วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ทีมประสิทธิภาพแห่งปี 2015


ในรอบปี 2015 จัดว่าเป็นปีแห่งการก่อการร้ายไปทั่วโลกก็นับว่าได้ เป็นปีที่ประชาชนทั่วโลกเกิดความหวาดกลัวภัยก่อการร้ายเข้าไส้ ความตึงเครียดของมหาอำนาจโลกตะวันตกโดยมีสหรัฐอเมริกาเป็นหัวหอกกับโลกมุสลิมและโลกคอมมิวนิสต์ ซึ่งมีจีน,รัสเซียและกลุ่มก่อการร้ายเป็นศัตรูคู่อาฆาต จนเกิดการเผชิญหน้าในสมรภูมิหลายๆ จุด ต่างฝ่ายต่างเล่นในเกมของตน แต่ดูเหมือนการก่อการร้ายถูกใช้เป็นกลยุทธ์ในการเล่นงานหรือโจมตีโลกตะวันตก หรือสถานที่ใดก็ตามที่เป็นแหล่งผลประโยชน์ของโลกตะวันตก อาทิ เช่น ฝรั่งเศส ยูเครน ซีเรีย หรือแม้กระทั่งสี่แยกราชประสงค์ในบ้านเรา เริ่มมาตั้งแต่ช่วงต้นปี กรณีการจับกุมตัวประกันในซุปเปอร์มาร์เก็ต สืบเนื่องต่อมาจากเหตุการณ์ยิงถล่มหนังสือพิมพ์ชาลีเอ็บโด ในฝรั่งเศส ,กลุ่มไอเอสยิงเครื่องบินของนักบินจอร์แดนตก โดยยื่นเงื่อนไขขอแลกชีวิตนักบินชาวจอร์แดนกับนักโทษหญิงชาวอิรัก แต่สุดท้ายก็สังหารนักบินจอร์แดนนั้นอย่างเลือดเย็น ,กลุ่มมุสลิมในเชชเนียลุกฮือประท้วง นสพ.ชาลีเอ็บโด, คลิปสังหารตัวประกันชาวญี่ปุ่นของไอเอสถูกปล่อยออกมา, รัฐบาลมาเลย์รีบแถลงผลสรุปเครื่องบิน MH370 ตก อย่างลุกลี้ลุกลน, จอร์แดนแขวนคอนักโทษหญิงอิรักทันทีตอบโต้ที่ไอเอสเผานักบินจอร์แดนตายทั้งเป็น ,การสู้รบในยูเครนร้อนระอุขึ้นเมื่อรัสเซียส่งกองกำลังเข้าจัดการขั้นเด็ดขาด, ไอเอสเผยคลิปตัดศีรษะชาวอียิปต์ 21 คน ,เกิดเหตุกราดยิงในเดนมาร์ก ,ยูเออี สหรัฐอาหรับอิมิเรตส์กับซาอุดิอาระเบียสั่งปิดสถานทูตของตนในเยเมน เนื่องจากกลุ่มหัวรุนแรงนิกายชีอะห์ จ้องสังหารคนของตนที่ไปร่วมกับชาติตะวันตกถล่มซีเรีย ,ไอเอสเผยคลิปนักรบรุ่นเด็กจ่อยิงศีรษะสายลับอิสราเอล,ซาอุส่งกองกำลังเข้าถล่มเยเมน (มีภัยธรรมชาติร้ายแรงในปีนี้ก็คือแผ่นดินไหวที่เนปาล) เกิดเหตุกราดยิงในเดนมาร์ก จนทำให้เดนมาร์กต้องการสมัครเข้าเป็นสมาชิกนาโต้ ในขณะที่รัสเซียขู่เดนมาร์ก หากเข้าร่วมนาโต้ จะยิงจรวดมิสไซล์ไปลงยังเดนมาร์ก,จีนแสดงแสนยานุภาพว่ามีขีปนาวุธที่สามารถยิงไกลได้ทั่วดินแดนสหรัฐ ,เกิดคลื่นผู้อพยพจากตะวันออกกลางเข้าสู่ยุโรป นำโดยชาติซีเรีย ,จีนช็อกโลกด้วยการลดค่าเงินหยวนหลายระลอกและเกิดเหตุระเบิดที่โกดังสินค้าใกล้ท่าเรือเมืองเทียนจิน ตามมาด้วยเกิดเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์บ้านเรา