วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2558

รวมเด็ดหนังบ็อกออฟฟิซฮอลลีวู้ดน่าดูในช่วงซัมเมอร์ปี (2015) นี้


 
Kingsman: The Secret Service (February 13, 2015) ถ้าคุณชอบผลงานเก่าของผู้กำกับแมทธิว วอห์น จาก Kick-Ass คุณจะต้องชอบ Kingsman: The Secret Service เรื่องนี้ด้วย ซึ่งขณะที่ Kick-Ass เอาเรื่องฮีโร่สวมหน้ากากมาเป็นพล็อต หนัง Kingsman: The Secret Service ใช้โครงเรื่องสายลับเก่าๆ โดยเฉพาะหนังชุด James Bond มาแซว มาคาราวะ ในสไตล์แสบๆ คันๆ เต็มไปด้วยความพลิกผันในการเล่นกับสูตรหนังสายลับ ด้วยความโหดและเลือดสาดในระดับเดียวกันกับ Kick-Ass ครับ, Eggsy (Taron Egerton) ที่รับบทบาทสายลับหน้าใหม่จอมละเท้น หน้าหวาน เป็นตัวแทนของ rooky ที่อ่อนหัด แต่ต้องมารับมือกับเหล่าวายร้ายจอมโหดที่เต็มไปด้วยความเก่งกาจ ต้องปะทะฝีมือทางการแสดงกับรุ่นใหญ่อย่าง Colin Firth, และ Samuel L. Jackson อะไรจะเกิดขึ้น ความมันส์ในระดับพระกาฬที่ไม่ควรพลาด (ด้วยทุนสร้างเพียง 81 ล้านเหรียญ แต่หนังทำรายได้ภายในอเมริกาไปทั้งหมดที่ 125 ล้านเหรียญ และรายได้ในต่างประเทศไปอีก 270 ล้านเหรียญ ต้องถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก)

Fast and Furious 7 (เข้าฉายในอเมริกา April 3,2015 และทั่วโลกพร้อมกัน) ก็อย่างที่ทราบๆ กันว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังภาคต่อแอ็คชั่นยอดนิยม เดินตามสูตรหนังแอ็คชั่น ที่อุดมด้วยดาราระดับแม่เหล็กไว้หลายท่าน ทั้งวินซ์ ดีเซล, พอล วอล์คเกอร์ (รายนี้เพิ่งเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางถนน) เดอะร็อค ,เจสัน สเตแธม และภาคนี้มีดารานักบู๊ของไทยไปแสดงประกอบด้วยคือ จา พนมยีรัมย์ จุดขายน่าสนใจของภาคนี้ก็ยังคงอยู่ที่ฉากแอ็คชั่นการไล่ล่าบนถนน ฉากการต่อสู้คิวบู๊ตัวต่อตัวระหว่างจากับพอล และไฮไลท์ก็คือผลงานแสดงเรื่องสุดท้ายก่อนเสียชีวิตของพอล วอล์คเกอร์ที่ทำให้สาวกเรื่องนี้ต้องไม่พลาดด้วยประการทั้งปวง คนที่ชมแล้วบอกว่า ฉากจบนั้นซึ้งกินใจมาก (จากการเข้าฉายเมื่อวันที่ April 3 ที่ผ่านมานั้น ภาคนี้กลายเป็นภาคที่เปิดตัวทำรายได้สูงสุดกว่าทุกภาคด้วยรายได้เปิดตัววันแรกถึง 147 ล้านดอลล่าร์ และรายได้รวมทั่วอเมริกา 296 ล้านดอลล่าร์ รายได้ทั่วโลกเฉพาะวันเปิดตัวรวมกันกว่า 1,154 ล้านดอลล่าร์ สูงสุดเหนือกว่าทุกภาค และหากนับรายได้จากการฉายผ่านไป 14 วันพบว่าทำรายได้อย่างถล่มทลายไปถึง 802 ล้านดอลล่าร์ เป็นประวัติศาสตร์การทำสถิติทุบรายได้เปิดตัวสูงสุดของเดือน April ตลอดกาลไปเรียบร้อยแล้ว)

