องค์กรความช่วยเหลือนานาชาติ
และรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ตั้งแต่เอเชีย ยุโรป และสหรัฐ
ต่างเร่งส่งหน่วยกู้ภัยและความช่วยเหลือมายังเนปาลในวันนี้ (27
เม.ย.)
หลังประเทศประสบกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทำให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุด 3,726 คน อินเดีย
ซึ่งได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งนี้เช่นกัน
ได้ส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์น้ำหนักรวม 43 ตัน
พร้อมกับเจ้าหน้าที่ 200 นาย
นอกจากนั้นก็ยังส่งเฮลิคอปเตอร์มาช่วยสนับสนุนการกู้ภัยด้วย
โดยกองทัพอินเดียเรียกการช่วยเหลือครั้งนี้่ว่า ปฏิบัติการณ์ "ไมตรี"
สำหรับสิ่งของที่ส่งเข้าไปมีทั้งโรงพยาบาลส่วนหน้า ที่เคลื่อนย้ายทางอากาศได้
หน่วยวิศวกรรม อาหาร น้ำ เจ้าหน้าที่ทีมตอบสนองภัยพิบัติแห่งชาติ
เจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ผ้าห่ม และเต็นท์ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐให้คำมั่นว่าจะช่วยเหลือในวงเงิน
1 ล้านดอลลาร์ ด้านกองทัพสหรัฐเผยว่า เครื่องบินซี-17
โกล้บมาสเตอร์เดินทางถึงเนปาลแล้วเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา
พร้อมกับเจ้าหน้าที่เกือบ 70 คน
เช่นเดียวกับจีนที่จะส่งทีมค้นหา 62 คน และสุนัขดมกลิ่น 6
ตัวมาช่วย ด้านคณะกรรมาธิการยุโรปมีมติให้เงินช่วยเหลือฉุกเฉินจำนวน
3 ล้านยูโร หรือราว 104 ล้านบาทให้กับเนปาลที่ประสบเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่
โดยคณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผยว่า
เงินช่วยเหลือก้อนนี้จะส่งไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
โดยจะใช้ไปกับการซื้อปัจจัยจำเป็นอย่างน้ำสะอาด ยารักษาโรค ที่พักพิงฉุกเฉิน
และการโทรคมนาคม นอกจากอียูแล้ว รัฐบาลรัสเซียยังได้ส่งเครื่องบิน 2 ลำ พร้อมด้วยทีมงานหน่วยกู้ภัยและทีมให้ความช่วยเหลือด้านสิทธิมนุษยชนไปยังประเทศเนปาล
เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวแล้ว เช่นเดียวกับ ญี่ปุ่น
และศรีลังกา ที่ยืนยันว่ามีการส่งทีมหน่วยกู้ภัยไปยังเนปาล ด้านสหรัฐ เกาหลีใต้
ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เรียกร้องให้นานาประเทศช่วยกันระดมทุนช่วยเหลือเนปาล ส่วนนอร์เวย์ประกาศให้ความช่วยเหลือในวงเงิน
4 ล้านดอลลาร์ สำหรับการบรรเทาทุกข์และกู้ภัย
ส่วนสวีเดนส่งทีมกู้ภัย 76 นาย พร้อมสุนัขดมกลิ่น 12 ตัวมาช่วย โดยจะมาถึงวันพรุ่งนี้ (28 เม.ย.)