ซึ่งมีการสืบสวนและจับกุมผู้ต้องหาจำนวนมาก ซึ่งล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับชาวอุยกูร์ที่ใช้พาสปอร์ตปลอมเป็นคนตุรกี แล้วลักลอบมาทำธุรกิจค้ามนุษย์ส่งคนไปยังตุรกี โดยใช้ไทยเป็นฐาน ,รัสเซียจับมือกับสหรัฐหาทางจัดการกับกลุ่มไอเอส,รัสเซียปูพรมถล่มกลุ่มไอเอสทางอากาศ ,สหรัฐส่งเรือพิฆาตลาดตระเวนใกล้เกาะเทียมของจีน, เครื่องบินโดยสารพาณิชย์ของรัสเซียถูกยิงตกที่อิยิปต์, จนมาถึงเกิดเหตุวินาศกรรมใหญ่ในกรุงปารีส ฝรั่งเศส โดยกลุ่มไอเอสออกมาอ้างความรับผิดชอบ และทำให้ฝรั่งเศสตกลงใจร่วมกับรัสเซียไปถล่มกลุ่มไอเอส และเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดข้อพิพาทใหญ่ระหว่างรัสเซียกับตุรกี เมื่อตุรกียิงเครื่องบินรัสเซียตก โดยอ้างว่ารัสเซียล้ำน่านฟ้าของตน และไม่ยินยอมขอโทษต่อรัสเซีย ทำให้รัสเซียตอบโต้ด้วยมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อตุรกี โดยงัดมาตรการหลายอย่างเล่นงานตุรกี และออกมาแฉว่าลูกชายของผู้นำตุรกีค้าน้ำมันเถื่อนโดยรับซื้อจากกลุ่มไอเอส และเหตุที่ยิงเครื่องบินรัสเซียตก ก็เพราะว่าไปรุกล้ำเส้นทางลำเลียงขนส่งน้ำมัน ตุรกีก็ตอบโต้กลับเช่นกัน  ทั้งหลายทั้งปวงนั้น จะเห็นว่าเป็นปีที่รัสเซียมีบทบาทค่อนข้างสูง นับตั้งแต่ถูกเล่นงานคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากยุโรปและอเมริกาเมื่อช่วงต้นปี สำทับด้วยถูกเล่นงานจากซาอุที่ร่วมมือกับสหรัฐทุบราคาน้ำมันโลกดิ่งเหวลงมา ทำให้รัสเซียอ่วมทางด้านเศรษฐกิจ ดีว่าได้อาศัยจีนช่วยเหลือยันค่าเงินกับทุนสำรองเอาไว้ได้ พอมากลางปีก็ตัดสินใจปฏิบัติการขั้นเด็ดขาดกับรัฐบาลยูเครน กรณีแคว้นไครเมียได้สำเร็จ แล้วต่อเนื่องมาถึงปลายปีก็ส่งกองกำลังภาคอากาศ โดยใช้ฝูงบิน ซู24 เข้าถล่มฐานบัญชการของกลุ่มไอเอสในซีเรีย รวมถึงคลังแสงอาวุธ ซึ่งใช้เวลาปฏิบัติการไม่กี่วัน ทำความเสียหายให้กับกลุ่มไอเอสได้มากโข ผิดกับสหรัฐที่อ้างว่าจะเข้ามาจัดการกับกลุ่มไอเอส ผ่านไป 1 ปี แทบไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย จึงเป็นปีที่วลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย มีบทบาทที่โดดเด่น ในการเข้าไปจัดการตัวปัญหาในตะวันออกกลางได้อย่างชัดเจนกว่าชาติตะวันตกใดๆ ปีนี้เว็บหยิกแกมหยอกจึงขอมอบรางวัล “บุคคลแห่งปี” ให้กับท่านวลาดิเมียร์ ปูติน ปธน.รัสเซีย อย่างไม่ต้องสงสัยเลย ทีนี้มาว่าถึงประวัติของท่านโดยสังเขป           