 
Avengers: Age of Ultron (May 1, 2015) หนังฟอร์มยักษ์รวมซุปเปอร์ฮีโร่ชื่อดังจากค่ายมาร์เวล ที่ครั้งนี้กลับมาประกาศความยิ่งใหญ่อีกครั้ง และเป็นตัวเต็งอันดับต้นๆ ที่คาดว่าจะทำรายได้ถล่มทลายสูงสุดในช่วงซัมเมอร์นี้ ภาคนี้ตัวละครซุปเปอร์ฮีโร่เก่าๆ อย่าง Thor,Captain America,Iron Man,Hawk Eye,Clint Barton,The Hulk,Bruce Banner,Black Widow,Natasha Romanoff,Nick Fury และ.... จะกลับกันมาครบทีมแล้ว ยังเพิ่มตัวละครใหม่คือ Quick Silver กับ Scarlett Witch เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย ระดับความมันส์คงจะเกินพิกัดอย่างแน่นอน

Mad Max : Fury Road (May 15, 2015) นี่เป็นหนังรีเมคที่ผู้ชมทั่วโลกและผู้เขียนเฝ้ารอชมมากที่สุดของปีนี้เลย เป็นหนังโร้ดมูฟวี่บ้าระห่ำในตำนาน ที่ขนาดเมื่อก่อนไม่มีเอฟเฟ็คทซีจีช่วย ยังมันส์ได้ถึงพระเดชพระคุณซะไม่มีใครลืม แต่มาพ.ศ.นี้ เทคโนโลยีการสร้างภาพและเสียงก้าวไกลแล้ว การหยิบนำเอาภาพยนตร์คลาสสิกเรื่องนี้มาทำใหม่ จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ดูจากตัวอย่าง trailer ก็ชวนให้อยากดูแล้ว
 
 
Tomorrowland (May 22, 2015) ผลงานไซไฟเรื่องใหม่ของจอร์จ คลูนี่ย์ เรื่องราวผจญภัยในดินแดนอนาคตของ เคซี่ นิวตัน (Britt Robertson) ที่บังเอิญไปพบกับเข็มกลัดประหลาด ซึ่งสามารถนำเธอเข้าสู่โลกอัศจรรย์ของทูโม­โรว์แลนด์ และหลังจากที่ได้เจอกับ แฟรงค์ วอร์คเกอร์ (George Clooney) อดีตนักประดิษฐ์อัจฉริยะ พวกเขาต้องร่วมมือกันเพื่อค้นหาความลับ และภัยอันตรายที่กำลังคุกคามสถานที่แห่งนี้

Jurassic World (June 12, 2015) หนังในตระกูลไดโนเสาร์จริงๆแล้ว ถึงจุดอิ่มตัวไปในภาคก่อนหน้านี้นานแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด ความน่าสนใจและการผจญภัยในแบบไดโนเสาร์ยังเป็นสิ่งที่คนอยากดูหรืออย่างไร จึงได้มีการหยิบเอาเรื่องราวของจูราสสิกกลับมาเล่าใหม่ และในครั้งนี้เป็นทีมงานใหม่ จับเอาเหตุการณ์ 22 ปีหลังจากเรื่องราวในหนังภาคแรก Jurassic Park ของผู้กำกับสตีเวน สปีลเบิร์ก มาเล่าต่อ ถึงสวนสนุกไดโนเสาร์ที่ต้องปิดตัวทั้งที่ยังไม่ได้เปิดให้เข้าชม บัดนี้ได้เปิดเป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ใจกลางเกาะ ที่มีไดโนเสาร์นานาชนิดให้ผู้ชมได้มาสัมผัสใกล้ชิด บางสายพันธุ์ถูกฝึกมาเพื่อจัดแสดงด้วยซ้ำ ซึ่งทุกอย่างก็ราบรื่นดีในปีแรกจนกระทั่งมีไดโนเสาร์แสนฉลาดตัวใหม่ที่ใหญ่กว่า ร้ายกว่า ดุกว่า ที่เกิดจากการตัดต่อพันธุวิศวกรรมข้ามสายพันธุ์หลุดออกมา หายนะจึงเกิดขึ้น ทำให้ทุกคนบนเกาะต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอด
 
