วันเสาร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2555

ฟรีทีวีโชว์ช่วงไพร์มไทม์ รายการใดน่าสนใจใน พ.ศ.นี้ (ตอนที่ 1)



ปีนี้นอกจากจะเป็นปีมังกรทอง ที่คาดกันว่าวงการธุรกิจ วงการบันเทิงจะกลับมาคึกคักกันอีกรอบนึงแล้ว ภายหลังผ่านวิกฤติอันซบเซาของปีที่แล้วมาจากเหตุการณ์น้ำท่วม ยังอาจเป็นปีมังกรไฟที่จะเกิดความวุ่นวายทางการเมือง ความร้อนแรงของธาตุไฟ ซึ่งหมายถึงวงการบันเทิงที่จะมีผู้ที่จะเป็นดาวรุ่งและดาวดับเกิดขึ้นมามากมาย เฉกเช่นเดียวกับวงการทีวีบ้านเราที่อาจจะมีปรากฏการณ์อะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นมา พร้อมๆ กับผู้ที่จะต้องถูกเขี่ยตกเวทีไป เพราะไม่อาจปรับตัวตามไปได้กับกระแสการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ซึ่งมีมาตรวัด KPI’s อย่างเรตติ้งมาเป็นตัวกำหนด อีกทั้งปัจจัยค่าโฆษณาในช่วงไพร์มไทม์อีกด้วย กระแสที่เราได้เห็นในช่วงปีที่ผ่านมาอาทิ เช่น การแข่งขันกันด้านการทำข่าว รายการข่าว คุยข่าว เล่าข่าว ในช่วงหลายปีมานี้ ช่อง 3 สามารถเบียดแซงทุกช่องขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ของฟรีทีวีแล้ว รวมถึงกระแสความดังของละครทีวีช่วงไพร์มไทม์ที่ช่อง 3 ก็เบียดแซง บี้ช่อง 7 ขึ้นมาได้แบบหายใจรดต้นคอ และบางเรื่องนั้นแซงชนะอีกด้วย ในขณะที่รายการประเภทเรียลลิตี้โชว์ก็สามารถทำเรตติ้งเอาชนะเกมส์โชว์ขึ้นมาได้อย่างถล่มทลายในช่วงหลัง โดยเฉพาะช่อง 9 สามารถขึ้นแท่นเป็นผู้นำรายการเรียลลิตี้โชว์ของบ้านเราไป ในขณะที่ช่อง 5 คงทำได้แต่ยึดหัวหาดด้านรายการเกมส์โชว์ที่หลากหลายต่อไป ช่อง 7 นั้นคงต้องเผชิญความท้าทาย และการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปีนี้ ภายหลังเสียแชมป์ด้านรายการข่าวไป บุคลากรด้านข่าวถูกแย่งซื้อตัวจากช่องไปหลายคน ทางด้านรายการละครก็กำลังถูกท้าชิงและจ้องจะล้มแชมป์โดยคู่แข่งที่น่ากลัวและกำลังมาแรงสุดกู่อย่างช่อง 3 และช่องเอ็กซ์แซ็กท์ ข่าวช็อกวงการในปลายปีก็คือการที่ช่อง 7 ไม่ต่อสัญญาให้กับผู้บริหารเก่งอย่างคุณสุรางค์ เปรมปรีด์ ซึ่งเป็นผู้ปลุกปั้นวงการละครของช่อง 7 สีให้โด่งดัง และเป็นผุ้ปั้นดาราช่อง 7 ที่ดังๆ มากมาย การจากไปของคุณแดง จะทำให้ดาราแม่เหล็กหลายคนตบท้ายผละจากช่อง 7 สีไปอยู่ช่องอื่นกันหรือไม่ และภายหลังจากนี้กลยุทธ์ในการทำละครช่อง 7 จะเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ เป็นเรื่องน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในช่อง 7 หรือไม่