วลาดีมีร์ วลาดีมีโรวิช ปูติน  (Vladimir Vladimirovich Putin) เกิด 7 ตุลาคม พ.ศ. 2495) เป็น ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซียคนที่สี่,คนปัจจุบัน เป็นประธานพรรคยูไนเต็ดรัสเซีย,ประธานสภารัฐมนตรีสหภาพรัสเซียและเบลารุส เขารักษาการตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 1999 แทนประธานาธิบดีบอริส เยลต์ซินที่ลาออก ปูตินชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี ในปี 2000 และในปี 2004 เขาได้รับเลือกตั้งกลับมาเป็นสมัยที่สอง ซึ่งเขาดำรงตำแหน่งถึงวันที่ 7 พฤษภาคม 2008 เพราะถูกจำกัดสิทธิเกิน 2 สมัยตามรัฐธรรมนูญ เขาจึงส่งทายาททางการเมือง นายดิมีทรี เมดเวเดฟ ในการเลือกตั้งจนได้เป็นประธานาธิบดีปี 2008 เมดเวเดฟได้เสนอชื่อปูตินเป็นนายกรัฐมนตรีของรัสเซีย ปูตินดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2008 ในเดือนกันยายน ,ปี 2011 ปูตินและเมดเวเดฟบรรลุข้อตกลงร่วมกันว่าปูตินจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่สามไม่ติดต่อกันในการเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซียปี 2012 ซึ่งปูตินก็กลับมาชนะรอบแรกเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2012 ปูตินได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำที่สามารถสร้างเสถียรภาพทางการเมือง  ระหว่างการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขา เศรษฐกิจรัสเซียเติบโตขึ้นเก้าปีต่อเนื่อง โดยดูจากจีดีพีเพิ่มขึ้น 72% โดยความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ (หกเท่าในราคาตลาด)  ความยากจนลดลงมากกว่า 50%  และค่าจ้างรายเดือนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 80 เป็น 640 ดอลลาร์สหรัฐ  ความสำเร็จนี้คาดว่ามาจากการจัดการเศรษฐกิจมหภาค การปฏิรูปนโยบายการคลังอย่างสำคัญและประกอบกับราคาน้ำมันที่สูง การไหลบ่าเข้ามาของทุนต่างชาติ และการเข้าถึงเงินทุนจากภายนอก ระหว่างดำรงตำแหน่ง ปูตินผ่านกฎหมายปฏิรูปขั้นพื้นฐานหลายฉบับ รวมทั้งภาษีเงินได้อัตราเดียว การลดภาษีกำไร และประมวลที่ดินและกฎหมายใหม่ เขาทุ่มเทความพยายามอย่างมากในการพัฒนานโยบายพลังงานของรัสเซีย โดยยืนยันตำแหน่งของรัฐเซียเป็นอภิมหาอำนาจด้านพลังงาน ซึ่งรวมถึงการฟื้นฟูอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ในประเทศและการริเริ่มการก่อสร้างท่อส่งออกหลักหลายแห่ง รวมทั้งเอสโปและนอร์ดสตรีม เช่นเดียวกับเมกะโปรเจกต์อื่น ๆ ในรัสเซีย ขณะที่การปฏิรูปและพฤติการณ์หลายอย่างระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีถูกวิจารณ์โดยผู้สังเกตการณ์ตะวันตกและผู้ต่อต้านภายในประเทศว่าไม่เป็นประชาธิปไตย การดูแลการฟื้นฟูระเบียบและเสถียรภาพของปูตินทำให้เขาได้รับความนิยมในสังคมรัสเซีย ปูตินมักสนับสนุนภาพลักษณ์ชายทรหดในสื่อ โดยแสดงความสามารถทางกายของเขาและเข้าร่วมในกิจกรรมวิสามัญหรืออันตราย เช่น กีฬาเอกซ์ตรีมและปฏิสัมพันธ์กับสัตว์ป่า ปูตินเป็นนักยูโดและนักกีฬาแซมโบ เคยเป็นแชมป์เลนินกราดสมัยวัยเยาว์ ปูตินมีส่วนสำคัญในการพัฒนากีฬารัสเซีย ที่โดดเด่นคือ ช่วยให้นครโซชีชนะการประกวดเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2014 ปูตินในวัยเด็ก เป็นช่วงที่หนังสายลับได้รับความนิยมจึงเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับปูติน ในสมัยนั้นมีอาชีพอยู่เพียงสองประเภทที่สามารถเป็นสายลับได้คือต้องเป็นทหารหรือจบนิติศาสตร์  ปูตินจึงได้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สาขานิติศาสตร์ จบมาเขาได้ทำงานกับหน่วยสายลับได้ประจำหน่วยข่าวกรองสายลับและได้ถูกส่งไปประจำที่เยอรมนีตะวันออกในสมัยที่ยังไม่รวมประเทศ แต่ต่อมาสหภาพโซเวียตล่มสลาย เขาจึงลาออกจากเคจีบี แล้วกลับไปอยู่กับอาจารย์ที่ชื่อว่า ดร. อนาโตลี ซับซัค และช่วยหาเสียงจน ดร. อนาโตลี ซับซัคได้เป็นผู้ว่าการกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อ ดร.อนาโตลี ซับซัค ไม่ได้รับเลือกตั้ง โดนข้อหาข้อทุจริต แล้วปูตินเป็นลูกศิษย์ที่ไม่ยอมทิ้งอาจารย์ไป ได้หาข้อมูลมาช่วยอาจารย์จนพ้นความผิด ต่อมาเพื่อนร่วมรุ่นมาชวนปูตินไปทำงานในทำเนียบประธานาธิบดีเยลซินในกรุงมอสโก จึงได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี สมัยบอริส เยลซิน เป็นประธานาธิบดี ต่อมา บอริส เยลซิน ได้ลาออกแล้วให้ปูตินมารักษาการณ์แทน แล้วปูตินก็ได้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดี และได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ของรัสเซีย เพราะบอริส เยลซินเป็นคนแนะนำ ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ในวันที่ 14 มีนาคม 2004  ต่อมาเดือนธันวาคมปี  2007 นิตยสารไทม์ได้เลือกให้เขาเป็นบุคคลแห่งปี 2007 ด้วยเหตุผลว่าเขามีความเป็นผู้นำซึ่งเปลี่ยนความวุ่นวายในรัสเซียให้มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น โดยนิตยสารไทมส์ ได้ขนานนามแก่ปูตินว่าเป็น "ซาร์แห่งรัสเซียใหม่" แม้ว่าปูตินจะสละตำแหน่งประธานาธิบดีให้แก่ ดิมีทรี เมดเวเดฟแล้วก็ตาม แต่ปูตินก็ยังคงมีอำนาจและยังคงเป็นผู้นำที่ได้รับความนิยม และมีบารมีที่สุดในรัสเซีย