Inside Out (June 19, 2015) แอนิเมชั่นเรื่องใหม่จากพิกซาร์ เรื่องราวอันสุดแสนมหัศจรรย์ภายใต้จิตใจของคน ครั้งนี้พิกซาร์นำประเด็นเรื่องอารมณ์ของมนุษย์ในด้านต่างๆ มาสร้างเป็นพล็อตเรื่องผ่านตัวละครเด็กผู้หญิง เรื่องราวของ ริลีย์ เด็กหญิงวัย 11 ปี ที่เติบโตขึ้นมาในชีวิตแบบตะวันตกตอนกลาง และจำต้องย้ายบ้านตามพ่อแม่มายังเมืองซาน ฟรานซิสโก หลังจากพ่อของต้องมาเริ่มงานที่ใหม่ ณ เมืองที่ริลีย์ไม่คุ้นเคย ชีวิตของริลีย์ต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เธอต้องปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ที่แตกต่างออกไปจากเดิม และต้องเผชิญกับอารมณ์มากมายที่เข้ามาหลังจากการเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งนี้ของเธอ จนนำมาสู่การแสดงออกทางอารมณ์ต่างๆ ทั้ง 5 ได้แก่ ความสุข (Joy), ความกลัว(Fear), ความโกรธ (Anger ), ความน่ารังเกียจ (Disgust) และความเศร้า (Sadness) เมื่ออารมณ์ทั้งหมด ล้วนอาศัยอยู่ในศูนย์บัญชาการใหญ่ ภายใต้การควมคุมของจิตใจไรลีย์ คำแนะนำของพวกเขาจะช่วยเหลือเธอให้ผ่านชีวิต­ในแต่ละวันได้ไปได้อย่างไร? เมื่อบทสรุปของความขัดแย้งทางอารมณ์เป็นเหมือนเข็มทิศชี้นำแนวทางให้ริลีย์ผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านนี้ได้

Terminator: Genisys (July 1, 2015) ภาคต่อหนังคนเหล็กภาคนี้สนุกแน่ มีการเปลี่ยนแปลงบทจากเดิม โดยมีพล็อตหักมุม ตัวละครตัวร้ายเก่งมากขึ้น ดูเหมือนว่าแค่ให้ T-800 กลายมาเป็นพ่อบุญธรรมของแซร่าห์ คอนเนอร์ ยังไม่พอ หนังยังมีการหักมุมไปยิ่งกว่านั้นอีกในตัวอย่างหนังที่เผยคนเหล็กรุ่นใหม่ ที่เป็นตัวร้ายใหม่ของเรื่อง ภาคนี้ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ กลับมารับบทเป็นคนเหล็ก T-800 อีกครั้ง แต่ถูกส่งมาให้ดูแลแซร่าห์ คอนเนอร์ (เอมิเลีย คลาร์ก) ตั้งแต่เธออายุเก้าขวบ และเลี้ยงดูเธอเหมือนลูกสาว ทำให้เส้นเวลาของเหตุการณ์ที่เคยอยู่ในสองภาคแรกเปลี่ยนใหม่หมด แต่ยังไงเสีย วันพิพากษาก็ยังจะเกิดขึ้นอยู่ดี และพวกเขาก็ต้องหาทางยับยั้ง
 