มาถึงช่องทีวีสาธารณะน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์อย่างทีวีไทย ซึ่งมีการปรับผัง เปลี่ยนโลโก้ กันหลายครั้ง มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบรายการแทบจะมากที่สุดกว่าทุกช่อง และผังล่าสุดที่ดูเหมือนจะลงตัว และเริ่มค้นหาทิศทาง และอัตลักษณ์ของตัวเองเจอแล้ว ว่าตนเองควรจะเป็นอะไร ทำหน้าที่อะไร และจะให้อะไรกับสังคมดี ผู้เขียนคิดว่าช่องทีวีไทยน่าจะเป็นช่องที่มีรายการคุณภาพมากที่สุดในบรรดาฟรีทีวีของไทยอยู่ในขณะนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายการจากผู้ผลิตอิสระ และหลายรายการทางช่องมีทีมงานผลิตเอง ซึ่งรูปแบบเนื้อหาก็น่าสนใจ แต่น่าเสียดายที่เนื่องจากการที่มันเป็นทีวีสาธารณะที่ไม่ค่อยเน้นธุรกิจโฆษณามากนัก เพราะได้งบประมาณจากภาครัฐ ทำให้งบประมาณในการผลิตรายการของช่องนี้จึงน้อย บางครั้งคิดว่าถ้ามีสปอนเซอร์ใจถึงมาช่วยอุปถัมภ์บางรายการ โปรดักชั่นในการถ่ายทำบางรายการจะดีขึ้นอีกเยอะ และรูปแบบก็จะน่าสนใจมากกว่าที่เป็นอยู่ อยากเห็นทีวีไทยอยู่ในสภาพที่คล้ายช่อง NHK ,BBC ,KBS เร็วๆ เมื่อนั้นทีวีของไทยจะดูเป็นสากลมากขึ้น มีสารคดีดีๆ ให้ได้ชม มีรายการวิเคราะห์เจาะข่าวที่น่าสนใจ ผู้ประกาศข่าว รายงานข่าวใช้ภาษาอังกฤษรายงานข่าวเป็นบางช่วง (ซึ่งตอนนี้ทีวีไทยก็ทดลองทำอยู่) ทีนี้เราจะมาวิเคราะห์กันดูคร่าวๆ ว่ารายการฟรีทีวีช่วงไพร์มไทม์ของแต่ละช่องนั้น เจ้าไหนเจ๋ง ใครจะอยู่ ใครจะไป กันบ้างในปีนี้มาดูกันทีละวันเรียงกันไปเลยจะดีกว่า ดังนี้

วันจันทร์ ช่อง 3 มี ข่าว 3มิติ,ทูไนท์โชว์ ,ช่อง 5 มีสตาร์นิวส์, ศึกน้ำผึ้งพระจันทร์ ,คนรักรถ, ช่อง 7 ข่าวประเด็นเด็ด 7 สี,จันทร์พันดาว โจ๊ะพรึ่มๆ ช่อง 9 มีข่าวข้นคนข่าว, วีไอพี ช่องทีวีไทยมี เปิดปม,บางบรรเลงเพลงระนาด ถ้าไม่นับรายการข่าวที่จัดมาชนกันของ 3,5,7,9,ทีวีไทย ดูเหมือนข่าว3มิติ กับประเด็นเด็ด 7 สีจะขี่ช่องอื่นอยู่เล็กน้อย