มาเข้าสู่โหมดของการเชิดชูทีมประสิทธิภาพแห่งปี 2015 ตามธรรมเนียมของบล็อกเรา ก็จะจัดหมวดและประกาศ โดยปีที่ผ่านมาก็มักจำแนกออกเป็น 5 หมวดใหญ่ๆ คือ 1.ทีมประสิทธิภาพสาขากีฬา,2.ทีมประสิทธิภาพสาขาสื่อสารมวลชน 3.ทีมประสิทธิภาพสาขาหน่วยงานภาครัฐหรือหน่วยงานสาธารณะบริการประชาชน และ 4.ทีมประสิทธิภาพสาขาหน่วยงานภาคเอกชนหรือหน่วยธุรกิจให้บริการประชาชน รวมสายบันเทิงไว้ในหมวดนี้ด้วย  5.ทีมด้อยประสิทธิภาพแห่งปี  เพื่อประกาศเกียรติคุณให้กับหน่วยงานเหล่านั้น ที่ได้สร้างผลงานอันน่าประทับใจเอาไว้ในปีนี้ ซึ่งเราได้รวบรวมไว้แล้ว

ปีนี้จัดเป็นปีแรกที่อุตสาหกรรมทีวีดิจิตอล เข้าต่อสู้ฟาดฟันกันอย่างเต็มสมรภูมิเป็นปีแรก ได้เห็นหน้าเห็นตาของผู้เล่นทั้งหมด ได้เห็นศักยภาพของทีวีดิจิตอลบางเจ้าที่มาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมธุรกิจทีวีในบ้านเราได้ก้าวรุดหน้าไปไกลมาก แต่ก็มีบางเจ้าต้องยกธงขาว โบกมือลาไปในปีแรกของ่สมรภูมิเดือดนี้ จากปัจจัยหลายๆ อย่างที่ไม่เอื้ออำนวย สำหรับผู้เล่นที่มีทุนน้อยหรือสายป่านไม่ยาวพอ จะอยู่รอดในเกมธุรกิจทีวีดิจิตอลได้ยากยิ่ง เนื่องจากเค้กมีก้อนเดียวเท่าเดิม แต่จำนวนผู้เล่นเพิ่มเข้ามามากมายหลายเท่าตัว เพื่อมาขอส่วนแบ่งในชิ้นเนื้อเดียวกัน ผู้ที่จะอยู่รอดได้จึงนับว่ายากเต็มที ยิ่งในสังคมธุรกิจที่ต้องวัดกันด้วยเรตติ้ง หรือรายได้ผลประกอบการด้วยแล้ว ไม่ต่างจากธุรกิจอื่นๆ ในประเทศนี้ ที่ปลาใหญ่มักกินปลาเล็ก ปลาใหญ่ยังเป็นผู้คุมน่านน้ำของตัวเองเอาไว้ ไม่ให้ปลาเล็กได้เข้ามาแย่งกินอาหารของตัวได้ง่าย ๆ เรายังคงให้กำลังใจผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลหน้าใหม่ๆ ที่จะเข้ามาช่วยกันผลักดัน พัฒนาคอนเท็นต์ และรูปแบบรายการดีๆ เพื่อตอบสนองผู้บริโภคคนไทย อย่างไรเสีย หากคนเราทำดี ทำเก่ง ไม่มีทางที่คนไทยจะไม่อุดหนุนช่วยเหลือ นี่คือสัจธรรมที่เห็นมาแล้วในทุกธุรกิจ