 
Ant-Man (July 17, 2015)  Hank Pym เป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้ค้นพบสาร PYM Particle ที่สามารถย่อส่วนอะไรก็ได้ หลังจากทดลองกับวัตถุไม่มีชีวิตแล้วเขาก็ทดลองกับตัวเอง!? หลังจากการย่อตัวครั้งแรกที่ทำให้เขาเกือบตาบจากการตกไปในรังมด ทำให้เขาคิดสร้างชุดที่ติดตั้งเครื่องลดมวลสารนี้และหมวกที่ใช้ติดต่อสื่อสารกับพวกแมลง ทำให้เขากลายเป็นฮีโร่พันธุ์แหวกแนว (ในตอนนั้น) ของมาร์เวลที่เรียกตนเองว่า แอนท์-แมน  หลังจากปราบอธรรมมาได้ซักพักในหนังสือหัว Tales To Astonish แฮงค์ก็ได้พบกับสาวสวย  เจเน็ท แวน ดีน ที่เป็นลูกสาวของเพื่อนร่วมงานของเขาที่ถูกฆาตกรรม ทำให้ทั้งคู่ต้องร่วมกันหาตัวฆาตกรจนสำเร็จ หลังจากนั้นเป็นต้นมาทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกันจนแต่งการกันเป็นคู่ชีวิตในที่สุด และเจเน็ทก็ไม่ได้อยู่เป็นคุณนายอยู่ที่บ้านเฉยๆ เพราะเธอก็สวมชุดลดมวลสารและติดปีกแมลงออกปราบอธรรมในนาม วอสป์ (Wasp)" คู่หูของแอนท์-แมนอีกด้วย

Pan (July 24, 2015) หนังปีเตอร์ แพน ที่นำกลับมาสร้างใหม่เป็นเวอร์ชั่นคนแสดง หลังจากความสำเร็จของ Alice in Wonderland ฮอลลีวู้ดก็เกิดกระแสสร้างหนังเทพนิยายกันออกมามากมาย แต่ยอมรับว่ามีเพียงดิสนี่ย์เจ้าเดียวที่ทำได้เข้าเป้าในแง่รายได้ ที่เหลือพากันคว่ำกันเป็นส่วนใหญ่ จะมีก็แต่ Snow White and the Huntsman ที่รอด แต่ก็ไม่ได้ทำรายได้ขนาดเดียวกับที่ดิสนี่ย์ทำ และเราก็คงต้องมารอดูกันว่า Pan จากค่ายวอร์เนอร์ บราเธอร์ส จะออกมายังไงครับ แต่วันนี้เรามีภาพนิ่งใหม่มาให้ชม ในหนังเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวย้อนพาเราไปพบว่าแพนไปยังเนเวอร์แลนด์อันสุดอัศจรรย์ได้ยังไง และทำไมเขากับกัปตันฮุค (กาเร็ตต์ เฮดลันด์) กลายเป็นศัตรูกัน ซึ่งดูเหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับการต่อสู้กับกัปตันเคราดำ ตัวร้ายที่รับบทโดยฮิวจ์ แจ็คแมน และได้น้อง เลวี มิลเลอร์ ที่จะมารับบทเป็นแพนครับ
 
Mission: Impossible 5 (July 31, 2015) หลังจากภาคที่แล้ว MI:4 ทอม ครูส กลับมาได้ยิ่งใหญ่ ในภาคนี้ องค์กร Impossible Mission Force ของอีธาน ฮันต์ถูกยุบ เพราะเหล่าเจ้าหน้าที่รัฐบาลในวอชิงตันที่เจ็บแค้น รวมถึงหัวหน้าซีไอเอซึ่งรับบทโดยอเล็ค บอลด์วิน แต่เมื่อฮันต์ค้นพบความจริงว่ามีองค์กรสายลับที่ถูกฝึกมาแบบเดียวกับพวกเขาชื่อว่า ซินดิเคตเขาจึงต้องระดมพรรคพวกเก่า รวมถึงสมาชิกใหม่ที่รับบทโดยรีเบคกา เฟอร์กูสัน ในการยับยั้งแผนการร้ายของหัวหน้าองค์กรชั่วที่รับบทโดยฌอน แฮริส  หนังมีทอม ครูส กลับมารับบทอีธาน ฮันต์ สมทบด้วยเจเรมี เรนเนอร์, ไซมอน เพ็กก์, วิงก์ แรห์ม, อเล็ค บอลด์วิน, ฌอน แฮริส และรีเบคกา เฟอร์กูกัน ครับ เขียนบทและกำกับโดยคริสโตเฟอร์ แม็คควอรี ฉาย 6 สิงหาคมในบ้านเรา หลังสหรัฐ 1 สัปดาห์ โดยใช้ชื่อไทยว่า มิสชั่น: อิมพอสสิเบิล ปฎิบัติการรัฐอำพราง”  และฉายในระบบ IMAX ด้วย