ส่วนอุปกรณ์หนักจะตามมาในภายหลัง ส่วนปากีสถานจะส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์
รวมถึงอุปกรณ์สำหรับโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่การแพทย์มาช่วย
ส่วนองค์กรแพทย์ไร้พรมแดน ส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ 3 พันชุด
ด้านกูเกิล ประกาศสมทบเงินช่วยการกู้ภัย 1 ล้านดอลลาร์
รอยเตอร์/เอเอฟพี -
ขณะที่ชาวเนปาลและนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องนอนในที่โล่งเป็นคืนที่ 3 ติดต่อกันหลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อวันเสาร์(25เม.ย.) ความโกรธเคืองต่อการบรรเทาภัยที่ล่าช้าเริ่มปรากฎขึ้น
ด้วยเจ้าหน้าที่รัฐบาลทำงานกันอย่างสะเปะสะปะสับสนอลหม่าน ส่วนทีมช่วยเหลือก็เจอปัญหาในการลำเลียงเบียงออกจากท่าอากาศยานกาฐมาณฑุ
เนื่องจากพนักงานจำนวนมากหนีกลับบ้านไปตามหาญาติๆและตรวจสอบบ้านเรือนของตนเองที่ได้รับความเสียหาย
ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเหนือ 4,000 ศพแล้ว ถนนหลวงสายหลักๆถูกปิดกั้นโดยดินที่ถล่มลงมา
หมู่บ้านและชุมนุมหลายแห่งต้องอยู่โดยปราศจากน้ำสะอาดและไฟฟ้าใช้
โดยประชาชนอยู่รอดจากอาหารเหลือและไม่ได้รับความช่วยเหลือจากโลกภายนอก ในขณะที่ความช่วยเหลือเริ่มทยอยมาถึงเมืองหลวง
ในนั้นรวมถึงเสบียงอาหาร ยา เตนท์และสุนัขดมกลิ่น ทว่าเจ้าหน้าที่กลับประสบปัญหาในการกระจายมันไปปลดเปลื้องทุกข์แก่พื้นที่ประสบภัย
เนื่องจากการติดต่อทางโทรศัพท์ขัดข้อง สภาพท้องถนนที่เลวร้าย
ขาดเครื่องไม้เครื่องมือ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งยังมีอาฟเตอร์ช็อคเกิดขึ้นต่อเนื่อง นักศึกษาหญิงคนหนึ่งที่พักอาศัยอยู่รอบนอกกรุงกาฐมาณฑุ
เผยว่าครอบครัวของเธอต้องอพยพไปพักพิงที่สนามเด็กเล่น ใช้แผ่นพลาสติกเป็นที่บังแดด
ท่ามกลางรายงานข่าวที่ระบุว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีเหตุปล้นสะดมเกิดขึ้น
"เราไม่ได้แม้แต่น้ำสักแก้วจากรัฐบาล" เธอบอก "ไม่มีเจ้าหน้าที่สักคนมาตรวจเช็กสุขภาพของเรา
ที่นี่เราอยู่โดยตัวของเราเอง" ในขณะที่การพุ่งเป้าเริ่มเบี่ยงจากค้นหาเหยื่อแผ่นดินไหวเป็นให้ความช่วยเหลือผู้รอดชีวิต
องค์กรบรรเทาทุกข์นานาชาติและเจ้าหน้าที่เตือนว่าตอนนี้การแพร่ระบาดของโรคคือสิ่งที่เป็นกังวลสูงสุด
เนื่องจากเนปาลจะเริ่มเข้าสู่ฤดูมรสุมในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ(ยูนิเซฟ)
คาดหมายว่ามีประชาชนเกือบ 1 ล้านคนในเนปาล
ที่ได้รับผลกระทบแสนสาหัสจากแผ่นดินไหวครั้งนี้
และได้เตือนถึงการระบาดของโรคที่มากับน้ำและโรคติดต่อ ซูบิน ซูมาน
เจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์การบรรเทาทุกข์ออกซ์แฟม
เผยว่ามีชาวบ้านซึ่งพักอาศัยในที่โล่งหลายแสนคนที่เข้าไม่ถึงอาหารหรือห้องน้ำ
พร้อมเตือนว่าอาจมีคนตายจากโรคติดต่อมากกว่าเสียชีวิตจากอาคารพังถล่มเสียอีก
"สถานการณ์หลายๆอย่างยังไม่ดีขึ้น แผ่นดินยังสั่นสะเทือนเป็นพักๆ
และฝนที่ตกช่วง 2 วันที่ผ่านมาก็ซ้ำเติมให้เลวร้ายลงไปอีก" เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยเนปาลบอกกับรอยเตอร์
รัฐบาลเสี่ยงขาดแคลนเสบียงพื้นฐาน อาทิอาหารและอุปกรณ์ช่วยเหลือพิเศษ