1.ทีมประสิทธิภาพแห่งปี สาขาด้านกีฬา ได้แก่ ฟุตบอลทีมชาติไทยทุกชุดในปัจจุบัน  โดยโค้ชซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ผู้ปลุกปั้นทีมช้างศึกชุดนี้ ทำให้กระแสกีฬาฟุตบอลไทยฟีเวอร์กลับมาอีกครั้ง, ทีมฟุตบอลสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ,แบดมินตันทีมชาติไทย ,ทีมฟุตบอลสโมสรเลสเตอร์ซิตี้,ทีมฟุตบอลสโมสรบาเซโลน่า,ทีมฟุตบอลสโมสรเพื่อนตำรวจ, ทีมฟุตบอลสโมสรบาเยิร์นมิวนิค ฯลฯ



2.ทีมประสิทธิภาพแห่งปี สาขาสื่อสารมวลชน จำแนกเป็นสื่อกระแสหลัก (ฟรีทีวี,นสพ.วิทยุ,เว็บไซต์) กับสื่อกระแสรอง (ทีวีดาวเทียม,สำนักข่าวเอกชน,สื่ออิสระ,เอ็นจีโอ,โซเชียลมีเดีย)

สื่อกระแสหลัก (เน้นการแพร่ข่าวสาร,บทวิเคราะห์เจาะลึกที่น่าเชื่อถือ,ทันสถานการณ์,นำเสนอตรงไปตรงมาไม่บิดประเด็น,ไม่จำเป็นต้องเป็นกลาง,ไม่จำเป็นต้องเร็วมาก,มีแหล่งข่าวที่ดี,ไม่ชี้นำสังคม,แยกแยะผิดถูกชั่วดี,กล้านำเสนอความจริง) ได้แก่  ช่อง 7HD, สำนักข่าวไทย, TPBS, ไทยรัฐทีวี,เนชั่นทีวี, Now 26 ,สปริงนิวส์, TNN24, Bright TV, new tv, One HD,PPTV, 3HD,3SD ,นสพ.ไทยโพสต์, นสพ.โพสต์ทูเดย์-บางกอกโพสต์ ,นสพ.ผู้จัดการ-MGR online ,นสพ.กรุงเทพธุรกิจ-เนชั่น-คมชัดลึก นสพ.ประชาชาติธุรกิจ, วิทยุคลื่น 90.5, 96.5 ,101-RR1