เพราะมีข่าวเจาะมากกว่าช่องอื่น ในขณะที่ช่วงสนทนาในรายการตอบโจทย์ของทีวีไทยดูมีความน่าสนใจ การตั้งประเด็นและเชิญแขกวิทยากรมาร่วมรายการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทำได้ดีในหลายหัวข้อ จะว่าไปวันจันทร์ดูจะเป็นวันที่ทุกช่องมีศักยภาพสูสีกัน ไม่มีใครจะสามารถยึดกุมคนดูได้อย่างอยู่หมัดเสียทีเดียว รายการใหม่ๆ มีสิทธิ์แจ้งเกิดเหมือนกันหากมาลงในวันจันทร์ และหากมีรูปแบบรายการน่าสนใจ ทูไนท์โชว์เคยทำได้ดีในช่วงเปิดรายการใหม่ ช่วงพาไปทัวร์ต่างประเทศของคุณณวัฒน์ ยังคงเป็นไฮไลท์ของรายการ แม้ว่าบางตอนจะเริ่มไม่น่าสนใจแล้ว และมีสิทธิ์จะ down ลงหากไม่คิดพัฒนารูปแบบรายการใหม่,รายการศึกน้ำผึ้งพระจันทร์ จับผู้ชมเฉพาะกลุ่มจัดเป็นเกมส์โชว์ที่น่าสนใจรายการหนึ่ง ในขณะที่จันทร์พันดาว อาจดูคล้ายรายการประกวดร้องเพลงประเภทเรียลลิตี้เหมือนกัน แต่แทนที่จะเป็นพวกวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ แต่กลับนำชาวบ้าน คนธรรมดาติดดินนี่แหละมาร้องเพลงเพื่อชิงเงินรางวัลก้อนหนึ่งเพื่อเอาไปทำฝัน และมีคอมเมนเตเตอร์มาคอยแนะนำด้วย จะว่าไปก็คือเดอะสตาร์ในเวอร์ชั่นรากหญ้านั่นเอง ส่วนรายการวีไอพี บางเทปบางตอนน่าสนใจ แขกที่เชิญมาในรายการแทบทุกตอนเป็นบุคคลธรรมดาสามัญแต่ชีวิตของพวกเขาน่าสนใจแตกต่างกัน ให้ข้อคิดที่ดี เป็นรายการสนทนา ทอล์คโชว์ที่ดีรายการนึง วันจันทร์นี้ผู้เขียนจึงแอบเทใจให้วีไอพี เป็นที่ 1 และ ทูไนท์โชว์เป็นที่ 2 บางอาทิตย์ก็สลับกัน และเปิดปมเป็นที่ 3


วันอังคาร ช่อง 3 มี ตีสิบ ,ช่อง 5 มีสตาร์นิวส์, สะบัดช่อ,โชว์มีเฮ ,ช่อง 7 มี ซีรี่ย์อเมริกัน คั่นโปรแกรมช่วงสั้นเพื่อรอรายการใหม่นั่นก็คือรายการอัพทูยู คู่ซ่าส์ (ของค่ายทริปเปิ้ลทู) ,ช่อง 9 มี ข่าวข้นคนข่าว,คนค้นคน ,คนบันดาลใจ The Idol ช่องทีวีไทย มีคนละดาวเดียวกัน,โลกสามมิติ วันอังคารนั้นมีเจ้าถิ่นที่ครองบัลลังก์เรตติ้งมาอย่างยาวนานนั่นก็คือตีสิบ ยากที่จะมีคู่แข่งมาต่อกร เมื่อก่อนยังมีชิงร้อยชิงล้านที่พอจะเป็นคู่แข่งพอฟัดพอเหวี่ยง แต่ภายหลังย้ายมาอยู่ช่องเดียวกันต่างเวลา ก็ยิ่งสบายตีสิบเข้าไปอีก แต่อยากจะบอกทีมงานว่าอย่าประมาทไป หากไม่คิดพัฒนาปรับปรุงรายการหล่ะก็ คู่แข่งใหม่อย่างอัพทูยูคู่ซ๋าส์ของทริปเปิ้ลทูซึ่งสดใหม่กว่าจะมาแย่งชิงเรตติ้งก็เป็นได้ ก็รอดูว่าจะมีความน่าสนใจเพียงใดเมื่อมาแทนชิงร้อยชิงล้านของเวิร์คพ้อยท์ ในขณะที่คนค้นคน ของทีวีบูรพาทาง ช่อง 9 ปีนี้จะมีอะไรใหม่มานำเสนออีกมั๊ย กลุ่มคนดูรายการคนค้นคน คงไม่แมสพอที่จะไปแย่งชิงคนดูกับตีสิบเป็นแน่ คู่แข่งในระนาบเดียวกันก็น่าจะเป็นรายการจากช่องทีวีไทย อย่างคนละดาวเดียวกันและโลกสามมิติ คนละดาวเดียวกัน เป็นเกมส์โชว์กึ่งจิตวิทยา โดยนำกรณีศึกษาเรื่องปัญหาชายหญิงมาทายกัน ผู้แข่งขันแบ่งเป็น 2 ทีม รายการรูปแบบนี้ทั้งสนุกและสาระนำไปปรับใช้ในชีวิตจริงได้ ในขณะที่สะบัดช่อและโชว์มีเฮคงต้องเหนื่อยที่ต้องแย่งชิงคนดูจากรายการตีสิบมา เพราะกลุ่มคนดูและรูปแบบรายการคล้ายกัน ยังรู้สึกเสียดายที่ช่อง 7 เอาซีรี่ย์มาแค่คั่นโปรแกรมรายการใหม่ แต่ถูกใจคอซีรี่ย์อย่างผู้เขียนมาก อยากให้ดึงเอาซีรี่ย์มาอยู่ช่วงเย็นของเสาร์อาทิตย์หรือวันใดวันหนึ่งในช่วงไพร์มไทม์ เพราะคิดว่ากลุ่มคนดูที่ชอบซีรี่ย์ฝรั่งมีไม่น้อยนะ ช่วงหลังๆ ฟรีทีวีไม่ค่อยนำมาลงให้ดูในเวลาที่เหมาะสมเลย วันอังคารผู้เขียนคงต้องเทใจให้กับตีสิบเป็นหลักไว้ก่อน โดยมีคนค้นคน ช่อง 9 กับคนละดาวเดียวกันช่องทีวีไทย อัพทูยูคู่ซ่าส์ เป็นตัวสอดแทรก (น้องใหม่) ในบางสัปดาห์ หากช่วงดันดาราไม่น่าสนใจ มีสิทธิ์เปลี่ยนช่องหนีไปดูช่องอื่นแน่ เพราะของช่องอื่นสดใหม่กว่าตีสิบมากๆ

วันพุธ ช่อง 3 มีข่าว 3 มิติ ,ราตรีสโมสร ,ช่อง 5 มีสตาร์นิวส์, คนอวดผี ,ช่อง 7 ข่าวประเด็นเด็ด 7 สี,ซีรี่ย์อเมริกัน คั่นโปรแกรมช่วงสั้นเพื่อรอรายการใหม่นั่นก็คือเชฟกะทะเหล็กประเทศไทย ,ช่อง 9 มีข่าวข้นคนข่าว, หน้ากากทองคำ ,lifeberry ชีวิตติดมัน(ส์) ช่องทีวีไทยมีชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ,ณ อาร์ต คลับ บอกตามตรงว่าวันพุธ แต่เดิมผู้เขียนก็จะชอบดูรายการโชว์มีเฮของเอ็กซ์แซ็กท์ แต่ดันถูกย้ายไปเป็นอังคารแทน ทำให้วันพูธ กลายเป็นวันที่รีโมตทีวีทำงานมากที่สุด เพราะผู้เขียนจะเปลี่ยนดูแทบทุกช่องขึ้นอยู่กับรายการไหนน่าสนใจตรึงเราให้อยู่ในความสนใจได้มากกว่ากัน ก็จะดูรายการนั้น แต่ปกติก็ไม่ชอบฟังเรื่องเล่าผีๆ สางๆ อยู่แล้ว (คนอวดผี) ไม่ว่าเรตติ้งเขาจะเป็นยังไง ผู้เขียนคงจะขอบาย