วันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

sweet november ขอสะกดใจเธอชั่วนิรันดร์

Preview
เรื่องย่อ

เนลสัน มอส (คีอนู รีฟส์) คือหนุ่มนักบริหารงานโฆษณาผู้ใช้ชีวิตในนิวยอร์คซิตี้อย่างหรูหรา เขาคือหนุ่มไฟแรงที่บ้างานจนแทบไม่มีเวลาส่วนตัว แล้วเขาก็มีโอกาสได้รู้จักกับ ซาร่า ดีเวอร์ (ชาลิซ เธรอน) สาวเจ้าเสน่ห์ผู้รักอิสระและยึดถือการ เปลี่ยนคู่รักเดือนละคน เธอช่วยชายแต่ละคนให้ผ่านพ้นวิกฤตทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต แต่ไม่ยอมให้ความ ปรารถนาทางอารมณ์ของตัวเอง ได้รับการเติมเต็มจากหนุ่มผู้มั่งคั่งคนนี้ แม้จะตกหลุมรักเขา แต่ก็ไม่ต้องการผูกมัดด้วยพันธะใดๆ เพราะชีวิตของ ซาร่ากำลังจะสิ้นสุดลงในไม่ช้า ด้วยเหตุนี้ เนลสันกับซาร่าจึงตัดสินใจเปิดฉากความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา โดยให้ระยะเวลาทดสอบ 1 เดือน ก่อนจะแยกย้ายไปทางใครทางมัน ด้วยความหวังว่า ความเกี่ยวข้องหวือหวาครั้งนี้จะไม่นำมาซึ่งความคาดหวัง และความผูกพันที่ชวนเจ็บปวดใดๆทั้งสิ้น

หนังให้ความรู้สึกอบอุ่น และตื้นตันใจ เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งรู้ว่าชีวิตของตน จะอยู่ได้ไม่นาน แต่แทนที่จะเข้ารักษาตัว กลับเลือกที่จะใช้ชีวิตที่เหลือแบบที่ใจต้องการ ครอบครัวของเธอไม่เข้าใจและรับไม่ได้กับทางเลือกนั้น เธอจึงหนีออกจากบ้านโดยไม่แคร์เงิน ตำแหน่งและฐานะใดๆที่เคยมี โชคดีที่เพื่อนเข้าใจเธออย่างลึกซึ้ง ใครที่เป็นคนรักเพื่อนดูเรื่องนี้แล้วจะต้องชอบ และจะรู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมากที่เห็นสิ่งที่เพื่อนทำเพื่อเพื่อน

เมื่อเนลสันรู้ว่าเธอป่วยหนักก็ไม่เข้าใจที่ซาร่าไม่ยอมไปรักษาตัว
จนกระทั่งเพื่อนของเธอบอกว่า "คุณยังไม่เข้าใจอีกหรือไง ไม่ใช่ว่าเธอไม่รักชีวิต แต่เธอกำลังใช้ชีวิต!"
ที่จริงแล้วซาร่ากำลังใช้ชีวิตที่เหลือในแบบที่เธอต้องการ ไม่ว่าจะถูกหรือผิดมันก็คุ้มค่าสำหรับเธอ