สื่อกระแสรอง (เน้นการแพร่ข่าวสาร,บทวิเคราะห์เจาะลึกที่น่าเชื่อถือ,ทันสถานการณ์,นำเสนอตรงไปตรงมาไม่บิดประเด็น,ไม่จำเป็นต้องเป็นกลาง,ไม่จำเป็นต้องเร็วมาก,มีแหล่งข่าวที่ดี,ไม่ชี้นำสังคม,แยกแยะผิดถูกชั่วดี,กล้านำเสนอความจริง) ได้แก่ ทีวี News 1, T-news ,วิทยุ สวพ. 91 ,จส.100, ,เฟซบุ้คคุยทุกเรื่องกับสนธิ ,เฟซบุ้คคุณธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล ,บล็อกคุณสุทธิชัย หยุ่น,เฟซบุ้คคุณทนง ขันทอง,เว็บไซต์แบงคอคบิสนิวส์,เว็บไซต์ไทยพับลิก้า ,เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์,เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์, ,เว็บไซต์สยามอินเทลลิเจนซ์ ,สำนักข่าวอิศรา

3.ทีมประสิทธิภาพแห่งปี สาขาหน่วยงานภาครัฐ,หน่วยงานบริการสาธารณะชน,องค์กรพัฒนาเอกชนเพื่อสาธารณประโยชน์ ได้แก่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ,สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน, สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค, มูลนิธิทูบีนัมเบอร์วัน, ศูนย์ประชาบดี 1300 ,ศูนย์เอราวัณ 1646 ,สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ,มูลนิธิชัยพัฒนา ,มูลนิธิพระดาบส ,มูลนิธิสายใจไทย ,มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ,คณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ,กรุงเทพมหานคร (ทีมรองผู้ว่า กทม.รื้อแผงค้าบริเวณคลองถม,สะพานเหล็ก,ท่าพระจันทร์) ,การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ,กองหนังสือเดินทาง ก.ต่างประเทศ ,สำนักงานสรรพากรพื้นที่ ,รพ.รามาธิบดี ,หน่วยรับชำระภาษี สำนักงานพื้นที่ กรมการขนส่งทางบก ,51 องค์กรเครือข่ายภาคประชาสังคมด้านสิงแวดล้อมที่ร่วมกันต่อต้านและคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ,เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงาน ที่ร่วมกันยืนจดหมายเปิดผนึกคัดค้านร่าง พรบ.ปิโตรเลียมฉบับแก้ไขของ ก.พลังงาน (หรือที่เรียกว่าฉบับลักหลับ) ต่อนายกรัฐมนตรี ,เครือข่ายองค์กรภาคประชาชนร่วมกันยื่นคัดค้าน ร่าง พรบ.ความปลอดภัยทางชีวภาพ (GMOs)  เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ต่อนายกรัฐมนตรี

4.ทีมประสิทธิภาพแห่งปี  สาขาหน่วยงานภาคเอกชน หรือหน่วยธุรกิจให้บริการประชาชน และสาขาบันเทิง  ได้แก่

ค่ายเพลงแกรมมี่โกลด์,, ค่ายเพลงจีนี่เรคคอร์ด, ,ค่ายเพลงมิวสิคครีม, ค่ายเพลงสมอลล์รูม ,ค่ายเพลงสหภาพดนตรี ,ค่ายเพลงอาร์สยาม ,ค่ายเพลงเลิฟอีส ,ค่ายเพลงไวท์มิวสิค ,ค่ายเพลงวอทเดอะดักส์ ,ค่ายเพลงบีอีซี-เทโร มิวสิค ,ค่ายเพลงเวิร์กแก็งค์ ,ค่ายเพลงวีเรคคอร์ด ,ค่ายเพลงดักส์บาร์ ,ค่ายไอแอม,ค่ายเพลงทรูแฟนเทเชีย ,ค่ายเพลงกามิกาเซ่

บริษัทเกเร ,บริษัทเอไทม์โชว์บิซ ,บริษัทเฟรชแอร์ เฟสติวัล, บริษัทอินเด็กซ์ครีเอทีฟวิลเลจ ,บริษัทเซ้นส์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ,บริษัทอาร์เอส จำกัด (มหาชน) ,บริษัทมีมิติ ,แร็บบิทสตูดิโอ ,บริษัททริปเปิ้ลทู