และคร่ำครวญว่าตอนนี้มีเพียงอินเดียชาติเดียวที่ส่งเฮลิคอปเตอร์เข้ามาช่วยเหลือ
"เรายังไม่สามารถติดต่อกับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดได้" ชาวบ้านคนหนึ่งในภัคตปุระ
เมืองมรดกทางวัฒนธรรมทางตะวันออกของกาฐมาณฑุ
บอกว่าประชาชนที่พักอาศัยในค่ายพักพิงเริ่มหงุดหงิดและไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆต่อแนวทางการแจกจ่ายสเบียงของเจ้าหน้าที่
"มันเป็นการแจกจ่ายแบบส่งเดช แล้วแต่บุญแต่กรรม
เสบียงจำเป็นเร่งด่วนที่สุดถูกส่งมาแค่ชุดเล็กๆ จากนั้นทุกคนก็เริ่มแย่งกันหยิบฉวย
ไม่มีความร่วมมือไม้ร่วมมือใดๆ" ในขณะที่ผู้โดยสารหลายร้อยคนยังออกันที่สนามบินนานาชาติของเนปาลในความพยายามให้ได้ตั๋วเครื่องบิน
เหล่าเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ประสบปัญหานำเครื่องบินลงจอดและนำเสบียงเหล่านั้นออกจากรันเวย์
เนื่องจากพนักงานจำนวนมากหนีกลับบ้านไปตามหาญาติๆและตรวจสอบบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย
"มันเป็นสถานการณ์ที่ยุ่งเหยิงโดยสิ้นเชิง"
เจ้าหน้าที่จากองค์การช่วยเหลือเด็ก (Save the Children)เผย
"สนามบินไม่สามารถจัดการกับการจราจรได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่" นอกจากนี้แล้วในวันจันทร์(27เม.ย.) เช่นกัน ยังพบเห็นประชาชนหลายหมื่นคนหลั่งไหลออกจากเมืองหลวง
โดยท้องถนนที่มุ่งหน้าออกจากกรุงกาฐมาณฑุแน่นขนัดไปด้วยผู้คน บางส่วนอุ้มลูก
พยายามเบียดเสียดขึ้นรถบัสหรือรถบรรทุก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่หลายๆ ฝ่ายแถลงว่า
จนถึงตอนค่ำวันจันทร์นั้น ทราบแล้วว่าธรณีพิโรธคราวนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปมากกว่า
3,800 คน
และด้วยรายงานข่าวจากพื้นที่ห่างไกลที่ค่อยๆข้ามาอย่างช้าๆ
บ่งชี้ว่ายอดเหยื่อเพิ่มขึ้นรวดเร็วมาก
ท่ามกลางคำเตือนจากกระทรวงมหาดไทยที่เตือนว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจพุ่งถึง 5,000
ศพ ถือเป็นหายนะแผ่นดินไหวครั้งเลวร้ายที่สุดของเนปาล นับตั้งแต่ปี 1934
โดยคราวนั้นมีผู้เสียชีวิต 8,500 คน อย่างไรก็ตามทางสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานในช่วงค่ำวันจันทร์(27เม.ย.) อ้างเจ้าหน้าที่ระบุว่าตอนนี้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นมากกว่า 4,100
คนแล้ว ในนั้นเป็นชาวเนปาลถึง 4,010 คน
โดยในอินเดียและจีน สองชาติเพื่อนบ้าน พบผู้เสียชีวิตมากกว่า 90 คน และบาดเจ็บมากกว่า 7,500 คนในเนปาล
กระนั้นเจ้าหน้าที่ระดับสูงเตือนว่ายอดผู้เสียชีวิตในเนปาลอาจสูงกว่านี้มาก
เมื่อหน่วยกู้ภัยพบขอบเขตของภัยพิบัติครั้งนี้อย่างครบถ้วนแล้ว
เอเจนซีส์/เอเอฟพี –
โศกนาฎกรรมแผ่นดินไหวเนปาลขนาด 7.8 ทำให้ยอดเสียชีวิตทั่วเนปาลจากเดิมมีไม่ต่ำกว่า
1,800 คน ทะยานสู่ 4,000 คน ภายใน 3 วัน และหนึ่งในนั้นคือแดน เฟรดินเบิร์ก ( Dan
Fredinburg) วัย 33 ปี
ผู้บริหารระดับสูงของกูเกิล
ที่ได้รับการยืนยันเสียชีวิตบนยอดเขาเอเวอเรสต์ในวันเสาร์(25) ในขณะที่หน่วยงานกู้ภัยทำงานแข่งเวลาเพื่อช่วยเหลือและค้นหาผู้ที่รอดชีวิต
ด้านจีนส่งทีมค้นหากู้ภัยร่วม 62 ชีวิตมาเนปาลเพื่อร่วมค้นหา
