราะจักรต้องการให้เครือข่ายของเพชรแท้ได้รับอนุมัติ เมฆาถึงกับประกาศปลดจักรออกจากทุกตำแหน่ง แต่ทำอะไรจักรไม่ได้เพราะจักรมีจอมขมังเวทย์ชื่อวิญญูคอยช่วยเหลือ
ตอนจบ วิญญูโดนธรณีสูบ บทบรรยายว่า "ปรากฏธรณีแยกแตกออกเป็นรอยร้าว ดูดกลืนร่างวิญญูตกลงไปภายในคล้ายต้องการฝังกลบความเลวร้ายให้สูญสิ้น วิญญูขาดใจตายไปตรงนั้นพร้อม ๆ กับที่ร่างโดนดูดกลืนหายวับไปในพริบตา !"
ดร.พิรองรอง กล่าวต่อว่า “แต่ดูยังไง ก็ยังไม่เห็นว่าจะผิดมาตรา 37 ของพ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ตรงไหน เพราะมาตรานี้บอกห้ามอยู่สามสี่เรื่องเกี่ยวกับเนื้อหาคือ 1) ที่มีลักษณะล้มล้างการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2) ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐและความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของ ประชาชน 3) ที่เข้าลักษณะลามกอนาจารหรือมีผลกระทบต่อการให้เกิดความเสื่อม ทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง แล้วตอนจบที่คนชั่วถูกธรณีสูบนี่มันผิดข้อไหนอ่ะ? ช่วยให้ความกระจ่างด้วยค่ะ"


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น