บริษัทศรีคำรุ้งโปรดักชั่น ,บริษัทแอค-อาร์ต เจเนอเรชั่น ,บริษัทเอ็กซ์แซ็กท์และซีนาริโอ ,บริษัทจีเอ็มเอ็มทีวี ,บริษัทเวิร์คพ้อยท์และโต๊ะกลม, บริษัททรูมิวสิค, บริษัทบีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์, บริษัทกันตนากรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ,บริษัทเจเอสแอลและทีวีบูรพา ,บริษัทแฮปอะกู้ดดรีม, บริษัทพอดีคำเอ็นฯ ,บริษัททีวีธันเดอร์ , บริษัทกัสท์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ,บริษัทสุขสันต์หรรษา 52 ,บริษัทควิชแอนด์เควส, บริษัทรักละคร, บริษัทดีวันทีวี, บริษัทดาราวีดีโอ-ดีด้า-สามเศียร ,บริษัทมาสเคอเรต ,บริษัทมงคลการละคร ,บริษัทสามัญการละคร ,บริษัทปรากฏการณ์ดี ,บริษัทมีเดียสตูดิโอ ,บริษัทป้าสั่งย่าสอน, บริษัทโคลีเซี่ยม อินเตอร์กรุ๊ป ,บริษัททีวีซีนแอนด์พิคเจอร์, บริษัทซิติเซ่น เคน ,บริษัทละครไท ,บริษัททองเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ ,บริษัทบรอดแคสท์ไทยเทเลวิชั่น,บริษัทโซนิกซ์ บูม 2013 ,บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป ,บริษัท เมกเกอร์ เค ,บริษัทชลลัมพี โปรดักชั่น ,บริษัทกู๊ดฟิลลิ่ง ,บริษัทมาสเตอร์วัน วีดีโอโปรดักชั่น ,บริษัทโพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ,บริษัท ฟิลกู๊ด เอ็นเตอร์เทนเม้นท์, บริษัทโนพลอบเล็ม ,บริษัท 9 บีเวอร์ฟิมล์ ,บริษัทมุมใหม่ ,บริษัทเมกเกอร์กรุ๊ป ,บริษัทเมจิกอิฟเอ็นเตอรเทนเม้นท์ ,บริษัทอู่ข้าวอู่น้ำภาพยนตร์ ,บริษัทรีไมน์, บริษัทสเตปอัพเวิร์คพลัส ,บริษัท ๙ แสนสตูดิโอ, บริษัทกู๊ดซีนส์ ,บริษัทดีมากโปรดักชั่น,บริษัทเกียรติระพี, บริษัทดีคืนดีวัน ,บริษัทโชคดีมีสุข, บริษัทดีมากโปรดักชั่น ,บริษัทมั่งมีศรีสุข ,บริษัทเอพลัสโปรดักชั่น  คณะทำงานและทีมจัดการแสดงโขนพระราชทาน ชุด ศึกอินทรชิต ตอนพรหมาศ”




บริษัทนาดาวบางกอกและจีทีเอช , บริษัทเอ็ม 39 ,บริษัทสหมงคลฟิล์ม ,บริษัทกันตนาโมชั่นพิคเจอร์ส ,บริษัท ,บริษัทโมโนพิคเจอร์ ,บริษัทเฟรชแอร์เฟสติวัล, สตูดิโออิเมจิแม็กซ์ , บ.เวิร์คพ้อยท์พิคเจอร์, The Monk Studios ,ดร.เฮด ทีมผู้สร้าง ภ.แอนิเมชั่น เรื่อง “คุณทองแดง The Inspirations 