รายการที่น่าสนใจจึงเป็นรายการใหม่อย่าง หน้ากากทองคำ,lifeberry และของทีวีไทยก็ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ,ณ อาร์ต คลับ แต่ก็จะรอดูรายการใหม่เชฟกะทะเหล็กประเทศไทย ของช่อง 7 ว่าจะมีดี น่าสนใจหรือไม่ อาจเป็นม้ามืดแซงทางโค้ง มาวินเป็นอันดับ 1 ในใจผู้เขียนก็เป็นได้

วันพฤหัส ช่อง 3 มีข่าว 3 มิติ,เป็นต่อ (รอเปลี่ยนซิทคอมเรื่องใหม่) ,ช่อง 5 มีสตาร์นิวส์, เจาะใจ ,ช่อง 7 ข่าวประเด็นเด็ด 7 สี ,เรื่องจริงผ่านจอ, ช่อง 9 มีข่าวข้นคนข่าว,ล้วงลับอัพโหลด ช่องทีวีไทยมีพื้นที่ชีวิต, Hot Shot Film แน่นอนว่าผู้เขียนคงจะดูซิทคอมเป็นต่อยืนพื้นแน่ ดูมานานหลายปีแล้ว แม้ว่ามีข่าวว่าจะถูกถอดออกจากโปรแกรมมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว แต่ก็ยืนหยัดอยู่มาจนข้ามปี แต่มาปีนี้เราจะคอยดูผลงานเรื่องใหม่ของเอ็กซ์แซ็กท์ที่จะมาแทนเป็นต่อว่ารสชาดจะจัดจ้านเหมือนเดิมมั๊ย แต่ยังไงก็ยังเสียดายเป็นต่ออยู่ดี ไม่ได้เทใจไปให้ช่องอื่นเลย จะมีบ้างก็อาจเหลือบไปดูเจาะใจบ้าง หรือว่า Hot Shot Film ส่วนล้วงลับอัพโหลดขอบาย ไม่ค่อยนิยมรายการรูปแบบนี้ซักเท่าไหร่ ส่วนเรื่องจริงผ่านจอนั้นถือเป็นเรียลลิตี้ ผสมสารคดีข่าว ที่ยืนยงมาอย่างยาวนาน รายการรูปแบบนี้ยังคงน่าสนใจ และสดใหม่ได้เสมอ หากมีวิธีการนำเสนอที่น่าสนใจ ในเมืองนอกรูปแบบรายการแบบนี้นั้นเรตติ้งสูงมาก แต่น่าเสียดายว่าทำไมบ้านเราเอามาทำแล้ว โปรดักชั่นมันไม่ถึงหรือยังไงไม่ทราบ เสน่ห์มันขาดหายไป ทำไมไม่ทราบมันไม่สามารถตรึงความสนใจของผู้เขียนได้เลย ทั้งๆ ที่ content ดีสุด ๆ กันตนาช่วยปรับปรุงทีเถอะ เสียดายคอนเซ็ปต์รายการจริง ๆ อยากเห็นการนำเสนอที่มันอินเตอร์กว่านี้ หรือคิดว่าเรตติ้งอันดับ 1 อยู่แล้วจึงไม่ต้องปรับปรุงอะไร แต่มันยังไม่ได้ใจคนเมืองอย่างผู้เขียนอ่ะ

วันศุกร์ ข่อง 3 มีข่าว 3 มิติ,รู้จริงป่ะ (ช็อก) ,ช่อง 5 มีสตาร์นิวส์, แฟนพันธุ์แท้รีเทิร์น ,ช่อง 7 ข่าวประเด็นเด็ด 7 สี,วันวานยังหวานอยู่ , ช่อง 9 มีข่าวข้นคนข่าว,สุริวิภา,ไมค์คู่เอก ช่องทีวีไทย มีคุยกับแพะ,สารคดีบุคคลอาเซียน การหวนกลับมาของเกมส์โขว์ยอดนิยมอย่างแฟนพันธุ์แท้ ทำให้ผู้เขียนรอคอยที่จะได้ชมรายการนี้ เกมส์โชว์ที่สนุกที่สุดแห่งยุค