Crimson Peak (October 16, 2015) หนังเป็นงานต่อเนื่องจาก Pacific Rim ที่ผู้กำกับกีเยร์โม เดล โทโร กำกับให้ลีเจนดารี พิกเจอร์ส บอกเล่าเรื่องราวหนังแนวบ้านผีสิงที่นำแสดงโดย ทอด ฮิดเดลสตัน, เจสสิกา แชสเทน, มีอา วาสิโกวสกา และ ชาร์ลี ฮันนัม  วาสิโกวสกา รับบทเป็นนักเขียนดาวรุ่งที่ชีวิตในวัยเด็กต้องพบกับเหตุโศกนาฏกรรมของครอบครัว และเพื่อหาทางหนีจากอดีต เธอตัดสินใจแต่งงานกับชายหนุ่มแปลกหน้าผู้ลึกลับซึ่งพาเธอเข้าไปยังอยู่คฤหาสน์อันใหญ่โต โดยหารู้ไม่ว่าที่นั่นเองก็มีความน่าสะพรึงกลัวรอเธออยู่  ตัวอย่างหนังให้ความรู้สึกเป็นหนังสยองขวัญบ้านผีสิงจริงๆ ด้วยการใช้งานฉาก สถานที่ บรรยากาศ และแสงเงา ที่มีงานสร้างยิ่งใหญ่ ทำให้นึกถึงหนัง Bram Stoker’s Dracula ของฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา (แต่ในสไตล์ของเดล โทโร เอง) เรื่องราวที่แย้มออกมายังบอกถึงความลึกลับเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของตัวละคร รวมถึงรักสามเส้า ด้วยครับ
 
Bridge of Spies (October 16, 2015) โปรเจ็คท์การกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของสตีเว่น สปีลเบิร์กกับทอม แฮ้งค์ ผู้กำกับและนักแสดงคู่นี้เคยร่วมงานกันมาแล้วสามเรื่อง คือ Saving Private Ryan (1998), Catch Me If You Can (2002) และ The Terminal (2004) ทุกเรื่องล้วนแล้วแต่เป็นหนัง ขึ้นหิ้ง”  ประสบความสำเร็จอย่างสูง ทั้งเงินทั้งกล่องทั้งสิ้น หนังเรื่องนี้เป็นแนวพีเรียดย้อนยุคไปในช่วงยุคสงครามเย็น โดยทอม แฮงค์ จะรับบทเป็นทนายความจากบรูคลีน ที่ถูกซีไอเอ ส่งตัวไปอยู่ในทีมเจรจากับสหภาพโซเวียตให้ปล่อยตัวนักบินอเมริกันท่ีขับเครื่องบิน ยู-ทู เช้าไปสอดแนมในแดนหมีขาวและถูกสอยร่วง... อันเป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในปี 1960

Spectre (November 6, 2015) ภาคนี้ได้ชื่อโปรเจ็คท์นี้ว่า Spectre หรือ องค์กรลับดับพยัคฆ์ร้าย  กำกับโดยแซม เมนเดส ผู้กำกับคนเดิมจากภาคที่แล้ว skyfall  แดเนียล เครก กลับมารับบทเจมส์ บอนด์, นาโอมิ แฮริส ในบทมันนีเพนนี, เบน วิชอว์ รับบทเป็น Q, เรลฟ์ ไฟนส์ มารับบทเป็น M, รอรี คินเนียร์ กลับมารับบทเป็นแทนเนอร์โมนิกา เบลลูชี ในบทลูเซีย สเกียร์รา, เลอา แซดู ในบทแมดเดเลน สวอน, แอนดรูว์ สก็อต มารับบทเป็นเดนบิกห์, เดวิด บาติสตา เป็นมร.ฮิงซ์ ที่น่าจะเป็นมือขวาของตัวร้ายหลักของเรื่องชื่อ โอเบอร์เฮาเซอร์ที่จะรับบทโดยคริสตอฟ วอลทซ์ ครับ

