วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ราชประสงค์วันนี้

หลายคนอยากรู้ว่า Central World Plaza (เซ็นทรัลเวิลด์) หรือที่เรียกติดปากว่า Central World ที่ถูกวางเพลิงจน ไฟไหม้ จากเหตุการณ์จราจลนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร ประวัติ และ ความเป็นมาของ Central World นั้นน่าสนใจมาก จากครั้งหนึ่งที่ศูนย์การค้าแห่งนี้เคยถูกเรียกว่า เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ (World Trade Center) จนถึงยุคที่เปลี่ยนมือบริหารไปสู่กลุ่ม Central
ประวัติ ที่มา Central World Plaza เซ็นทรัลเวิลด์

ประวัติ ที่มา Central World Plaza (เซ็นทรัลเวิลด์)

“เซ็นทรัลเวิลด์” เดิมชื่อ “เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์” เป็นโครงการศูนย์การค้า โรงแรม และอาคารสำนักงาน ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ถนนราชดำริ ตัดกับถนนพระราม 1 เป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของเอเชีย และมีพื้นที่ขายมากเป็นอันดับ3ของโลก
เดิมเป็นพื้นที่ของศูนย์การค้าเป็นที่ตั้งเดิมของวังเพชรบูรณ์ วังที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย ต่อมาเมื่อสมเด็จเจ้าฟ้าฯ สิ้นพระชนม์ นักธุรกิจญี่ปุ่นได้ขอซื้อที่ดินบริเวณวังเพื่อก่อสร้างห้างไทยไดมารู ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการศูนย์การค้าราชประสงค์ จากนั้น บริษัท วังเพชรบูรณ์ โดยนายอุเทน เตชะไพบูลย์ ได้เช่าที่ดินนี้จากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อก่อสร้างห้างสรรพสินค้า
“เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์” เริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2525 และเปิดดำเนินการเมื่อ พ.ศ. 2532 ประกอบด้วยห้างสรรพสินค้าเซ็น (ZEN) และ อิเซตัน (Isetan) เมื่อบริษัท วังเพชรบูรณ์ ประสบปัญหาทางการเงิน ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างโรงแรมและอาคารสำนักงานให้แล้วเสร็จ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จึงเปิดโอกาสให้บริษัทอื่นเข้ามาประมูลเป็นผู้บริหารศูนย์การค้า ซึ่งบริษัทที่เสนอตัวเข้ามาคือกลุ่มเซ็นทรัลและเดอะมอลล์
ปัจจุบันโครงการนี้บริหารงานโดย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (CPN) โดยในระยะแรกเป็นการปรับปรุงและต่อเติมอาคารสำนักงาน ที่ทางเจ้าของพื้นที่เดิมได้สร้างไว้แต่ยังไม่แล้วเสร็จ
จากนั้นจึงเริ่มปรับปรุงในส่วนของศูนย์การค้าโดยเปลี่ยนชื่อเป็น “เซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่า” (Central World Plaza) และสร้าง “เซ็นทรัลเวิลด์สกายวอล์ก” (CentralWorld Skywalk) ทางเชื่อมลอยฟ้าระหว่างสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีชิดลม และสถานีสยาม โดยความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร เพื่อรองรับลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ต่อมาในปี 2549 บริษัทได้มีการปรับปรุงทั้งบริเวณโดยรอบทั้งหมด และเปลี่ยนชื่อศูนย์การค้าเป็น “เซ็นทรัลเวิลด์” โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดศูนย์การค้า เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550  Central World ช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ ใหญ่ติดอันดับโลก ด้วยความใหญ่ของเซ็นทรัลเวิลด์ที่มุ่งดึงดูดลูกค้ากว่า 150,000 คนต่อวัน จึงได้ออกแบบให้มีประตูเข้าออกช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ถึง 18 จุด เพิ่มความสะดวกในการเดินเข้าออกนอกจากนี้ยังจัดที่จอดรถถึง 7,000 คัน และถนน 6 เลน (CentralWorld Avenue) รอบช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ เพื่อพักและระบายรถยนต์ที่เข้าออกช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ได้ทางถนนเส้นหลัก 2 สาย คือถนนพระราม 1 และถนนราชดำริ เรามาดูว่า ภายในอาณาจักร Central World นั้นประกอบไปด้วย 2 ส่วนใหญ่ๆคือส่วนที่เป็นโรงแรม และ Shopping Center