 
5.ทีมด้อยประสิทธิภาพแห่งปี ยกให้ หน่วยงานเดียวในประเทศไทย อีกปีหนึ่ง กลายเป็นได้รางวัล 2 ปีซ้อน ได้แก่ กสทช. (สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ)  กับผลงาน ประชาสัมพันธ์อ่อนมากเกี่ยวกับกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล (เซ็ทท็อปบ็อกซ์) ,การไม่เร่งรัดเจรจาสัมปทานสัญญาระบบทีวีอนาล็อค ระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับสถานีโทรทัศน์ผู้รับสัญญาสัมปทานระบะอนาล็อกเดิม อันมีผลต่อระยะเวลาการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ระบะทีวีดิจิตอล ,การถูกฟ้องร้องจากสถานีโทรทัศน์ดิจิตอล 7 ราย ถึงการไม่ปฏิบัติตามแผนงานของ กสทช.เอง ทำให้ได้รับผลกระทบ (ขาดทุน,เรตติ้งไม่เป็นไปตามเป้า,โฆษณาไม่เข้า) จากการปฏิบัติงานล่าช้าของ กสทช. ,สถานีโทรทัศน์ ไทยทีวี-Loca ซึ่งเป็นคู่กรณีกับ กสทช. เบี้ยวจ่ายค่าสัมปทาน จนถูกระงับสัญญาณ และจำเป็นต้องยุติการออกอากาศไป เนื่องจากไม่สามารถขายสิทธิ์สัมปทานเช่าช่วงต่อให้กับผู้สนใจรายอื่นได้ และเป็น 1 ใน 7 รายของสถานีโทรทัศน์ที่ร่วมฟ้อง กสทช. มาจนถึงปัจจุบันนี้ ที่ผู้เขียนกำลังพิมพ์บทความนี้ กสทช.ก็ยังคงทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม มีข่าวว่าใช้เงินไปกับการไปดูงานต่างประเทศ 3 ปีติด เป็นเงินหลายล้านบาท อีกทั้งใช้เงินของหน่วยงาน 88 ล้านบาท บริจาคเข้าโครงการสนับสนุนการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ,ข่าวอื้อฉาวบริษัทลูกของสปริงนิวส์ คือ นิวส์เน็ตเวิร์คมัลติมีเดีย จ่ายเงินให้ กสทช.เช่าคลื่นวิทยุ จ่ายให้ กสทช.เดือนละ 2.46 ล้านบาท เพื่อให้ได้สิทธิสัมปทานคลื่นวิทยุ FM98.5 เมกะเฮิร์ตซ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบ เนื่องจากเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะ กสท.ไม่มีสิทธิ์เป็นผู้อนุมัติจัดสรรคลื่นความถี่สัญญาณให้แก่เอกชนโดยตรง เนื่องจากตนเองทำหน้าที่เป็น Regulator หลายๆ อย่างนี้รวมเป็นผลงานอันงามไส้ สมควรได้รับรางวัลทีมด้อยประสิทธิภาพแห่งปี มาดูว่ากรรมการแต่ละคนมีเงินเดือนกันเท่าไหร่ ทำงานสมกับผลงานหรือคุ้มกับเงินเดือนภาษีประชาชนเพียงใด  ตำแหน่งบริหาร อาทิ รองเลขาฯ ขั้นต่ำ 130,000 บาท สูงสุด 220,000 บาท  ผู้อำนวยการสำนัก (ระดับบ2)  80,000-170,000 บาท ผู้อำนวยการส่วน (ระดับบ3) 50,000-120,000 บาท , ตำแหน่งวิชาการ มี 3 ระดับ  อัตราเงินเดือนเท่ากับ ตำแหน่งบริหาร  ,ตำแหน่งปฏิบัติการ  แบ่งออกเป็น 3 ระดับ ต่ำสุด ระดับต้น เงินเดือน 12,000-40,000 บาท  (ตามระเบียบฉบับใหม่ มีผล 30 ธ.ค.57 ซึ่งมีการปรับลดลงจากอดีตแล้ว แต่ก็ยังถือว่าสูงอยู่มากเมื่อเทียบกับเงินเดือนในระบบข้าราชการ และสูงกว่าบริษัทเอกชนโดยทั่วไปมาก) เราจึงอนุโมทนาสาธุให้ท่านทำงานกับแบบนี้ต่อไป บุญกุศลจะได้ตกถึงตัวคณะกรรมการเหล่านั้น ที่เข้ามาทำงานเพื่อชาติได้ดีเสียยิ่งกระไร ถามเจ๊ติ๋ม ทีวีพูล เกี่ยวกับการทำงานของ กสทช. แกตอบว่า “ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน”


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น