ซาร่าวางกฏเหล็กไว้ปกป้องตนเองและคนรัก ด้วยการมีสัมพันธ์กับผู้ชายเพียง 1 เดือนเพราะเห็นว่า 1 เดือนนานพอสำหรับความรู้สึกดีๆ แต่สั้นเกินที่จะเกิดปัญหาตามมา ….ความซาบซึ้งใจอยู่ที่ ซาร่าเก็บซ่อนความทุกข์ไว้ และเลือกที่จะแบ่งปันความสุขให้คนรอบข้าง โดยคาดไม่ถึงว่าผู้ชายคนสุดท้ายของเธอจะทำให้เธออยากอยู่ด้วยไปชั่วชีวิต เมื่อวันที่เธอพบเขา เธอหวังเพียงจะให้ ชายหนุ่มผู้มีชีวิตที่ยุ่งเหยิงบ้างานได้รู้จักใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าเพราะเธอรู้ซึ้งถึงคุณค่าของชีวิตได้ดีที่สุด แต่ที่สุดแล้วเธอคาดไม่ถึงเลยว่าชายหนุ่มผู้นี้ได้ตอบแทนสิ่งที่ดีที่สุดแก่เธอเช่นกัน ชีวิตของซาร่าอยู่ไม่ถึงวันคริสต์มาสต์ แต่เนลสันจัดงานวันคริสมาสต์ให้กับเธออย่างที่ไม่คาดคิด นี่เป็นฉากแห่งความทรงจำจริงๆ เป็นหนังที่สร้างได้ประณีต ละมุนละไมต่อความรู้สึก คำพูดในเรื่องนี้คม กินใจ และซึ้งมากๆ

....Sweet November อาจไม่ถึงกับทำให้คุณต้องรู้สึกเสียดายอะไรถ้าไม่ได้ดู แต่ถ้าคุณได้ดูแล้วจะรู้สึกเลยว่าถ้าพลาดไปจะน่าเสียดายเพียงใด แม้จะไม่ถึงกับทำให้ร้องไห้ แต่มากเพียงพอที่จะสร้างความอบอุ่น และความรู้สึกดีๆที่ได้ชม และอาจทำให้คุณน้ำตาซึมโดยไม่รู้ตัว
ข้อเขียนและบทวิจารณ์ของคุณที่ใช้นามปากกาว่า คุณ art .,เขียนเมื่อ 14/08/2001 ---