Central World Plaza Shopping Center

Central World Plaza  มีพื้นที่รวม 550,000 ตรม. ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้าที่มีสาขาเดียวในไทย 2 ห้าง (เซน และ อิเซตัน) ร้านค้ากว่า 500 ร้าน ประกอบด้วยร้านแฟชั่นแบรนด์เนมที่เป็น แฟลกชิพสโตร์ 35 ร้าน ร้านแฟชั่นแบรนด์เนมที่เปิดใหม่เป็นครั้งแรกในประเทศไทย 36 ร้าน ร้านแฟลกชิพสโตร์ของร้านค้าปลีกเฉพาะประเภท 6 ร้าน ร้านอาหารกว่า 50 ร้าน โรงภาพยนตร์ 21 โรง และศูนย์โบว์ลิ่ง โซนกิจกรรมและศูนย์การเรียนรู้สำหรับเด็ก ลานกิจกรรมกลางแจ้ง

Centara โรงแรมระดับ 5 ดาว

พื้นที่ 90,000 ตรม. จำนวน 55 ชั้น – สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 2551 จำนวนห้อง 500 ห้อง ศูนย์ประชุม พื้นที่ 17,000 ตรม – สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปลายปี 2549 เป็นหนึ่งในศูนย์ประชุมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย ปลูกสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบไร้เสา อาคารสำนักงาน พื้นที่ 80,000 ตรม. / จำนวน 45 ชั้น – สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว เป็นหนึ่งในอาคารที่มีความทันสมัยที่สุดในประเทศไทย ลานจอดรถในร่มที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พื้นที่ 287,000 ตรม. รองรับรถยนตร์ได้มากถึง 7,000 คัน

ภายในศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์

เซ็นทรัลเวิลด์ แบ่งพื้นที่ภายในศูนย์การค้า แบ่งโซนจากเดิม 3 โซน เป็น 7 โซน และ 4 อาคารประกอบ ประกอบด้วย
เอเทรี่ยม ( Atrium) เป็นโซนตกแต่งแบบหรูหรา สถาปัตยกรรมทรงโค้งเหมือนคลื่น “บีคอน”( Beacon) มีลานกว้างรูปเปลือกหอย Marquise เป็นเอกลักษณ์ของโซน
เซ็นทรัลคอร์ท ( Central Court) เป็นจุดเชื่อมต่อของศูนย์การค้า ลักษณะเป็นลานวงกลมใหญ่ จุดเด่นคือ ลิฟต์แก้วแบบพาโนรามา 360 องศา 2 ตัว และ บันไดเลื่อนแบบวนรอบ
แดสเซิล (Dazzle) จุดเด่นคือเป็นที่ตั้งร้านค้าค้าปลีกชั้นนำในโซนเดียว รวมทั้งเป็นที่ตั้งของลิฟต์ทางเชื่อมสู่บางกอกคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ อีกด้วย
อีเดน (Eden) จุดเด่นเป็นลานทรงสี่เหลี่ยมพื้นผ้า มีเพดานสูง โทนสีขาวสบายตา และติดตั้งโมบายพลาสติกใสที่จะมีแสงส่อง เสมือนว่าเปลี่ยนสีได้
ฟอรัม ( Forum )จุดเด่นคือเป็นลานที่ออกแบบเพื่องานแฟชั่นโชว์ และมีเวทีไฮดอร์ลิดที่สามารถปรับระดับได้ มีร้านค้าประเภทเสื้อผ้าและแฟชั่น และมีแผงกั้นทางเดินที่เปลี่ยนสีได้
เซ็นเตอร์พ้อยท์ ( Centerpiont )โซนใหม่ล่าสุดของศูนย์การค้า ตั้งอยู่ที่ชั้น 7-8 ในพื้นที่โรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ เดิมซึ่งประกอบไปด้วย Centerpoint Playhouse และ Cyberia DigitalPlayground โรงละครและศูนย์รวมของโลกดิจิตอลแห่งใหม่
ดิออฟฟิศเซส แอทเซ็นทรัลเวิลด์ ( The Offices at Centralworld) อาคารสำนักงานทันสมัย ลิฟท์ความเร็วสูง ระบบคีย์การ์ด
โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ (Centara Grand Hotel) โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว พร้อมภัตตาคารลอยฟ้า และศูนย์แสดงสินค้าและห้องประชุม
เซน เวิลด์ ( Zen World) อาคารที่รวบรวมความบันเทิง อยู่ด้านบนห้างสรรพสินค้าเซน และยังมีร้านอาหารมุมมองพาโนรามา ฟิตเนส อีกมากมาย
อิเซตัน ( Isetan) อาคารที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์เดิมเอาไว้ทั้งหมด ที่นำงานประติมากรรมมาเป็นองค์ประกอบในการตกแต่ง เพื่อเชื้อเชิญให้ผู้ที่เดินผ่านไปมาสนใจและมีปฏิสัมพันธ์กับตัวประติมากรรม นับเป็นบทบาทใหม่ของงานศิลปะที่สร้างความสุขสนุกสนานให้กับผู้คนทั่วไปในช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ นอกเหนือจากจรรโลงใจหรือเป็นเพียงสัญลักษณ์ของสถานที่อย่างที่เคยเป็นมา
ซึ่งแต่ละโซนได้รับการออกแบบให้มีรูปทรงบรรยากาศ และจุดดึงดูดสายตาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตน ช่วยสร้างบรรยากาศในการช้อปปิ้งที่หลากหลาย และช่วยให้ลูกค้าสามารถแยกความแตกต่างของโซนที่ตัวเองเดินอยู่ได้

ภาพเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ห้าง Central World Plaza (เซ็นทรัลเวิลด์) 19 พฤษภาคม 2553
ไฟใหม้ Central World เซ็นทรัลเวิลด์
ภาพเหตุการณ์ ไฟไหม้ Central World Plaza เซ็นทรัลเวิลด์
ภาพเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ห้าง Central World Plaza (เซ็นทรัลเวิลด์) จนถล่ม
Tag: central world ถล่ม, central world ถล่มแล้ว, CTW ถล่ม, ข่าว central world, ข่าวCTWถล่ม, ข่าวด่วน เซ็นทรัลเวิร์ล, ข่าวเซ็นทรัลเวิร์ล, ข่าวเซ็นทรัลเวิร์ล ล่าสุด, รูป central world ถล่ม, รูปเซ็นทรัลเวิร์ลถล่ม, เซ็นทรัลเวิร์ ลถล่มแล้ว, เซ็นทรัลเวิร์ล ล่าสุด, เซ็นทรัลเวิร์ลถล่ม, เผาห้าง central world, เผาห้าง เซ็นทรัลเวิร์ล, เผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์, ไฟไหม้ central world, ไฟไหม้ CTW, ไฟไหม้ เซ็นทรัลเวิร์ล, ไฟไหม้เซ็นทรัลเวิร์ลถล่ม


ปิดถนนย่านราชประสงค์จัดงานไทยแลนด์แฟชั่นเอ็กซ์โป ทูบีนัมเบอร์วัน ฟื้นธุรกิจและแฟชั่นไทย
เตรียมจัดงานไทยแลนด์ แฟชั่น เอ็กซ์โป ทูบีนัมเบอร์วัน ช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนนี้ บริเวณย่านการค้าราชประสงค์ ทำให้กลับมาเป็นศูนย์กลางแฟชั่นและการค้าของไทยอีกครั้ง" นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ ได้อนุมัติใช้เงินกองทุนฯ 410 ล้านบาท เพื่อใช้จัดกิจกรรมหลัก นอกจากนี้งานไทยแลนด์ แฟชั่น เอ็กซ์โป ทูบีนัมเบอร์วันแล้ว ยังจะใช้จัดงานไทยแลนด์ เวิลด์ เอ็กซ์โป เซี่ยงไฮ้ ที่ประเทศจีน และงานยกระดับภาพลักษณ์สินค้าและบริการไทยสู่ตลาดจีน ในช่วงเดือน พ.ค.-ต.ค.53 รวม 6 เดือน ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าและประเทศไทยได้มาก

ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้เตรียมมาตรการเยียวยาธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง โดยเฉพาะมาตรการสร้างอาชีพกับประชาชน โดยได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้านำโครงการสร้างอาชีพ(เรนโบว์ โปรเจ็กต์) ที่เคยใช้ช่วยเหลือคนว่างงานในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจในปีที่ผ่านมามาช่วยเหลือประชาชนที่ว่างงาน เน้นสร้างอาชีพในกลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงธุรกิจขายตรง พร้อมกับให้ประสานไปยังธนาคารรัฐปล่อยกู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับเปิดกิจการด้วย