The Hunger Games: Mockingjay – Part 2 (November 20, 2015) หลังจากนกม็อกกิ้งเจย์อยู่ในกรอบวงกลมมาหลายภาค ในภาคนี้ มันได้โบยบินออกไปและทำลายกรอบนั้นทิ้งครับ ซึ่งคงเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือน เราก็จะได้ชมหนังภาคจบชุดนี้กัน The Hunger Games: Mockingjay Part 2 นำแสดงโดยเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์, จอช ฮัทเชอร์สัน, เลียม เฮมส์เวิร์ธ, จูลี่แอน มัวร์, ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟแมนดนัลด์ ซุทเธอร์แลนด์, วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน, อลิซาเบธ แบงก์, สแตนลี ทุชชี, จีนา มาโลน และ แซม แคลฟลิน กำกับโดยฟรานซิส ลอว์เรนซ์ ภาคนี้เล่าเรื่องการเดินทางสู่บทสรุปของสงครามม็อกกิ้งเจย์ที่คนทั้งโลกรอคอย เปิดฉากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของ แคทนิส และ ประธานาธิบดีสโนว์ ที่จะเปลี่ยนชะตาพาเน็มไปตลอดกาล จากวันแรกที่ แคทนิส เอเวอร์ดีน (เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์) เข้าร่วมการแข่งขันเดอะฮังเกอร์ เกม ในฐานะตัวแทนของเขต 12 วันนี้เธอคือความหวังของทุกชีวิตในสงครามครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดตัดสินกับแคปิตอลซึ่งนำโดยประธานาธิบดีสโนว์ โดยมีเกล (เลียม เฮล์มสเวิธ), ฟินนิค (แซม คลาฟลิน) และประธานาธิบดีคอยน์แห่งเขต 13 (จูลีแอนน์ มัวร์) เป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายครั้งนี้ และอีกสิ่งหนึ่งที่ทุกคนตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อคือบทสรุปความสัมพันธ์ระหว่าง แคทนิส กับ พีต้า ที่ไม่ใช่พีต้าคนเดิมอีกต่อไป

The Hateful Eight (December 2015) การกลับมาของเควนติน ทาแรนติโน่ กับโปรเจ็คท์หนังคาวบอยเรื่องใหม่ ตัวอย่างหนังเล่าเรื่องย่อด้วยว่า เป็นเหตุการณ์ในช่วงสงครามกลางเมือง (ซึ่งปีของเหตุการณ์อยู่หลัง Django Unchained หนังคาวบอยก่อนหน้านี้ของตารันติโน) ฉากของเรื่องราวเป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่ตัวละคร 8 คน ที่ไม่รู้จักกัน มาหลบพายุหิมะอยู่ด้วยกัน แต่แล้วทั้ง 8 ก็พบว่าพวกเขามีความสัมพันธ์มรณะโยงใยถึงกันหมด  ทั้ง 8 ตัวละครได้แก่ผู้พันมาควิส วอเรน หรือ นักล่าหัวเงินรางวัล, จอห์น รูธ หรือเพชฌฆาตแขวนคอ, เดซี่ โดเมิร์ก หรือ นางนักโทษ, คริส แมนนิกซ์ หรือนายอำเภอ, บ็อบ หรือไอ้เม็กซิกัน, ออสวอลด์ โมเบรย์ หรือ เจ้าเตี้ย, โจ เกจ หรือ โคบาล หรือนายพลแซนดี้ สมิทเธอร์ หรือคนฝ่ายใต้  ท้ายตัวอย่างหนังบอกด้วยครับว่า จงไปชมหนังเรื่องนี้ในแบบฟิล์ม 70 ม.ม. จอกว้าง (70mm Super Cinemascope) นักแสดงคนเดียวของหนังที่ยืนยันแล้วก็คือ เคิร์ท รัสเซล ครับ ที่เหลือยังเป็นข่าวลืออยู่ ก่อนหน้านี้โปรเจ็คท์เรื่องนี้เกือบจะไม่ได้สร้างแล้ว เมื่อบทหนังของเขาหลุดรอดออกไปอยู่บนสื่อโลกออนไลน์ ทำให้เขาไม่พอใจจนเกือบจะล้มเลิกการสร้าง สุดท้ายก็เปลี่ยนใจ
 