 
          ผู้เขียนขอสารภาพว่า มีความหลังฝังใจกับหนังเรื่องนี้มาก เมื่อตอนที่ไปดูหนังเรื่องนี้กับแฟนคนนึงในอดีต เมื่อตอนที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในบ้านเราก็ไม่ได้เข้าฉายในช่วงเดือนพฤศจิกายน เหมือนชื่อเรื่อง รู้สึกว่าจะเป็นช่วงกลางปีด้วยซ้ำ แม้ว่าจะเป็นหนี่งในภาพยนตร์ที่เคยดูกับแฟนคนนี้ ในจำนวนหลายเรื่องก็ตาม แต่จำได้ว่า ดูเรื่องนี้จบแล้วเรานั่งจับมือกันในโรงหนังโดยที่ยังไม่ยอมลุกจากเก้าอี้ไป จนคนออกจนหมดโรงแล้ว จึงค่อยเดินออกมา เหตุเพราะความประทับใจในเนื้อหานั่นเอง แต่ที่มันบาดใจมากจนไม่กล้าที่จะหวนกลับไปดูหนังเรื่องนี้อีกตอนที่มันเป็น vcd หรือ dvd แล้ว ก็เพราะว่าจุดจบของความรักระหว่างผมกับแฟนคนนี้ของผมก็คล้ายกับตัวละครในเรื่องมาก แม้ว่าเธอคนนั้นของผม เธอไม่ได้เสียชีวิตไปเหมือนนางเอกในเรื่อง แต่เธอก็ตายไปจากความทรงจำของผมไปนานแล้ว แต่ช่วงเวลาที่เราคบกันแค่เพียงช่วงสั้นๆ ประมาณ 3-4 เดือน ผมรู้สึกว่ามีความสุขเหลือเกิน ผมรักเขาเหลือเกิน เธอทำให้ผมเข้าใจคำว่าโลกทั้งใบมีเธอเพียงแค่คนเดียวจริงๆ ความจริงแล้วเราเป็นเพื่อนกันมาก่อนตั้ง 7-8 ปี ก่อนจะมาคบกันอย่างจริงจังเป็นแฟนกันเพียงแค่ 3-4 เดือน เป็นช่วงเวลาที่เราแคร์กัน ดูแลกัน ห่วงใยกัน และสุดท้ายก็รักกัน แม้เราจะไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ด้วยกันก็ตาม เพราะผมคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลา แต่นี่อาจเป็นจุดผิดพลาดของผมจุดแรกก็เป็นได้ ที่ทำให้ความรักของเรากระท่อนกระแท่นกันมาตลอดในช่วงหลัง เราเริ่มคุยกันไม่ถูกคอ คุยกันไม่รู้เรื่อง เถียงกันคนละประเด็นอย่างไม่เข้าใจ งอนกันบ้าง เอาเหตุผลค้างๆ คูๆ เพื่อมาเอาชนะคะคานกันบ้าง อย่างไร้เหตุผล ส่วนใหญ่ผมจะเป็นฝ่ายยอมเธอตลอด และงอนง้อเธอตลอด ช่วงท้ายๆ ของชีวิตรักระหว่างเราทั้ง 2 คน ผมได้เป็นฝ่ายขอคุยเปิดใจกับเธอว่าระหว่างเรามีสิ่งใดที่ยังค้างคาใจที่ต้องเคลียร์กันหรือไม่ และเป็นเรื่องอะไร อะไรที่ผมควรจะต้องแก้ไข และเธอก็ต้องปรับปรุง เพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างเรายังสามารถไปต่อกันได้ หรือยังมีสิ่งใดที่เรายังจูนกันไม่ติด เพื่อให้ความรักของเรายังคงอยู่ต่อไป แต่เธอกับปฏิเสธ ขอหยุดความสัมพันธ์ระหว่างเราลงเพียงแค่นั้น ผมถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น แรกๆ เธอก็ไม่ยอมให้คำตอบผมในเรื่องนี้ จนวันนึงผมคะยั้นคะยอให้เธอพูดจนได้ ผมก็เลยทราบสาเหตุที่เธอทำเช่ นนั้นกับผม เธอบอกว่าเธอมีทัศนคติที่แอนตี้ผู้ชายในโลกนี้ เธอไม่อยากมีชีวิตคู่ เธออยากครองความเป็นโสดเพราะเธอคิดว่าเธอสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องมีแฟน ผมถามว่าอะไรทำให้คุณคิดแบบนั้น