ส่วนผู้ประกอบการโลจิสติกส์ที่ได้รับผลกระทบ เบื้องต้นคาดว่าจะช่วยแก้ปัญหาขาดสภาพคล่อง โดยมีวงเงิน 3,000 ล้านบาทที่ใช้สนับสนุนผู้ประกอบการโลจิสติกส์มาปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ

กระทรวงพาณิชย์ เปิดตัวโครงการ Thailand Fashion Expo 2010 ที่จัดขึ้นภายใต้แนวความคิด “Gate Way to Workld Fashion in Asia” เพื่อประกาศศักยภาพความพร้อมของอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยให้เป็นผู้นำด้านสินค้าแฟชั่นในเอเชีย-แปซิฟิก นำเสนอความยิ่งใหญ่ครั้งแรกแห่งปรากฎการณ์แฟชั่นระดับโลกในอาเซียนและเพื่อให้บรรลุเป้าหมายภายใต้วิสัยทัศน์ที่จะผลักดัน Thailand become the biggest high potential player in the world Fashion market in Asia โดยมีภาครัฐและเอกชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันโครงการคับคั่ง อาทิ กรมส่งเสริมการส่งออก สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมอุตสาหกรรมสิ่งทอไทย สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย สมาคมการค้าเครื่องประดับแฟชั่น สมาคมเครื่องหนังไทยศูนย์การค้าสยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เกษรพลาซา และ อสมท.

นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า โครงการ Thailand Fashion Expo2010 เป็นกลไกของกระทรวงพาณิชย์เพื่อที่จะขับเคลื่อนธุรกิจการค้าไทยโดยเฉพาะสินค้าและบริการด้านแฟชั่นของประเทศ ให้สามารถขยายมูลค่าทางการค้าทั้งในประเทศและส่งออกสู่ตลาดโลก รวมทั้งเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางแฟชั่นของภูมิภาค ASEAN และเอเชีย

โครงการ Thailand Fashion Expo 2010 กำหนดให้มีขึ้นในเดือนตุลาคมศกนี้ ประกอบด้วย 2 กิจกรรมหลัก เพื่อพัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการด้านแฟชั่น และเรียกคืนความเชื่อมั่นให้กลุ่มผู้ประกอบการโดยเฉพาะนักธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนบุคคลากรด้านการออกแบบแฟชั่นไทยให้มีโอกาสเข้าสู่ตลาดธุรกิจการค้าในอุตสาหกรรมแฟชั่นในประเทศและตลาดโลกเพิ่มมากขึ้นผ่านกิจกรรมที่จะมีขึ้นในวันงานดังนี้

กิจกรรมที่ 1 Activities On Ground ระหว่างวัน ที่ 20-26 ตุลาคม ประกอบด้วย
-ครั้งแรกของเอเซียที่มีดีไซน์เนอร์ระดับโลก มาร่วมแสดงผลงานพร้อมกันสองคนได้แก่ วิเวียน เวสวู๊ส และ ก้อย สุวรรณเกตุ ร่วมด้วยดีไซน์เนอร์ไทยชื่อดัง กว่า 38 แบรนด์ ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์
-ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังของเมืองไทย จับมือเพื่อร่วมผนึกกำลังสร้างความยิ่งใหญ่ให้แก่วงการแฟชั่นไทย ได้แก่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เซ็นทรัลเวิลด์ สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และ เกษรพลาซ่า
-การแสดงแฟชั่นโชว์กว่า 40 รอบ จากผู้ประกอบการแฟชั่นไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก 2 เวที Grand Runway ที่สยามพารากอน และเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อแสดงศักยภาพอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย
-มหกรรมการแสดงสินค้าแฟชั่น ณ ย่านการค้าราชประสงค์ ปทุมวัน โดยรวบรวมผู้ประกอบการสินค้าแฟชั่นแบรนด์ไทยจำนวนทั้งสิน 300 คูหา ณ บริเวณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่
-การจับคู่ทางธุรกิจ [Business Matching] โดยกระทรวงพาณิชย์ ร่วมด้วยกรมส่งเสริมการส่งออกส่งเทียบเชิญนักธุรกิจที่คร่ำหวอดในแวดวงแฟชั่นจากทั่วโลกร่วมงานกว่า รายเพื่อร่วมงาน ทั้งนี้ตลอดทั้ง 7 วัน ของการจัดงาน จะมีผู้ซื้อรายใหญ่จากกลุ่มห้างสรรพสินค้าทั่วโลกร่วมงานอย่างคับคั่ง
-Gala Night งานแสดงแฟชั่นโชว์ ที่ยิ่งใหญ่ โดยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธานในวันที่ 21 ตุลาคม ศกนี้
-สัมมนาพิเศษเรื่อง EFFECTIVE DESIGN โดย ก้อย สุวรรณเกตุ ในวันที่ 22 ตุลาคม 2553