 
Star Wars: The Force Awakens (December 18, 2015) เป็นที่ฮือฮาของสาวกหนังมหากาพย์เรื่องนี้ตลอดเวลา นับแต่ข่าวที่จอร์จ ลูคัสขายลิขสิทธิ์หนังอวกาศในตำนานให้สตูดิโอยักษ์ใหญ่อย่างวอลท์ ดิสนี่ย์ ต่อมาก็มีข่าวว่าผู้ที่จะมารับผิดชอบสร้างไตรภาคภาคต่อ 7-9 เป็นเจ.เจ.เอบรามส์ ตามมาด้วยเมื่อเร็วๆ นี้ ปล่อยทีเซอร์ยั่วน้ำลายมาเพียง 2 นาที แต่ก็สร้างผลตอบรับของสาวกทั่วโลกแห่เข้าไปชมกันอย่างถล่มทลาย และล่าสุดการปล่อยเทรลเล่อร์ฉบับสมบูรณ์หรือฉบับเต็มออกมา ก็สามารถสร้างกรแสอยากดูให้กับเหล่าสาวกทั่วโลก กลายเป็นหนังตัวเต็งที่จะสร้างรายได้สูงสุดของปีนี้คาบต่อปีหน้าอย่างแน่นอนออกมา  จากตัวอย่างทีเซอร์ล่าสุด งานภาพที่เอบรามส์นำเสนอให้อารมณ์มหากาพย์ และดูสมจริงเหมือนอยู่ในธรรมชาติจริงๆ มากกว่าการใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิกสร้างในโรงถ่าย ซึ่งเป็นแนวทางที่เอบรามส์อยากให้แฟนๆ รู้สึก และยังใช้รูปแบบงานสร้างย้อนยุค หรือ retro มาเป็นแนวทางในการออกแบบด้วย ตัวอย่างหนังมีเสียงของลุค สกายวอล์คเกอร์ พูดถึง พลังที่แรงกล้าที่มีอยู่ในครอบครัวของเขา ในตัวของพ่อ ในตัวเขา และในตัวน้องสาวฝาแฝด แล้วค่อยพูดว่า เจ้าก็มีพลังนั้นด้วย ตัวอย่างหนังเหมือนเปิดด้วยตัวละครเก่า ใส่ตัวละครใหม่ตรงกลาง แล้วปิดด้วยตัวละครเก่า เป็นการแนะนำตัวละครใหม่สำหรับผู้ชมรุ่นใหม่ และพาผู้ชมรุ่นเก่าไปพบกับตัวละครรุ่นเก่าที่พวกเขาหลงรัก หนังนำแสดงโดยจอห์น บอเยกา, เดซี่ ริดลี่ย์, ออสการ์ ไอแซ็ค, แอนดี้ เซอร์กีส, อดัม ไดรเวอร์, ดอมห์เเนลล์ กลีสัน และ แม็กซ์ ฟอน ซิโดว์ลูปิตา ยองโก และ เกวนเดอลีน คริสตี้ พร้อมการกลับมารของนักแสดงชุดเก่าจากไตรภาคคลาสสิค  ได้แก่ แฮริสัน ฟอร์ด, แครี่ ฟิสเชอร์, มาร์ค แฮมิลล์, แอนโธนี แดเนียลส์, ปีเตอร์ เมย์ฮิว และเคนนี เบเกอร์ หนังใช้ชื่อไทยว่า สตาร์ วอร์ส: อุบัติการณ์แห่งพลัง” เข้าฉายในเมืองไทยวันสิ้นปี
 
 
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น