และล่าสุดวันนี้(26)เฮลิคอปเตอร์ 6 ลำลงจอดบนยอดภูเขาเอเวอร์เรสต์ช่วยชีวิตและค้นหานักปีนเขา
บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานวันนี้(26)ว่า หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.8 แมกนิจูดคร่าชีวิตคนทั่วประเทศเนปาลไปไม่ต่ำกว่า
1,800 คน ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดในรอบ 81
ปี ชาติต่างได้ส่งความช่วยเหลือมายังเนปาลอย่างเร่งด่วน
โดยเอเอฟพีรายงานว่า ในวันนี้(26)รัฐบาลจีนส่งทีมกู้ภัยจำนวน
62 คนเดินทางไปเนปาลเพื่อร่วมทีมกู้ภัยนานาชาติออกค้นหาและช่วยเหลือผู้รอดชีวิต
และรวมไปถึงค้นหาร่างผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ในทีมกู้ภัยของจีนยังรวมไปถึงสุนัขค้นหาจำนวน
6 ตัว และอุปกรณ์กู้ภัยและเวชภัณฑ์ฉุกเฉิน
ที่คาดว่าทีมงานจะเดินทางด้วยเครื่องเหมาลำมาถึงกรุงกาฐมาณฑุภายในเวลา 12.00
น.วันอาทิตย์(26) เพื่อเริ่มงานให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม
สำนักข่าวซินหัวรายงาน และสำนักข่าวจีนยังรายงานเพิ่มเติมว่า จากจำนวนเจ้าหน้าที่ทั้งหมด
มีเจ้าหน้าที่ราว 42 คนเดินทางมาจากหน่วยที่ 38 ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน นอกจากนี้บีบีซียังรายงานเพิ่มเติมถึงสภาพทั่วไปหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่คาดว่าจะมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาหลังจากนี้
โดยในคืนวันเสาร์(25) ประชาชนชาวเนปาลต้องนอนทนความหนาวเหน็บที่ข้างถนน
หรือในที่โล่ง ในขณะที่ทางการเนปาลเกรงว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นในระหว่างการค้นหาที่ดำเนินมาถึงในวันนี้(26)
ซึ่งแผ่นดินไหวขนาด 7.8 แมกนิจูดนี้เกิดขึ้นในบริเวณเนปาลกลางระหว่างกรุงกาฐมาณฑุและโพคารา
เมืองใหญ่อันดับ 2ที่อยูทางตะวันออกของประเทศ ห่างไปราว 80
กม.บีบีซีรายงานต่อว่า ยอดตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ได้รับการประเมินล่าสุดจากกระทรวงมหาดไทยของเนปาลอยู่ที่
1,805 คนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บราว 4,718 คน ซึ่งเอเอฟพีรายงานว่า ในวันนี้(26) เฮลิคอปเตอร์จำนวน
6 ลำลงจอดบริเวณเบสแคมป์บนเทือกเขาเอเวอร์เรสต์เพื่อค้นหาและช่วยเหลือนักปีนเขาที่ยังติดอยู่หลังเกิดหิมะถล่ม
แอมมู คานนามพิลลี ( Ammu Kannampilly) หัวหน้าหน่วยงานรัฐบาลเนปาลให้สัมภาษณ์พร้อมเสริมว่า
สามารถทำได้หลังจากสภาพอากาศอำนวยหลังจากคืนที่ผ่านมา "นักปีนเขากระจายตัวรออยู่เบื้องล่างในขณะที่ฮอ.ลงจอด
ซึ่งมีสภาพท้องฟ้าโปร่ง หิมะตกเล็กน้อย" คานนามพิลลีแถลง นอกจากนี้ยังมีรายงานเหยื่อของแผ่นดินไหวในอินเดีย
บังกลาเทศ ทิเบต รวมไปถึงภูเขาเอเวอร์เรสต์ซึ่งทำให้เกิดหิมะถล่ม
โดยพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 36 รายในพื้นที่ภาคเหนือของอินเดีย
รวมถึงอีก 12 รายในเขตปกครองทิเบตของจีน และอีก 4 รายในบังกลาเทศ และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 รายบนยอดเขาเอเวอเรสต์
ซึ่งในจำนวนนี้เป็นชาวเนปาล 16 ราย รวมไปถึงแดน เฟรดินเบิร์ก
( Dan Fredinburg) วัย 33 ปี
ผู้บริหารระดับสูงของกูเกิล ที่ได้รับการยืนยันเสียชีวิตบนยอดเขาเอเวอเรสต์ในวันเสาร์(25)เช่นกัน เดลีเมล
สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้(26)ถึงการเสียชีวิตของนักปีนเขา 18
คนและเชอร์ปาผู้นำทางชาวเนปาล ซึ่งรวมไปถึงเฟรดินเบิร์ก
ที่เคยปีนยอดเขาเอเวอร์เรสต์เพื่อบันทึกภาพสำหรับกูเกิลแมพส์ นอกจากนี้ยังพบว่า
ในขณะเกิดเหตุเฟรดินเบิร์กและผู้บริหาระดับสูงคนอื่นของกูเกิลที่ปีนเขาเอเวอร์เรสต์ร่วมกับทีม
Jagged Globe ซึ่งพบว่านอกจากฟรีดินเบิร์กแล้ว
คนอื่นในทีมไม่ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิต จากรายงานพบว่า ในบริษัทกูเกิล
ตำแหน่งของเฟรดินเบิร์กคือ 'Google Adventurer' โดยเขาได้ทำหน้าที่ถ่ายภาพยอดเขาสูงทั่วโลกให้กับทางกูเกิล
แมพส์ และฟรีดินเบิร์กยังเป็นผู้บริหารบริษัทส่วนตัว “Google X”อีกตำแหน่ง ทั้งนี้ข่าวการเสียชีวิตของเฟรดินเบิร์กได้รับการเปิดเผยผ่านทางอินสตราแกรมของอดีตแฟนสาวนักแสดง
โซเฟีย บูช( Sophia Bush) จากผลงาน One Tree Hill
actress ที่จบความสัมพันธ์ 1 ปีในเดือนกุมภาพันธ์
2014 ซึ่งเธอได้กล่าวไว้อาลัยแดน เฟรดินเบิร์กว่า “ขอไว้อาลัยให้กับ 1 ในคนอันเป็นที่รักมากที่สุดของดิฉัน
ซึ่งไม่มีใครเหมือน ทั้งนี้ไม่มีคำกล่าวใดที่จะสามารถสรรหามาแสดงความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้
หลังจากที่ในวันนี้ ข่าวร้ายที่เกิดขึ้น
ดิฉันต้องใช้ความพยายามในการเก็บซากหัวใจที่แตกสลายและหล่นบนพื้น
ซึ่งดูเหมือนว่าจะหาไม่พบ” และบูชยังกล่าวต่อผ่านโซเชียลมีเดียว่า “และในวันนี้
ดิฉัน และเพื่อน รวมไปถึงคนรู้จักของดิฉัน ได้สูญเสียเพื่อนที่น่ารักอย่างแดน
เฟรดินตันไป “แดน” เพื่อนที่ไม่มีความกลัว
ตลก และยังเป็นหุ่นยนต์นักเต้นรำบนฟลอร์
ที่ดูเหมือนว่าต้องการขี่ไดโนเสาร์เพื่อไล่ตามหาดวงอาทิตย์และโลกแห่งอนาคตที่ดีกว่าอยู่ตลอดเวลา” เดลีเมลรายงานว่า คนทั้งคู่ได้แยกทางไปเมื่อกุมภาพันธ์
2014 เนื่องมาจากระยะทางเป็นปัจจัยหลัก
ถึงแม้ว่าเพื่อนของคนทั้งคู่ต่างเคยคิดว่า
ในวันหนึ่งข้างหน้าทั้งเฟรดินเบิร์กและบูชจะร่วมเข้าหอลั่นระฆังวิวาห์ในอนาคต ในเดือนเมษายน 2014 ก่อนที่จะมีการแถลงข่าวประกาศการแยกทางอย่างเป็นทางการออกมา แดน
เฟรดินเบิร์กเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดในเหตุการณ์หิมะถล่มบนยอดเขาเอเวอร์เรสต์ที่คร่าชีวิตเชอร์ปาไป
16 คนในขณะนั้น และบูช แฟนสาวเป็นผู้ทวีตข่าวรายงานว่า แดน
เฟรดินเบิร์กปลอดภัย อย่างไรก็ตามการเสียชีวิตของเฟรดินเบิร์ก ผู้ที่แจ้งข่าวการเสียชีวิตคนแรกคือ
น้องสาว เมแกน ที่ได้โพสต์ภาพแดน เฟรดินเบิร์กในขณะปีนเขา และในวันเสาร์(25) ทีม Jagged Globe ที่เฟรดินเบิร์กได้ร่วมปีนเขาด้วยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเสียชีวิต
ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อการสูญเสียผู้บริหารกูเกิลรายนี้ รวมไปถึงยืนยันว่านักปีนเขาคนอื่นของทีมทั้งหมดไม่ได้รับอันตรายร้ายแรงถึงแม้จะมีอาการบาดเจ็บก็ตาม “ทางทีมขอแสดงความเสียใจที่ต้องแจ้งให้ทราบถึงข่าวการเสียชีวิตของ
แดน เฟรดินเบิร์ก และมีสมาชิกอีก 2 คนของทีมปีนเขาเอเวอร์เรสต์ได้รับบาดเจ็บแต่ไม่สาหัส