นางบุษบา จิราธิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัทเซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้สนับสนุนการจัดงาน กล่าวว่า เซ็นทรัลรู้สึกยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในการจังาน Thailand Fashion Expo2010 ครั้งนี้ในฐานะที่เซ็นทรัลเป็นผู้มีประสบการณ์ด้านการค้าปลีกอย่างยาวนาน ยินดีให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อการขับเคลื่อนแบรนด์ไทย ซึ่งจากการสำรวจยอดซื้อสินค้าภายในเซ็นทรัลต่อใบเสร็จจะเห็นได้ว่าด้านแฟชั่นมียอดเติบโตทุกปี การที่ภาครัฐให้การสนับสนุนเปิดตลาดต่างประเทศ รวมถึงการนำลูกค้าจากต่างประเทศเข้ามาเมืองไทย ครั้งนี้ก็เชื่อมั่นว่าอนาคตแฟชั่นแบรนด์ที่สร้างสรรค์โดยไทยดีไซน์เนอร์ของเราก็จะสามารถนำเม็ดเงินกลับเข้ามาหมุนเวียนในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก

นายเกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ ผู้บริหารอาวุโสสายการตลาด บริษัทสยามพารากอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า การร่วมงานครั้งนี้สยามพารากอน ได้เตรียมพื้นที่ที่บริเวณลานพาร์คพารอน ให้เป็นแกรนด์รันเวย์ ซึ่งเป็นพื้นที่การจัดโชว์ที่ยิ่งใหญ่ และเป็นพื้นที่สำคัญที่มีความโดดเด่น สามารถสร้างการรับรู้ได้ในวงกว้าง เพราะพาร์คพารากอนนั้นอยู่ด้านหน้าสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสยาม ซึ่งมีผู้ใช้บริการหมุนเวียนวันละ 4-5 แสน คนต่อวัน ประกอบกับลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่หมุนเวียนมาจับจ่ายใช้สอยในสยามพารากอนจำนวน 200,000 คนต่อวัน เชื่อว่าเฉพาะที่สยามพารากอนจะสามารถโชว์ผลงานผ่านสายตาผู้คนนับล้านคน เชื่อมั่นว่าการจัดงานในครั้งนี้สยามพารากอนจะเป็นหนึ่งในพลังการขับเคลื่อนแฟชั่นไทยของเราให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน อย่างแน่นอน

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจแฟชั่นของไทย ก้าวสู่ศูนย์กลางการค้าแฟชั่นอาเซียน งาน Thailand Fashion Expo2010 ณ ศูนย์การค้าย่านราชประสงค์ สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ สยามดิคัฟเวอรี่ สยามเซ็นเตอร์ และเกษรพลาซ่า ระหว่างวันที่ 20-26 ตุลาคม ศกนี้

SMILE@ ratchaprasong ช็อป กิน เที่ยว 3 วัน 3 คืน ลดสูงสุด 80%
รายงานข่าวจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)แจ้งว่า ททท.ร่วมกับเซ็นทรัลเวิลด์ และผู้ค้าย่านราชประสงค์ เตรียมนับหนึ่งใหม่หลังเกิดเหตุการรณ์เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553 ด้วยการจัดกิจกรรม SMILE@ ratchaprasong เพื่อสร้างสีสันและความสนุกสนาน เพื่อให้เกิดบรรยากาศที่ดีในการใช้บริการ ช็อป กิน เที่ยว เหมือนเช่นดังเดิม โดยจะจัดงานที่ลานหน้า เซ็นทรัลเวิล์ด โซนสแควร์ C และ D ด้วยขนาดกว่า 2,000 ตารางเมตร (ด้านหน้า Isatan) ระหว่างวันที่ 2-4ก.ค.นี้โดยมีกิจกรรมต่างๆ ดังต่อไปนี้