และเป็นการกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์วันศุกร์กลับคืนมาด้วย แต่ก็ยังเสียดายรายการเดิมอยู่นะ (sme ตีแตก) ไม่รู้ว่าเลิกผลิตไปเลยหรือแค่ย้ายเวลาแต่ไม่อยากให้เลิกไปเลย วันวานยังหวานอยู่ กับสุริวิภา คงเป็นตัวสอดแทรกในบางอาทิตย์ที่แฟนพันธุ์แท้ไม่น่าสนใจ รู้จริงป่ะ (ช็อก) รายการนี้ขอบาย วันศุกร์จะเป็นการช่วงชิงเรตติ้งกันอย่างสุดมันส์ โดยให้แฟนพันธุ์แท้เป็นต่อนิด ๆ ตามมาด้วย สุริวิภา วันวานยังหวานอยู่ และ รู้จริงป่ะ (ช็อก)


วันเสาร์ ช่อง 3 มีข่าว 3 มิติ,มหาชนเดอะซีรี่ย์,ซีรี่ย์จีน นักชกผู้พิชิต ,ช่อง 5 มี 5 มหานิยม,มวยไทยลุมพินีเกริกไกร ,ช่อง 7 มีบิ๊กซีนีม่า ,ช่อง 9มี The Acting Queen & Hero ล้านฝันสนั่นจอ ปี 2,ซีรี่ย์เกาหลี,จบจากนี้จะเป็น เดอะสตาร์ 8 ต่อเลย ช่องทีวีไทยมีดนตรี กวี ศิลป์,ไทยเธียเตอร์ (ซีรี่ย์อเมริกัน) ผู้เขียนจะดูเรียลลิตี้โชว์เป็นหลักสำหรับวันเสาร์ หากไม่น่าสนใจก็จะหันไปดูบิ๊กซีนีม่า หรือไทยเธียเตอร์ ขึ้นอยู่กับหนังเรื่องใดสนุกกว่ากัน แอบเทใจให้ทีวีไทย เพราะมีรายการดนตรี กวี ศิลป์ (ชอบมาก) แล้วต่อด้วยไทยเธียเตอร์ (ภ.ต่างประเทศ) ช่วงหลังมานี้เอาซีรี่ย์อเมริกันมาฉายด้วย เริ่มด้วย TAKEN ซีรี่ย์ไทยกับจีนของทางช่อง 3 น่าเบื่อมากๆ โปรแกรมไม่ค่อยน่าสนใจมานานแล้ว ส่วนบิ๊กซีนีม่าของช่อง 7 นั้นกระแสตกจริงๆ ช่วงหลังเอาหนังไทย จีน เกาหลีมาปนอยู่ด้วย ซึ่งแต่ก่อนจะเป็นฮอลลีวู้ดล้วนๆ และก็เป็นโปรแกรมเพชรหนังพันล้านจริงๆ ฉายแต่หนังดัง ช่วงหลังหนังเกรดบีก็เห็นเอามาฉาย ก็เลยงงว่ายังใช้ชื่อบิ๊กซีนีม่าอยู่ได้ยังไง น่าจะเปลี่ยนเป็นมงคลเมเจอร์ซีนีม่าน่าจะถูกต้องมากกว่า (ขออภัยหยิกแกมหยอก) แต่ยังไงก็ยังติดตามชมอยู่ดีหากว่ามีโปรแกรมที่น่าสนใจ

วันอาทิตย์ ช่อง 3 มีละครวิ้งค์เจ้าเสน่ห์ ,ช่อง 5 มีบันทึกท่องเที่ยว,เอเชี่ยนเคาน์ดาวน์,สลัดมันส์อันลิมิเต็ด ,ช่อง 7 มีที่นี่หมอชิต ,ช่อง 9 มีประสบการณ์ล้านอาชีพ,วู้ดดี้เกิดมาคุย ช่องทีวีไทยมี 2563 เปลี่ยนประเทศ, asian focus,มองมุมใหม่,โลกหลากมิติ วันอาทิตย์คงเป็นวันเดียวในรอบสัปดาห์ที่ผู้เขียนเองไม่นิยมดูทีวี เพราะจะฟังรายการวิทยุกับเล่นเน็ตมากกว่า แต่หากจะดูก็คงมีแค่ 2 รายการนี้คือ วู้ดดี้เกิดมาคุย กับที่นี่หมอชิต หรือดูช่องเคเบิ้ลทีวีอื่นไปเลยมากกว่า ส่วนรายการดีๆ ช่องทีวีไทยก็น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น 2563 เปลี่ยนประเทศ ,asian focus, มองมุมใหม่ ,โลกหลากมิติ เพียงแต่รายการดีๆ เหล่านี้ถูกจับมาอยู่ในช่วงไพร์มไทม์แต่ไม่มีกระแสที่ดี ก็จะถูกรายการอย่างวู้ดดี้ เกิดมาคุย ซึ่งเด่นในการเรียกกระแส ,talk of the town เอาไปกินเสียหมด จะทำอย่างไรดีนะ รายการดีๆ ของช่องทีวีไทย จึงจะสร้างกระแสความน่าสนใจจากคนดูได้บ้าง แต่ผู้เขียนเป็นอีกคนหนึ่ง ที่ดูรายการทีวีรายการใดก็ตามที่มีเนื้อหาน่าสนใจ ไม่สนใจกระแสความดัง ความคลั่งไคล้ของอะไรก็ตาม หากผู้เขียนไม่ได้รู้สึกอินด้วยแล้ว ก็เปลี่ยนหนีเช่นกัน

การเสพติดรายการทีวีนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียเหมือนกัน ข้อดีก็อย่างเช่นเป็นความบันเทิงราคาถูก ประหยัด นั่งชมเพื่อการพักผ่อน ความบันเทิง บางครั้งเป็นการบำบัดจิต ให้มีอารมณ์สดใส ได้ความรู้ จรรโลงใจ มองโลกในแง่บวก มีความหวังในชีวิต เอาความรู้ไปปรับใช้กับชีวิตตนเองได้ ข้อเสียของการดูทีวีก็คือ คณก็จะเสียเวลาไปกับการนั่งดูทีวี ไม่สามารถไปทำอย่างอื่นได้อย่างมีสมาธิมากนัก เวลาในการพักผ่อนหรือทำกิจกรรมอย่างอื่นก็จะลดลง บางครั้งการดูทีวีแล้วจริงจัง หรืออินไปกับเนื้อหา ทำให้เครียด กังวลใจ วิตกจริต เกิดความกลัว การเสพติดการดูทีวีทำให้สุขภาพแย่ก็มี ผู้เขียนก็เป็นเช่นกัน ยิ่งการดูทีวีในช่วงไพร์มไทม์ทุกคืน ทำให้เวลาในการพักผ่อนหลับนอนลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด และมีผลต่อการไปทำงานตอนเช้าด้วย และก็มีงานวิจัยได้ระบุออกมาว่าการนั่งดูทีวีติดต่อกัน 5-6 ชั่วโมงขึ้นไป ทุกๆ วัน มีสิทธิ์ที่จะทำให้ระดับการพัฒนาทางด้านสติปัญญาของเราลดน้อยลง และก็เข้าข่ายเสพติดการดูทีวีด้วย อันนี้ผู้เขียนคงจะต้องอยู่ในข่ายนี้แน่ๆ และคงต้องหาทางบำบัดโดยเร่งด่วนแล้ว หาไม่แล้วอาจกลายเป็นคนสติปัญญาอ่อนลง ดีว่าผู้เขียนเป็นผู้ที่ไม่นิยมดูละครไทยซักเท่าไหร่ หรือเลือกดูในปริมาณที่น้อยมากๆ ไม่อย่างนั้นอาจกลายเป็นคนปัญญาอ่อนไปแล้วก็ได้ (ขออภัยหยิกแกมหยอก)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น