เธอบอกว่าเธอมีประสบการณ์ที่เห็นคนในครอบครัวเธอไม่รับผิดชอบต่อผู้หญิง ตั้งแต่พ่อของเธอ มาถึงพี่ชายก็ทิ้งพี่สะใภ้เธอไป ทิ้งลูกไว้ให้เป็นภาระให้เธอต้องเลี้ยงดู เสมือนเป็นแม่บุญธรรม เธอจึงรู้ซึ้งถึงคำว่าแม่ เธอมีลูกแล้วที่เกิดจากพี่ชายและพี่สะใภ้ ซึ่งเธอรับภาระเลี้ยงดูเสมือนลูกจริงๆ เธอไม่ปรารถนาจะมีครอบครัวอีก ผมถามว่าคุณคิดว่าผมจะเหมือนพ่อกับพี่ชายคุณงั้นหรือ เขาบอกไม่รู้ แล้วคุณจะตัดสินผมโดยดูจากประสบการณ์คนรอบข้างในชีวิตคุณ แล้วอนุมานว่าผู้ชายในโลกนี้คงน่าจะเหมือนกันงั้นหรือ เธอบอกว่าเธอกลัวที่จะเจอแบบนั้นเหมือนกันอีก แต่สิ่งนึงที่เธอบอกผม แล้วทำให้ผมอึ้งก็คือ เธอบอกว่าเธอเคยผ่าตัดเอามดลูกข้างนึงออกไป ทำให้เธอไม่สามารถมีบุตรได้ตลอดชีวิต ผมถามเธอว่าแล้วเธอไปผ่าตัดมันออกทำไม เธอบอกว่าเธอเคยปวดเมน(ประจำเดือน)ชนิดว่าทรมานมาก เหมือนคนติดยาแล้วลงแดงแบบนั้น แล้วไปปรึกษาแพทย์ แพทย์บอกว่าถ้าไม่อยากเจ็บทรมานก็ต้องผ่าตัดเอาปีกมดลูกด้านนึงออก เพราะเธอมีสรีระในส่วนนั้นแคบมาก เธอบอกว่าพอทราบข้อมูลนี้แล้วเธอยังอยากจะเป็นแฟนกับฉันอีกมั๊ย  พอผมฟังแล้วก็อึ้งไปพักนึง ในช่วงเวลานั้นเรายังรักเขามาก และเพิ่งจะขอเธอแต่งงานไปไม่นาน แต่เธอกลับเป็นฝ่ายปฏิเสธ แล้วผมก็เพิ่งมารู้สาเหตุจากเธอก็ด้วยเหตุผลดังกล่าวมานี้ ผมนำเรื่องนี้ไปปรึกษาคุณแม่ที่บ้าน คุณแม่บอกกับผมว่าให้เลิกกับผู้หญิงคนนี้ซะ และตั้งแต่นั้นมาคุณแม่ผมก็คอยกีดกัน ไม่ให้คบกับผู้หญิงคนนี้ ช่วงเวลานั้นผมยังมีความรู้สึกรักเขา และสงสารเธอด้วย ผมบอกว่าเรื่องมีลูกได้หรือไม่ได้ มันไม่ใช่ประเด็น ถ้าเรายังรักกันก็สามารถแต่งงานด้วยกันได้ และใช้ชีวิตคู่ร่วมกันได้ ส่วนประเด็นเรื่องการมีลูกผมยังไม่ได้คิดไปถึง แต่ถ้าหากอยากมีขึ้นมาจริงๆ ก็สามารถหาหนทางอื่นได้ หรือถึงเวลานั้น เราอาจไม่คิดจะมีก็ได้เพราะภาระมันเยอะ  เธอก็พูดตรงประเด็นที่ทิ่มแทงเข้ามาถึงใจกลางหัวใจผมเลยก็คือ ยังไงเสียพ่อแม่คุณก็ต้องการสะใภ้ที่สามารถมีลูกให้คุณได้ ถ้าเขารู้ภายหลังว่าฉันไม่สามารถมีลูกให้คุณได้ เขาคงโกรธเกลียดฉันอยู่ดี สู้ให้เขารู้ไปก่อนเลยดีกว่า ว่ายังต้องการฉันอยู่หรือเปล่า พอได้ยินเช่นนั้นผมก็เสียใจมาก ผมจึงถามเธอกลับไปว่าแล้วคุณมาคบกับผมทำไม ถ้าตัวคุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าคุณไม่อยากมีชีวิตคู่ ไม่สามารถมีบุตรได้ คุณมาให้ความหวังกับผมทำไม เธอบอกว่าเธอเห็นถึงความพยายามในการตามตื๊อตามจีบของผม เธอประทับใจ และรักชอบผมจริงๆ แต่เธอบอกว่าเธอได้ให้ความสุขแก่ผมไปอย่างคุ้มค่ามากพอแล้ว เหมือนกับนางเอกในเรื่อง sweet November ที่ให้ความสุขแก่พระเอกไปหมดแล้ว แต่ก็ไม่ขอสานสัมพันธ์ต่อ เพราะรู้ตัวเองว่ามีโรคร้ายรออยู่ ใกล้จะต้องตาย  ไม่อยากให้พระเอกต้องเสียใจ แต่งานนี้ยังไงๆ ก็ต้องรู้ภายหลังและเสียใจอยู่ดี  ความรักในลักษณะนี้มันจึงเหมือนน้ำตาลไหม้ มีช่วงเวลาแห่งความหวานอยู่เพียงสั้น ๆ จากนั้นก็จะขม เนื่องจากน้ำตาลไหม้ เสมือนช่วงเวลาฮันนีมูนสวีท ก่อนจะพบว่าโลกแห่งความเป็นจริงมันขมขื่นเสียยิ่งกว่าบอระเพ็ด หรือกาแฟเอสเปรสโซ่ที่ไม่ใส่น้ำตาล  ความรักของผมกับเธอแม้ว่าเราจะไม่ได้จากกันไปแบบฝ่ายหนึ่งเสียชีวิตเหมือนในภาพยนตร์ แต่เราก็จากกันด้วยดี ด้วยความเข้าใจ แต่เธอได้ตายจากความทรงจำของผมไปนานแล้ว เพียงแต่ เมื่อวันนึง ผมเดินผ่านไปที่ร้านวีซีดี/ดีวีดีแห่งหนึ่ง บังเอิญเหลือบไปเห็นโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้า ก็เลยสะกิดใจให้ต้องนำมาเขียนเล่าความหลัง เพราะมันมีประเด็นให้ค้างคาใจอยู่นั่นเอง จนยากที่จะลืม พอถึงเดือนนี้ทีไร ชื่อหนังเรื่องนี้มันก็เข้ามาวนเวียนอยู่ในความทรงจำทุกทีไป ผมลืมบอกไปว่าที่เราเลิกกันไปคราวนั้น จริงๆ แล้วสาเหตุที่แท้จริงก็คือทัศนคติเราไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ ช่วงหลังๆ เราทะเลาะกันบ่อยมาก พูดจาไม่รู้เรื่อง เธอกลายเป็นคนไม่มีเหตุผล ดื่มสุรา ชอบเที่ยวราตรี เธอเป็น working woman ที่ทำงานเลิกดึก และต้องมีสังสรรค์กับเพื่อนและลูกค้าบ่อย ในขณะตอนที่ผมมาคบเธอเป็นแฟนแล้วนั้น เป็นช่วงเวลาที่ผมอิ่มตัวกับการเที่ยวกลางคืนแล้ว คือเบื่อและไม่ชอบสถานบันเทิงยามราตรีแล้ว ทำให้เราจูนกันไม่ติด เธอมักจะชวนผมไปเที่ยวกับเธอ แต่ผมไม่อยากไป ผมเริ่มแสวงหาสัจจธรรม และชอบเข้าวัด แต่เธอชอบเข้าผับ เราจึงเดินไปบนเส้นขนานที่ไม่อาจจะบรรจบกันได้ ผมเสียใจด้วยนะที่เอาเรื่องนี้มาเล่าอย่างหมดเปลือก แต่ทุกอย่างมันคือเรื่องจริง หากคุณคนนั้น ได้มาอ่านเจอ คุณก็คงจะทราบเองว่าผมคนที่เขียนนี้เป็นใครกัน แต่ผมอยากจะขอขอบคุณ คุณมากนะที่ทำให้เด็กหนุ่มที่อ่อนต่อโลกคนนี้ ได้เรียนรู้ รู้จักคำว่ารัก กับเขาบ้าง เหมือนกัน  ขอบคุณ Sweet November ที่ทำให้เราได้มารักกัน และขอบคุณความบริสุทธิ์ใจที่จะทำให้ช่วงเวลาที่เราได้มีความสัมพันธ์กันนั้นเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ที่คุณไม่ปิดกั้นมันไป ปล่อยให้มันเป็นไปตามครรลองธรรมชาติ แม้ว่าตัวคุณเองก็รู้บทสรุป จุดจบของเรื่องนี้ดีอยู่แล้ว ว่ามันจะจบลงอย่างไร แต่ก็ไม่ยอมที่จะขีดฆ่า หรือลบมันออกไปเสียตั้งแต่ทีแรก นี่แหละคือความงดงามของคำว่า ความรัก


2 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

overwhelm ....

dbUa'' กล่าวว่า...

แฟนของคุณมีทัศนคติส่วนหนึ่ง คล้ายกับผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันคิดว่า ฉันต้องขอบคุณ Sweet November เช่นกัน :'))

แสดงความคิดเห็น