1.การจัดเทศกาลดนตรี 3 วัน 3 คืน จาก 20 ศิลปินชื่อดัง เช่น กอล์ฟ ไมค์ เจ เจตริน บุรินทร์ กรูฟไรเดอร์ Flure และ ETC
2.มอบส่วนลดสูงสุดถึง 80% ของผู้ประกอบการและห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ราชประสงค์ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุม
3.ผู้มาร่วมงานที่ซื้อสินค้า ครบ 1,000 บาท จะได้รับคูปองเพื่อจับฉลากแพ็คเก็จโรงแรม และ ของรางวัลต่างๆ กว่า 300 รางวัล โดยจะจับแจกรางวัลทุกวัน
4.การจัดตลาดนัดทำมือโชว์ จาก TCDC และขายผลงานสร้างสรรค์หลากหลาย
5.กิจกรรม Work shop, Street Performance show
ททท.ขอเชิญทุกท่านร่วมให้กำลังใจ สนุกสนานกับกิจกรรมมากมาย และส่งต่อรอยยิ้มมาที่ http://www.smileatratchaprasong.com/smileambassador

ประกวดภาพวาดโปสเตอร์ “ยิ้มและเที่ยวสุขใจ ในราชประสงค์” - สมัครก่อน29 มิถุนายน 2553
ระเบียบการประกวดภาพวาดโปสเตอร์ “ยิ้มและเที่ยวสุขใจ ในราชประสงค์”
ระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย
โครงการ โดยททท.ร่วมกับเซ็นทรัลเวิลด์ และผู้ประกอบการย่านราชประสงค์
เนื่องจากททท.ได้จัดตั้งแผนปฏิบัติการยิ้มสยาม และมี smile @ ratchaprasong เป็นโครงการที่จะดำเนินงานฟื้นความ
เชื่อมั่นและกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยหลังเผชิญเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมเพื่อผู้ประกอบการและ
ประชาชน ได้เล็งเห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วมของเยาชนในการเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯให้ดีขึ้น จึงได้ทำการจัดกิจกรรม
ประกวดภาพวาดเพื่อเป็นการเปิดโอกาสสำหรับนักเรียนทั่วกรุงเทพฯได้แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์บวกกับจินตนาการ
และนำความรู้ความสามารถด้านศิลปะและการออกแบบ ซึ่งถือได้ว่าเป็นพื้นฐานของ Creative Economy (เศรษฐกิจสร้างสรรค์)
มาสร้างภาพวาดเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนคนอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์อีกด้วย
คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมประกวด
นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เขตสังกัดกรุงเทพฯมหานคร ทีมละ 3 คน รับสมัคร 15 ทีม
กติกาการร่วมประกวด
1.ให้นักเรียนมาลงทะเบียนวาดภาพตามเวลาที่กำหนด โดยทางกองประกวดจัดพื้นที่เตรียมไว้ให้
2.ให้นักเรียนเตรียมอุปกรณ์มาเอง กระดาษขนาด 16 x 23 นิ้ว (A2) สี พู่กัน และอื่นๆที่จำเป็น รวมถึงขาตั้งวาดรูป (สำหรับใช้วาดประกวดและตั้งโชว์ผลงาน 3 วัน เพื่อให้คนมาร่วมงานลงคะแนนโหวต )
3. ผลงานที่วาดตอนประกวดต้องเป็นแนวคิดของตนเองเท่านั้น
4. ไม่จำกัดสี เทคนิคและวีธีการที่ใช้ในการวาด
5. ให้ระยะเวลาในการวาดและระบายสี 3 ชั่วโมง
ระยะเวลาในการแข่งขัน
โรงเรียนมัธยมศึกษาส่งตัวแทนมาแข่งขันวาดภาพ โรงเรียนละ ไม่เกิน 2 ทีม ( ทีมละ 3 คน )
โดยส่งส่งรายชื่อผู้ประกวด และชื่ออาจารย์ ผู้ฝึกสอนหรือสนับสนุน พร้อมเบอร์โทรติดต่อกลับ
ตั้งแต่วันนี้ - 29 มิถุนายน 2553 ที่ฝ่ายกิจกรรมโทร 087-347-7406
ยืนยันรายชื่อสมัครได้ที email : aehot007@gmail.com
นักเรียนมาลงทะเบียนในวันแข่งขัน ในงานวันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม 2553 เวลา 12.00 น.