จากการที่หิมะถล่มลงบริเวณเบสแคมป์ หลังจากเกิดแผ่นดินไหว และตามด้วยอาฟเตอร์ช็อก
แต่ทว่าเป็นที่น่าดีใจว่า
เชอร์ปาและนักปีนเขาคนอื่นๆของทีมปลอดภัยอยู่ภายในเบสแคมป์ หรือใน Gorak
Shep บริเวณชะง่อนเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านชาและที่พัก
ซึ่งเป็นที่หลบภัยของเชอปาและนักปีนเขา
ทั้งนี้ทางทีมขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของแดน เฟรดินเบิร์ก มาที่นี้” ด้านโฆษกกองทัพเนปาลได้เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า
สามารถพบร่างนักปีนเขาจำนวน 18 คนที่ถูกฝังใต้หิมะและก้อนหินในบริเวณเบส
แคมป์บนเทือกเขาเอเวอร์เรสต์ นอกจากนี้ยังพบว่า แผ่นดินไหวทำให้เกิดหิมะถล่ม และคร่าชีวิต 8 คน และทำให้นักปีนเขาได้รับบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 30 คน
และยังมีตัวเลขนักปีนเขาและเชอร์ปาที่สูญหายอยู่อีกจำนวนหนึ่ง รัฐบาลเนปาลแถลงว่ามีนักปีนเขาอยู่ที่เบสแคมป์บนเทือกเขาเอเวอร์เรสต์จำนวน
1,000 คนในขณะเกิดแผ่นดินไหว
รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV
ผู้จัดการออนไลน์ - ยอดผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวระดับ 7.9
แมกนิจูด ในวันเสาร์ (26 เม.ย.)
ที่เนปาลได้เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างน้อย 1,800 รายแล้ว
(ตัวเลขนี้ยังไม่นิ่ง คาดว่าจะมีจำนวนผู้เสียชีวิตอีกจำนวนมาก) รายงานข่าวล่าสุดซึ่งอ้างการแถลงของโฆษกตำรวจเนปาล
ระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวซึ่งมีความรุนแรงที่สุดในรอบ 81
ปีของเนปาล ได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 1,130 ราย
โดยในจำนวนนี้เป็นผู้เสียชีวิตในเขต “กาฐมาณฑุ แวลลีย์”
อย่างน้อย 634 ราย
โดยมีความเป็นไปได้ที่ยอดผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้
อาจพุ่งสูงขึ้นอีกท่ามกลางรายงานข่าวที่ยังไม่มีการยืนยันว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย
1,341 รายแล้ว นอกเหนือจากผู้เสียชีวิตในเนปาลที่เป็นศูนย์กลางของแผ่นดินไหวคราวนี้
ยังมีรายงานการพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 36 ราย
ในพื้นที่ภาคเหนือของอินเดีย รวมถึงอีก 12 รายในเขตปกครองทิเบตของจีน
และ อีก 4 รายในบังกลาเทศ แผ่นดินไหวซึ่งมีศูนย์กลางห่างจากโพคารา
เมืองใหญ่อันดับ 2 ของเนปาล ไปทางตะวันออกราว 80 กิโลเมตรในครั้งนี้ ถือเป็นวิกฤตด้านมนุษยธรรมใหญ่หลวง
ซึ่งทำให้รัฐบาลเนปาลต้องร้องขอความช่วยเหลือเร่งด่วนจากต่างประเทศ
โดยมีอินเดียตอบรับเป็นชาติแรก
ด้วยการส่งเครื่องบินทหารมาพร้อมกับอุปกรณ์ทางการแพทย์และทีมกู้ภัย ในอีกด้านหนึ่ง
มีรายงานว่า แผ่นดินไหวระดับ 7.9 แมกนิจูดนี้
ยังส่งผลต่อเนื่องให้เกิดเหตุหิมะถล่มซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 ราย บนยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งในจำนวนนี้เป็นชาวเนปาล 16 ราย ก่อนหน้านี้ เนปาลเคยเผชิญกับแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อปี 1934 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตในครั้งนั้นมากกว่า 8,500 ราย