รางวัลสำหรับผู้เข้าประกวด
1. รางวัลชนะเลิศ ทุนการศึกษา 5,000 บาท แพคเก็จท่องเที่ยว ของรางวัล และประกาศนียบัตร
2. รางวัลที่รองชนะเลิศอันดับ 1 ทุนการศึกษา 3,000 บาท แพคเก็จท่องเที่ยว ของรางวัล และประกาศนียบัตร
3. รางวัลที่รองชนะเลิศอันดับ 2 ทุนการศึกษา 2,000 บาท แพคเก็จท่องเที่ยว ของรางวัล และประกาศนียบัตร
4. รางวัลชมเชย จำนวน 5 รางวัล ของรางวัล และประกาศนียบัตร
รางวัลขวัญ Popularvote จากการโหวตจากผู้ร่วมงาน จำนวน 1 รางวัล
จะได้รับของรางวัล แพคเก็จท่องเที่ยว ของรางวัล และประกาศนียบัตร
โดยทุกโรงเรียนที่เข้าร่วมการแข่งขันจะมี ประกาศนียบัตรมอบให้ นักเรียนและอาจารย์ผู้สนับสนุนการแข่งขัน

ประกาศผล
วันอาทิตย์ 4 กรกฎาคม 2553 เวลา 17.00 - 18.00 น. โดยนักเรียนที่ร่วมเข้าประกวดต้องมาฟังผลด้วยตนเอง เพื่อรอรับรางวัลภายในงาน หากไม่มาถือว่าสละสิทธิ์ และรับขาตั้งคืน ในวันจันทร์ ที่ 5 กรกฎาคม 2553 เวลา 09.00 - 12.00 น.

หมายเหตุ : ผลงานที่ส่งเข้าประกวดทุกผลงานถือเป็นลิขสิทธิ์ของกองกิจกรรม คณะกรรมการขอสงวนสิทธิ์ในผลงานที่ส่งเข้าประกวดเพื่อสิทธิในการทำข่าวประชาสัมพันธ์เผยแพร่หรือดำเนิการกิจการใดๆ เพื่อสาธารณะได้
** รางวัลอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม

สี่แยกที่ไม่เคยเงียบเหงา
วันก่อนมีโอกาสได้โฉบไปแถวๆ ราชประสงค์อีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้ไปมาตั้งแต่วันตรุษจีน ก.พ. ก่อนเกิดเหตุการณ์ชุมนุมของคนเสื้อแดงเสียอีก วันนั้นที่ไปล่าสุดเป็นวันตรุษจีน ซึ่งคนจีนส่วนใหญ่จะไปไหว้เจ้ากันก็สถานที่ที่เป็นวัดจีน ศาลเจ้าชื่อดัง แต่ผมกลับเลือกไปไหว้ศาลพระพรหมเอราวัณ ไปไหว้องค์พ่อพระพิฆเนศตรงหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ฝั่งอิเซตัน รวมถึงพระตรีมูรติด้วย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เหมือนมีลางบอกเหตุว่าต้องไปไหว้ก่อน เพราะเป็นช่วงวันที่เป็นมงคลสำหรับชาวจีน และหลีกเลี่ยงสถานที่ที่คนจีนไปกันเยอะในวันนั้นเลยได้มีโอกาสเหมาะไหว้ได้อย่างสะดวกสบายคนน้อยลง สภาพราชประสงค์ล่าสุดก็กลับมาอยู่ในสภาพที่เปลี่ยนไปบ้างไม่เหมือนเดิม ไม่คึกคักมากเหมือนแต่ก่อน แต่รถรายังขวักไขว่เหมือนเดิม เซ็นทรัลเวิลด์ยังไม่เปิด คงต้องรอปิดปรับปรุงซักระยะ เห็นบอกว่าจะเปิดเป็นบางส่วนให้มาช็อปปิ้งได้ก็อย่างเร็วเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ส่วนห้างเกษรและโรงแรมเอราวัณก็เปิดไปแล้ว รวมถึงโรงแรมแถบๆ นั้นทั้งหมด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น